***... ปั่นกันเถอะเรา ....***

[สุเกียง]

***... ปั่นกันเถอะเรา ....***

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 68.html#17

***...   ปั่นกันเถอะเรา  ....***


ปั่นกันเถอะเรา


http://www.dailynews.co.th/web/html/pop ... Template=1


หกโมงเย็น วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ผู้ใช้จักรยานในกรุงเทพฯ จะรวมตัว ปั่น รถถีบรณรงค์กันอีกรอบ

และจะทำอย่างนี้เป็นประจำ ทุกวันศุกร์สิ้นเดือน

จุดนัดอยู่ตรงบันไดกว้าง หน้าห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อปรึกษาหารือ เลือกเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับปั่นกันเป็นรูปขบวน ไป-กลับ ภายในสองชั่วโมง

เป็นการรณรงค์ใช้จักรยานในเขตเมือง

เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้รถยนต์ที่ติดขัดบนท้องถนน คนที่เบียดเสียดบนรถเมล์ และที่ยืนแกร่วขาแข็งตามป้ายรถประจำทางได้เห็นว่า รถสองล้อคันเล็ก ๆ อานกว้างแค่วางก้นได้คนเดียวนี่แหละที่แก้ปัญหาสารพัด

ไปไหน ๆ ก็ได้

ถึงที่หมายตรงเวลา ไม่เสียเวลาหาที่จอด

ไม่เปลืองน้ำมัน
ไม่ปลอดภัย

การนัดขี่จักรยานลักษณะรณรงค์เที่ยวนี้ ต่างกับทุกคราว เพราะไม่มีเจ้าภาพ แต่จะเล่นกันยาวเพราะเป็นนัดประจำ ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด ไม่มีแผนว่าแต่ละครั้งจะขี่ไปไหน ไม่มีรถนำ ไม่มีรถตาม จุดหมายปลายทางอยู่ที่การตกลงร่วมกัน

ความคิดจะทำเรื่องนี้ เกิดจากผู้ใช้จักรยานหลายรายที่พบปะหารือกันทั้งเป็นส่วนตัว หรือเจอกันในโลกออนไลน์ บนเว็บ www.thaicycling.com และ www.thaimtb.com ที่อยากให้ ผู้ใช้รถยนต์ รัฐบาล ชาวบ้าน สถานประกอบการ รับรู้และเชื่อว่า การใช้จักรยาน คนขี่จักรยาน เพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวันมีตัวตนอยู่จริง

[สุเกียง]

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 68.html#17

http://www.thaicycling.com/messageboard ... &category=

บางคนขี่จากบ้านไปที่ทำงาน ที่ใช้จักรยานเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าก็มี คนที่พกสองล้อพับได้เก็บอยู่ท้ายรถยนต์ เพื่อหยิบมาใช้ซอกซอนไปตรอกซอย หรือซอกระหว่างคันรถย่านใจกลางเมืองก็มีให้เห็น

ผู้ใช้จักรยานในชีวิตประจำวันมีเยอะจำแนก ได้ 5 พวก คือ 1.นักเรียน และผู้ปกครองที่พาลูกหลานซ้อนจักรยานไปส่งโรงเรียน 2.แม่บ้าน 3.คนทำงานที่ปั่นไปผูกไว้ปากซอย หรือป้ายรถเมล์ แล้วเดินทางต่อด้วยระบบอื่น 4.คนที่ขี่จากบ้านไปทำงาน เป็นระยะไกลกว่า 5 กม. เช่นจากตลิ่งชันไปบางนา 5.พวกใช้เพื่อออกกำลังกายและท่องเที่ยว

ที่ต้องบอกให้ละเอียด เพราะมีคนไม่รู้เรื่อง เที่ยวพูดปาว ๆ ว่า บ้านเมืองมาถึงขนาดนี้ ไม่มีใครใช้จักรยานหรอก มลพิษในอากาศมากมาย อันตราย บางครั้งทำอวดรู้ ออกปากให้ ลองถามซิว่า ใครจะกล้าให้ลูกหลานขี่จักรยานไปโรงเรียน

[สุเกียง]

ตัวอย่างดังว่า เป็นการอ้างเพราะรู้อย่างผิด ๆ ซึ่งก็คงด้วยเหตุนี้ เราถึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับผู้ใช้จักรยาน ปล่อยให้ลูกหลานตัวน้อย ๆ ปั่นรถสองล้อคันเล็ก ๆ เสี่ยงภัยฝ่าสภาพการจราจรไปตามลำพัง

ข้อเท็จจริงที่มักลืมคิดกันก็คือ ผู้ใช้จักร ยานทุกราย จะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนนลงได้ 1 คัน ทำให้รถเมล์แน่นน้อยลง 1 คน

โดยรัฐลงทุนน้อยที่สุด

ผู้ใช้จักรยาน ซึ่งรวมทั้งเรา มั่นใจว่ามีคนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจ ซึ่งไม่ใช่ความผิด จึงต้องช่วยกันทำให้เห็นจริง

การนัดขี่จักรยานกันเป็นประจำบนถนน อาจถูกหาว่าเกะกะ แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า รถยนต์ที่วิ่งอยู่เต็มถนน ไม่เว้นที่ให้รถจักรยาน ไม่หยุดให้ คนข้าม ก็สร้างปัญหากับผู้ร่วมทางที่ไม่ได้นั่งในรถเหมือนกัน

ดังนั้น ถ้าทุกเดือนเราจะขอใช้แค่ไม่กี่นาที ก็คงไม่ทำให้เดือดร้อนนักหรอก

และถ้าอยากมาร่วมปั่นกับเราก็ทำได้

ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน.

วีระพันธ์ โตมีบุญ
[email protected]

[สุเกียง]

CRITICAL MASS ในชื่อไทยไทยว่า ปั่นกันเถอะเรา...อาจจะฟังดูทะ:-)ทะ:-) แต่ฟังแบบนี้อ่านแบบนี้แล้วไม่ต้องแปลอะไรอีก ผมว่าพอจะทำให้เราทุกคนเข้าใจนะครับ...

มีน้าหมีพูดขึ้นมาคนหนึ่งว่า จริงจริงชื่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่สำคัญคือสื่อออกไปให้ทุกคนเข้าใจเป็นใช้ได้...

วันนี้ผมนายประสานขออนุญาตเรียนเชิญพวกเราไปร่วมกันในโครงการณนี้ครั้งแรกตรงกับวันศุกร์ที่ 29 เดือนกุมภาพันธ์ 2551 ครับ แน่นอนครับ

นัดเวลา 18.30 น ที่หน้าสยามดิสคับเวอรี่ (SIAM DISCOVRY) ถนนพระราม 1 หัวมุมสี่แยกปทุมวัน
แจ้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์เมื่อพร้อมให้ทราบย่อย่อดังนี้

1.ปั่นจักรยานทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน
2.เพื่อชักชวนให้บุคคลทั่วไปใช้จักรยานขับขี่ไปทำงาน
3.มาแจ้งให้ทราบว่ามีสถานที่เพื่อใช้จักรยานออกกำลังกาย ได้ใน กทม. ที่ไหนบ้างสุขภาพจะได้ดีด้วย
4.เพื่อขอทางจักรยาน ใช้จักรยานเพื่อเมืองน่าอยู่
5.สถานที่และเวลาที่จะนัดกันขับขี่ในครั้งที่ 2...คือเส้นทางใด
6.เชิญชวนให้ผู้รักในการใช้จักรยานเข้ามาแนะนำเส้นทาง หรือ สถานที่ต้องการให้เราไปนัดขี่ในเดือนถัดถัดไป
7.อื่นอื่น เพื่อทราบ...

คร่าวคร่าวในเบื้องต้น

โดย...  นายประสาน [วันที่: 11/2/2008 - เวลา: 0:40:15 น. ....IP: 58.8.6.163]

[สุเกียง]

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

นับถอยหลังสู่ Critical Mass...... 29 กพ.51.. เพื่อทางจักรยานของคนไทย

กิจกรรม Critical Mass กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้วในเมืองไทยโดยมีกำหนดการจัดกิจกรรมครั้งแรกในวันที่ 29 กพ. 51 โดยการนำของ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย (โดยมีน้าเป็ดเป็นผู้ริเริ่ม)

รายละเอียดตามนี้ครับ

Critical Mass เพื่อทางจักรยาน

หลักการสั้นสั้นมีดังนี้
1.นัดเจอกันทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน
2.สถานที่ไปมาสะดวก มีที่จอดรถ นัดเวลา 19.00 น
3.เส้นทางปลอดภัยกว้างใหญ่พอสมควรไม่เป็นที่น่ารำคาญของผู้ใช้ทางร่วมถนน ไม่เน้นเร็ว ไม่เน้นไกล
4.อยากเชิญชวนใส่ชุดทำงาน เพราะหลังเลิกงาน มีสิ่งป้องกันมีไฟหน้า-หลัง มีแถบสะท้อนแสงเป็นอย่างน้อย
5.ให้รับประทานอาหารมาก่อน พกน้ำมาด้วยแก้กระหายน้ำ
6.ใช้จักรยานอะไรก็ได้ แต่ต้องมีทักษะในการขับขี่จักรยานเป็นอย่างดี

ครั้งที่ 1 นัดพบกันที่สยามดิสคับเวอรี่ Siam Discovery
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 19.00 น
เนื่องจากว่า เป็นที่มีที่นั่งตรงทางขึ้นที่เป็นขั้นบันได จุคนพอประมาณ
สำหรับท่านที่เอารถยนต์มาสะดวกพอสมควร เอารถมาค่าจอดรถไม่แพง
มีแสงสว่างด้านหน้ามองเห็นกันชัดมาก คนเดินผ่านไปมา จะได้เห็นกิจกรรมพวกเรากัน...
เป้าหมายและเส้นทาง
19.30 น ออกปั่นจักรยานครับตามเส้นทางที่เราวางแผนกันไว้.....ดังนี้
สำหรับครั้งแรกออกจากสยามปั่นไปตามพระราม 1 (หน้าสยามฯ)ถึงสี่แยกราชประสงค์ เลี้ยวซ้าย เวิร์ลเทรด ตรงไปทางประตูน้ำ
จากประตูน้ำไปตามถนนราชปรารภข้ามรางรถไฟที่มักกะสัน แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนศรีอยุธยา ผ่านแยกพญาไท ผ่านแยกศรีอยุธยา ผ่านตำรวจทางหลวง ข้ามรางรถไฟ ผ่านสนามม้า ผ่านวัดเบญฯ ไปพักครึ่งทางที่พระบรมรูปทรงม้า สวนอัมพร แล้วปั่นกลับสยามดิสคับเวอรี่ ส่วนจะเป็นเส้นทางไหนกรุณาติดตามที่



กรุณาช่วยนำข่าวสารนี้ส่งต่อต่อไปยังเพื่อนเพื่อนของพวกเราด้วยจักขอบพระคุณยิ่ง
สำหรับงานนี้เพื่อทางจักรยาน เพื่อมารวมกันสักเดือนละครั้ง
มาคุยกัน
มาสนุกสนานกัน
ไม่เอาเครียด
มาบริหารน้ำมจกัน
และอื่นอื่น..

ช่วยกันเสนอแนะความเห็นมาครับ
รอรับท่านทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน
ยกเว้นเดือนมีนาคม เป็นวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551 ครับ
9.00 น ดีมั้ยครับ รายละเอียดจะตามาทีหลังครับผม
แต่หลังจากนั้นขอเป็นวันศุกร์เหมือน Critical Mass ทั่วไป

ขอบพระคุณครับ
น้าเป็ด...



สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าcritical massคืออะไร? ลองอ่านดูครับ
(ขออณุญาติเจ้าของความเห็นที่อ้างอิงข้างล่างทุกท่าน)

ความเห็นที่ 6
ขออนุญาตแปลนะครับ
คลิปมันยาวครับ หลุดประเด็นไหนไปก็ช่วยๆกันเสริมครับ
มันเป็นคลิปเกี่ยวกับกิจกรรมชื่อ Critical Mass
เป็นการรณรงค์ใช้จักรยานเชิงประท้วง

เริ่มต้นคลิปชายคนหนึ่งเล่าว่า จราจรในเมืองมันหนักขึ้นเรื่อยๆ
จนมันเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิต มันตัดเขาออกจากคนรอบข้าง.. นั่งติดในรถตัวเองคนเดียว
ตัดเขาจากครอบครัว เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับท้องถนน
ต้องเริ่มทำอะไรซักอย่าง

กิจกรรม Critical Mass เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1992
แนวคิดของชื่อนี้มาจาก ปรากฏการณ์การใช้จักรยานในจีน
ที่เมื่อจักรยานจะตัดหน้าสายการจราจรของรถยนต์เพื่อข้ามฟาก
มาคันเดียวก็จะไม่สามารถฝ่าไปได้
จะต้องมาออๆกันจนมีจำนวนหนึ่งที่เยอะพอ (เรียกว่า Critical Mass)
ก็จะสามารถฝ่ารถยนต์ไปได้ (คล้ายๆกับบ้านเราที่คนรอข้ามถนนบริเวณที่รถหนาแน่น)
เพียงแค่คราวนี้พวกเขาไม่ได้กะจะแค่ข้ามฟาก
เขากะจะยึดถนนคืนมาเลย

ถนนเป็นสาธารณูปโภค เป็นของสาธารณะ ไม่ได้ถูกขีดมาว่า
รถยนต์ต้องเป็นเจ้าของ มอเตอร์ไซต์ต้องแทรกๆ ส่วนจักรยานต้องขอส่วนบุญ
ปรากฏว่า เมื่อเกิดปรากฏการณ์ Critical Mass คือเมื่อจำนวนจักรยานเยอะพอ
พวกเขาสามารถใช้พื้นที่บนถนน เสมือนเป็นเจ้าของได้ โดยไม่โดนกดดันจากรถ
ไม่โดนด่า บีบแตรไล่ หรือได้รับอันตราย

เขาบอกว่า การขี่จักรยาน พร้อมกันๆโดยมีจักรยานล้อมหน้าหลัง
ทำให้พื้นที่บนถนนนั้นปลอดภัย และเริ่มมีการพูดคุยกันกับคนรอบข้างอีกครั้ง

กิจกรรม Critical Mass นี้เกิดขึ้นทั่วโลก จะจัดรอบขี่จักรยานตระเวนเมืองผ่านบริเวณต่างๆ
หลักการก็คือต้องเป็นประชาธิปไตย ต้องไม่มีผู้นำกลุ่ม ไม่มีการออกสื่อทีวีวิทยุเรียกคน
คนจะสื่อสารกันแบบปากต่อปาก แล้วก็ชวนกันมาเอง
ขณะที่ขี่ก็อธิบายให้คนที่พบเห็นเข้าใจว่า จักรยานเป็นทางเลือกที่ใช้งานได้จริง

การประทะกับตำรวจนั้นเกิดขึ้นเพราะ คนในกลุ่มนั้นหลากหลาย
บางคนก็หัวรุนแรง สร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น (เพราะเห็นว่าตัวเองพวกมาก)
ต้องกันคนเหล่านี้ออกไป

แต่ที่สุดแล้ว กิจกรรมนี้เป็นการรณรงค์เชิงประท้วง ดังนั้นก็สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์ด้วย
ดังนั้นทางตำรวจกับทางผู้ว่าการเมือง ก็เลยต้องเริ่มออกฤทธิ์

เริ่มแรกก็สาดโคลนก่อน แต่เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล ก็เริ่มประณีประนอม
โดยให้ตำรวจมากันขบวนให้ กำหนดเส้นทางวิ่งของกิจกรรม

แต่วิธีการเหล่านี้ขัดกับหลักการของ Critical Mass
เพราะมันไม่ใช่พาเหรดที่จะต้องมากันขบวน
มันเป็นสิทธิ์ของผู้ใช้จักรยานที่จะไปที่ไหนก็ได้
ตอนท้าย ขบวนจักรยานก็เลยแหกด่านไม่ไปตามที่ตำรวจกำหนด

ตำรวจก็เลยปิดถนนล้อมจับ

แต่เมื่อถึงชั้นศาลก็เอาผิดไม่ได้ เพราะพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด
ไม่ได้ทุบรถใคร

บทสรุปคือ กิจกรรม Critical ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ก่อนปี 1991 คนขี่จักรยาน จะไปแบบเดี่ยวๆ และมีจำนวนน้อย
ปัจจุบัน เมื่อคนเห็นว่าวิธีการของ Critical Mass นั้นเวิร์ค
ตอนเช้าและเย็น (ชั่วโมงเร่งด่วนเพื่อไปทำงาน) ก็จะเห็น
กลุ่มก้อนจักรยานเกาะกัน 20-30 คัน ขับไปทำงานด้วยกัน
ทำให้คนเริ่มเห็นว่า จักรยาน เป็นทางเลือกที่ใช้ได้ ประหยัดค่าน้ำมัน
รักษาสิ่งแวดล้อม มีคนทำเยอะแล้ว ไม่เสี่ยง ไม่เด๋อ
คือผลประโยชน์จริงๆของกิจกรรมนี้

[สุเกียง]

ความเห็นที่ 8

บทความนี้ผมพยายามเรียบเรียงมาจาก Critical Mass ในwikipedia.org ครับ
เป็นdraftแรกแปลมายังไม่ดีนักกำลังปรับปรุงอยู่ครับ แต่เอามาให้อ่านกันก่อน พอจะได้ใจความเกี่ยวกับCritical Mass บ้าง.....

Critical Mass ปกติจัดขึ้นทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน ในเมืองต่างๆรอบโลก
คนปั่นจักรยาน, skateboard, inline skaters, roller skaters และภาหนะที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง (ไม่มีเครื่องยนต์) วิ่งบนถนนในเมืองเป็นกลุ่มใหญ่

เหตุผลเริ่มแรก คนใช้จักรยานต้องการให้ตระหนักถึงเมืองที่ไม่เป็นมิตรต่อคนใช้จักรยาน
โครงสร้างที่ไม่มีผู้นำของCritical Mass เป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
อันที่จริงเป้าหมายอย่างไม่เป็นทางการของ Critical Mass คือการรวมกลุ่มกันโดยกำหนดสถานที่ เวลา และการเดินทางเป็นกลุ่มผ่านถนนในเมือง

นักปั่น Critical Mass ก่อตัวขึ้นมาเองโดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการค้า
ไม่มีการแข่งขัน ดำเนินงานอย่างกระจัดกระจายและการตัดสินใจที่ไม่เป็นทางการ
มีผู้นำกลุ่มที่เป็นอิสระ บ่อยครั้งไม่มีการขออนุญาตล่วงหน้า และการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากเทศบาลเมือง

โดยทั่วไปเพียงแค่การนัดหมายสถานที่, วันและเวลาที่กำหนด ในบางเมือง เส้นทาง,
จุดสิ้นสุดหรือสถานที่สำคัญระหว่างทาง อาจวางแผนกันเฉพาะหน้า
ผู้เข้าร่วมมีเป้าหมายแตกต่างกัน เช่นร่วมแสดงถึงทางเลือกในการสัญจรโดยใช้จักรยาน
และความสนุกสนานในช่วงเวลาที่ไม่มีรถบนถนน

การปั่น Critical Massถูกรับรู้เป็นเช่นกิจกรรมการประท้วง บทความนิตยสาร New Yorker ปี2006
อธิบายกิจกรรม Critical MassในNew Yorkว่า การปั่นประท้วงประจำเดือน
และลักษณของ Critical Massเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวทางสังคม,

UK e-zine Urban75 ในLondonอธิบายว่า การประท้วงประจำเดือนโดยนักปั่นเพื่อเรียกร้องถนนคืนของLondon
อย่างไรก็ดีผู้เข้าร่วม Critical Massยืนยันว่าเหตุการนี้ควรถูกมองว่าเป็น การพบปะสังสรรค์และการรวมกลุ่มที่เป็นไปเองโดยธรรมชาติ

ไม่ใช่การประท้วงหรือการเดินขบวนที่ถูกจัดการ ท่าทีของ Critical Massนี้นำไปสู่การโต้แย้ง
ความถูกต้องทางกฎหมายว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นโดยไม่ต้องขออนุญาตตำรวจท้องที่

การปั่น Critical Massในเมืองเล็กๆทุกเดือนอาจมีคนมาร่วมน้อยกว่า20คนขณะเดียวกันเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดการปั่น Critical MassในBudapest, Hungary ที่จัด2วันต่อปี 22 กันยายน (International Car Free Day)
และ22เมษายน (Earth Day)มีคนใช้จักรยานเข้าร่วมกว่าหมื่นคน 22เมษายน 2007 ผู้เข้าร่วมที่Budapestประมาณการว่า 50,000คน

การปั่น Critical Massครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ 25 กันยายน 1992 เวลา6โมงเย็นในSan Francisco เหตุการณ์นี้รู้จักกันว่าคือ
Commute Clot(การรวมกลุ่มเดินทาง)ประกอบไปด้วยคนใช้จักรยานราว20คนที่ได้รับใบปลิวตามท้องถนน

เวลาไล่ๆกันหลังจากนั้นผู้เข้าร่วมบางคนในการปั่น ได้จัดฉายสารคดีของTed White Return of the Scorcher
เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมจักรยานในประเทศต่างๆ ในภาพยนต์ บันทึกของGeorg Bliss
นักออกแบบรถยนต์ของอเมริกาและรถสามล้อถีบ กล่าวว่า

ในเมืองจีนทั้งคนขับรถและคนขี่จักรยานต่างเข้าใจในระบบวิธีการต่อรองการข้ามแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจารจร
การจารจรจะอัดแน่นที่ทางแยกจนกระทั่งถึงจุด Critical Mass
ณ.จุดนั้นกลุ่มยานพาหนะ(Mass)จะเคลื่อนผ่านทางแยก Dave Snyder ประยุกต์คำศัพท์จากภาพยนต์ไปสู่การปั่นจักรยาน

และเป็นชื่อที่ถูกนำไปแทนที่ Commute Clot ในเหตุการณ์การปั่นครั้งที่2 ในการปั่นครั้งที่4
จำนวนนักปั่นเพิ่มขึ้นราว100คนและผู้เข้าร่วมเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างไม่น่าเชื่อขึ้นไปถึง1,000คน

โดยเฉลี่ยต่อครั้งชื่อCritical Massถูกรับเอาไปใช้ทั่วไปโดยผู้เข้าร่วม การปั่นเป็นกลุ่มถูกเริ่มต้นในหลายๆสถานที่รอบโลก
ในเวลาเดียวกันหรือมันมีอยู่แล้วก่อนปี1992ในชื่ออื่น
ปัจจุบันประมาณกันว่ามีการปั่นแบบCritical Massมากกว่า325เมือง Masserบางครั้งใช้เรียกผู้ที่เข้าร่วมเป็นประจำ

Critical Massต่างจากการเคลื่อนไหวทางสังคมอื่นๆ ลำดับชั้นโครงสร้างของCritical Massอาจเรียกได้ว่า
ความบังเอิญที่ถูกจัดการ(Organized Coincidence) ไม่มีผู้นำหรือสมาชิกเส้นทางการปั่นบางครั้งตัดสินใจโดยฉับพลันโดย

ใครก็ตามที่อยู่ด้านหน้าในการปั่น ณ.ตอนนั้น บางครั้งตัดสินใจโดยการโหวตแนะนำเส้นทาง
หลายครั้งใช้ถ่ายเอกสารแจกจ่ายอธิบายวิธีการ เส้นทางทุกๆคนสามารถแสดงความคิดเห็นทำแผนที่ของตัวเอง
และแจกจ่ายมันให้นักปั่นที่มาร่วมในกลุ่ม จนกระทั่งเส้นทางการปั่นถูกตัดสินใจโดยคนส่วนใหญ่

ธรรมชาติของการไร้การจัดการทำให้รอดพ้นการหยุดยั้งของเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งเห็นว่าการปั่นนี้เป็นขบวนพาเหรด
หรือการประท้วงที่ถูกจัดการ ดังนั้นการเคลื่อนไหวแบบไร้รูปแบบปราศจากการจัดการโครงสร้างจากศูนย์กลาง,

ลำดับชั้นองค์กร นั้นเพียงพอแล้วที่จะนำไปสู่การสร้างจำนวนผู้เข้าร่วมCritical Massที่หนาแน่นพอที่จะยึดครองพื้นที่ถนน
และสามารถกันรถยนต์ออกไปได้ คนเดินเท้า, ผู้ใช้ถนนอื่นๆ และเจ้าหน้าที่รัฐใน New York, California, และOregon
แสดงออกถึงความกังวลกับความยุ่งยากของความร่วมมือกับกลุ่มนักปั่นเนื่องจากขาดผู้นำ

เพราะว่าCritical Massไปยังสถานที่ต่างๆโดยปราศจากเส้นทางที่ได้รับอนุญาตหรือนุมัติ
การปฏิบัติของผู้เข้าร่วมที่รู้จักกันว่า Corking (การกั้นถนน)เพื่อจะรักษาการรวมกันของกลุ่มไว้

โดยมีนักปั่น 2-3คนกั้นการสัญจรด้านข้างของถนนดังนั้นกลุ่มจึงสามารถผ่านไฟแดงไปได้โดยไม่มีการขัดขวาง
การกั้นถนนทำให้เกิดกิจกรรมได้หลากหลายเช่นการปั่นเป็นวงกลมกลางทางแยก

หรือการยกรถจักยานเรียก Bike Lift, Lifting หรือในChicagoเรียก Chicago hold-up
บางครั้งเป็นโอกาสในการแจกใบปลิว เมืองโต้เถียงเรื่องวิธีการกั้นถนนเพื่อที่จะผ่านไฟแดงเป็นกลุ่ม

ตรงข้ามกับนักปั่นCritical Massอ้างว่า We are traffic เป็นการสัญจรมาแต่ดั่งเดิม
ประเด็นพาหนะใดๆไม่สามารถข้ามทางแยกเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดงรวมทั้งจักรยานด้วย
ยกเว้นการได้รับอนุญาตเฉพาะหรือมีกฎหมายอนุญาตเช่น Bicycle Law ที่Idaho, USA.
ก่อให้เกิดความเป็นศัตรูกันระหว่างคนขับรถและคนปั่นจักรยานนำไปสู่ความรุนแรงและการจับกุมระหว่างการปั่นCritical Mass

[สุเกียง]

Critical Massเป็นหัวข้อของการวิจารณ์ติเตียนจากเจ้าหน้าที่รัฐและคนขับรถในหลายๆเมืองเรื่องการสัญจรสาธารณะ

ทางการอ้างว่าCritical Massมีเจตนาไตร่ตรองอย่างรอบครอบที่จะขัดขวางการสัญจรของรถและขัดขวางความปกติสุขของเมือง
การจับกุมบางคนในCritical Massที่ปฏิเสธการเชื่อฟังกฎจารจร เสมือนคนปั่นจักรยานเป็นเช่นเดียวกับคนใช้พาหนะอื่นๆ

ที่บริเวณอ่าวSan Francisco เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งระหว่างเหตุการณ์Critical Massในเหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 มีนาคม 2007
ตอนใกล้สิ้นสุดการปั่นCritical Mass Susan Ferrando จากเมืองRedwood, California
อ้างว่าเธออยู่ท่ามกลางกลุ่มของนักปั่นพยายามขับผ่านพวกเขา
มีคนปั่นจักรยานกว่า100คนล้อมรอบรถมินิแวนที่มีลูกสาว 11ขวบและ13ขวบอยู่ในรถมองดูจากภายใน Ferrando

ปฏิเสธการขับชนนักปั่นแต่อ้างว่าพวกนักปั่นชนด้านข้างรถเธอ สีรถกระจกมองข้างเสียหายกว่า 5,300 เหรียญ
11 พฤษภาคม 2007 เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นที่ Berkeley, California ตามข่าวในBicycle Civil Liberties Union กล่าวว่า

คนขับรถและภรรยาเขาตั้งใจขับผ่านเข้าไปใจกลางขบวนจักรยานประจำเดือน Berkeley Critical Mass
ทำให้จักรยานเสียหายกว่า 3,000เหรียญ อย่างไรก็ดีคนขับและพยานบุคคลที่3
บอกตำรวจว่านักปั่นโยนจักรยานเข้าไปใต้ท้องรถหลังจากนั้นผู้เข้าร่วมCritical Massทุบไปยังกระโปรงและหน้งต่างรถและที่กันลมของรถแตกละเอียด

27 กรกฎาคม 2007 ระหว่างการปั่นที่Chicago กำลังมุ่งหน้าไปSpindleในBerwyn, Illinois
คนขับถูกกล่าวหาว่าเมา ขับฝ่าเข้าไปในฝูงชน Will Healy อายุ10ขวบซึ่งปั่นมากับแม่และพี่สาวถูกชนอย่างจัง
Healyลอยไปตกบนกระโปรงรถแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงนักปั่นคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บจักรยานเสียหายขณะพยายามหลบให้พ้นทางรถยนต์

คนขับRobert Roger 34ปีจากเมืองMaywood, IL. ถูกจับกุมโดยทันทีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งขับตามมาและจับตากุมนักปั่น
นายกเทศมนตรีSan Francisco, Gavin Newsom เดือนเมษายน 2007
ขอให้นักปั่นCritical Massควบคุมกันเองมันทำให้ชุมชนที่สนับสนุนจักรยานดูไม่ดีที่มีคนก้าวร้าวและสิ้นหวังในการเคลื่อนไหว
ผมควรสนับสนุนการรวมกันของจักรยาน แต่เฮ้!เราไม่ได้แบบนั้น พอก็คือพอ

[สุเกียง]

ในปี1997 นายกเทศมนตรีของSan Francisco,
Willie Brownถูกถามโดยผู้สื่อข่าวที่การประชุมผู้สื่อข่าวว่าเขามีแผนจะควบคุมCritical Massอย่างไน?

นายกเทศมนตรีบอกในการแถลงข่าว ขู่ที่จะจับกุมนักปั่นพร้อมทั้งดูถูกเหยียบหยามคนใช้จักรยานหลายอย่าง
ปฏิกิริยาและการรายงานข่าวแพร่กระจายออกไปสู่การเผชิญหน้า

การปั่นเมื่อ25กรกฎาคม1997 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตีพิมพ์เส้นทาง
ในวันศุกร์นายกเทศมนตรีปราศัยด้วยการตะโกนลงมายังกลุ่มนักปั่นราว7,000คน
นักปั่นกระจายตัวอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มย่อยๆ หลายส่วน ถูกไล่ตามจับด้วยรถตำรวจรวมทั้งเฮริคอปเตอร์
เกิดความสับสนอลหม่านตรึงเครียดทั่วทั้งเมืองและมีการจับกุมและถูกริบจักรยานหลายคน

27กรกฎาคม2007 ในVilnius, Lithuania ตำรวจจับกุม5ผู้เข้าร่วมCritical Mass
รวมทั้งผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีก2คนฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้สลายตัว อย่างน้อย2คน
ในกลุ่มมีรายงานว่าถูกทุบตีและบาดเจ็บจากการกระทำของตำรวจศาลจะตัดสินในเดือนสิงหาคม

31สิงหาคม2007ในMinneapolis ตำรวจจับกุมผู้เข้าร่วมCritical Mass19คนรวมทั้งผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีก3คน

ในวันเดียวกันนักปั่น7คนในChicago Critical Mass ถูกจับกุมและตั้งข้อหาขัดขวางการสัญจรและไม่เชื่อฟังตำรวจทั้ง7คนถูกควบคุมตัวทั้งคืน

กลุ่มที่สนับสนุนการปั่นจักรยานบางกลุ่มเป็นห่วงถึงธรรมชาติของความขัดแย้งของCritical Mass
และการทะเลาะวิวาทกับคนขับรถ การไม่ให้อภัยในเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆของความรุนแรงและความหยาบคาย
ทำให้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณะชนต่อคนใช้จักรยาน

ขณะที่ San Francisco Bicycle Coalition ให้เครดิตCritical Massทำให้ประเด็นจักรยานขึ้นมามีความสำคัญและสนับสนุนช่วยเหลือการรวมตัวของผู้ใช้จักรยาน

ในSan Francisco มีเหตุการณ์ที่แยกย่อยออกมาเรียก Critical Manners
ถูกสร้างขึ้นจากผลกระทบจากCritical Mass
การปั่นCritical Manners ผ่านเมืองในวันศุกร์ที่2ของเดือนแต่ต่างจากCritical Massที่นักปั่นปฏิบัติตามกฎจารจรทุกกฎ

เช่นหยุดเมื่อมีสัญญาณไฟแดงและเริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับการเริ่มCritical MannersในPortland, Oregon

ถึงแม้นว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ เกี่ยวกับสถานะการขี่จักรยานบนถนนของคนใช้จักรยาน
หรือส่งผลถึงการรับรู้ต่อสาธารณะชนของคนใช้จักรยาน แต่ตัวอย่างบางอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าขอบเขต
ของการปั่นจักรยานขยายเข้าไปในหลายวัฒนธรรมย่อย


ชื่อของเหตุการณ์ถูกนำไปเป็นประเด็นการเล่นคำในหลายๆบริบท
ตั้งแต่การรงณรงค์โฆษณาของผลิตภัณฑ์ทางการค้าไปจนถึงเหตุการณ์สาธารณะมากมาย

การรายงานข่าวของ San Francisco เดือนกรกฎาคม1997
การปั่นจักรยานนำไปสู่เหตุการณ์ปั่นจักรยานนานาชาติที่ถูกเรียกว่าBike Summer ,

บริษัทThe Rand Corporation จัดทำเอกสารหัวข้อ What Next for Networks and Netwars?
วิเคราะยุทธวิธีของการปั่น เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินค่าของการกระจายอำนาจ

การทำการตัดสินใจสำหรับควมสามารถของกองทัพใช้งานในสนามรบ
การปั่นCritical Massให้กำเนิด หนังสือ, ภาพยนต์สารคดี, ภาพเขียน และสิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์

From : street dog [ 3 ม.ค. 51 - 17:26:30 น. ]




ขอใช้กระทู้นี้เป็นสื่อกลางรายงานความคืบหน้าต่างๆ ของกิจกรรมนี้ เพื่อนๆท่านใดมีความเห็นอย่างไร? จนท.ชมรมฯ/น้าเป็ด มีความคืบหน้าอย่างไร? อย่ารีรอ.....เชิญเลยครับ


โดย...  สันติ [วันที่: 29/1/2008 - เวลา: 19:10:31 น. ....IP: 203.144.130.176]

[สุเกียง]

ในปี1997 นายกเทศมนตรีของSan Francisco,
Willie Brownถูกถามโดยผู้สื่อข่าวที่การประชุมผู้สื่อข่าวว่าเขามีแผนจะควบคุมCritical Massอย่างไน?

นายกเทศมนตรีบอกในการแถลงข่าว ขู่ที่จะจับกุมนักปั่นพร้อมทั้งดูถูกเหยียบหยามคนใช้จักรยานหลายอย่าง
ปฏิกิริยาและการรายงานข่าวแพร่กระจายออกไปสู่การเผชิญหน้า

การปั่นเมื่อ25กรกฎาคม1997 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตีพิมพ์เส้นทาง
ในวันศุกร์นายกเทศมนตรีปราศัยด้วยการตะโกนลงมายังกลุ่มนักปั่นราว7,000คน
นักปั่นกระจายตัวอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มย่อยๆ หลายส่วน ถูกไล่ตามจับด้วยรถตำรวจรวมทั้งเฮริคอปเตอร์
เกิดความสับสนอลหม่านตรึงเครียดทั่วทั้งเมืองและมีการจับกุมและถูกริบจักรยานหลายคน

27กรกฎาคม2007 ในVilnius, Lithuania ตำรวจจับกุม5ผู้เข้าร่วมCritical Mass
รวมทั้งผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีก2คนฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้สลายตัว อย่างน้อย2คน
ในกลุ่มมีรายงานว่าถูกทุบตีและบาดเจ็บจากการกระทำของตำรวจศาลจะตัดสินในเดือนสิงหาคม

31สิงหาคม2007ในMinneapolis ตำรวจจับกุมผู้เข้าร่วมCritical Mass19คนรวมทั้งผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีก3คน

ในวันเดียวกันนักปั่น7คนในChicago Critical Mass ถูกจับกุมและตั้งข้อหาขัดขวางการสัญจรและไม่เชื่อฟังตำรวจทั้ง7คนถูกควบคุมตัวทั้งคืน

กลุ่มที่สนับสนุนการปั่นจักรยานบางกลุ่มเป็นห่วงถึงธรรมชาติของความขัดแย้งของCritical Mass
และการทะเลาะวิวาทกับคนขับรถ การไม่ให้อภัยในเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆของความรุนแรงและความหยาบคาย
ทำให้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณะชนต่อคนใช้จักรยาน

ขณะที่ San Francisco Bicycle Coalition ให้เครดิตCritical Massทำให้ประเด็นจักรยานขึ้นมามีความสำคัญและสนับสนุนช่วยเหลือการรวมตัวของผู้ใช้จักรยาน

ในSan Francisco มีเหตุการณ์ที่แยกย่อยออกมาเรียก Critical Manners
ถูกสร้างขึ้นจากผลกระทบจากCritical Mass
การปั่นCritical Manners ผ่านเมืองในวันศุกร์ที่2ของเดือนแต่ต่างจากCritical Massที่นักปั่นปฏิบัติตามกฎจารจรทุกกฎ

เช่นหยุดเมื่อมีสัญญาณไฟแดงและเริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับการเริ่มCritical MannersในPortland, Oregon

ถึงแม้นว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ เกี่ยวกับสถานะการขี่จักรยานบนถนนของคนใช้จักรยาน
หรือส่งผลถึงการรับรู้ต่อสาธารณะชนของคนใช้จักรยาน แต่ตัวอย่างบางอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าขอบเขต
ของการปั่นจักรยานขยายเข้าไปในหลายวัฒนธรรมย่อย


ชื่อของเหตุการณ์ถูกนำไปเป็นประเด็นการเล่นคำในหลายๆบริบท
ตั้งแต่การรงณรงค์โฆษณาของผลิตภัณฑ์ทางการค้าไปจนถึงเหตุการณ์สาธารณะมากมาย

การรายงานข่าวของ San Francisco เดือนกรกฎาคม1997
การปั่นจักรยานนำไปสู่เหตุการณ์ปั่นจักรยานนานาชาติที่ถูกเรียกว่าBike Summer ,

บริษัทThe Rand Corporation จัดทำเอกสารหัวข้อ What Next for Networks and Netwars?
วิเคราะยุทธวิธีของการปั่น เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินค่าของการกระจายอำนาจ

การทำการตัดสินใจสำหรับควมสามารถของกองทัพใช้งานในสนามรบ
การปั่นCritical Massให้กำเนิด หนังสือ, ภาพยนต์สารคดี, ภาพเขียน และสิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์

From : street dog [ 3 ม.ค. 51 - 17:26:30 น. ]




ขอใช้กระทู้นี้เป็นสื่อกลางรายงานความคืบหน้าต่างๆ ของกิจกรรมนี้ เพื่อนๆท่านใดมีความเห็นอย่างไร? จนท.ชมรมฯ/น้าเป็ด มีความคืบหน้าอย่างไร? อย่ารีรอ.....เชิญเลยครับ


โดย...  สันติ [วันที่: 29/1/2008 - เวลา: 19:10:31 น. ....IP: 203.144.130.176]

[สุเกียง]

ความคิดเห็นที่ 63



ปั่นกันเถอะเรา


ข่าวประชาสัมพันธ์

ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพฯเชิญทุกท่านมาขี่จักรยานกันเถอะ
ผู้รักการขี่จักรยานทุกท่าน เชิญรวมพลปั่นจักรยานเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเพื่อสุขภาพ และให้ภาครัฐฯมาสนใจในเรื่องทางจักรยานใน กทม. โดยใช้ชื่อโครงการว่า Critical Mass ปั่นกันเถอะเรา นัดกันครั้งแรกที่ บริเวณด้านหน้าสยามดิสคับเวอรี่ SIAM DISCOVERY สี่แยกปทุมวัน เวลา 18:30 น.วันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551
ฟังเรื่องราวแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้รักจักรยาน และขี่ไปตามเส้นทางพระราม 1 ผ่านเวิลด์เทรด เลี้ยวซ้ายไปเข้าถนนเพชรบุรี ตรงไปพระบรมรูปทรงม้า
จากนั้นปั่นไปยังสี่เสาร์เทเวศน์ บางลำพู ราชดำเนิน วงเวียนประชาธิปไตย นางเลิ้ง ราชเทวี กลับมาจุดเริ่มต้น เวลาประมาณ 20:30 น. แยกย้ายกันกลับ
อย่าลืม นัดครั้งสำคัญ 29 กุมภาฯ 51 ชวนเพื่อนพี่น้องมาร่วมปั่นจักรยานกันนะครับ


โดย..น้าเป็ด  [วันที่: 10/2/2008 - เวลา:23:06:53 น. ....IP: 58.8.6.163 ....: #22045]

[MindTrick]

เห็นคุณ สุเกียง นึกว่าเป็นผู้ชาย  :oops:

จากที่อ่านมา หลักการบอกว่าจะไม่ออกสื่อทีวีสื่งพิม เน้นปากต่อปาก แต่มีเดลินิวส์ออก ยังงี้จะเป็นยังไงหรอครับhttp://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news ... Template=1

[สุเกียง]

ขอขอบคุณเว็บ www.thaivi.com ค่ะ ขอบคุณที่ให้ดิฉันได้ตั้งกระทู้บ่อยๆเสมอมา
หลายๆครั้งเกรงใจเพื่อนๆ ที่แวะมาอ่านแล้วคนตั้งกระทู้ก็หายต๋อมไป

[สุเกียง]

**....ปั่นจักรยานแล้วหายป่วยได้....**

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

[por_jai]

อะไรที่ดีมีประโยชน์ต่างก็พร้อมจะหยิบยื่นและแชร์สิ่งที่รู้และรับทราบให้กับสังคมรอบข้างบ้าง
แม้ดิฉันจะไม่มีความรู้ ก็ยังอยากสื่อสิ่งที่อ่านมา แปะลิ้งค์แปะเว็บให้เพื่อนๆในเว็บได้อ่านกัน
เผื่อคนที่ชอบกีฬาแบบเดียวกัน ได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่เขาจัด เพื่อสุขภาพพลานามัยจริงๆ

ผมอ่านที่พี่สุเกียงเล่าเกี่ยวกับตอนที่ไปขี่จักรยานตจว.
มันโหดไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับ
ป่านนี้พี่คงขี่เก่งมากแล้ว ระดับมืออาชีพ

[สุเกียง]

ผมอ่านที่พี่สุเกียงเล่าเกี่ยวกับตอนที่ไปขี่จักรยานตจว.
มันโหดไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะครับ
ป่านนี้พี่คงขี่เก่งมากแล้ว ระดับมืออาชีพ

สวัสดีค่ะ คุณ por_jai ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่านกระทู้
ใหม่ๆไปออกทริปต่างจังหวัด เหนื่อยและโหดจริงๆค่ะ
ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ขณะที่เจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็บ่นในใจว่า
ไม่เอาแล้ว ต่อไปจะไม่ออกทริปไปไหนไกลๆแล้ว จาบ้าตายแล้ว ไม่ไหวแล้ว...

พอกลับบ้านหายเหนื่อย ก็ลืมความเหนื่อยไปหมด
ร่างกายได้ปรับสภาพให้คุ้นเคย ทุกอย่างก็เริ่มชินและคุ้นเคย
พอเขาจัดทริปอีก ก็เอาใหม่ อยากลองอยากเห็น อยากรู้ไปหมด ใจยังสู้อยู่...
เอาแค่สังขารไปได้แค่ไหนก็ตามนั้น ไม่ฝืนจนสลบ ต้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่

สนุกดีค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจไปลุย เพราะตื่นเต้นดี
เห็นพี่ๆหลายๆคน และลุงหลายๆคนอายุ 60กว่า 70กว่า ยังออกทริปกัน
เลยทำให้ไม่กลัว อยากไป กลัวไม่ได้ไปท่องเที่ยวด้วย ใจมีความสุขที่ได้ไปปั่นจักรยานด้วยค่ะ

ช่วงเวลาที่ไม่ได้ไปออกทริป 2 เดือน ก็ไม่ได้ขี่เสือภูเขาเลย
แต่ก็ใช้จักรยานแม่บ้านทุกวัน ในการออกไปไหนๆที่ไม่ไกลนัก
ไปสวนจตุจักรบ้าง ปากคลองตลาดบ้าง ไปคลองถมและเยาวราชบ่อยที่สุด
ก็ไม่คิดว่า จักรยาน จะกลายเป็นพาสหนะคู่ตัวคู่ใจไปซะแล้ว...

ประหยัดเงินค่ารถเมล์ได้เยอะเลยค่ะ
แถมซื้อของมามากมายโดยไม่ต้องแบกให้หนักเหมือนสมัยก่อน
ท้ายจักรยานจะมีแป้กระเป๋า 2 ข้างใบใหญ่สำหรับบรรทุกเสื้อผ้าของนักปั่นเวลาไปออกทริปต่างจังหวัด
แต่ดิฉันนำมาไว้บรรทุกผัก ผลไม้ และสิ่งของที่ซื้อมาซะงั้น ใส่ได้มากมายจริงๆ

ออกทริปใหม่ ก็เท่ากับต้องเริ่มต้นใหม่ ปั่นได้แค่เรามองเห็นเพื่อนๆกลุ่มสุดท้ายทัน
ก็ดีใจแล้วค่ะ

[MindTrick]

อ่านแล้วเหมือนคุณสุเกียงมี 6sense

เมื่อวานผมไปช่วยออกความเห็นไว้ใน thaicycing แต่หากระทู้ไม่เจอแล้วครับ ไม่รู้ซ่อนหรือลบไป บอร์ดนั้นผมไม่ถนัด

[สุเกียง]

สวัสดีค่ะ คุณ MindTrick ขอบคุณมากนะคะ
ที่ให้ข้อคิดเห็นดีๆ หลายๆมุมมองในกระทู้นี้

**เมื่อวานผมไปช่วยออกความเห็นไว้ใน thaicycing แต่หากระทู้ไม่เจอแล้วครับ ไม่รู้ซ่อนหรือลบไป บอร์ดนั้นผมไม่ถนัด  **

้เว็บ www. thaicycling.com หากเราโพสต์กระทู้ส่งไป
กระทู้ก็จะขึ้นนำตามหัวข้อที่มีคนโพสต์ทันที จะมองเห็นง่ายค่ะ
แม้ว่ากระทู้ที่เราต้องการถามตอบจะผ่านไปเป็นเดือน พอเราเข้าไปถามตอบใหม่
ก็จะขึ้นไปอยู่บรรทัดแรกของกระทู้ เป็นกระทู้นำไปเลย คนอ่านก็จะทราบว่ามีคนถามตอบณ.เวลานี้
ขอบคุณ คุณ MindTrick ที่แวะไปให้ข้อคิดเห็น ดิฉันก็หาไม่เจอเหมือนกันค่ะ

Critical mass คืออะไร ดิฉันก็ไม่เคยทราบมาก่อน มาอ่านบทความที่พี่ๆทางชมรมฯนำมาให้อ่าน
เห็นพี่ๆเขาปิ๊งจนเกิดไอเดียนี้ขึ้น จึงจัดโครงการ  Critical mass  นี้เป็นครั้งแรกของหลายๆชมรมฯ
ทางเมืองนอกเขาจัดมานานแล้ว คิดว่าต่อไปการรณรงค์ Critical mass นี้จะแพร่หลายเป็นที่รู้จักกัน

เกี่ยวกับสุขภาพพลานามัย ประหยัดพลังงาน และทางสัญจรที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ปลุกจิตสำนึกที่ดีให้แก่ส่วนรวม

การได้ปั่นจักรยานทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น คลายเครียดได้ดีมาก ความสนุกสนานจะตามมาจริงๆค่ะ
เวลาเราได้ปั่นจักรยาน เหมือนเราอยากบิน ใจจะร่าเริงแจ่มใส เหนื่อยกายแต่มีความสุขกับการได้โผบินเหมือนนก

ใหม่ๆทุกๆคนจะขี่ไม่แข็งกันทั้งนั้น จึงต้องขีี่บนฟุตบาทกัน เพราะเป็นการเริ่มต้นที่ต้องระวังมากที่สุด
พื้นผิวถนนแม้จะเรียบ ขี่ได้สบายกว่า แต่อันตรายมากที่คนยังปั่นจักรยานไม่แข็งไม่ชำนาญจะลงไปปั่น
ต้องระวังรถเมล์ รถยนต์ที่ผ่านไปมา แถมอันตรายจากการที่ต้องระวังฝาท่อระบายน้ำ
ซี่กรงเหล็กฝาท่อไม่เสมอกัน แนวตรงห่างพอดีล้อ ถ้าไม่ระวังล้อก็จะติดล๊อคอยู่ตรงนั้น
อันตรายมากๆ ต้องระวังรถยนต์ที่ตามมา รถจักรยานเบามาก มีแต่เนื้อหุ้มเหล็ก
แตกต่างจากการขับรถเก๋ง เหล็กหุ้มเนื้อ จึงไม่อันตรายเท่าการปั่นจักรยานบนท้องถนน ความปลอดภัยต้องมาก่อน
ซึ่งได้อ่านข้อความ  Critical mass เป็นการรณรงค์หลายๆอย่าง ให้เกิดผลดีแก่ส่วนรวม

ก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้ทีมงานทุกๆท่าน อย่าท้อแท้ ขอให้ทุกอย่างสัมฤทธิ์ผลและสำเร็จสมดังปรารถนาค่ะ

[สุเกียง]

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30


สวัสดีค่ะ ในที่สุดวันนัดพบของเพื่อนๆชาวจักรยานก็ผ่านไปอย่างสนุกสนาน และเกิดความสามัคคีต่อกัน
เป็นการรวมตัวกันที่จะเรียนรู้ CRITICAL MASS BANGKOK นั้นแตกต่างกว่าของเมืองนอกมาก
เพราะเท่าที่อ่านบทความที่นำมาแปะ ก็ห่วงๆและกังวลเหมือนกัน ภาวนาในใจว่าขอให้ผ่านไปความราบรื่น ไม่ติดขัด
เดินทางมาและเดนทางกลับด้วยความปลอดภัยกันทุกๆคน

บางท่านมาจากต่างจังหวัด ยังอุตส่าห์มาร่วมงาน ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อส่วนรวม ด้วยใจรักในสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนกัน
ต่างก็อยากรู้ว่าหากมาร่วมกันรณรงค์แล้ว ความคืบหน้าของการมีส่วนร่วมในการได้ปั่นจักรยานบนท้องถนนเป็นอย่างไร
ก็ต้องดูกันต่อไปในอนาคต อย่างน้อยๆนี่คือการริเริ่มปลุกจิตสำนึกของการมองจุดเล็กๆของผู้ใช้รถใช้ถนน

ให้หันมาเอื้ออาทรผู้ที่ปั่นจักรยานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้เกิดความคุ้นเคยในการมองเห็นภาพผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมด้วย
สมัยนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายๆครอบครัวก็หันมาประหยัดกัน ก็ต้องคิดวิธีประหยัดให้กับครอบครัวมากที่สุด
ดิฉันเองก็หันมาปั่นจักรยานในชีวิตประจำวัน ประหยัดเงินค่าเดินทางให้กับตัวเอง ลดค่าใช้จ่ายรายเดือนไปมาก
ที่รู้ก็ด้วยการหยอดเงินค่าเดินทางลงในกระปุกนี่เอง แม้จะไม่ค่อยได้ไปไหนนัก แค่ค่ารถที่จะไปหาหมอที่รพ. ก็เซฟเงินได้มากเลยค่ะ
ค่ารถเมล์เดี๋ยวนี้ หากนั่งหลายต่อก็หนักเอาการอยู่ ถ้าเรานำจักรยานออกเดินทางจะทั้งเร็วและสะดวกกว่า สนุกดี ไปได้ทุกแห่งหน
จุดมุ่งหมายที่ไปรณรงค์ด้วย ก็เพราะมีหลายๆอย่างสอดคล้องและมีประโยชน์ต่อส่วนรวม
นำมาเป็นข้อคิดในการได้มีส่วนร่วมในการได้ใช้รถใช้ถนนด้วย ต่างต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน
ไม่ได้ปั่นจักรยานเพื่อให้รกถนน หากแต่เพื่อเดินทางไปธุระ ไปทำงาน ไปให้ทันช่วงเวลาเร่งด่วน
บ้างก็ปั่นเพื่อสุขภาพ เด็กนักเรียนที่โตแล้ว ก็ยังหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง
แม้จะอันตรายมาก แต่ก็กลายเป็นความจำเป็นไปซะแล้ว ซึ่งก็ต้องอาศัยเส้นทางเดียวกันบนท้องถนน
อยากให้บนท้องถนนเกิดความคุ้นเคยที่ได้เห็น จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางบนท้องถนนด้วย
ขอให้เกิดความเอื้อเฟื้อเห็นอกเห็นใจรถคันเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรเป็นเกราะคุ้มกันบ้าง
คิดซะว่าหนึ่งในคนใช้จักรยานเดินทางนั้น เป็นลูกๆหลานๆ อาจสร้างความรำคาญบ้าง แต่มันจำเป็นจริงๆ..


**...การจัดให้มี CRITICAL MASS BANGKOK ของไทยจะแตกต่างกับเมืองนอกมาก
เพราะเท่าที่สังเกตุสิ่งที่ผ่านมาในคืนนั้น ผู้มาร่วมรณรงค์ต่างมาเพราะมีใจรักในการได้ทำเพื่อส่วนรวมจึงมาร่วมงานมากมายเช่นนี้
แม้จะเดินทางไกลก็ยังมา หลายๆท่านอายุมากแล้ว ก็ยังมากัน เห็นแล้วประทับใจมาก

เย็นวันศุกร์ ที่ 29 กุมภาพันธ์ ดิฉันก็รอจนได้เวลาออกเดินทาง ก็ไปถึงหน้าห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ 17.00 น.
ก็มีคนไปรอไม่กี่คน ก็ตื่นเต้นไปหน่อย เลยไปก่อนเวลา คอยมองคนที่ปั่นจักรยานมาทีละคนสองคน ไม่กล้านั่งบนบันไดห้าง
ในที่สุดก็มีคนค่อยมากันแล้ว เห็นจักรยานมีหลายๆแบบ มาจอดรอเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ

เห็นน้าหมี น้าเป็ด คุณ แอมป์ คุณกะปิ คุณ ออย น้องหมีน้อย คุณ ลุงเนตร เฮียฉัตร และเพื่อนๆอีกหลายๆคนที่เคยไปออกทริปมากันเยอะมาก
พอ18.30น. คนจากหลายๆชมรมฯก็มารอกันเต็มบันไดห้าง มีรปภ.ของห้างมาเตือน
หน้า Siam Discovery ก็มีคนเดินไปมามองอย่างแปลกใจกัน เสียดายที่ไม่มีแผ่นป้ายบอกว่าเรามาทำอะไรกัน
แต่ฝรั่งที่เดินไปมาเขาถ่ายรูปกันใหญ่ ฝรั่งเขาออกจะดีใจที่ได้เห็นกิจกรรมนี้ เขาสนใจเลยถ่ายรูปร่วมด้วย
ในผู้ร่วมกิจกรรก็มีเพื่อนๆชาวต่างประเทศมาร่วมด้วยหลายคนเหมือนกัน ฝรั่งท่านนี้ใส่เสื้อเหลืองแถมชี้ที่กระเป๋าเสื้อตัวเองด้วย
มีตราสัญญาลักษณ์ที่ปักบนกระเป๋าวันฉลองครองราชย์ 60 ปี เขาภูมิใจที่ได้ใส่เสื้อเหลือง ชี้มาทางดิฉันว่าใส่เหมือนกันเลย

[สุเกียง]

มีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์มาถ่ายภาพกันด้วย พอจวนได้เวลา19.00น. ก็มีคนบอกว่าตำรวจมาแล้ว


ก็เลยเตรียมตัวออกเดินทางกัน โห !!!! หันไปมอง จักรยานเยอะมากๆ ไม่รู้มีกี่ร้อยคัน ถนนแคบไปถนัดใจ



แต่ทุกๆคนก็รีบออกเดินทางกัน เพื่อไม่ให้รถติด ซึ่งปกติก็ติดมากๆอยู่แล้ว นี่ดีว่าฟากนี้เลนส์เล็ก ทางรถประจำทาง



ทุกคนก็ไม่รอช้า ออกเดินทางทันที ติดไฟแดงก็หยุดรอกัน จักรยานเยอะมากกว่าจะขี่ตามก็ลำบากเหมือนกัน
ดีที่ว่าเริ่มเคยชินกับการปั่นเป็นกลุ่มมาแล้ว เลยเลี้ยงรถให้ทรงตัวไปได้เรื่อยๆ

[สุเกียง]

ถึงสี่แยกราชประสงค์ ช่วงนี้การจารจรติดขัดไปเรื่อยๆ พอเลี้ยวซ้าย ถึงเวิร์ลเทรด ตรงไปทางประตูน้ำ
ขี่ไปตามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย ที่นั่นรถติดมาก บางท่านก็ขี่รอตรงเล็นส์ถนน บางกลุ่มก็ขึ่ขึ้นทางเดินทางเท้า


แตกกลุ่มซะแล้ว บางจังหวะก็เอาบ้าง เพราะไม่ขี่ตาม คันหลังก็สะดุด ที่จริงอยากระรวมกลุ่มที่ถนนข้างล่าง
แต่พื้นี่ถนนไม่พอให้จักรยานจอด ก็ต้องเลยตามเลย แต่พอเจอทางลาดให้ลงก็รีบลงทันที เกรงใจคนเดินไปมาเหมือนกัน

[สุเกียง]

ไปผ่านแยกราชเทวี ก็เจอเฮียสุวิทย์ เข้ามาทักทาย ดีใจที่ได้เจอเฮียสุวิทย์ ค่ะช่วงนั้นมีกลุ่มเพื่อที่มาจากต่างจังหวัดขี่แยกตรงแยกราชเทวี
เห็นบอกต้องไปขึ้นรถพร้อมกันณ.จุดนัดพบ พวกเรากลุ่มใหญ่ก็ขี่ตามกันไปกลุ่มใหญ่ ผ่านตำรวจทางหลวง
ผ่านสนามม้า ผ่านวัดเบญฯ ช่วงนี้ถนนโล่งปลอดรถ ปลอดผู้สัญจรไปมา ถนนเงียบมีแต่แสงสีไฟหน้าจักรยานและท้ายจักรยานสว่างไสวไปหมด

ผ่านไปถึงทางที่พระบรมรูปทรงม้า สวนอัมพร ไปทางเส้นทางบางลำภู แถวนั้นคนเยอะ มองและโบกมือทักทายกัน
ฝรั่งที่ปั่นมาด้วยกันก็ทักทายเพื่อนฝรั่งด้วยกันอย่างดีใจ คนรอรถเมล์ก็หันมาให้ความสนใจกัน
เสียดายที่เขาไม่รู้มาปั่นกันทำไมแย้วๆๆๆสื่อสารกันไม่ได้ ได้แต่ยิ้มยิงฟันขาวไปทักทายเท่านั้น

ผ่านถนนหลายเส้นทางไปเรื่อยๆ แต่ละคันมารวมกันที่ราชดำเนินแล้ววกไปที่ว่าการกทม.
เงียบจัง แต่ก็ดีกว่ารถติดช่วงออกจากจุดนัดพบ จอดพักที่สนามหลวง กลุ่มเพื่อนๆเริ่มน้อยลง ต่างคนต่างกลับ
ก็เลยตามคุณ ลุงเนตร คุณ ออย กลับ พอถึงแยกสถานีรถไฟหัวลำโพง เหลือกลุ่มเราเพียง 6-7 คน เพราะกลุ่มหลังติดไฟจราจรกัน

ในที่สุดก็เหลือดิฉันปั่นกลับเส้นทางกลับบ้าน เพราะต่างแยกย้ายหายไปช่วงสถานีรถไฟหัวลำโพงกันหมดแล้ว

[สุเกียง]

ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดี ที่ได้เรียนรู้น้ำใจในการมีส่วนร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อส่วนรวม ของหลายๆชมรมฯ
ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ทีมงานทุกๆท่านได้ทำสิ่งที่ดีๆในอนาคตให้กับพี่ๆน้องๆของชมรมฯนักปั่น
เพื่อส่วนรวมจริงๆ จึงออกมาได้แบบนี้ หลายๆข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง ขาดการประสานให้ลงตัว
ต่อไปก็จะค่อยๆดีขึ้น และทุกๆคนที่มาร่วมรณรงค์ต่างก็มีกำลังใจกันมากขึ้น กล้าที่จะแสดงจุดยืนที่มีออกมาอย่างเปิดเผย

ใหม่ๆก็คงท้อและกลัว แต่นี่เป็นการจุดประกายและปลุกจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ร่วมใช้รถใช้ถนนของประชาชน
มีระเบียบวินัยในการร่วจสัญจรไปมาระหว่างกัน ต้องคิดถึงใจเขาใจเราเป็นที่ตั้ง ความปลอดภัยนั้นย่อมมาก่อนเสมอ...

อุบัติเหตุบนท้องถนนย่อมลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ถ้าทุกคนมีน้ำใจต่อกัน ให้อภัยและเพิ่มความอดทนสักนิด
ทุกอย่างก็จะสดใสและมีความสุขที่ได้ทำสิ่งดีงามเผื่อลูกหลานที่กำลังเติบโตในอนาคต..

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่มีส่วนร่วม ในการ เรียนรู้ CRITICAL MASS BANGKOK ในแบบฉบับของไทยค่ะ

[MindTrick]

มาตามผล ดีใจจังครับ

คราวหน้า ลองทำเสื้อ สกรีน ที่หลัง ตัวโตๆ ดูดิครับ เสื้อดำแล้วใช้สีขาวสะท้อนแสง อะไรประมาณนี้

[สุเกียง]

สวัสดีค่ะ คุณ MindTrick

ขอบคุณค่ะ ที่มาให้ข้อคิดเห็นดีๆ

เห็นพี่ๆแต่ละคนเหนื่อยกันมากๆเลยค่ะ
แต่ละคนเพลียๆ ยิ้มไม่ค่อยออก เห็นใจทุกๆคน
ซึ่งลึกๆแล้วคงกังวลหลายๆอย่าง ก็ได้แต่ลุ้นให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
และก็น่าชื่นชมในน้ำใจของผู้มาร่วมกิจกรรมในคืนนั้นมากๆ

แต่ละคนมาจากที่ไกลๆ มาร่วมงานอย่างเต็มใจทุกคน
แม้จะไม่รู้จักกันแต่ก็มีหน้าตาตื่นเต้นดีใจกันทุกคน
ซึ่งก็พลอยโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีตลอดคืน
คนเยอะมากๆ แต่ทุกคนต่างมีสปีคริกส์ในการดูแลตัวเองดีมากๆเลยค่ะ

พอผ่านช่วงรถติดไปได้ ทุกคนก็ค่อยๆไปตามขบวน
เห็นแต่ละคนหัวเราะแล้วก็พลอยหัวเราะไปด้วย

เรื่องเสื้อนั้น คงยากที่จะหาใครมาจัดทำ
เพราะทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น แม้แต่การสกรีนภาพโปสเตอร์
ยังทำไม่ได้เลย ก็ต้องใช้ปากต่อปากในการสื่อสารเท่านั้น
ก็ได้แต่เอาใจช่วย แบบหากเขาจัด ไม่ไกลบ้านนักก็จะเดินทางไปร่วมงานด้วย

หากไกลนัก ก็ไม่มีปัญญาปั่นไปสมทบได้
ครั้งหน้า สถานที่นัดพบไกลเกินกำลัง ก็คงไม่ได้ไปน่ะค่ะ

ขอบคุณ คุณ MindTrick มากๆค่ะ