คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 1
คุ้กกี้จตุคำ
วัตถุประสงค์ สอนคนไทยให้ฉุกคิด
ปลุกเสก ปลุกเสกได้ด้วยตนเอง
มวลสาร เอนโดรฟิน (สุขจากหยาดเหงื่อ)
อิทธิฤทธิ์ อิ่มอร่อย.. ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ
ได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เรื่องพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ผลิตคุกกี้" ฉุกคิด ๔ คำ "รวยโคตร!" สอนธรรมะ รับประกันว่าไม่ใช่แค่กินได้ แต่มีอิทธิฤทธิ์ คือ "อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ" แล้วรู้สึกตรงใจมาก ชมชอบในวิธีการสอนแก้ความงมงายของชาวพุทธในขณะนี้ได้ดีมาก
วันที่ ๑๕ มิถุนายน พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จัดแถลงข่าวตรงกับเวลาฉันเพล ที่วัดสวนแก้ว ฉันโชว์คุกกี้ “จตุคำ" รุ่น "ฉุกคิด ๔ คำ รวยโคตร!” โดยเชิญผู้สื่อข่าวมารับแจกคุกกี้ติดยี่ห้อ “จตุคำ” ซึ่งบรรจุอยู่ในกระป๋อง และมีฉลากติดไว้อย่างสวยงามเหมือนขนมขายในห้างสรรพสินค้าหรู และภายในกระป๋องเป็นถุงพลาสติกมีแถบรัดลายเซ็นชื่อ พระพยอม กัลยาโณ และสติกเกอร์รูปพระพยอมชวนชิมอิ่มบุญ “หากินกับพระ” โดยบรรจุคุกกี้ที่ทำออกมาดูเผินๆ คล้ายเหรียญจตุคามฯ พิมพ์คำว่า “จตุคำ” เด่นชัดไว้บนคุกกี้แผ่นกลมใหญ่ ๔ ชิ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลาง หรือระดับปัญญาชนขึ้นไป
พระพยอม กล่าวว่า ได้พยายามพร่ำสอนเตือนให้คนไทยได้ฉุกคิด โดยการเทศน์ การเขียน มาตั้งแต่แรกเริ่มที่เกิดกระแสจตุคามรามเทพฟีเวอร์ หวังให้คนไทยโดยเฉพาะชาวพุทธที่กำลังหลงทิศนำเอา “จตุคามฯ” มาแทนที่ “จตุราอริยสัจ” หรือ “อริยสัจ ๔” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อันเป็นหัวใจแท้ ๆ ของชาวพุทธที่สอนให้รู้ว่า ทุกข์เกิดได้อย่างไร ๔ ประการ คือ การมีอยู่ของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และหนทางไปสู่ความดับทุกข์ ซึ่งชาวพุทธมักจะบอกว่ารู้แล้ว แต่ยังหลงไปบูชาอย่างอื่น นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย
“เวลานี้มีหลวงปู่หลวงพ่อของไทย ท่านกำลังทำสมาธิโดยไม่เกิดฌาณทัสนะ คือ ปัญญาอันรู้แจ้ง กลับหวังแต่จะปลุกเสกให้วัตถุของขลังมีพลังมีฤทธิ์มีเดชมีอำนาจ ทำให้คนร่ำรวยเป็นเศรษฐี จากสารพัดมวลสาร อาตมาไม่รู้ว่าจะไปตอบชาวพุทธทั่วโลกเขาว่าอย่างไร จนมีคนบอกว่า พระไทยชอบเสก พระเวียดนามชอบสอน เห็นจะจริง ดูอย่างท่านติช นัท ฮันห์ ที่ท่านมาเมืองไทยเมื่อคราวก่อน มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งแขก จีน ไทย ฝรั่ง แห่ไปฟังคำที่ท่านสั่งสอน สิ่งหนึ่งซึ่งท่านไม่สนใจเลยคือ การปลุกเสกจตุคามรามเทพ เครื่องรางของขลัง ขณะที่พระไทยยังนั่งปลุกเสกกันอยู่ พระไทยน่าละอายต่อพระเวียดนามหรือไม่" พระพยอม กล่าว
"จริง ๆ แล้ว มวลสารที่ทำให้คนเรามีความสุข กระปรี้กระเปร่า คือ เอนโดรฟิน ซึ่งร่างกายจะหลั่งออกมาเองจากความปีติปราโมช เช่น เมื่อขณะนอนหลับสนิท หรือเป็นสุขอันเกิดจากหยาดเหงื่อ ไม่ว่าออกกำลังกาย หรือทำงานจนเหงื่อไหล ไม่ใช่มาจากเศษดิน หิน ปูน ทราย หรือมวลสารอะไรทั้งสิ้น” พระพยอม กล่าว
พระพยอม กล่าวถึงการพร่ำสอนที่ผ่านมาว่า คงไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไร เพราะสื่อมวลชนก็มีส่วนร่วมไปโฆษณาชวนเชื่อด้วย ทำพิธีปลุกเสกที่ไหนก็มีข่าวตามมาทันทีว่า เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อย่างโน้นอย่างนี้ หรือไม่ก็ลงโฆษณาชวนเชื่อกันเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็เป็นประธานกดปั๊มพิมพ์เสียเอง ก็ยิ่งกู่ไม่กลับ ชนชั้นปัญญาชนกลับไม่รู้จักใช้ปัญญา หน่วยงานของรัฐอย่าง สคบ.ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ควรจะทำ หรือว่ากำลังคิดจะจัดสร้างเองกับเขาด้วย อย่างนี้ก็คงลำบาก
“อาตมาเห็นมีดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกรมากหน้าหลายตาไปร่วมงานปลุกเสกจตุคามฯ แล้วตั้งหลายรุ่น ถามหน่อยมีดาราคนไหนพร้อมมาเป็นอาสาสมัคร ช่วยแนะนำ “จตุคำ" รุ่นฉุกคิด ๔ คำ รวยโคตร! ที่อาตมาจัดสร้างนี้บ้างไหม จะขออนุโมทนาไว้ล่วงหน้า” พระพยอม กล่าวว่า
พระพยอมยังระบุว่า คุกกี้ของวัดมีอิทธิฤทธิ์คือ “อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ” ซึ่งนี่คือการสอนอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อสอนให้คนไทยได้ฉุกคิด และไม่ยึดติด หลงใหลในวัตถุอย่างไร้สติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ซึ่งเป็นช่วงฉันเพล พระพยอมได้ฉันคุกกี้ และเชิญชวนผู้สื่อข่าวให้ชิมคุกกี้ “จตุคำ” พร้อมทั้งแจกจ่ายจตุคำกระป๋องให้ผู้สื่อข่าวติดมือกลับสำนักพิมพ์กันอย่างถ้วนหน้า โดย "จตุคำ" หรือ คำ ๔ คำ คือ “อุ อา กะ สะ-ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้" ได้นำมาปั๊มไว้ด้านหลังคุกกี้ “จตุคำ” เพื่อเตือนสติให้ฉุกคิดกันว่า คนเรานั้นรวยได้ทุกคน รวยได้ทั้งโคตร จากความขยันหมั่นเพียร รักษาทรัพย์ ไม่คบคนผลาญทำลายทรัพย์ และไม่ใช้จ่ายเกินตัวนั่นเอง แต่ถ้ารวยแบบจตุคามฯ รุ่น "รวยได้โดยไม่มีเหตุผล" ทำให้คนเราอยู่นิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ถ้าห้อยแล้วจะรวยอย่างไม่มีเหตุผล ให้ขอซื้อสักโหล จะเอาไปห้อยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน้ากระทรวงต่าง ๆ จะได้ช่วยให้รวยกันทั้งประเทศ ไม่ต้องมาห้อยกันทีละคนให้คอเคล็ดขัดยอก
ทั้งนี้ "๔ คำล้ำค่า คาถาเศรษฐี" ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนและมีปราชญ์สรุปไว้เป็นคำย่อว่า “อุ อา กะ สะ” นั้น "อุ" มาจากคำว่า "อุฏฐานสัมปทา" คือ พร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร ในการประกอบสัมมาอาชีพ หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันหา "อา" มาจากคำว่า อารักขสัมปทา คือ การเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันเก็บ "กะ" มาจากคำว่า "กัลยาณมิตตา" คือ การคบหาสมาคมกับคนดีมีคุณธรรม มีน้ำใจ และเป็นเพื่อนที่ไม่พาไปผลาญทรัพย์ หรือจำง่าย ๆ ว่า เลือกคบ "สะ" มาจากคำว่า สมชีวิตา คือ การใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกใช้ จตุคำ “อุ อา กะ สะ” คือ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้
วัตถุประสงค์ สอนคนไทยให้ฉุกคิด
ปลุกเสก ปลุกเสกได้ด้วยตนเอง
มวลสาร เอนโดรฟิน (สุขจากหยาดเหงื่อ)
อิทธิฤทธิ์ อิ่มอร่อย.. ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ
ได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เรื่องพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ผลิตคุกกี้" ฉุกคิด ๔ คำ "รวยโคตร!" สอนธรรมะ รับประกันว่าไม่ใช่แค่กินได้ แต่มีอิทธิฤทธิ์ คือ "อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ" แล้วรู้สึกตรงใจมาก ชมชอบในวิธีการสอนแก้ความงมงายของชาวพุทธในขณะนี้ได้ดีมาก
วันที่ ๑๕ มิถุนายน พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จัดแถลงข่าวตรงกับเวลาฉันเพล ที่วัดสวนแก้ว ฉันโชว์คุกกี้ “จตุคำ" รุ่น "ฉุกคิด ๔ คำ รวยโคตร!” โดยเชิญผู้สื่อข่าวมารับแจกคุกกี้ติดยี่ห้อ “จตุคำ” ซึ่งบรรจุอยู่ในกระป๋อง และมีฉลากติดไว้อย่างสวยงามเหมือนขนมขายในห้างสรรพสินค้าหรู และภายในกระป๋องเป็นถุงพลาสติกมีแถบรัดลายเซ็นชื่อ พระพยอม กัลยาโณ และสติกเกอร์รูปพระพยอมชวนชิมอิ่มบุญ “หากินกับพระ” โดยบรรจุคุกกี้ที่ทำออกมาดูเผินๆ คล้ายเหรียญจตุคามฯ พิมพ์คำว่า “จตุคำ” เด่นชัดไว้บนคุกกี้แผ่นกลมใหญ่ ๔ ชิ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลาง หรือระดับปัญญาชนขึ้นไป
พระพยอม กล่าวว่า ได้พยายามพร่ำสอนเตือนให้คนไทยได้ฉุกคิด โดยการเทศน์ การเขียน มาตั้งแต่แรกเริ่มที่เกิดกระแสจตุคามรามเทพฟีเวอร์ หวังให้คนไทยโดยเฉพาะชาวพุทธที่กำลังหลงทิศนำเอา “จตุคามฯ” มาแทนที่ “จตุราอริยสัจ” หรือ “อริยสัจ ๔” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อันเป็นหัวใจแท้ ๆ ของชาวพุทธที่สอนให้รู้ว่า ทุกข์เกิดได้อย่างไร ๔ ประการ คือ การมีอยู่ของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และหนทางไปสู่ความดับทุกข์ ซึ่งชาวพุทธมักจะบอกว่ารู้แล้ว แต่ยังหลงไปบูชาอย่างอื่น นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย
“เวลานี้มีหลวงปู่หลวงพ่อของไทย ท่านกำลังทำสมาธิโดยไม่เกิดฌาณทัสนะ คือ ปัญญาอันรู้แจ้ง กลับหวังแต่จะปลุกเสกให้วัตถุของขลังมีพลังมีฤทธิ์มีเดชมีอำนาจ ทำให้คนร่ำรวยเป็นเศรษฐี จากสารพัดมวลสาร อาตมาไม่รู้ว่าจะไปตอบชาวพุทธทั่วโลกเขาว่าอย่างไร จนมีคนบอกว่า พระไทยชอบเสก พระเวียดนามชอบสอน เห็นจะจริง ดูอย่างท่านติช นัท ฮันห์ ที่ท่านมาเมืองไทยเมื่อคราวก่อน มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งแขก จีน ไทย ฝรั่ง แห่ไปฟังคำที่ท่านสั่งสอน สิ่งหนึ่งซึ่งท่านไม่สนใจเลยคือ การปลุกเสกจตุคามรามเทพ เครื่องรางของขลัง ขณะที่พระไทยยังนั่งปลุกเสกกันอยู่ พระไทยน่าละอายต่อพระเวียดนามหรือไม่" พระพยอม กล่าว
"จริง ๆ แล้ว มวลสารที่ทำให้คนเรามีความสุข กระปรี้กระเปร่า คือ เอนโดรฟิน ซึ่งร่างกายจะหลั่งออกมาเองจากความปีติปราโมช เช่น เมื่อขณะนอนหลับสนิท หรือเป็นสุขอันเกิดจากหยาดเหงื่อ ไม่ว่าออกกำลังกาย หรือทำงานจนเหงื่อไหล ไม่ใช่มาจากเศษดิน หิน ปูน ทราย หรือมวลสารอะไรทั้งสิ้น” พระพยอม กล่าว
พระพยอม กล่าวถึงการพร่ำสอนที่ผ่านมาว่า คงไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไร เพราะสื่อมวลชนก็มีส่วนร่วมไปโฆษณาชวนเชื่อด้วย ทำพิธีปลุกเสกที่ไหนก็มีข่าวตามมาทันทีว่า เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อย่างโน้นอย่างนี้ หรือไม่ก็ลงโฆษณาชวนเชื่อกันเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็เป็นประธานกดปั๊มพิมพ์เสียเอง ก็ยิ่งกู่ไม่กลับ ชนชั้นปัญญาชนกลับไม่รู้จักใช้ปัญญา หน่วยงานของรัฐอย่าง สคบ.ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ควรจะทำ หรือว่ากำลังคิดจะจัดสร้างเองกับเขาด้วย อย่างนี้ก็คงลำบาก
“อาตมาเห็นมีดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกรมากหน้าหลายตาไปร่วมงานปลุกเสกจตุคามฯ แล้วตั้งหลายรุ่น ถามหน่อยมีดาราคนไหนพร้อมมาเป็นอาสาสมัคร ช่วยแนะนำ “จตุคำ" รุ่นฉุกคิด ๔ คำ รวยโคตร! ที่อาตมาจัดสร้างนี้บ้างไหม จะขออนุโมทนาไว้ล่วงหน้า” พระพยอม กล่าวว่า
พระพยอมยังระบุว่า คุกกี้ของวัดมีอิทธิฤทธิ์คือ “อิ่มอร่อย...ไม่ต้องห้อยให้เมื่อยคอ” ซึ่งนี่คือการสอนอีกวิธีหนึ่งที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อสอนให้คนไทยได้ฉุกคิด และไม่ยึดติด หลงใหลในวัตถุอย่างไร้สติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ซึ่งเป็นช่วงฉันเพล พระพยอมได้ฉันคุกกี้ และเชิญชวนผู้สื่อข่าวให้ชิมคุกกี้ “จตุคำ” พร้อมทั้งแจกจ่ายจตุคำกระป๋องให้ผู้สื่อข่าวติดมือกลับสำนักพิมพ์กันอย่างถ้วนหน้า โดย "จตุคำ" หรือ คำ ๔ คำ คือ “อุ อา กะ สะ-ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้" ได้นำมาปั๊มไว้ด้านหลังคุกกี้ “จตุคำ” เพื่อเตือนสติให้ฉุกคิดกันว่า คนเรานั้นรวยได้ทุกคน รวยได้ทั้งโคตร จากความขยันหมั่นเพียร รักษาทรัพย์ ไม่คบคนผลาญทำลายทรัพย์ และไม่ใช้จ่ายเกินตัวนั่นเอง แต่ถ้ารวยแบบจตุคามฯ รุ่น "รวยได้โดยไม่มีเหตุผล" ทำให้คนเราอยู่นิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ถ้าห้อยแล้วจะรวยอย่างไม่มีเหตุผล ให้ขอซื้อสักโหล จะเอาไปห้อยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน้ากระทรวงต่าง ๆ จะได้ช่วยให้รวยกันทั้งประเทศ ไม่ต้องมาห้อยกันทีละคนให้คอเคล็ดขัดยอก
ทั้งนี้ "๔ คำล้ำค่า คาถาเศรษฐี" ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนและมีปราชญ์สรุปไว้เป็นคำย่อว่า “อุ อา กะ สะ” นั้น "อุ" มาจากคำว่า "อุฏฐานสัมปทา" คือ พร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร ในการประกอบสัมมาอาชีพ หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันหา "อา" มาจากคำว่า อารักขสัมปทา คือ การเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันเก็บ "กะ" มาจากคำว่า "กัลยาณมิตตา" คือ การคบหาสมาคมกับคนดีมีคุณธรรม มีน้ำใจ และเป็นเพื่อนที่ไม่พาไปผลาญทรัพย์ หรือจำง่าย ๆ ว่า เลือกคบ "สะ" มาจากคำว่า สมชีวิตา คือ การใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกใช้ จตุคำ “อุ อา กะ สะ” คือ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 4
น่ากินจัง พี่ๆ คนไหนกินแล้วเอามาเล่าให้ฟังบ้างซิครับ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 5
ล่าสุด มี จตุคำ ปลอมแล้ว :shock:
สีเหมือน แต่ไม่ได้บริจาคให้วัด อะไรจะฮิตขนาดนั้น
สีเหมือน แต่ไม่ได้บริจาคให้วัด อะไรจะฮิตขนาดนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 6
ผมว่าน่าจะมีอะไรแบบนี้ออกมาตั้งนานแล้ว
จะได้เตือนสติคนไทยกันบ้าง
ผมชอบแนวคิดท่านครับ
จะได้เตือนสติคนไทยกันบ้าง
ผมชอบแนวคิดท่านครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 7
8) เตือนสติได้ก็ดีนะซี้HVI เขียน:ผมว่าน่าจะมีอะไรแบบนี้ออกมาตั้งนานแล้ว
จะได้เตือนสติคนไทยกันบ้าง
ผมชอบแนวคิดท่านครับ
นี่คนนครศรี ออกมาต่อว่าพระพยอมแล้ว
เรื่องอะไรเอาของที่เขานับถือ บูชา มาล้อเล่นอย่างนี้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 8
พระพยอมท่านเลยได้โอกาสเตือนสติว่าMO101 เขียน:ล่าสุด มี จตุคำ ปลอมแล้ว :shock:
สีเหมือน แต่ไม่ได้บริจาคให้วัด อะไรจะฮิตขนาดนั้น
ขนาดแค่คุ้กกี้ยังมีคนออกมาทำของปลอมเลียนแบบ แล้วนับประสาอะไรกับพระเครื่องที่ห้อยคอกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง...
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 9
วัตถุประสงค์ของวัตถุมงคลคงจะให้ผู้ที่เคารพบูชา
ได้ระลึกถึง พระรัตนตรัย - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ปฏิบัติตัวตามหลักไตรสิกขา - ศีล สมาธิ ปัญญา
และเพื่อความเป็นศิริมงคล
แต่จตุคาม รุ่นหลังๆทำรุ่นไหนๆ ออกมา พระอาทิตย์ก็ทรงกลด
(ห้องกล้องใน pantip บอกว่ามีวิธีถ่ายให้รูปออกมาแบบนี้)
ชื่อแต่รุ่นก็มีแต่ "อภิมหารวย" "โคตรรวย" "รวยไม่มีเหตุผล" :arrow:
งบโฆษณาโดยรวมสูงกว่าเครื่องสำอางทาหน้าขาว (ซึ่งใช้งบโฆษณาสูงมาก) ซะอีก
ผอ.โรงเรียนบังคับให้นักเรียนเอาไปขายให้ได้ยอดขายคนละแสนก็มี
คงสะท้อนอะไรบางอย่างของสังคมไทย
พอมีพระกล้าคิดกล้าทำออกมาเตือนสติ
บางคนก็ไม่ยอมให้เตือนสติซะอีก (กระทบธุรกิจพุทธพาณิชย์ :?: )
เรื่องแบบนี้ผมว่า นานาจิตตัง ครับ
ได้ระลึกถึง พระรัตนตรัย - พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ปฏิบัติตัวตามหลักไตรสิกขา - ศีล สมาธิ ปัญญา
และเพื่อความเป็นศิริมงคล
แต่จตุคาม รุ่นหลังๆทำรุ่นไหนๆ ออกมา พระอาทิตย์ก็ทรงกลด
(ห้องกล้องใน pantip บอกว่ามีวิธีถ่ายให้รูปออกมาแบบนี้)
ชื่อแต่รุ่นก็มีแต่ "อภิมหารวย" "โคตรรวย" "รวยไม่มีเหตุผล" :arrow:
งบโฆษณาโดยรวมสูงกว่าเครื่องสำอางทาหน้าขาว (ซึ่งใช้งบโฆษณาสูงมาก) ซะอีก
ผอ.โรงเรียนบังคับให้นักเรียนเอาไปขายให้ได้ยอดขายคนละแสนก็มี
คงสะท้อนอะไรบางอย่างของสังคมไทย
พอมีพระกล้าคิดกล้าทำออกมาเตือนสติ
บางคนก็ไม่ยอมให้เตือนสติซะอีก (กระทบธุรกิจพุทธพาณิชย์ :?: )
เรื่องแบบนี้ผมว่า นานาจิตตัง ครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 384
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 10
ขอบอก เพื่อนบอกว่าร้านโจ๊กแถวบ้าน
ซื้อหนึ่งชาม ได้สแตมป์หนึ่งดวง
เก็บครบยี่สิบห้าดวง เอามาแลกจตุคามได้หนึ่งองค์
วันก่อนนั่งดูราตรีสโมสร ผมเห็นดาราคนนึงห้อยเต็มคอเลย
น่าจะมีใครคิดทำเป็นตุ้มหูนะ จะได้ห้อยได้เยอะขึ้น
ยิ่งสำหรับผู้หญิงจะได้ห่างๆหน้าอก แถมจตุคามก็นิยมห้อยไว้ด้านนอกอยู่แล้วด้วย
ซื้อหนึ่งชาม ได้สแตมป์หนึ่งดวง
เก็บครบยี่สิบห้าดวง เอามาแลกจตุคามได้หนึ่งองค์
วันก่อนนั่งดูราตรีสโมสร ผมเห็นดาราคนนึงห้อยเต็มคอเลย
น่าจะมีใครคิดทำเป็นตุ้มหูนะ จะได้ห้อยได้เยอะขึ้น
ยิ่งสำหรับผู้หญิงจะได้ห่างๆหน้าอก แถมจตุคามก็นิยมห้อยไว้ด้านนอกอยู่แล้วด้วย
แมนยู โรม่า ลิสบอน เคี๊ยฟ
หมาป่าสู้สู้
หมาป่าสู้สู้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 12
ในสมัยพุทธกาล ไม่มีพระเครื่อง
ต่อมาก็เริ่มมี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า
ต่อมาก็เริ่มมี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนของพระสงฆ์
ต่อมาก็มี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนของเทวดา
ล่าสุด ก็มี พระเครื่อง ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่เพิ่งเสียชีวิต
ต่อไปจะมีอะไรอีก
องค์จตุคาม ที่โด่งดัง ผมว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่คงหวังเก็งกำไรมากกว่า
ต่อมาก็เริ่มมี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า
ต่อมาก็เริ่มมี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนของพระสงฆ์
ต่อมาก็มี พระเครื่อง ที่เป็นตัวแทนของเทวดา
ล่าสุด ก็มี พระเครื่อง ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่เพิ่งเสียชีวิต
ต่อไปจะมีอะไรอีก
องค์จตุคาม ที่โด่งดัง ผมว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่คงหวังเก็งกำไรมากกว่า
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 14
8) ไปๆมาๆ ต้องระวังนะครับ
มันจะเข้ากฏข้อที่ว่า เรื่องการเมือง กับเรื่องศาสนา
คุยไปก็.....ว่าความเชื่อครับ
ไม่มีที่สิ้นสุด
ผมเองก็มาแจมกระทู้นี้ด้วยเช่นกัน ไม่ได้ดีกว่าใคร
แต่ที่ดีกว่าหน่อยก็คือ
ตอนนี้ท่องอย่างเดียว ยึดมั่น มันกัดแน่ครับ...
มันจะเข้ากฏข้อที่ว่า เรื่องการเมือง กับเรื่องศาสนา
คุยไปก็.....ว่าความเชื่อครับ
ไม่มีที่สิ้นสุด
ผมเองก็มาแจมกระทู้นี้ด้วยเช่นกัน ไม่ได้ดีกว่าใคร
แต่ที่ดีกว่าหน่อยก็คือ
ตอนนี้ท่องอย่างเดียว ยึดมั่น มันกัดแน่ครับ...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 15
ชอบไอเดียท่านอาจารย์พยอมมากเลยครับ
ชาวพุทธนี้ อนาถแท้หนอ 8)
ชาวพุทธนี้ อนาถแท้หนอ 8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 16
ได้อ่านข่าวนี้กันหรือยังครับ
ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ๆ ครับ
ทั้งเศร้า ทั้งโกรธ คำด่าเต็มหัวผมไปหมดเลยครับตอนนี้
ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ๆ ครับ
ที่มา : http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=0101ประท้วงพระพยอมหมิ่นจตุคามฯ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ลานโพธิ์ หาดทรายแก้ว วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตัวแทนผู้จัดสร้างองค์จตุคามรามเทพแต่ละรุ่น ตัวแทนแผงพระ มีนายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นักวิชาการ เป็นแกนนำประท้วงกรณีพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี จัดสร้างคุกกี้ใช้ชื่อ "จตุคำ" และโฆษณาล้อเลียนองค์พ่อจตุคามรามเทพ โดยนายเชาวน์วัศกล่าวปราศรัยว่า แนวทางของพระพยอมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่การกล่าวพาดพิงองค์พ่อจตุคามฯนั้น ขอให้ยุติ หากยังไม่ยุติ จะมีมาตรการต่อต้าน จะไม่ใช่แค่การชุมนุมเท่านั้น แต่จะตอบโต้ให้หนัก พระพยอมควรยุติก่อนจะเกิดความรุนแรงขึ้น เนื่องจากคนที่เคารพศรัทธาในองค์พ่อจตุคามฯไม่ยอม
ทั้งเศร้า ทั้งโกรธ คำด่าเต็มหัวผมไปหมดเลยครับตอนนี้
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
คุ้กกี้ จตุคำ : อุ อา กะ สะ ๔ คำเตือนสติชาวพุทธ
โพสต์ที่ 17
ในสมัยที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ เรื่องราวแย่ๆ น่าเกลียดของเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายก็มีอยู่ประปราย น่าเสียดายที่ชนจำนวนมากหลีกเร้นออกจากแสงสว่างแต่สมัครใจที่จะจมจ่อมอยู่กับโมหะอันลึกซึ้ง 8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร