21oct+^O-O^ = ขำ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รูปภาพ


Alfred Nobel
เกิด: วันที่ 21 ตลาคม ค.ศ. 1833
กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) ประเทศสวีเดน (Sweden)
เสียชีวิต: วันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1896
เมืองซานโรโม (San Romo) ประเทศอิตาลี (ltaly)
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโนเบล

             
          สาเหตุที่ท่านก่อตั้งมูลนิธิขึ้น เนื่องจากคำขอร้องจากเพื่อนของท่านคนหนึ่ง ที่ได้รู้จักในระหว่างที่โนเบลได้สร้างโรงงานผลิตอาวุธขึ้นในกรุงปารีส  ท่านได้ประกาศรับสมัครเลขานุการขึ้นและ เบอร์ธา กินสกี หญิงสาวชาวออสเตรียนได้ส่งจดหมายมาสมัครและได้งานนี้ได้ ซึ่งเธอผู้นี้เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดมูลนิธิโนเบลขึ้น กินสกีเป็นผู้หญิงที่ทำงานและมีอัธยาศัยดี ทำให้เข้ากับโนเบลได้เป็นอย่างดี แม้ว่าในขณะนั้นโนเบลมีอายุมากถึง 43 ปี แล้วก็ตาม ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันดีทั้งในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง และในฐานะเพื่อน ต่อมากินสกีได้แต่งงานไปกับท่านเคานท์สุตเนอร์  และลาออกจากงาน แต่ทั้งสองก็ยังคบหากันในฐานะเพื่อนและติดต่อกันอยู่ตลอด กินสกีมักจะขอร้องให้โนเบลสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติบ้าง แทนที่จะสร้างอาวุธเพื่อการทำล้างลายแต่เพียงอย่างเดียว กินสกีได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งเกี่ยวกับพิษภัยของสงคราม และอันตรายจากการสะสมอาวุธสงคราม หนังสือเล่มนี้ของกินสกีมีเพียงโนเบลและเพื่อนๆที่รักที่สุดของโนเบลเท่านั้นที่ได้อ่าน
                                                                           
รูปภาพ



         เมื่อโนเบลเสียชีวิตในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1896 เขาได้ทำพินัยกรรมมอบเงินจำนวน 31 ล้านโครน (US$ 4 ล้าน) ตั้งเป็นมูลนิธิโนเบล โดยมูลนิธินี้จะสนับสนุน และมอบรางวัลให้กับนักวิทยาศาสตร์และบุคคลที่มีผลงานดีเด่นในสาขาต่างๆ 5 สาขา ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี แพทย์ วรรณกรรม และสาขาสันติภาพ ซึ่ง 3 รางวัลเขามอบให้กับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีผลงานดีเด่น สาขาวรรณกรรมนั้นเกิดขึ้นจากนิสัยส่วนตัวของโนเบล ที่เป็นคนรักการอ่านและเขียน โดยเฉพาะในช่วงที่เขาถูกเกลียดชังอย่างมาก เขาได้เขียนพรรณนาความลำบากในชีวิตของเขาลงในหนังสือ ส่วนรางวัลสันติภาพเขาได้ทำตามคำร้องขอของกินสกีเพื่อนรักของเขา รางวัลโนเบลถือว่าเป็นรางวัลที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดรางวัลหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
         
รูปภาพ

        I intend to leave after my death a large fund for the promotion of the peace idea, but I am skeptical as to its results.

                                                                                                     Alfred Nobel



     ทุกวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี  นับเป็นวันสำคัญยิ่งของบุคคลในวงวิชาการครับ เพราะมีการจัดพิธีอันทรงเกียรติ ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลเข้ารับพระราชทานรางวัลจากกษัตริย์ คาร์ล กุสตาฟที่ 16 พร้อมกับงานเลี้ยงอาหารค่ำอันแสนคึกคักที่สวีเดน ซึ่งมีพระราชวงศ์สวีเดน คนดัง และแขกผู้มีเกียรตินับพันๆคน......

    เข้าร่วมในแต่ละปีระหว่างที่พิธีอันทรงเกียรติจะมีขึ้นในวันนี้  บรรดานักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการผู้ทรงเกียรติก็เริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่กรุงสต็อกโฮล์มเพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมพิธีรับรางวัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสุดยอดนักวิชาการแห่งปีต่างมีกิจกรรมอันหลากหลายก่อนการรับรางวัล ไม่ว่าจะเป็นการร่วมแถลงข่าวเปิดเผยความรู้สึก ตอบคำถามต่างๆ ของผู้สื่อข่าว และเซ็นต์ชื่อลงบนเก้าอี้เพื่อเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์โนเบลอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมานาน...............


                         

         แต่ระหว่างสัปดาห์แห่งการประกาศผลรางวัลโนเบล


         อีกฟากหนึ่งที่ฮาร์วาร์ด........
รูปภาพ

    ก็มีการมอบสุดยอดรางวัล Ig (nore) nobel  รางวัลวิทยาศาสตร์สติเฟื่องครับ งานวิจัยฮาๆ สารพัดสาขาจัดขึ้นโดยต้องการมอบรางวัลให้แก่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ ไม่สามารถหรือไม่น่าจะลอกเลียนแบบได้

           
         เช่นในปีที่แล้วครับ (7 ต.ค.) คณะกรรมการพิจารณางานวิจัยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ประจำปี (Annuals of Improbable Research) ได้จัดพิธีประกาศผลรางวัล อิก โนเบล 2005 ณ โรงละครแซนเดอร์ ในฮาร์วาร์ด โดยมีเจ้าของรางวัลโนเบล (ของจริง) ปีก่อน 4 ท่านได้ออกมาประกาศรางวัลในสาขาต่างๆ ท่ามกลางผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีราว 1,200 คน ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลอิก โนเบลจาก 10 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ฮังการี ญี่ปุ่น นิว ซีแลนด์ ไนจีเรีย และสหรัฐอเมริกา


อิก โนเบล สาขาเคมีได้แก่

               มนุษย์สามารถว่ายน้ำในน้ำเชื่อมได้เร็วกว่าในน้ำธรรมดา

             เป็นของเอ็ดวาร์ด คัซเลอร์ (Edward Cussler) และไบรอัน เกตเทลฟิงเกอร์ (Brian Gettelfinger) จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา (University of Minnesota) สหรัฐฯ

           ทั้งคู่พยายามหาคำตอบว่า มนุษย์สามารถว่ายน้ำในน้ำเชื่อมได้เร็วกว่าในน้ำธรรมดา ซึ่งสมมติฐานนี้ทำให้ เกตเทลฟิงเกอร์ ลุกขึ้นมาคิดค้นวิธีเพิ่มความเร็วในการว่ายน้ำ ขณะซ้อมว่ายน้ำเพื่อเข้าแข่งโอลิมปิก

          ทั้งคู่เตรียมการทดลองขึ้นโดยใช้สระว่ายน้ำขนาด 25 หลาจำนวน 2 สระในมหาวิทยาลัย (ซึ่งต้องทำเรื่องขออนุญาตนู่น นี่นั่นถึง 22 ขั้นตอน) จากนั้นพวกเขาก็ต้องการน้ำเชื่อมจากข้าวโพดผสมกับน้ำจำนวน 20 คันรถเพื่อนำมาเติมลงไปในสระ แต่ทางเทศบาลเมืองก็แจ้งว่าพวกเขาจะต้องจ่าย 20,000 เหรียญ ถ้าหากปล่อยน้ำเชื่อมจำนวนมากมายขนาดนั้นเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย...ทำให้แผนการทดลองของทั้ง 2 ต้องมีอันพับไป


         แต่ความพยายามของทั้งคู่ยังไม่จบลงง่ายๆ พวกเขากวนแป้งมัน 310 กิโลกรัมจนเหนียวหนึบลงในสระว่ายน้ำ
                 พอเช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นมาดู มันแหวะ ทั้งสระเต็มเหมือนไปด้วยน้ำมูกใสๆ
คัซเลอร์เล่าถึงความพยายามสร้างการทดลองนี้ขึ้นมา


          แม้สระว่ายน้ำที่มีแป้งมันเหนียวๆ จะหน้าตาไม่น่าดู แต่ก็หาทำให้ความพยายามของอาสาสมัครทั้ง 16 รายย่อท้อไม่ อาสาสมัครทุกคนจะต้องลงว่ายน้ำใน 2 สระเพื่อเปรียบเทียบ โดยหลังจากว่ายในสระน้ำเหนียวๆ แล้ว พวกเขาจะต้องไปอาบน้ำทำความสะอาดตัว และลงว่ายต่อในสระน้ำธรรมดา


         จากการจับเวลาและเปรียบเทียบอาสาสมัครทุกคน คัซเลอร์พบว่า ของเหลวที่มีความหนาแน่นกว่าช่วยเพิ่มพลังในการจ้วงว่ายแต่ละช่วงแขน ซึ่งทำให้แรงในการลากลำตัวพุ่งหน้าในน้ำไปข้างหน้าเพิ่มมากขึ้น


           การทดลองช่างสนุกสนาน แต่ให้ตายเหอะ ท้ายที่สุด มันก็โค_ร..ไร้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง คัซเลอร์กล่าวภายหลังจากได้รับรางวัล


สาขาพลศาสตร์ของไหลได้แก่
                 
                  แรงตดปู้ดของเพนกวินไกลกว่าของมนุษย์

       
รูปภาพ


เจ้าของทฤษฎีวิเคราะห์แรงปู้ดของเพนกวิน (penguin poop propulsion)
คือ  เบนโน เมเยอร์-รอคฮาว (Benno Meyer-Rochow) จากมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งเบรเมน (International University of Bremen) เยอรมนี และยอซเซฟ กัลป์ (Jozsef Gal) จากมหาวิทยาลัยโลแรนด์ ออตวอส (Lorand Eötvös University) ในฮังการี
         

        เมื่อธรรมชาติเรียกร้องเจ้าแพนกวินแห่งชายฝั่งอเดลี (Adélie) ในแถบแอนตาร์กติกาก็จะทำท่าอึกๆ อักๆ เดินต้วมเตี้ยมๆ ออกจากรัง เพื่อไปปลดทุกข์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ซึ่งเจ้าของรางวัลอิก โนเบลได้สังเกตว่า ขณะถ่ายทุกข์เจ้าเพนกวินจะกระดกก้นขึ้น ยกหางและปล่อยสิ่งของไม่พึงประสงค์ออกมา โดยแรงปู้ด...ดดด ที่ปลดปล่อยจากปลายทวารหนักของเพนกวินนั้น มีแรงระเบิดทำล้ายร้างไกลถึง 40 เซนติเมตร


          อย่างไรก็ดี ถ้าเปรียบเทียบกับสัดส่วนความสูงและลักษณะทางอนาโตมีของเพนกวินตัวเตี้ยๆ กับพลังลมปราณทางทวารหนักที่ปล่อยออกมาทั้งในแง่ความแรงและความเหนียว (ของสสารที่ตามออกมาด้วย) ทำให้นักวิจัยพบว่า แรงดันภายในช่องทวารของเพนกวินอยู่ที่ประมาณ 10-60 กิโลปาสคาล (หรือแรงประมาณ 1.45 - 8.7 ปอนด์ต่อ 1 ตารางนิ้ว) นับได้ว่าพลังลมปู้ด...ดดด ของเพนกวินนั้นมีกำลังแรงกว่ากำลังปลดปล่อยสูงสุดของมนุษย์ขณะถ่ายทุกข์เช่นกัน


           แต่ถ้าใครคิดดูเหมือนว่าจะเป็นผลงานที่ไม่มีสาระทางวิทยาศาสตร์ เมเยอร์-รอคฮาวกล่าวอย่างมั่นใจว่า แน่นอนที่น้อยคนจะรู้ว่ามีประโยชน์อย่างไร ซึ่งถ้าสิ่งที่พวกเขาอธิบายได้รับความสนใจจากผู้ดูแลสวนสัตว์ นักสัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ วิศวกร นักสรีรศาสตร์มนุษย์ คนเหล่านี้ก็สามารถนำข้อมูลไปตรวจสอบการสภาพของร่างกายว่าสมบูรณ์หรือไม่ด้วยการดูแรงปลดปล่อยของเหลวผ่านรูทวารต่างๆ นับเป็นสิ่งธรรมดาแต่สำคัญ



สาขาเศรษฐศาสตร์ ได้แก่

        นาฬิกาหนีคนขี้เซา
 
         เป็นของกาวรี แนนดา จากสถาบันเทคโนโลยีเมสซาซูเซ็ตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT)
           
              เขาได้ประดิษฐ์ คล็อกี้ (Clocky) นาฬิกามีล้อสำหรับผู้ที่นอนขี้เซาในตอนเช้า หากตั้งปลุกแล้ว เจ้าของขี้เซาเกิดกดปุ่ม สนูซ (snooze) ขอเวลานอนอีก 5 นาทีแล้วค่อยปลุกต่อ นาฬิกาตัวนี้ก็จะหนีไปซ่อน แน่อนนว่าพอร้องเตือนในอีก 5 นาทีถัดไป เจ้าของต้องลุกขึ้นมาหา รับรองตอนนั้นต้องตื่นแล้วแหง๋ และถ้ายังหานาฬิกาไม่เจอ เสียปลุกมันก็ดังสนั่นไหว ไม่ตื่นไม่ได้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการตัดสินรางวัลเห็นว่าแม้จะยังเป็นแค่แนวคิด แต่นี่ก็ช่วยให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม...จึงสมควรได้รับในสาขาเศรษฐศาสตร์ไป

สาขาฟิสิกส์ ยกให้กับการทดลอง

             หยดกากน้ำมันดิน (pitch drops)

          ที่ต้องใช้เวลาทดลองมาหลายสิบปี โดยรางวัลนี้เป็นของโทมัส พาร์เนลล์ (Thomas Parnell) ที่เคยทำการทดลองไว้ที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (University of Queensland) เมื่อปี 1927 และจอห์น เมนสโตน (John Mainstone) ก็มาช่วยพัฒนาต่อ

     
         ทั้งนี้ กากน้ำมันดินที่เหนียวๆ ซึ่งตามทฤษฎีของเหลวนั้น แต่ดูเหมือนว่ามีพฤติกรรมเหมือนของแข็ง เพื่อแสดงให้เห็นว่ากากน้ำมันดินเป็นของเหลว พาร์เนลได้ละลายกากน้ำมันดินแล้วนำไปใส่กรวยที่เย็นตัว จากนั้นเขาก็รอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ กระทั่ง 8 ปีผ่านไปกากน้ำมันดินหยดแรกก็หลุดออกมาจากกรวย ส่วนหยดที่ 2 ตามมาในอีก 9 ปีถัดจากนั้น และในปี 2000 ก็เพิ่งจะได้เห็นหยดที่ 8 ขณะที่เมนสโตนก็รับช่วงต่อรอหยดที่ 9


สาขาแพทยศาสตร์
         
                  อัณฑะเทียมของสุนัข
          เป็นของ เกรก มิลเลอร์ (Gregg Miller) จากมิสซูรี ที่สามารถประดิษฐ์อัณฑะเทียมของสุนัขเพื่อใช้แทนของจริง อีกทั้งอัณฑะเทียมดังกล่าวมีให้เลือกถึง 3 ขนาด และมีความฟิตถึง 3 ขั้น


สาขาผู้ปรารถนาสันติภาพเป็นอย่างยิ่ง

           เป็นของ 2 นักวิจัยชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (Newcastle University) ที่เฝ้าจับตาดูกระแสไฟฟ้าอันเกิดจากกิจกรรมในสมองของแมลงจำพวกตั๊กแตนตัวหนึ่งขณะกำลังชมบางตอนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ส...ก็อยากรู้ว่าตั๊กแตนจะเครียดแค่ไหน หากดูหนังสงคราม


สาขาชีววิทยา

           ตกเป็นของกลุ่มนักวิจัยจำนวนมากมายและอีกหลายสถาบันที่พยายามดมกลิ่มและจัดทำรายชื่อกลิ่นของกบ 131 สายพันธุ์ ขณะที่กบเหล่านี้อยู่ในภาวะตึงเครียด...กบจะมีกลิ่นอย่างไรบ้าง


สาขาวรรณกรรม

           เป็นของกลุ่มชาวไนจีเรียเจ้าของอีเมล์ลูกโซ่ ที่ส่งอีเมล์ถึงผู้ใช้นับล้านๆ คนทั่วโลก ซึ่งถ้าใครได้รับอีเมล์ที่มีใจความแบบนี้ "cast of rich characters ... each of whom requires just a small amount of expense money so as to obtain access to the great wealth to which they are entitled" ... แน่ใจได้เลยว่า คุณได้อ่านวรรณกรรมระดับ (อิก) โนเบลเรียบร้อยแล้ว !@!


              อย่างไรก็ดี ในแต่ละปีผู้ที่ได้รับรางวัลต่างก็ยินดีที่จะเดินทางมาร่วมพิธี และจะมีโอกาสขึ้นไปกล่าวอะไรเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น โดยมีเด็กน้อยวัย 8 ขวบเป็นผู้ควบคุมพิธีการ ถ้าหากผู้ได้รับรางวัลกล่าวสุนทรพจน์เกินเวลา เด็กน้อยก็จะตะโกนออกไปว่า
               
              กรุณาหยุดได้แล้ว หนูเบื่อเต็มที !!


         แต่เมเยอร์-รอคฮาวและกัลล์ เจ้าของรางวัลแรงตดนกเพนกวิน ไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ส่งวิดิโอเทปกล่าวสุนทรพจน์มาฝากเปิดในงาน แถมยังบอกถึงเหตุผลที่มาร่วมงานไม่ได้ว่า เพราะขอวีซาเข้าสหรัฐฯ ไม่ได้ (ฮา....)


รูปภาพ


    งานบางชิ้นช่างดูเพี้ยนๆ แปลกๆ นั่นแหละจะทำให้พวกคุณหัวเราะปกฮา และจากนั้นมันก็จะทำให้คุณได้คิด ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะได้คิดอะไรแปลกๆ ต่อไป  
                                   
                                    Marc Abrahams
                               ผู้ก่อตั้งรางวัลอิกโนเบล  



ที่มา:
สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นิวไซแอนติส/เอเอฟพี/ดิเอจ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nmapxp&group=4

^O-O^
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:o ........  ผมมีผลงานที่ไม่น่าจะมีใครลอก
/U\/        เลียนแบบ..(ฮา)
 ||          ครั้งหนึ่งผมอยากกินไข่ลูกเขย
            แต่ทำไม่เป็น จำได้แต่ว่าผิวไข่ข้าง
            นอกมันกรอบๆ ไม่รู้คิดยังไง
            เอาไข่ทั้งใบยังไม่แกะเปลือกไปทอด  
            น้ำมันร้อนๆ ใส่กระทะ
            พอดีมีโทรศัพท์ดัง ผมเดินไปรับ
            ช่วงวินาทีนั้น มีเสียงระเบิดดังมากจาก
            ในครัว ผมรีบวิ่งไปดู
            เศษไข่กระจุยกระจาย                    
            เสียงโทรศัพท์ช่วยชีวิตผม.
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

:o  ...... มีผลงานอีกครั้ง ที่ไม่น่าจะมีคนปกติทำ (ฮา)
/U\/      สมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วเครียดเรื่องงานมาก
 ||        ผมตั้งข้อสังเกตหลายครั้งกับตัวเองว่า
          ช่วงที่เราท้อหรือเครียด จะเป็นช่วงที่
            กระตุ้นให้เราทำอะไรสักอย่างที่เหนือความ
            คาดหมาย
             เอาเลยครับ ผมขับรถไปพัทยา เช่าสกู๊ดเตอร์
             ขับออกไปทะเล เป้าหมายคือ เกาะล้าน
             ครึ่งชั่วโมงยังไม่ถึงเลย  เห็นใกล้ๆ ......ล้า
             มากด้วย
            ขับๆ ไปน้ำมันหมด  ผมลอยเท้งเต้งอยู่ใน
            ทะเลตั้งแต่เที่ยงยัน 4 โมงเย็น
            ระหว่างนั้นหัวมันคิดโน้นคิดนี่ ด้วยความ
            ท้อแท้กลับชีวิตเข้าไปอีก
            อยู่ดีๆไม่รู้อะไรเข้าสิง
            ผมก็กระโดดลงทะเล  แล้วก็ว่ายๆๆๆๆๆๆๆ
            หันมาอีกที  สกู๊ตเตอร์ลอยไปไกลมาก ผม
            ว่ายกลับไปเอาเกือบหมดแรง
            เกือบจมน้ำตายเหมือนกัน.......
            สุดท้ายเจ้าของเรือขับเรือออกมาตาม แล้วก็
            เจอ
            พอผมขับเข้าฝั่งเสร็จ ยังเดินมาถามผม จะ
            เล่นร่มต่อไหม
            คงคิดว่าผมบ้าดีเดือดมั่ง.
            ไม่เอาแล้วครับ กลับบ้านดีกว่า
            ก็ไอ้ร่มที่ลอยสูงๆ แล้วให้เรือลากขึ้นไปนั่น
            แหละครับ
            แค่นี้ก็เหนือความคาดหมายมากแล้วครับ อย่า
            ให้มากไปกว่านี้เลย   (ฮา)...........
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ดร.โหน่งนี่ EQ สุดยอดเลยครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

พี่โหน่งแข็งแรงจังครับ
เป็นผมขอแห้งตายอยู่บนสกู๊ตเตอร์
ไม่กล้าลงมาแน่นอนครับ

ได้ทีเลยไปคุ้ยกระทู้ในห้องหว้ากอ ณ พันทิพ
มาเสริมเรื่อง IG Nobel 2006 มาให้อ่านกันครับ

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic ... 71269.html



เวียนมาบรรจบครบอีกปีแล้ว สำหรับแฟนๆ ที่รอคอยการประกาศผลรางวัล อิกโนเบล (IgNobel Prizes) งานวิจัยที่ไม่สามารถทำกันได้ง่ายๆ โดยคณะกรรมการงานวิจัยที่ไม่น่าจะลอกเลียนแบบได้ประจำปี (Annals of Improbable Research) ซึ่งพิธีมอบรางวัล อิกโนเบล 2006 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.30 น. ของวันนี้ (6 ต.ค.) ตามเวลาประเทศไทย ณ โรงละครแซนเดอร์ ในฮาร์วาร์ด โดยมีเจ้าของรางวัลโนเบล (ของจริง) ได้ออกมาประกาศรางวัลในสาขาต่างๆ ท่ามกลางผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีนับพันคน

เริ่มงานตามธรรมเนียมผู้เข้าร่วมจะช่วยกันร่อนเครื่องบินพับขึ้นไปบนเวที และจากนั้นเจ้าของรางวัลโนเบลตัวจริง ซึ่งปีนี้คือ รอย เกลาเบอร์ (Roy Glauber) ศาสตราจารย์จากภาควิชาฟิสิกส์ จากฮาร์วาร์ด โนเบลฟิสิกส์ปีที่แล้ว ได้ขึ้นมากล่าวกวาดเวทีให้เกลี้ยงถือเป็นพิธีการเปิดการมอบรางวัลอิกโนเบลครั้งที่ 16

     

     โขกทั้งวัน...แต่ทำไมนกหัวขวานไม่เคยปวดหัว @@
     
     อีวาน ชวาบ (Ivan Schwab) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเดวิส (University of California Davis) และฟิลิป เมย์ (Philip May) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในลอสแองเจลลิส (University of California Los Angeles) ขึ้นมารับรางวัลเป็นรายแรกในสาขาวิหควิทยา (ornithology prize) จากผลงานการศึกษาว่าวิธีการหลีกเลี่ยงอาการเจ็บหัวของนกหัวขวาน
     
     แรกเริ่มเลยเมย์ประหลาดใจว่าทำไมเจ้านกหัวขวานที่ใช้จงอยหัวอันหนาเจาะเข้ากับต้นไม้วันละมากกว่า 12,000 ครั้ง ทำไมมันถึงไม่บ่นปวดหัวหรือสสมองสั่นสะเทือนเลย จากนั้นเขาก็พบว่าสมองของนกหัวขวานนั้นได้พัฒนาให้มีกะโหลกอย่างหนา พร้อมทั้งกระดูกที่เหมือนโฟมกันกระแทกคอยรับแรงสั่นสะเทือนภายในสมอง
     
     ทั้งนี้ นกหัวขวานได้พัฒนาเข็มขัดนิรภัยส่วนตัวขึ้น โดยช่วงเวลาเสี้ยววินาทีก่อนที่นกพันธุ์นี้จะกระแทกหัวเข้ากับต้นไม้ หนังตาชั้นที่สาม (nictitating membrane) ของมันก็จะปิดปกคลุมตาเพื่อป้องกันไม่ให้แรงจากการเจาะต้นไม้ทำให้พวกนกเหล่านี้เวียนหัว
     
     ส่วนชวาบมีข้อเสนอว่า นกหัวขวานอาจจะพัฒนาสมองขนาดเล็กๆ ขึ้นมา เพื่อให้เกิดความต้านทานกับแรงกระแทก แต่ก็ยอมรับว่าพลังสมองน้อยๆ ของนกหัวขวานสามารถชนต้นไม้จนเป็นรูได้



นวดทวารหนัก...สำเร็จความใคร่ แก้สะอึกชะงักแล ^*_*^
     
     ผลงานที่ไม่ควรมองข้ามไปอย่างยิ่ง คือผลงานของฟรานซิส เฟสเมียร์ (Francis Fesmire) จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี (University of Tennessee) ได้รับอิกโนเบลในสาขาแพทย์จากรายงานการหยุดสะอึกด้วยการนวดทวารหนัก "Termination of Intractable Hiccups with Digital Rectal Massage"
     
     ผมหวังอยู่เสมอว่าจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์จริงๆ เฟสเมียร์กล่าวหลังจากขึ้นไปรับรางวัลอิกโนเบลสาขาการแพทย์ไปก่อน (โดยไม่รู้ว่าจะได้โนเบลจริงๆ เมื่อใด) ทว่าผลงานชิ้นที่กรรมการตัดสินรางวัลอิกโนเบลเห็นเข้าตานั้นก็ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ฉุกเฉิน โดยเป็นความพยายามของเฟสเมียร์ที่ช่วยชายคนหนึ่งที่ถูกส่งมาถึงห้องฉุกเฉิน เพราะสะอึกมากว่า 72 ชั่วโมงด้วยอัตราที่มากกว่า 30 ครั้งต่อนาที
     
     เฟสเมียร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ฉุกเฉิกและหัวใจ ในขั้นแรกเขาใช้ไฟฟ้ากระตุ้นประสาทที่เกี่ยวกับกะโหลกของคนไข้ เพราะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการสะอึก จากนั้นทั้งปิดปาก ดึงลิ้น และนวดบริเวณโพรงกะโหลก รวมถึงกดลูกตาเพื่อกระตุ้นประสาทดังกล่าว แต่ก็ไม่เป็นผล
     
     ระหว่างนั้นเขาเกิดนึกถึงเคสการนวดทวารหนักที่เคยอ่านไว้ จึงลองสอดนิ้วเข้าไปในทวารของคนไข้ และนวดตามจังหวะหัวใจ จากนั้นอาการสะอึกก็ค่อยๆ หายไป แม้จะประสบผลสำเร็จแต่เฟสเมียร์ก็ไม่เคยนำวิธีนี้ไปรักษากับคนไข้รายอื่นๆ แต่มาเจด โอเดะห์ (Majed Odeh) จากศูนย์การแพทย์บไน ไซออน ในไฮฟา (Bnai Zion Medical Center in Haifa) อิสราเอลก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้และเขียนรายงานลงวารสารในหัวข้อเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่แบ่งรางวัลกันไปคนละครึ่ง
     
     อย่างไรก็ดี เฟสเมียร์ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะไม่ใช้วิธีนี้รักษาคนสะอึกอีกแน่ เพราะเขาค้นพบวิธีการใหม่ที่เชื่อแน่ว่า ผู้ป่วยสะอึกอยากจะนำไปใช้รักษากันอย่างแพร่หลายแน่นอน นั่นคือการสำเร็จความใคร่ นับเป็นการกระตุ้นประสาทกะโหลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เฟสเมียร์ย้ำว่า เซ็กซ์ และต้องสำเร็จถึงจุดสุดยอดนั่นแหละ แก้อาการสะอึกที่แก้เท่าไรก็ไม่หายได้อย่างชะงัก



เอาเล็บขูดกระดานทำไมสะเทือนถึงกระดูก...นัก !!
     
     สาขาสวนศาสตร์ (acoustics prize) หรือเกี่ยวกับเสียงนั่นเอง มอบให้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ อีก 3 รายจากมหาวิทยาลัยฟานเดอร์บิลด์ (Vanderbilt University) ในเทนเนสซี คือลินน์ ฮาลเพิร์น (Lynn Halpern), รานดอลฟ เบลก (Randolph Blake) และเจมส์ ฮิลเลนบรานด์ (James Hillenbrand) พวกเขาพยายามหาคำตอบในเรื่องที่ไม่เคยมีใครคิดจะหามันมาก่อน โดยทดลองหาเหตุผลว่าทำไมผู้คนถึงไม่ชอบเสียงเล็บมือขูดกระดานดำ...มันสั่นไปถึงกระดูกสันหลังเลยทีเดียว
     
     พวกเขาหาอาสาสมัครทดลองให้ใช้ส้อมพรวนดินขูดบนกระดานฉนวนในระดับที่ทนไม่ไหว จากนั้นก็ลองใช้เหล็กกับเหล็กขูดกัน และใช้แผ่นโฟมถูกกันเอง ซึ่งการทดลองของเขาแสดงให้เห็นว่าคลื่นความถี่เสียงระดับกลางผลักผู้คนให้แทบอยากจะตะกายกำแพง
     
     ขณะเดียวกันเสียงร้องเตือนของชิมแปนซีก็มีความคล้ายคลึงกับเสียงเล็บขูดกระดานดำเช่นกัน จึงเป็นไปได้ว่าการตอบสนองมาจากสัญชาตญาณ นั่นหมายความว่าเสียงประเภทที่ทำให้เราสั่นไปถึงกระดูกดำเหล่านี้ คือสัญญาณบางอย่าง ดังนั้นจึงควรฟังเสียงกรีดร้องจากสัตว์ที่เคยเป็นบรรพบุรุษของพวกเรา (อย่างชิมป์) เมื่อพวกเขาส่งสัญญาณหรือแยกเขี้ยวเดินไปมา...แปลว่าน่าจะมีอะไรที่อยากจะบอกเราเป็นแน่ !!



ส่วนรางวัลอิกโนเบลในสาขาอื่นๆ (ที่มีรู้ละเอียดเฉพาะเจ้าตัว) ได้แก่
     
     - สาขาโภชนศาสตร์เป็นของวาสเมีย อัล ฮูลตี (Wasmia Al-Houty) จากมหาวิทยาลัยคูเวต (Kuwait University) พร้อมก้บฟาเต็ม อัล มุสซาลาม (Faten Al-Mussalam) จากองค์การสาธารณะด้านสิ่งแวดล้อมของคูเวต (Kuwait Environment Public Authority) ได้รับรางวัลจากการศึกษามูลของแมลงปีกแข็งโดยชี้ให้เห็นว่าแมลงเหล่านี้ช่างเรื่องมากในการกินเสียเหลือเกิน
     
     - สาขาสันติภาพเป็นของ โฮวาร์ด สตาเพลตัน (Howard Stapleton) จากเวลส์ เนื่องจากประดิษฐ์เครื่องกลไฟฟ้า จนสร้างเป็นเสียงโทรศัพท์ที่ได้ยินเฉพาะเด็กๆ เมื่อใครโทรมาเด็กๆ จะได้ยิน แต่ครูไม่ได้ยิน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถมาร่วมงานได้ด้วยเหตุผลทางครอบครัว (อ่านข่าว : เด็กๆ ถูกใจ ริงโทน แบบใหม่ ผู้ใหญ่ไม่ได้ยิน !!)
     
     - สาขาคณิตศาสตร์เป็นของ 2 นักวิจัยจากองค์กรวิจัยและวิทยาศาสตร์ของออสเตรเลีย ทั้งคู่หาคำตอบว่าเวลาถ่ายภาพหมู่ต้องกดชัตเตอร์กันกี่รูป ถึงจะแน่ใจได้ว่าจะไม่มีใครในภาพหลับตา
     
     - สาขาฟิสิกส์ตกเป็นของบาไซล์ ออโดลี (Basile Audoly) และเซบาสเตียน นอยคริช (Sebastien Neukirch) จากมหาวิทยาลัยปารีส (Paris University) เนื่องจากพวกเขาเข้าใจลึกซึ้งถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเส้นสปาเก็ตตี้เมื่อแห้งแล้วถึงมีแนวโน้มแตกออกมากกว่า 2 ชิ้น
     
     - สาขาเคมี แม้ว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวาเลนเซีย (Valencia University) และมหาวิทยาลัยอิลเลส บาเลอร์ส (University of Illes Balears) จะยังไม่สามารถสรุปผลการทดลองของพวกเขาได้อย่างชัดเจน แต่คณะกรรมการก็ตัดสินใจให้ผลงานของพวกเขาที่ศึกษาเรื่องอัตราความเร็วคลื่นความถี่เหนือเสียงของชีสเชดดาร์ที่มีผลมาจากอุณหภูมิ (Ultrasonic Velocity in Cheddar Cheese as Affected by Temperature) ได้รับรางวัลในสาขาเคมี
     
     - เรื่องของชีสก็ยังคงได้รับความสนใจต่อเนื่อง โดยในสาขาชีววิทยาคือบาร์ต คนอลส์ (Bart Knols) จากมหาวิทยาลัยเกษตรวาเกนนิเกน (Wageningen Agricultural University) ในเนเธอร์แลนด์ เพราะเขาวิจัยพบว่ายุงก้นปล่องตัวเมียสนใจตอมชีสลิมเบอร์เกอร์มากพอๆ กับเท้าคน
     
     รางวัลอิกโนเบลตั้งขึ้นเมื่อปี 1991 โดยมาร์ก อับราฮัมส์ (Marc Abrahams) บรรณาธิการนิตยสารวิทยาศาสตร์ โดยต้องการมอบรางวัลอิก โนเบลในแต่ละปีให้แก่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ ไม่สามารถหรือไม่น่าจะลอกเลียนแบบได้
     
     งานบางชิ้นช่างดูเพี้ยนๆ แปลกๆ นั่นแหละจะทำให้พวกคุณหัวเราะปกฮา และจากนั้นมันก็จะทำให้คุณได้คิด ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะได้คิดอะไรแปลกๆ ต่อไป ผู้ก่อตั้งรางวัลอิกโนเบลกล่าว อีกทั้งอับราฮัมส์ตั้งรางวัลนี้ขึ้นมา เพื่อฉายแสงให้กับโครงการวิทยาศาสตร์แปลกๆ ประหลาดที่ถูกโยนทิ้งจากกองบรรณาธิการนิตยสารวิทยาศาสตร์ และงานวิจัยแปลกๆ เหล่านี้อาจสูญหายไปในอนาคต
[/quote]
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

[quote="ดร.โหน่ง"]:o
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

21oct+^O-O^ = ขำ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

[quote="HVI"][quote="ดร.โหน่ง"]:o
รักในหลวงครับ
โพสต์โพสต์