17oct+^O-O^=?

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

17oct+^O-O^=?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รูปภาพ

Theodore Ernest  "Ernie" Els
Born:  17-Oct-1969
Johannesburg, South Africa
Professioanl golfer known as "The Big Easy,"



                ผมชอบมองเวลา Els ตีกอล์ฟมากครับ.........

     เป็นนักกอล์ฟที่วงสวยมากๆ  ตัวก็ใหญ่ดู วงง่ายๆ  แต่ไกลฉิบ.......แต่นักกอล์ฟที่มีอิทธิพลต่อการเล่นกอล์ฟของผมมากที่สุดไม่ใช่ Els ครับ แต่เป็น Fred Couples


         Fred เป็นวงที่ดูสบายตา ดูเหมือนวงคนขี้เกียจ เอื่อยๆ  เรื่อยๆ แต่ไกลฉิบเหมือนกัน........


      ผมชอบจังหวะการสวิงที่นุ่มนวลของทั้งสองคนนี้มากขนาดที่ว่าผมเปิด CD ดูทุกเช้าและก่อนนอนเลยทีเดียว ทุกวันนี้ก็ยังดูอยู่ครับแต่ดูผ่านเนตแล้ว.....


        ดูไปดูมาผมก็มีวงเหมือนท่านทั่งสองโดยไม่ได้ตั้งใจ  และก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าทั้งสองท่านจะเกิดเดือนเดียวกับผมด้วย  Fred เกิดวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เองครับ..................
 
             

         ผมไปรื้อเจอนิตยสาร Golf Digest ฉบับเมื่อปี 2001 มีบทสัมภาษณ์ของ Els  ที่น่าสนใจมากครับ



Q:  พอคุณมีลูกแล้ว ชีวิตเปลี่ยนมั่งไหมครับ?

Els:  แต่ก่อนผมตื่นมาก็ ซ้อม แข่ง กลับบ้าน กินเบียร์ นอน ตื่นมาก็ซ้อมอีก วนอยู่อย่างนี้ครับ ชีวิตผมเรียบง่ายมาก  Very simple. No more. เดี๋ยวนี้ก็เหมือนเดิม เพราะผมไม่ได้เลี้ยงลูกเอง เมียเลี้ยง แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ ผมไม่มีโอกาสเลย ผมต้องเดินทางตลอดเวลา


Q: คุณเล่นอยู่ในอเมริกาซะส่วนมาก ทำไมไม่ย้ายครอบครัวจาก เซาท์ แอฟริกา มาอยู่ที่นี่

Els:      เมียผมก็ถามบ่อยๆนะเรื่องนี้ แต่ที่นั่นผมมีพ่อมีแม่ มีเพื่อนๆที่สนิทกันมากๆ ความสุขผมอยู่ที่นั่น มันหาไม่ได้จากที่ไหนๆในโลก.....บ้านที่ Orlando ที่ London ผมก็ซื้อไว้นะ แต่ไม่ค่อยได้อยู่ ไปแข่งทีก็ไปพักที แต่ไม่แน่นะ ตอนนี้ผมชอบที่ Bahamas มาก บางที่ผมจะลองถามเมียว่าเราจะย้ายไหม แต่ถ้ามาอยู่จริงๆ........ผมคงต้องกลับบ้านน้อยลง  

Q: ที่อเมริกามันวุ่นวายมากเกินไปในความรู้สึกคุณใช่ไหม ?

Els: ปล่าว ไม่เลยครับ......แฟนกอล์ฟทีนี่น่ารักมากครับ  พวกเขาชอบผม และต้อนรับผมดีมากๆ  ทัวร์นาเม้นท์ต่างๆในอเมริกาก็สุดยอดทั้งนั้น แต่มัน.....ไม่เหมือนบ้านครับ ถึงแม้จะต้องนั่งเครื่องกลับ 15 ชั่วโมง ผมก็จะไป กลับไปกินข้าวกับคนที่คุ้นเคย อาหารที่ถูกปาก ริมบรรยากาศชายหาดแถวบ้าน  ขอแค่นี้จะไกลแค่ไหนผมก็กลับ

Q: ตอนเด็กๆ ถ้าพ่อคุณไม่ถมสนามเทนนิสหลังบ้าน แล้วสร้างกรีนพัตกอล์ฟขึ้นมาแทนให้คุณเล่น  คุณคิดว่าคุณจะมีวันนี้ไหม?

Els:  ก็ไม่เชิงครับ ถึงแม้เราจะมีสนามพัตของเราเองอยู่ในบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้เล่นกอล์ฟอย่างเดียว  ผมยังเป็นนักกีฬาคริกเกต และรักบี้ ที่โรงเรียนด้วย แต่กอล์ฟเป็นอะไรที่ท้าทายที่สุด    


Q:  บางทีถ้าตอนนี้คุณเป็นนักเทนนิส คุณอาจจะชนะรายการ Wimbledon แล้วก็ได้

Els: ใครจะไปรู้ ไม่แน่นะ ที่ Orlando บ้านผมอยู่ใกล้บ้าน  Jim Courier เวลาเข้ายิมเจอกันบ่อยๆ คุณต้องดูเวลาเขาเล่นกล้าม น้ำหนักที่เขาใช้ยกวอร์มอัฟก่อนยกจริง เท่ากับน้ำหนักจริงๆที่ผมใช้ยกเลย เขายกทั้งวันอยู่ในยิมด้วย ยกเสร็จก็ไปเล่นในคอร์สต่อ.......เห็นแล้วผมว่า ผมใส่กางเกงขาสั้นไม่ค่อยเข้านะ เล่นกอล์ฟดีกว่าดีแล้ว เดี๋ยวนี้ คุณดู ผมหนาขึ้นต้องเยอะ นี่......    


Q: ดูเหมือนคุณจะชอบ Arnold Palmer มากเป็นพิเศษ

Els:  ผมเคยเล่นกับท่านครั้งแรกที่ PGA Championship ปี 1992 หลังจากนั้นท่านก็ชวนผมไปเล่นรายการของท่าน  Bay Hill ท่านใจดีมากครับ คอยสอนผมตลอดทำให้ผมมั่นใจในการเล่นมากขึ้น ท่านเป็นคนที่ไม่เสแสร้ง ไม่มีการแกล้งยิ้ม ผิดก็ว่า ถูกก็ชม เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก  



Q:  คุณไม่ได้เป็นมือวางอันดับหนึ่งมานานแล้ว รู้สึกอะไรไหม?

Els:  ตอนนี้ผมไม่คิดว่าผมเก่งที่สุดที่จะได้เป็นที่หนึ่ง ผมรู้ตัวเองดีไม่ต้องมีใครมาบอก ผมเคยเป็นมือวางอันดับหนึ่งมาแล้ว จนกระทั่งเรามี Tiger Woods  ผมไม่อยากบ้ากอล์ฟตลอดเวลา ชีวิตเรามีอย่างอื่นอีกตั้งเยอะ Snowmobiling, camping, whatever.


Q: ชื่อที่เขาเรียกคุณว่า The Big Easy รู้สึกยังไง?

Els:  ก็ OK นะ จะเรียกก็เรียกไป เขาหมายถึงวงผมใช่ไหม ผมไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นการแข่ง ผมไม่ easy กะใครด้วยนะ แข่งเป็นแข่งผมเอาจริง

                                     
            "It's a bit crazy. Why call them World Championships if they're going to be played in the same place all the time? World Golf Championships are meant to promote the game all over the globe.

                                          Ernie Els
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

17oct+^O-O^=?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

รูปภาพ

ศาสตราจารย์ ดร. ระวี ภาวิไล
เกิดวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2468
นักดาราศาสตร์
           
          ปัจจุบันท่านในวัย 81  ได้พาตัวเองเข้าสู่ทางธรรมะอย่างเต็มตัวแล้วนะครับ  

มาลองอ่านบทสัมภาษณ์ท่านเกี่ยวกับพุทธศาสนาในวิถีของ ศ.ดร.ระวี ดูครับ.......


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - เหตุใดถึงหันมาสนใจธรรมะ หลังจากที่ศึกษาวิทยาศาสตร์มาก่อน

ศ.ดร.ระวี - อันที่จริงตลอดมาผมมีความสงสัยอยากรู้อยากเข้าใจเรื่องของชีวิต เรื่องของโลก ผมก็หาความรู้มาในทางต่างๆ วิทยาศาสตร์ก็เป็นความรู้ที่ว่าด้วยเรื่องโลกและชีวิต เมื่อผมสนใจอยากรู้ผมก็ศึกษาหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ต่อมาเมื่อผมได้เรียนรู้ความเป็นมาเรื่องพระพุทธศาสนา ผมก็สนใจแล้วก็ศึกษาหาความรู้ทางศาสนา ผมมองเห็นว่าทั้งพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ให้ความรู้ด้วยกัน

             วิธีการหาความรู้ในขั้นต้นก็คือการเรียนรู้ในสิ่งที่มีคำกล่าวคำสอนอยู่ในตำราหรือคัมภีร์ เราเริ่มต้นอย่างนั้นกันทั้งนั้น ความรู้เหล่านั้น ผู้เขียนตำราหรือคัมภีร์ก็ได้เอาประสบการณ์ของเขามาเขียน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ผมได้อ่านในตำราหรือคัมภีร์ ทั้ง 2 ทางคือศาสนาและวิทยาศาสตร์ ก็นำเอามาตรวจสอบโดยหาประสบการณ์ของผมเองด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าประสบการณ์ของผมที่หาเองนั้นตรงกับตำราที่กล่าวไว้หรือเปล่า สิ่งที่ได้พูดไปเป็นเพียงการกล่าวกว้างๆ ว่าเราเรียนรู้จากที่คนอื่นเขาเรียนไว้ เขียนไว้ แล้วดูว่าเขามีวิธีหาความรู้อย่างไร แล้วเราก็ทำอย่างที่เขาทำบ้าง เราก็จะได้ความรู้โดยตรง


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - วิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนามีความเหมือนหรือคล้ายกันอย่างไร

ศ.ดร.ระวี - มันมีความสอดคล้องกันระหว่างพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ ทั้งพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ก็หาความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโลกและชีวิต หมายความว่ามนุษย์เรามีความปรารถนาที่จะรู้จักให้ลึกซึ้งถึงเรื่องที่เกี่ยวกับโลกที่มาปรากฏต่อเราต่อมนุษย์เรา ต้องการจะมีความรู้ หาความรู้ พุทธศาสนาอาจจะทบทวนดูจากเรื่องพุทธประวัติได้ว่าพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้นั้นได้เห็นว่าชีวิตมีปัญหาคือความทุกข์ แล้วก็แสวงหาวิธีการที่จะดับทุกข์ เมื่อพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นก็หมายความว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ เราใช้คำตรัสรู้นั้นก็หมายความว่าเกิดความรู้ที่มีความสำคัญนำความรู้นั้นไปใช้แก้ปัญหาของมนุษย์ได้ จะเห็นได้ว่าวิทยาศาสตร์กับศาสนาต่างก็เป็นเรื่องของความรู้ของมนุษย์ ตรงนี้คือสิ่งที่สอดคล้องกัน

ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - ความรู้ของพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ต่างกันอย่างไร

          ศ.ดร.ระวี - ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นที่เพิ่มพูนมากขึ้นๆ ความรู้ที่มนุษย์หามาและถ่ายทอดทั้งโดยตำราก็ดี โดยวิธีการต่างๆ ก็ดี ก็เป็นความรู้ที่ปรับปรุงตัวตลอดเวลา ความรู้บางอย่างแค่นี้ในวันนี้ ในวันต่อๆ ไป ปีต่อๆ ไป ความรู้ก็เพิ่มขึ้น ความรู้ที่ไม่ยังสมบูรณ์ก็สมบูรณ์ยิ่งขึ้นๆ เป็นการขยายตัวตลอดมาตั้งแต่เริ่มมีการค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อะไรที่ยังไม่ถูกต้องก็ถูกแก้ไข ซึ่งจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไป จะความรู้ที่ละเอียดขึ้น กว้างขึ้น ไม่มีวันจบ แต่ความรู้ทางพุทธศาสนามีการบรรลุถึงขั้นสูงสุด เกิดความรู้ที่เข้าใจวิถีทางชีวิตอย่างสมบูรณ์ได้

          ความรู้ทางศาสนาจะช่วยให้เราปรับตัวในวิถีทางที่เหมาะที่สุดเพราะทำให้มีปัญหาน้อยที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าเราพัฒนาจิตใจของเรามากขึ้นๆ เราก็จะมีความสามารถแก้ปัญหาในเรื่องความรู้สึกเป็นสุขเป็นทุกข์ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ความรู้ทางศาสนาเป็นความรู้ที่ปรับทั้งด้านร่างกายและจิตใจให้ปัญหานั้นลดลงได้ มีคำกล่าวว่าพระพุทธเจ้านั้น เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วทรงรู้ทุกสิ่ง หมายความว่าถึงยอดสุดในเรื่องชีวิตแล้ว แล้วพระองค์ก็เที่ยวประกาศ ทรงมีความรู้เพียงพอที่จะให้ทุกข์สิ้นไปได้ ถ้าทำตามวิธีปฏิบัติของพระองค์ถึงขั้นที่จะทำให้ทุกข์สิ้นไปได้ หรือว่าถ้าปรารถนาจะหาความรู้ต่อไปก็ยังทำได้ ก็หมายความว่าอยากจะรู้มากมายอย่างที่พระองค์ทรงรู้เช่นกัน


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - การศึกษาวิทยาศาสตร์ทำให้มีแนวโน้มที่จะหันมาศึกษาพุทธศาสนาด้วยหรือไม่

ศ.ดร.ระวี - อย่างน้อยในสิ่งแวดล้อมที่ผมมาอยู่มันก็มีโอกาสรับรู้คำสอนทั้ง 2 ทาง อย่างที่กล่าวไว้ผมสนใจหาความรู้ ดังนั้นมีช่องทางไหนผมก็ทำเท่าที่จะทำได้ ชีวิตสำหรับผมคือการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจ ทางไหนเปิดก็เอาทางนั้น ผมมีความสุขในการหาความรู้ วิธีไหนก็ได้ แล้วแต่ว่าความรู้ที่ยังไม่รู้จะเข้ามาทางไหน ทางหนังสือก็อ่านหนังสือ ถ้าให้ทำการสังเกตการณ์ ทำการทดลองก็ทดลอง


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - ความรู้ทั้ง 2 ทางมีความขัดแย้งกันบ้างหรือไม่

ศ.ดร.ระวี - เป็นธรรมดาบางเรื่องก็มีความขัดแย้ง บางเรื่องก็สอดคล้องกัน ยกตัวอย่างความรู้เรื่องโลก เอาง่ายๆ คือโลกที่เราอยู่ ที่มนุษย์เกิดมา คุณอาจจะไปอ่านพบในคัมภีร์กล่าวว่า โลกที่เราอยู่เป็นแผ่นแบน อาศัยความรู้ที่จำกัดในยุคที่ศาสนาเกิดขึ้น ในปัจจุบันเราได้เรียนรู้ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่เป็นก้อนกลม เมื่อเอาคำสอนของศาสนาที่ว่าโลกแบนมาเทียบกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ว่าโลกกลม จะเห็นว่าคัมภีร์ศาสนาในเรื่องของโลกด้านนี้ไม่ถูก

         เดี๋ยวนี้เรามีข้อพิสูจน์ตั้งมากมายว่าโลกกลม เรายืนอยู่บนพื้นที่โลกกลมไม่ใช่แบน ข้อนี้ต้องระวัง อย่าไปคิดเอาว่าผู้ประกาศศาสนาคือพระพุทธเจ้านั้นไม่รู้ เพราะว่าอย่างที่กล่าวไปแล้ว พระองค์ทรงหาความหลุดพ้นของมนุษย์แล้ว แล้วพระองค์ก็ทรงสอน สาระสำคัญคือเรื่องของ ทุกข์ และความ สิ้นทุกข์ สำหรับเรื่องธรรมชาติแวดล้อมของมนุษย์จะเป็นอย่างไร ไม่สำคัญ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

         สำหรับผู้ที่เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จะไม่ถือเอาแนวคิดที่ว่า โลกแบนเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะเป็นความรู้ในยุคของพระองค์ พระองค์คงจะรู้อะไรอย่างจริงๆ ในเรื่องนี้เราไม่ทราบ แต่ผมวินิจฉัยว่าสมมติพระองค์รู้ว่าจริงๆ โลกไม่ได้แบน แต่ท่านไม่เสียเวลามาแก้ความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ เพราะว่าโลกจะแบนหรือกลมไม่ใช่ประเด็นสำคัญ มนุษย์เป็นทุกข์ไม่ใช่เพราะเชื่อสิ่งเหล่านี้หรือไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้ มนุษย์เป็นทุกข์เพราะเหตุผลอื่น ถ้าจะไปพูดเรื่องโลกกลมโลกแบนมันเสียเวลา ท่านพูดประเด็นสำคัญคือทุกข์และการดับทุกข์


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - อาจารย์ได้อะไรจากการศึกษาธรรมะ

ศ.ดร.ระวี - ผมได้ความเข้าใจในวิถีความคิดของตัวเอง รู้จักตัวเองมากขึ้น เมื่อได้ศึกษาคัมภีร์ แล้วเอาวิธีการตามคัมภีร์มาเลือกใช้มองดูวิถีทางของชีวิตก็มีความชัดเจนมากขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อมีความชัดเจน เข้าใจชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่แต่เพียงร่างกายแต่เข้าใจตัวความคิดของตัวเอง เมื่อเข้าใจวิถีความคิดของตัวเองในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเราเผชิญกันทุกคน เราจะพิจารณาอย่างไร เกิดความรู้ความเข้าใจชีวิตในทุกขณะ แล้วความทุกข์ก็ลดลงเรื่อยๆ


ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ - ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในทุกวันนี้ทำให้เราห่างไกลจากความเข้าใจพุทธศาสนาหรือห่างไกลจากความเข้าใจตัวเองหรือไม่

ศ.ดร.ระวี - ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็มีความสำคัญในแง่ว่าเรานำความรู้นั้นมาใช้ประยุกต์เพื่อความสะดวกสบายให้กับชีวิตของเรา ตัววิทยาศาสตร์แท้ๆ นี้เป็นเรื่องความรู้ของธรรมชาติทางวัตถุ สารวัตถุที่มีอยู่รอบตัวมนุษย์ การนำเอาความรู้นั้นมาใช้เพื่อความสะดวกสบายของมนุษย์นั้นเราเรียกว่าความรู้ที่นำมาใช้นั้นว่า เทคโนโลยี หรือ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ แต่พุทธศาสนานั้นเมื่อเรียนรู้มากขึ้น ความรู้นั้นก็เอาประยุกต์ใช้เพื่อการมีชีวิตอย่างมีความทุกข์น้อยลง ที่มีความทุกข์น้อยลงเพราะทำให้เข้าใจความเป็นไปของชีวิตลึกซึ้งยิ่งขึ้นและก็จะรู้เท่ารู้ทันชีวิต ทำให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้

         ดังนั้นเมื่อเราศึกษาพุทธศาสนาไปมากๆ แล้วรู้ว่าทุกขณะชีวิตมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น แล้วเราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร ถ้าเป็นปัญหาเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของวัตถุที่มารบกวน ขัดขวางความสะดวกสบาย เราก็ใช้วิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาเท่าที่จะทำได้ ถ้าเรามีความรู้ทางเรื่องความรู้สึกนึกคิดของเราเอง เราก็สามารถปรับความรู้สึกนึกคิดของเราเองให้เผชิญกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติแวดล้อม เมื่อใช้วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีแก้ปัญหาไม่ได้ เราก็ต้องรู้จักทำใจให้ยอมรับในความเป็นไป


บทความโดย: ผู้จัดการออนไลน์
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

17oct+^O-O^=?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รูปภาพ

       
ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
เกิดวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2503
นักแสดง พิธีกร ผู้กำกับการแสดงละครและภาพยนตร์
               

             ตอนที่มีกิจกรรมการปราศัยบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงเดือนมีนาคม ผมจำได้นอกจากเห็นคุณ ออฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แล้วยังมี  คุณ ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อีกคน
 
 
         ผมต้องขอยกย่องและปรบมือให้กับความกล้าหาญของคุณศรันยู กับการขึ้นเปิดเผยตัวเพื่อประกาศเจตนาและจุดยืนของตนเองครับ คนนี้เป็นดาราที่ไม่ธรรมดาครับ ไม่ต้องพูดถึงฝีมือการแสดงละครเวที ถือว่าระดับเซียน    
         
             
         ที่ผ่านมามีหลายคนถามว่าเป็นดารา เป็นคนที่มีชื่อ ไม่กลัวหรือที่มาประกาศตัวเช่นนี้ ผมก็ได้บอกไปว่า หากไม่ได้ทำอะไรผิดจะต้องกลัวอะไร ก็ขนาดไอ้คนที่มันทำอะไรผิด ไอ้คนที่มันโกงบ้านโกงเมืองมันยังไม่กลัวอะไรเลย
     
                                              ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

17oct+^O-O^=?

โพสต์ที่ 4

โพสต์

8) ดูรูปนี้แล้วขำดีครับ
    ไม่รู้ดร.โหน่งตั้งใจหรือเปล่า

รูปภาพ

    ผมไม่ได้เล่นกอล์ฟ แต่ชอบดูนะครับ
    เรียกว่าถ้าลงเล่น ผมรู้กติกาเกือบหมด
    ชอบ บิ๊กอีซี่ ครับ
    เล่นเนียนดี แก้ปัญหาเก่ง

    ส่วนตั้ว นี่เป็นรุ่นน้อง
    ยังทันเห็นกันที่มหาลัย
    หนุ่มๆ หล่อมากแต่ เซอ เซอ
    กางเกงยีนส์ เสื้อยับ นั่งพื้นถนนได้
    ตอนมาเล่นเป็นพระมหาจักรพรรดิ ในสุริโยไท
    แทบจำไม่ได้
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
โพสต์โพสต์