ใคร มี ปสก. ขายบ้าน บ้างครับ

[ปุย]

ขออนุญาต เรียนถาม

ผมซื้อบ้านไว้ ตอนอยู่ระยองครับ หลังจากที่ให้เช่ามานาน เผื่อกลับไปอยู่
แต่ยังไม่มีวี่แวว และไม่มีคนคอยดูแลเรื่องคนเช่าด้วย ผมเลยตัดสินใจขาย

(เชื่อมั้ยครับ ผมให้คนเช่าบ้าน มา 3-4 ปี ผมไม่เคยเห็นหน้าคนเช่าเลย จนวันสุดท้าย ที่คืนบ้าน นัดพี่เค้ามาคืนกุญแจ ผมถึงได้เจอ   )

สรุปก็ประกาศขาย ฝากกับโครงการ มาปีกว่า มีคนสนใจ จริงจัง 2 ราย

รายแรก วางมัดจำแล้ว ทำสัญญาจะซื้อ จะขาย แต่ ดันมีปัญหาครอบครัว
เพิ่งไปรู้ว่า สามี มีเมียน้อย เลยวืดไป

รายที่สอง เพิ่งติดต่อมาครับ ทำสัญญาจะซื้อ จะขาย เรียบร้อยแล้ว
ผู้ซื้อ กำลัง ทำเรื่องกู้แบงค์อยู่ (ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหา)  แล้วถึงจะนัดโอน



เดิม ผมทำหนังสือมอบอำนาจ ให้พ่อผมเป็นคนจัดการทั้งหมด
แต่คราวนี้ จังหวะดี ผมจะกลับพอดี คิดว่า คงจะไปโอนเอง น่าจะดีกว่า


ไม่ทราบว่า ขั้นตอน คร่าวๆจะเป็นยังไงครับ

วันโอน นัด 3 ฝ่าย ผู้ซื้อ-ธนาคาร-ผู้ขาย  ไปเจอกันที่กรมที่ดินใช่มั้ยครับ
แล้วจะจ่ายเงินยังไง  ธนาคารจะจ่ายเป็นเช็คให้เรา หรือว่าโอนเข้าบัญชีครับ
ลำดับก่อน-หลังยังไง  เปลี่ยนชื่อหลังโฉนดก่อน แล้วไปโอนที่แบงค์ หรือ โอนเงินก่อน

แล้วถ้า คนซื้อได้วงเงินกู้มากกว่า ราคาที่จะต้องจ่ายเราล่ะครับ

แล้วการจ่ายเช็คระหว่าง ดราฟท์ (ตั๋วแลกเงิน) กับ แคชเชียร์เช็ค นี่ แตกต่างกันยังไงครับ  ช่วยแนะนำหน่อย


อีก case นึงคือถ้า คนซื้อจะจ่ายเราโดยตรง โดยไม่กู้ธนาคารล่ะ
ทำยังไงถึงจะปลอดภัยครับ

จริงๆ ก็กลัวๆ จะมีปัญหาเหมือนกัน  :?:

[surapol]

ประสบการณ์ผมเคยขายคอนโดแถว พหลโยธิน สิ่ง
แรกสุดก็นัดเจอทั้งสามฝ่ายที่กรมที่ดินนะครับ สิ่งที่เรา
ต้องเตรียมไปคือเงินสดสำหรับจ่ายภาษีรายได้ ทาง
ธนาคารจะเตรียมเป็นเช็คเงินสดระบุผู้รับไว้ ทางเราไม่
ต้องทำอะไร โดยปกติถ้าทางผู้กู้ ขอกู้เกินราคาที่เราขาย
ทาง ธนาคารจะทำเป็นเช็คแยก ออกมาอีกใบหนึ่งอยู่
แล้วครับ ถ้าเป็นเงินสดผมว่าง่ายกว่าก่อนไปที่กรมที่ดิน
นัดเจอที่แบงค์ก่อน แล้วให้เขาซื้อเช็คเงินสดไว้แล้ว
ค่อยไปที่กรมที่ดินครับ ส่วนคนซื้อก็ต้องจ่ายค่า
ธรรมเนียมในการโอน, ค่าจดจำนอง ที่เคยทำก็เท่า
เนี้ยครับ

[Noonino]

ถ้าผมจำไม่ผิดพลาดนะครับ เคยโอนที่ดิน สองสามหน
เตรียมเงินสดไว้ส่วนนึงไว้สำหรับจ่ายภาษี
อย่าลืมเอกสารสำคัญ ก็ ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย(เอาไว้เป็นหลักฐานเวลาให้ปากคำเกี่ยวกับราคาซื้อขาย)

ธนาคารของผู้ซื้อเค้าจะออกเป็นแคชเชียร์เช็คให้เราตามจำนวนเงินที่ซื้อขายครับ โดยที่เราต้องเอาแคชเชียร์เช็คนั้นไปให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดินบันทึกไว้ว่าจ่ายเงินกันอย่างไรด้วย

ส่วนถ้าคนซื้อได้วงเงินกู้มากกว่าก็เป็นเรื่องของธนาคารที่เค้าจะออกเช็คอีกใบให้คนซื้อต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเรา

ส่วนถ้าคนซื้อไม่กู้แบ็งค์ ก็ให้เค้าจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค แล้วเอาไปลงบันทึกไว้กับเจ้าหน้าที่เหมือนกัน อย่ารับเป็นเช็คธรรมดาเด็ดขาด

ดราฟต์ผมไม่เคยใช้ครับ

[MarginofSafety]

[quote="ปุย"]

ไม่ทราบว่า ขั้นตอน คร่าวๆจะเป็นยังไงครับ

วันโอน นัด 3 ฝ่าย ผู้ซื้อ-ธนาคาร-ผู้ขาย

[energizer]

พวกพี่ๆโชคดีกันจังเลยครับ ปล่อยให้เช่าแล้วไม่มีปัญหาโดนโกงอะ
แบบว่าที่บ้านก็มีบ้านปล่อยให้เช่าเหมือนกัน แต่คนเช่ามะจ่ายตังอะ เคยถามทนายเขาก็บอกว่าไปโยนของออกจากบ้านเลยเราก็จะผิดกฏหมาย ไปแจ้งความเอาไว้แล้วก็เท่านั้น ตำรวจก็แค่บันทึกเอาไว้เฉยๆ ไม่ทราบว่าพี่ๆเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้กันบ้างไหมครับ

[ปุย]

ขอบคุณ คำแนะนำจากคุณ surapol - Noonino - HVI ครับ

จังหวะดีจริงๆ ที่ผมสามารถกลับไปจัดการเรื่องด้วยตัวเองได้
แต่เสียดายตรง ตลาดหุ้นบูมเร็วไปนิด อาจต้องเก็บเงินไว้รอ crash ครั้งต่อไป


สำหรับคุณ energizer ผมว่าปัญหา หนักหนาสาหัสเหมือนกัน
ขนาดถึงมือตำรวจ แล้วยังไม่รู้จะทำยังไง

ผมว่า อย่าปล่อยไว้นาน จะยิ่งได้ใจ น่าจะลองคุยกันก่อนว่าเค้ามีปัญหาอะไร
แย่ที่สุด น่าจะเชิญเค้าออก แล้วยกหนี้ให้ไป ถือซะว่า ไม่มีคนเช่า มา 2-3 เดือน  ใช้ไม้นวมก่อน ถ้าไม่ work ก็คงต้องใช้ไม้แข็ง  :evil:

แล้วคนเช่าใหม่ ก็คงต้องคัดหน่อย ทำงานอะไร ทำไมถึงต้องมาเช่าบ้านเราอยู่

อย่างพี่ ที่เค้ามาเช่าบ้านผม เค้าเป็นผู้จัดการ ย้ายมาจาก จังหวัดอื่น มีเมีย-ลูกโตแล้ว เรียนอยู่ กรุงเทพ แกใช้บ้าน แค่จันทร์-ศุกร์  เช่ามา 4 ปีกว่า  แกโอนเงินค่าเช่าเข้าบัญชีผมเองทุกเดือน
(แต่ค่าเช่าแปลกดี ยิ่งเช่า ยิ่งลดลง  แต่ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว เพราะแกบอกว่า แกเบิกได้จริงน้อยกว่าที่จ่ายผม)
ปัญหาอย่างเดียว คือพี่แกไม่ดูแลบ้านเลย เหมือนหนุ่มโสด มาใช้บ้านแค่ซุกหัวนอน แกเอาตู้เสื้อผ้าไม้มาใช้ ปลวกเต็มตู้เลย  :shock:

ตอนแกย้ายออก ผมต้องไปซ่อมแซม ตบแต่ง ทาสี เพื่อขาย หมดไปอีกหลายหมื่น คิดเป็นค่าเช่าก็เป็นปีละครับ  แต่ผมว่า win-win ครับ


ส่วน แฟนผม มีคอนโดให้เช่าห้องนึง ตรงซอย ศูนย์วิจัย  แม่แฟนจัดการเรื่องคนเช่า อันนั้นเปลี่ยนคนบ่อยมากๆ บางรายมาอยู่แค่ 2-3 เดือน แต่ก็มีรายใหม่มาตลอด  นักศึกษามั่ง พนง.บริษัทแถวนั้น พยาบาลรพ.กรุงเทพมั่ง  

ห้องเล็กๆ กลางเมืองกรุง น่าจะสักประมาณ 4X8 เมตร คิดค่าเช่าได้แพงหว่า บ้านผม ชั้นครึ่ง พื้นที่ 39 ตรว. ซะอีก

[energizer]

ขอบคุณพี่ปุยมากครับ ในกรณีของผมคือหนีหน้าไปเลย แบบว่าโทรไปก็ไม่รับ ดักรอก็ไม่เจอ แล้ว บังเอิญเป็นบ้านที่ต่างจังหวัดด้วย แต่ครอบครัวผมอยู่ กทม จะไปดักรอทุกวันก็ลำบาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราก็ทำดีกับเขาทุกอย่างแต่ทำไมเขาต้องโกงด้วยหนอ คนเรานี่ก็แปลก แต่ไม่รู้ตอนนี้เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว เพราะผมไม่อยู่เมืองไทยอะครับ แย่เลย

[Little Boy]

ขอบคุณพี่ปุยมากครับ ในกรณีของผมคือหนีหน้าไปเลย แบบว่าโทรไปก็ไม่รับ ดักรอก็ไม่เจอ แล้ว บังเอิญเป็นบ้านที่ต่างจังหวัดด้วย แต่ครอบครัวผมอยู่ กทม จะไปดักรอทุกวันก็ลำบาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราก็ทำดีกับเขาทุกอย่างแต่ทำไมเขาต้องโกงด้วยหนอ คนเรานี่ก็แปลก แต่ไม่รู้ตอนนี้เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว เพราะผมไม่อยู่เมืองไทยอะครับ แย่เลย

ผมไม่แน่ใจว่าถูกกฎหมายหรือเปล่า แต่วิธีนี้ผมก็เคยเจอ แต่รู้ว่าคนเช่ายังไม่ขนของออกจากบ้าน ผมก็เลยไปซื้อโซ่กับกุญแจมาคล้องประตู ปิดมันซะ เสียบกระดาษทิ้งเบอร์โทรไว้ แล้วไปนอนรอในโรงแรม ท้ายสุดยังไงมันก็ต้องเอาของในบ้าน ก็เลยโทรมา ทีนี้ก็เป็นเราถือไพ่เหนือกว่า ก็สุดแล้วแต่คุณจะจัดการ ไม่งั้นก็ไม่เปิดให้

[energizer]

ผมไม่แน่ใจว่าถูกกฎหมายหรือเปล่า แต่วิธีนี้ผมก็เคยเจอ แต่รู้ว่าคนเช่ายังไม่ขนของออกจากบ้าน ผมก็เลยไปซื้อโซ่กับกุญแจมาคล้องประตู ปิดมันซะ เสียบกระดาษทิ้งเบอร์โทรไว้ แล้วไปนอนรอในโรงแรม ท้ายสุดยังไงมันก็ต้องเอาของในบ้าน ก็เลยโทรมา ทีนี้ก็เป็นเราถือไพ่เหนือกว่า ก็สุดแล้วแต่คุณจะจัดการ ไม่งั้นก็ไม่เปิดให้

อันนี้เคยปรึกษาผู้รู้มาแล้วครับว่ามันผิดกฎหมายครับ คุณ Little Boy เพราะตอนแรกก็เคยคิดจะทำเหมือนกัน แย่เลยนะครับกฎหมายบ้านเรามักดูแลผู้ไม่สุจริตใจเสมอ

[sattaya]

พวกพี่ๆโชคดีกันจังเลยครับ ปล่อยให้เช่าแล้วไม่มีปัญหาโดนโกงอะ
แบบว่าที่บ้านก็มีบ้านปล่อยให้เช่าเหมือนกัน แต่คนเช่ามะจ่ายตังอะ เคยถามทนายเขาก็บอกว่าไปโยนของออกจากบ้านเลยเราก็จะผิดกฏหมาย ไปแจ้งความเอาไว้แล้วก็เท่านั้น ตำรวจก็แค่บันทึกเอาไว้เฉยๆ ไม่ทราบว่าพี่ๆเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้กันบ้างไหมครับ

เคยเจอปัญหานี้เหมือนกันครับ ให้เช่าแล้วคนเช่าบอก ศก. ไม่ดีขอผลัด ก็ให้ผลัด ขอลดค่าเช่า ก็ลดให้ สุดท้ายเบี้ยวเอาดื้อๆ ให้ออกก็ไม่ไป

จำได้ว่าตอนนั้น ทนายแนะนำให้ไปแจ้งความและบอกเลิกสัญญาเช่า แล้วก็เอาใบแจ้งความไปบอกคนเช่าว่าจะไปฟ้องศาล แต่ยังไม่ทันไปฟ้องศาลเค้ายอมย้ายออกก่อน และยอมให้เรายึดของบางอย่างแทนค่าเช่าโดยเค้าทำเป็นหนังสือ

พวกนี้ถ้าไม่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เราอาจโดนมันฟ้องกลับได้นะครับ ส่วนเรื่องที่คุณ Little Boy บอกว่าเอากุญแจไปล็อก ผิดกฎหมายนะครับผมเคยถามทนาย เขาบอกว่าอาจโดนแจ้งยักยอกทรัพย์ได้

[MarginofSafety]

อันนี้คัดลอกมาจากสัญญาเช่าบ้านมาตรฐานทั่วไปนะครับ

ถ้าผู้เช่าเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดตามสัญญานี้ หรือผู้เช่าผิดสัญญา หรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่งก็ดี ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาและทำการริบเงินประกันตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไว้ทั้งหมด ได้ทันที

เมื่อผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเนื่องจากผู้เช่าผิดสัญญาแล้ว (ไม่จ่ายค่าเช่า)
เราก็น่าจะมีสิทธิในบ้านของเราเต็มที่นะ
แต่เรื่องอาจจะต้องถึงศาล

ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อน
โดยประสงค์จะอยู่อาศัยต่อแต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเช่า
ถ้าผู้ให้เช่าไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้เลย
ผมว่าฟังดูแปลกๆเหมือนกันนะ

เผอิญคนเช่าบ้านผมเค้าน่ารักมากครับ เลยไม่เคยได้ศึกษาเรื่องนี้
อาจจะผิดก็ได้ครับ ไม่ได้เชี่ยวชาญกฎหมาย แต่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกๆ

[Little Boy]

โชคดีจังที่ผู้เช่าไม่ไปแจ้งความ ไม่งั้นอาจเปลี่ยนจากนอนรอในโรงแรม เป็นนอนรอในคุกแทน เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ

คืองี้ครับ กรณีของผมคือ บ้านเช่าอยู่ ตจว. ผู้เช่าจะโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือน แรกๆ ผมก็เช็คยอดดูอ่ะครับ แต่พอนานๆ ไป เช็คบ้างไม่เช็คบ้างว่าเงินเข้าหรือเปล่า จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนบ้านผู้ใจดีก็โทรมาบอกว่า ผู้เช่าบ้านผมขนของออกไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่หมด บ้านยังจะให้เช่าอีกหรือเปล่ามีคนสนใจ ผมก็เลยชะงักงันไปชั่วครู่ "มันออกทำไมไม่เห็นบอกสักคำหวา"

จากนั้นก็เลยไปเช็คยอดเงินในบัญชีดู อืม.. ไม่จ่ายค่าเช่ามา 3 เดือน เงินที่ประกันไว้ก็แค่ล่วงหน้า 2 เดือน ไหนจะต้องไปตรวจสภาพบ้านดูอีกว่ามีอะไรชำรุดเสียหายหรือเปล่า ก็เลยกดโทรไปหาผู้เช่าครับ แต่กลายเป็นว่าหมายเลขที่ท่านเรียก ยังไม่เปิดให้บริการ "อ้าว..เลิกใช้เบอร์นี้ไปแล้วเหรอเนี่ยะ แล้วจะติดต่อยังไงหวา"  ทำไงดีล่ะ ผมถามตัวเองก่อนตัดสินใจด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา คิดแก้ปัญหาตื้นๆ ก็เลยเกิดวิธีการอย่างกระทู้ข้างต้น

แต่คิดไปคิดมาก็นะ อดน้อยใจแทนผู้ให้เช่าไม่ได้ ผมมีสัญญาเช่า ปีต่อปี ในสัญญาระบุชัด หากผู้ให้เช่าผิดสัญญาไม่จ่ายค่าเช่าเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์บอกปัดยกเลิกสัญญาการเช่า และเรียกร้องให้ผู้เช่าชำระเงินส่วนที่เหลือได้ ดังนั้นบ้านก็น่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผมแล้วสิ  การไปคล้องกุญแจบ้านตัวเองก็ไม่น่าจะผิด

แต่ถ้าผิด แสดงว่าบ้านยังไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผม ยังเป็นของผู้เช่าอยู่ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเป็นกรรมสิทธิ์ผมล่ะ อืม..วานผู้รู้ช่วยชี้แจงด้วยครับ จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์เสี่ยงคุกอีก กั๊วกัว เพราะยังไงผมก็ต้องให้คนเช่าบ้านไปอีกนาน ปล่อยไว้ก็โทรมเปล่าๆ แถมไม่ได้ตังค์ด้วย อันหลังนี่สำคัญครับ  :lol:

[ปรัชญา]

ตามสัญญาเช่าบ้านทั่วไปที่พิมพ์ขาย
ก็ชี้ชัดเรื่องการผิดสัญญา  ก็เท่ากับโมฆะแล้วครับ

เราต้องสลักหลังสัญญาเพิ่ม
ตอนนี้ผมมีบ้านให้เช่าอยู่หลายหลังและอาคารพานิชย์

การเข้ามาเช่าบ้านของเรา
ก็ต้องมีเงินประกันบ้านก่อน  ถ้าไม่มีก็ไม่ให้เช่า  นี่คือการกรองครั้งที่1

ต้องเรียกเงินประกันบ้าน
 กำหนดไปเลย  3หมื่นขั้นต่ำ  ก่อนเข้าทำการเช่าบ้าน
จะคืนให้หลังเช่าครบตามสัญญา1ปี  (หากเลิกการเช่าก่อนลับเงินมัดจำประกันบ้าน)

ถ้ายกเลิกการเช่าก่อนกำหนด  ยึดเงินมัดจำไม่คืน

เมื่ออยู่ครบการเช่า  และแจ้งยกเลิกการเช่า  (เงินยังไม่คืนนะ)

รอให้เจ้าของบ้านเคลียร์  ค่าน้ำประปา  ไฟฟ้า  โทรศัพท์
ซ่อมแซมบ้าน  ทาสีให้  ซ่อมมุ้งรวด  ระบบไฟฟ้า  ประปา  ตลอดถึงซ่อมแซมหลังคา  อุดรูตะปูที่มาทำผนังเป็นรอย
พื้นบ้านเป็นรอยจากปาเก้  ต้องขัดและทาน้ำมันใหม่ อื่นๆ
จนกว่าสภาพบ้านจะคงเดิมเหมือนวันเข้ามาเช่า
(ต้องถ่ายรูปก่อนเข้าทำการเช่า)

ประวัติการขายผมไม่เคย
เคยแต่ซื้อมา10กว่าครั้งครับ  เลยขอแนะนำวิธี  ทำสัญญาแค่นี้

ถามเป็นกรณีไปจะอธิบายให้ครับ

[ปรัชญา]

กรณีผู้เช่าไม่จ่าย  ไม่หนี

แล้วเจ้าของบ้าน  จ้างคนไปขนของโยนออกนอกบ้าน

ผู้เช่าเคยมีการไปแจ้งความตำรวจ  ว่าทองคำหายไป4บาท
ตำรวจเรียกเจ้าของบ้านให้นำตัวพนักงานขนของ  มาสอบสวน
สุดท้ายออมชอมต้องจ่าย  ถ้าไม่จ่ายโดนข้อหาลักทรัพย์

ใส่โซ่  แบบเดียวกัน
จำไว้เลย  ทรัพย์สินไม่เกิน5หมื่นบาทเป็นคดีแพ่ง
ตำรวจเป็นคนกลาง  ไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูกได้
เพราะตำรวจรู้กฏหมายถือกฏหมายครึ่งเดียว
ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล  ซึ่งจะทำให้หมดสิ้นเปลืองค่าทนาย
ตำรวจจึงนิยมการไกล่เกลี่ยยอมความ

หากทรัพยสินเงินทองเกิน5หมื่น  เจ้าพนักงานมีสิทธิ์สั่งขังผู้ต้องหา
แต่เท่าที่เคยมี  ปสก.  ตำรวจก็ไม่ทำหรอก

[Little Boy]

อย่างกรณีของผม ผมไม่ได้เข้าบ้าน เพราะผู้เช่าก็ล็อคกุญแจอยู่ แต่ผมเอาโซ่ไปคล้องกุญแจอีกทีหนึ่ง งั้นผมก็น่าจะรอดข้อหาลักทรัพย์นา

เรื่องสัญญา เงินมัดจำ ผมก็ทำคล้ายๆ กับที่เฮียปรัชญาแนะนำล่ะครับ แต่มันเป็นความสะเพร่าของผมเองที่ไม่ได้เช็คบัญชี เลยไม่รู้ว่าผู้เช่าไม่จ่ายมา 3 เดือนแล้ว ก็เลยคิดว่าสัญญาเช่าก็น่าจะเป็นโมฆะ กรรมสิทธิ์ก็น่าจะเป็นของผมแล้ว แถมไม่ได้งัดแงะบ้านเพื่อบุกรุกอะไรด้วย แต่เอาโซ่ไปคล้องกุญแจไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นบุกรุก (เพราะเข้าใจว่าเป็นกรรมสิทธิ์เราแล้ว) ก็เลยงงๆ ว่าผมผิดด้วยเหรอเนี่ยะ?? ถ้างั้นควรจะทำยังไง ทางออกอยู่ตรงไหน โทรติดต่อผู้เช่าก็ไม่ติด เปลี่ยนเบอร์ ไปนั่งเฝ้าหน้าบ้านตลอดก็ไม่ได้ ไม่ว่างขนาดนั้น ฝากฝังเพื่อนบ้านก็ได้แค่ระดับนึง เกรงใจ เฮ้อ...คิดแล้วเหนื่อย ขายบ้านมาซื้อหุ้นดีก่า

[ปรัชญา]

อย่างกรณีของผม ผมไม่ได้เข้าบ้าน เพราะผู้เช่าก็ล็อคกุญแจอยู่ แต่ผมเอาโซ่ไปคล้องกุญแจอีกทีหนึ่ง งั้นผมก็น่าจะรอดข้อหาลักทรัพย์นา

ผู้เช่าคนนี้  คงไม่หัวหมอ  ไม่มีคนเชียร์สอน  ลูกเล่นเลยไม่มี
ให้เขาเช่าบ้านก็ต้องทำใจ


อ้อ  ลืมไปผมเก็บ
ค่ามัดจำบ้าน
เงินค่าเช่าล่วงหน้า3เดือน
และต่อไปเก็บก่อน1เดือนตลอด

ถ้าอาคารพานิชย์เก็บค่าภาษีการค้าด้วย
หากมีบริษัทจำกัดมาเช่า  ก็เรียกเผื่อค่าหักภาษี  ณ.ที่จ่าย
เพราะเมื่อบริษัทโอนเงินเข้าบัญชีแล้วจะส่งใบหักภาษีมาให้เราครับ

คติประจำใจ
บ้านให้เช่าจะใหม่เสมอ
ผู้เช่า  เป็นผู้รับผิดชอบโดยเงินมัดจำ

ทำมาเป็น10ปี  บ้านใหม่ตลอด  บ้านบางหลังปูกระเบื้อง
ลากมอเตอร์ไซด์กระเบื้องแตก  เราก็เปลี่ยนให้เรียบร้อยสวยงาม
ก่อนผู้เช่ารายใหม่จะเข้ามา  น่าจะเรียกพร้อมเช่า

เงินมัดจำ  หากผู้เช่าย้ายออกก่อนครบกำหนด
ทางผู้ให้เช่าก็ยึดเงิน   บอกกับผู้เช่าว่า...เป็นค่าเสียโอกาส