นิทานสำหรับเด็กๆ "เกือกน้อย"

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

นิทานสำหรับเด็กๆ "เกือกน้อย"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เผอิญข้างล่างมีโพสนิทานสำหรับเด็กๆ แต่ให้ผู้ใหญ่อ่าน  ก็เลยขอโพสนิทานเด็กอีกเรื่อง  เผื่อจะอ่านเองหรืออ่านให้เด็กๆที่บ้านฟังก็ได้

เกือกน้อย

เกือกน้อยเป็นรองเท้าเล็กๆคู่หนึ่ง วางขายอยู่ในร้านรองเท้าตั้งหลายปีมาแล้ว จนนานเข้าเกือกน้อยก็กลายเป็นรองเท้าที่ดูล้าสมัย ไม่น่าสวมใส่  เจ้าของร้านเอาเกือกน้อยไปซุกไว้ที่มุมร้านพร้อมกับบ่นว่า
เมื่อไหร่เจ้ารองเท้าคู่นี้จะขายได้สักทีนะ อยู่ในร้านเกะกะจะตายไป เฮอ

ทุกๆวันจะมีคนเข้ามาซื้อรองเท้าในร้านนี้เป็นประจำ  เพื่อนๆของเกือกน้อยถูกขายหมดออกไปทีละคู่ๆ
ลาก่อนนะ เกือกน้อย  หวังว่าสักวันคงมีใครสนใจเธอบ้าง เพื่อนๆร่ำลาเกือกน้อยเป็นการใหญ่
ขอให้พวกเธอโชคดี  ว่างๆก็กลับมาเยี่ยมฉันบ้างก็แล้วกัน
เกิอกน้อยลาเพื่อนรองเท้า ด้วยสายตาละห้อย  พึมพำเสียงอ่อยๆกับตัวเอง
ทำไมไม่ใครซื้อฉันเลยล่ะ  ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของฉันบ้างเลยหรือ
เกือกน้อยได้แต่เฝ้าถามตัวเองอยู่ร่ำไป

เช้าวันหนึ่งเกือกน้อยก็เลยตัดสินใจออกเดินหาเจ้าของด้วยตัวเอง   เกือกน้อยเดินย่ำออกจากร้านมาถึงถนนใหญ่ด้วยใจตื่นเต้นกึ่งหวาดหวั่น นี่เป็นครั้งแรกที่รองเท้าคู่เล็กๆอย่างเกือกน้อยได้ออกจากซอกอับๆในร้านสู่โลกกว้าง
โอ้โฮ ตึกอะไรล่ะ สูงจังเลย สงสัยกว่าเราจะก้าวไปถึงยอด คงเมื่อยตายพอดี
เกือกน้อยแหงนหน้ามองดูตึกสูงเบื้องหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ  แล้วเกือกน้อยก็ต้องพลันสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงดังปี้น ปี้นแสบแก้วหูใกล้ๆ
อุ๊ย  เสียงอะไรน่ะ หนวกหูจัง  อ๋อ...เจ้าตัวสี่ขานี่เอง  ดูซิ  เดินเร็วกว่าเราตั้งเยอะ
เกือกน้อยเดินผ่านผู้คนที่กำลังเร่งรีบ ไม่มีใครสนใจรองเท้าเล็กๆที่ยืนแอบๆอยู่ข้างถนนเลย
พวกเขาจะรีบไปไหนกันนะ  แต่ละคนหน้าตายุ้งยุ่ง

สายแล้ว เกือกน้อยเดินผ่านร้านค้ามากมาย  ฝ่าความสับสนวุ่นวายบนท้องถนน  ทั้งเสียงดังอึกทึกจากรถยนต์  เสียงเอะอะจากผู้คน  ฝุ่นละอองคละคลุ้ง  แดดก็เริ่มร้อน เมื่อยก็เมื่อย  ทั้งเหนื่อย ทั้งกลัว ทำอย่างไรดีล่ะเกือกน้อย
โน่นไง เกือกน้อยบอกตัวเองอย่างดีใจ เพราะใกล้ๆกันนั้น มีรองเท้าคู่สวยอีกคู่หนึ่งยืนอวดโฉมตัวเองอย่างสง่างาม   เกือกน้อยไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหา ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อเกือกน้อย เธอมายืนอยู่นานหรือยังจ้ะ
แทนที่รองเท้าคู่สวยจะยิ้มตอบรับคำทักทาย  เจ้าตัวกลับชายตามองเกือกน้อยอยู่แวบเดียวแล้วก็สะบัดหน้าเชิดเดินจากไป  ปล่อยให้เกือกน้อยงุนงงอยู่พักใหญ่
เขาคงต้องรีบไปกระมัง เลยไม่มีเวลาทักทายกับใคร แต่...เอ๊ะ.....
เพื่อนๆลองเดาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกือกน้อย
เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งก้มหน้ามองเกือกน้อย สีหน้าเธอแสดงความแปลกใจ แล้วหันไปพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
แม่จ๋า รองเท้าคู่นี้ตลกจัง เด็กหญิงเอื้อมมือมาหยิบรองเท้าดูทีละข้าง  เกือกน้อยได้แต่ยิ้มเอียงอาย  สงสัยเขาต้องชอบฉันแน่ๆเลย  ดีล่ะจะได้มีเจ้าของเสียที
หนูอยากได้จัง    ฮืมม์.... เกือกน้อยเชิดคอ  หัวใจพองโต   สักครู่  ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาหาเด็กหญิงพูดเสียงดังน่าตกใจ
ต้าย ตาย รองเท้าอะไรเนี่ย สกปรก มอมแมม อย่างนี้ ใครเขาเอามาทิ้งไว้น่ะซิ  
หนูจะเอาไปใส่
อย่าเลยค่ะ รองเท้าสวยกว่านี้มีเยอะแยะ  เราไปดูในร้านก็ได้
แต่หนูอยากได้.. แล้วเด็กหญิงก็เริ่มร้องไห้งอแง จนผู้หญิงผู้เป็นแม่ต้องฉุดแขนพาเดินจากไป
เกือกน้อยคอหด ก้มหน้ามองดูตัวเอง   ฉันคงเป็นรองเท้าที่น่าเกลียดมาก

บ่ายคล้อยแล้ว เกือกน้อยยังหาเจ้าของไม่ได้เลย  สู้อุตส่าห์ย่ำเดินจากถนนหนึ่งไปสุดอีกถนนหนึ่ง แล้วก็เดินลากเท้าคอตกมาถึงสนามเด็กเล่น  ณ ที่นั้นเกือกน้อยเห็นเด็กผู้ชายหลายคนกำลังวิ่งไล่สนุกสนาน  เกือกน้อยเริ่มมีความหวังอีกครั้ง
ทีนี้แหละ ฉันจะได้มีเจ้าของเสียที
คิดได้ดังนั้น เกือกน้อยก็มีกำลังใจ  รีบซอยเท้าเข้าไปหาเด็กๆทั้งกลุ่ม  เด็กผู้ชายคนหนึ่งเหลือบเห็นเกือกน้อย เลยเดินรี่ตรงเข้ามา  ก้มตัวหยิบเกือกน้อยขึ้นมาดู
เฮ้ พวกเรามาดูอะไรเนี่ย เขาตะโกนเรียกเพื่อนๆที่เหลือเข้ามามุงดูเกือกน้อย  
โอ้โฮ หนึ่ง  สอง  สาม  สี่  ห้า  ตั้งห้าคน  ฉันจะมีเจ้าของทีเดียวถึงห้าคนเลยเหรอ  เกือกน้อยบอกตัวเองอย่างปลื้มใจ
รู้แล้วล่ะ ว่าจะทำอะไรกับเจ้ารองเท้าคู่นี้ดี เด็กผู้ชายหน้าตาซุกซนอีกคนเอ่ยขึ้น  ตามด้วยเสียงถามเซ็งแซ่ของเพื่อนๆ   เกือกน้อยก็พลอยเงี่ยหูฟัง อยากรู้อยากเห็นตามไปด้วย
เอามาเตะเป็นฟุตบอลเลยมั๊ยล่ะ
ยังไม่ทันที่เกือกน้อยจะร้องห้ามหรือวิ่งหนี เกือกน้อยก็รู้สึกตัวเองถูกเตะโด่งสูงลิ่วๆขึ้นไปบนฟ้าเสียแล้ว  พอตกถึงพื้นดินไม่ทันหายจุกก็ถูกเตะซ้ำอีกครั้ง  ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เกือกน้อยปวดร้าวไปทั้งตัว จะอ้าปากร้องห้ามก็ตะโกนไม่ออก  ทั้งเข็ดยอก ถลอก พกช้ำไปทั้งตัว มีครั้งหนึ่งพวกเขาเตะเกือกน้อยลอยออกไปที่พงหญ้าข้างนอก  เกือกน้อยรีบจ้ำออกจากสนามอย่างรวดเร็วจนพ้นสายตาเด็กผู้ชายทั้งกลุ่ม   แล้วค่อยๆเดินเขยกๆไปที่สระน้ำ ก้มหน้ามองเงาตัวเอง
ไม่มีใครต้องการฉันเลย  ไม่มีใครอยากได้รองเท้าที่น่าเกลียดอย่างนี้หรอก ฮือ ฮือ
แล้วเกือกน้อยก็ร้องไห้อยู่ริมหนองน้ำแห่งนั้นเอง

เกือกน้อยร้องไห้อยู่ไม่นาน  ก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเท้าเปล่ามาที่สระน้ำคนเดียว  เขาวักน้ำขึ้นล้างหน้าแล้วเห็นเกือกน้อยอยู่ที่ริมสระ   จึงเดินเข้ามาหา  หยิบเกือกน้อยขึ้นมาเป่าและปัดฝุ่นที่เกาะมอมแมมออกอย่างทะนุถนอม  พึมพำดีใจ  ตาเป็นประกาย
รองเท้าคู่นี้สวยจัง
ไม่พูดเปล่า เขาสวมเกือกน้อยทั้งสองข้างเข้ากับเท้าตัวเองได้พอดี  แล้วก็เริ่มเดินออกไป

นับจากวันนั้น เด็กน้อยกับเกือกน้อยก็อยู่คู่กันตลอด  ย่ำเท้าไปไหน ไปด้วยกัน  
เกือกน้อยไม่หงอยเหงาอีกต่อไป เกือกน้อยหาเจ้าของที่แท้จริงพบแล้ว

เพื่อนๆล่ะมีเกือกน้อยอยู่ที่บ้านกี่คู่  หลงลืมมันบ้างหรือเปล่า ระวังนะสักวันมันอาจจะน้อยใจและเดินออกไปหาเจ้าของใหม่ก็ได้  ฮิ ฮิ
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

นิทานสำหรับเด็กๆ "เกือกน้อย"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อ้อลืมไป  ลองหาเพลงบรรเลงมาเปิดขณะอ่านไปด้วย อาจจะช่วยสร้างบรรยากาศให้เป็นนิทานมากขึ้น  ตัวอย่างที่ฟังอยู่ก็คือ
http://truemusic2.truelife.com/home/pla ... 1246909295

Vivaldi : Concerto for 2 Mandolins in G Major RV532 : II Andante
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

นิทานสำหรับเด็กๆ "เกือกน้อย"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เผอิญได้อ่านเรื่องสั้นๆอีกเรื่องที่อยู่ในบริบทเดียวกันกับนิทาน เกือกน้อย ก็เลยเอามาโพสแปะต่อ จะได้ไม่เปลืองหัวข้อกระทู้ใหม่
A group of alumni, highly established in their careers, got together to visit their old university professor.  Conversation soon turned into complaints about stress in work and life.
   

   Offering his guests coffee, the professor went to the kitchen and returned with a large pot of coffee and an assortment of cups - porcelain, plastic, glass, crystal, some plain looking, some expensive, some exquisite - telling them to help themselves to the coffee.
   

  When all the students had a cup of coffee in hand, the professor said: "If you noticed, all the nice looking expensive cups were taken up, leaving behind the plain and cheap ones. While it is but normal for you to want only the best for yourselves, that is the source of your problems and stress.  What all of you really wanted was coffee, not the cup, but you consciously went for the best cups and were eyeing each other's cups.  



   Now consider this: Life is the coffee, and the jobs, money and position in society are the cups.  They are just tools to hold and contain Life.  Sometimes, by concentrating only on the cup, we fail to enjoy the coffee God has provided."
   

   So, don't let the cups drive you... enjoy the coffee instead.

Author Unknown

ดื่มกาแฟให้อร่อยนะครับ
โพสต์โพสต์