ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 1
เรื่องของเรื่องเกิดเมื่อวานนี้เองครับ ได้ไปกินฉลองวันเกิดแม่แฟนมาครับ
เป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ไปทานข้าวที่บ้านแฟน 8) ทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอด
แต่ดันมาสะดุดเอาตอนที่ พอรู้ว่าผมกำลังเล่นหุ้นอยู่ด้วยอะครับ บรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีเลย
จากที่คุยกันเรื่องเรื่อยเปื่อย สนุกสนาน กลายเป็นทั้ง 2 ท่านพยายามเตือนผมว่ามันเสี่ยงสูง
เดี๋ยวจะเจ๊งเอา พร้อมยกตัวอย่างคนที่ท่านรู้จัก เค้าเคยขายเพชรมาก่อน พอมาเล่นหุ้นปุ๊บ
อู้หู้ วันๆ หนึ่งได้เบนซ์มาทีคันสองคัน เลยตัดสินใจเลิกขายร้านเพชร ขายที่ ญาติคนไหนพอมีที่ดินอยู่
ก็ขอเอาไปจำนอง นำเงินทั้งหมดมาลงในตลาดหุ้น สุดท้ายก็อย่างที่รู้ๆกันนะครับว่าเป็นยังไง...
สุดท้ายพ่อแม่แฟนผมคงจะสังเกตเห็นว่าผมเงียบๆ เลยหยุดอธิบายแล้วบอกแค่ว่าให้ระวังๆ หน่อยล่ะกัน
ส่วนตัวผมที่จะไปอธิบายว่าที่ผมทำอยู่คือการลงทุน ไม่ใช้การเก็งกำไรแต่ใช้วิธีการตามหลักการ VI ฯลฯ...
ในเวลานั้นก็คิดว่าถ้าพูดไป ก็ยิ่งทำให้เรื่องมันแย่ลงมากกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไม่ยอมรับความหวังดีจากท่านแทน
เลยกลายเป็นว่าภาพพจน์ในสายตาของท่านทั้ง 2 มันดูตกลงยังไงไม่รู้สิ
เลยมาขอคำแนะนำจาก พี่ๆ อาวุโส ทั้งหลายหน่อยครับ ว่าจะเปลี่ยนทัศนะของพ่อแม่แฟนผมยังไงดี :lol:
ตอนแรกจะพิสูจน์ให้ดูก็กลัวว่าจะแก่ก่อนได้แต่งเนี่ยสิครับ แหะๆ
แฟนเข้าใจ แต่พ่อแม่แฟนไม่เข้าใจ นี่กลุ้มจังเนอะ :(
เป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ไปทานข้าวที่บ้านแฟน 8) ทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอด
แต่ดันมาสะดุดเอาตอนที่ พอรู้ว่าผมกำลังเล่นหุ้นอยู่ด้วยอะครับ บรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีเลย
จากที่คุยกันเรื่องเรื่อยเปื่อย สนุกสนาน กลายเป็นทั้ง 2 ท่านพยายามเตือนผมว่ามันเสี่ยงสูง
เดี๋ยวจะเจ๊งเอา พร้อมยกตัวอย่างคนที่ท่านรู้จัก เค้าเคยขายเพชรมาก่อน พอมาเล่นหุ้นปุ๊บ
อู้หู้ วันๆ หนึ่งได้เบนซ์มาทีคันสองคัน เลยตัดสินใจเลิกขายร้านเพชร ขายที่ ญาติคนไหนพอมีที่ดินอยู่
ก็ขอเอาไปจำนอง นำเงินทั้งหมดมาลงในตลาดหุ้น สุดท้ายก็อย่างที่รู้ๆกันนะครับว่าเป็นยังไง...
สุดท้ายพ่อแม่แฟนผมคงจะสังเกตเห็นว่าผมเงียบๆ เลยหยุดอธิบายแล้วบอกแค่ว่าให้ระวังๆ หน่อยล่ะกัน
ส่วนตัวผมที่จะไปอธิบายว่าที่ผมทำอยู่คือการลงทุน ไม่ใช้การเก็งกำไรแต่ใช้วิธีการตามหลักการ VI ฯลฯ...
ในเวลานั้นก็คิดว่าถ้าพูดไป ก็ยิ่งทำให้เรื่องมันแย่ลงมากกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไม่ยอมรับความหวังดีจากท่านแทน
เลยกลายเป็นว่าภาพพจน์ในสายตาของท่านทั้ง 2 มันดูตกลงยังไงไม่รู้สิ
เลยมาขอคำแนะนำจาก พี่ๆ อาวุโส ทั้งหลายหน่อยครับ ว่าจะเปลี่ยนทัศนะของพ่อแม่แฟนผมยังไงดี :lol:
ตอนแรกจะพิสูจน์ให้ดูก็กลัวว่าจะแก่ก่อนได้แต่งเนี่ยสิครับ แหะๆ
แฟนเข้าใจ แต่พ่อแม่แฟนไม่เข้าใจ นี่กลุ้มจังเนอะ :(
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 3
ผมไม่เคยอธิบายว่าแนว VI ดียังไงให้คนที่ไม่ชอบเล่นหุ้นฟังแล้วเปลี่ยนความคิดได้เลยครับ ยากจริงๆ คงต้องให้เรื่องหุ้นของเราไปถึงหูเขาน้อยลง นำเสนอด้านอื่นของเราแทนอย่างที่คุณ miracle บอก คุยเรื่องงานประจำบ่อยๆ ก็ได้
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 5
ผมใช้วิธีคิดว่าเรารักแฟน ไม่ได้รักพ่อแม่เขา
อีกอย่างเงินที่คุณลงทุนก็เงินของคุณไม่ใช่เงินของแฟนคุณ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะครับ
เห็นด้วยกับพี่ๆทั้งหลายว่าไม่ควรไปพยายามให้เขาทำความเข้าใจ พยายามเปลี่ยนเรื่องดีที่สุดครับ ให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ดีกว่าครับ :o
อีกอย่างเงินที่คุณลงทุนก็เงินของคุณไม่ใช่เงินของแฟนคุณ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะครับ
เห็นด้วยกับพี่ๆทั้งหลายว่าไม่ควรไปพยายามให้เขาทำความเข้าใจ พยายามเปลี่ยนเรื่องดีที่สุดครับ ให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ดีกว่าครับ :o
-
- Verified User
- โพสต์: 526
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 6
เห็นด้วยครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าตลาดแล้วถูกทางบ้านขัดขวางแต่ก็สามารถพิสูจน์การลงทุนแบบ VI ว่าความสำเร็จเป็นอย่างไร สุดท้ายทางบ้านก็ลงทุนในหุ้นแบบ VI กันหมดเลยครับ แต่พวกเขาจะเก็บหุ้นตามที่ผมเลือกไว้ให้ก่อนใตแต่ละปีครับ เพราะต้องวางแผนกันเป็นปี เพื่อความปลอดภัยไม่เน้นเก็งกำไรครับ
When I believe in concept of Benjamin Graham.
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 7
ถ้าคุณรักแฟนคนนี้มาก และต้องการแต่งงานกับเธอ ก็คงต้องเลิกคุยเรื่องลงทุนในหุ้นให้พ่อแม่เขาฟัง แล้วคุยเรื่องงานประจำแทน
เมื่อแต่งงานไปแล้วก็ไม่ต้องให้พ่อแม่เขารู้ว่าเราลงทุนในหุ้น ดังนั้นควรทำงานประจำต่อไปเรื่อยๆก่อน แต่ถ้าอนาคตคุณเกิดรวยด้วยหุ้นจนไม่ต้องทำงานคือรายได้จากปันผล cover ค่าใช้จ่ายหมดแล้ว คุณอาจจะทำงานน้อยลงหรือเลิกทำงานก็ได้
ระหว่างที่ยังไม่รวยด้วยหุ้น อย่าลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียว และอย่าเอาเงินทั้งหมดมาลงทุนในหุ้น ให้ลงทุนอย่างอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำบ้าง เพราะเวลาที่หมีตะปปเป็นชุด คุณก็ยังมีเงินใช้ ไม่ต้องขายหุ้นสุดรักของคุณในราคา summer sale และไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่แฟนและพ่อแม่เรา
ส่วนตัวผมคงจะทำงานไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าอนาคตจะมีวาสนารวยด้วยหุ้น เพราะผมรู้สึกว่าการเล่นหุ้นอย่างเดียว ถ้าเราเก่ง เรารวยคนเดียว ไม่ได้เพิ่มผลิตภาพให้สังคม ไม่ได้สร้างงานให้คนอื่น ไม่ได้รับใช้สังคมตามความสามารถที่มี ผมเล่นหุ้นเพียงเพื่อเปิดโลกทัศน์ด้านอื่นๆ นอกจากด้านที่ได้ปริญญามาเท่านั้น และหวังว่าหุ้นที่ลงทุนไปตอนนี้ จะเลี้ยงดูผมให้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลามากๆ และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากๆโดยที่ยังมีกินมีใช้และซื้อหาความสุขที่ครอบครัวพึงได้รับแค่นั้นเองครับ
เมื่อแต่งงานไปแล้วก็ไม่ต้องให้พ่อแม่เขารู้ว่าเราลงทุนในหุ้น ดังนั้นควรทำงานประจำต่อไปเรื่อยๆก่อน แต่ถ้าอนาคตคุณเกิดรวยด้วยหุ้นจนไม่ต้องทำงานคือรายได้จากปันผล cover ค่าใช้จ่ายหมดแล้ว คุณอาจจะทำงานน้อยลงหรือเลิกทำงานก็ได้
ระหว่างที่ยังไม่รวยด้วยหุ้น อย่าลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียว และอย่าเอาเงินทั้งหมดมาลงทุนในหุ้น ให้ลงทุนอย่างอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำบ้าง เพราะเวลาที่หมีตะปปเป็นชุด คุณก็ยังมีเงินใช้ ไม่ต้องขายหุ้นสุดรักของคุณในราคา summer sale และไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่แฟนและพ่อแม่เรา
ส่วนตัวผมคงจะทำงานไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าอนาคตจะมีวาสนารวยด้วยหุ้น เพราะผมรู้สึกว่าการเล่นหุ้นอย่างเดียว ถ้าเราเก่ง เรารวยคนเดียว ไม่ได้เพิ่มผลิตภาพให้สังคม ไม่ได้สร้างงานให้คนอื่น ไม่ได้รับใช้สังคมตามความสามารถที่มี ผมเล่นหุ้นเพียงเพื่อเปิดโลกทัศน์ด้านอื่นๆ นอกจากด้านที่ได้ปริญญามาเท่านั้น และหวังว่าหุ้นที่ลงทุนไปตอนนี้ จะเลี้ยงดูผมให้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลามากๆ และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากๆโดยที่ยังมีกินมีใช้และซื้อหาความสุขที่ครอบครัวพึงได้รับแค่นั้นเองครับ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 8
อ้าว กลายเป็นมาอยู่ห้องนั่งเล่นแล้วเหรอเนี่ย
ต้องขอโทษทีม mod ด้วยนะครับ โพสผิดห้อง :lol:
ตอนนี้ผมกลับมาช่วยกิจการที่บ้านอยู่ครับ คือที่บ้านแฟนก็รู้อยู่แล้วเพียงแต่แฟนผมทำงานอยู่กรุงเทพครับ
ส่วนผมต้องทำงานอยู่ที่ประจวบฯ เรื่องที่จะไปหากันก็เลยลำบากหน่อย อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจหันมาลงทุนหุ้นครับ
เพื่อจะได้มีอิสรภาพทางการเงิน+มีเวลาเหมือนคนอื่นๆ บ้าง
คือที่จริง เรื่องจะแต่งไม่แต่งมันยังอีกนานอะครับ ไม่ได้รีบอะไรหรอก สำหรับแฟนผมคนนี้ก็คบมาได้เกือบ 6 ปีแล้วครับ
ตอนนี้ผมอาจคิดว่าใช่แน่ๆ แต่ในอนาคตมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ใครจะรู้ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
แต่ที่ทำให้ผมกลับมาคิดก็คือ คนทั่วไปยังมีมุมมองในแง่ลบกับคนเล่นหุ้นอยู่เยอะมากๆ
ผมเคยไปบอกน้าข้างบ้านว่าตอนนี้ทำอาชีพ "เล่นหุ้น" ตอนที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านใหม่ๆ น้ายังทำหน้าอึ้งๆ เลยครับ
แล้วก็พอมารู้อีกที คือแกไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟังด้วย แต่พูดประมาณว่า หมดตู_ แน่ๆ เจ๊งแน่ๆ ครับ
สำหรับพ่อแม่แฟนผมคงคิดไปแล้วว่า แต่งงานไปลูกเค้าทำงานประจำ ไอ้นี่เอาแต่เล่นหุ้นไปวันๆ หุหุ ภาพคงออกมาเป็นยังงี้
เลยเอามาคิดกลับ เล่นหุ้นมันไม่ดียังไง มันเหมือนเล่นหวยเล่นพนันเหรอ
รู้สึกว่าเหมือนคนทำ amway ยังไงไม่รู้ :lol:
ต้องขอโทษทีม mod ด้วยนะครับ โพสผิดห้อง :lol:
ตอนนี้ผมกลับมาช่วยกิจการที่บ้านอยู่ครับ คือที่บ้านแฟนก็รู้อยู่แล้วเพียงแต่แฟนผมทำงานอยู่กรุงเทพครับ
ส่วนผมต้องทำงานอยู่ที่ประจวบฯ เรื่องที่จะไปหากันก็เลยลำบากหน่อย อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจหันมาลงทุนหุ้นครับ
เพื่อจะได้มีอิสรภาพทางการเงิน+มีเวลาเหมือนคนอื่นๆ บ้าง
คือที่จริง เรื่องจะแต่งไม่แต่งมันยังอีกนานอะครับ ไม่ได้รีบอะไรหรอก สำหรับแฟนผมคนนี้ก็คบมาได้เกือบ 6 ปีแล้วครับ
ตอนนี้ผมอาจคิดว่าใช่แน่ๆ แต่ในอนาคตมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ใครจะรู้ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
แต่ที่ทำให้ผมกลับมาคิดก็คือ คนทั่วไปยังมีมุมมองในแง่ลบกับคนเล่นหุ้นอยู่เยอะมากๆ
ผมเคยไปบอกน้าข้างบ้านว่าตอนนี้ทำอาชีพ "เล่นหุ้น" ตอนที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านใหม่ๆ น้ายังทำหน้าอึ้งๆ เลยครับ
แล้วก็พอมารู้อีกที คือแกไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟังด้วย แต่พูดประมาณว่า หมดตู_ แน่ๆ เจ๊งแน่ๆ ครับ
สำหรับพ่อแม่แฟนผมคงคิดไปแล้วว่า แต่งงานไปลูกเค้าทำงานประจำ ไอ้นี่เอาแต่เล่นหุ้นไปวันๆ หุหุ ภาพคงออกมาเป็นยังงี้
เลยเอามาคิดกลับ เล่นหุ้นมันไม่ดียังไง มันเหมือนเล่นหวยเล่นพนันเหรอ
รู้สึกว่าเหมือนคนทำ amway ยังไงไม่รู้ :lol:
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 9
อ้อ ส่วนเรื่องที่คุณ miracle ถาม พ่อแม่แฟนเค้าไม่ได้เจ๊งอะไรกับตลาดหุ้นมาหรอกครับ
แต่ได้ฟังได้ยินมาจากคนแถวบ้านที่เจ๊งมา + การเขียนข่าวหลังจากที่ดัชนีตกจาก 1700 จุด
แล้วมีคนฆ่าตัวตายมากกว่าครับ เลยกลัวว่าจะเป็นยังไงบ้างมั่งครับ :lol:
อีกอย่างที่ทำให้ผมมีความคิดที่จะเน้นลงทุนหุ้นเพราะเคยคุยกับแฟนครับว่า เค้าอยากทำงานอยู่ที่กรุงเทพจะได้อยู่ใกล้ๆ
ดูแลพ่อแม่เค้านะครับ (พ่อของแฟนผมเป็นอัมพฤกครับ ไม่รู้ว่าสะกดถูกป่าว) ผมเลยมาคิดต่อว่า
ถ้าเกิดต่อไปได้แต่งงานจริงๆ ผมคงต้องปิดร้านแล้วย้ายมาอยู่กรุงเทพด้วย
เลยคิดว่าน่าจะมีรายได้จากทางหุ้นให้มากพอก่อนที่จะไปหางานใหม่ทำในกรุงเทพนะครับ
หรือเน้นทางนี้ลงทุนอย่างเดียวไปเลย 8)
แต่ได้ฟังได้ยินมาจากคนแถวบ้านที่เจ๊งมา + การเขียนข่าวหลังจากที่ดัชนีตกจาก 1700 จุด
แล้วมีคนฆ่าตัวตายมากกว่าครับ เลยกลัวว่าจะเป็นยังไงบ้างมั่งครับ :lol:
อีกอย่างที่ทำให้ผมมีความคิดที่จะเน้นลงทุนหุ้นเพราะเคยคุยกับแฟนครับว่า เค้าอยากทำงานอยู่ที่กรุงเทพจะได้อยู่ใกล้ๆ
ดูแลพ่อแม่เค้านะครับ (พ่อของแฟนผมเป็นอัมพฤกครับ ไม่รู้ว่าสะกดถูกป่าว) ผมเลยมาคิดต่อว่า
ถ้าเกิดต่อไปได้แต่งงานจริงๆ ผมคงต้องปิดร้านแล้วย้ายมาอยู่กรุงเทพด้วย
เลยคิดว่าน่าจะมีรายได้จากทางหุ้นให้มากพอก่อนที่จะไปหางานใหม่ทำในกรุงเทพนะครับ
หรือเน้นทางนี้ลงทุนอย่างเดียวไปเลย 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 10
"Actions speak louder than words" ครับ
ที่บ้านแฟน ตอนแรกก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการเล่นหุ้น
แต่ผมสามารถอธิบายได้ด้วยผลตอบแทนที่สามารถทำได้ครับ
เช่นปีนี้ได้ผลตอบแทนกี่ % ได้ปันผลกี่ %
ตั้งแต่ลงทุนมาได้ผลตอบแล้วกี่ % อะไรแบบนี้อ่ะครับ
ทำไมเราต้องลงทุนในหุ้น ทำไมเราถึงไม่ฝากเงินไว้ในธนาคารทั้งหมด
เช่นเหตุผลทางด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่ออำนาจการซื้อ
เราไม่ได้เล่นหุ้น แต่เราลงทุน เราเลือกเป็นเจ้าของร่วมในกิจการที่ดี
ที่เราไม่สามารถก่อตั้งขึ้นเองได้ หรือไม่มีความสามารถที่จะไปบริหารเอง
อธิบายให้ฟังในด้านความเสี่ยง
ความเสี่ยงย่อมมี แต่สามารถลดลงได้ด้วยการศึกษาในบริษัทเหล่านั้น
พอตลาดตก ๆ เค้าก็จะเริ่มห่วงเราก็จะถามเราอีกว่า
"เป็นไง หุ้นเป็นไงบ้าง"
เราก็ตอบว่า ก็ปกติครับ ตลาดขึ้นหรือลงเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ได้สนใจมากนัก เราสนใจแต่บริษัทที่เราลงทุน
และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีก็ยังใช้ได้
และเราไม่ได้จ้องเก็งกำไรซื้อขายหุ้นรายวัน
ผมว่าทัศนคติที่ไม่ดีที่เคยได้รับรู้มา
ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
ว่า... เออ... ลงทุนแบบนี้คงไม่มีเจ๊ง
อย่างมากก็ขาดทุนเล็กๆน้อยๆ
แล้วเค้าก็จะเลิกสนใจและเลิกห่วงว่าเราจะเจ๊งหุ้นไปเองครับ
อันนี้ประสบการณ์ผมนะ
ที่บ้านแฟน ตอนแรกก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการเล่นหุ้น
แต่ผมสามารถอธิบายได้ด้วยผลตอบแทนที่สามารถทำได้ครับ
เช่นปีนี้ได้ผลตอบแทนกี่ % ได้ปันผลกี่ %
ตั้งแต่ลงทุนมาได้ผลตอบแล้วกี่ % อะไรแบบนี้อ่ะครับ
ทำไมเราต้องลงทุนในหุ้น ทำไมเราถึงไม่ฝากเงินไว้ในธนาคารทั้งหมด
เช่นเหตุผลทางด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่ออำนาจการซื้อ
เราไม่ได้เล่นหุ้น แต่เราลงทุน เราเลือกเป็นเจ้าของร่วมในกิจการที่ดี
ที่เราไม่สามารถก่อตั้งขึ้นเองได้ หรือไม่มีความสามารถที่จะไปบริหารเอง
อธิบายให้ฟังในด้านความเสี่ยง
ความเสี่ยงย่อมมี แต่สามารถลดลงได้ด้วยการศึกษาในบริษัทเหล่านั้น
พอตลาดตก ๆ เค้าก็จะเริ่มห่วงเราก็จะถามเราอีกว่า
"เป็นไง หุ้นเป็นไงบ้าง"
เราก็ตอบว่า ก็ปกติครับ ตลาดขึ้นหรือลงเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ได้สนใจมากนัก เราสนใจแต่บริษัทที่เราลงทุน
และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีก็ยังใช้ได้
และเราไม่ได้จ้องเก็งกำไรซื้อขายหุ้นรายวัน
ผมว่าทัศนคติที่ไม่ดีที่เคยได้รับรู้มา
ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
ว่า... เออ... ลงทุนแบบนี้คงไม่มีเจ๊ง
อย่างมากก็ขาดทุนเล็กๆน้อยๆ
แล้วเค้าก็จะเลิกสนใจและเลิกห่วงว่าเราจะเจ๊งหุ้นไปเองครับ
อันนี้ประสบการณ์ผมนะ
"Winners never quit, and quitters never win."
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 11
เห็นหัวข้อแล้ว เป็นผมก็ไม่ชอบแน่หากมีลูกสาวแล้วมีแฟนเล่นหุ้น
แต่ถ้ามีแฟนลงทุนในหุ้นก็ว่าไปอย่าง :lol: :P
แต่ถ้ามีแฟนลงทุนในหุ้นก็ว่าไปอย่าง :lol: :P
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1434
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 12
ผมเคยเล่นหุ้นแบบหลบๆซ่อนๆ มาเกือบ 10 ปี หุ้นในสายตาคนทั่วไป คล้ายแมลงสาบมองคนขายประกัน !!!!!
ตอนนี้ เริ่มเป็นนักลงทุน มาระยะหนึ่ง สบายใจขึ้นที่จะตอบใครได้ว่ามีงานอดิเรกเป็น การลงทุน
แต่ อนิจจา ยากที่จะบอกคนทั่วๆไปให้เข้าใจ ความแตกต่างระหว่าง ลงทุน กับเล่นหุ้น เขาเข้าใจเรื่องหวยได้ง่ายกว่าเยอะ เลยสรุปว่าหุ้นกับหวยพอๆกัน
จึงสรุปได้ว่า จะคุยแต่เรื่องที่คนจะคุยด้วยแล้วเขาสบายใจก็พอ รวยคนเดียวเงียบๆดีกั่ว เรื่องหุ้นมาคุยใน tvi สบายใจ :)
ถ้าจำเป็น จขกท. ลองให้พ่อแฟนสมัคร tvi ดูก็ได้ อาจฟลุ้คคุยกันถูกคอก็ได้
ตอนนี้ เริ่มเป็นนักลงทุน มาระยะหนึ่ง สบายใจขึ้นที่จะตอบใครได้ว่ามีงานอดิเรกเป็น การลงทุน
แต่ อนิจจา ยากที่จะบอกคนทั่วๆไปให้เข้าใจ ความแตกต่างระหว่าง ลงทุน กับเล่นหุ้น เขาเข้าใจเรื่องหวยได้ง่ายกว่าเยอะ เลยสรุปว่าหุ้นกับหวยพอๆกัน
จึงสรุปได้ว่า จะคุยแต่เรื่องที่คนจะคุยด้วยแล้วเขาสบายใจก็พอ รวยคนเดียวเงียบๆดีกั่ว เรื่องหุ้นมาคุยใน tvi สบายใจ :)
ถ้าจำเป็น จขกท. ลองให้พ่อแฟนสมัคร tvi ดูก็ได้ อาจฟลุ้คคุยกันถูกคอก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 13
ผมว่าถ้าทำได้
1. ลองอธิบายให้ท่านได้รู้ว่าการเล่นหุ้นกับการลงทุนต่างกันอย่างไร
2. หาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนให้ท่านอ่าน
3. อย่างที่คุณ nam บอกครับลองให้ท่านได้เข้ามาอ่านในเวป thaivi
เพราะเมื่อก่อนผมก็มีอคติกับการเล่นหุ้นและมีอคติกับคนเล่นหุ้น พอได้อ่านหน้งสือของ ดร.นิเวศน์ และคุณมนตรี คุณวิบูลย์ จึงสนใจการลงทุน และคิดว่าทำไมเราถึงได้ตาบอดอยู่นาน
1. ลองอธิบายให้ท่านได้รู้ว่าการเล่นหุ้นกับการลงทุนต่างกันอย่างไร
2. หาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนให้ท่านอ่าน
3. อย่างที่คุณ nam บอกครับลองให้ท่านได้เข้ามาอ่านในเวป thaivi
เพราะเมื่อก่อนผมก็มีอคติกับการเล่นหุ้นและมีอคติกับคนเล่นหุ้น พอได้อ่านหน้งสือของ ดร.นิเวศน์ และคุณมนตรี คุณวิบูลย์ จึงสนใจการลงทุน และคิดว่าทำไมเราถึงได้ตาบอดอยู่นาน
สติมา ปัญญาเกิด
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 15
ผมก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่กับแฟนเลย ก็พยายามอธิบายนะครับว่าฝากธนาคารมา เงินเฟ้อก็กินเงินต้นไปหมด เล่นหุ้นแบบ ปลอดภัยกินปันผลยังได้มากกว่าเลย แฟนก็ถามแต่ประโยคว่า แล้วถ้าหุ้นลงมันขาดทุนหละ =_=" ตอนนี้เลยให้แฟนซื้อ LTF ของ Aberdeen ไว้ แถมประกันเงินต้นให้ด้วยว่า ครบกำหนดมา ถ้าเงินต้นหายจะออกให้ (ภาวนาในใจขอให้ Fund Manager ช่วยหน่อยเถิด 555) หวังว่าจะช่วยเปลี่ยนความคิดเค้าได้บ้างนะครับเนี่ย
กับพ่อแม่ตัวเองยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ผมลงทุนก็บอกว่า หุ้นมันขึ้นมาแล้วทำไมไม่เล่นแบบซื้อมาขายไปดีกว่ามั้ย (เป็นงั้นไป) แต่กับพ่อแม่นี่ช่วยไม่ได้ครับ คงฝังใจ เพราะว่าเหมือนว่าพ่อได้หุ้นมาก่อน ต้มยำกุ้ง แล้วหุ้นขึ้นมา เกือบสิบเท่าก็ไม่ขาย ตอนนี้ ขาดทุนอยู่ครับ หุหุหุ
กับพ่อแม่ตัวเองยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ผมลงทุนก็บอกว่า หุ้นมันขึ้นมาแล้วทำไมไม่เล่นแบบซื้อมาขายไปดีกว่ามั้ย (เป็นงั้นไป) แต่กับพ่อแม่นี่ช่วยไม่ได้ครับ คงฝังใจ เพราะว่าเหมือนว่าพ่อได้หุ้นมาก่อน ต้มยำกุ้ง แล้วหุ้นขึ้นมา เกือบสิบเท่าก็ไม่ขาย ตอนนี้ ขาดทุนอยู่ครับ หุหุหุ
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 16
เล่าให้ฟังครับ
ผมใช้เวลา แป๊ปเดียว ในการอธิบายคนให้เข้าใจครับ
ผมพูดว่า
ผมลงทุนในหุ้น ไม่ได้เล่นหุ้น
ซื้อหุ้นเหมือนเป็นเจ้าของ
ลงทุนแล้วเป็นหลายๆเดือน หรือเป็นปีถึงจะขาย
ผมบอกว่าอุตส่าเรียน ป.โท ไฟแนน ก็เพราะมั่นใจกับการลงทุน
ว่าจะเอาที่เรียนมาใช้ได้
ผมลงทุนโดยที่ไปแวะดูกิจการด้วย เช่นตอนถือ bigc
ก็ไปดูว่าขายดีหรือเปล่า พนักงานทำงานแล้วสบายใจไหม
งานหนักหรือเปล่า ถ้างานหนัก แต่พนักงานรักบริษัท
โอ้ เป็นบริษัททีดี :D
การใช้วิธีดูง่ายๆ แบบที่คนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจ อธิบายง่ายมากครับ
แล้วผมก็เล่าให้คนที่คุยด้วยให้ฟังว่า
ผมแนะนำการจัดระเบียบการเงินให้ได้
โดยค่อยๆอธิบายเรื่องอายุ กับโครงสร้างเงินเก็บ
ในรูปแบบต่างๆ
บางคนคุยไปคุยมา ฝากผมลงทุนซะงั้น :lol:
ผมใช้เวลา แป๊ปเดียว ในการอธิบายคนให้เข้าใจครับ
ผมพูดว่า
ผมลงทุนในหุ้น ไม่ได้เล่นหุ้น
ซื้อหุ้นเหมือนเป็นเจ้าของ
ลงทุนแล้วเป็นหลายๆเดือน หรือเป็นปีถึงจะขาย
ผมบอกว่าอุตส่าเรียน ป.โท ไฟแนน ก็เพราะมั่นใจกับการลงทุน
ว่าจะเอาที่เรียนมาใช้ได้
ผมลงทุนโดยที่ไปแวะดูกิจการด้วย เช่นตอนถือ bigc
ก็ไปดูว่าขายดีหรือเปล่า พนักงานทำงานแล้วสบายใจไหม
งานหนักหรือเปล่า ถ้างานหนัก แต่พนักงานรักบริษัท
โอ้ เป็นบริษัททีดี :D
การใช้วิธีดูง่ายๆ แบบที่คนทั่วไปฟังแล้วเข้าใจ อธิบายง่ายมากครับ
แล้วผมก็เล่าให้คนที่คุยด้วยให้ฟังว่า
ผมแนะนำการจัดระเบียบการเงินให้ได้
โดยค่อยๆอธิบายเรื่องอายุ กับโครงสร้างเงินเก็บ
ในรูปแบบต่างๆ
บางคนคุยไปคุยมา ฝากผมลงทุนซะงั้น :lol:
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 17
ผม ไม่อาวุโส ครับ แต่ว่าอยากแสดงความเห็นด้วย ผมคิดว่าพ่อแม่แฟน ของ คุณ เค้าก็พูดด้วยความหวังดีน่ะครับ เรื่องจะเปลี่ยนทัศนคติ ทำไม่ได้แน่แน่ครับ เพราะคนที่ไม่ยอมรับหุ้น ยังไงก็ไม่ยอมรับ นอกจากว่า เราจะลงทุนในหุ้นจน สำเร็จมากมาก นั่นแหล่ะครับ ถึงจะพอยอมรับได้
แต่ถึงอย่างนั้น คนนอกก็มองเราไม่ดีอยู่ดี คือคนที่ตัวเค้าลงทุนไม่สำเร็จ ก็มักคิดว่าคนอื่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพื่อนผมหลายคน ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักหลายคน
ก็เป็นแบบนี้ แม้ว่าหลายครั้งผมพยายามอธิบาย ยกตัวอย่าง ดร เอย บัฟเฟ็ตเอย
กลับได้รับคำตอบว่า พวกนี้มัน inside บ้าง ปั่นหุ้น บ้าง หนักเข้าเป็น nominee นักการเมือง บ้างล่ะ
ผมเลยเลิกอธิบาย เลิกพูด
ผมยังเคยโพสถามในที่นี้ ไว้ ว่า ถ้าเราเป็นอิสระการเงินแล้ว เราจะทำอะไร
คนในสังคมไม่ยอมรับอาชีพนักลงทุน ต่อให้คุณ เป็นอิสระทางการเงินแล้ว คูรสามารถทำสิ่งที่คุณชอบ ได้ โดยไม่ต้องทำงานประจำ เวลาคนถามคุณว่าคุรทำงานอะไร ก็ตอบเค้าไม่ได้อยู่ดี เพราะตอบไป คนก็จะ "อ้อ เล่นหุ้น "
บ้างก็ว่า พวกไม่ทำอะไร นักพนัน ฯลฯ
ผมว่า ในเมื่อคนไม่ยอมรับกันนัก ก็ไม่ต้องบอกใครหรอกครับ ว่าเรากำลังทำอะไร ไม่ต้องอธิบายด้วยครับ ในเมื่อไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
แต่ถึงอย่างนั้น คนนอกก็มองเราไม่ดีอยู่ดี คือคนที่ตัวเค้าลงทุนไม่สำเร็จ ก็มักคิดว่าคนอื่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพื่อนผมหลายคน ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักหลายคน
ก็เป็นแบบนี้ แม้ว่าหลายครั้งผมพยายามอธิบาย ยกตัวอย่าง ดร เอย บัฟเฟ็ตเอย
กลับได้รับคำตอบว่า พวกนี้มัน inside บ้าง ปั่นหุ้น บ้าง หนักเข้าเป็น nominee นักการเมือง บ้างล่ะ
ผมเลยเลิกอธิบาย เลิกพูด
ผมยังเคยโพสถามในที่นี้ ไว้ ว่า ถ้าเราเป็นอิสระการเงินแล้ว เราจะทำอะไร
คนในสังคมไม่ยอมรับอาชีพนักลงทุน ต่อให้คุณ เป็นอิสระทางการเงินแล้ว คูรสามารถทำสิ่งที่คุณชอบ ได้ โดยไม่ต้องทำงานประจำ เวลาคนถามคุณว่าคุรทำงานอะไร ก็ตอบเค้าไม่ได้อยู่ดี เพราะตอบไป คนก็จะ "อ้อ เล่นหุ้น "
บ้างก็ว่า พวกไม่ทำอะไร นักพนัน ฯลฯ
ผมว่า ในเมื่อคนไม่ยอมรับกันนัก ก็ไม่ต้องบอกใครหรอกครับ ว่าเรากำลังทำอะไร ไม่ต้องอธิบายด้วยครับ ในเมื่อไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ที่คอยให้คำแนะนำ เวปนี้มีแต่คนใจดี อบอุ่นมากๆครับ
รู้สึกว่าจะมีแต่คนที่ลงทุนหุ้นแนวนี้ด้วยกันเท่านั้นมั่งครับ ที่พอจะเข้าใจกัน :lol:
จากคำแนะนำที่ได้มา ช่วงนี้ผมคงไม่ไปคุยเรื่องหุ้นให้ท่านฟังหรอกครับ ให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์คงจะดีที่สุดจริงๆ
(เรื่องจะไปนั่งอธิบาย หรือหาหนังสือให้อ่านคงยากอะครับ กลัวว่าท่านจะเซ็งเอาเปล่าๆ)
ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน + ลงทุนหุ้น ไปเรื่อยๆ หวังว่าท่านทั้ง 2 คงพอที่จะเปิดใจ รับฟังแนวคิดที่ผมทำอยู่บ้าง
ดังนั้นช่วงนี้พอร์ตผมเลยมีลักษณะ อนุรักษ์นิยมมากๆ ครับ เอาประมาณว่า กำไรมากน้อยไม่ว่า แต่ขออย่าขาดทุนละกัน :lol:
ส่วน
[quote="BHT"]เรื่องมากนัก หาแฟนใหม่ไปเลย ง่ายดี 555
รู้สึกว่าจะมีแต่คนที่ลงทุนหุ้นแนวนี้ด้วยกันเท่านั้นมั่งครับ ที่พอจะเข้าใจกัน :lol:
จากคำแนะนำที่ได้มา ช่วงนี้ผมคงไม่ไปคุยเรื่องหุ้นให้ท่านฟังหรอกครับ ให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์คงจะดีที่สุดจริงๆ
(เรื่องจะไปนั่งอธิบาย หรือหาหนังสือให้อ่านคงยากอะครับ กลัวว่าท่านจะเซ็งเอาเปล่าๆ)
ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน + ลงทุนหุ้น ไปเรื่อยๆ หวังว่าท่านทั้ง 2 คงพอที่จะเปิดใจ รับฟังแนวคิดที่ผมทำอยู่บ้าง
ดังนั้นช่วงนี้พอร์ตผมเลยมีลักษณะ อนุรักษ์นิยมมากๆ ครับ เอาประมาณว่า กำไรมากน้อยไม่ว่า แต่ขออย่าขาดทุนละกัน :lol:
ส่วน
[quote="BHT"]เรื่องมากนัก หาแฟนใหม่ไปเลย ง่ายดี 555
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 19
ไม่แปลกที่ท่านคิดอย่างนั้น
และท่านอาจคิดถูกก็ได้
ไม่มีอะไรที่จะอธิบายได้ดีกว่าการกระทำให้
เป็นที่ประจักษ์ในระยะยาว
รักแฟน(ภรรยา) ก็ต้องพยายามรักพ่อแม่แฟนให้เหมือนพ่อแม่เรา
และท่านอาจคิดถูกก็ได้
ไม่มีอะไรที่จะอธิบายได้ดีกว่าการกระทำให้
เป็นที่ประจักษ์ในระยะยาว
รักแฟน(ภรรยา) ก็ต้องพยายามรักพ่อแม่แฟนให้เหมือนพ่อแม่เรา
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 20
8) คิดเหมือนพี่เต่าเป๊ะเลยครับต.หยวนเปียว เขียน:ไม่แปลกที่ท่านคิดอย่างนั้น
และท่านอาจคิดถูกก็ได้
ไม่มีอะไรที่จะอธิบายได้ดีกว่าการกระทำให้
เป็นที่ประจักษ์ในระยะยาว
รักแฟน(ภรรยา) ก็ต้องพยายามรักพ่อแม่แฟนให้เหมือนพ่อแม่เรา
โดยเฉพาะที่ว่ารักเมียเรา ก็ต้องรักพ่อแม่แฟนเราให้เหมือนพ่อแม่เรา
อันนี้ถือเป็นคติประจำใจทีเดียวครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 21
แปลกนะครับ ที่ผมเห็นหลายคนแนะนำว่า ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเกี่ยวกับแนวทางการลงทุน รอให้ผลตอบแทนที่ดีออกมาแล้วท่านก็จะเข้าใจเอง
ดูเหมือนว่า ผลตอบแทน จะเป็นสิ่งสำคัญกว่า แนวทาง นะครับ
ส่วนตัวของผมแล้ว เมื่อแต่งงานใหม่ๆ แฟนก็ไม่ค่อยชอบ ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน
เราเลยตกลงว่าจะกันเงินส่วนหนึ่งมาลงทุน หมดก็คือหมดครับ ไม่มีการเพิ่มทุนโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางจิตใจของแฟนครับ
ปัจจุบันยิ่งผมไม่ได้ทำงานประจำแล้ว สังคมรอบข้าง (ที่ไม่สนิทกับเรามากนัก) ก็มองแปลกๆ
ดูเหมือนว่า ผลตอบแทน จะเป็นสิ่งสำคัญกว่า แนวทาง นะครับ
ส่วนตัวของผมแล้ว เมื่อแต่งงานใหม่ๆ แฟนก็ไม่ค่อยชอบ ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน
เราเลยตกลงว่าจะกันเงินส่วนหนึ่งมาลงทุน หมดก็คือหมดครับ ไม่มีการเพิ่มทุนโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางจิตใจของแฟนครับ
ปัจจุบันยิ่งผมไม่ได้ทำงานประจำแล้ว สังคมรอบข้าง (ที่ไม่สนิทกับเรามากนัก) ก็มองแปลกๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1841
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 22
ขอแจมต่อท้ายพี่พอใจหน่อย
เรื่องนี้สำคัญถึงแก่นของVIเลยนะครับ
ถ้าไม่มีตลาดหุ้น แล้วเราร่วมหุ้นกัน ๗ คน ทำการค้าหรืออุตสาหกรรม หุ้นส่วนบางคนบริหาร บางคนไม่บริหาร บริษัทเจริญขึ้นมา ถ้าไม่เรียกหุ้นส่วนกันหมด ก็เป็นเถ้าแก่กันหมดนะครับ
บริษัทส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดหุ้น และเราๆท่านๆเล่นหุ้นนอกตลาดกันเป็นส่วนใหญ่นะครับ เสี่ยงกว่ากันเยอะเลย
พอเป็นหุ้นในตลาด เรา(ไม่รู้ใครตั้ง)ดันถูกเรียกว่านักเล่นหุ้น แทนที่จะเรียกหุ้นส่วน หรือ เถ้าแก่
ถ้าเป็นหุ้นนอกตลาด เดี๋ยวซื้อเดี๋ยวขาย คงโดนหุ้นส่วนคนอื่นด่าหัวเอา แต่ถือไว้สักระยะหนึ่งใครก็คงยินดีต้อนรับหุ้นส่วนที่มาร่วมหัวจมท้ายกัน ถือว่าเป็นหุ้นส่วนที่ทำตัวเป็นประโนชน์
VI น่าจะเป็นประเภทหลัง นักเก็งกำไรหรือ speculator คงจะเป็นประเภทแรก ที่พ่อตาแม่ยายในอนาคตของคุณSARAN เข้าใจและเป็นห่วง
บอกท่านได้เลยว่า VI เป็นคนจริงจังเอาการเอางาน และจะเป็นเถ้าแก่ให้ดู (ถ้าคิดค่าสินสอดน้อยหน่อยก็จะเหลือเงินลงทุนมากหน่อยและเป็นเถ้าแก่ได้เร็วขึ้นหน่อย-คิดแบบVI) ลูกสาวท่านได้เป็นเถ้าแก้เนี้ยแน่นอน
เรื่องนี้สำคัญถึงแก่นของVIเลยนะครับ
ถ้าไม่มีตลาดหุ้น แล้วเราร่วมหุ้นกัน ๗ คน ทำการค้าหรืออุตสาหกรรม หุ้นส่วนบางคนบริหาร บางคนไม่บริหาร บริษัทเจริญขึ้นมา ถ้าไม่เรียกหุ้นส่วนกันหมด ก็เป็นเถ้าแก่กันหมดนะครับ
บริษัทส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดหุ้น และเราๆท่านๆเล่นหุ้นนอกตลาดกันเป็นส่วนใหญ่นะครับ เสี่ยงกว่ากันเยอะเลย
พอเป็นหุ้นในตลาด เรา(ไม่รู้ใครตั้ง)ดันถูกเรียกว่านักเล่นหุ้น แทนที่จะเรียกหุ้นส่วน หรือ เถ้าแก่
ถ้าเป็นหุ้นนอกตลาด เดี๋ยวซื้อเดี๋ยวขาย คงโดนหุ้นส่วนคนอื่นด่าหัวเอา แต่ถือไว้สักระยะหนึ่งใครก็คงยินดีต้อนรับหุ้นส่วนที่มาร่วมหัวจมท้ายกัน ถือว่าเป็นหุ้นส่วนที่ทำตัวเป็นประโนชน์
VI น่าจะเป็นประเภทหลัง นักเก็งกำไรหรือ speculator คงจะเป็นประเภทแรก ที่พ่อตาแม่ยายในอนาคตของคุณSARAN เข้าใจและเป็นห่วง
บอกท่านได้เลยว่า VI เป็นคนจริงจังเอาการเอางาน และจะเป็นเถ้าแก่ให้ดู (ถ้าคิดค่าสินสอดน้อยหน่อยก็จะเหลือเงินลงทุนมากหน่อยและเป็นเถ้าแก่ได้เร็วขึ้นหน่อย-คิดแบบVI) ลูกสาวท่านได้เป็นเถ้าแก้เนี้ยแน่นอน
Rabbit VS. Turtle
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 23
ที่จริงมันไม่ควรเป็นอย่างนั้นหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่าคนส่วนใหญ่จะคิดว่าแนวทางมันก็คือแนวทาง ตราบใดที่ไม่มีผลให้เห็น ก็ไม่เชื่อ ไม่ยอมรับแปลกนะครับ ที่ผมเห็นหลายคนแนะนำว่า ไม่ต้องอธิบายอะไรมากเกี่ยวกับแนวทางการลงทุน รอให้ผลตอบแทนที่ดีออกมาแล้วท่านก็จะเข้าใจเอง
ดูเหมือนว่า ผลตอบแทน จะเป็นสิ่งสำคัญกว่า แนวทาง นะครับ
เหมือนตอนที่ เค้าคิดเครื่องบินก็ไม่มีใครสนใจ ว่า ทฤษฎี เป็นไปได้แค่ไหน คนส่วนใหญ่ก็ด่าว่าบ้าไว้ก่อน โดยไม่ดูด้วยซ้ำว่า หลักการเป็นยังไง
ต่อเมื่อ เครื่องบินมันบินได้แล้วจริงๆ จึง มายกย่องสรรเสริญ
ทั้งที่นักวิทยาศาสตร์เก่งๆก้มี แต่ไม่มีใครศึกษาว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน เพียงแต่คิดว่าเป็นไปไม่ได้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1841
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 24
ให้ดูเคลิ้มๆ เปรียบเทียบกับตัวอย่างพ่อค้าร้านเพชรที่ว่าที่พ่อตาแม่ยาย คุณSARAN ยกมาเปรียบเทียบกันเซียนสถิติ "วิกรม เกษมวุฒิ".... 31 ปีกำไรปูนใหญ่ 140 เท่า
4 มิถุนายน พ.ศ. 2550 08:13:00
แกะรอบประสบการณ์จริง "เซียนสถิติ" วิกรม เกษมวุฒิ ลงทุนหุ้นปูนใหญ่ 31 ปี กำไร 140 เท่า ยังไม่รวมเงินปันผลอีก 4,333 %
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ประวัติการลงทุนของ "วิกรม เกษมวุฒิ" เจ้าตำรับนักลงทุนที่ใช้สถิติเป็นแนวทางลงทุนในหุ้น เริ่มขึ้นครั้งแรกพร้อมกับตลาดหุ้นที่จัดตั้งขึ้นในปี 2518 โดยหุ้นที่ซื้อตัวเดียวคือ หุ้นปูนใหญ่ (SCC) หรือ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำนวน 100 หุ้นในราคาหุ้นละ 167 บาท ด้วยทุน 16,700 บาท มาถึงวันนี้กินเวลา 31 ปีเต็ม...
ผลจากการ "แตกพาร์" ของหุ้นปูนใหญ่สองครั้ง ทำให้หุ้นเดิมที่มีอยู่ 100 หุ้นที่ราคาพาร์ 100 บาท กลายเป็น 1,000 หุ้นเมื่อลดพาร์เป็น 10 บาท และเพิ่มเป็น 1 หมื่นหุ้นในราคาพาร์ 1 บาทในวันนี้
ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือผลกำไรที่ได้ (ตามบัญชี) ตลอดระยะเวลา 31 ปีถึงวันนี้ยังไม่ได้ขายออกไป เพิ่มขึ้นถึง 140 เท่าตัว !!
มูลค่าเงินลงทุน เพิ่มขึ้นเป็น 2.4 ล้านบาท ณ ราคาหุ้น 234 บาทเมื่อ 24 พฤษภาคม 2550 จากเดิมที่ราคาหุ้น 167 บาท
ไม่เพียงเท่านั้น ผลจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้ได้รับเงินปันผลเพิ่มตามด้วย
ตลอดระยะเวลา 31 ปี วิกรมได้รับเงินปันผลสะสมเข้ากระเป๋าแล้ว 7.4 แสนบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 4,333 เปอร์เซ็นต์ !!
เงินปันผลที่ผมได้เพียง 10 ปี รวม 22,300 บาท เท่ากับคุ้มต้นทุนที่ 16,700 แล้ว ส่วนในปัจจุบันเงินปันผลที่ได้หุ้นละ 15 บาท ถืออยู่ 1 หมื่นหุ้น คิดเป็นเงิน 1.5 แสนบาทต่อปี คิดเป็นรายได้ตกวันละ 410 บาท ตอนนี้จึงอยู่ได้อย่างสบายๆ
ถือหุ้นปูนใหญ่ จึงทำให้เขาได้กำไรเกินคุ้ม...
วิกรม บอกว่า ถ้าเทียบกับหุ้นอื่นๆ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นพร้อมกับปูนใหญ่เมื่อเริ่มตั้งตลาดทั้งหมด 8 บริษัท ปัจจุบันเหลือเพียง 4 บริษัทที่ยังซื้อขายอยู่ คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC ) โรงแรมดุสิตธานี (DTC ) และปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
ผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งหรือ 31 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพ ให้ผลตอบแทนเพียง 20 เท่า ส่วนเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และโรงแรมดุสิตธานี ให้ผลตอบแทนต่ำเพียง 10 เท่า เท่านั้น
ขณะที่ปูนใหญ่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 140 เท่าตัวในเวลา 31 ปีเต็ม
ในมุมมองของวิกรม เขาเห็นว่า เงินทอง (หุ้นอื่น) เป็นเพียงมายา แต่สำหรับหุ้นปูนใหญ่ มันคือข้าวปลาของจริง
วิกรม ย้อนให้ฟังว่า เขาซื้อหุ้นปูนใหญ่ก่อนเปิดตลาดหุ้น 4 เดือน ตอนนั้นทำงานเป็นนายธนาคาร ได้ติดตามข่าว และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปูนมาตลอด ยิ่งมีสำนักงานทรัพย์สินถือหุ้น ยิ่งทำให้เขามั่นใจอย่างมาก จนถึงขณะนี้เขาไม่เคยขายออกไปเลย แต่แช่แข็งอยู่ตลอดตั้งแต่ 100 หุ้น จนกลายเป็น 1 หมื่นหุ้นจนขณะนี้
บทพิสูจน์นี้ วิกรมชี้ให้เห็นว่า...ถือหุ้นปูนใหญ่แล้วปลอดภัย และได้กำไรคุ้มค่า ไม่มีคำว่า "สาย" หากใครคิดจะเข้าลงทุนตอนนี้...
ทำไมวิกรมถึงคิดเช่นนั้น...??
เขาให้เหตุผลว่า เพราะความต้องการปูนในการก่อสร้างบ้าน ถนน และอื่นๆ เพิ่มขึ้นตลอด ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ปูนซีเมนต์จึงขายได้ตลอด สิ่งสำคัญคือวัตถุดิบในการผลิตปูนที่มาจากหินปูนภูเขา ยังใช้ผลิตไปได้อีก 100 ปี เทียบกับก๊าชในอ่าวไทยของปตท.ใช้ได้อีก 40 ปีหมด ฉะนั้น จึงสามารถถือลงทุนในหุ้นตัวนี้ไปได้อีกยาวนาน
"ปัจจุบันเครือซิเมนต์ไทย มีธุรกิจ 5 กลุ่มในหนึ่งธุรกิจเดียวคือ ธุรกิจซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ปิโตรเคมีและธุรกิจจัดจำหน่าย มีความมั่นคงแข็งแกร่ง พร้อมเจริญเติบโตไปข้างหน้า ขณะที่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีความเสี่ยงในธุรกิจน้อย"
แต่...หุ้นปูนใหญ่ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน...
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งราคาและอัตรากำไรจะมีขึ้นลงเป็นวัฏจักร มีช่วงเวลาจุดสูงสุดและต่ำสุดห่างกันประมาณ 8-9 ปี และความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จะมีความสัมพันธ์กับการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ
"สิ่งที่ต้องระวังในการลงทุนหุ้นปูนใหญ่ก็คือ ธุรกิจปิโตรจะมีวัฏจักรการขึ้นลง 8-9 ปี ซึ่งช่วงนี้กำลังเป็นวัฏจักรขาลง นักลงทุนต้องระวัง เพราะอาจทำให้กำไรปูนใหญ่ร่วงได้ในปีนี้ (2550) อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าบริษัทยังสามารถจ่ายปันผลได้ในอัตรา 15 บาท/หุ้นได้สม่ำเสมอเช่นช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่ากำไรบริษัทจะไม่ถึง 26 บาทต่อหุ้นก็ตาม"
นอกจากจะใช้หลักสถิติมาประยุกต์เข้ากับการลงทุนแล้ว วิกรมยังใช้แนวทางลงทุนตาม "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ในการคัดเลือกหุ้นอีกด้วย
วิกรมบอกว่า ในการเลือกหุ้นจะยึดหลักใหญ่ๆ คล้ายกับแนวทางลงทุนของบัฟเฟตต์ ที่เน้นลงทุนในธุรกิจง่ายๆ เข้าใจได้ไม่ยาก มียอดขายและกำไรที่ดี ขณะที่ด้านการบริหารจะเน้นตัวผู้บริหารต้องเปิดเผยและโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้น และมุ่งเน้นหุ้นที่มี ROE (ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น) มากกว่า 12% ซึ่งของไทยใกล้เคียงอยู่ที่ 11% โดยไม่ได้มองที่กำไรต่อหุ้น
นอกจากนั้น จะซื้อหุ้นดีๆ ลงทุน "น้อยตัว" และถือยาว แต่ซื้อในจำนวนหุ้นมากๆ
"อย่างบัฟเฟตต์ จะมีหุ้นเพียง 5 ตัว แต่เป็นสัดส่วน 73% ของพอร์ต"
หุ้นที่บัฟเฟตต์ถือก็เช่น "หุ้นวอชิงตัน โพสต์" ที่ซื้อมาเพียง 11 ล้านเหรียญ แต่วันนี้มีมูลค่าพุ่งขึ้นเป็น 1,275 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นถึง 115 เท่าในระยะเวลา 35 ปี โดยบัฟเฟตต์ได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผล 9 ล้านเหรียญ (รอบปี 2549) เท่ากับว่า เฉพาะเงินปันผลของหุ้นตัวนี้ปีเดียว ก็คุ้มทุนแล้ว
"ส่วนหุ้นปูนใหญ่ที่ผมถืออยู่ ปัจจุบันมีค่า ROE สูงถึง 42% ให้ผลตอบแทนเงินปันผลถึง 6.36% ต่อปี ถือว่าหุ้นตัวนี้ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับผม"
ลงทุนหุ้นปูนใหญ่ในมุมมองของวิกรม จึงเป็นหุ้นดี ถือมา 31 ปี กำไรคุ้มค่า...
Rabbit VS. Turtle
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 25
พ่อ แม่ เรา ก็ไม่ชอบให้เล่นหุ้น คงเพราะเห็นพวกอา
เค้าเจ๊งหุ้นกันไปหลายคน แต่พวกนั้นเค้าเก็งกำไรรายวัน
ไม่เคยดูผลประกอบการ เลยโดนไปเต็มๆวันอุ๋ย
เราบอกให้ทิ้งพอร์ตก่อนวันอุ๋ยก็ไม่เชื่อ หาว่าขาขึ้น
ทำกำไรได้ทุกวัน กลายเป็นเราขัดลาภเค้าอีก
ตอนนี้ก็พูดไม่ออก หายหน้ากันไปเลย
แต่เราทิ้งพอร์ตก่อนวันอุ๋ย แล้ว SHORT TFEX
มานั่งรอหุ้นลง ก็ไม่คิดว่า มันจะลงจริงๆ
แต่ตอนนี้ หุ้นมันไม่ลงเลย แล้วก็ทิ้งพอร์ตอีกแล้ว
มา SHORT TFEX รอหุ้นลง แต่สงสัยจะไม่ลงแล้วละ
จะอธิบายให้คนที่ไม่ชอบตลาดหุ้นเข้าใจ ทำได้ยากมาก
บางคนยังต้องแอบเล่นหุ้นเลย ถึงจะไม่เก็งกำไรก็เถอะ
มันเป็นเรื่องที่เค้าเห็นคนรอบข้างเค้าเจ๊งหุ้นกันเยอะ
โดยเฉพาะพวกอาแป๊ะ อาซิ้ม อาอึ้ม ที่เล่นตามโบรกเชียร์
บางคนนี่สาดกระสุน จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า หุ้นในพอร์ตที่ซื้อมันชื่ออะไร มีจริงๆนะ ซื้อแบบกองทุนเลยอ่ะ
เค้าเจ๊งหุ้นกันไปหลายคน แต่พวกนั้นเค้าเก็งกำไรรายวัน
ไม่เคยดูผลประกอบการ เลยโดนไปเต็มๆวันอุ๋ย
เราบอกให้ทิ้งพอร์ตก่อนวันอุ๋ยก็ไม่เชื่อ หาว่าขาขึ้น
ทำกำไรได้ทุกวัน กลายเป็นเราขัดลาภเค้าอีก
ตอนนี้ก็พูดไม่ออก หายหน้ากันไปเลย
แต่เราทิ้งพอร์ตก่อนวันอุ๋ย แล้ว SHORT TFEX
มานั่งรอหุ้นลง ก็ไม่คิดว่า มันจะลงจริงๆ
แต่ตอนนี้ หุ้นมันไม่ลงเลย แล้วก็ทิ้งพอร์ตอีกแล้ว
มา SHORT TFEX รอหุ้นลง แต่สงสัยจะไม่ลงแล้วละ
จะอธิบายให้คนที่ไม่ชอบตลาดหุ้นเข้าใจ ทำได้ยากมาก
บางคนยังต้องแอบเล่นหุ้นเลย ถึงจะไม่เก็งกำไรก็เถอะ
มันเป็นเรื่องที่เค้าเห็นคนรอบข้างเค้าเจ๊งหุ้นกันเยอะ
โดยเฉพาะพวกอาแป๊ะ อาซิ้ม อาอึ้ม ที่เล่นตามโบรกเชียร์
บางคนนี่สาดกระสุน จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า หุ้นในพอร์ตที่ซื้อมันชื่ออะไร มีจริงๆนะ ซื้อแบบกองทุนเลยอ่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 27
[quote="Saran"]ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ที่คอยให้คำแนะนำ เวปนี้มีแต่คนใจดี อบอุ่นมากๆครับ
รู้สึกว่าจะมีแต่คนที่ลงทุนหุ้นแนวนี้ด้วยกันเท่านั้นมั่งครับ ที่พอจะเข้าใจกัน :lol:
จากคำแนะนำที่ได้มา ช่วงนี้ผมคงไม่ไปคุยเรื่องหุ้นให้ท่านฟังหรอกครับ ให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์คงจะดีที่สุดจริงๆ
(เรื่องจะไปนั่งอธิบาย หรือหาหนังสือให้อ่านคงยากอะครับ กลัวว่าท่านจะเซ็งเอาเปล่าๆ)
ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน + ลงทุนหุ้น ไปเรื่อยๆ หวังว่าท่านทั้ง 2 คงพอที่จะเปิดใจ รับฟังแนวคิดที่ผมทำอยู่บ้าง
รู้สึกว่าจะมีแต่คนที่ลงทุนหุ้นแนวนี้ด้วยกันเท่านั้นมั่งครับ ที่พอจะเข้าใจกัน :lol:
จากคำแนะนำที่ได้มา ช่วงนี้ผมคงไม่ไปคุยเรื่องหุ้นให้ท่านฟังหรอกครับ ให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์คงจะดีที่สุดจริงๆ
(เรื่องจะไปนั่งอธิบาย หรือหาหนังสือให้อ่านคงยากอะครับ กลัวว่าท่านจะเซ็งเอาเปล่าๆ)
ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน + ลงทุนหุ้น ไปเรื่อยๆ หวังว่าท่านทั้ง 2 คงพอที่จะเปิดใจ รับฟังแนวคิดที่ผมทำอยู่บ้าง
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 29
ใครว่าล่ะ เรามันพวกกลัวความสูงต่างหากjavidol เขียน:คุณ MANEKI เก่งจังครับ
แล้วพอหุ้นหมดพอร์ต ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงดี
ตอนนี้เราก็อยู่ในสภาพคล้ายวันอุ๋ยอีกแล้ว
จะซื้อก็ไม่กล้า มีแต่หุ้น VIที่ยังพอซื้อได้
เพราะหลายตัวเห็นยังแดงอยู่เลย แปลกจัง เลยเล็งๆอยู่
นี่ก็ไม่รู้ว่า SET มันจะลงหรือเปล่า แต่แปลกนะ
ถ้า SETลง หุ้น VI มันชอบขึ้น คิดไปเองมั้ง
ช่วงนี้ SETขึ้นแรงจัง แรงเกินผลประกอบการโดยรวมเลย
ดูเหมือนกับว่า เป็นตลาดเก็งกำไร เลยต้องจำกัดความโลภ
ไว้แค่นี้ เพราะความสามารถเรามีแค่นี้ ยอมแพ้จริงๆ
เล่นไม่ไหว มันกลัวจริงๆ ตอนนี้เหลือแต่เซียนก็แล้วกัน
ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ถ้าจะซื้อก็ขอแค่เดย์เทรดก็แล้วกัน
ถึงได้บอกไงว่า คนหลายคนไม่อยากให้เล่นหุ้น
เพราะตลาดหุ้นมันมีความเสี่ยง ยิ่งเห็นหุ้นขึ้น หลายคนก็ยิ่งตาม
และยิ่งตาม แทนที่จะมีกำไร กลับกลายเป็นติดดอย
ยอมรับว่า เคยติดดอยมาก่อน หุ้น SCC อีกต่างหาก
หุ้นดี ผลประกอบการเยี่ยม มีปันผล แต่ซื้อมาแพง
ก็เลยติดดอย ไม่อยากติดดอยอีกแล้ว เข็ดจริงๆ
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดีครับ พ่อแม่แฟนไม่ชอบคนเล่นหุ้น!!!
โพสต์ที่ 30
ผู้ชายเล่นหุ้นยังดูธรรมดา ผู้หญิงเล่นหุ้นสิ ยิ่งลำบากกว่า
ยิ่งเจอพ่อ แม่ ที่รู้จักแต่การเอาเงินไปฝากไว้ในแบงก์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อธิบายให้ตาย ก็ไม่เข้าใจ
รู้แต่ว่า มันเสี่ยง แต่จริงๆแล้ว การที่เอาเงินไปไว้ในแบงก์เสี่ยงกว่าอีก
ผลตอบแทนต่ำมากๆ แค่คิดง่ายว่า ซื้อหุ้น PTT ตอนโดนทุบ
200 บาท และถือไว้ ตอนนี้ก็ 260แล้ว ก็แล้วแต่ว่า
จะขาย หรือเก็บไว้ ส่วนต่างเกิน 25%เห็นๆ ยังไม่รวมปันผล
เครดิตภาษีอีก
ตอนนี้ ก็รอแต่ว่า จะมีทุบอีกไหม รออย่างเดียว
ถ้าไม่ทุบ ก็ไม่ซื้อ กลัวแต่ว่า 1700จุด มันจะกลับมาอีกจัง
ไม่เคยเจอด้วย มาไม่ทัน มาตอน 800จุด มาปุ๊บก็ดอยเลย
ยิ่งเจอพ่อ แม่ ที่รู้จักแต่การเอาเงินไปฝากไว้ในแบงก์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อธิบายให้ตาย ก็ไม่เข้าใจ
รู้แต่ว่า มันเสี่ยง แต่จริงๆแล้ว การที่เอาเงินไปไว้ในแบงก์เสี่ยงกว่าอีก
ผลตอบแทนต่ำมากๆ แค่คิดง่ายว่า ซื้อหุ้น PTT ตอนโดนทุบ
200 บาท และถือไว้ ตอนนี้ก็ 260แล้ว ก็แล้วแต่ว่า
จะขาย หรือเก็บไว้ ส่วนต่างเกิน 25%เห็นๆ ยังไม่รวมปันผล
เครดิตภาษีอีก
ตอนนี้ ก็รอแต่ว่า จะมีทุบอีกไหม รออย่างเดียว
ถ้าไม่ทุบ ก็ไม่ซื้อ กลัวแต่ว่า 1700จุด มันจะกลับมาอีกจัง
ไม่เคยเจอด้วย มาไม่ทัน มาตอน 800จุด มาปุ๊บก็ดอยเลย