สังคมที่นับถือตัวบุคคล..
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
สังคมที่นับถือตัวบุคคล..
โพสต์ที่ 2
คงเพราะทุกวันนี้ระบบมันยังพึ่งไม่ได้มังครับ ก็เลยต้องหวังพึ่งตัวบุคคลไปก่อน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สังคมที่นับถือตัวบุคคล..
โพสต์ที่ 4
ทุกอย่างเพื่อการเรียนรู้เพื่อการอยู่รอด
1. พ่อแม่
2. พี่น้อง
3. ตัวหนังสือ
4. บุคคลที่นับถือ
5. ประสบการณ์ของตัวเอง
6. ประสบการณ์ของคนอื่น ทั้งนับถือและไม่นับถือ
7. สรรพสิ่ง เช่น ต้นไม้ในกระถาง โตช้า กว่าต้นไม้ในป่า เป็นต้น
8. จิตใต้สำนึกของตัวเอง gut feeling
แล้วไงหละ
ก็เรียนรู้ไง ไม่เห็นมีไร
1. พ่อแม่
2. พี่น้อง
3. ตัวหนังสือ
4. บุคคลที่นับถือ
5. ประสบการณ์ของตัวเอง
6. ประสบการณ์ของคนอื่น ทั้งนับถือและไม่นับถือ
7. สรรพสิ่ง เช่น ต้นไม้ในกระถาง โตช้า กว่าต้นไม้ในป่า เป็นต้น
8. จิตใต้สำนึกของตัวเอง gut feeling
แล้วไงหละ
ก็เรียนรู้ไง ไม่เห็นมีไร
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
สังคมที่นับถือตัวบุคคล..
โพสต์ที่ 5
ใช่ครับ.......คงเพราะทุกวันนี้ระบบมันยังพึ่งไม่ได้มังครับ ก็เลยต้องหวังพึ่งตัวบุคคลไปก่อน
การที่สังคมนับถืออะไรก็สามารถบอกได้ว่าสังคมนั้นอยู่ในช่วงไหนของวิวัฒนาการ
สมัยด้อยพัฒนาสุดๆก็โน่นเลย
1.นับถือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ฟ้าร้องก็กลัว ฝนตกหนักก็กลัว แผ่นดินไหวก็กลัว ก็กราบไหว้กันไป นับถือกันไป
2.ต่อมา ก็นับถือหมอผีประจำเผ่า ให้กินตับคนเพื่อความแข็งแรงก็ทำ ให้เต้นระบำรอบกองไฟก็ทำกระดกก้นขึ้นๆลงๆก็ทำ ให้บูชาก้อนหินก็ทำ ให้ทำสารพัดก็ทำ
3. ต่อมาเริ่มมีความรู้มากขึ้นก็ยกระดับขึ้นเป็นนับถือเทพเจ้า เทพแห่งฟ้าแลบ เทพแห่งสงคราม เทพแห่งอพอลโล่ พระพิรุณ พระแม่โพสพ
4. ต่อมามีความรู้มากขึ้นอีก.......................ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มีรุ่งเรือง มีเสื่อม มีการเรียนรู้ไม่จบสิ้น............
100. จนถึงปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ได้รับการยอมรับมากขึ้น ศาสตร์ต่างๆด้านอื่นๆก็ได้รับการพัฒนามากขึ้น ศาสนาก็ถือกำเนิดขึ้น เริ่มมีการนับถือ คน มากขึ้น ไม่ใช่นับถือเฉพาะ เทพ อย่างเดียว เพราะรู้แล้วว่า เทพ ไม่มีอยู่จริง การนับถือสิ่งต่างๆในอดีตก็เริ่มคลายลง เดี๋ยวนี้คนไม่นับถือฟ้าร้องแล้ว ไม่นับถือเทพอพอลโล่แล้ว เพราะเจริญมากขึ้นแล้ว เริ่มนับถือในศาสตร์ที่พิสูจน์ได้จริง
แต่เนื่องจากคนมีมากมายและเป็นบัวสี่เหล่าตามที่พระพุทธเจ้าว่าไว้ บางคนก็ยังนับถือในสิ่งเก่าๆไม่มีเหตุผลอยู่ซึ่งสามารถพบได้บ่อยๆในปัจจุบัน
สังคมที่นับถือบุคคลหากมองในแง่มานุษยวิทยาก็ถือว่าประสบผลสำเร็จสูงสุด แต่หากมองในแง่สังคมวิทยาหรือการบริหารจัดการก็ยังถือว่าไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่
200. ในอนาคตคนจะมีแนวโน้มที่จะนับถือศาสตร์ที่พิสูจน์ได้จริง ศาสตร์ว่าไงก็ว่าตามนั้น ไม่ได้ติดอยู่แค่ตัวระบบหรือตัวบุคคล และสิ่งที่เป็นความเชื่อหรือพิสูจน์ไม่ได้จะถูกปฏิเสธออกทีละนิดทีละหน่อยและไม่ได้รับเลือกจากคนตามกฎของ ชาร์ล ดาร์วิน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด