ขอบ่นเรื่องคะแนน TOEFL หน่อยนะครับ

[Reminiscence of 3 Dogs]

เซ็งจังครับ ผลล่าสุดได้มา 99/120  
หลายUก็ require เพียง 80ครับ ไม่ยากมาก
บางUที่สมัครใช้100ครับแบบนี้ก็เหมือนกับเกือบผ่านแต่สุดท้ายก็ตก
สอบหลายครั้งจนไม่อยากสอบแล้ว
พี่ๆน้องๆท่านใดเคยผ่านประสบการณ์ติดจั่น สอบจนหน้ามืดมั่งครับ
ช่วงนั้นเอาตัวรอดผ่านมาได้อย่างไร หรือมีคำแนะนำดีๆไหมครับ
อยากฟังประสบการณ์ครับ
เท่าที่ทราบท่านในเว็ปนี้ที่เคยผ่านมาก็น่าจะมีคุณสุมาอี้ คุณ muffin
และท่านอื่นๆอีก
ยังไงถ้าผ่านมา ช่วยแนะนำด้วยครับ

[คนเรือ VI]

น่าจะสมัครได้นะครับ ถ้าอย่างอื่นดีไม่น่าจะมีปัญหาครับ

[woody]

[quote="Reminiscence of 3 Dogs"]เซ็งจังครับ ผลล่าสุดได้มา 99/120

[Reminiscence of 3 Dogs]

ขอดึงกระทู้ขึ้นมารอความเห็นท่านอื่นๆด้วยนะครับ

[ดร.โหน่ง]

ไม่คลับคล้ายว่าเหมือน

ตอนนั้นเห็นแต่เลข -500  -550 - 600

ที่มหาลัยกระผม ตรี เอา  600

เราก็ผ่านมาได้ ตั้งแต่ 19 ปี

อย่าพึ่งท้อ ถ้าตั้งใจจริง ขยันโพส  มีทั้งพี่อีโต้ และ กระผม  บางทีอาจแนะนำ

 กระผมลำบากกว่านี้มาก จำได้ ไม่ได้พูดภาไทยเป็นปี ไม่ได้กินข้าวสวยสักเม็ดเกือบ 6 เดือน  กินขนมปังไปร้องไห้ไป  เรียน ไซโครโลจี่ วิชาแรก ฟังไม่รู้เรื่อง เขาเล่นเกมกัน กระผมไม่รู้เรื่อง อายเขามาก  สุดท้ายเพราะความกลัว ก็ไม่ยอมมัน ถ้าปล่อยให้เข้ามาได้ เห็นที่จะอยู่กับเราตลอดชีวิต

    มีสิ่งที่กระผมทำไม่ได้ แล้วเลิกเลย คือ เป็นนักบินอยู่ 2 ปี กระผมสอบ private license ไม่ได้ ไปตกตอน ปล่อยมือ แล้วเครื่องบินมันดิ่งลงทิ้งกลางอากาศ กระผมบังคับตัวเองไม่ได้จริงๆ.............สอบตก 3 ครั้ง

 เสียใจจนมาถึงทุกวันนี้................


    ตอนนี้ แผนจะไป  บิน microlight ที่เชียงใหม่  ไปพิชิตความล้มเหลว กระผมไม่ยอมมันแล้ว   มันเล่นไม่เคยเลิก ตามมาหลอกหลอนเป็นระยะ กระผมจะเอา ไลเซน ให้ได้คราวนี้ละวะ!!    


พยายามเข้าครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ ..........

[miracle]

ลองเปลี่ยนวิธีอีกนิดก็ทำได้แล้วอ่ะ
ยังคิดอิจฉาอยู่เลยทำได้ตั้ง 99iBTที่เป็นข้อสอบใหม่ได้
ถือว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

99iBTนี้ประมาณเกือบ600คะแนนของโทเฟิลเมื่อก่อนน่าครับ พลาดแค่ 1 ข้อเอง

สู้ต่อไปน่าครับเจบัน

เอ๋จะเอาเต็มหรือเปล่าครับเนี่ย

[Reminiscence of 3 Dogs]

เอาเพียง100หรืออีกแค่แต้มเดียวน่ะครับ
ที่น่าเซ็งคือ99นี่มาจาก
reading 29/30
listening 26/30
speaking 17/30 -->WTF?  :x
writing  27/30
ระบบเก่าไม่มี speaking ครับ สงสัยเหมือนกันว่าตัดสินยังไง
ทำไมบางคนพูดยังกับหุ่นยนต์ยังได้คะแนน20ต้นๆได้
โอกาสเดียวของผมตอนนี้ก็คือยื่นเรื่อง rescore speaking
ให้คิดคะแนนใหม่  คราวที่แล้วผมก็rescoreคะแนนสอบครั้งเก่าไป
แต่คะแนนลดลง   ครั้งนี้เลยต้องคิดหนักถ้าจะเสี่ยง rescore

[Muffin]

ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกันครับ
เพราะสมัยผมสอบครั้งแรกเป็นระบบไอ้เต็ม 677 อะไรเนี่ยแหละ
แล้วอีกทีก็ระบบเต็ม 300
ระบบใหม่ไม่เข้าใจเลยครับ ไม่มีประสบการณ์

มาเป็นกำลังใจให้ครับ

[tattoo_thai]

สมัยผมสอบก็เป็นระบบเต็ม 677 ครับ ผมได้ 517  :oops:

[สุมาอี้]

ผมดูคะแนนระบบใหม่ไม่เป็นเลยไม่รู้ว่าที่บอกมามันน้อยหรือมาก แต่เท่าที่เดาจากคะแนนแล้ว ผมว่ามันค่อนข้างจะสูงแล้วนะครับ เพราะสมัยก่อนผมสอบได้คะแนนรวม 630 ก็ได้คะแนนแต่ละ part ประมาณนี้ ผมว่าถ้าคุณ R3D ลองสอบซ้ำๆ อีกหลายทีน่าจะได้ 100 โดยไม่ยากนะครับ เพราะมาติดตรง speaking อันเดียวที่ได้น้อยไปหน่อย สอบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบังเอิญได้ speaking เยอะๆ สิครับ

speaking ไม่รู้จะแนะนำยังไงเพราะสมัยที่ผมสอบไม่มี part นี้

มีเพื่อนผมคนหนึ่งที่เรียนเก่งแบบสุดๆ ยกเว้นแต่ภาษาอังกฤษห่วยแตกมาก เขาสอบทุกเดือนติดต่อกัน 13 ครั้ง คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 4XX มาเป็น 580 ได้อ่ะครับ

ฟิตภาษาให้หนักๆ ก่อนไปจะช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายครับ การที่ไปเรียนแล้วฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยในช่วงแรกๆ เป็นอะไรที่กดดันมากๆ

[Muffin]

โห พี่สุมาอี้ สอบ TOEFL 13 ครั้งติดกัน
เสียไปหลายตังค์นะครับ

แล้วถ้ามี GMAT, GRE อีก...
ส่งออกการศึกษานี่มันดีจริงๆ

ทั้งการสอบวัดมาตรฐาน ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น TOEFL, TOEIC, GMAT, GRE, SAT, IELTS, LSAT หรือแม้แต่ CFA คนจัดสอบท่าจะรวยดีแท้

สอบเสร็จ ก็ขนเงินไปเรียนเก็บความรู้เก็บประสบการณ์ต่อ

เราน่าจะส่งออกการศึกษาบ้าง จะได้เป็นแบบ USA, Australia หรือ UK

สู้เขานะครับ

[Muffin]

หมายถึงเพื่อนพี่ที่สอบ 13 ครั้งติดกันน่ะครับ
พิมพ์พลาดไปนิดครับ

[BHT]

ถ้าเรียนด้านที่ต้องใช้ผล gmat หรือ gre เพิ่ม ก็ทำคะแนนอันนี้ให้ดีมากๆ ก็น่าจะช่วยได้ เค้าว่ามหาลัยที่นู่น ดู essay ด้วย

ถ้ายังมีเวลาก็สอบใหม่อีกครั้ง คราวนี้เตรียมตัวอย่างดีกับเรื่องที่เรารู้ว่าด้อย ไปเรียนพิเศษเพิ่มด้านนี้ได้เลย

คิดว่าสอบครั้งหน้าน่าจะเกินร้อยแน่นอน

[Reminiscence of 3 Dogs]

ขอบคุณทุกคำตอบครับ

ตอนนี้ผมมา take course ระดับ undergraduate 1เทอม
เรื่องฟังไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่มากครับ  พอตามทันแบบชิวๆ
ฟัง bloomberg ก็ยังเป็นอะไรที่ยากกว่าอยู่ดี
ที่ยากคือการ discussให้ทัน native speakers ทั้งหลาย
พอพูดตามเขาไม่ทัน  เขาก็ไม่อยากพูดด้วยมากถ้าไม่จำเป็น  :(
กับฟังเพื่อนร่วมห้องที่เป็นพี่มืดไม่รู้เรื่อง   แต่ฟังอาจารย์รู้เรื่อง
ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม  ยังกับพูดคนละภาษากันเลย
ตอนนี้ก็หนักใจ ENG101  ชื่อเหมือนภาษาอังกฤษ101 น่าจะง่ายๆ
แต่ระดับความยากคงเป็นการเรียนภาษาอังกฤษครั้งที่ยากสุดในชีวิตเลยครับ

99/120 คือ 597  ระบบเก่าครับ  100 คือ 600    
ถ้าไม่นับ speaking จะได้ 82/90 หรือเทียบเป็น 630  :x

[miracle]

งานนี้คุณReminiscence of 3 Dogs
ไปอยู่US ก็จะสบายครับ
เพราะ มีการทดสอบทุกskillหมดแล้ว
ไม่ต้องกังวลครับ แต่ที่ต้องกังวลคือ เล่นนอกกรอบเท่านั้น

ส่วนที่พี่สุมาอี้เล่านั้น ต้องระวังน่าครับ สอบซ้ำๆๆ ถ้าคนที่ไม่มีเป้าหมายจะหดหู่อย่างแรง ทำให้ใจท้อแท้แบบสุดๆๆไปเลย แก้ไขโดยการใส่พลังงานตัวใหม่เข้าไปแทนคือ ไหนๆเกิดมาชาตินี้แล้ว(อายุเฉลี่ยคนไทยประมาณ65ปี) ต้องทำให้สุดๆซิ แบบนี้ล่ะเดี๋ยวจิตมันเดินเองล่ะ

หรือจะเอาความันส์ในชีวิตสักครั้งหนึ่ง ประมาณนี้ครับเดี๋ยวจะเจออะไรแปลกๆๆในชีวิต

ที่ขอเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเขียนไว้ที่หัวนอนแล้วอ่านทุกคืนก่อนเข้านอนและตื่นนอนน่าครับ

[phobenius]

ผมแนะนำการเพิ่มระดับ speaking ส่วนหนึ่งผมมาจากการเข้า TAB ที่ออสเตรเลีย ผมมีเพื่อนเป็นคนแก่เยอะมากๆๆ แถมใจดีโคตรๆ ผมไปอยู่ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดูไป เล่นมั้ง คุยกับเพื่อนๆคนแก่ทั้งวัน แถมให้มันสอนภาษาอังกฤษศัพท์พื้นเมืองให้ด้วยครับ เจ๋งมากครับ เผื่อได้ผลนะครับ ผมว่าการคลุกกับคนต่างชาติเยอะๆน่าจะช่วยได้นะครับ

[Reminiscence of 3 Dogs]

เอ่อ คุณCK  เพื่อนร่วม class ครับ พอดีเป็นที่ๆถูกที่สุดใน NY เลย
มีคนขาวไม่มากนัก เป็นพี่มืด ,ABC(american born chinese),
ABM(American born Mexican) ซะเกือบหมด

จะลอง apply ที่คุณ phobenius แนะนำไปใช้ดูครับ
หาฝรั่งจูงน้องหมาแถวๆ central park คุยเรื่องน้องหมา

แต่พับผ่าผมบอกคะแนนไปเพื่อนต่างชาติยังไม่ค่อยจะเชื่อกันเลย
ทุกคนบอกว่า writing ห่วยๆ ทำไมได้มากกว่า speaking ที่พอจะ OK  :lol:
แต่เพื่อนต่างชาติเคยนั่งฝึก speaking กันก็ comment มาเหมือนกันครับ
ว่าพอเจอคำถามแบบ toefl  ผมจะพูดตะกุกตะกัก
เหมือนเป็นคนละคนกับที่พูดปกติ ศัพท์ที่ใช้ก็พูดวนไปเวียนมา
นั่นก็คงเป็นสาเหตุหนึ่งครับ
เวลาผมเจอคำถามที่ผมไม่ได้มีความสนใจมาก่อนเป็นอย่างนี้ทุกที

ปล. ผมส่งเรื่อง rescore ไปแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมา
คงรู้ผลวันศุกร์ที่จะถึง  ที่Uบอกว่าส่งๆมาเหอะ ที่เขียนไป100บนweb
จริงๆหยวนไปถึง 95 โน่น เขียนไว้ให้ดูเป็นมาตรฐานเฉยๆ
ผมเลยส่ง rescore ไปเผื่อจะได้สูงกว่า100มาประดับติดฝาบ้าน  :P

[Reminiscence of 3 Dogs]

ที่ถูกหมายถึงค่าเรียนครับ 190$/credit สำหรับ international students
ราคานี้ปั่นทำงานร้านไทยเดือนนึงก็เก็บได้แล้วค่าเทอม1เทอม
ถ้า native จ่ายเพียง 120$/credit
ที่เรียนอยู่แถวๆเกือบถึง Downtown Manhattan ครับ

ถ้าราคาค่าเช่า ณ ปัจจุบัน
Upper Manhattan แพงนะครับ เห็นหลักพันต้นๆแล้วต่อเดือน
แล้วแต่ที่ แต่ทั่วไป 1100-2000เศษๆ สำหรับอยู่ได้1-2คน
เห็นในนี้คุณ Bangkokwu ที่อยู่ก็ uptown แถวๆ122st ครับ

ถูกที่สุดจริงๆคือการอยู่แบบเบียดๆใน Queens มั้งครับ
เห็นMexican ที่ทำงานที่ร้านจ่ายแค่ 150$/month
ถ้าอยู่แบบปกติ Queens , Bronx  ราคาน่าจะพอกัน
แต่ Queens ภาษีดีกว่า น่าอยู่กว่าสำหรับคนเอเชีย
ห้องเล็กๆอยู่คนเดียวก็350-650$ แล้วแต่สภาพเก่าใหม่
ส่วนห้องผมอยู่ฟรี ถ้าจ่ายก็500$  :P

ตอนยังเรียนภาษาอยู่มีอาจารย์คนหนึ่งอยู่บ้านแถวTribeca
ผมก็ถามแกไปตรงๆว่าเงินเดือนอาจารย์นี่afford ราคาแถวนั้นไหวเหรอ
แกบอกว่าอยู่มา15ปีละ สัญญาLease กฏหมายให้ขึ้นราคา
ค่าเช่าได้ไม่เกินกี่%ต่อปี ไม่แน่ใจ  แต่แกจ่ายอยู่ 570$/month
ถ้าแกย้ายออก คนใหม่มาห้องนั้นจะต้องจ่ายแถวๆ 2200$/month !!


เห็นเขาว่ากันว่าเวลาโมโหความสามารถทางการใช้ภาษาจะสูงขึ้นนะครับ
ผมก็เป็นบ้าง

[por_jai]

8) น้อง d2b เอ๊ย r3d ครับ
    ลองอ่านลิ๊งนี้ดูสิครับ เข้าก๊ะความรู้สึกน้องที่ตั้งกระทู้นี้ได้มั๊ง

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=23132

[tattoo_thai]

ปีที่แล้วผมไปอบรมและพบเพื่อนร่วมงานที่ NY ผมพักที่โรงแรมแถวๆ Mid Town ตรงถนน 51

ค่าห้องคืนละประมาณ USD 100 ห้องขนาด 3*2 เมตร ห้องน้ำต้องแชร์กัน บางวันเจออึลอยอยู่ในคอห่านต้อนรับแต่เช้า  :lol:

แต่เนื่องจากมันใกล้ Office เดินไป 4-5 block ก็ถึง เลยเลือกพักที่นี่ครับ

จริงๆแล้วคือมันถูก ถ้าพักที่อื่นนี่ มี USD 250 ต่อคืนแน่ๆเลย  :oops:

[phobenius]

คอนเซ็ปในการพูดผมว่าถ้าเจอคำถามยากๆ ให้ตีประเด็นเป็นข้อๆ ไปครับ จะสามารถแจงได้อย่างชัดเจนกว่า ซึ่งจะทำให้วนเวียนน้อยลงครับ ข้อหนึ่ง ข้อสอง ถ้าคิดไรออกใหม่ บอกเสริมข้อหนึ่ง ไรทำนองนี้ครับ

และ ที่สำคัญคุณต้องมีอารมณ์ร่วมในการพูดให้มากที่สุดครับ

ส่วนตัวผม พูดก็งั้นๆ แต่พูดแล้วให้มัน ได้อรรถรส จะทำให้เราได้ภาษีมากกว่าครับ ฝึกคำต่อให้เยอะๆครับ พวกเวลาลงท้ายแล้วออกเสียงไปพ่วงกับคำถัดไปครับ จะทำให้ลื่นลิ้นขึ้นครับ

[สุมาอี้]

ผมก็พูดตะกุกตะกักครับ ภาษาอังกฤษค่อนข้างห่วยแตก
แต่เคยทะเลาะกับไอ้มืดครั้งนึง มันเอาเปเปอร์ซีร็อกซ์ไป
ทั้งๆ ที่ตอนแรกมันบอกว่าไม่เอา TA เลยซีมาขาดไป 1 ชุด
จริงๆ ผมเอามาก็ไม่อ่านหรอก แต่มันโมโหความหน้าด้าน
จำได้ตอนนั้นเถียงกันลั่นฮอลล์เลย เลือดขึ้นหน้า 5555

เพื่อนมากระซิบถามว่า เฮ้ย ภาษาอังกฤษยูดีขนาดนั้นเหรอ
เห็นทุกทีพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ก๊ากกกกกๆๆๆๆ

เวลาไฟไหม้ทำให้แบกตุ่มได้ ไม่นึกเลยว่าเวลาโกรธทำให้พูดภาษาต่างประเทศได้ด้วย  :lovl:

[Muffin]

[quote="ba_2l"]หากิ๊กซัก3คนรับรอง ลื่นปรื๊ดๆ

[Basketman]

......วันหนึ่งผมหลงทางอยู่ในนิวยอร์ค แล้วไปเจอชายคนๆ หนึ่ง ผมถามเค้าว่าผมจะไป Carnegie Hall ได้อย่างไร ชายคนนั้นตอบผมว่า คุณก็ต้อง ซ้อม ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม.....เท่าที่จำได้ประมาณนี้นะครับ

สู้ๆ ครับ

    ผมจำได้ว่าตอนเรียนที่มหาลัยปักกิ่งปีสุดท้ายต้องสอบผ่านด่านมนุษย์ทองคำสี่ด่านคือ การ ฟัง พูด อ่าน เขียน(สำหรับชาวต่างชาติ) และต้องทำคะแนนในแต่ละด่านให้ได้80%ขึ้นไป ไม่งั้นไม่ผ่าน การฟัง พูด อ่านผมทำได้ 80-90% ครับ แต่ตกการเขียนได้65% คือเขียนเรียงความเรื่องที่กำหนดมาให้ได้ไม่ต่ำกว่า15000ตัวอักษรภายในระยะเวลาทีกำหนดให้ ให้สอบแก้ตัวได้1ครั้งภายในระยะเวลา4เดือนก่อนรับประกาศณียบัตร ...หน้ามืดครับไม่รู้ทำไงดีเพราะที่สอบไปก็เขียนก็ซ้อมจนหมดไส้หมดพุงแล้ว แต่ทำไงได้ครับอยู่มาหลายปีจะกลับบ้านมือป่าวโดยไร้กระบี่ไปอวดพ่อแม่ที่ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ได้อย่างไร หลังชนฝาครับก็ต้อง ซ้อม ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม.....(ผมซ้อมจนสามารถเปิดดิกชันนารีภาษาจีน-จีนได้แบบใช้นิวสัมผัสสันหนังสือขนาดความหนาสองพันกว่าหน้าได้แล้วหาคำที่ต้องการได้ทันที)ผมใช้เวลาซ้อมประมาณสองเดือนครึ่งเพื่อขอสอบแก้ตัวใหม่ สุดท้าย......ผมได้กระบี่กลับบ้านครับ
    กับอีกเรื่องนึงตอนเรียนมหาลัยที่ม.เกษตรฯบางเขน ผมติด F วิชาAnatomy ขนาด5หน่วยกิจ มา2รอบแล้วถ้าติดอีกรอบผมมีสิทธิ์เปอร์แน่นอน ผมเลยไปบนสิ่งศักดิ์สิทธ์ว่าถ้าผ่านรอบนี้จะวิ่งรอบตะลัย(รอบมหาลัย)100รอบภายในหนึ่งเดือน สุดท้าย.....ผมได้D+ มาจบครับ
    คุณ 3 Dogs ก็เลือกเอานะครับว่าจะ ซ้อม รึ จะบนเอาอย่างผม ฮิฮิฮิ..

[Reminiscence of 3 Dogs]

ขอบคุณทุกคำแนะนำที่หลั่งไหลเข้ามา
ไว้มีปัญหาอื่นคงได้มาบ่นให้ฟังอีกเป็นระยะๆครับ
พึ่งส่ง essay ไปฉบับนึงเรื่องการใช้ทฤษฏีจิตวิทยา Freud
วิเคราะห์นิยายYoung Goodman Brown
จะมี review ให้1รอบ  คาดว่าคงได้ D ไม่ก็ F
เทียบเพื่อนในห้องไม่ติดเลย  :P