เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

8) พอดีตามข่าวเรื่องค่าเงินอยู่ในเวบเรานี่แหละ
    อ่านเขาคุยกันแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง
    เลยลากข่าวมาห้องนั่งเล่นดีกว่า
    ห้องนี้ใช้ภาษาชาวบ้าน เข้าใจง่ายกว่า
    อ่านแล้วรู้สึกไงบ้างครับ
    ดร.แกว่าทำไมรมต.คลังไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้
    แถมแกคุยไว้อีกว่า แกเคยวางแผนไว้กับคนนั้นคนนี้
    เป็นแผนระยะยาว จะทำงั้นทำงี้
    อือม..เมืองไทยนี้ดีนะ อยากพูดอะไรก็ได้
    ไม่เห็นใจคนทำงานเลย

ดร.วีรพงษ์ รามางกูร http://www.thairath.co.th/news.php?
section=economic02&content=54055
ทีมเศรษฐกิจ รวบรวมความคิดความเห็นจากปากคำกูรูและผู้ช่ำชองในภาคเศรษฐกิจ ไทย เพื่อเป็นกระจกสะท้อนภาพความจริงอย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจแก้ปัญหา วิกฤติค่าเงินบาท ครั้งนี้เป็นไปในทิศทางที่สมบูรณ์ และไม่ซ้ำเติมความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี   ผมรู้สึกเศร้าใจเมื่อได้เห็นคำตอบจาก รมว.กระทรวงการคลัง และผู้ว่าการ ธปท.ว่า ไม่มีมาตรการใดอีกแล้วที่จะหยุดการแข็งค่าของเงินบาท นอกจากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไป ซึ่งผิด เพราะถ้ารัฐบาลยังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เศรษฐกิจประเทศไทยจะต้องเผชิญความยุ่งยากครั้งใหญ่อีกครั้ง
ที่สำคัญ ใครที่บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออก ผมอยากให้กลับไปคิดใหม่ เพราะ ทุกวันนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ได้ก็ด้วยการส่งออกคิดเป็น 65% ของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ถ้าไปดูสิงคโปร์ และฮ่องกง การส่งออกของเขาสูงมาก 120% ของจีดีพี เมื่อการส่งออกคือความอยู่รอดของประเทศ รัฐบาลก็จะต้องดูแล ถ้าไม่ดูแลให้ผู้ส่งออกแข่งขันได้ จีดีพีก็ต้องลดลง การว่างงานย่อมต้องเกิดขึ้นแน่นอน  วิธีที่น่าจะทำที่สุดก็คือ ต้องให้นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมกระทรวงการคลัง ธปท. และ รมต.ทุกกระทรวง เพื่อบอกให้ทุกคนรับรู้ว่า บัดนี้ค่าเงินบาทแข็งกำลังเป็นวิกฤติครั้งใหม่ของประเทศที่ทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องช่วยกัน โดยรัฐบาลกำหนดให้เร่งรัดดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

8) ผมว่าเจ้าซันอธิบายไว้ดีกว่าที่แกพูดอีกนะ
    ผมอ่านปุ๊บเข้าใจปั๊บเลย
    อีกหน่อย ผมเรียกเจ้าซันเป็นดร.ซัน บ้างดีกว่า...
sunrise เขียน:ตอนนี้ตัวประเทศก็แข็งแกร่งดี
ไม่ได้เป็นหนี้ หรือกู้มาลงทุนจนเกินตัวเหมือนตอนก่อน วิกฤต
เพียงแต่เรายังติดว่าประเทศต้องโตมากๆเหมือนในอดีต
โดยลืมไปว่าประเทศที่เค้ามีศักยภาพมากกว่าเค้ามาตีตลาด

เงินบาทคงแข็งไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราซื้อของมาแล้วมาทำมูลค่าเพิ่ม
โดยที่อาจจะใช้ทรัพยากรธรรมชาติของเรา หรือแรงงานแล้วก็ขายออกในราคาที่ดีกว่า
ขณะที่เรานำเข้าน้อยกว่ามาก
ตอนนี้อัตรานำเข้าต่อส่งออก ก็ประมาณ 1/4 ต่อ 1/5 จากเรือตู้ที่ผมดูอยู่

ดังนันเศรษฐกิจเราก็โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีแต่เงินเข้ามาไม่ค่อยมีออกไป
เหมือนเรารวยขึ้นแต่คนก็ยังไม่กล้าใช้
เหมือนบริษัทรวยแต่ผู้บริหารทะเลาะกันตลอดเลย เงินส่วนกลางของบริษัท
ก็เลยไม่ได้ใช้พัฒนาบริษัท พนักงานก็ไม่มั่นใจอนาคตเก็บเงินไว้เพียบ ไม่กล้าใช้    
เมื่อไหร่ที่เงินเราแข็งมากเกิน เดี๋ยวก็ import เข้ามาเอง
ซึ่งต้องใช้เวลา

เพียงแต่สินค้าของเราที่เคยมีเป็นจุดแข็งราคาถูกก็อาจไม่ใช่จุดแข็งอีกต่อไป
เราก็ต้องหารายได้ส่งออกในรูปแบบอื่น
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไปนี้อาจทำให้บริษัทในเมืองไทยยังปรับตัวไม่ทันครับ

ในความคิดของผม ผมว่าเราคงเห็นบริษัทส่งออกที่เป็นรูปแบบเก่าและไม่ได้มีเทคโนโลยี่เป็นของตัวเองปิดตัวลงเรือ่ยๆครับ
ส่วนบาทก็ยังคงแข็งต่อไปจนกว่าคนในประเทศจะเริ่มกล้าใช้เงิน และลงทุนเพิ่มครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

พี่กบ แกร้ายกาจจริงๆครับ
ชัดเจน อ่านเข้าใจ

ผมก็คิดเหมือนกันนา ว่าจริง ๆ แล้วที่เงินบาทเป็นอยู่ เพราะว่ามันเป็นกลไกตลาดอยู่แล้วหรือป่าว
ภาพประจำตัวสมาชิก
กระทิงแดง
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมว่าคนพูดๆง่าย แต่พอคนพูดต้องตัดสินใจจริง อาจจะตัดสินใจอีกแบบก็ได้ เพราะอาจจะได้ข้อมูลครบถ้วนขึ้น หรือมีปัจจัยในการตัดสินใจเยอะขึ้น

ฉนั้นตอนเลือกต้องเลือก CEO ที่กล้าตัดสินใจ และเก่งครับ และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

8) คนไม่ยอมรับความจริง
    ก็โทษนั้นโทษนี่โทษโน่น ไปเรื่อย
    ลองอ่าน คอลัมนิสต์ท่านนี้ดูก็ได้ครับ
    อีกมุมอีกเหลี่ยมอ่านสนุกดี
    ผมบอกแล้ว คนไทยคนเก่งเยอะ..ไปหน่อย

เพราะเราไม่เอาไหนเอง จึงพ่ายแพ้ตลอดกาล
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
บรรได lEll
Verified User
โพสต์: 63
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เรื่องค่าเงินนี่แปลกนะครับ
10 ปีก่อน จาก 25 ไป 50 ก็บอกว่าวิกฤต ไม่อยากให้อ่อน
10 ปีให้หลัง จาก 50 จะกลับมา 25 บาง ก็วิกฤตอีก
ตกลงจะให้ไปทางไหนดีละครับ

การที่เราเปิดเสรีทางการเงินหมายถึงอะไร?
ใช่การให้เป็นไปโดยกลไกตลาดหรือป่าว?

เอะอะอะไรก็เรียกร้องให้รัฐช่วย(แก้ที่ปลายเหตุ)
เหมือนครอบครัวหนึ่ง
ลูกทำการค้ามีปัญหา  ค้าขายขาดทุน ก็มาบอกให้พ่อช่วยหน่อย "ขอตังหน่อยพ่อ"
พ่อก็ไม่รู้จะช่วยยังไง "เอาเงินไปลูก" เดี๋ยวคนที่ 2 ขาดทุนก็มาขอบาง
แล้วยังมีคนต่อไปอีก เมื่อไรจะจบ เมื่อไหร่ลูกจะโต แก้ปัญหาได้เอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Akajon
Verified User
โพสต์: 530
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

หลายคนในรัฐบาล เป็นนักวิชาการที่ค่อนข้างจะเน้นวิจารณ์คนอื่น มากกว่าภาคปฏิบัติ ถ้าตามข่าวมาเรื่อยๆ จะเห็นว่าเป็นนักวิจารณ์ที่วิจารณ์จนได้ดี แต่กลับไม่ค่อยมีผลงาน เมื่อมาทำหน้าที่เอง

ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์คนทำงาน เพื่อสร้างจุดเด่น จุดขายให้ตัวเอง เหยียบหัวกี่คนไม่ว่า ขอให้ตนเองขึ้นมาเด่นเหนือคนอื่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
aor_vi
Verified User
โพสต์: 336
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

[quote="por_jai"]8) ผมว่าเจ้าซันอธิบายไว้ดีกว่าที่แกพูดอีกนะ
"คนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นยาก"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

บรรได lEll เขียน:เรื่องค่าเงินนี่แปลกนะครับ
10 ปีก่อน จาก 25 ไป 50 ก็บอกว่าวิกฤต ไม่อยากให้อ่อน
10 ปีให้หลัง จาก 50 จะกลับมา 25 บาง ก็วิกฤตอีก
ตกลงจะให้ไปทางไหนดีละครับ

การที่เราเปิดเสรีทางการเงินหมายถึงอะไร?
ใช่การให้เป็นไปโดยกลไกตลาดหรือป่าว?

เอะอะอะไรก็เรียกร้องให้รัฐช่วย(แก้ที่ปลายเหตุ)
เหมือนครอบครัวหนึ่ง
ลูกทำการค้ามีปัญหา  ค้าขายขาดทุน ก็มาบอกให้พ่อช่วยหน่อย "ขอตังหน่อยพ่อ"
พ่อก็ไม่รู้จะช่วยยังไง "เอาเงินไปลูก" เดี๋ยวคนที่ 2 ขาดทุนก็มาขอบาง
แล้วยังมีคนต่อไปอีก เมื่อไรจะจบ เมื่อไหร่ลูกจะโต แก้ปัญหาได้เอง

ถ้ามองในมุมผู้ประกอบการ ก็น่าเห็นใจนะครับ จากที่เคยใช้ rate ค่านึงอยู่ แต่ในเวลาไม่นาน อยู่ๆค่าก็เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ผมว่ามันก็คงมีปัญหา แหละครับ รัฐบาล คงต้องช่วย แต่ก็น่าจะแค่ระยะนึงมั้งครับ
แล้วก็พยายามทำอย่างไรให้ ผู้ประกอบการ ปรับตัวได้ และก็คงต้องมีบางกลุ่มที่ต้องล้มหายตายจากไป ซึ่งเป็นธรรมดาของ ทุนนิยม ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="บรรได lEll"]เรื่องค่าเงินนี่แปลกนะครับ
10 ปีก่อน จาก 25 ไป 50 ก็บอกว่าวิกฤต ไม่อยากให้อ่อน
10 ปีให้หลัง จาก 50 จะกลับมา 25 บาง ก็วิกฤตอีก
ตกลงจะให้ไปทางไหนดีละครับ

การที่เราเปิดเสรีทางการเงินหมายถึงอะไร?
ใช่การให้เป็นไปโดยกลไกตลาดหรือป่าว?

เอะอะอะไรก็เรียกร้องให้รัฐช่วย(แก้ที่ปลายเหตุ)
เหมือนครอบครัวหนึ่ง
ลูกทำการค้ามีปัญหา
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ก้อนหิน เขียน: ถ้ามองในมุมผู้ประกอบการ ก็น่าเห็นใจนะครับ จากที่เคยใช้ rate ค่านึงอยู่ แต่ในเวลาไม่นาน อยู่ๆค่าก็เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ผมว่ามันก็คงมีปัญหา แหละครับ รัฐบาล คงต้องช่วย แต่ก็น่าจะแค่ระยะนึงมั้งครับ
แล้วก็พยายามทำอย่างไรให้ ผู้ประกอบการ ปรับตัวได้ และก็คงต้องมีบางกลุ่มที่ต้องล้มหายตายจากไป ซึ่งเป็นธรรมดาของ ทุนนิยม ครับ
8) ก็ต้องดูเป็นธุรกิจๆไปเหมือนกัน
    อย่างพวกอิเล็กทั้งหลาย
    ก่อนจะส่งออก โดนขาดทุนเรื่องค่าเงิน
    แล้วตอนนำเข้าวัตถุดิบ ได้กำไรเรื่องค่าเงินมาละ
    ไม่เอามาคิดหรือ

     แต่ถ้าเป็นผลผลิตทางเกษตรต้องบอกว่าโดนเต็มๆ จริงๆ

     ถ้าเกาถูกที่คัน รู้ธรรมชาติของตลาดจริง
     ก็ใช้ยาได้ถูกตัวครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

มติชนสุดสัปดาห์ก็เพิ่งลงพิมพ์วันนี้ครับพี่พอใจ

ในกรณีเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว

ว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากคุณภาพสินค้าและการไม่ดูแลความปลอดภัยในโรงงานครับ

ทำให้เกิดอุบัเหตุ และมีร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตครับ

ซึ่งทางอดิดาสได้ตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้วสองครั้ง

แต่ไม่ได้มีการปฏิบัติตาม จนล่าสุด ยอด Order ที่คงค้างหมดลง

เขาก็เลยไม่สั่งเพิ่มครับ

มีการวิเคราะห์ต่อว่า เหตุที่อดิดาสต้องเข้ามามีส่วนร่วมในแนวทางบริหาร

เนื่องจากเกรงจะเสียภาพลักษณ์ของตราสินค้า
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

8) พี่ฉัตรโพสไว้ครับ อ่านแล้วรู้เรื่อง
    เอาแปะกระทู้ไว้ก่อน
Chatchai เขียน:ถ้าอยากจะรู้ว่า  เงินบาทแข็งเกินจริงไหม  และเงินบาทควรที่จะอยู่ที่เท่าไร

ก็คงต้องย้อนกลับไปดูเหตุผลว่า  อะไรทำให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อน  และค่าเงินบาทแข็งครับ

ถ้าค่าเงินดอลล่าร์อ่อนลง  หรือเงินบาทแข็งขึ้น  จนกระทั่งปัจจัยเหล่านั้นหมดไป  ก็ตรงนั้นแหละครับ

แต่ปัจจัยต่างๆก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ไม่คงที่  ดังนั้นค่าเงินที่เหมาะสมก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเช่นกัน
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

por_jai เขียน: 8) ก็ต้องดูเป็นธุรกิจๆไปเหมือนกัน
    อย่างพวกอิเล็กทั้งหลาย
    ก่อนจะส่งออก โดนขาดทุนเรื่องค่าเงิน
    แล้วตอนนำเข้าวัตถุดิบ ได้กำไรเรื่องค่าเงินมาละ
    ไม่เอามาคิดหรือ

     แต่ถ้าเป็นผลผลิตทางเกษตรต้องบอกว่าโดนเต็มๆ จริงๆ

     ถ้าเกาถูกที่คัน รู้ธรรมชาติของตลาดจริง
     ก็ใช้ยาได้ถูกตัวครับ
ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่สงสัยค่ะ
การทำ hedge ค่าเงิน ใช้ได้กับแค่บางกลุ่มส่งออกเท่านั้นหรือคะ
ถ้าทำแล้วได้ผลกระทบทางลบน้อย ทำไมหลายบริษัทไม่ทำกันคะ

ปรับตัวโดยหาฐานลูกค้าใหม่ไปเลยยากไม๊คะ เอาที่เค้าอ้างอิงเงินสกุลเงินอื่น
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 15

โพสต์

8) น้องกล้วยจ๋า
แก้ไขล่าสุดโดย por_jai เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 20, 2007 2:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เข้าใจว่าการ Hedge นี่มันต้องใ้ช้เงินเยอะเหมือนกันนะครับ
คิดว่าพวก SME ไม่น่าจะทำไหวครับ
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 17

โพสต์

อยากให้บาทอ่อน

แก้ไขง่ายมาก จากทางรัฐบาลโดย

รีบเร่ง mega project นำเข้าเยอะๆ ตอนบาทแข็ง
กู้เงินต่างชาติมาพอสมควร
การมีเงินสำรองมากเกินไปชาติมั่นคง
แต่เหมือนบริษัทที่มีเงินเหลือเก็บเยอะไม่ลงทุนต่อ
เป็นผม ผมก็มองว่าเป็นบริษัทที่ลงทุนไม่เป็น บริษัทบริหาร asset ไม่ดี

ส่วนเอกชน ก็ยากนิด
แต่เริ่มโดยสร้างความมั่นใจก่อน
แล้วประชาชนจะเริ่มใช้จ่าย
บริษัทจะเริ่มเพิ่มกำลังการผลิต โดยสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่ม

ทำไมบาทมันจะไม่อ่อน

แต่เราควรทำให้บาทอ่อนจริงๆหรือเปล่า อันนี้ผมตอบแทนรัฐไม่ได้
เพราะบางทีเราอาจอุ้มคนที่ไม่ควรรวยให้รวย
ถ้าบริษัทที่ขายของได้เพราะถูกอย่างเดียว เราคงสู้จีนไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นเดียวนี้ หรือในอนาคต
ต้องหานวัตกรรมใหม่ๆ เพือให้ประเทศเราดีขึ้น
โดยการส่งเสริมการศึกษาแบบ เน้นให้คนเก่งในเรื่องที่ชอบ
ไม่ใช่ให้เก่งรวมๆ ในสิ่งที่ไม่ต้องใช้
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 18

โพสต์

[quote="por_jai"]8) คนไม่ยอมรับความจริง
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 19

โพสต์

[quote="por_jai"]8) ผมว่าเจ้าซันอธิบายไว้ดีกว่าที่แกพูดอีกนะ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ดร.โกร่งพูดถูกแล้ว แต่ทำได้หรือ

1. เมกะโปรเจ็ก ในรัฐบาลนี้ จะทำได้หรือ เพราะจะเลือกตั้งแล้ว

2. เรื่องจ่ายหนี้ โดยออกบาทบอนด์ มาดูดซับค่าเงินบาท แล้วเอาไปแลกดอลล่า   แล้วก็เอาไปจ่ายหนี้

เช่น รัฐวิสาหกิจที่เป็นหนี้ต่างประเทศ 1000 ล้านเหรียญ ก็ออกบาทบอนด์ ประมาณ 1000*34 = 34000  แล้วเอาไปซื้อ ดอลล่า แล้วก็เอาไปจ่ายหนี้ ต่างประเทศ

ตรงนี้น่าจะดี เพราะทำได้เลย และเป็นจิตวิทยาด้วย

ดีกว่า การออกพันธบัตร โดยแบงชาติ แล้วเอาเงิน บาทไปซื้อ ดอลล่า แล้วทำสัญญาขายล่วงหน้าไว้ เพราะเก็งว่า ดอลล่าแข็ง

แต่เมื่อเก็งผิด ดอลล่ากลับอ่อน ก็คือ ซื้อแพง ขายถูก ขาดทุนตลอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 21

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

รัฐวิสาหกิจที่เป็นหนี้ต่างประเทศ 1000 ล้านเหรียญ ก็ออกบาทบอนด์ ประมาณ 1000*34 = 34000  แล้วเอาไปซื้อ ดอลล่า แล้วก็เอาไปจ่ายหนี้ ต่างประเทศ 

ตรงนี้น่าจะดี เพราะทำได้เลย และเป็นจิตวิทยาด้วย 
ผมว่า  .....แน่ใจรึป่าวครับว่า....ว่า......คิดไปถึงลูกชิ่งแล้ว.......

อัตราดอกเบี้ย.....ต่างกันรึป่าวครับ
......ของไทยเราน่าจะสูงกว่านะครับ  รึป่าวครับ  
หมายความถึงดอกเบี้ยตลอดสัญญากู้นะครับ


โค้ด: เลือกทั้งหมด

รีบเร่ง mega project นำเข้าเยอะๆ ตอนบาทแข็ง 
กู้เงินต่างชาติมาพอสมควร 
เข้าทางเลยครับ

สมมติ  ถ้าให้กู้  ตปท  ที่ 30 บาท / ดอล  
ถ้าต่างชาติปล่อยให้กู้ดอล มากๆเข้า  เงินก็ยิ่งแข็งเข้าไปอีก   ซัก 2 ปี

ขณะเดียวกัน  

ที่ว่าเข้าทางเพราะว่า....
ต่อที่ 1.  พอเรากู้มากพอแล้ว   ต่างชาติเริ่มทยอยเอาเงินออกนอกประเทศไปเรื่อยๆ   ซึ่งเขาจะมีกำไรจากเงินก้อนที่เอาเข้ามาตอน  40 บาท / ดอล   ต่างชาติกำไรไป  ต่อที่ 1

ต่อที่ 2    เมื่อเขาเอาเงินออกมากๆเข้า  ซักพัก.....ก็จะทำให้บาทอ่อนลง  เขาจะเร่งให้บาทอ่อนมากๆอีกรอบ   คราวนี้  ใครที่กู้ดอลมามากๆ  เจ้งคัรบเจ้ง   เจ้งแน่ๆครับ  เหมือนปี 40  อีกที   พอดีเลยได้โดนต่างไล่ซื้อกิจการถูกๆอีกรอบ.....นี่มันต่อที่ 2

เกมเป็นของเขาครับ  กระดาษเขาก็พิมพ์ได้เรื่อยๆ  ไม่มีหมด เหมือนมีกระสุนไม่จำกัดในการทำสงคราม   ส่วนเราเหรอครับ  จะพิมพ์แบ็งค์เพิ่มก็บอกไม่ได้  เพราะว่าไม่มีทองสำรองมากพอ........ยิ่งทำยิ่งแพ้ครับ  ตราบเท่าที่เรายังไม่มีเงินสะสมมากพอ  เราคงต้องทำงานหนักมากกว่านี้นะครับ

พูดง่ายๆ  คนจนยังไง......ก็ทำอะไรได้ไม่มากหรอกมังครับ  นอกจากทำงานหนัก  
ที่สำคัญปัจจุบัน  บ้านเราเน้นที่...ขายแรงงานระดับต่ำเสียด้วย    คือเน้นที่ค่าแรงถูกๆ  แล้วจะไปแข่งกับคนที่ถูกกว่าได้ยังไง  ยังไม่ได้พัฒนาฝีมือ    
ประสิทธิภาพในเชิงต้นทุน  โดยรวมของบ้านเรา......ต่ำครับ

ไม่ว่าจะมากจากวิธีคิด  เอาง่ายเข้าว่า  หรือว่าคอรับชั่น  _ฯลฯ  บ้านเรามักง่ายครับ  สัญญาไม่เป็นสัญญา   นัดเที่ยง.....มาบ่าย  อันนี้ประจำ     เกินครึ่ง เป็นแบบนี้หมด

เรื่องการชำระเงินบ้านเรา นัดแล้วเลื่อนเรื่อยๆ  ไม่เหมือนญี่ปุ่นสำคัญมากๆเรื่องเครดิต

แล้วจะโทษใคร  ยังไม่รู้เลย....


เรื่องการบริหารและการจัดการนี่.......สำคัญครับ

ในอดีต   อดีต รมต  คลัง   สมหมาย   ฮุนตระกูล     เคยปลดท่านผู้ว่าแบ๊งชาติไป 1 คน  ชื่อ อดีตท่านผู้ว่า...นุกูล ประจวบเหมาะ   งัดกันในเรื่องอะไรจำไม่ไ่ด้แล้วครับ  พวกอายุเกิน 40  ใครจำได้  วานบอกทีครับ

ในเมื่อ  2  คน  คิดต่างกัน   แต่ผลกระทบอยู่ที่ชาติ  
ท่าน  อดีต  รมต . สมหมายท่านกล้ายืนยันความคิดเห็นของตัวเอง.... ท่่านอดีต ผู้ว่า....นุกูล  ท่านก็กล้ายืนยันความคิดเห็นของตัวเอง  
แต่เพื่อลดผลกระทบต่อชาติ  ท่าน สมหมาย ท่านอาศัยอำนาจที่มีอยู่  -------จัดการ--------ตามสิ่งที่ท่่านเชื่อ......ปลด  ท่านผู้ว่าการ  นุกูล  ครับ
ท่านสมหมาย  ฮุนตระกูล   ท่านไม่พูดมากนะครับ    ท่านทำจริงๆ  ได้ผลเสียด้วย  
ท่านนุกูล  ทั้งๆที่ถูกปลด  ......ท่านก็ยังได้รับการยอมรับจากวงการธุรกิจ   อย่างมากมาย.....


รมต คลัง  ถ้ามีความเห็นว่า ท่านผู้ว่าแบ๊งชาติ ทำไม่ถูก  ไม่มีประสิทธิภาพ  ก็ต้องปลด  ท่านผู้ว่า สิครับ    
ผมว่า......ท่านผู้ว่าทำถูกต้องที่ยืนยันความคิดเห็นตัวเอง ตามที่ตัวเองเชื่อ.....แม้ว่ามันอาจจะ......ไม่ถูก.....คนเราเชื่ออะไรก็ทำตามที่ตัวเองเชื่อทั้งนั้นครับ

หรือว่าเราอยากเห็นท่านผู้ว่าการ...ที่โลเล คนนั้นทักที ก็เฉไปทางโน้น  คนนี้ทักทีก็เฉมาทางนี้หล่ะ  เอาเหรอครับ  แบบนี้....แบบไม้หลักปักขี้เลน


ลองมองมาที่เหตุการณ์ณ์ปัจจุบัน
ในเมื่อ ท่าน  รมต  เห็นว่า  ท่านผู้ว่า....ไม่มีประสิทธิภาพ....ก็ต้องสั่งปลด  
แต่ถ้าไม่ปลดทั้งๆที่เห็นว่า  ท่านผู้ว่าการ บ่มิไก๊  ผมว่า......ท่าน รมต.  ผิดครับ

แต่ว่าที่ ท่าน  รมต  ปัจจุบัน  ไม่กล้าปลด  ท่านผู้ว่า ...........
อาจจะ......เพราะว่า  ตัวเองก็ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องรึป่าว .... อันนี้ไม่แน่ใจ  คือหมายความว่าตัวเองก็มีความคิด ..... แต่ไม่มั่นใจเต็มร้อย
แต่ว่า....เรากำลังสู้กับกระแสเงินที่มันแรง   ถ้าปลดแล้ว คราวนี้ก็ต้องทำตามวิธีที่ท่าน  รมต  คิดว่าถูก    เกิดว่า วิธีที่ตัวท่าน  รมต  คิดนั้น  จริงๆแล้ว มันก็ยังไม่ถูก  คราวนี้มันก็ซวยหล่ะสิ  เข้าตัวไหมหล่ะ.......

เพราะอย่างนี้รึป่าวครับ  เลยได้แค่วิจารณ์  แต่ทำอะไรไม่เป็น  ไม่จัดการ

เรากำลังบริหารและจัดการ  ปัญหาไม่เป็นรึป่าวครับ

ผมว่าท่านผู้ว่าท่านยืนยันความคิดเห็นของท่านไปแล้ว  คราวนี้  ท่าน  รมต  ต้องยืนยันความคิดเห็นของทานแล้วครับ......แล้วแก้ไขเสีย...............

ปัญหาตอนนี้กำลังทดสอบ ความสามารถในการบริหารและจัดการทั้งหมดของหน่วยงานทางด้านการคลังและการเงินของบ้านเราครับ

ตปท  เขาคงมองเห็นครับ  เลยกะจะเอาอีกรอบ  เขาคงวิเคราะห์หมดแล้วมังครับ ว่าจะเป็นยังไง

ที่อาร์เจนติน่า  ตอนมีเรื่องรอบ 2 นั้น  ตอนแรกเขาแช่แข็งให้แต่ละคนถอนเงินตัวเองจาก แบงได้ไม่เท่าไรมังครับ    คนออกมาประท้วงมากมาย......

โลกกลมๆผืนนี้  ไม่มีที่ดีๆ สำหรับกลุ่มผู้อ่อนแอหรอกครับ



สถานการณ์ครั้งนี้  จะสร้างวีรบุรุษมั๊ย  อยากรู้เหมือนกันครับ  หรือว่า บ้านเราไม่มี  ขาดเสียแล้วซึ่งวีรบุรุษ.....

ในเรื่องใหญ่ๆนั้น  
ในส่วนที่ผมเป็นหัวหน้า.......
ลุกน้องผม มีความเห็นไม่เหมือนผมได้......ผมชอบ
คิดเห็นต่างจากผมได้......ผมชอบ  ให้เขาอธิบาย
( พวกพยักหน้าอย่างเดียวไม่ดีครับ  ไม่ดี )
แต่ถ้ามาคุยกันลึกๆแล้ว   แล้วเรื่องนั้นส่งผลกระทบมาก  
ุและถ้าเขายืนยันในวิธีของเขา   ผมจะให้เวลาเขาแก้ปํญหาด้วยตัวเขา  วิธีของเขาเอง   โดยมีเวลาที่กำหนดแน่นอน  ที่เกิดจากการตกลงระหว่าง ผม และลูกน้อง  

เมื่อเวลาผ่านไป   ถ้าการแก้ไขยังไม่ได้ผล......
และ.....ถ้าเขายังไม่เชื่อผม.....ผมจัดการลูกน้องหมดครับ  
แ้ล้วเอาคนใหม่ที่อยู่ในทีมมาทำแทนหรือว่าผมทำเอง
ถ้าผมไม่จัดการทั้งๆที่เวลามาถึงแล้ว    
ผลเสียหายที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร  

โยนให้ลูกน้องเหรอครับ
...แล้วมันได้อะไรขึ้นมาหล่ะ
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ใครๆก็บอกว่าค่าเงินบาทแข็งเกินไป  แข็งจนจะเกิดจะวิกฤต

ผมก็สงสัยว่า  ค่าเงินบาทอ่อนหรือแข็ง  ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรครับ  หรือว่าขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคน

ช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อน  เมื่อ 10 ปีที่แล้ว  เราอ่อนเกิน 100%  จาก 25 บาทไป 56 บาท

ผมจำได้ว่า  ฮ่องกง  ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนระบบตรึงไว้กับค่าเงินดอลล่าร์  เท่ากับว่าฮ่องกงเสียเปรียบค่าเงินมากมาย  และฮอ่งกงเองก็เป็นประเทศที่มีมูลค่าส่งออกเกินยอดจีดีพี  แล้วผู้ส่งออกที่ฮ่องกงทำอย่างไร

มาเลเซียเช่นกัน  ค่าเงินริงกิตถกตรึงไว้กับค่าเงินดอลล่าร์  อ่อนตัวลงไม่มาก  ผู้ส่งออกชาวมาเลเซียปรับตัวอย่างไร

น่าศึกษานะครับว่า  ผู้ส่งออกทั้งสองประเทศทำอย่างไร  แล้วสภาพเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 23

โพสต์

มติชนสุดสัปดาห์
สื่อที่ดีต้องรายงานข่าวได้
1. ถูกต้อง
2. เป็นกลาง
3. รวดเร็ว

ผมว่านสพรายวันส่วนใหญ่เน้นข้อ 3 นะ แต่ มติชนรายสัปดาห์ แข่งเรื่องนี้ไม่ได้เลยทำ  1-2 ได้ดีทีเดียว :cheers:

ส่วนเรื่องประเทศไม่ค่อยพัฒนาหรือแข่งกะเค้าไม่ค่อยได้เนี่ย มันคงเป็นเรื่องที่เรามองไปยังประเทศที่เก่าแก่กว่า ผ่านขั้นตอนการพัฒนามายาวนานกว่าเราแล้วเราก็หวังให้ชั่ว 2-3 อายุคนประเทศเราจะเป็นได้แบบเค้าบ้างนะครับ

อยากให้หุ้นขึ้นนะต้องใจเย็นๆ :D
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

เมืองไทยคนเก่งเยอะ....ไปหน่อย

โพสต์ที่ 24

โพสต์

คำเดียวครับพี่พอใจ
"EGO" นำไปสู่ "ตัวกูของกู ความคิดของกูใหญ่ ความคิดของกูไม่ผิด ทุกคนต้องทำตามกู"
แค่นี้ล่ะ ถ้าลดได้ บ้านเมืองได้เจริญ

เมื่อลดตัวนั้นได้แล้ว ต้อง"เมตตา" คน
เพราะทุกคนมันเก่งแตกต่างกันไป
คนคนเดียวมันไม่เก่งครบทุกด้าน แต่ต้องรับฟัง
เพราะอาจจะได้ข้อคิดดีๆอะไรกลับมาแก่เรา
แค่นี้ล่ะถ้าได้ก็ดีที่สุด
:)
โพสต์โพสต์