***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 1

โพสต์

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 47.html#21



เรื่องดีๆ สำหรับวันนี้คู่แข่งที่แท้จริงโดย วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

อี-เมลฉบับหนึ่งที่ผมได้รับเมื่อเร็วๆ นี้ มีแง่คิดที่น่าสนใจมากจนต้องนำมาเผยแพร่ต่อให้ได้อ่านกันกว้าง ขวาง

ต่อไปนี้เป็นข้อความที่ได้รับมา

ทุกปีในสหรัฐอเมริกาจะมีการประกวดแข่งขันสะกดคำโดยจำกัดเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

งานนี้เป็น งานระดับชาติ มีเด็กมาร่วมแข่งขันถึง 10 ล้านคน

และมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในรอบสุดท้าย ในปีนั้นผู้ที่ฝ่ามาถึงรอบสุดท้ายมีเพียง 13 คน

ซามีร์ ปาเตล วัย 12 ขวบ ซึ่งปีที่แล้วได้อันดับ 2 เป็น ตัวเต็งอันดับ 1

ส่วนอันดับ 2 คือ ราชีพ ทาริโกพูลา ซึ่งได้ที่ 4 เมื่อปีที่แล้ว

ชัยชนะน่าจะเป็นของซา มีร์ แต่แล้วเขาก็พลาดเมื่อเจอคำว่า eramacausis

(แปลว่าอะไร โปรดหาจากพจนานุกรมเล่มใหญ่ๆ เอาเอง)

การตกรอบของซามีร์ทำให้ราชีพเป็นตัวเต็งอันดับ 1 ทันที


มีนักข่าวคนหนึ่งถามราชีพว่า ดีใจไหมที่คู่ปรับตกรอบไป

คำตอบของราชีพก็คือ "ไม่ครับ นี่เป็นการแข่งขันกับคำ ไม่ใช่กับคน ครับ"

ไม่ทันขาดคำ เสียงตบมือก็ดังก้องห้องประชุม

คำตอบของราชีพคงทำให้ผู้ใหญ่หลายคนได้คิด

ใช่หรือไม่ว่าเวลาเราแข่งขันเรื่องอะไรก็ตามเรามักจะ
มองเห็นผู้ร่วมแข่งขันเป็นปรปักษ์หรือฝ่ายตรงข้าม
ในใจจึงอยากให้เขามีอันเป็นไป เพื่อเราจะได้เป็นผู้ ชนะแต่ผู้เดียว
หารู้ไม่ว่าลึกๆ แล้วความอิจฉาและพยาบาทกำลังก่อตัวขึ้น ดังนั้นแข่งไปจึงทุกข์ไป
แข่ง เสร็จแล้วก็ยังทุกข์อีกที่เห็นคนอื่นเก่งกว่าตน

แต่สำหรับราชีพ แม้การแข่งขันจะดุเดือดอย่างไร เขาไม่ได้มองไปที่คน แต่มองไปที่คำ สำหรับเขา

ความท้าทายอยู่ที่การต่อสู้กับคำยากๆ คำยากทุกคำคือปริศนาที่เขาต้องถอดออกมาเป็นตัวๆ ให้ได้

เมื่อใจไปจดจ่ออยู่ที่คำเหล่านี้ เขาจึงมิได้ยินดียินร้ายที่ผู้ร่วมแข่งขันจะไปหรืออยู่
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แม้ว่าในที่สุดราชีพจะได้เป็นที่ 4 (เพราะแพ้คำว่า Hiligenschein)

แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทุกข์
เพราะเกลียดหรืออิจฉาคนที่เก่งกว่าเขา
คงมีแต่ความมุ่งมั่นที่จะศึกษาค้นคว้าให้หนักขึ้นเพื่อพิชิตคำยากๆ ในปีหน้า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปีหน้าเขาต้องเก่งกว่าปีนี้แน่
มองในแง่นี้ แม้เขาจะ "แพ้" แต่เขาไม่ขาดทุนเลย
กลับมีกำไรด้วยซ้ำ

มุมมองของราชีพนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะในยามแข่งขันเท่านั้น
แต่ยังมีคุณค่าสำหรับการดำเนินชีวิต และสัมพันธ์กับผู้คนด้วย

ใช่หรือไม่ว่าในชีวิตประจำวันเมื่อเราถูกวิพากษ์วิจารณ์ใจเรามักจะพุ่งตรงไปยัง คนวิพากษ์วิจารณ์
แต่ไม่ค่อยสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์เท่าใดนัก

ดังนั้น แม้ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์จะถูกต้องให้แง่คิดที่ดีเพียงใดก็ตาม
แต่เราไม่สนใจที่จะไตร่ตรองเสียแล้ว เพราะใจนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดและ โกรธคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรา

ถ้าเราหันมาใส่ใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์กันให้มากขึ้น และสนใจให้น้อยลง
กับการตอบโต้เพื่อเอาชนะคะ คานคนที่วิพากษ์วิจารณ์

นอกจากเราจะทุกข์หรือโกรธเกลียดน้อยลงแล้วเรายังมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์ จากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นด้วย

โดยเฉพาะหากเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกต้องด้วยท่าทีเช่นนี้ เราจะได้ กำไรสถานเดียว

คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณถึงกับบอกว่าวันไหนไม่ได้รับคำตำหนิ วันนั้นถือเป็นอัปมงคลเลยทีเดียว

เวลาทำงานก็เช่นกัน ถ้าเรามองว่านี้เป็นการต่อสู้ปลุกปล้ำกับงาน
เราจะไม่เดือดร้อนที่คนอื่นทำได้ดี กว่าเรา ใครจะดีจะเก่งก็เป็นเรื่องของเขา

เพราะในใจนั้นนึกอยู่เสมอว่า "ฉันกำลังแข่งขันกับงาน
ไม่ใช่แข่งขันกับคนอื่น"

นอกจากจะไม่อิจฉาเขาแล้ว ยังพยายามเรียนรู้จากเขาว่ามีวิธีการอย่างไร
เพื่อเอาไปใช้ในการพิชิตงานที่กำลังทำอยู่ หรือทำให้งานนั้นดีขึ้น

มองให้ลึกลงไปแล้ว คนไม่ใช่คู่แข่งของเรา กิเลสตัณหา ความเห็นแก่ตัว หรือความหลงตนต่างหาก
ที่เป็นคู่แข่งของเรา แทนที่จะสู้กับใครต่อใคร

เราควรหันมาสู้กับอกุศลธรรมในตัวเราดีกว่า ที่แล้วมาเรา
ต่อสู้กับใครต่อใครมากแล้ว
แต่ไม่ได้ต่อสู้กับอกุศลธรรมเหล่านี้ เราจึงทุกข์ไม่เว้นแต่ละวัน

ถึงที่สุดแล้ว แม้แต่คนที่คิดร้ายต่อเรา เขาก็ไม่ได้เป็นศัตรูของเรา
ความโกรธความเกลียดหรือความเห็นแก่ตัวในใจเขาต่างหากที่เป็นศัตรูของเรา

สิ่งที่เราควรจัดการคือความชั่วร้ายในใจของเขา มิใช่
จัดการตัวเขา
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะปลอดภัยและมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริง

เพราะการขจัดศัตรูที่ดีที่ สุดคือเปลี่ยนเขามาเป็นมิตร

แล้วอะไรล่ะที่จะเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรได้ หากมิใช่การใช้ความดีเอาชนะใจเขา

(ขอขอบพระคุณ คุณหญิงชัชนี จาติกวนิช
ที่กรุณาส่งอี-เมลที่มีค่าฉบับนี้ซึ่งไม่ปรากฏนามเจ้าของมาให้และขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ ขอขอบคุณท่านผู้เขียนที่อาจไม่รู้ตัวว่าได้กระทำสิ่งที่มีประโยชน์ยิ่งในยุค "ชิงชังกัน" เยี่ยงปัจจุบัน)

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย

การนอนดึกเป็นเหตุให้อายุสั้น เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การทำงานดึกทำให้ร่างกายล้า เหมือนกับเครื่องยนต์ Overload ไม่ช้าเครื่องก็พัง
วิธีแก้ไขในกรณีต้องทำงานดึก (เพื่อไม่ให้ร่างกายโทรมเร็ว)
ผู้ที่มีหน้าที่บริหารงาน มักจะพบปัญหานี้กันมาก เพราะต้องเร่งงาน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก
             1.  ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการล้า
            2.  ระบบร่างกายจะรวน ดังนี้

ระบบการย่อยอาหาร
ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ คืออาหารที่ทานเข้าไป ถ้าไม่นอนดึกอุจจาระจะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ เหมือนกับแท่งทอง แต่ถ้าอดนอนแล้วอุจจาระจะหยาบ จะมีเศษอะไรต่างๆ ติดอยู่ เหมือนกับรถที่มีเขม่าติด เกิดจากการที่ร่างกายย่อยไม่หมด เพราะล้า
แนวทางแก้ไข ให้ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารเหนียวๆ มิฉะนั้นลำไส้ทำงานหนัก ยิ่งนอนดึกแม้เราหลับไปแล้ว แต่ลำไส้ไม่หลับ ยังคงย่อยอยู่ต่อไป พอตื่นขึ้นมาก็เพลีย ให้ทานไข่ นม แทนพวกเนื้อสัตว์ ก็จะพอถูไถไปได้ มิฉะนั้นท้องจะผูกเป็นประจำ ริดสีดวงทวารจะถามหา (ถ้าหากอ้วนก็ให้ทานนมแทนไข่)

ท้องผูก มี 2 ลักษณะ
1.  ผูกแข็ง คือ อุจจาระแข็ง
2. ผูกเหลว คือ อาการถ่ายอุจจาระไม่หมด ยังค้างอยู่ แต่ลำไส้ล้า กระเพาะอาหารล้า ทำให้ไม่มีแรงบีบให้ออกจนหมด ดังนั้นในวันหนึ่งๆ จึงต้องถ่ายหลายครั้ง โรคที่จะตามมาก็คือ ผื่นคันบริเวณขาหนีบ (ไม่ใช่เพราะความสกปรกหมักหมม) จะคันทั้งวัน     ปกติอุจจาระจะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ถ้าแข็งแสดงว่าส่วนที่เป็นน้ำได้ซึมกลับเข้ามาในลำไส้ ซึ่งมันเป็นของเสียที่ต้องขับออก ผลก็คือทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะมาประทุบริเวณเนื้ออ่อนๆ เช่นที่ขาหนีบ สาเหตุก็มาจากท้องผูกนั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่านอนดึก ถ้าต้องดึกก็ให้ออกกำลังหน้าท้อง ให้ท้องเกิดกำลัง จะได้รีดอุจจาระออกมาได้เร็ว ทานเสร็จแล้วอย่านอน ให้เดินสักครึ่งชั่วโมง เพราะพอขาได้เดิน ลำไส้มันก็ต้องไปกับขาด้วย จะช่วยทำให้ย่อยได้ดีขึ้น ท้องจะผูกน้อยลง ผื่นคันก็จะหาย ถ้ายังไม่หาย (เนื่องจากอายุมาก) ให้ทานน้ำขิงสด (ไม่ใช่ขิงผงเป็นซองๆ) พวกที่นอนดึกต้องให้ท้องอุ่นมากๆ ให้หาผ้ามาห่ม เดี๋ยวท้องจะอืด เฟ้อ บางทีต้องให้เท้าอุ่นด้วย ให้หาถุงเท้ามาใส่ มิฉะนั้นเท้าจะชา

ระบบปัสสาวะ
ถ้านอนไม่ดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมาจะปัสสาวะครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก ยิ่งนอนตีหนึ่ง กลางดึกจะต้องลุกเข้าห้องน้ำถี่ เพราะร่างกาย Overload ต้องการน้ำมาก กล้ามเนื้อข้างในจะบีบคั้นเอาพลังงานออกมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือปัสสาวะบ่อย ทำให้พวกเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย ยิ่งอายุ 35 ขึ้นไปจะยิ่งแย่

แนวทางแก้ไข ให้ทานแคลเซี่ยมเม็ดได้ แต่อย่ามาก แค่ 1 เม็ดก็พอ ถ้าทานมากจะทำให้แคลเซี่ยมพอก คืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท (ถ้าเป็นแล้วต้องให้คนนวด และทานยาละลายแคลเซี่ยมช่วย) ถ้าไม่ทานแคลเซี่ยมชดเชย จะทำให้เลือดจาง เม็ดโลหิตจาง

สรุปแล้วการอดนอน เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง

การนอนดึกต้องดื่มน้ำให้มาก และเติมเกลือในน้ำด้วย คือพอเราดื่มแล้วมันออกมาหมดทั้งทางปัสสาวะและเหงื่อ เราทานเกลือมากๆ ยังออกทางเหงื่อได้ แต่ถ้าทานแคลเซี่ยมมากทำให้กระดูกงอก  ส่วนโค้ก เป๊ปซี่ กระทิงแดง อย่าทาน พอเราอยู่ดึกและกลั้นปัสสาวะ มันจะซึมกลับเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะไปประทุที่ขาหนีบ หรือท้องแขนเป็นเม็ดแดงๆ เป็นจ้ำขึ้นทั่วเลย บางคนไม่กลั้น แต่ดื่มน้ำน้อย อาการก็จะเหมือนกับการโม่แป้งฝืดๆ ลำไส้บีบตัวไม่ไหว ต้องเค้น ก็จะเพลีย แต่ถ้าดื่มน้ำมาก ทำให้ถ่ายสบาย   ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้กรดยูเรียเข้มข้น พอเรากลั้นปัสสาวะมันก็จะซึมเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ถ้ากลั้นบ่อยๆ จะทำให้ปัสสาวะไม่หมด

ระบบเหงื่อ
คนที่ไม่มีเหงื่อออก จะแย่ ถ้าขับเหงื่อให้ออกได้ร่างกายสบาย ถ้าเหงื่อไม่ออกความร้อนภายในร่างกายจะระบายไม่ได้ ทำให้อึดอัด ของเสียในร่างกายก็ออกไม่ได้ โรคผิวหนังจะถามหา สิวฝ้าจะขึ้น  เพราะฉะนั้น ดื่มน้ำให้มากพอและออกกำลังกาย เท่านั้นพอ เอาจนเหงื่อออกให้ได้  คนนอนดึกเหงื่อจะไม่ค่อยออก ของเสียตกใน สิวฝ้าขึ้น มันก็จะไปออกทางปัสสาวะแทน ไตเลยทำงานหนัก

ระบบหายใจ
ระบบหายใจจะเสียตามมา ร่างกายจะเอาออกซิเจนไปแลกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงได้ต้องมีความชื้น ถ้าความชื้นน้อยมันจะไม่แลก ทำให้อึดอัด เหมือนอยู่ห้องแอร์แล้วอึดอัด เพราะความชื้นไม่พอ ไม่ใช่อากาศไม่พอ อากาศมันแห้งเลยเอาความชื้นในตัวเราไป ทำให้ปอดทำงานไม่สะดวก และออกซิเจนไม่ได้

แนวทางแก้ไข ให้เอาน้ำใส่กะละมังไว้ข้างตัว ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งดี   ถ้าอึดอัดให้เอาผ้าหนุนเท้าให้สูง เลือดก็จะไหลลงมาได้ จะทำให้นอนสบาย การดื่มน้ำหวานๆ ตอนอยู่ดึกๆ ก็ช่วยได้ แต่อย่าหวานมากจะทำให้อ้วน ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าอยู่ดึก ดึกได้เป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น คนนอนดึกเสียงจะแห้ง เพราะไตมันล้า  การใช้สบู่ ให้ใช้สบู่เด็ก เพราะเป็นสบู่อ่อน การกัดจะน้อย อย่าใช้สบู่แรงๆ ให้ฟอกสบู่วันละครั้งก็พอ

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 4

โพสต์

FW: Fwd: ๏~* แฟนใครหรือ ภรรยา/สามี ไม่เป็นเหมือนที่คุณคาดหวัง ลองมองมุมนี้บ้าง *~๏

Date: Mon, 06 Nov 2006 18:17:05 -0900



อ่านให้จบ ๆ นะ ดี มาก ๆ

ผมในฐานะผู้ชายไทยคนหนึ่งที่รักภรรยามากๆ
อยากจะเล่าเรื่องตัวเองกับภรรยาให้ฟังบ้างครับ

ภรรยาผมตั้งแต่คบ มา 12 ปีนั้น ไม่ เคย:

1 ทำงานบ้านใดๆเลย ไม่ชอบและไม่ทำ มีบ้างนานๆครั้ง นับครั้งได้
2 ไม่ทำอาหารให้ทานเลย
3 ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ในบ้าน ผมรักหมามาก แต่ เมียไม่ให้เลี้ยงก็ไม่เลี้ยง (วุ้ย) เมียกะหมานะ เลือกหมา เอ้ย เมียอยู่ แล้ว

4 ไม่เคยพูดคำหวานหรือ ให้การด์ในวันสำคัญ ผมต่างหาก ชอบ surprise เค้าทุกครั้ง (มีบ้างที่เค้าให้การด์คือ ผมทวง!)
5 รายได้ผม เดือนเป็นแสนๆ เค้าเก็บบริหารในบ้านหมด ผมได้ใช้อาทิตย์ละ 1500 ครับ น้อยกว่าเด็กจบใหม่ อีก
6 ขี้บ่นมากๆๆ บ่นทุกเรื่องที่บ่นได้

7 ไม่ชอบแต่งตัว ไม่เคยแต่งหน้าไปทำงานในชีวิต
8 ไม่ค่อยเปิดมือถือ จนเพื่อนเค้ารำคาญกันไปหมดแล้ว
9 ไม่ชอบเดินห้าง ไม่ชอบของทันสมัย hitech ซึ่งตรงข้ามกับผม

แต่....

ผมรักเธอมากยิ่งกว่าชีวิตผม ผมตายแทนเมียได้ทุกเมื่อ
เงินประกันชีวิตเป็นชื่อเธอคนเดียว

ทุกข้อที่ยก ตัวอย่าง ส่วนใหญ่ผมรับได้แต่ต้น บางข้อผมอึดอัดในตอนต้นแต่คุยกันแล้ว
ผมรับได้ครับและตามใจเธอทุกอย่าง อะไรที่ทำแล้ว
แฟนผมมีความสุข ผมทำให้ได้ ทุกอย่าง

ทุกวันนี้ ชินและมีความสุขมากๆๆ ถ้าภรรยาผมไปปรับปรุงตัวเองให้เด่นหรือแปลกไป
ผมรับไม่ได้ครับ เพื่อนมีล้อว่า กลัวเมียบ้าง

ผมเฉยครับและบอกว่า ผมมีความสุขมากๆอยู่แล้ว ไม่แคร์ใครครับ

ระหว่างเพื่อนกับเมีย ผมเลือกเมียครับ
เวลาคุณแก่ เวลาคุณป่วย เวลาคุณจะตาย คุณจะกุมมือเพื่อนแล้วร้องไห้หรือป่าว ครับ?

ลูกเมียต่างหาก คือ คนที่จะแบ่งปัน ทั้งสุขและทุกข์กับเรา ผมโชคดีที่มีเพื่อนดีๆที่ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวผมเยอะมากๆ ชีวิตผม ผมเลือกเอง ครับ ผมรักของผมแบบนี้

สิ่งที่จะบอกทุกคนคือ

1 คุณเลือกแฟนของคุณแบบ นี้เอง ถ้าเค้าไม่ถูกใจจะไปบ่นทำไม

2 No one is perfect. คุณก็ไม่ perfect ผมก็ไม่perfect แต่
ถ้าคนสองคนรักกันมากๆ เราจะมองแต่ข้อดีของกันและกันครับ Positive thinking กับชีวิตครับ แล้ว ชีวิตจะมีความสุข

3 อย่าไปเปรียบเทียบชิวิตคู่เรากับคนอื่น เทียบสูงไม่เท่า เทียบต่ำยังเหลือ
เรายังโชคดีกว่าคนหลายล้านในโลกที่มีโอกาส รัก และ ถูกรัก
หลายคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะเดิน พูด หรือ ทานข้าวเอง ผมและครอบครัวเพิ่งไปบริจาคเงินและเลี้ยงเด็กพิการปากเกร็ดมา
ชีวิตหลายร้อยชีวิตในที่แห่งนั้น ลำบากกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่า

และใครบางคนมัวแต่วิจารณ์สิ่งที่ไม่ดีของคนข้างตัวที่ เราเป็นคนเลือกเอง
นิ้วหนึ่งนิ้วที่ชี้ต่อว่า แฟนคุณนั้น อีกสี่นิ้วชี้หาตัวคุณเองนะครับ

ถ้าคุณเบื่อแฟนคุณเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วไปมีคนใหม่
เดี๋ยวคุณก็หาเรื่อง ติ หาเรื่องว่า แฟนคนใหม่คุณได้อีก คุณไม่รักและภูมิใจในแฟนคุณ แล้ว ใครจะรัก ครับ

และผมไม่อยากให้ผู้หญิงเอาเรื่องผมไปให้แฟนคุณอ่านเพื่อให้ทำตาม
คนไม่ใช่หุ่นยนต์ครับ กรุณาเคารพตัวตนปัจเจกชนของผู้ชายแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ด้วย
เพราะผู้หญิงหลายคนหรือคุณเองก็ทำสิ่งดีๆที่แฟนผมทำมากมายให้ผมไม่ได้

ภรรยาของผมมีข้อดีเป็นล้านๆๆข้อ มากกว่าข้อเสียเก้าข้อข้างต้น
เช่น เป็นเด็กเรียน ไม่เคยเที่ยวกลางคืนในชีวิต
ไม่ดื่มเหล้าเบียร์และเล่นอบายมุข ใดๆ
และเป็นคนใจบุญมากๆ ท่องชินบัญชรได้คล่อง

ตอนแต่งงาน ท่องบทสวดได้หมด ผมไม่ได้ เลย! อายสุดๆๆ
สุดท้ายผมก็พัฒนาเรื่องทางธรรมไปให้ใกล้เธอมากที่สุด พยายามครับ,

ภรรยาผมให้นมลูกเองมาสองปีกว่า เหนื่อยมากๆ
แต่ เธอไม่บ่นสักคำ ผมซึ้งมากครับ
มีกี่คนในประเทศที่เป็นแบบนี้ ผมภูมิใจของผมเองนะ ไม่ได้โอ้อวด,

ผมจะถอย รถAccord ป้ายแดงให้ภรรยา เธอยืนยันขอขับรถเล็กคันเก่าสองแสนโลแล้ว ไปเรื่อยๆ
รถซื้อมาราคาลดสมชื่อ เก็บเงินให้ลูกดีกว่า เธอว่างั้นครับ

เรื่องอื่นๆฟุ่มเฟือยไม่ต้องพูดถึง เธอใช้มือถือรุ่นเก่าสุดครับ
ยิ่งไปกว่า นั้น ผมเป็นแฟนคนแรกในชีวิตเธอครับ เดี๋ยวนี้อย่าถามวัยรุ่นสมัยนี้เลยครับเรื่องนี้

อายุสามสิบต้นๆ เราปลดหนี้บ้าน 150 ตารางวาแถวรามคำแหง
ราคาตลาดตอน นี้ 8-10 ล้านในเวลาเพียง 6 ปี เรามีรถหลายคัน
เรามีทุกอย่างที่เราอยากได้ มีเงินเก็บเป็นล้าน ไปเที่ยวเมืองนอกทุกปี

ด้วยการบริหารเงินในบ้านของเธอ เรา คิดว่า ก่อนสี่สิบเราสามารถเกษียณตัวเองได้
ถ้าเราอยากทำ ทั้งที่เราสองคนเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งคู่

โหนรถเมล์มาด้วยกัน ทุกอย่างมาจากสอง มือเรา ไม่มีจากที่บ้านเลยเพราะที่บ้านเราทั้งสองรับราชการทั้งคู่

ผมอยาก สรุปสั้นๆว่า ถ้าเรามัวหลงละเลิงกับกิเลสรอบข้าง
ไม่ว่าจะเป็นกิ๊กใหม่ที่ดูสาวกว่าแฟนเรา ดูหนุ่มดูดีกว่าแฟนเรา
ปรับตัวเราไปให้ดึงดูดเค้า เราจะไม่มีวันพอใจกับคู่และชีวิตเลยครับ
คุณจะเหนื่อยตลอดชีวิตและไม่มีวันพบรักแท้

ลองนึกเล่นๆว่า ถ้าสมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่เราสมัยนั้น
เป็นแบบรุ่นเราบางคน สังคมไทยคงวิบัติสุดๆ ครับ
เราคงไม่อยากให้รุ่นลูก รุ่นหลานของเรานำด้านไม่ดีของรุ่นเราไปปรับใช้นะครับ

เหรียญมีสองด้านครับ อยู่ที่มองด้านไหน
คุณอาจจะปรับตัวเองเพื่อหลอกบางคน บางเวลาได้
แต่คุณหลอกทุกคน ทุกเวลาไม่ได้ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดครับ

เค้าจะรักที่ตัวคุณ ไม่ใช่เสื้อผ้า เครื่องประดับหรือเงินคุณ

จงพอใจกับคู่ของคุณเพราะ "คุณเป็นคนเลือกเอง ครับ"

ก่อนมาเขียนก็เกริ่นๆกับภรรยาแล้วแต่เค้าไม่อยากให้มาเล่าเรื่องส่วน ตัว ให้คนอื่นฟัง
แต่ ผมคิดว่า จำเป็นครับที่อยากให้ทุกท่านโหวตให้ผมครับเพื่ออีกกระทู้ชู้กิ๊กนั้นจะได้ตกไป และ สังคมไทยจะได้มีอีกมุมมองที่แตกต่างกันไปในทางที่ดีครับ

รักเมียยิ่ง ชีพ
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 5

โพสต์

(Fw: ไม่รักไม่ส่งให้หรอก :) ... ฮาอย่างแรงงงงง

Date: Mon, 06 Nov 2006 17:44:05 -0900
1. ขี้ล่องหน

เป็นประเภทที่คุณรู้สึกเหมือนขี้กำลังจะหลุดออกมา



แต่พอรีบแจ้นไปนั่งส้วม ปรากฎ .. ไม่ออกแฮะ
อย่างมากก็มีตดสามสี่ครั้ง



2. ขี้สะอาด

เป็นประเภทที่

เมื่อคุณขี้ออกมาแล้ว มองก็เห็นลอยอยู่ในโถ


แต่พอมองกระดาษเช็ดก้นที่ใช้ไปแล้ว เออ
.. ยังดูสะอาดดีนี่หว่า



3. ขี้เปียก

เป็นประเภทที่

เช็ดก้นไปสิบกว่ารอบแล้ว

แต่ยังรู้สึกเหมือนยังไม่ได้เช็ด

จนคุณต้องดึงกระดาษชำระส่วนนึงมารองระหว่างก้นคุณกับกางเกงใน


เพื่อจะได้ไม่เกิดร่องรอยอารยธรรม



4. ขี้ระลอกสอง

เกิดขึ้นเมื่อคุณขี้เสร็จไปแล้ว



กำลังดึงกางเกงขึ้นมาถึงหัวเข่า จะใส่อยู่รอมร่อ
แต่ .. ทันใดนั้น

ความรู้สึกนี้ก็เกิดขึ้น และคุณก็ตระหนักดีว่า


คุณยังมีขี้ล็อตใหม่ที่จะต้องระบายออกอีก



5. ขี้เลือดขึ้นหน้า

เป็นอาการปวดขี้แบบสุดโต่ง

เกินคนจะทนได้ นั่นไง ..

มันกำลังจะทะลักออกมาแล้วววว



6. ขี้ท่อนซุงยักษ์

เป็นขี้ชนิดก้อนใหญ่พิเศษ

คุณก้มลงมองดู

แล้วเกิดความรู้สึกว่า โอ้ว .น่ากลัวจัง


มันจะถูกดูดลงไปหมดในคราวเดียวได้หรือนี่


ว่าแล้วคุณก็ต้องฉวยแปรงขัดส้วมมาตีให้มันแตกเป็นส่วนน้อยๆ
เสียก่อน



7. ขี้เปี่ยมแก๊ส

มีลักษณะเสียงดังกึกก้อง

จนคนที่อยู่แถวนั้นขยับเสียงคิกคัก



8. ขี้คนเมา

ลักษณะของขี้ที่คุณปลดปล่อยในเช้าหลังคืนที่ไปดื่มหนัก

ๆ มา

ส่วนใหญ่จะเป็นที่สังเกตได้ว่า มันจะข้นเหนียว


จนมักฝากร่องรอยไว้เป็นที่ระลึกในโถส้วม



9. ขี้ข้าวโพด

ชื่อก็บอกอยู่แล้ว

ต้องให้อธิบายอีกหรอ



10. ขี้ดอกสว่าน

มันจะทำให้รูก้นแสบสันต์

สะท้านทรวง

จนคุณต้องบิดตัวไปมาด้วยความเร่าร้อน
เมื่อไหร่จะสุด..ฟะ



11. ขี้แก้มเปียก

(กำลังส่งสูง)
ขี้ประเภทนี้



จะถูกขับออกมาอย่างรุนแรงและรวดเร็วจนทำให้แก้มก้นพลอยเปียกไปด้วย
อืมม ..

อันตรายเหมือนกัน



12. ขี้ต่องแต่




เป็นอาการที่ขี้ปฏิเสธจะหล่นลงมาถึงแม้ว่าคุณจะปล่อยสุดแล้วก็ตาม


จนคุณต้องสะบัดสะโพกสักครั้งสองครั้ง


เพื่อหวังให้มันหลุดออกจากขั้วก้น เอ้า..
ฮึบ



13. ขี้ประหลาดใจ

คุณไม่ได้อยู่ที่ห้องน้ำด้วยซ้ำ



เพราะคุณมั่นใจว่าคุณเพียงแค่จะ ตด แต่
อุ๊ย ! คุณพระช่วย ขี้แตก
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Fw: "รู้จักเวสป้า...ม้ายยยย"

Date: Sun, 05 Nov 2006 20:58:46 -0900


เรื่องนี้เกิดขึ้นบนถนนสาทร....รู้จักถนนสาทร ไหมครับ ถนน
สาทรเป็นถนนที่มีลักษณะมีไฟแดงย่อย ๆ ติด ๆ กันเป็นระยะ

เพื่อให้รถออกจากซอยที่เชื่อมกับถนน สีลม

เช้าวันอาทิตย์ วันเดียวที่ถนนเส้นนี้ได้จะได้พักผ่อน
ชายคนนึงขับรถSport

เปิดประทุนคันงานผ่านเส้นทางนี้ในขณะที่จอดติดไฟแดงที่หัวถนนอยู่นั้น

ก็มีผู้ชายอีกหนึ่งคน
ขี่รถเวสป้าฝ่าไฟแดงไปเนื่องจากถนนโล่งมาก


ไม่มีรถตัดกระแสจราจร ก่อนจะผ่านรถ Sport ไปนั้น
เจ้าของรถเวสป้า

ก็ตะโกนขึ้นมาว่า

"รู้จักเวสป้าอะป่าว"

แล้วก็ฝ่าไฟแดงไป
ชายคนที่อยู่ในรถเปิดประทุนรู้สึกฉุนมาก

พอไฟเขียวก็รีบเหยียบคันเร่งจนสามารถแซงคืนได้

แต่ไม่ทันไรไฟแดงจุดถัดไปก็ทำงาน
เสียงเบรคดังขึ้นรถเค้าจอดเป ็นคนแรกของไฟแดง

สักพักเวสป้าคันเดิมก็ฝ่าไฟแดงแซงขึ้นไป

โดยไม่ลืมประโยคเดิมที่เคยพูดไว
"รู้จักเวสป้าอะป่าว"

ครั้งนี้เสียงดังกว่าเดิม แทบจะเรียกว่าตะโกนเลยก็ได้

คงไม่ต้องบอกถึงอารมณ์ของชายหนุ่มบนรถเปิดประทุน
ทันทีที่ไฟเขียว

รถของเค้านั้นพุงออกมาและแซงกลับไปอย่างรวดเร็ว

แต่ที่นี่คือ สาทร ไฟแดงถัดไปจึงทำงานอีกครั้ง

เสียงเบรคดังขึ้นอีกครั้ง
เค้าเป็นคันแรกเช่นเคย

ไม่นานนักเสียงรถเวสป้าก็เคลื่อนตัวใกล้เข้ามา

แล้วก็ฝ่าไฟแดงออกไปพร้อมกับเสียงสุดท้ายที่ดังและยาวนาน

"รู้จักเวสป้าอะป่าวววววว"

"โครม"

คราวนี้ไม่โชคดีเหมือนทุกครั้ง แยกนี้เป็นแยกใหญ่

มีรถบรรทุกคันนึงกำลังขับผ่านแยกอย่างช้า ๆ

ทำให้เวสป้านั้นวิ่งเข้าไปชน

คนขี่เวสป้ากลิ้งลงมานอนที่พื้น ด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก

แม้จะไม่เป็นอะไรมากแต่เค้าก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

ยังคงนอนร้องด้วยความเจ็บปวด
จึงเป็นทีของเจ้าของรถเปิดประทุนบ้าง
เข้าเดินลงจากรถมาที่คนเจ็บ

พร้อมกับตะโกนว่า

"เป็นไงละ รู้จักเวสป้าป่าว แล้วรู้จักสิบล้อป่าว ซ่านัก

เอาหนังสือพิมพ์ไปอ่านสักฉบับมั้ย"

คนเจ็บมองหน้าคนขับรถเปิดประทุน แล้วพูดว่า.....

"ที่ผมถามพี่ว่ารู้จักเวสป้าอะป่าวอะ เพราะผมจะถามพี่ว่า

เบรคมันอยู่ตรงไหน"

"อย่าเพิ่งรีบตัดสินใคร

เพราะข้อมูลที่คุณได้รับอาจไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดที่มีก็ได้"

P.S. เอามาให้อ่านเป็นข้อเตือนใจเล็กๆน้อยๆนะฮะ
เอามาจากเมล์อิอิ
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 7

โพสต์

FW: ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต

Mon, 9 Oct 2006 00:14:06 -0700 (PDT)

ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต

(chinese tantra totem for good luck)

จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน

จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน

จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน

เมื่อกล่าวคำว่า "ฉันรักเธอ" จงหมายความตามนั้นจริง ๆ

เมื่อกล่าวคำว่า "ขอโทษ" จงสบตาเขาด้วย

ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน

จงเชื่อในรักแรกพบ

อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร

เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม

ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน

อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา

จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว

ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม

จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง

พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม

เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย

จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ

จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่

ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที

จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา

จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เลือกของใส่บาตรตามวันเกิด

วันอาทิตย์
อาหารคาว :  ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คนตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง

วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น

วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 (สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง

วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิกบุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด

วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล5 อย่าซื่อจนเกินไป


วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย

วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย่าหมักหมม
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 9

โพสต์

FW: Save yourself.

Date: Wed, 01 Nov 2006 23:21:09 -0900
 


ถึง เพื่อนๆ  ที่รักทุกท่าน        
ในช่วงเวลา 5 อาทิตย์ที่ผ่านมา  
ที่ผมพยายามต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ  
ถึงแม้จะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีทำกายภาพบำบัดแล้วก็ตาม

นอกจากจะไม่ส่งผลในเชิงบวกแล้ว ยังดูเหมือนอาการจะทรุดหนักลง และเจ็บปวดมากขึ้น  

ผมได้ไปทำการ x-ray ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ MRI( Magnetic Radiation  Image)  
ผลการ x-ray พบว่า หมอนรองกระดูก ระหว่าง ข้อที่  5 ข้อ 6 และ ข้อที่ 6- ข้อที่ 7 บริเวณต้นคอเสื่อมทรุด  

ทำให้ช่องว่างซึ่งเป็นทางเดินของเส้นประสาทแคบลงจนเกือบชนกัน
เส้นประสาทและระบบประสาท ถูกกระดูกสันหลังท่อนที่ 5   และ 6 กดทับ  

ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบาดเจ็บ  
ผมจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูก ณ โรงพยาบาลบางประกอก 1

ในวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2549
และคงพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 4-5 วัน ( อาจไม่สามารถหายทันสอบ mid-term วิชา Macro)

แพทย์สรุปสาเหตุหลักของหมอนรองกระดูกบริเวณต้นคอเสื่อมทรุด  
เนื่องมาจากการนั่งหลับในรถยนต์เป็นประจำ  
ทำให้ศีรษะโยกและสะบัดตลอดเวลาขณะที่รถวิ่ง เลี้ยว หรือเปลี่ยนความเร็ว

เนื่องจากในขณะที่หลับ กล้ามเนื้อบริเวณรอบต้นคอจะไม่ทำงาน  
ทำให้หมอนรองกระดูกต้องรับภาระหนัก และเสื่อมทรุดในเวลาอันรวดเร็ว  
ผมจึงใคร่ขอฝากคำแนะนำจากแพทย์มายังเพื่อนๆทุกท่าน

โดยเฉพาะผู้ที่มักง่วงและนั่งหลับขณะรถวิ่ง  
ควรหลีกเลี่ยงการนั่งหลับในรถขณะที่รถวิ่ง  
หากเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้หมอนลมที่เป็นรูปตัว C สวมที่รอบลำคอเพื่อพยุงศีรษะ
และลดอาการโยก สะบัด ของศรีษะขณะที่รถยนต์กำลังวิ่ง  
จะช่วยลดการเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่ต้นคอให้ช้าลง
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 10

โพสต์

FW: อย่าเติมนำมันเต็มถัง

Date: Wed, 01 Nov 2006 18:20:22 -0900

พวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนักว่าสายส่งน้ำมันนั้นมีท่อส่งกลับน้ำมัน (สีดำ)  

เมื่อน้ำมันเต็มถัง (ในรถยนต์)  ลิ้นหัวจ่ายน้ำมันที่ตัวปั๊มจ่ายน้ำมันจะถูกปิด

และขณะเดียวกันนั้นวาลว์ส่งกลับน้ำมันที่ตัวปั๊มนั้นจะเปิดเพื่อให้น้ำมันในท่อส่งน้ำมัน (ตำแหน่งบนสุดของปั๊มน้ำมัน) ไหล กลับคืนเข้าสู่ถังน้ำมัน

แต่น้ำมันที่ค้างในหัวจ่ายนั้นได้ผ่านมิเตอร์แล้ว นั่นแสดงว่าคุณกำลังบริจาคน้ำมันที่ค้างในท่อจ่ายน้ำมันคืนให้กับผู้จำหน่าย SHELL/PETRONAS/CALTEX/MOBIL
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 11

โพสต์

FW: ประโยชน์ของมือถือ

Date: Thu, 12 Oct 2006 01:24:05 -0800
 




1. หมายเลขสากลฉุกเฉิน 112 ใช้ได้ทั่วโลก
ถ้าเกิดไปหลงอยู่ในเขตที่ไม่มีสัญญาณเลย
แต่มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้กด 112 แล้วมันจะหาเบอร์ให้เองอัตโนมัติ
แม้แต่เราล็อคปุ่มก็เถอะ ยังกดเบอร์นี้ได้เลย

หมายเหตุ ถ้าอยู่ดาวอังคารคงใช้ไม่ได้...ฮ่า

2. ใช้ในกรณีที่ลืมกุญแจไว้ในรถ...สำหรับรถที่ใช้ Remote Key
ถ้ารถล็อคไปแล้ว แต่เรามีกุญแจสำรองอยู่ที่บ้าน ให้โทรไปหาคนที่อยู่ที่บ้านด้วยมือถือ

(เราต้องโทรไปหาเบอร์มือถือของเขาด้วยนะ)เมื่อเขารับแล้วให้เราบอกเขาให้กดปุ่ม unlock บนกุญแจสำรอง
ในขณะที่เราถือมือถือให้ห่างจากประตูรถประมาณ 1
ฟุต
(คนที่อยู่บ้านที่เราวานให้กดต้องเอากุญแจไปจ่อใกล้กลับมือถือของเขาในขณะที่กดปุ่ม)
ประตูรถก็จะเปิดออกเหมือนเรากดปุ่มรีโมทด้วยตัวเองเลยแหละ
ระยะทางไม่มีปัญหาแม้รถกับบ้านจะอยู่ห่างกันเป็น ร้อย ๆ กม.ก็ตาม

3. กรณีแบ็ตใกล้จะหมด *3370#
สำหรับมือถือ Nokia ถ้าเกิดถ่านเหลือน้อยเต็มทีจนใกล้ดับ
แต่เราจำเป็นต้องโทรออก ให้กด *3370# มันจะรีดพลังสำรองที่ซ่อนออกมา
แล้วแสดงให้เห็นว่าเพิ่มพลังถ่านให้ขึ้นมาอีก 50%
และมันจะชดเชยส่วนสำรองนี้ในการชาร์จแบ็ตครั้งต่อไป

4. ถ้าโทรศัพท์หาย ต้องการทำให้ใช้ไม่ได้ตลอดไป
ในกรณีนี้เราต้องใช้หมายเลข serial number ประจำเครื่องซึ่งมี 15- 17 หน่วย
การที่จะทราบหมายเลขนี้ก็ไม่ยากครับ กด *#06#
แล้วหมายเลขประจำเครื่องก็จะขึ้นมาให้เห็นทันทีเหมือนเล่นกล

จดไว้ครับแล้วเก็บไว้ให้ดี.....ที่นี้ถ้ามือถือหายหรือตกหล่นให้โทรไปที่ศูนย์แล้วแจ้งหมายเลขให้เขาไป
เขาก็จะบล็อคเครื่องของเราให้

แล้วทีนี้มือถือที่หายไปจะใช้ไม่ได้อีกเลย

ถึงแม้ว่าคนขโมยไปจะเปลี่ยน Sim card มันก็จะยังใช้ไม่ได้อยู่ดี

ได้อย่างเดียวคือไว้เขวี้ยงหัวหมาหรือหลังคาคนอื่น

(อาจจะหลอกไปขายต่อได้...ถ้าคนซื้อต่อเขาไม่รู้....)

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คนสามคน

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง

หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร
ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ
ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ

หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

เจ้ารู้ไหม  ในตัวเรามีคนอยู่สามคน     คนแรกคือ  คนที่เราอยากจะเป็น    
คนที่สองคือ  คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น  
คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ  

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา

คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป
ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา
ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม
ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ

มาถึงไอ้ตัวที่สอง  จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น
บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก
แต่เราก็ยิ้มรับ  
แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์  จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น  มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้

อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ  ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น  ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร

สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว  
ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน  
คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง  
คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี
ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ
อย่าเลียนแบบ นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล

แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้ว เริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา

เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์  เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้
สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา  เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ
เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง  ยังไม่ต้องชำระ
ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่  เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น
แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม

เข้าใจครับหลวงตา เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 13

โพสต์

FW: มาเตือนภัยสาวๆๆที่ชอบเดินคนเดียว ไม่ว่าที่ สยาม สีลม หรือแหล่งช้อปปิ้ง

Date: Thu, 05 Oct 2006 02:29:16 -0800
 
Subject: มาเตือนภัยสาวๆๆที่ชอบเดินคนเดียว ไม่ว่าที่ สยาม สีลม หรือแหล่งช้อปปิ้ง

Date: Thu, 3 Aug 2006 10:04:02 +0700

เรื่องมันเริ่มที่   เพื่อนพี่สาว ชื่อพี่กิ๊บ

เค้าไปเดินห้างดังที่อยู่แถวมุมถนนสีลม
พี่กิ๊บเป็นคนไม่แต่งตัวอารายมากมาย ทองเพชรอารายก็ไม่มี สะพายเป้ธรรมดาๆๆ

เดินไปเดินมาก็มีผู้ชายคนนึงพูดจาดีบอกว่ามาจากบริษัทชื่อดังมาทำสำรวจ
ขอให้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์
ด้วยความที่พี่กิ๊บเค้าเคยเป็นคนทำแบบนี้เค้าเลยสงสาร
เพราะรู้ว่าคนส่วนมากจะรำคาญและไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม

พี่เค้าก็เลยตอบให้

....... แล้ว...

อยู่ดีๆๆๆ ก็มืนๆๆๆ ไม่รู้ตัวเลยค่ะ แต่ก็มืนๆๆๆว่าเค้าพาไปสยาม
คือประมาณว่าพอลางๆๆแต่ไม่มีสติ
ไม่รู้เรื่องอารายน่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไอ้โจรคนนี้มันคงรู้สึกผิดอยู่หน่อย

มันก็เลยพาพี่เค้ามาส่งแถวๆๆบ้านค่ะ
หรือว่ามันอาจจะใช้ช่วงที่เรามึนๆๆทำเป็นว่ามันเป็นคนดีเห็นเราเป็นลมเลยพามาส่งบ้านค่ะ

จากนั้น พอพี่กิ๊บรู้ตัวอีกทีก็...... เงิน โน้ตบุก บัตรเครดิต....... all gone ประมาณ 100000ได้ค่ะ

แต่ที่น่ากลัวและยังเป็นที่สงสัยของหลายๆๆคนรวมทั้งตำรวจและแพทย์ คือ เค้าใช้ยาอาราย
เพราะพี่กิ๊บเค้าไม่ได้กินน้ำหรืออาหารของโจร คนนี้เลยนะคะ ตำรวจก็บอกว่า
เจอมาหลายรายแล้วแบบนี้
ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร แค่ป้ายที่ตัวเราไม่มีสีไม่มีกลิ่น
มันจาลงไปกระแสเลือด
หมอก็ตรวจไม่พบค่ะว่าเป็นยาอะไร แต่ทันทีที่ป้ายเราจะไม่มีสติเลยค่ะ

มึนๆๆแบบว่าเค้าให้บอกรหัสเอทีเอ็มก็บอก
ไม่ถอดของมีค่าให้ก็ถอดโดยไม่รู้ตัวน่ะค่ะ

ที่แย่คือ จากเวลาที่โดนป้ายยาประมาณ 6โมงเย็นของวันอาทิตย์

...พอได้กลับมาบ้านดึกวันนั้น
อาเจียนตลอด.......จนถึงเย็นวันจันทร์ไม่หยุดอาเจียน ตลอดเวลา นอนโรงพยาบาลไป2 วัน คือว่า

ยามันแรงมากกกกกกกก


คำเตือน ในการไม่ตกเป็นเป้าของโจร

- อย่าเอาโน้ตบุกขึ้นมานั่งทำงาน ตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร

- มือถือ ถ้ารุ่นหรูมาก เวลาโทรเอามือปิดๆๆหน่อย

- ทอง เพชร เอาเล็กๆๆก็พอ

แบบว่าโจรเห็นแล้วมันคิดว่าไม่คุ้มกับเสี่ยงติดคุก

- กระเป๋าสตางค์ พยายาม ไม่ต้องเอาบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม เดบิต แพตตินั่มอารายต่างๆๆนานา
เอามาไว้เรียงกัน ในกระเป๋าตังค์ใบเดียว เวลาซื้อของ
พอเราเปิดกระเป๋าตังค์
โจรที่เค้าเฝ้าดูอยู่ก็รู้แล้วว่า คนนี้มีบัตรเยอะ.... เสร็จแน่

- อย่าไปไหนคนเดียว ไปเป็น....โขลงๆๆๆเลยค่ะ

- อย่าหยุดเมื่อมีการให้ตอบแบบสอบถาม
ไม่ว่าจะอยากได้ของแถมมากแค่ไหนก็ตาม
หรือว่าสงสารเค้ามากแค่ไหนก็ตาม

- ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัว พยายาม จำทุกอย่าง รายละเอียด สถานที่ หน้าตา เสื้อ ทะเบียนรถ
ทุกอย่างของคนร้าย จะช่วยให้ตามเจอได้มากขึ้นค่ะ

ถ้าเจอแล้วก็ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องคดีน่ะ ......
ไอ้โจรมาเข้าซังเตอยู่แล้ว เอาให้หนัก



อาจจะเป็นเรื่องที่เพื่อนๆๆเคยรับรู้มาเยอะ
แต่ถ้าไม่เกิดกับตัวหรือคนสนิท จะไม่ตระหนักเลยค่ะ



หวังว่าคงเป็นประโยชน์น้า
>
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 14

โพสต์

Fw: สำหรับผู้ใช้ ATM

Date: Fri, 15 Sep 2006 02:37:30 -0800



มีชายคนหนึ่งได้ไปจอดรถเพื่อที่จะกดเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ประมาณ 6 โมงเย็น
ธนาคารปิดแล้ว ขณะนั้นเขากดมา 5,000 บาทขั้นตอนต่างๆเรียบร้อย
จนกระทั่งขั้นตอนรอรับเงินไฟเกิดดับ
บัตรเอทีเอ็มตีคืนมาแต่เงินไม่ออกชายคนนั้นก็รอสักครู่ไฟก็ยังไม่มา

เขาจึงขับรถไปตู้อื่นที่ไฟไม่ดับปรากฏว่ายอดเงินได้ถูกตัดไปแล้ว วันรุ่งขึ้น
ชายคนนี้จึงมาทำเรื่องแจ้งธนาคารๆได้ตรวจสอบกับทางธนาคาร
และบอกว่าเงินได้ถูกจ่ายออกมาแล้วแน่นอน ทางธนาคารไม่สามารถรับผิดชอบได้
แต่ถ้าเงินไม่ออกมาธนาคารก็จะคืนเงินให้ เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เงิน
ทางธนาคารก็บอกว่าช่วยไม่ได้


ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ให้โทรเช็คยอดกับศูนย์บัตรเอทีเอ็มถ้ายอดเงินถูกตัดไปแล้ว
ต้องรอบริเวณนั้นเลยจนกว่าไฟจะมาพอไฟมาเงินจะออกมา
เงินของเขาก็คงมีคนที่มากดคนแรกหลังจากไฟมาได้เอาไปแล้ว
ธนาคารแจ้งเพิ่มเติมว่าถ้าไฟดับจังหวะอื่นที่ไม่ใช่ช่วงรอรับเงิน
เงินจะไม่ถูกตัด ยอดเงินจะคงเดิม
หากยอดเงินถูกตัดธนาคารจะคืนเงินให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเตือนใจว่ากดเอทีเอ็มแล้วถ้าไม่ได้เงินอย่ารีบออกจากบริเวณนั้นโทรเช็ค ธนาคารให้ได้รับคำตอบแน่นอนจึงไป
ถ้าเงินถูกตัดแล้วต้องรอจนไฟมาอย่างเดียว

ช่วยส่งต่อยังเพื่อนของท่านด้วยเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว

มีคำถามตามมาว่าถ้าไฟมันดับนานจะทำอย่างไร

ถ้าดับข้ามคืนจะทำอย่างไรมิต้องนอนรอตรงนั้นหรืออย่างไร

ก่อนกดเอทีเอ็มก็ภาวนาอย่าให้ไฟดับช่วงนั้นเลย.....
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 15

โพสต์

FW: ไวรัส โทรศัพท์มือถือ

Date: Wed, 13 Sep 2006 22:58:41 -0800



ได้รับข่าวมาเมื่อเช้าวันนี้เองว่า ให้ระวังการระบาดของไวรัสมือถือ  หรือไวรัสโทรศัพท์เคลื่อนที่

ถ้ามีเสียงกริ่งดังเข้าเหมือนมีคนโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของเพื่อนๆ  
ให้ดูที่หน้าจอว่า เป็นเลขหมาย หรือ ผู้ใดโทรมาก่อนที่จะรับสาย

ถ้าขึ้นตัวอักษรเพียงสามหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น คำว่า R C A แล้วอย่ารับสายให้กดดับไปเลย  
เพราะถ้ารับเมื่อใดเครื่องจะรับและอัฟเดทไวรัสดังกล่าวเข้าสู่ระบบของตัวซิมและ ตัวเครื่อง
ส่งผลให้ซิมการ์ดเสียหายและเครื่องน็อค ทำให้ไม่สามารถรับซิมการ์ดใด ๆ ได้อีก  

ถ้าโทรศัพท์มือถือของคุณได้รับสัญญาณเรียกเข้า  และปรากฏข้อความ A C E-? ( สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบ Digital (ดิจิตัล)  ที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์เรียกเข้า)

ห้ามรับสาย  ให้กด ยกเลิกสายทันที ถ้ารับสายโทรศัพท์จะติดไวรัส และไวรัสจะลบข้อมูล
ของ IMIE และ IMSI ทั้งในเครื่องและใน SIM Card(ซิมการ์ด)

ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อกับระบบเครือข่ายได้  
จะต้องซื้อเครื่องใหม่เท่านั้นข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจาก Motorola(โมโตโรล่า) และ Nokia (โนเกีย)

ขณะนี้มีโทรศัพท์ในอเมริกาและยุโรป กว่า 3 ล้านเครื่องติดไวรัสนี้แล้ว  

อ่านข่าวนี้ได้จาก เว็บไซด์ CNN Web Site ( ฝากส่งข่าวนี้ให้เพื่อนๆด้วย)
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ภัยร้ายมันฝรั่งทอด
มันฝรั่งทอด คุกกี้กรอบๆ หรือขนมสำเร็จรูปในถุงสวยๆ ทั้งหลาย
ไม่ได้ทำให้อ้วนหากออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน
แต่อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ทำให้มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็งมากขึ้น...
ที่มา : Are You Getting Enough Fat?"
By Colleen Pierre, R.D. Reader's Digest, 2001



ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้
นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน
เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้
ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...
ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001

ผู้หญิงชอบดื่มพึงระวัง
คุณผู้หญิงที่ชอบดื่มพึงระวังเพราะร่างกายคุณ
จะซึมซับแอลกอออล์ได้เร็วกว่าผู้ชาย ( เมาเร็วกว่า)
แล้วคุณยังมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม
ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 50%
แถมยังกระดูกเปราะกว่ากันมาก
เพราะเหล้าจะเข้าไปทำลายเนื้อกระดูก(bone mass) ของคุณ...
ที่มา : Rethinking Drinking" Reader's Digest, December 2001

นั่งรถตรงไหนปลอดภัยที่สุด
นั่งรถเก๋งที่เบาะหลังตรงกลางปลอดภัยที่สุด
รองลงมาคือ ที่นั่งด้านหลังทางซ้าย (หลังคนนั่งข้างคนขับ)
เพราะตามสถิติอุบัติเหตุจะเกิดทางด้านหน้า และ ด้านคนขับมากกว่า
และหากมีคนนั่งรถไปกับคุณด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
จะลด อันตรายจากอุบัติเหตุการชนด้านหน้ารถลงไปด้วย...
ที่มา : The Seattle Times, November 11, 2001
(ข้อมูลจาก http://www.thaihealth.or.th/th/index_th.php )


ทานกะหล่ำปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen)
ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ได้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม

จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก
จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ


ถั่วงอกดิบมีโทษครับ
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก
มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ
ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย
ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม
จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ


วิธีป้องกันตะคริว
ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่
การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...
ที่มา : Health& Fitness Column, Detroit News,
August 22, 2001


อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
จะใช้อินซูลินได้น้อยลง
คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ...
ที่มา : The Seattle Times, July 22, 2001


ตรวจฉี่ด้วยตัวเอง
ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน
แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ...
ที่มา : Health & Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001


เนยแท้ vs เนยเทียม
เนยแท้ๆ ที่ทำมาจากนม อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายกว่าเนยเทียม
หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก
แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป
ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 17

โพสต์

วิธีชะลอความแก่ 7 ประการ
เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง
แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ "แก่ก่อนวัย"
ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ"
เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๑.ต้องไม่อยากแก่...
ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้
และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว..
คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ
หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี
๓.ลดความเครียด..
เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น
ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ
๔.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ..
ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี
๕.กินอาหารต้านชรา..
พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย
เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
๖.นอนหลับเพียงพอ..
เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย
ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด
๗.ความรัก..
ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย
ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 18

โพสต์

โทษของน้ำต้มเดือดหลายๆ ครั้ง
น้ำประปามีแร่ธาตุหลายชนิด
เมื่อต้มเดือดแล้วเดือดอีกหลายๆ ครั้ง
น้ำจำนวนมากจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือ
จึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก
และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ
ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำ
จะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์
ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย
และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย
จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำ
และอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกาย
ในการกำจัดขับถ่ายออกมา
จึงไม่ควรดื่มน้ำที่ ต้มเดือดแล้วหลาย ๆ ครั้ง ครับ


อาหารต้านมะเร็ง 5 ประการเพื่อการป้องกัน
1. รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก
เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ ฯลฯ
เพื่อป้องกัน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย
กระเพาะอาหาร และอวัยวะระบบทางเดินหายใจ
2. รับประทานอาหารที่มีกากมาก
เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. รับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน และไวตามินเอสูง
เช่น ผัก ผลไม้สีเขียว-เหลือง
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร กล่องเสียง และปอดำ
4. รับประทานอาหารที่มีไวตามินซีสูงเช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ
เพื่อป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร
5. ควบคุมน้ำหนักตัว..โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง
เช่น มดลูก ถุงน้ำดี เต้านม และลำไส้ใหญ่

ผลกระทบของการอดนอน
งานวิจัยเชิงทดลอง โดยอาสาสมัครหนุ่มสาว
ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือด
พบว่า มีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก
ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน
นักวิจัยยังพบว่าการอดนอนเป็นสาเหตุของโรคอ้วน
โดยเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเร่งการเติบโต
ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ
และควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
การอดนอนทำให้ฮอร์โมนนี้หลั่งน้อยลง
ร่ายกายรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน
ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาท
ว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้าเท่าใด
ตามความต้องการอาหาร


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ฮาๆๆขอบคุณเช่นกันค่ะ
พักนี้เหนื่อยมากๆ ไปขี่จักรยานทุกๆคืน
เวลาของแต่ละวันเลยหมดไป
ขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาทักทายนะคะ
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 20

โพสต์

^O-O^



    ขอบคุณครับพี่สุเกียง
ผมเป็นแฟนกระทู้พี่ครับ
moonkiss
Verified User
โพสต์: 656
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ดีๆน่าอ่านทั้งนั้นเลยครับ
เว้นอันนี้ผมขอค้านครับ...

"ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้
นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน
เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้
ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...
ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001"

เค้าหมายถึงยาตัวไหนน้อ คิดไม่ออกจริงๆ สงสัยแปลมาไม่หมดครับ
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ขอบคุณครับสำหรับข้อความดีๆ  :P
Impossible is Nothing
moonkiss
Verified User
โพสต์: 656
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 23

โพสต์

เค้าเอายาคุมกำเนิดมาใช้ป้องกันภาวะกระดูกพรุนด้วยซำไปครับ นอกจากนั้นก็ใช้ลดอาการผิดปกติต่างๆช่วงหมดและหลังหมดประจำเดือน
กลุ่มหลักๆก็เป็น estrogen และ derivatives ของมัน
แต่มันมีผลข้างเคียงเรื่องอื่นครับ เช่นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม ปัจจุบันเลยมีการพัฒนายาใหม่ๆมากมายเพื่อป้องกัน-รักษาอาการต่างๆอันเกิดจากความเสื่อมทั้งหลาย
ผู้หญิงนี่แก่ง่ายนะครับ ...ก็ยาก
อิอิ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ตามมาอ่านครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 25

โพสต์

*สวัสดีค่ะ คุณ Eto Demerzel ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ได้พบกันอีก ขอให้รวยๆนะคะ*

** ขอบคุณ ค่ะ คุณ ดร.โหน่ง ติดตามอ่านความคิดเห็นคุณหมอเสมอค่ะ **

*** สวัสดีค่ะ คุณหมอ moonkiss ส่วนมากยาคุมกำเนิด จะฉีดหรือกิน ได้ยินบางคนบ่นว่าทำให้อ้วนง่าย
ส่วนบทความที่เขานำมาลง ก็คงเป็นมุมนึงของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
จริงอย่างที่คุณหมอ moonkiss บอกมา เขาน่าจะบอกชื่อยามาด้วยก็ดีค่ะ สงสารผู้หญิงที่ต้องกินยาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ยาชนิดใดอันตราย ก็ไม่อาจรู้ได้ ผลข้างเคียงจึงตามมา ***

****สวัสดีค่ะ CopyWriter ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ สบายดีนะคะ เห็นตัวจริงแล้ว หล่อและน่ารักมากค่ะ ****
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 26

โพสต์

:man:  ขอบคุณ พี่สุเกียงครับ

เรื่องหมอนรองกระดูกคอ  อ่านแล้วเสียวเลยครับ

ตอนทำงาน ที่ระยอง   ไป-กลับ กรุงเทพ ทุกอาทิตย์
ส่วนใหญ่ ไม่นั่งรถบัสบริษัท ก็นั่งรถทัวร์  

ถ้าไม่มีเพื่อนคุยด้วย ก็นั่งหลับแทบทุกครั้งครับ
ตื่นมาปวดคอประจำ   :cry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 27

โพสต์

8) พี่สุเกียง ผมขอโทษด้วย ขออภิปรายเรื่องขี้ ที่พี่โพสมาให้อ่าน
    พอดีฟังรายการวิทยุรายการหนึ่ง

    ดีเจ เขาว่าความสุขหรือทุกข์ของคนเรานั้น
   
    อยู่ด้านในหรือด้านนอกของประตูห้องน้ำบานเดียวเท่านั้นเอง

    เพราะตอนนั้นเราปวดท้องขี้จนจะทนไม่ไหวแล้ว

    เหม็นไปนิดนึงครับ
   
    แต่มานั่งคิดๆดูก็จริงอย่างเขาว่านะครับ

    คนไทยจึงเรียกห้องน้ำว่า สุขา ได้อย่างมีความหมายจริงๆ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
กระทิงแดง
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ขอบคุณที่หากระทู้ดีๆ มาให้อ่านครับ
:lol:  :lol:  :lol:
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

***...Good article ...คู่แข่งที่แท้จริง...***

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ชอบเรื่อง ณ วัดบ้านไร่ เป็นพิเศษครับ
เรื่องในห้องสุขา ยอมรับว่าผู้เล่าเรื่อง จินตนาการล้ำลึกมาก
ขอบคุณมากครับ ...  :D
"Winners never quit, and quitters never win."
โพสต์โพสต์