กองธรรมพระศรีอารย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง
ขอเชิญร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือ ประจำปี ๒๕๕๑ (ปีที่ ๑๗)
ตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง
ขอเชิญทุกท่านร่วมบริจาคซื้อชีวิตวัว ควาย จากโรงฆ่าสัตว์ตามที่เคยปฏิบัติมาทุกปีจนเป็นประเพณีและเป็นที่ทราบกันดีสำหรับผู้ที่เคยร่วมบริจาคว่า ต้นเดือนมีนาคมทุกปี ผมจะรวบรวมเงินที่ทุกท่านร่วมกันบริจาคมา เพื่อนำไปซื้อวัว ควายจากโรงฆ่าสัตว์แจกให้ชาวบ้าน
นับแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันคือ ปี 2550 ผมได้นำวัว - ควายลงพื้นที่ ตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เป็นเวลา 4 ปี รวมได้ประมาณ 300 ตัว ซึ่งในแต่ละปียอดเงินบริจาคอยู่ที่ประมาณ 4 5 แสนบาท แต่ปี 2549 เราได้ยอดเงินบริจาค 6 แสนเศษ ปี 2550 ยอดเงินบริจาคพุ่งขึ้นมาเป็น 1.2 ล้านบาท ผลจากแรงศรัทธาที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแพร่ข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตและวิธีการทำงานของเรา ทำให้จำนวนเงินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว มีผลโดยตรงต่อจำนวนวัว ควายที่รอดชีวิต และพื้นที่ที่ต้องติดตามดูแล ขยายเพิ่มขึ้นจากเดิม ปี 2546 2548 มีพื้นที่รับผิดชอบ 4 หมู่บ้าน ปัจจุบันครอบคลุม 10 หมู่บ้าน เกือบหมดตำบลบ้านขอซึ่งมี 13 หมู่บ้าน คาดว่าปี 2551 คงจะได้ครบทุกหมู่บ้านแน่นอน
ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ผมจึงได้แจ้งให้ผู้บริจาคทุกท่านทราบตั้งแต่ช่วงการรับบริจาครอบที่ผ่านมาว่า หากเรายังคงไถ่ชีวิตโค กระบืออย่างเดียวโดยไม่มีโครงการเสริมเพื่อดึงมวลชน คือ ชาวบ้านให้เข้ามาร่วมกับเราในการรักษาชีวิตวัว ควายด้วยความสมัครใจแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมดูแลได้ทั่วถึง และหากมีการแอบขายหรือนำไปฆ่าโดยที่เราควบคุมไม่ได้ ผมก็จำต้องยุติโครงการไถ่ชีวิตทันที
นั่นคือที่มาของการแจกทุนการศึกษาและการแบ่งเงินบริจาค จากยอดเงินประมาณ 15 20% (เริ่มตั้งแต่ปี 2550) เพื่อนำมาทำโครงการที่เป็นประโยชน์ลงพื้นที่ โดยแจ้งให้ชาวบ้านและผู้นำชุมชนทุกคนทราบว่า เงินที่ใช้จ้างวิทยากรหรือแจกทุกการศึกษาก็ดี เป็นเงินของวัว ควายทั้งสิ้น หากทุกคนไม่ช่วยกันรักษาชีวิตวัว ควาย โครงการที่ทำต้องยุติไปทั้งหมดโดยปริยาย แม้ว่าการแจกวัว - ควายเราจะมีการคัดเลือกรายชื่อโดยดูจากความประพฤติ ให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้คัดเลือกในเบื้องต้น มีการเซ็นสัญญายืม ทำทะเบียนประวัติพร้อมรูปถ่าย ทำเครื่องหมายรหัสประจำตัววัว ควายทุกตัว สัญญายืม 14 ข้อระบุห้ามฆ่าห้ามขายหรือแลกเปลี่ยน แม่และลูกตัวที่ 1 ผู้รับต้องดูแลตลอดชีวิต ตายต้องแจ้งให้สัตวแพทย์ชันสูตรศพแล้วฝัง ห้ามกินเนื้อ หากใครทำผิดกติกาถูกปรับตัวละ 2 หมื่นบาท และหมู่บ้านนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในปีต่อไปทุกเรื่องก็ดี
คนเราเมื่อลำบากยากจนมีหนี้สินเพิ่มพูนมากขึ้น ก็อาจหน้ามืดแอบขายเข้าสักวัน ใช้แต่กฎหมายรังแต่จะได้รับความเกลียดชังและศัตรู ผู้ใหญ่บ้านต้องประกอบอาชีพของตัวที่ต้องรับภาระ ขณะเดียวกันเขารับนโยบายจากทุกกระทรวง จะไปผลักภาระให้เขาทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นหากเราหวังทำเรื่องไถ่ชีวิตวัว ควายให้ยั่งยืน เราต้องลงพื้นที่เองและทำโครงการเสริมเพื่อดึงมวลชนมาช่วย
9 พฤษภาคม 2550 ผมได้ส่งจดหมายถึงผู้นำชุมชนและผู้ใหญ่บ้าน เสนอโครงการ 4 โครงการ คือ
1. โครงการบ้านดิน เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ใช้ดินเป็นวัสดุแทนไม้, ปูน ให้คนจนมีบ้านของตัวเองอาศัยและไม่ต้องโค่นไม้ทำลายป่า
2. โครงการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน ทำหน่วยผลิตปุ๋ยชีวภาพที่ใช้ขี้วัว ขี้ควายกับใบไม้แห้งแทนปุ๋ยเคมีใช้ในไร่นา และผลิตเพื่อขายเป็นขั้นที่ 2
3. โครงการหน่วยผลิตแก๊สชีวภาพ ด้วยการนำมูลสัตว์และขยะมาหมัก สอนให้ชาวบ้านทำแก๊สหุงต้ม โดยไม่ต้องไปซื้อแก๊ส ESSO ปตท. อีกต่อไป
4. โครงการทำสวนสาธารณะเป็นที่พักผ่อนของหมู่บ้าน และใช้เป็นที่ฝึกฝนอาชีพของชุมชนต่อไป ทุกโครงการมีเป้าหมาย เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
(บ้านดินหลังที่ 1 จะใช้เป็นสำนักงานและที่พักของวิทยากร)
จดหมายดังกล่าวได้ถูกนำเข้าที่ประชุมหมู่บ้าน หมู่ 4 หมู่ 9 ซึ่งเป็นหมู่บ้านนำร่องได้ผ่านมติที่ประชุม ชาวบ้านยินดีเข้าร่วมโครงการที่ผมเสนอ
30 กรกฎาคม 2550 ผมเดินทางไปตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน ร่วมประชุมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลของโครงการให้เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า เงินทุกบาทที่นำมาบริหารผลักดันโครงการเป็นของวัว ควาย และมีเป้าหมาย คือ ต้องการความร่วมมือจากชาวบ้านทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้นำ
บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยความเข้าใจกันดี ทุกคนที่ร่วมประชุมให้คำมั่นสัญญาที่จะจับมือร่วมกันเดิน วันนั้นผมได้มอบเงินในการเตรียมการจัดตั้งโครงการทุกโครงการประมาณ 5 หมื่นบาท และนัดหมายกันว่าเดือนกันยายน ผมจะนำวิทยากรทุกโครงการลงพื้นที่เพื่อให้การอบรมชาวบ้านที่เข้าร่วม
สำหรับปี 2551 นี้ ผมได้เสนอที่ประชุมหมู่บ้านไปว่า เราจะซื้อลูกวัวตัวที่ 2 เพราะสัญญาเดิมไม่มีข้อผูกมัดคุ้มครอง ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยชีวิตตัวที่ 2 เราจะขอซื้อแล้วนำมาแจกให้สมาชิกใหม่ต่อไป มิฉะนั้นเขาจะขายให้ พ่อค้าวัว ควายที่เข้ามาซื้อในหมู่บ้านเข้าโรงฆ่าสัตว์แน่นอน
ในทุกปี ผมจะเล่าเรื่องราวที่สะเทือนใจจากเหตุการณ์ที่ไปพบเห็นระหว่างการเดินทางไปซื้อวัว ควายที่โรงฆ่าสัตว์ต่าง ๆ แต่ปีนี้ผมจะถ่ายทอดให้ท่านเห็นการฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ผ่าน วีซีดี (VCD) ซึ่งจะทำให้ท่านทั้งหลายได้เห็นความจริงที่เราไม่เคยเห็น ขอให้ทุกท่านได้พิจารณาภาพที่ปรากฏจาก วีซีดี ชุด ร้องขอชีวิต เมื่อได้ดูแล้ว ผมอยากถามว่า เขาทำผิดอะไรจึงทำกับเขาเช่นนั้น? และมีสิทธิ์อะไรไปทำกับเขาเช่นนั้น? เพื่อให้มีสารอาหารครบ ให้ร่างกายได้โปรตีนหรือสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารมนุษย์ ถ้าคิดเช่นนั้น เวลาที่ท่านไปหลงอยู่กลางป่าหรือลอยคออยู่กลางทะเลแล้ว เสือโคร่งมันมาขย้ำ หรือไอ้เข้ ฉลามมันฉีกเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ ก็อย่าร้องขอชีวิตหรือวิ่งหนีมัน เพราะมันก็มีสิทธิ์อ้างเช่นนั้นเหมือนกัน
แท้จริงแล้ว ทุกชีวิตที่เกิดขึ้นมาบนโลกต่างมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่บนโลกใบนี้เหมือนกัน เพียงแต่มนุษย์ใช้ความได้เปรียบ กำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นเพื่อประโยชน์ตัวเอง โดยพูดฝ่ายเดียวไม่เคยคิดถึงจิตใจของสัตว์เหล่านี้ คงลืมไปแล้วว่า เขาก็มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกทุกอย่างเหมือนเรา แต่เพียงเขาไม่มีโอกาสพูด
คนกินก็ไม่เคยได้รู้เห็นว่าเขาฆ่ามันอย่างไร? มันเจ็บปวดขนาดไหน? เราก็เลยกินมันเป็นปกติ แค่เราโดนมีดหรือกระจกบาดก็เจ็บมากแล้ว แล้วมันเทียบกันได้ไหม? กับการถูกเชือดคอหรือจ้วงแทงแบบสุดแรง ท่านทั้งหลาย ท่านไม่จำเป็นต้องบริจาคเงินเพื่อไถ่ชีวิตวัว ควายกับผมก็ได้ เพียงแต่ท่านเลิกกินเนื้อเขา ก็ถือว่าเป็นการไถ่ชีวิตแบบถาวรแล้ว
แต่หากท่านยังทำไม่ได้ ก็ขอให้กินด้วยเคารพ ละลดลงตามโอกาสอันควร จนเลิกได้ในวันหนึ่ง กุศลใหญ่จะเกิดขึ้นกับท่าน เนื่องจากถ้าไม่มีคนกิน เขาก็ไม่รู้จะฆ่ามาขายใคร การกินมันอยู่ก็คือการสั่งฆ่ามันนั่นเอง ในทางกฎหมายแบบโลก ๆ ถือว่าเป็นผู้สมคบกันกระทำความผิด ในทางธรรมหรือกฎแห่งกรรมละเอียดกว่ามาก มันติดตามข้ามภพข้ามชาติ ลามปามระบาดไปถึงลูกเมียท่านอีก บุคคลทำกรรมเช่นใดได้รับผลเช่นนั้น ผมขอตั้งความหวังว่าทุกท่านเมื่อได้ดูแล้วจะเกิดความเวทนาสงสารชีวิตพวกเขา ลด ละเลิกกินเนื้อเขาเสียที ขอกระแสความเมตตาจงจุดประกายขึ้นกลางใจของท่านทุกคน โลกนี้จะได้มีความสุข และขอให้พลังของความเมตตาของจิตทุกดวงจงมารวมกัน ประกาศมโนปณิธานที่จะรณรงค์ให้เลิกเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม การกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนชูคบเพลิงเดินสวนพายุ แต่ก็จำต้องทำเพราะประโยชน์และคุณค่ามหาศาลที่เห็นอยู่ชัดแจ้ง แม้เป็นการฝืนกฎของกรรมอย่างเต็มที่ ก็พร้อมน้อมยอมรับผลกรรมนั้นเช่นกัน เพราะการมีชีวิตอยู่ในโลก หากปราศจากความปรารถนาที่งดงามเช่นนี้ ก็หาประโยชน์ไม่ได้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ดังนั้น นับแต่ปีนี้เป็นต้นไป เราขอยกระดับการเรียกร้องที่ไม่เพียงแค่ไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ มาเป็นการรณรงค์ให้พวกเรางดเว้นการกินเนื้อเขาด้วย
ท่านใดที่ร่วมบริจาค โดยทราบข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต และต้องการแผ่น วีซีดี บันทึกเหตุการณ์จากโรงฆ่าสัตว์ชื่อ ร้องขอชีวิต เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีแล้วให้แฟกซ์ใบโอนเงินพร้อมเขียนชื่อที่อยู่มาด้วย เพื่อผมจะได้จัดส่งไปให้
ท่านใดต้องการปกป้องชีวิตจากการฆ่า ปลดปล่อยพวกเขาสู่อิสรภาพ ให้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุขและได้รับการดูแลตลอดไป ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2551
โอนเข้าบัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 032-2-58355-6
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตตไตรย
โทร : 0-2261-1313, 08-1614-9382 โทรสาร : 0-2664-0582
หรือ
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานบางกะปิ
ประเภทออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 003-2-95237-2
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล
โทร : 0-2261-1313, 08-1614-9382 โทรสาร : 0-2664-0582
หรือธนาณัติ
สั่งจ่าย นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล
18/6 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
ปณ. ประสานมิตร เท่านั้น
หลังจากการไถ่ชีวิตโค กระบือ จะมีการรายงานผลถึงจำนวนวัว ควาย ยอดเงินบริจาคและรายละเอียดค่าใช้จ่ายอีกครั้งเช่นที่ทำมาทุกปี
(หมายเหตุ ผมได้เปลี่ยนชื่อจาก ธวัชชัย เป็น พงษ์ชัยทัศน์ ตั้งแต่ 10 กันยายน 2550)
กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข
ขอเชิญร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือ ประจำปี ๒๕๕๑ (ปีที่ ๑๗)
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเชิญร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือ ประจำปี ๒๕๕๑ (ปีที่ ๑๗)
โพสต์ที่ 2
กองธรรมพระศรีอารย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง
บันทึกเหตุการณ์การซื้อชีวิตวัว-ควาย นับตั้งแต่ปี 2539
ในปีแรกของการซื้อชีวิตวัว-ควาย ประมาณปี 39 ที่จังหวัดชลบุรี เราไปถึงโรงฆ่าสัตว์ประมาณบ่ายสองโมง ตกลงซื้อวัว-ควายที่เหลืออยู่ได้เกือบหมด รอบเช้าเขาเชือดไปแล้ว 4 ตัว คงเหลือเพียง 1 ตัวที่ติดต่อเจ้าของไม่ได้ เจ้าของโรงฆ่าสัตว์แจ้งว่าเจ้าของควายอยู่ที่สนามวิ่งแข่งวัวที่อำเภอบ้านบึง เวลาผ่านไปเกือบห้าโมงเย็น พลบค่ำแล้ว คณะที่ไปด้วยประมาณ 10 คนทนรอไม่ไหว ตัดสินใจจะกลับก่อน ผมคิดในใจคนเดียวว่า หากเอาเจ้าควายเขาเกตัวนี้ออกไปไม่ได้ ผมจะไม่ยอมเลิกรา จึงจ้างรถสองแถวไปตามหาเจ้าของควายที่สนามแข่ง ซึ่งก็ได้ผล เขากลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ทันทีที่พบหน้ากัน คณะที่ไปด้วยก็เจรจาขอซื้อจากเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้ เรารู้จากเจ้าของโรงฆ่าสัตว์แล้วว่า เขาขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ ราคา 8,300 บาท เมื่อเจอหน้าพวกเรา ท่านลองเดาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาโก่งราคาขึ้นทีเดียวเป็น 13,500 บาท พวกผู้หญิงโวยวายต่อว่า ว่าทำไมขายแพงเกินไป เจ้าแขกเจ้าของควายโกรธจัด พูดตอบกลับมาว่า ผมไม่ขาย ผมแทบทรุดลงทั้งยืน พยายามขอร้อง ขอโทษ และให้ราคาตามที่เขาต้องการ ขอร้องขอโทษอยู่นาน พูดไปเดินตามเขาไป กว่าจะยอมรับเงิน เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ผมจำมาตลอด ว่าจะไม่พาคณะไปซื้อวัว-ควายด้วยอีกแล้ว เราจะเสียเงินโดยไม่จำเป็น นับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา จึงเลิกพาคณะไปด้วย หากเขามีเมตตาต่อสัตว์ เขาจะมาค้าวัว-ควายทำไม มาเป็นเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ทำไม
ท่านอย่าลืมว่าโรงฆ่าสัตว์ไม่ใช่สถานที่ซื้อขายวัว-ควาย โรงฆ่าสัตว์ก็คือโรงฆ่าสัตว์ สถานที่ซื้อขายวัว-ควายที่แท้จริง คือตลาดนัดวัว-ควาย ซึ่งจะมีกระจายอยู่ทุกจังหวัด แทบทุกอำเภอ โดยเค้าจะมีนัดว่า มีวัว-ควายมาขายในวันใด เช่นทุกวันพุธหรือพฤหัส เป็นต้น อย่างเช่นจังหวัดลำพูน ตลาดนัดวัว-ควายอยู่เขตอำเภอสันป่าตอง ชื่อว่าตลาดทุ่งฟ้าบด เป็นตลาดนัดวัว-ควายที่ใหญ่มาก ทุกนัดจะมีวัว-ควายนับพัน และราคาซื้อขายที่ตลาดนัด นั่นแหละคือราคามาตรฐาน ซึ่งจะคำนวณจากขนาดและน้ำหนักของมัน แต่ในโรงฆ่าสัตว์ คนละเรื่อง เขาจะขายเราในราคาที่อยากจะขาย เพราะฉะนั้นการไปต่อรองซื้อกันในที่นั้น มันเป็นเรื่องที่เสียเปรียบอยู่แล้ว จึงต้องระมัดระวังท่าทีอย่างมาก
ในนาทีที่เจ้าแขกปาทานปฏิเสธว่า ผมไม่ขาย เจ้าทุยเขาเกที่ยืนฟังอยู่ตลอด คอตกก้มหัวลง น้ำตาไหลพราก เหมือนฟังภาษาคนรู้ทุกคำ เพราะระหว่างรอเจ้าของมา ผมเอาน้ำให้กินและบอกกับเขาว่า วันนี้รอดแล้ว จะพาเจ้าออกจากที่นี่ให้ได้ เขาจับมัดติดหลักประหารมา 2 วันแล้ว เชือกที่มัดจากรูจมูกเว้นระยะห่างจากหลักแค่คืบเดียว เพื่อไม่ให้มันนอนได้ ถ้าขืนนอนลงเชือกบาดรูจมูกขาดแน่ ถ้าท่านอยากรู้ว่ายืนอย่างเดียวสองวันสองคืน ปวดเมื่อยขนาดไหน ก็ลองดู น้ำก็ไม่ให้มันกิน เพื่อเวลาทุบหรือเชือดจะได้ไม่มีแรงขัดขืน ให้ล้มลงผ่าท้องแทงคอได้ง่าย เสาที่ใช้เป็นหลักประหาร ถูกเชือกเสียดสีจนสึกขอดไปเกือบครึ่ง ทั้งที่เป็นไม้เนื้อแข็ง ท่านลองคำนวณดูซิว่า ประมาณกี่ครั้ง กี่หน กี่ชีวิต? คงไม่ใช่หลักพันหรอกครับ เพราะวันเดียวก็เกือบสิบตัวแล้ว ท่านทราบหรือไม่ เฉพาะพัทยาอย่างเดียว วันหนึ่งเกินกว่าร้อยชีวิตแล้ว
โอ้มนุษย์นี้หนอ ทำไมเจ้าถึงได้โหดร้ายเช่นนี้! จะฆ่าเขาก็ยังต้องทรมานเขาก่อน เจ้าทุยถูกมัดอยู่กับที่สองวันสองคืนเต็ม ๆ มันถูกบังคับให้ยืนดูเพื่อนร่วมชะตากรรมถูกทุบหัว ถูกแทงคอ ผ่าท้อง แล่เนื้อออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าต่อตา ได้กลิ่นคาวเลือด ได้ยินเสียงร้อง ได้เห็นการดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวด เนื้อที่ถูกมีดเถือสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด ความหวาดกลัวนั้นสุดจะบรรยาย
จิตใจเขาคงแตกสลายไปหมดแล้ว น้ำตาไหลเป็นคราบใต้ดวงตาที่หม่นหมองจนเหือดแห้ง ความเจ็บปวดทางวิญญาณ ความหวาดกลัว ความรู้สึกวิงวอน ขอร้อง มันฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น มีคำพูดมากมายอยู่ในแววตานั้น และเมื่อท่านได้สัมผัส เสียงเรียกร้อง อ้อนวอนในความเงียบนั้น ผ่านดวงตาคู่นั้น ประดุจว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจของเรา
วันนั้น คือ วันที่เกิดมโนปณิธาน ตั้งสัจจะอธิษฐานในการที่จะยืนหยัดกระทำสิ่งนี้ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกที่ประสบเคราะห์กรรมเช่นพวกเขาให้รอดพ้นจากคมมีดให้มากที่สุด
ทุก ๆ ปีเมื่อย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม ลมหนาวพัดมาเยี่ยมเยือน นั้นคือสัญญาณที่เตือนว่า เวลาของการกู้ชีวิต เวลาของการยื้อแย่ง ชักเย่อ กับพญามัจจุราช ได้มาถึงแล้ว
ภาพบาดใจในทุกเหตุการณ์แม้จะผ่านมานานปี ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ แม่ควายท้องแก่ ถูกจูงเข้าหลักประหาร ถูกควักลูกในท้องออกมา เรียกว่าควายน้อยนึ่ง ส่วนลูกวัวที่ขายแม่เจ้าไปก่อนแล้ว จะถูกต้อนมารวมกันและขายเหมาให้พ่อค้า เอาไปทำวัวหัน มันทุกตัวตื่นกลัวและมองหาแม่ร้องระงมไปหมด ใครจะให้นมมันหนอ? เจ้าควายตัวน้อยวิ่งร้องจ้า หาแม่ไม่เจอ ในตลาดนัดวัว-ควาย เพราะเค้าขายแม่เจ้าไปเสียแล้ว
แม่ควายกับลูกควายถูกจูงเข้าหลักประหารพร้อมกัน เจ้าลูกน้อยเดินตามแม่ไปติด ๆ ยืนอยู่ข้างหลัง หวังให้แม่ปกป้อง บางทีเขาก็ฆ่าแม่เจ้าให้เจ้าดูเสียก่อน บางทีเขาก็ฆ่าเจ้าให้แม่เจ้าดูเสียก่อน แบบไหนมันจะเจ็บปวดรวดเร้ากว่ากัน?
โอ้ มนุษย์ผู้ประเสริฐ ท่านกระทำต่อสัตว์โลกผู้อ่อนแอกว่า ยิ่งกว่าศัตรูทำร้ายศัตรูของเขา ยิ่งกว่าผู้ซึ่งเกลียดชังกัน กระทำต่อกัน เพราะเพียงเขาเป็นวัว-ควายเช่นนั้นหรือ?
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวันๆๆๆๆ ทุกคืนๆๆๆๆ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว ใครบ้างได้ยิน? เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหว ดั่งอัสนีฟาด โลหิตนั้นไหลหลั่ง ดั่งอุทกธาร
ท่านทั้งหลายโปรดเมตตาเขาด้วยเถิด ปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ด้วยการหยุดกินเลือดเนื้อของเขาเสียที นั่นแหละจึงเรียกว่า การไถ่ชีวิตโค-กระบือที่แท้จริง
ขอกระแสพลังแห่งความเมตตาของจิตทุกดวง เมื่อได้อ่านข้อความนี้ จงมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดเป็นมโนปณิธาน ตั้งสัจจาธิษฐานร่วมกับกองธรรมพระศรีอาริย์ ในอันที่จะสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก ที่ประสบเคราะห์กรรม ให้สมดั่งคำประกาศของกองธรรมพระศรีอาริย์ที่ว่า กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข
ท่านใดมีเมตตา มีศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้นับตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2551 โดยรวมเงินทั้งหมดเพื่อเดินทางไป จ.ลำปาง ในอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม 2551 เพื่อดำเนินการต่อไป เมื่อแล้วเสร็จ จะได้มีการรายงานผลอีกครั้ง
โอนเข้าบัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตตไตร์ย
Tel : 0-2261-1313, 08-1614-9382 Fax : 0-2664-0582
เลขที่บัญชี 032-2-58355-6
หรือ
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานบางกะปิ
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล
Tel : 0-2261-1313, 08-1614-9382 Fax : 0-2664-0582
เลขที่บัญชี 003-2-95237-2
หรือ ธนาณัติ
สั่งจ่าย นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล
18/6 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
ปณ. ประสานมิตร เท่านั้น
จนกว่าจะพบกันอีก
กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข
บันทึกเหตุการณ์การซื้อชีวิตวัว-ควาย นับตั้งแต่ปี 2539
ในปีแรกของการซื้อชีวิตวัว-ควาย ประมาณปี 39 ที่จังหวัดชลบุรี เราไปถึงโรงฆ่าสัตว์ประมาณบ่ายสองโมง ตกลงซื้อวัว-ควายที่เหลืออยู่ได้เกือบหมด รอบเช้าเขาเชือดไปแล้ว 4 ตัว คงเหลือเพียง 1 ตัวที่ติดต่อเจ้าของไม่ได้ เจ้าของโรงฆ่าสัตว์แจ้งว่าเจ้าของควายอยู่ที่สนามวิ่งแข่งวัวที่อำเภอบ้านบึง เวลาผ่านไปเกือบห้าโมงเย็น พลบค่ำแล้ว คณะที่ไปด้วยประมาณ 10 คนทนรอไม่ไหว ตัดสินใจจะกลับก่อน ผมคิดในใจคนเดียวว่า หากเอาเจ้าควายเขาเกตัวนี้ออกไปไม่ได้ ผมจะไม่ยอมเลิกรา จึงจ้างรถสองแถวไปตามหาเจ้าของควายที่สนามแข่ง ซึ่งก็ได้ผล เขากลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ทันทีที่พบหน้ากัน คณะที่ไปด้วยก็เจรจาขอซื้อจากเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้ เรารู้จากเจ้าของโรงฆ่าสัตว์แล้วว่า เขาขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ ราคา 8,300 บาท เมื่อเจอหน้าพวกเรา ท่านลองเดาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาโก่งราคาขึ้นทีเดียวเป็น 13,500 บาท พวกผู้หญิงโวยวายต่อว่า ว่าทำไมขายแพงเกินไป เจ้าแขกเจ้าของควายโกรธจัด พูดตอบกลับมาว่า ผมไม่ขาย ผมแทบทรุดลงทั้งยืน พยายามขอร้อง ขอโทษ และให้ราคาตามที่เขาต้องการ ขอร้องขอโทษอยู่นาน พูดไปเดินตามเขาไป กว่าจะยอมรับเงิน เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ผมจำมาตลอด ว่าจะไม่พาคณะไปซื้อวัว-ควายด้วยอีกแล้ว เราจะเสียเงินโดยไม่จำเป็น นับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา จึงเลิกพาคณะไปด้วย หากเขามีเมตตาต่อสัตว์ เขาจะมาค้าวัว-ควายทำไม มาเป็นเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ทำไม
ท่านอย่าลืมว่าโรงฆ่าสัตว์ไม่ใช่สถานที่ซื้อขายวัว-ควาย โรงฆ่าสัตว์ก็คือโรงฆ่าสัตว์ สถานที่ซื้อขายวัว-ควายที่แท้จริง คือตลาดนัดวัว-ควาย ซึ่งจะมีกระจายอยู่ทุกจังหวัด แทบทุกอำเภอ โดยเค้าจะมีนัดว่า มีวัว-ควายมาขายในวันใด เช่นทุกวันพุธหรือพฤหัส เป็นต้น อย่างเช่นจังหวัดลำพูน ตลาดนัดวัว-ควายอยู่เขตอำเภอสันป่าตอง ชื่อว่าตลาดทุ่งฟ้าบด เป็นตลาดนัดวัว-ควายที่ใหญ่มาก ทุกนัดจะมีวัว-ควายนับพัน และราคาซื้อขายที่ตลาดนัด นั่นแหละคือราคามาตรฐาน ซึ่งจะคำนวณจากขนาดและน้ำหนักของมัน แต่ในโรงฆ่าสัตว์ คนละเรื่อง เขาจะขายเราในราคาที่อยากจะขาย เพราะฉะนั้นการไปต่อรองซื้อกันในที่นั้น มันเป็นเรื่องที่เสียเปรียบอยู่แล้ว จึงต้องระมัดระวังท่าทีอย่างมาก
ในนาทีที่เจ้าแขกปาทานปฏิเสธว่า ผมไม่ขาย เจ้าทุยเขาเกที่ยืนฟังอยู่ตลอด คอตกก้มหัวลง น้ำตาไหลพราก เหมือนฟังภาษาคนรู้ทุกคำ เพราะระหว่างรอเจ้าของมา ผมเอาน้ำให้กินและบอกกับเขาว่า วันนี้รอดแล้ว จะพาเจ้าออกจากที่นี่ให้ได้ เขาจับมัดติดหลักประหารมา 2 วันแล้ว เชือกที่มัดจากรูจมูกเว้นระยะห่างจากหลักแค่คืบเดียว เพื่อไม่ให้มันนอนได้ ถ้าขืนนอนลงเชือกบาดรูจมูกขาดแน่ ถ้าท่านอยากรู้ว่ายืนอย่างเดียวสองวันสองคืน ปวดเมื่อยขนาดไหน ก็ลองดู น้ำก็ไม่ให้มันกิน เพื่อเวลาทุบหรือเชือดจะได้ไม่มีแรงขัดขืน ให้ล้มลงผ่าท้องแทงคอได้ง่าย เสาที่ใช้เป็นหลักประหาร ถูกเชือกเสียดสีจนสึกขอดไปเกือบครึ่ง ทั้งที่เป็นไม้เนื้อแข็ง ท่านลองคำนวณดูซิว่า ประมาณกี่ครั้ง กี่หน กี่ชีวิต? คงไม่ใช่หลักพันหรอกครับ เพราะวันเดียวก็เกือบสิบตัวแล้ว ท่านทราบหรือไม่ เฉพาะพัทยาอย่างเดียว วันหนึ่งเกินกว่าร้อยชีวิตแล้ว
โอ้มนุษย์นี้หนอ ทำไมเจ้าถึงได้โหดร้ายเช่นนี้! จะฆ่าเขาก็ยังต้องทรมานเขาก่อน เจ้าทุยถูกมัดอยู่กับที่สองวันสองคืนเต็ม ๆ มันถูกบังคับให้ยืนดูเพื่อนร่วมชะตากรรมถูกทุบหัว ถูกแทงคอ ผ่าท้อง แล่เนื้อออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าต่อตา ได้กลิ่นคาวเลือด ได้ยินเสียงร้อง ได้เห็นการดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวด เนื้อที่ถูกมีดเถือสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด ความหวาดกลัวนั้นสุดจะบรรยาย
จิตใจเขาคงแตกสลายไปหมดแล้ว น้ำตาไหลเป็นคราบใต้ดวงตาที่หม่นหมองจนเหือดแห้ง ความเจ็บปวดทางวิญญาณ ความหวาดกลัว ความรู้สึกวิงวอน ขอร้อง มันฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น มีคำพูดมากมายอยู่ในแววตานั้น และเมื่อท่านได้สัมผัส เสียงเรียกร้อง อ้อนวอนในความเงียบนั้น ผ่านดวงตาคู่นั้น ประดุจว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจของเรา
วันนั้น คือ วันที่เกิดมโนปณิธาน ตั้งสัจจะอธิษฐานในการที่จะยืนหยัดกระทำสิ่งนี้ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกที่ประสบเคราะห์กรรมเช่นพวกเขาให้รอดพ้นจากคมมีดให้มากที่สุด
ทุก ๆ ปีเมื่อย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม ลมหนาวพัดมาเยี่ยมเยือน นั้นคือสัญญาณที่เตือนว่า เวลาของการกู้ชีวิต เวลาของการยื้อแย่ง ชักเย่อ กับพญามัจจุราช ได้มาถึงแล้ว
ภาพบาดใจในทุกเหตุการณ์แม้จะผ่านมานานปี ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ แม่ควายท้องแก่ ถูกจูงเข้าหลักประหาร ถูกควักลูกในท้องออกมา เรียกว่าควายน้อยนึ่ง ส่วนลูกวัวที่ขายแม่เจ้าไปก่อนแล้ว จะถูกต้อนมารวมกันและขายเหมาให้พ่อค้า เอาไปทำวัวหัน มันทุกตัวตื่นกลัวและมองหาแม่ร้องระงมไปหมด ใครจะให้นมมันหนอ? เจ้าควายตัวน้อยวิ่งร้องจ้า หาแม่ไม่เจอ ในตลาดนัดวัว-ควาย เพราะเค้าขายแม่เจ้าไปเสียแล้ว
แม่ควายกับลูกควายถูกจูงเข้าหลักประหารพร้อมกัน เจ้าลูกน้อยเดินตามแม่ไปติด ๆ ยืนอยู่ข้างหลัง หวังให้แม่ปกป้อง บางทีเขาก็ฆ่าแม่เจ้าให้เจ้าดูเสียก่อน บางทีเขาก็ฆ่าเจ้าให้แม่เจ้าดูเสียก่อน แบบไหนมันจะเจ็บปวดรวดเร้ากว่ากัน?
โอ้ มนุษย์ผู้ประเสริฐ ท่านกระทำต่อสัตว์โลกผู้อ่อนแอกว่า ยิ่งกว่าศัตรูทำร้ายศัตรูของเขา ยิ่งกว่าผู้ซึ่งเกลียดชังกัน กระทำต่อกัน เพราะเพียงเขาเป็นวัว-ควายเช่นนั้นหรือ?
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวันๆๆๆๆ ทุกคืนๆๆๆๆ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว ใครบ้างได้ยิน? เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหว ดั่งอัสนีฟาด โลหิตนั้นไหลหลั่ง ดั่งอุทกธาร
ท่านทั้งหลายโปรดเมตตาเขาด้วยเถิด ปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ด้วยการหยุดกินเลือดเนื้อของเขาเสียที นั่นแหละจึงเรียกว่า การไถ่ชีวิตโค-กระบือที่แท้จริง
ขอกระแสพลังแห่งความเมตตาของจิตทุกดวง เมื่อได้อ่านข้อความนี้ จงมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดเป็นมโนปณิธาน ตั้งสัจจาธิษฐานร่วมกับกองธรรมพระศรีอาริย์ ในอันที่จะสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก ที่ประสบเคราะห์กรรม ให้สมดั่งคำประกาศของกองธรรมพระศรีอาริย์ที่ว่า กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข
ท่านใดมีเมตตา มีศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้นับตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2551 โดยรวมเงินทั้งหมดเพื่อเดินทางไป จ.ลำปาง ในอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม 2551 เพื่อดำเนินการต่อไป เมื่อแล้วเสร็จ จะได้มีการรายงานผลอีกครั้ง
โอนเข้าบัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตตไตร์ย
Tel : 0-2261-1313, 08-1614-9382 Fax : 0-2664-0582
เลขที่บัญชี 032-2-58355-6
หรือ
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานบางกะปิ
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย) วณิชย์กุล
Tel : 0-2261-1313, 08-1614-9382 Fax : 0-2664-0582
เลขที่บัญชี 003-2-95237-2
หรือ ธนาณัติ
สั่งจ่าย นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล
18/6 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
ปณ. ประสานมิตร เท่านั้น
จนกว่าจะพบกันอีก
กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข