
คร้งหนึ่ง ผมเขียนนิยายการลงทุน ที่บางคนบอกว่า
จะช่วยเสริมช่องว่างที่เป้นที่ต้องการของวรรณกรรมทางการลงทุนเน้นคุณค่า
...จริงๆ แล้วผมคิดว่า ถ้าการลงทุนเน้นคุณค่าต้องการช่องว่างจริงๆ ละก็ ผมไม่น่าจะเขียนนิยายชิ้นนั้นขึ้นมามากกว่า
ถ้าผมเขียนวรรณกรรมขึ้นมาจริงๆ คงเขียนได้แต่ตัวเท่านั้น
โชคดีวันนี้ผมยังมีชิวิตอยู่ ผมหวังว่าจะเขียนด้วยวิญญาณที่เข้าถึงจิตใจของตัวเอง หวังที่จะรู้ว่าทำไมดาวถึงส่องแสง และเคยพยายามเข้าใจปรัชญาของ Graham ซึ่งอยู่เหนือความเปลี่ยนแปลงทั้งปวง
ข้อ 34. ท่านเป้นช่างแบบใด
ก. ช่างเชื่อมคือ....คนที่ต่อของเข้าด้วยกัน
ข. ช่างหลอมคือ.....คนที่แยกมันออกจากกัน
ด้วยความเคารพ
^O-O^
"การฝังคนอ่านทั้งเป้น เป้นสิ่งที่ผมชำนาญ"
หากเรามองหาใครสักคนในโลกทีมีชือเสียงที่ทุ่มเทชีวิตทั้งหมดให้กับสิ่งที่เขาศัทธา เราคงมองหาคนเหล่านั้นได้เป็นพันๆ คน แต่คนที่ผมคิดถึงคือ ลุดวิค วิกเกนสตาย ค.ศ 1889-1951 คนที่ละทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อปรัชญา แต่ในขณะที่วิกเกนตายละทิ้งสมบัติเพื่อทรมานตนเองนั้น
คนอย่างวอเร็น บัฟเฟตยกเงินทั้งหมดที่เขาหาได้ให้ผู้อื่น เพียงเพราะมันไม่จำเป็นสำหรับเขา
แต่ในขณะการแสงหาของวิกเกนสตายทำให้เขาทุกข์แสนสาหัสจนฆ่าตัวตาย คนอย่างบัฟเฟต ได้ค้นเค้นความสุขทุกหยดออกมาจากสิ่งที่เขาสร้างขึ้น
........................................................................
"ความจริง 3 ข้อ ของ Graham"
เปรียบเหมือนภูเขาเอเวอเรสแห่งวงการการลงทุนเน้นคุณค่า
ความจริงของ Graham ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นความจริงที่ต่างจากความจริงทางกายภาพของวิชาการลงทุนทั้งปวง...
Circle of Competence
Mr. Market
Margin of safety
พวกเราหลายคนเชื่ออย่างนั้น และมันคือแรงกระตุ้นสำคัญของพวกเรา แต่บางครั้ง ความพยายามที่จะอธิบายความเชื่อเหล่านั้นกับเพื่อนของเราทีไม่ใช่ value investor ก็ไม่แตกต่างกับการพยายามเล่าเรื่องพระเจ้าให้กับผู้ที่ไม่มีศาสนา
......................................................................
"ผู้พิชิตยอดเขาคนแรก"
Warren Buffett คือผู้ที่ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับความจริงของ Graham เป็นรูปร่างขึ้นมา
เขาทุ่มเทพรสวรรค์และพลังงานทั้งหมดในชีวิตในการสร้างวิหารแห่งการลงทุนเน้นคุณค่า
ลุงบัฟเฟตไม่เคยสงสัยในความสำคัญ ในความจริงแท้ และในความสมบูรณ์แบบของสิ่งที่เขาแสวงหา
การที่เราได้สัมผัสกับควรามศัทธาของลุงบัฟเฟท ทำให้เรามีความศัทธาด้วย
โลกที่ศัทธาในศาสนาใบนี้ ควรจะได้เข้าใจถึงคุณสมบัติที่แสนวิเศษของเขา
........................................
"ความงดงาม"
พวกเราแตกต่างจากนักลงทุนแขนงอื่นๆ ตรงที่ว่า...
พวกเราไม่ต้องมีเครื่องมือใดๆ ในการทำงานมากมาย มันเป็นแบบนี้เหมือนกับตอนที่บัฟเททไปตกลงซื้อบริษัทของคุณนายโรส ด้วยเพียงการใช้นิ้ว กระดิกๆ ไปมา คำนวณตัวเลข ในกระเป๋ากางเกงที่เอามือซุกอยู่เท่านั้น
ขอเพียงมีใจที่สงบ กับ กระดาษเช็ดปาก ที่รองจาน ถุงกล้วยทอด ห่อขนมปัง ซองถุงยาง หรือที่ว่างสักแห่งที่เงียบ ๆ ในใจ ..... กับดินสอสักแท่ง จำได้ว่าใครบางคนบอกว่า มันไม่มากไปหรือสำหรับเรา
เพียงแค่นั้น.... เราก็สามารถหามูลค่าของหุ้นได้ถ้าเราเข้าใจหุ้นตัวนั้นอย่างดี
นี่คือความงามของการลงทุนเน้นคุณค่า
เราสามารถหลับตาและก็ทำงานได้ ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้เพื่อนผมคนนั้นอาจกำลังหามูลค่าหุ้นาอยู่ก็ได้บนโถชักโครกก็เป็นได้
..........................................
" โรคติดต่อ"
พวกราเคิดเสมอว่ารูปแบบของการลงทุนเน้นคุณค่าก็เหมือนกับงานของกวีหรือจิตกรทั่วไป ที่จะต้องมีความงดงาม มีความคิดที่เป็นสีดำกับขาวในหมู่พวกเรา ที่ต้องการความกลมกลืนอย่างลงตัว การอธิบายถึงความงามของการลงทุนเน้นคุณค่าเป็นเรื่องที่ยาก ผมรู้อยู่ลึกๆ ว่า กลค มันเป็นความงามที่จริงแท้เช่นเดียวกับความงามอื่นๆ มันเหมือนกับรถามว่าทำไม ซิมโฟนีหมายเลข 9 ของบีโธเฟนจีงมีความงดงามอย่างนั้น ไม่มีใครตอบเราได้ นอกจากเราจะเห็นมันเอง
ความหลงใหลใน กลค ของพวกเราหมือนโรคติดต่อ
.........................................
"อุดมคติ"
จนถึงทุกวันนี้ กลค ไม่มีความสำคัญในโลก ไม่มีผลต่อความคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ต่อยอดได้ ในขณะที่การค้นพบของนิวตัน กาลิเลโอ ไอสตาย ล้วนเปลี่ยนแปลงทิศทางของโลกในยุคของพวกเราอย่างสิ้นเชิง
ผมเคยสงสัยว่า กลค เป้นโลกของอุดมคติเหมือนสามเหลี่ยมหรือปล่าว มันรวมกันได้ 180 องศา มันเป็นโลกของอุดมคติ ผมรู้ตั้งแต่อยู่ ม. ปลาย มันไม่เคยเท่ากับ 180 องศา ทุกวันนี้ เราเอาเครื่องดิจิตอลมาวัด ได้แล้ว สามเหลี่ยมทุกอย่าง ในโลกมันไม่เคยมีค่าเท่ากับ 180 พอดีเป๊ะ
เช่นเดียวกัน กลค ก็อาจเหมือนสามเหลี่ยม ไม่ใช่เพราะเราคิดว่ามันเป็น แต่เพราะสมองของเราถูกสร้างให้คิดว่ามันเป็นอย่างนั้นมากกว่า ความจริงของหลายๆ สิ่งในโลกมันเป็นอย่างนั้น
................................................
"ตะแกรงร่อนหุ้นของอีราทอสเธปื้ด
ตะแกรงร่อนหุ้นของอีราทอสเธปื้ด เป็นวิธีที่ธรรมดาที่สุด ตรงออกมาจากคัมภีร์ value investing เลย บทพิสูจน์ของบริษัมที่ดีนั้น
จะต้องมีทั้งความคาดถึงได้ ผสมผสานกับความไม่สามารถเป้นอื่น และความเรียบง่าย
มีคนเคยถามผมว่างานสำคัญที่สุดของผมต่อวงการการลงทุนเน้นคุณค่าคืออะไร การสอนเด็กๆ ผมจะตอบแบบไม่ต้องคิดเลย
....................................................
"ความแน่อน"
ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมอายุ 11 ปี กระผมเรียนอยู่ชุ้น ป.4 ที่โรงเรียนบ้านแก้งวิทยา จังหวัด สะแก้ว กระผมทำงานเล้กน้อย ๆให้คุณครูแผนกบัญชี ในสหหรณ์โรงเรียน บางครั้งผมได้รับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทางการสื้อสาร จริงๆ แล้วก็คือ พนักงานรับโทรศัพท์นั่นละครับ ขณะนี้ผมมีความฝันจะศึกษาวิชาการลงทุนเน้นคุณค่า แต่ไม่เคยผ่านการศึกษาที่แท้จริงในโรงเรียนมาก่อนเลย หลังจากเลิกเรียนแล้ว กรัผมได้ใช้เวลาว่างในการศึกษาวิชาการลงทุน..และได้ค้นพบทางใหม่ให้กับตัวเอง กระผมได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับ ทฤษฎีเรื่องการวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเองเป็นพิเศษและได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่า อศจรรย์ อย่างมาก แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้
หลายท่านสงสัย จดหมายเป้นเพียงจดหมายต้มตุ๋น
ผมยังไม่เคยกระโดดแบบนี้มาก่อนเลย ความดีใจทำให้ผมกล้าขึ้น พยุงผมไว้ให้ล้ม เวลาที่เราอายุมากขึ้น ใจเราจะแข็งแรงขึ้น ไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ ใจเราไม่แข็งแรงเท่านี้ เราอาจพลาดได้ แต่ตอนอายุมาก เวลาพลาดอะไรเราจะเจ็บมาก และถ้าเราเจ็บ มันจะใช้เวลานานกว่าตอนหนุ่มๆ กว่าที่มันจะหาย
ผมไม่แนะนำ กลค.เป้นที่พักพิงเสียทีเดียว แต่มันเป็นโลกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โลกที่มีความชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล เป็นโลกที่มีคำตอบที่แน่นอน ถ้าหากมีอะไรมันแน่อนละก็ d]8 คือสิ่งนั้น มันเป้น
ความแน่นอนที่แน่นอนที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถนำไปใช้ในทางที่ดี ก็สามารถนำไปใช้ในทางไม่ดีเหมือนกัน
...........................................................................