ภัทเทกรัตตคาถา

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eyore
Verified User
โพสต์: 606
ผู้ติดตาม: 0

ภัทเทกรัตตคาถา

โพสต์ที่ 1

โพสต์

http://202.44.204.76/cgi-bin/kratoo.pl/003592.htm
ภัทเทกรัตตสูตร คือ ชื่อสูตรหนึ่งในมัชฌิมนิกายอุปริปัณณาสก์ แห่งพระสุตตันตปิฎก แสดงเรื่องบุคคลผู้มีราตรีเดียวเจริญ คือ คนที่เวลาวันคืนหนึ่งๆ มีแต่ความดีงามความเจริญก้าวหน้าได้แก่ ผู้ที่ไม่มัวครุ่นคำนึงอดีตไม่เพ้อหวังอนาคต ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นแจ้งประจักษ์สิ่งที่เป็นปัจจุบัน ทำความดีเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยไปมีความเพียร พยายาม
ทำกิจที่ควรทำเสียแต่วันนี้ไม่รอวันพรุ่ง

ภัทเทกรัตตคาถา
(หันทะ มะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะเส)

อะ ตี ตัง นา นวา คะ เมย ยะ ... นัป ปะ ฏิ กัง เข อะ นา คะ ตัง
บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ด้วยอาลัย และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง

ยะ ทะ ตี ตัม ปะ xx นัน ตัง ... อัป ปัต ตัญ จะ อะ นา คะ ตัง
สิ่งที่เป็นอดีตก็ละไปแล้ว สิ่งเป็นอนาคตก็ยังไม่มา

ปัจ จุป ปัน นัญ จะ โย ธัมมัง .. ตัต ถะ ตัต ถะ วิ ปัส สะ ติ
อะ สัง หิ รัง อะ สัง กุป ปัง ... ตัง วิท ธา มะ นุ พรู หะ เย
ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าในที่นั้น ๆ อย่างแจ่มแจ้ง
ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้

อัช เช วะ กิจ จะ มา ตัป ปัง ... โก ชัญ ญา มะ ระ ณัง สุ เว
ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้ ใครจะรู้ความตาย แม้พรุ่งนี้

นะ หิ โน สัง คะ รัน เต นะ ... มะ หา เส เน นะ มัจ จุ นา
เพราะการผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชซึ่งมีเสนามาก ย่อมไม่มีสำหรับเรา

เอ วัง วิ หา ริ มา ตา ปิง ... อะ โห รัต ตะ มะ ตัน ทิ ตัง
ตัง เว ภัท เท กะ รัต โต ติ ... สัน โต อา จิก ขะ เต มุ นิ.
มุนีผู้สงบ ย่อมกล่าวเรียก ผู้มีความเพียรอยู่เช่นนั้น ไม่เกียจคร้าน
ทั้งกลางวันกลางคืนว่า "ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว ก็น่าชม."

จากคู่มืออุบาสกอุบาสิกา ภาค ๑-๒
ทำวัตรเช้า - เย็น และสวดมนต์พิเศษบางบท
ของ สำนักสวนโมกขพลาราม ไชยา

ภัทเทกรัตตคาถา มีที่มา คือ ไตร. ล. ๑๔/๓๔๘/๕๒๗ ตรงกับภัทเทกรัตตสูตร ดังนี้ค่ะ

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ วิภังควรรค ภัทเทกรัตตสูตร

ภัทเทกรัตตสูตร (๑๓๑)

[๕๒๗] พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่
มาถึง สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และสิ่งที่
ยังไม่มาถึง ก็เป็นอันยังไม่ถึง ก็บุคคลใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบัน
ไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลนในธรรมนั้นๆ ได้ บุคคลนั้นพึง
เจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด พึงทำความเพียรเสียใน
วันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง เพราะว่าความ
ผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย
พระมุนีผู้สงบย่อมเรียกบุคคลผู้มีปรกติอยู่อย่างนี้ มีความเพียร
ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืน นั้นแลว่าผู้มีราตรีหนึ่ง    
เจริญ ฯ
...

ภัทเทกรัตต์
โดย พระธรรมโกศาจารย์ (ท่านพุทธทาสภิกขุ)

สิ่งล่วงแล้ว แล้วไป อย่าใฝ่หา
ที่ไม่มา ก็อย่าพึ่ง คนึงหวัง
อันวันวาน ผ่านพ้น ไม่วนวัง
วันข้างหน้า หรือก็ยัง ไม่มาเลย

ผู้ใดเฟ้น เห็นชัด ปัจจุบัน
เรื่องนั่นนั้น แจ่มกระจ่าง อย่างเปิดเผย
ไม่แง่นง่อน คลอนคลั่ง ดั่งเช่นเคย
รู้แล้วเลย ยิ่งเร้า ให้ก้าวไป

วันนี้เอง เร่งกระทำ ซึ่งหน้าที่
อันวันตาย แม้พรุ่งนี้ ใครรู้ได้
เพราะไม่อาจ บอกปัด หรือผลัดไว้
ต่อความตาย และมหา เสนามัน

ผู้มีเพียร เวียนเป็น อยู่เช่นนี้
ทั้งทิพา ราตรี แข็งขยัน
นั่นแหละผู "ภัทเท- กรัตต์"อัน
สัตบุรุษ ผู้รู้ ท่าน กล่าวกันเอยฯ.
...

เพิ่งจะเจอบทสวดมนต์บทนี้ไม่นานเองค่ะ ทั้ง ๆ ที่หนังสือสวดมนต์ที่มีบทนี้อยู่ อยู่กับตัวมานานมากแล้ว
แต่ไม่เคยเปิดอ่าน เปิดสวด พอเจอบทสวดมนต์นี้เข้า โดยเฉพาะ ท่อนที่ว่า
อัช เช วะ กิจ จะ มา ตัป ปัง ... โก ชัญ ญา มะ ระ ณัง สุ เว
ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้ ใครจะรู้ความตาย แม้พรุ่งนี้
จับใจมาก เลยสวดทุกวัน และเอาเป็นข้อเตือนใจให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องค่ะ
โพสต์โพสต์