
ปั่นขึ้นไปซะเกือบ20เด้ง...เฉือนออกมาแค่ 5%...ที่เหลือก็กำไรเป็นแล้ว...
...อำนาจเงินมันทำให้หุ้นปั่นกลายเป็นหุ้นพื้นฐานได้จิง...:lol:
...เด๋วผมหาหุ้นรอป๊อกบ้างดีกว่า...
ที่เหลือ ไปตามอ่านกันต่อแล้วกันครับ...
มาม่าบลู เป็นฉายาของนางสีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา ในวงการตลาดหุ้นใช้เรียกชื่อเธอ หรือ บางคนจะเรียกเธอว่า เจ๊สีฟ้า ให้สัมภาษณ์ “กระแสหุ้น” รายวันว่า ส่วนตัวชอบหุ้นตัวเล็ก เลือกบริษัทที่กำลังฟื้นกิจการ เช่น ไลฟ์ จึงเป็นเหตุผลที่เลือกลงทุนหุ้นตัวนี้ ซื้อตั้งแต่ราคาต่ำ ซื้อเข้า ขายออกตลอด ไม่ใช่เพิ่งเข้ามาเล่น และยังไม่เคยขาดทุนกับหุ้นตัวน
“มาม่าบลู” เปิดใจทำไมชอบเล่นหุ้นเล็ก เผยซื้อแล้วรวย แจงดวงไม่ถูกฉโลกกับหุ้นใหญ่ ซื้อทีไรขาดทุนทุกครั้ง เผยซื้อ LIVE – EMC มองมีอนาคต โดยเฉพาะ ไลฟ์ มีโอกาสป๊อกทำรายได้ก้อนโต ถ้าหนังที่สร้างออกมาฉาย ติดตลาดคนแห่ดู แต่ละเรื่องอาจทำเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ยันไม่คิดล้างพอร์ต ขายแค่ทำกำไร และซื้อกลับมาอีก 5% ส่วนอีเอ็มซี แจงดีสุดในกลุ่มก่อสร้าง ราคาถูก
นอกจากนั้นมาม่าบลูมองว่า ไลฟ์ เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มอนาคตรายได้ดี ดูจากแผนการสร้างภาพยนตร์ ถ้าหนังลงโรงแล้วติดตลาด บริษัทมีโอกาสป๊อกทำรายได้กว่า 100 ล้านบาท ถ้าไปเทียบกับธุรกิจอื่น เช่น โรงงาน จะเห็นได้ว่า คืนทุนช้ารายได้ก็ไม่ดีเท่าทำหนัง แต่ต้องทำให้คนดูชอบ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เธอกล้าเสี่ยงที่ลงทุนในหุ้นไลฟ์
เธอเล่าให้ฟังต่อ ปัจจุบันหุ้นเล็กตัวอื่นที่ซื้ออีกก็มี EMC หลายคนมองว่าเป็นหุ้นปั่ น ไม่กล้าเข้ามาเสี่ยงแต่ในทรรศนะของมาม่าบลู คิดว่า หุ้นที่วิ่งคึกคึกทุกตัวในกระดาน ปั่ นกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ขึ้นอยู่กับคนทำจะเป็นฝรั่งหัวทอง หรือ ผมดำ ถ้าเป็นหุ้นเล็ก ผมดำเล่น ทางการจะจับตามอง และลงโทษ แต่ถ้าเป็นหุ้นใหญ่ ราคาจาก 200 บาทขึ้นไป 400 กว่าบาท ทุกคนจะมองด้วยสายตาชื่นชม ปัจจัยพื้นฐานดี ราคาวิ่งอย่างมีเหตุมีผล
ดังนั้นมาม่าบลูจึงอยากถามกลับถึงคนที่คิดเช่นนี้ว่า ถ้าหุ้นตัวใหญ่พื้นฐานดี มีอนาคตเวลาตลาดหุ้นปรับตัวลง คนที่มีอยู่ ขายหุ้นออกมาทำไม ถ้าลงทุนหุ้นเพราะพื้นฐานดี โดยไม่หวังกำไร ก็ต้องถือต่อไป อย่าขายประเด็นนี้จึงชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าต่างชาติ กองทุน หรือ คนไทย ต่างเข้ามาตลาดหุ้น เพื่อหวังกำไรทั้งนั้น ใครที่คิดว่า หุ้นใหญ่ไม่ปั่ น แสดงว่า ไม่รู้จริง
เหตุผลที่มาม่าบลูเลือกลงทุนหุ้น EMC เพราะ เป็นบริษัทก่อสร้างรายเล็ก ที่ราคาในกระดานยังไม่ขานรับกับปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น และเมื่อเทียบกับบริษัทก่อสร้างใหญ่รายอื่นที่อยู่ในตลาดฯ จะเห็นว่า EMC งบบัญชีคลีนกว่ามาก มีหนี้น้อย ศักยภาพทำกำไรสูง และไม่มีปัญหาอย่างอื่น เช่น ITD มีปัญหากับรัฐบาลเรื่องสุวรรณภูมิ CK ก็ยังติดเรื่องค่าโง่ทางด่วน PLE เรื่องงบการเงิน
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบดู จึงเห็นว่า EMC น่าลงทุนมากสุด ราคาในกระดานยังขยับขึ้นได้อีก นอกจากนั้นเธอระบุว่า ไม่ชอบลงทุนหุ้นใหญ่ ดวงไม่ถูกโฉลกกัน ซื้อทีไร ขาดทุนแทบทุกครั้ง เคยซื้อ ปตท.ช่วงราคา 30 กว่าบาท ถือไว้นานหุ้นไม่ขยับ ก็ขายออกไป ตามเล่นมาตลอดทุกระดับราคา โอกาสทำกำไรน้อยมาก เคยเข้าไปช่วง 400 กว่าบาทแล้วหุ้นก็หล่นลงมา ตัดขายขาดทุนทันที ไม่ถือต่อ เช่นกันกับ PTTEP ซื้อที่ 170 บาท ก็ขาดทุนอีก
พี่อาจมีหลักการลงทุนไม่เหมือนคนอื่น ซื้อช่วงตลาดบวก ขายตอนลง บางคนซื้อเวลาหุ้นลบ แล้วขายจังหวะที่ดัชนีปรับตัวขึ้น ส่วนตัวพี่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าหุ้นลงจะถือไปทำไม ขายทำกำไรดีกว่า” เจ๊สีฟ้าพูดอย่างคนอารมณ์ดี
อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่า อย่ายึดเธอเป็นรูปแบบการลงทุน เรื่องเช่นนี้เป็นความสามารถส่วนตัว นักลงทุนรายให ญ่แต่ละคนมีวิธีการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน “สไตล์ใคร สไตล์มัน”
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic