สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อ่านเรื่องนี้แล้วจะได้มีกำลังใจว่า เราครบสามสิบสอง (หรือใครมีเกิน .... :wink:  ) แล้วชอบอ้างนู้น อ้างนี่
เหนื่อยเกินไปมั่งหล่ะ แก่เกินไปมั่งหล่ะ อ้วนเกินไป ผอมเกินไป จิปาถะ เลิกอ้างเสียที ยังมีคนอีกมากที่แม้ร่างกายพิการแต่เค้ายังมีความพยายามในการจะเล่นกีฬา คนไม่มีไฟ มันก็เหมือนคนไร้ค่าครับ

เอ้าจุดไฟได้แล้ว

  รูปภาพ

CHRIS MOON


หนึ่งก้าวถัดไป

ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มันมิได้เกิดขึ้นกับเขา

เสียงระเบิดก้องแก้วหู แรงสะเทือนหนักหน่วงราวกับร่างของเขาถูกฟ้าผ่า เขามองเห็นเลือดสีแดงทะลักจากซีกขวาของร่างกาย เขารู้ว่าทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป เขาใกล้ความตายทุกขณะ

พื้นที่ที่ฝังทุ่นระเบิดในโมซัมบิค อัฟริกา เต็มไปด้วยกับระเบิดที่รอการ ทำความสะอาด ครั้งใหญ่ พื้นที่ที่เขาเหยียบน่าจะ สะอาด แต่เสียงฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในวินาทีที่ผ่านมาบอกเขาว่า พื้นที่นี้ยังห่างไกลจากความสะอาด

ปีนั้นคือ 1995 คริส มูน ไปเยือนโมซัมบิค ในงานอาสาสมัคร แรงระเบิดตัดขาขวาท่อนล่างกับแขนขวาขาดกระเด็น เขาเสียเลือดไปมาก

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดความตาย

ชีวิตของเขาน่าจะดับสิ้นไปนานเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ในป่าลึกเขมร...



ยี่สิบปีก่อน คริส มูน เยือนเขมรในสถานะอาสาสมัครกู้ระเบิด

สงครามกลางเมืองในกัมพูชาส่งผลให้กับระเบิดกระจายไปทั่วประเทศ จากชนบทห่างไกลถึงป่าลึก แต่กับระเบิดอาจมีอันตรายน้อยกว่าทหารเขมรแดง

วันนั้นเขาถูกทหารเขมรแดงกลุ่มหนึ่งจับตัวไป พร้อมรถบรรทุกขององค์กรอาสาสมัคร ในยุคที่ชาวบ้านถูกทหารเขมรแดงสังหารไปหลายล้านคน การรอดชีวิตออกมาจากเงื้อมมือเขมรแดงเป็นเรื่องที่ เป็นไปไม่ได้ อย่างยิ่ง

เขาและเพื่อนชาวเขมรถูกจับตัวไปนานสามวัน เป็นสามวันที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเขา เขารู้ว่าโอกาสรอดต่ำยิ่ง แต่ก็พยายามต่อรองกับทหารเขมรแดง หลายครั้งเขาเกือบถูกสั่งยิงเป้า แต่ก็รอดมาได้ เขายังต่อรองกับเขมรแดงให้ไว้ชีวิตเพื่อนร่วมงานชาวเขมรอีกสองคน

พวกเขาถูกบังคับให้เดินทางตามเขมรแดงไปตามจุดต่างๆ ล่าสุดทหารเขมรแดงที่คุมพวกเขาเป็นทหารเด็ก

ในวันสุดท้าย พวกเขาค้างแรมในป่าแห่งหนึ่ง เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหนี เขาใช้จิตวิทยาขู่ทหารเด็กว่าผีป่าดุร้าย ไม่ควรที่พวกเขาจะค้างแรมที่นั่น ทหารเขมรแดงกลัว จึงเปลี่ยนใจไม่ค้างแรมที่นั่น นำทางพวกเขาออกมา ไม่นานก็ละทิ้งพวกเขาไว้ คริส มูน กับพวกเดินเท้าระยะทางห้าสิบกิโลเมตรทั้งคืน ฝ่าดงระเบิดและป่าทึบ จนเช้าตรู่ก็พ้นเขตอันตราย



คริส มูน เป็นชาวอังกฤษ เลือดรักการผจญภัยในร่างทำให้เขาเลือกทำงานด้านอาสาสมัครช่วยคนไร้บ้านมาแต่หนุ่ม ไม่นานก็เข้าสู่กองทัพ หลังจากออกจากกองทัพ เขาทำงานกับหน่วยงานอาสาสมัครอังกฤษเพื่อกวาดกับระเบิดทั่วโลก

ชีวิตของเขาคลุกคลีกับความตายมาโดยตลอด

ใช่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดความตาย

ออกจากโรงพยาบาลอัฟริกาไม่ถึงหนึ่งปี คริส มูน ใส่ขาเทียมไปร่วมวิ่ง ลอนดอน มาราธอน เพื่อหาทุนมาเพื่อคนพิการจากกับระเบิดในเขมร ในเมษายน ปี 1997 เขาเป็นคนพิการขาขาดคนแรกในโลกที่วิ่ง The Great Sahara Run ฝ่าระยะทาง 250 กิโลเมตรในทะเลทรายสะฮาราสำเร็จ มันเป็นการวิ่งวิบากที่สุดในโลก ใช้เวลาวิ่งหกวัน ใต้ความร้อนจัดของแดดอัฟริกัน และเม็ดทรายระอุแห่งสะฮารา นักวิ่งทุกคนต้องพกพาอาหารและอุปกรณ์ทุกอย่างไปเอง นอกจากจะลิ่งเพื่อพิสูจน์ขีดจำกัดของเขาเองแล้ว ยังเป็นการวิ่งเรี่ยไรเงินหนึ่งแสนเหรียญสำหรับองค์การกาชาดสากลเพื่อจัดหาแขนขาเทียมในเวียดนาม

ในเดือนกรกฎาคม ปี 1997 คริส มูน วิ่งทางสองร้อยกิโลเมตรในเวลาสี่วันร่วมกับกองทัพออสเตรเลีย เพื่อช่วยเหยื่อกับระเบิด

หลังจากนั้นเขาก็วิ่งเพื่อการกุศลในทุกแห่งหน ในการวิ่งที่คนร่างกายครบสามสิบสองลังเล เขาวิ่งจากฮาโกเนะไปโตเกียว เพื่อหาทุนให้องค์กรการกุศลในญี่ปุ่น วิ่งนำขบวนนักวิ่งห้าร้อยคน ใน The Flora London Marathon เพื่อเรี่ยไรเงินกุศล วิ่ง The Outback Challenge มาราธอนวิบากระยะทาง 250 กิโลเมตร ไปตามทางคดเคี้ยวและภูเขาในออสเตรเลียเพื่อหาเงินมาช่วยการกำจัดกับระเบิด

ในเดือนพฤษภาคม ปี 1999 เขาวิ่งระยะทาง 700 กิโลเมตร เพื่อพยายามพิสูจน์เปลี่ยนทัศนคติผู้คนต่อคนพิการ และเพื่อเรี่ยไรเงินการกุศล

เพียงสามเดือนถัดมา เขาเป็นคนพิการคนแรก หนึ่งในสิบสองคนในโลกที่วิ่ง The Badwater Death Valley Ultramarathon ระยะทาง 136 ไมล์ หรือเท่ากับห้ามาราธอนต่อเนื่องกัน ในพื้นที่ที่ร้อนระอุขนาดอบไก่ย่าง

ในเดือนเมษายน ปี 2000 ร่วมการปีนเขาคิลิมันจาโร เดือนถัดมาเขาวิ่งระยะทาง 100 กิโลเมตรบนภูเขาไฟในญี่ปุ่น



ในการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวที่นากาโนะ ญี่ปุ่น ในปี 1998 คริส มูน ได้รับเกียรติให้เป็นนักวิ่งผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิคไปยังสนามกีฬาโอลิมปิค

คบเพลิงชีวิตของเขาไม่เคยมอดดับ

คริส มูน เป็นตัวอย่างของมนุษย์ที่ไม่ยอมให้อุปสรรคทางกายภาพมาบั่นทอนความฝัน ทัศนคติของเขาคือ ชีวิตไม่มีขีดจำกัด เขาไม่เชื่อในขีดจำกัด และพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าไม่มีขีดจำกัดใดที่ขวางกั้นกำลังใจของมนุษย์

อุปสรรคทางกายเป็นเรื่องเล็กเสมอสำหรับคนที่ใช้กำลังใจเป็นเข็มทิศชีวิต

เพราะมนุษย์อาจสูญเสียองคาพยพแห่งกายได้ แต่หากไม่ยอมแพ้ นรกที่ไหนก็ขวางไม่ได้



(ป.ล. หลังจากออกจากโรงพยาบาล คริส มูน ยังเรียนต่อปริญญาโท เปิดบริษัท และได้รับรางวัลมากมาย

ในปี 1999 เขาเขียนหนังสือชื่อ One Step Beyond - หนึ่งก้าวถัดไป เป็นอัตชีวประวัติของเขาเอง)

credit

http://www.winbookclub.com/basket_detail.php?id=107
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น่ายกย่องจิตใจนักสูเขามากๆเลยครับ :cool:
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เคยอ่านในหนังสือคุณวินทร์ จำไม่ได้ว่าเล่มไหน
คนตาบอดปีนเขาเอเวอเรสต์ก็มีครับ ...
บางท่านขยับได้แค่ตา แต่เขียนหนังสือได้เป็นเล่ม

คนพวกนี้มีเลือดนักสู้และน่ายกย่องจริงๆครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ

สงสัยต้องไปหาหนังสือมาอ่านซะแล้ว  :D
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 5

โพสต์

8) หัวใจแข็งแรงมาก
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
121
Verified User
โพสต์: 843
ผู้ติดตาม: 0

สำหรับผู้ที่ชอบครวญคราง #$%^&&*(&^%$

โพสต์ที่ 6

โพสต์

"ความฝันโง่ๆ"ของคุณ วิณทร์  ครับ
โพสต์โพสต์