***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 1
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 72.html#75
http://video.mthai.com/player.php?id=16M1171340862M0
..ชุดคำถาม ที่ 4 หมวด ความสวยความงาม
1.
กิน หวาน มากทำให้ผิวเหี่ยว จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาล อยู่ ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ ผิว ทำ ให้เกิดภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และ เหี่ยวย่น ในที่สุด
2.
การยืนเอาปลาย นิ้ว มือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะ ปลาย นิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิต บริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใส ขึ้น
3.
เอาน้ำแข็งถูหน้า ก่อนนอนจะทำให้หายมันได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะ แห้งไปเองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะ หาย
4.
การสวมเสื้อผ้า หนาๆ เพื่อให้เหงื่อออกเยอะๆ จะทำให้ผอมเร็วจริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง การที่เหงื่อออกเยอะคือ ภาวะ ที่ ร่างกายโดนความร้อนแล้วระบายความร้อนออกมา ไม่ใช่การเผาผลาญไขมันออกมา เพราะ ฉะนั้นพอเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะเท่า เดิม
5.
คนผิวแห้งมีโอกาส เกิดริ้วรอยกว่าคนผิวมัน จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะคนผิวแห้งขาด ซีบัม หรือ สารไขมัน ทำให้กลไกลการปกป้องตนเองของผิวหนังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะ ฉะนั้นคนผิวแห้งควรดูแล และทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่นแก่ผิวพิเศษกว่าคนผิว มัน
6.
การฝึกกลั้นหายใจ สามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึง หายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้
7.
การ ร้องไห้ช่วยลดความอ้วนได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การหัวเราะต่างหากที่ช่วย เผา ผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวัน ละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มาก ถึง 50 แคลอรี
8.
กาวตราช้างใช้ รักษาส้นเท้าแตกได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อปิดหนังที่แตกด้วย กาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อม แซม ตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออก ไป แต่ ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง
9.
การ เต้น รำทำให้ผิวสวยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การเต้นรำเพียงวัน ละ 20 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำ ให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพ ดี
10.
การใส่ กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้ จริง หรือ
เฉลย
จริง เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่ นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะ เมื่อ ผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์= A
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 72.html#75
http://video.mthai.com/player.php?id=16M1171340862M0
..ชุดคำถาม ที่ 4 หมวด ความสวยความงาม
1.
กิน หวาน มากทำให้ผิวเหี่ยว จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อร่างกายมีน้ำตาล อยู่ ในกระแสเลือดมากเกินไป มันจะไปเกาะติดกับเส้นใยโปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ ผิว ทำ ให้เกิดภาวะผิวเครียดขึ้น และนำไปสู่อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และ เหี่ยวย่น ในที่สุด
2.
การยืนเอาปลาย นิ้ว มือแตะปลายนิ้วเท้าจะทำให้ผิวหน้าดูสดใส จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการยืนเอาปลายนิ้วมือแตะ ปลาย นิ้วเท้า ก้มตัวต่ำๆค้างไว้นับ 1-30 แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นจะทำให้โลหิต บริเวณหนังศีรษะ และใบหน้าหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลกระทบให้ผิวหน้าดูสดใส ขึ้น
3.
เอาน้ำแข็งถูหน้า ก่อนนอนจะทำให้หายมันได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่แก้ปัญหาหน้ามันได้โดยการ ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาหน้าให้ทั่วใบหน้า ทาแล้วไม่ต้องล้างออก น้ำเมือกจะ แห้งไปเองภายใน ๕ - ๑๐ นาที ทำก่อนนอน แค่นี่หน้าก็จะ หาย
4.
การสวมเสื้อผ้า หนาๆ เพื่อให้เหงื่อออกเยอะๆ จะทำให้ผอมเร็วจริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง การที่เหงื่อออกเยอะคือ ภาวะ ที่ ร่างกายโดนความร้อนแล้วระบายความร้อนออกมา ไม่ใช่การเผาผลาญไขมันออกมา เพราะ ฉะนั้นพอเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะเท่า เดิม
5.
คนผิวแห้งมีโอกาส เกิดริ้วรอยกว่าคนผิวมัน จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะคนผิวแห้งขาด ซีบัม หรือ สารไขมัน ทำให้กลไกลการปกป้องตนเองของผิวหนังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะ ฉะนั้นคนผิวแห้งควรดูแล และทาครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่นแก่ผิวพิเศษกว่าคนผิว มัน
6.
การฝึกกลั้นหายใจ สามารถชะลอหน้าแก่ก่อนวัยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ จนสุดลม แล้วหายใจเข้าทางจมูกอย่างช้าๆ ให้เต็มปอด กลั้นไว้ระยะหนึ่ง แล้วจึง หายใจออกอย่างช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที จะช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัย และรอยคล้ำ ได้
7.
การ ร้องไห้ช่วยลดความอ้วนได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การหัวเราะต่างหากที่ช่วย เผา ผลาญแคลอรีให้หมดไปได้ดีกว่าอยู่เฉยๆ ได้มากถึง 20% ซึ่งหากได้หัวเราะวัน ละสัก 10 -15 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานลงได้มาก ถึง 50 แคลอรี
8.
กาวตราช้างใช้ รักษาส้นเท้าแตกได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ เมื่อปิดหนังที่แตกด้วย กาวตราช้าง สิ่งสกปรกจะเข้าไปในรอยแตกไม่ได้ ผิวจะไม่ ถูกรบกวน จึงมีการซ่อม แซม ตนเองขึ้นมา มีการสร้างเซลล์ใหม่ และผลัดเซลล์เก่าออก กาวช้างก็จะหลุดออก ไป แต่ ห้ามใช้กับคนที่แพ้กาวตราช้าง
9.
การ เต้น รำทำให้ผิวสวยได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การเต้นรำเพียงวัน ละ 20 นาที ช่วยเผาผลาญแคลอรี กระตุ้นระบบการหายใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต ทำ ให้เลือดลมเดินทั่วผิว ทำให้ผิวสวยมีสุขภาพ ดี
10.
การใส่ กระโปรงสั้นในห้องแอร์เป็นประจำทำให้ขาใหญ่ได้ จริง หรือ
เฉลย
จริง เพราะ ช่วงขาส่วนที่อยู่ นอกกระโปรงจะเกิดการสะสมไขมันเป็นพิเศษ เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยเฉพาะ เมื่อ ผิวหนังเจอความหนาวเย็น ทำให้เกิดเซลลูไลท์= A
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 2
ชุดคำถาม ที่ 3 หมวด รู้ไว้ใช่ว่า
1.
การแลบลิ้นให้น้ำลาย ยืดลงพื้น 3 หยด จะแก้เผ็ดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แค ปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิ กริยาโดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป
2.
ดูดนมยางของเด็กทารก ตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง การคาบหรืออมนายางของเด็กทารก ไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดานไม่กระเทือน สั่นไหวขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรน และไม่นอนอ้าปากอีก ด้วย
3.
การสูดกลิ่นตัว ผู้ชาย ทำให้หายเครียดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคน รักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขา เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลด อาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้
4.
แอปเปิ้ลผลิตกระแส ไฟฟ้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่น ทอง แดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็น เหมือน แบตเตอรี่ ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรป ฟรุ๊ต หรือมันฝรั่ง ก็ทำได้ เช่น กัน
5.
ปัสสาวะ มนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึง เป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์
6.
วัวกระทิงเกลียดสี แดง จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่ สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้น เป็นเพราะความรำคาญ และเพราะถูกยั่วยุ มากกว่า
7.
เพชรแท้จะ ไม่ติดสีหมึก จริงหรือ
เฉลย
จริง การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้าย น้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชร แสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชร เทียม
8.
การทะเลาะ กันทำให้แผลหายช้า จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ด เลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลง ทำ ให้บาดแผลต่างๆ หายช้า
9.
แสงแดด อ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการ สร้างฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่ แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึม เซา ได้
10.
การฟัง เพลง ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การฟังเพลงทำให้สมอง หลั่ง สารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และ บรรเทาอาการปวดข้อลงได้
1.
การแลบลิ้นให้น้ำลาย ยืดลงพื้น 3 หยด จะแก้เผ็ดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แค ปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้น ร่างกายจะก็จะแสดงปฎิ กริยาโดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป
2.
ดูดนมยางของเด็กทารก ตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง การคาบหรืออมนายางของเด็กทารก ไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดานไม่กระเทือน สั่นไหวขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรน และไม่นอนอ้าปากอีก ด้วย
3.
การสูดกลิ่นตัว ผู้ชาย ทำให้หายเครียดได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคน รักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขา เมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลด อาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้
4.
แอปเปิ้ลผลิตกระแส ไฟฟ้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่น ทอง แดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็น เหมือน แบตเตอรี่ ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรป ฟรุ๊ต หรือมันฝรั่ง ก็ทำได้ เช่น กัน
5.
ปัสสาวะ มนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึง เป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์
6.
วัวกระทิงเกลียดสี แดง จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่ สามารถแยกแยะสีต่างๆ ได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้น เป็นเพราะความรำคาญ และเพราะถูกยั่วยุ มากกว่า
7.
เพชรแท้จะ ไม่ติดสีหมึก จริงหรือ
เฉลย
จริง การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้าย น้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชร แสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชร เทียม
8.
การทะเลาะ กันทำให้แผลหายช้า จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ด เลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลง ทำ ให้บาดแผลต่างๆ หายช้า
9.
แสงแดด อ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการ สร้างฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่ แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วง เหงา ซึม เซา ได้
10.
การฟัง เพลง ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การฟังเพลงทำให้สมอง หลั่ง สารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และ บรรเทาอาการปวดข้อลงได้
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 3
ชุดคำถาม ที่ 2 หมวด กินเพื่อสุขภาพ
1.
กินน้ำมะนาวปั่น สามารถแก้อาการเมาค้างได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่แก้อาการเมาค้างได้โดยการ ดื่มน้ำกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง เพราะกล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำ ผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วย ปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา ทำให้อาการเมาหายไป ได้
2.
เมื่อ เป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียม สูง เมื่อเวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโพแทสเซียม สูง จะส่งผลให้เกิดอาการชักได้
3.
มัน ฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำลงได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในมันฝรั่งมีสารเคมีที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชื่อว่า คูคัวไมน์ส มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิต ให้ ต่ำลง และมันยังรักษาโรคที่ลึกลับที่เรียกว่า โรคนอนหลับ ได้อีก ด้วย
4.
ดื่มนม ร้อนก่อนนอนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ จริง หรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การดื่มนมร้อนก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบาย ยิ่งขึ้น เพราะนมร้อนจะส่งเสริมให้สมองหลั่งสาร
5.
การเคี้ยวหมาก ฝรั่งช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การเคี่ยวหมากฝรั่งช่วยให้ คน ไข้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่หายเร็วขึ้น เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการผ่าตัด เป็น การ บริหารให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติได้เร็วขึ้น คนไข้จะไม่เกิดอาการลำไส้อืด ซึ่ง ทำให้ปวดท้อง และท้องอืด หลังจากที่ต้องหยุดทำงานไปพัก หนึ่ง
6.
การกินเนยก่อนนอน ทำให้นอนหลับสนิทขึ้น จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มี ชื่อ ว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับ ได้ สนิทดีขึ้น
7.
กินส้ม ช่วยแก้อาการเซ็งได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง การรับประทานส้มโดยปอกเปลือก เอง จะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวน ที่ เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมา ด้วย
8.
การกินช็อคโกแล๊ต ช่วยแก้ไอได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ต มีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำ หน้าที่เกี่ยวกับการไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ ผล
9.
การกิน บ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การที่คนเรามีอาการ เหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความเป็นด่างได้ ทัน แต่บ๊วยมีความเป็นด่าง Ph 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึง ช่วย ถ่วงดุลความเป็นด่างได้ และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มาก อีก ด้วย
10.
การกิน อาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้ จริง หรือ
เฉลย
จริง เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัว ง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น สารอาหาร ไปเลี้ยงสมองได้ น้อยลง สมองจึงค่อยๆ เสื่อม
1.
กินน้ำมะนาวปั่น สามารถแก้อาการเมาค้างได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่แก้อาการเมาค้างได้โดยการ ดื่มน้ำกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง เพราะกล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำ ผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วย ปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา ทำให้อาการเมาหายไป ได้
2.
เมื่อ เป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียม สูง เมื่อเวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโพแทสเซียม สูง จะส่งผลให้เกิดอาการชักได้
3.
มัน ฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำลงได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในมันฝรั่งมีสารเคมีที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ชื่อว่า คูคัวไมน์ส มีสรรพคุณในการควบคุมความดันโลหิต ให้ ต่ำลง และมันยังรักษาโรคที่ลึกลับที่เรียกว่า โรคนอนหลับ ได้อีก ด้วย
4.
ดื่มนม ร้อนก่อนนอนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ จริง หรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การดื่มนมร้อนก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบาย ยิ่งขึ้น เพราะนมร้อนจะส่งเสริมให้สมองหลั่งสาร
5.
การเคี้ยวหมาก ฝรั่งช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายได้ จริงหรือ
เฉลย
ไม่จริง แต่การเคี่ยวหมากฝรั่งช่วยให้ คน ไข้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่หายเร็วขึ้น เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการผ่าตัด เป็น การ บริหารให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติได้เร็วขึ้น คนไข้จะไม่เกิดอาการลำไส้อืด ซึ่ง ทำให้ปวดท้อง และท้องอืด หลังจากที่ต้องหยุดทำงานไปพัก หนึ่ง
6.
การกินเนยก่อนนอน ทำให้นอนหลับสนิทขึ้น จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะในเนยมี กรดอมิโน ที่มี ชื่อ ว่า ทริปโตพัน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และสะกดให้หลับ ได้ สนิทดีขึ้น
7.
กินส้ม ช่วยแก้อาการเซ็งได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง การรับประทานส้มโดยปอกเปลือก เอง จะมีกลิ่นส้มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และวิตามินซีที่ร่างกายได้รับในจำนวน ที่ เพียงพอ ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คลายความเครียดลงได้ดีออกมา ด้วย
8.
การกินช็อคโกแล๊ต ช่วยแก้ไอได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ โกโก้ที่ใช้ทำช็อคโกแล๊ต มีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ จะไปออกฤทธิ์ที่เส้นประสาทชื่อ เวกัสเนอร์ฟ ที่ทำ หน้าที่เกี่ยวกับการไอ ทำให้สามารถหยุดอาการไอเรื้อรังอย่างได้ ผล
9.
การกิน บ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง เพราะ การที่คนเรามีอาการ เหนื่อย อ่อนเพลีย เพราะกรดในเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถปรับดุลความเป็นด่างได้ ทัน แต่บ๊วยมีความเป็นด่าง Ph 7.35 ใกล้เคียงกับเลือดคนเรา จึง ช่วย ถ่วงดุลความเป็นด่างได้ และยังมีโปรตีน เกลือแร่ และสารอาหารจำเป็นอยู่มาก อีก ด้วย
10.
การกิน อาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้ จริง หรือ
เฉลย
จริง เพราะ เลือดตอนเช้าจะแข็งตัว ง่ายกว่าปกติ จึงมีโอกาสที่หลอดเลือดอุดตันมากขึ้น สารอาหาร ไปเลี้ยงสมองได้ น้อยลง สมองจึงค่อยๆ เสื่อม
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 4
สวัสดีค่ะ คุณ ซีเค ดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้เข้ามาแล้วเจอคุณ ซีเค
คิดถึงค่ะ วันเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ครบปีนึงแล้ว
ฮาๆๆดีใจที่ไฟฉายยังใช้งานได้
ซินเซีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ ค่ะ
ขอให้เพื่อนๆ ทุกๆคนจงร่ำรวยตลอดทั้งปีค่ะ
แล้วปีนี้ไม่จัดมีตติ้งหรือคะ
คิดถึงค่ะ วันเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ครบปีนึงแล้ว
ฮาๆๆดีใจที่ไฟฉายยังใช้งานได้
ซินเซีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ ค่ะ
ขอให้เพื่อนๆ ทุกๆคนจงร่ำรวยตลอดทั้งปีค่ะ
แล้วปีนี้ไม่จัดมีตติ้งหรือคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 5
โปรดอย่าเปิด File ลักษณะนี้! เพราะมันคือ ไวรัส
เรียน ผู้ใช้บริการระบบสารสนเทศ
เนื่องจากช่วงนี้ ไวรัส Music.exe กำลังแพร่กระจาย กรุณาอย่าทำอะไรกับ File ที่มีสีดำ ดังรูปข้างล่าง
ถ้าใครพบ File ลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้ง 3456 กด 1 ค่ะ
อาการที่พบ
ไวรัส music.exe เป็นไวรัสตัว ที่มีการ ระบาดแถบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไวรัสตัวนี้จะทำงานดังนี้
1. ไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกCD ROM Drive ได้ ต้องคลิกขวาแล้ว Explorer เท่านั้น
2. มีการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ในไดร์ C:\ ชื่อว่า music.exe และ autorun.inf และ C:windows>back.reg แต่ ไฟล์
ดังกล่าวจะซ่อนตัวไว้ต้องทำการแสดงรายชื่อไฟล์ทั้งสองโดย เข้าไปที่
my computer>tools>folder option>view>show hidden file and folders
3. เครื่องจะทำงานช้าลง มากกว่า 60 %
4. ไฟล์ที่มีนามสกุล .mp3 จะถูกลบทั้งหมดทุกไฟล์ที่มีอยู่ในเครื่อง
5. มีการสร้างโฟลเดอร์เสมือนขึ้นมามีนามสกุลต่อท้าย .exe เมื่อลบออกไป ไฟล์ดังกล่าวก็จะกลับมาอีกครั้ง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ Service Desk โทร.3456
เรียน ผู้ใช้บริการระบบสารสนเทศ
เนื่องจากช่วงนี้ ไวรัส Music.exe กำลังแพร่กระจาย กรุณาอย่าทำอะไรกับ File ที่มีสีดำ ดังรูปข้างล่าง
ถ้าใครพบ File ลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้ง 3456 กด 1 ค่ะ
อาการที่พบ
ไวรัส music.exe เป็นไวรัสตัว ที่มีการ ระบาดแถบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไวรัสตัวนี้จะทำงานดังนี้
1. ไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกCD ROM Drive ได้ ต้องคลิกขวาแล้ว Explorer เท่านั้น
2. มีการสร้างโฟลเดอร์ใหม่ในไดร์ C:\ ชื่อว่า music.exe และ autorun.inf และ C:windows>back.reg แต่ ไฟล์
ดังกล่าวจะซ่อนตัวไว้ต้องทำการแสดงรายชื่อไฟล์ทั้งสองโดย เข้าไปที่
my computer>tools>folder option>view>show hidden file and folders
3. เครื่องจะทำงานช้าลง มากกว่า 60 %
4. ไฟล์ที่มีนามสกุล .mp3 จะถูกลบทั้งหมดทุกไฟล์ที่มีอยู่ในเครื่อง
5. มีการสร้างโฟลเดอร์เสมือนขึ้นมามีนามสกุลต่อท้าย .exe เมื่อลบออกไป ไฟล์ดังกล่าวก็จะกลับมาอีกครั้ง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ Service Desk โทร.3456
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 6
...:: ยิ้มหมายเลข 2 ::
หนุ่มใหญ่นั่งครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานจนภรรเมียสงสัย
" คิดอะไรอยู่หรือพี่ " เธอถาม
" จำได้มั้ย วันนี้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วพ่อเอ็งจับได้ว่าข้าเข้าหาเอ็ง "
" จำได้สิพี่ " เมียพยักหน้าหงึกๆ
" แล้วพ่อเอ็งก็ให้ข้าเลือกว่าจะมาสู่ขอเอ็งหรือว่าจะยอมติดคุกซัก 20 ปี "
" แล้วพี่ก็เลือกแต่งกับชั้น " เมียพยักหน้าอาการรับรู้
" แล้วพี่นั่งคิดอะไรอยู่ล่ะ "
" ข้าคิดอยู่ว่า ถ้าข้ายอมติดคุก วันนี้ข้าก็พ้นโทษแล้วว่ะ!!! "
:: ยิ้มหมายเลข 4 ::
แอร์โฮสเตสสายการบินที่ตกบ่อยๆประกาศก่อนเครื่องออก
" ท่านผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ
เที่ยวบินสู่เมืองปักกิ่งกำลังจะออกเดินทาง ณ บัดนี้แล้ว
เพื่อความปลอดภัยขอให้ทุกท่านโปรดคาดเข็มขัดนิรภัย
ท่านที่พบว่าเข็มขัดนิรภัยตรงที่นั่งท่านชำรุด กรุณา
มัดไว้ด้วยเงื่อนพิรอดนะคะ
กรุณาอย่าใช้เงื่อนตาย ถ้าท่านหาสายรัดเข็มขัดนิรภัยไม่พบ
กรุณาย้ายไปที่นั่งอื่นที่ว่างอยู่ ทั้งนี้ขอให้ท่านได้โปรดวางใจ
ถึงแม้เครื่องบินของเราจะเก่า
แต่ทั้งนักบินและนักบินผู้ช่วยของเรายังใหม่อยู่นะคะ..."
-------------------------------------
หนุ่มใหญ่นั่งครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานจนภรรเมียสงสัย
" คิดอะไรอยู่หรือพี่ " เธอถาม
" จำได้มั้ย วันนี้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วพ่อเอ็งจับได้ว่าข้าเข้าหาเอ็ง "
" จำได้สิพี่ " เมียพยักหน้าหงึกๆ
" แล้วพ่อเอ็งก็ให้ข้าเลือกว่าจะมาสู่ขอเอ็งหรือว่าจะยอมติดคุกซัก 20 ปี "
" แล้วพี่ก็เลือกแต่งกับชั้น " เมียพยักหน้าอาการรับรู้
" แล้วพี่นั่งคิดอะไรอยู่ล่ะ "
" ข้าคิดอยู่ว่า ถ้าข้ายอมติดคุก วันนี้ข้าก็พ้นโทษแล้วว่ะ!!! "
:: ยิ้มหมายเลข 4 ::
แอร์โฮสเตสสายการบินที่ตกบ่อยๆประกาศก่อนเครื่องออก
" ท่านผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ
เที่ยวบินสู่เมืองปักกิ่งกำลังจะออกเดินทาง ณ บัดนี้แล้ว
เพื่อความปลอดภัยขอให้ทุกท่านโปรดคาดเข็มขัดนิรภัย
ท่านที่พบว่าเข็มขัดนิรภัยตรงที่นั่งท่านชำรุด กรุณา
มัดไว้ด้วยเงื่อนพิรอดนะคะ
กรุณาอย่าใช้เงื่อนตาย ถ้าท่านหาสายรัดเข็มขัดนิรภัยไม่พบ
กรุณาย้ายไปที่นั่งอื่นที่ว่างอยู่ ทั้งนี้ขอให้ท่านได้โปรดวางใจ
ถึงแม้เครื่องบินของเราจะเก่า
แต่ทั้งนักบินและนักบินผู้ช่วยของเรายังใหม่อยู่นะคะ..."
-------------------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 7
เรื่องนี้เป็นเพราะความบังเอิญที่บ่ายวันนั้นฝนตก
ตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รออยู่บีทีเอสหมอชิต
ตัดสินใจรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียงกันอยู่โดยไม่มองว่ารถคันนั้นมีสภาพยังไง
เข้ามานั่งแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นรถแท็กซี่รุ่นเก่า คันเล็ก แอร์ไม่เย็น แล้วก็จะมืดๆหน่อยอ่ะค่ะ
คือมองจากข้างนอกจะเห็นข้างในไม่ค่อยชัด) ตอนนั้นก็คิดแค่ว่า เออ แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ถึง ร้อนหน่อย ไม่เป็นไร นั่งไปได้สักพัก รถติด
คุณลุงคนขับรถก็หันมาถามประมาณว่ามีแบงค์ย่อยรึเปล่า ลุงไม่มีเงินทอน
"นี่เป็นรอบแรกของวันนี้เลย" เราเห็นว่าตอนนั้นมันจะสี่โมงเย็นแล้ว
แต่ลุงบอกว่าเป็นเที่ยวแรกของวันนี้ ก็เลยถามว่า
"ลุงเข้ากะบ่ายหรือคะ?"
คุณลุงตอบกลับว่า "ลุงขับมาตั้งแต่ตีสี่แล้ว นี่รถของลุงเอง
วนไปวนมาอยู่หลายรอบแล้ว แต่ไม่มีลูกค้าเลย"
"อ้าว ทำไมล่ะคะลุง" ตอนนั้นก็ชวนคุณลุงคุยแบบไม่ได้ติดใจอะไร ถามไปเรื่อย
"รถลุงเก่า คนเค้าก็ไม่อยากนั่ง แต่ลุงเข้าใจนะ มันก็เป็นเงินของเค้า
รถเก่า รถใหม่ ค่าโดยสารมันเท่ากัน เป็นลุงลุงก็อยากได้ที่มันดีๆเหมือนกัน
เด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าก็ชอบรถที่มีสีๆกัน"
น้ำเสียงคุณลุงตอนนั้น เป็นน้ำเสียงเหมือนจะขำๆ แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าจะประชดประชันนะคะ
แล้วลุงก็เปลี่ยนเรื่อง ถามว่า "รถไฟฟ้านี่ เค้าคิดเงินกันยังไง"
ก็เลยอธิบายเรื่องราคาให้ลุงฟัง แล้วลุงก็ถามว่าทำยังไง
ถ้าทำไม่เป็นจะมีใครช่วยไหม
"ลูกชายลุงมันอยากจะลองนั่ง แต่ลุงก็ทำไม่เป็น ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง
ไม่กี่วันจะถึงวันเกิดมันแล้ว ลุงสัญญาว่าจะพามันมานั่งดูสักรอบ
คงจะชอบนะหนู ลุงเคยพามันมาดู แต่วันนั้นไม่มีเงินจะให้นั่ง"
สมัยนั้น บีทีเอส สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้วเกือบสามปี
น้ำเสียงตอนคุณลุงเล่า ฟังดูมีความสุขนะคะ คุณลุงยิ้มให้เราทางกระจก
คำพูดของคุณลุง ทำให้เราตื้อขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ได้แต่พยักหน้าแล้วก็ยิ้มตอบ
ทั้งสองเรื่องที่ลุงพูดมา เรื่องรถแท็กซี่เก่าของลุง เราฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ลุงไป
เพราะเราเองก็รู้ตัวดีอยู่ว่า เป็นหนึ่งใน "เด็กๆเดี๋ยวนี้" ที่มักจะเลี่ยงนั่งรถเก่าๆ
และมักจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงเพื่อรอรถแท็กซี่ใหม่ๆผ่านมา
เรารู้ดีว่าแม้แต่การนั่งรถของคุณลุงในครั้งนี้ มันก็เป็นแค่ความบังเอิญ
ถ้าฝนไม่ตก ถ้าเราไม่รีบ เราก็คงไม่เรียกรถของคุณลุง
หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เราสามารถเลือกในสิ่งที่เราต้องการได้
แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำมันมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย
เราก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร
(แท็กซี่ใหม่ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะในจำนวนนั้นก็มีคนที่ลำบาก หาเช้ากินค่ำเช่นกัน)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า เรื่องของลูกชายคุณลุง ทำให้เรากลับมามองตัวเอง
เราใช้รถไฟฟ้าไปไหนมาไหนตลอด
บางครั้งไม่มีอะไรทำก็ชอบไปนั่งเล่นด้วยซ้ำ
จะใช้ทีก็แทบจะไม่ต้องคิดเลย
แต่สำหรับลูกชายคุณลุง มันคือ "ของขวัญวันเกิด"
เป็นความต้องการที่แทบจะต้องใช้คำว่า "ความฝัน" ด้วยซ้ำ ....
เงิน "แค่" สิบห้าบาทของเรา กับ เงิน "ตั้ง" สิบห้าบาท ของเค้า
หดหู่ค่ะ วันนั้นลงจากรถคุณลุงมาก็เล่าให้เพื่อนฟัง
คิดถึงตัวเองที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทั้งที่หาเงินเองไม่ได้
คิดถึงหลายๆอย่างในชีวิต ที่ได้มาง่ายๆ
โดยไม่ต้องดิ้นรน
ตัวเองก็รีบจะไปเจอเพื่อนที่รออยู่บีทีเอสหมอชิต
ตัดสินใจรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ที่จอดเรียงกันอยู่โดยไม่มองว่ารถคันนั้นมีสภาพยังไง
เข้ามานั่งแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นรถแท็กซี่รุ่นเก่า คันเล็ก แอร์ไม่เย็น แล้วก็จะมืดๆหน่อยอ่ะค่ะ
คือมองจากข้างนอกจะเห็นข้างในไม่ค่อยชัด) ตอนนั้นก็คิดแค่ว่า เออ แค่นี้เอง เดี๋ยวก็ถึง ร้อนหน่อย ไม่เป็นไร นั่งไปได้สักพัก รถติด
คุณลุงคนขับรถก็หันมาถามประมาณว่ามีแบงค์ย่อยรึเปล่า ลุงไม่มีเงินทอน
"นี่เป็นรอบแรกของวันนี้เลย" เราเห็นว่าตอนนั้นมันจะสี่โมงเย็นแล้ว
แต่ลุงบอกว่าเป็นเที่ยวแรกของวันนี้ ก็เลยถามว่า
"ลุงเข้ากะบ่ายหรือคะ?"
คุณลุงตอบกลับว่า "ลุงขับมาตั้งแต่ตีสี่แล้ว นี่รถของลุงเอง
วนไปวนมาอยู่หลายรอบแล้ว แต่ไม่มีลูกค้าเลย"
"อ้าว ทำไมล่ะคะลุง" ตอนนั้นก็ชวนคุณลุงคุยแบบไม่ได้ติดใจอะไร ถามไปเรื่อย
"รถลุงเก่า คนเค้าก็ไม่อยากนั่ง แต่ลุงเข้าใจนะ มันก็เป็นเงินของเค้า
รถเก่า รถใหม่ ค่าโดยสารมันเท่ากัน เป็นลุงลุงก็อยากได้ที่มันดีๆเหมือนกัน
เด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าก็ชอบรถที่มีสีๆกัน"
น้ำเสียงคุณลุงตอนนั้น เป็นน้ำเสียงเหมือนจะขำๆ แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าจะประชดประชันนะคะ
แล้วลุงก็เปลี่ยนเรื่อง ถามว่า "รถไฟฟ้านี่ เค้าคิดเงินกันยังไง"
ก็เลยอธิบายเรื่องราคาให้ลุงฟัง แล้วลุงก็ถามว่าทำยังไง
ถ้าทำไม่เป็นจะมีใครช่วยไหม
"ลูกชายลุงมันอยากจะลองนั่ง แต่ลุงก็ทำไม่เป็น ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง
ไม่กี่วันจะถึงวันเกิดมันแล้ว ลุงสัญญาว่าจะพามันมานั่งดูสักรอบ
คงจะชอบนะหนู ลุงเคยพามันมาดู แต่วันนั้นไม่มีเงินจะให้นั่ง"
สมัยนั้น บีทีเอส สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้วเกือบสามปี
น้ำเสียงตอนคุณลุงเล่า ฟังดูมีความสุขนะคะ คุณลุงยิ้มให้เราทางกระจก
คำพูดของคุณลุง ทำให้เราตื้อขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ได้แต่พยักหน้าแล้วก็ยิ้มตอบ
ทั้งสองเรื่องที่ลุงพูดมา เรื่องรถแท็กซี่เก่าของลุง เราฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้ลุงไป
เพราะเราเองก็รู้ตัวดีอยู่ว่า เป็นหนึ่งใน "เด็กๆเดี๋ยวนี้" ที่มักจะเลี่ยงนั่งรถเก่าๆ
และมักจะยอมเสียเวลาเป็นครึ่งชั่วโมงเพื่อรอรถแท็กซี่ใหม่ๆผ่านมา
เรารู้ดีว่าแม้แต่การนั่งรถของคุณลุงในครั้งนี้ มันก็เป็นแค่ความบังเอิญ
ถ้าฝนไม่ตก ถ้าเราไม่รีบ เราก็คงไม่เรียกรถของคุณลุง
หลังจากนั้นเราก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เราสามารถเลือกในสิ่งที่เราต้องการได้
แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำมันมีประโยชน์กับคนอื่นด้วย
เราก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร
(แท็กซี่ใหม่ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะในจำนวนนั้นก็มีคนที่ลำบาก หาเช้ากินค่ำเช่นกัน)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า เรื่องของลูกชายคุณลุง ทำให้เรากลับมามองตัวเอง
เราใช้รถไฟฟ้าไปไหนมาไหนตลอด
บางครั้งไม่มีอะไรทำก็ชอบไปนั่งเล่นด้วยซ้ำ
จะใช้ทีก็แทบจะไม่ต้องคิดเลย
แต่สำหรับลูกชายคุณลุง มันคือ "ของขวัญวันเกิด"
เป็นความต้องการที่แทบจะต้องใช้คำว่า "ความฝัน" ด้วยซ้ำ ....
เงิน "แค่" สิบห้าบาทของเรา กับ เงิน "ตั้ง" สิบห้าบาท ของเค้า
หดหู่ค่ะ วันนั้นลงจากรถคุณลุงมาก็เล่าให้เพื่อนฟัง
คิดถึงตัวเองที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทั้งที่หาเงินเองไม่ได้
คิดถึงหลายๆอย่างในชีวิต ที่ได้มาง่ายๆ
โดยไม่ต้องดิ้นรน
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 8
เรื่องที่4
ทางแก้ปัญหา
สามี: เธอพกรูปฉันไว้ในกระเป๋าเสมอ ทำไมหรอ
ภรรยา: อ๋อ ก็ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะดูรูปเธอ
แล้วปัญหาก็หายไปเลย
สามี: เห็นมั้ย ว่าฉันเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเธอขนาดไหน
ภรรยา: ใช่ ฉันมองภาพเธอแล้วก็พูดกับตัวเองว่า
"ปัญหาอะไรจะมาหนักหนากว่านี้อีกนะ"
***********************
เรื่องที่7
ประสบการณ์เฉียดตาย
หญิงวัยกลางคนเกิดอาการหัวใจวายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ระหว่างที่อยู่บนเตียงผ่าตัด เธอพบกับประสบการณ์เฉียดตาย
ซึ่งในระหว่างนี้เธอเห็นพระเจ้าและถามพระองค์ว่าวาระสุดท้ายของเธอมาถึงแล้วใช่ไหม
พระเจ้าตอบว่ายัง เธอต้องอยู่ต่อไปอีกสามสิบปี
หลังจากฟื้นคืนสติ เธอตัดสินใจอยู่ต่อที่โรงพยาบาลต่อเพื่อผ่าตัดดึงหน้า
ทำปากให้อิ่มเอิบ เสริมหน้าอกและอื่นๆอีกสารพัด
เธอยังให้ช่างเข้ามาเปลี่ยนสีผมให้อีกด้วย
เธอทำเช่นนี้เพราะเห็นว่าในเมื่อจะต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี
ต้องใช้เวลาทั้งหมดนี้อย่างมีความสุขที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเสริมสวย เธอเดินออกจากโรงพยาบาล
แต่โชคร้ายกลับถูกรถพยาบาลชนตาย เมื่อมาพบหน้าพระเจ้าอีกครั้ง เธอบ่นว่า
"ฉันได้ยินว่าพระองค์บอกเองว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี"
พระเจ้าตอบว่า "โทษที เราจำเจ้าไม่ได้!"
************************************
ทางแก้ปัญหา
สามี: เธอพกรูปฉันไว้ในกระเป๋าเสมอ ทำไมหรอ
ภรรยา: อ๋อ ก็ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะดูรูปเธอ
แล้วปัญหาก็หายไปเลย
สามี: เห็นมั้ย ว่าฉันเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเธอขนาดไหน
ภรรยา: ใช่ ฉันมองภาพเธอแล้วก็พูดกับตัวเองว่า
"ปัญหาอะไรจะมาหนักหนากว่านี้อีกนะ"
***********************
เรื่องที่7
ประสบการณ์เฉียดตาย
หญิงวัยกลางคนเกิดอาการหัวใจวายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ระหว่างที่อยู่บนเตียงผ่าตัด เธอพบกับประสบการณ์เฉียดตาย
ซึ่งในระหว่างนี้เธอเห็นพระเจ้าและถามพระองค์ว่าวาระสุดท้ายของเธอมาถึงแล้วใช่ไหม
พระเจ้าตอบว่ายัง เธอต้องอยู่ต่อไปอีกสามสิบปี
หลังจากฟื้นคืนสติ เธอตัดสินใจอยู่ต่อที่โรงพยาบาลต่อเพื่อผ่าตัดดึงหน้า
ทำปากให้อิ่มเอิบ เสริมหน้าอกและอื่นๆอีกสารพัด
เธอยังให้ช่างเข้ามาเปลี่ยนสีผมให้อีกด้วย
เธอทำเช่นนี้เพราะเห็นว่าในเมื่อจะต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี
ต้องใช้เวลาทั้งหมดนี้อย่างมีความสุขที่สุด
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเสริมสวย เธอเดินออกจากโรงพยาบาล
แต่โชคร้ายกลับถูกรถพยาบาลชนตาย เมื่อมาพบหน้าพระเจ้าอีกครั้ง เธอบ่นว่า
"ฉันได้ยินว่าพระองค์บอกเองว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่อีก 30 ปี"
พระเจ้าตอบว่า "โทษที เราจำเจ้าไม่ได้!"
************************************
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 10
ภัย... จากโทรศัพท์มือถือ (ผลการทดลองของชาวรัสเซีย) !!!
Tue, 6 Mar 2007 18:41:54 -0900
... ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของนักข่าวชาวรัสเซีย 2 คน
เพื่อทดสอบรังสี และความร้อนที่มีสาเหตุมาจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ
โดยนำ "ไข่ดิบ" วางไว้ระหว่าง โทรศัพท์มือถือ ผลการทดลองเป็นดังนี้...
How Two Russian Journalists Cooked an Egg with their Mobile Phones
Vladimir Lagovski and Andrei Moiseynko from Komsomolskaya Pravda Newspaper in Moscow decided to learn first-hand how harmful cell phones are. There is no magic in cooking with your cell phone. The secret is in the radio waves that the cell phone radiates.
The journalists created a simple microwave structure as shown in the picture. They called from one cell phone to the other and left both phones on talking mode. They placed a tape recorder next to phones to imitate sounds of speaking so the phones would stay on.
After, 15 minutes: The egg became slightly warm.
25 minutes: The egg became very warm.
40 minutes: The egg became very hot.
65 minutes: The egg was cooked. (As you can see.)
Conclusion 1: Cooking eggs with mobile phones is possible but very expensive ($4.55 or 123 Rubles)
Conclusion 2: All this talk of danger is exaggerated; even if your brain gets cooked,
it would take a couple hours of talking on a cell phone.
Conclusion 3: We don't recommend carrying cell phone in your pants.
Source: Komsomolskaya Pravda, April 23, 2006 http://www.kp.ru/daily/23694.4/52233/print
I might add it takes approximately 2 minutes of speaking on a cellular phone for the radiation to cross the protective Blood Brain Barrier.
So when ever there is a land line available use it in preference to your cell.
มีผลการทดลองอีกเป็นจำนวนมาก ที่แสดงถึงภัยของโทรศัพท์มือถือ
โปรดมีวิจารณญาณในการใช้โทรศัพท์มือถือ...
Tue, 6 Mar 2007 18:41:54 -0900
... ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของนักข่าวชาวรัสเซีย 2 คน
เพื่อทดสอบรังสี และความร้อนที่มีสาเหตุมาจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ
โดยนำ "ไข่ดิบ" วางไว้ระหว่าง โทรศัพท์มือถือ ผลการทดลองเป็นดังนี้...
How Two Russian Journalists Cooked an Egg with their Mobile Phones
Vladimir Lagovski and Andrei Moiseynko from Komsomolskaya Pravda Newspaper in Moscow decided to learn first-hand how harmful cell phones are. There is no magic in cooking with your cell phone. The secret is in the radio waves that the cell phone radiates.
The journalists created a simple microwave structure as shown in the picture. They called from one cell phone to the other and left both phones on talking mode. They placed a tape recorder next to phones to imitate sounds of speaking so the phones would stay on.
After, 15 minutes: The egg became slightly warm.
25 minutes: The egg became very warm.
40 minutes: The egg became very hot.
65 minutes: The egg was cooked. (As you can see.)
Conclusion 1: Cooking eggs with mobile phones is possible but very expensive ($4.55 or 123 Rubles)
Conclusion 2: All this talk of danger is exaggerated; even if your brain gets cooked,
it would take a couple hours of talking on a cell phone.
Conclusion 3: We don't recommend carrying cell phone in your pants.
Source: Komsomolskaya Pravda, April 23, 2006 http://www.kp.ru/daily/23694.4/52233/print
I might add it takes approximately 2 minutes of speaking on a cellular phone for the radiation to cross the protective Blood Brain Barrier.
So when ever there is a land line available use it in preference to your cell.
มีผลการทดลองอีกเป็นจำนวนมาก ที่แสดงถึงภัยของโทรศัพท์มือถือ
โปรดมีวิจารณญาณในการใช้โทรศัพท์มือถือ...
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 11
สวัสดีค่ะ คุณ naris ฮาๆๆ..ไม่กล้า
โกรธหนุ่มๆTVI หรอกค่ะ..ออกจะคิดถึงด้วยซ้ำ..อิอิ..
เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาธุระเยอะมาก กิจกรรมขี่จักรยานและงานบ้านรัดตัวน่ะค่ะ
ไม่ค่อยได้แวะคุยกับเพื่อนๆเหมือนที่แล้วๆมา
บางครั้งตั้งกระทู้แล้วก็หายตัวไปเลย กลัวเพื่อนๆจะน้อยใจและพลอยเคืองโกรธเอา
ขอบคุณน้ำใจที่เพื่อนๆได้มอบให้เสมอมา ทำให้ดิฉันมีความสุขที่ได้รู้จักกับเพื่อนๆในเว็บบอร์ดหลายๆแห่งค่ะ
โกรธหนุ่มๆTVI หรอกค่ะ..ออกจะคิดถึงด้วยซ้ำ..อิอิ..
เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาธุระเยอะมาก กิจกรรมขี่จักรยานและงานบ้านรัดตัวน่ะค่ะ
ไม่ค่อยได้แวะคุยกับเพื่อนๆเหมือนที่แล้วๆมา
บางครั้งตั้งกระทู้แล้วก็หายตัวไปเลย กลัวเพื่อนๆจะน้อยใจและพลอยเคืองโกรธเอา
ขอบคุณน้ำใจที่เพื่อนๆได้มอบให้เสมอมา ทำให้ดิฉันมีความสุขที่ได้รู้จักกับเพื่อนๆในเว็บบอร์ดหลายๆแห่งค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 12
ชีวิตที่พอเพียง กับ Warren Buffet
Date: Mon, 05 Feb 2007 05:40:25 -0900
แปลโดย Wilai Trakulsin
There was a one hour interview on CNBC with Warren Buffet, the
second richest man who has donated $31 billion to charity.
มีรายการสัมภาษณ์ หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน
บัพเฟตต์
มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล
31,000
ล้านดอลล่าร์
Here are some very interesting aspects of his life:
ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:
1) He bought his first share at age 11 and he now regrets that he
started
too late!
เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ
และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) He bought a small farm at age 14 with savings from delivering
newspapers.
เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3) He still lives in the same small 3 bedroom house in mid-town
Omaha that he bought after he got married 50 years ago. He says
that he has everything he needs in that house. His house does not have
a
wall or a fence.
เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา
ที่ซื้อไว้หลังแต่ง
งานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้
บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4) He drives his own car everywhere and does not have a driver or
security
people around him.
เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5) He never travels by private jet, although he owns the world's
largest
private jet company.
เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ ใหญ่ที่สุดในโลก
6) His company, Berkshire Hathaway, owns 63 companies. He writes
only one letter each year to the CEOs of these companies, giving them
goals for the year. He never holds meetings or calls them on a regular
basis.
บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63
บริษัทเขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอ
ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี
เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7) He has given his CEO's only two rules. Rule number 1: do not
lose any of your share holder's money. Rule number 2: Do not forget
rule
number 1.
เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
8 ) He does not socialize with the high society crowd. His
pastime after he gets home is to make himself some pop corn and watch
television.
เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน
คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9) Bill Gates, the world's richest man met him for the first
time only 5 years ago. Bill Gates did not think he had anything in
common
with Warren Buffet. So he had scheduled his meeting only for half hour.
But when Gates met him, the meeting lasted for ten hours and Bill Gates
became a devotee of Warren Buffet.
บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล
เกตส์คิดว่าตน
เองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง
แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบ
บัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล
เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10) Warren Buffet does not carry a cell phone, nor has a computer on
his
desk.
วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11) His advice to young people: Stay away from credit cards and invest
in
yourself.
เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
Date: Mon, 05 Feb 2007 05:40:25 -0900
แปลโดย Wilai Trakulsin
There was a one hour interview on CNBC with Warren Buffet, the
second richest man who has donated $31 billion to charity.
มีรายการสัมภาษณ์ หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน
บัพเฟตต์
มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล
31,000
ล้านดอลล่าร์
Here are some very interesting aspects of his life:
ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:
1) He bought his first share at age 11 and he now regrets that he
started
too late!
เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ
และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) He bought a small farm at age 14 with savings from delivering
newspapers.
เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3) He still lives in the same small 3 bedroom house in mid-town
Omaha that he bought after he got married 50 years ago. He says
that he has everything he needs in that house. His house does not have
a
wall or a fence.
เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา
ที่ซื้อไว้หลังแต่ง
งานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้
บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4) He drives his own car everywhere and does not have a driver or
security
people around him.
เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5) He never travels by private jet, although he owns the world's
largest
private jet company.
เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ ใหญ่ที่สุดในโลก
6) His company, Berkshire Hathaway, owns 63 companies. He writes
only one letter each year to the CEOs of these companies, giving them
goals for the year. He never holds meetings or calls them on a regular
basis.
บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63
บริษัทเขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอ
ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี
เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7) He has given his CEO's only two rules. Rule number 1: do not
lose any of your share holder's money. Rule number 2: Do not forget
rule
number 1.
เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
8 ) He does not socialize with the high society crowd. His
pastime after he gets home is to make himself some pop corn and watch
television.
เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน
คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9) Bill Gates, the world's richest man met him for the first
time only 5 years ago. Bill Gates did not think he had anything in
common
with Warren Buffet. So he had scheduled his meeting only for half hour.
But when Gates met him, the meeting lasted for ten hours and Bill Gates
became a devotee of Warren Buffet.
บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล
เกตส์คิดว่าตน
เองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง
แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบ
บัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล
เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10) Warren Buffet does not carry a cell phone, nor has a computer on
his
desk.
วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11) His advice to young people: Stay away from credit cards and invest
in
yourself.
เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 13
FW: วิธีรักษาโรคด้วยเกลือ
Date: Mon, 29 Jan 2007 19:12:23 -0900
วิธีรักษาโรคด้วยเกลือ
หวัด
เมื่อเป็นหวัดจะ มีอาการไอไม่หยุดใช้น้ำเย็นต้มสุกแล้ว 1 ถ้วยใส่เกลือ 1 ช้อน ชา
คนให้เกลือละลายแล้ว ใช้บ้วนปากล้างลำคอทำเช่นนี้หลายๆครั้ง
แล้ว จะสามารถขจัดเสมหะในหลอดลมได้ อาการไอจะ ทุเลา
จมูกอักเสบ
เป็นหวัดคัด จมูก น้ำมูกไหลไม่หยุดจมูกอักเสบเรื้อรัง
ใช้น้ำเกลือเจือจางล้างใช้ ขวดสะอาดใส่น้ำเกลือหยอดเข้าไปในรูจมูก
เพราะเกลือมีคุณสมบัติฆ่า เชื้อแก้อักเสบ
โรคตา แดง
มีอาการบวม แดง มีขี้ตามากใช้ผ้าขนหนูสะอาดห่อเกลือเล็กน้อยแช่ในน้ำอุ่นที่ เดือดแล้ว
ใช้ผ้าขนหนูเช็ดตาอาจมีอาการแสบบ้างก็ทนสักครู่ จะรู้สึก ดีขึ้น
รักษา ฟัน
ใช้เกลือสีฟัน จะทำให้ฟันขาวแข็งแรงและสามารถป้องกันฟันผุ
หากยุงกัดเป็น ตุ่ม
ใช้เกลือขยี้บริเวณโดนกัดสักครู่จะ หายคัน ตุ่มก็จะยุบ
ผิวหนังบวม คัน
ใช้เกลือผสมน้ำแล้วทาบริเวณที่คันจะเห็นผลทัน ตา
ถ้ารู้สึกสมองไม่แจ่มใส
ใช้เกลือผสมน้ำอุ่น แล้วใช้ อาบ จะรู้สึกสบายสมองปรอดโปร่ง ขึ้น
ชุ่ม คอ
หากมีอาการคอแห้งเสียงแหบให้ดื่มน้ำผสมเกลือเล็กน้อยจะรู้สึกชุ่มลำ คอ
เร่งให้อาเจียน
รับประทานอาหารมีพิษ ดื่มสุราเกิน ขนาด ทานอาหารแล้วไม่ย่อย
ท้องไส้ปั่นป่วนควรดื่มน้ำ เกลือเข้มข้น จะทำให้อาเจียนออกมาอาการก็จะทุเลาลง
เป็น ตะคริวมือหรือเท้า
เย็นทั่วร่างกายอย่างปัจจุบันทัน ด่วน
นำเกลือมาคั่วแล้วห่อผ้าถูตามแขนขา หลายๆครั้งจะ หายเป็นปลิด ทิ้ง
Date: Mon, 29 Jan 2007 19:12:23 -0900
วิธีรักษาโรคด้วยเกลือ
หวัด
เมื่อเป็นหวัดจะ มีอาการไอไม่หยุดใช้น้ำเย็นต้มสุกแล้ว 1 ถ้วยใส่เกลือ 1 ช้อน ชา
คนให้เกลือละลายแล้ว ใช้บ้วนปากล้างลำคอทำเช่นนี้หลายๆครั้ง
แล้ว จะสามารถขจัดเสมหะในหลอดลมได้ อาการไอจะ ทุเลา
จมูกอักเสบ
เป็นหวัดคัด จมูก น้ำมูกไหลไม่หยุดจมูกอักเสบเรื้อรัง
ใช้น้ำเกลือเจือจางล้างใช้ ขวดสะอาดใส่น้ำเกลือหยอดเข้าไปในรูจมูก
เพราะเกลือมีคุณสมบัติฆ่า เชื้อแก้อักเสบ
โรคตา แดง
มีอาการบวม แดง มีขี้ตามากใช้ผ้าขนหนูสะอาดห่อเกลือเล็กน้อยแช่ในน้ำอุ่นที่ เดือดแล้ว
ใช้ผ้าขนหนูเช็ดตาอาจมีอาการแสบบ้างก็ทนสักครู่ จะรู้สึก ดีขึ้น
รักษา ฟัน
ใช้เกลือสีฟัน จะทำให้ฟันขาวแข็งแรงและสามารถป้องกันฟันผุ
หากยุงกัดเป็น ตุ่ม
ใช้เกลือขยี้บริเวณโดนกัดสักครู่จะ หายคัน ตุ่มก็จะยุบ
ผิวหนังบวม คัน
ใช้เกลือผสมน้ำแล้วทาบริเวณที่คันจะเห็นผลทัน ตา
ถ้ารู้สึกสมองไม่แจ่มใส
ใช้เกลือผสมน้ำอุ่น แล้วใช้ อาบ จะรู้สึกสบายสมองปรอดโปร่ง ขึ้น
ชุ่ม คอ
หากมีอาการคอแห้งเสียงแหบให้ดื่มน้ำผสมเกลือเล็กน้อยจะรู้สึกชุ่มลำ คอ
เร่งให้อาเจียน
รับประทานอาหารมีพิษ ดื่มสุราเกิน ขนาด ทานอาหารแล้วไม่ย่อย
ท้องไส้ปั่นป่วนควรดื่มน้ำ เกลือเข้มข้น จะทำให้อาเจียนออกมาอาการก็จะทุเลาลง
เป็น ตะคริวมือหรือเท้า
เย็นทั่วร่างกายอย่างปัจจุบันทัน ด่วน
นำเกลือมาคั่วแล้วห่อผ้าถูตามแขนขา หลายๆครั้งจะ หายเป็นปลิด ทิ้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 14
FW: ปีหมูแค่เรื่องหมูๆ ถ้ารู้จักเสริมชะตา - แก้เคล็ด!
Wed, 17 Jan 2007 02:53:18 -0900
ปีหมูแค่เรื่องหมูๆ ถ้ารู้จักเสริมชะตา - แก้เคล็ด!!
ดู๊ๆ สิคะ เจ้าหมูน้อยออกจะน่ารัก ไม่เห็นมีพิษสงอย่างที่ร่ำลือ?!
แต่ยังไงๆ เพื่อความสบายใจ จึงขอต้อนรับปีกุนอู๊ดๆ
ด้วยเคล็ดลับเสริมดวงชะตาแก้เคล็ด
ชงให้คุณๆได้แฮปปี้กันทั่วหน้าทุกปีเกิดรู้ไว้ไม่ เสียหลาย
ใครเฮงอยู่แล้วยิ่งเฮงทวีคูณ ใครลุ่มๆ ดอนๆ เผื่อจะหายกระดอนกับเขาบ้าง
มั่นใจซะอย่าง ทำดีสะสมมาเยอะ จะหมูไฟ หมูโดนน้ำร้อน... ก็ไม่เห็นต้องกลัว!!
ชวด
ปีนี้จะพบความสำเร็จ ได้แรงสนับสนุนจากเพศชาย
แต่ต้องระวังเรื่องการลงทุน อาจพลาดพลั้งเสียทรัพย์ ควรไหว้เจ้าแม่กวนอิม
และเทพเจ้าไท้เอี้ยงกับไท้อิม ที่วัดเล่งเน่ยยี่
ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคและเจริญรุ่งเรือง เคล็ดลับเสริมชะตาคือ
พกวัตถุมงคลรูปมังกร สีถูกโฉลกต้องเหลือง กับเขียว เลี่ยงสีแดง
ฉลู
ดวงค่อนข้างนิ่งๆ การงานมีอุปสรรค แต่อย่าคิดมาก ควรก้มหน้า
ก้มตาทำงานเงียบๆ ไม่ควรลงทุนลงแรงเพิ่ม ดวงการเงินไม่ค่อยสดใส
ระวังอาจมีปากเสียงวิวาทกับคนง่าย
คนเกิดปีนี้ควรไหว้เทพเจ้าเฮี่ยงเทียนเซี่ยงตี่ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ
และหลวงปู่ไต้ฮงกง ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอให้คุ้มครอง อยากมีโชคลาภ
ต้องตั้งวัตถุมงคลรูปไก่ และใส่เสื้อผ้าสีม่วงกับเหลือง เลี่ยงสีดำ
ขาล
เป็นปีทองของชาวขาล สามารถก่อร่างสร้างตัว
และเห็นผลจากโปรเจกต์ที่ลงทุนไว้ มีผู้ใหญ่เพศหญิงอุปถัมภ์
ปีนี้ความรักจะผลิบาน แต่ระวังคนอิจฉาคิดร้าย ควรจัดหัวหมูถวายเจ้าพ่อเสือ
ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ พร้อมจัดส้มไหว้เทพเจ้าเฮี่ยงเทียนเซี่ยงตี่
และเพื่อความสบายใจ อาจฝากชะตากับวัดเล่งเน่ยยี่
เพราะปีกุนเป็นทั้งคู่มิตรและให้โทษ อยากเสริมดวงชะตาต้องตั้งรูปหมูจ้ำม่ำๆ
สีเฮงคือ เหลืองแสด, ฟ้าคราม เลี่ยงสีแดง
เถาะ
จากร้ายติดๆ กันมาหลายปี คราวนี้ถึงเวลาให้ชาวเถาะยิ้มบ้าง
ปีนี้จะมีโชคลาภ ตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้น ได้รับโอกาสและการสนับสนุนผิดหูผิดตา
เรื่องที่ต้องระวังสุดๆ คือ การเกิดข้อพิพาท ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล
แนะนำให้ไหว้เทพเจ้ากวนอู ที่ศาลเจ้ากวนตี่ ถนนเยาวราช ขอให้อารมณ์
เบิกบานรับโชค เสริมดวงด้วยการตั้งรูปทองก้อน และใส่เสื้อผ้าสีเทาอ่อน กับเงิน เลี่ยงสีดำ
มะโรง
หลังจากปะทะชนมาอย่างแรง ปีนี้ดวงดีขึ้น
หนุ่มสาวมีสิทธิ์ลั่นระฆังวิวาห์ ความสัมพันธ์
กับคนรอบข้างดีขึ้นอารมณ์แปรปรวนน้อยลง ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่
และลูกน้องช่วยสร้างผลงาน ระวัง 2 เรื่องใหญ่ คืออาจเสียทรัพย์
และญาติผู้ใหญ่ล้มป่วย ควรเสริมดวงแก้เคล็ดด้วย การไหว้พระประธานศาล
เจ้าเล้งบ้วยเอี้ย แต่ถ้าขอเรื่องความรักไหว้เซียนอุ้มสม ที่วัดทิพย์วารีวิหาร
พร้อมจัดตั้งรูปกิเลน และใส่เครื่องประดับสีโลหะ เลี่ยงสีดำ
มะเส็ง
ปีนี้หนักแน่ๆ เพราะชาวมะเส็งปะทะชนโดยตรงกับเทพเจ้าปีกุน
และไท้ส่วยเอี้ย เตรียมใจรับความเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องงาน, เงิน และความรัก
ปีนี้จะขาดแรงอุปถัมภ์ หยิบจับอะไรก็ล้มเหลว อาจสูญเสียเงินก้อนโต
ระวังอุบัติเหตุบนท้องถนน โหรบางสำนักแนะนำว่า อยากให้ร้ายกลายเป็นทุเลา
ต้องจัดงานมงคลปัดเป่าความทุกข์!! ควรไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย
และฝากชะตากับวัดเล่งเน่ยยี่ รวมทั้งบริจาคโลง ทำบุญสะเดาะเคราะห์
จัดวางปี่เซี้ย วัตถุมงคลช่วยต้านภัยร้าย สีถูกโฉลกคือ เขียวกับฟ้าคราม ห้ามเด็ดขาดสีแดง
มะเมีย
ดวงดีโดดเด่น ปีนี้จะได้เลื่อนตำแหน่ง มีหน้าที่รับผิดชอบสูงขึ้น
การงานราบรื่น เงินทองคล่องมือ ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทาง
และมีปากเสียงกับคนรัก ควรไหว้ขอลาภ จากเทพเจ้าไช่ซิ้งเอี้ย ที่วัดเล่งเน่ยยี่
และ จัดตั้งรูปเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปีนี้ถูกโฉลกกับสีเหลือง แต่แพ้สีเขียวเข้ม
Wed, 17 Jan 2007 02:53:18 -0900
ปีหมูแค่เรื่องหมูๆ ถ้ารู้จักเสริมชะตา - แก้เคล็ด!!
ดู๊ๆ สิคะ เจ้าหมูน้อยออกจะน่ารัก ไม่เห็นมีพิษสงอย่างที่ร่ำลือ?!
แต่ยังไงๆ เพื่อความสบายใจ จึงขอต้อนรับปีกุนอู๊ดๆ
ด้วยเคล็ดลับเสริมดวงชะตาแก้เคล็ด
ชงให้คุณๆได้แฮปปี้กันทั่วหน้าทุกปีเกิดรู้ไว้ไม่ เสียหลาย
ใครเฮงอยู่แล้วยิ่งเฮงทวีคูณ ใครลุ่มๆ ดอนๆ เผื่อจะหายกระดอนกับเขาบ้าง
มั่นใจซะอย่าง ทำดีสะสมมาเยอะ จะหมูไฟ หมูโดนน้ำร้อน... ก็ไม่เห็นต้องกลัว!!
ชวด
ปีนี้จะพบความสำเร็จ ได้แรงสนับสนุนจากเพศชาย
แต่ต้องระวังเรื่องการลงทุน อาจพลาดพลั้งเสียทรัพย์ ควรไหว้เจ้าแม่กวนอิม
และเทพเจ้าไท้เอี้ยงกับไท้อิม ที่วัดเล่งเน่ยยี่
ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคและเจริญรุ่งเรือง เคล็ดลับเสริมชะตาคือ
พกวัตถุมงคลรูปมังกร สีถูกโฉลกต้องเหลือง กับเขียว เลี่ยงสีแดง
ฉลู
ดวงค่อนข้างนิ่งๆ การงานมีอุปสรรค แต่อย่าคิดมาก ควรก้มหน้า
ก้มตาทำงานเงียบๆ ไม่ควรลงทุนลงแรงเพิ่ม ดวงการเงินไม่ค่อยสดใส
ระวังอาจมีปากเสียงวิวาทกับคนง่าย
คนเกิดปีนี้ควรไหว้เทพเจ้าเฮี่ยงเทียนเซี่ยงตี่ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ
และหลวงปู่ไต้ฮงกง ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอให้คุ้มครอง อยากมีโชคลาภ
ต้องตั้งวัตถุมงคลรูปไก่ และใส่เสื้อผ้าสีม่วงกับเหลือง เลี่ยงสีดำ
ขาล
เป็นปีทองของชาวขาล สามารถก่อร่างสร้างตัว
และเห็นผลจากโปรเจกต์ที่ลงทุนไว้ มีผู้ใหญ่เพศหญิงอุปถัมภ์
ปีนี้ความรักจะผลิบาน แต่ระวังคนอิจฉาคิดร้าย ควรจัดหัวหมูถวายเจ้าพ่อเสือ
ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ พร้อมจัดส้มไหว้เทพเจ้าเฮี่ยงเทียนเซี่ยงตี่
และเพื่อความสบายใจ อาจฝากชะตากับวัดเล่งเน่ยยี่
เพราะปีกุนเป็นทั้งคู่มิตรและให้โทษ อยากเสริมดวงชะตาต้องตั้งรูปหมูจ้ำม่ำๆ
สีเฮงคือ เหลืองแสด, ฟ้าคราม เลี่ยงสีแดง
เถาะ
จากร้ายติดๆ กันมาหลายปี คราวนี้ถึงเวลาให้ชาวเถาะยิ้มบ้าง
ปีนี้จะมีโชคลาภ ตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้น ได้รับโอกาสและการสนับสนุนผิดหูผิดตา
เรื่องที่ต้องระวังสุดๆ คือ การเกิดข้อพิพาท ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล
แนะนำให้ไหว้เทพเจ้ากวนอู ที่ศาลเจ้ากวนตี่ ถนนเยาวราช ขอให้อารมณ์
เบิกบานรับโชค เสริมดวงด้วยการตั้งรูปทองก้อน และใส่เสื้อผ้าสีเทาอ่อน กับเงิน เลี่ยงสีดำ
มะโรง
หลังจากปะทะชนมาอย่างแรง ปีนี้ดวงดีขึ้น
หนุ่มสาวมีสิทธิ์ลั่นระฆังวิวาห์ ความสัมพันธ์
กับคนรอบข้างดีขึ้นอารมณ์แปรปรวนน้อยลง ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่
และลูกน้องช่วยสร้างผลงาน ระวัง 2 เรื่องใหญ่ คืออาจเสียทรัพย์
และญาติผู้ใหญ่ล้มป่วย ควรเสริมดวงแก้เคล็ดด้วย การไหว้พระประธานศาล
เจ้าเล้งบ้วยเอี้ย แต่ถ้าขอเรื่องความรักไหว้เซียนอุ้มสม ที่วัดทิพย์วารีวิหาร
พร้อมจัดตั้งรูปกิเลน และใส่เครื่องประดับสีโลหะ เลี่ยงสีดำ
มะเส็ง
ปีนี้หนักแน่ๆ เพราะชาวมะเส็งปะทะชนโดยตรงกับเทพเจ้าปีกุน
และไท้ส่วยเอี้ย เตรียมใจรับความเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องงาน, เงิน และความรัก
ปีนี้จะขาดแรงอุปถัมภ์ หยิบจับอะไรก็ล้มเหลว อาจสูญเสียเงินก้อนโต
ระวังอุบัติเหตุบนท้องถนน โหรบางสำนักแนะนำว่า อยากให้ร้ายกลายเป็นทุเลา
ต้องจัดงานมงคลปัดเป่าความทุกข์!! ควรไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย
และฝากชะตากับวัดเล่งเน่ยยี่ รวมทั้งบริจาคโลง ทำบุญสะเดาะเคราะห์
จัดวางปี่เซี้ย วัตถุมงคลช่วยต้านภัยร้าย สีถูกโฉลกคือ เขียวกับฟ้าคราม ห้ามเด็ดขาดสีแดง
มะเมีย
ดวงดีโดดเด่น ปีนี้จะได้เลื่อนตำแหน่ง มีหน้าที่รับผิดชอบสูงขึ้น
การงานราบรื่น เงินทองคล่องมือ ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทาง
และมีปากเสียงกับคนรัก ควรไหว้ขอลาภ จากเทพเจ้าไช่ซิ้งเอี้ย ที่วัดเล่งเน่ยยี่
และ จัดตั้งรูปเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปีนี้ถูกโฉลกกับสีเหลือง แต่แพ้สีเขียวเข้ม
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 15
มะแม
ดวงดีขึ้นเล็กน้อย จะมีความคิดสร้างสรรค์ดี
แต่ระวังอุบัติเหตุเพทภัยแปลกๆ ปีนี้ไม่ควรย้ายงานหรือเปลี่ยนแผนกเด็ดขาด
อยู่เฉยๆ จะปลอดภัยกว่า ควรเสริมชะตาด้วยการไหว้เจ้าพ่อม้า และเทพเจ้ากวนอู
ที่ศาลเจ้ากวนตี่ ถนนเยาวราช จัดตั้งรูปกระต่ายจะช่วยเสริมโชคลาภ
ถูกโฉลกกับสีเงินและทอง ควรเว้นสีแดง
วอก
คนปีวอกล่วงเกินเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย ส่งผลให้อารมณ์ผันผวน
เข้าข่ายโอษฐภัย จะเสียเพราะปาก ต้องระวังคำพูดเป็นพิเศษ แต่การงานยังไปได้ดี
มีผู้ใหญ่สนับสนุน เพื่อความสบายใจควรฝากดวงชะตาไว้กับวัดเล่งเน่ยยี่
และตั้งรูปเต่าเป็นเกราะป้องกันภัย ใส่เสื้อผ้าสีเทาและเหลืองหม่นคุมอารมณ์
แต่เลี่ยงสีเขียวใบไม้
ระกา
ปีนี้ระวังปัญหาการใช้จ่าย ขาดโชคลาภ อาจมีเรื่องร้ายให้ตกใจ
ควรหมั่นดูแลสุขภาพญาติผู้ใหญ่ในบ้าน จะมีเรื่องระหองระแหง
ขาดความสงบสุขกับครอบครัวและคนรัก การงานติดขัด ควรอยู่นิ่งๆ อย่าเสนอหน้า
จะเจ็บตัวน้อยที่สุด ผู้หญิงปีระกาต้องเปลี่ยนนิสัย
ทิ้งทิฐิความหลงตัวเองและหวาดระแวง แนะนำให้ไหว้เทพเจ้าบุ้นเชียงตี่กุน
ที่วัดเล่งเน่ยยี่ สีถูกโฉลกคือฟ้า จัดตั้งรูปคางคกคาบเหรียญ ช่วยเรื่องการเงิน
จอ
ดวงกระเตื้องขึ้นมาก ปีนี้จะมีงานมงคล
การงานราบรื่นไม่ติดขัดเหมือนปีก่อน มีมนุษยสัมพันธ์ดี
ผู้คนยินดีให้ความช่วยเหลือ อาจได้เงินทองไม่คาดฝัน
แต่ระวังปัญหาสุขภาพควรไหว้เซียงซือกง ที่วัดเล่งเน่ยยี่
ขอให้คุ้มครองจากโรคภัย กวางเป็นสัตว์อายุยืน ควรจัดตั้งรูปกวาง
และใส่เสื้อผ้าสีเหลืองกับเขียว เว้นสีเทา
กุน
เป็นปีนักษัตรตัวเอง หมายความว่าได้ล่วงเกินเทพ เจ้าไท้ส่วยเอี้ย!!
ปีนี้ควรหยุดนิ่งมากกว่าเคลื่อนไหว ยังโชคดีมีดวงอุปถัมภ์เด่นชัด
ผู้ใหญ่ให้ความเมตตา ปัญหาจะคลี่คลายจากร้ายเป็นดี ปีนี้อาจถูกของมีคมทำร้าย
หรือเลือดตกยางออก ควรฝากดวงกับวัดเล่งเน่ยยี่ และไหว้พระประธานของวัด
เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้จัดตั้งรูปแพะ สวมใส่เสื้อผ้าสีเขียว
เลี่ยงแดงกับดำ
ดวงดีขึ้นเล็กน้อย จะมีความคิดสร้างสรรค์ดี
แต่ระวังอุบัติเหตุเพทภัยแปลกๆ ปีนี้ไม่ควรย้ายงานหรือเปลี่ยนแผนกเด็ดขาด
อยู่เฉยๆ จะปลอดภัยกว่า ควรเสริมชะตาด้วยการไหว้เจ้าพ่อม้า และเทพเจ้ากวนอู
ที่ศาลเจ้ากวนตี่ ถนนเยาวราช จัดตั้งรูปกระต่ายจะช่วยเสริมโชคลาภ
ถูกโฉลกกับสีเงินและทอง ควรเว้นสีแดง
วอก
คนปีวอกล่วงเกินเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย ส่งผลให้อารมณ์ผันผวน
เข้าข่ายโอษฐภัย จะเสียเพราะปาก ต้องระวังคำพูดเป็นพิเศษ แต่การงานยังไปได้ดี
มีผู้ใหญ่สนับสนุน เพื่อความสบายใจควรฝากดวงชะตาไว้กับวัดเล่งเน่ยยี่
และตั้งรูปเต่าเป็นเกราะป้องกันภัย ใส่เสื้อผ้าสีเทาและเหลืองหม่นคุมอารมณ์
แต่เลี่ยงสีเขียวใบไม้
ระกา
ปีนี้ระวังปัญหาการใช้จ่าย ขาดโชคลาภ อาจมีเรื่องร้ายให้ตกใจ
ควรหมั่นดูแลสุขภาพญาติผู้ใหญ่ในบ้าน จะมีเรื่องระหองระแหง
ขาดความสงบสุขกับครอบครัวและคนรัก การงานติดขัด ควรอยู่นิ่งๆ อย่าเสนอหน้า
จะเจ็บตัวน้อยที่สุด ผู้หญิงปีระกาต้องเปลี่ยนนิสัย
ทิ้งทิฐิความหลงตัวเองและหวาดระแวง แนะนำให้ไหว้เทพเจ้าบุ้นเชียงตี่กุน
ที่วัดเล่งเน่ยยี่ สีถูกโฉลกคือฟ้า จัดตั้งรูปคางคกคาบเหรียญ ช่วยเรื่องการเงิน
จอ
ดวงกระเตื้องขึ้นมาก ปีนี้จะมีงานมงคล
การงานราบรื่นไม่ติดขัดเหมือนปีก่อน มีมนุษยสัมพันธ์ดี
ผู้คนยินดีให้ความช่วยเหลือ อาจได้เงินทองไม่คาดฝัน
แต่ระวังปัญหาสุขภาพควรไหว้เซียงซือกง ที่วัดเล่งเน่ยยี่
ขอให้คุ้มครองจากโรคภัย กวางเป็นสัตว์อายุยืน ควรจัดตั้งรูปกวาง
และใส่เสื้อผ้าสีเหลืองกับเขียว เว้นสีเทา
กุน
เป็นปีนักษัตรตัวเอง หมายความว่าได้ล่วงเกินเทพ เจ้าไท้ส่วยเอี้ย!!
ปีนี้ควรหยุดนิ่งมากกว่าเคลื่อนไหว ยังโชคดีมีดวงอุปถัมภ์เด่นชัด
ผู้ใหญ่ให้ความเมตตา ปัญหาจะคลี่คลายจากร้ายเป็นดี ปีนี้อาจถูกของมีคมทำร้าย
หรือเลือดตกยางออก ควรฝากดวงกับวัดเล่งเน่ยยี่ และไหว้พระประธานของวัด
เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้จัดตั้งรูปแพะ สวมใส่เสื้อผ้าสีเขียว
เลี่ยงแดงกับดำ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
***.........เคล็ดลับ.. น่ารู้ นะ ดีมากๆ.........***
โพสต์ที่ 18
สวัสดีครับพี่สุเกียง แวะเข้ามาอ่านเกร็ดความรู้ดีๆเช่นเคยครับ ... :D
"Winners never quit, and quitters never win."