OOO Oct 13

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

OOO Oct 13

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รูปภาพ

Paul Frederic Simon
born: 13-Oct-1941
American singer-songwriter and guitarist

   
     วันที่ 286 ของปี อีก 79 วันถึงปีใหม่

พึ่งทราบเหมือนกันครับ ว่า ศิลปินในดวงใจของผมอีกคนก็เกิดในเดือนนี้.....

   สมัยเรียนมัธยมยังจำได้ นั่งแกะ The Boxer กับเพื่อนอีกคนทั้งคืนเพื่อใช้เป็นเพลงประกวดในโรงเรียน ผมยังติ้งต่างว่าตัวเองเปน Simon ส่วนเพื่อนอีกคนเป็น  Art Garfunkel แต่เราไม่ถึงขั้นเรียกตัวเองว่า "Tom & Jerry เหมือนกับที่ Simon และ Garfunkel ใช้เรียกกันเอง ผมยังคงเรียกเพื่อนผมว่า ไอ้เม้ง และมันก็เรียกผมว่า ไอ้แว่น
       
   
   ผมยังจำจังหวะได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เนื้อเพลงลืมเกือบหมดแล้ว........


     วันนี้เป็นวันเกิดของ Paul Simon เลยถือโอกาสหยิบกีตาร์ขึ้นมาแจมสักหน่อย คิดเสียว่าตัวเองเป็น Simon อีกครั้ง....555      
       
     มาอ่านเจอประวัติบางตอนว่า Simon จบ อักษรศาสตร์ เอก ภาษาอังกฤษด้วย มิน่าเพลงแต่ละเพลงใช้ภาษาอุปมาอุปไมยกระโดดคำ หมุนคำ ขยี้คำได้อย่างไพเราะ  ผมติดเนื้อเพลงมาฝากครับ และก็แปลเป็นไทยแบบโหน่งๆ ไว้ท้ายๆ แปลไม่เข้าหูแฟนๆ  Simon and Garfunkel ก็ขออภัยมา ณ ที่นี่


                      The Boxer
              ( Simon and Garfunkle )

I am just a poor boy, though my story's seldom told
I have squandered my resistance for a pocketful of mumbles, such are promises
All lies and jest, still a man hears what he wants to hear
And disregards the rest (hmmmm....mmmm......)

       ผมเป็นเพียงแค่นกตัวเล็กๆประดับดงไม้ ไม่มีใครกู่เรียกชื่อผม
ผมอ้าปากที ก็เป็นคำมั่นสัญญา ใช้มันอย่างฟุ่มเฟย พร่ำบ่น ลมๆแล้ง
โกหกตลกกลบเกลื่อนไปเรื่อย ทุกคนอยากฟังวจีคำหวาน  เรื่องจริงไม่จริง พวกเขาไม่เคยสน


When I left my home and my family, I was no more than a boy
In the company of strangers.....
In the quiet of the railway station, runnin' scared
Laying low, seeking out the poorer quarters, where the ragged people go
Looking for the places only they would know

     วันที่ผมออกจากรัง ปีกผมยังไม่กล้า
มีแต่คนแปลกหน้าลดหลั่นเรียงรายอยู่รอบตัว.....
สภาพสถานีรถไฟฉากหลังเงียบเหงาอ้างว้างอึมครึมหนาวถึงใจ
ผมห่มคลุมกลิ่นอายความจนด้วยการเจียมตัว
กลบดานในสถานที่ที่มีแต่พลพรรคคนจนเท่านั้นที่รู้




(Li la li... li la la la li la li)
(Li la li... li la la la li la li)
(La la la la li...)


Seeking only workman's wages, I come looking for a job, but I get no offers.....
Just a come-on from the whores on Seventh Avenue
I do declare, there were times when I was so lonesome
I took some comfort there (li la la, la, la la)

ออกย่ำเท้าหางานทำ แต่มือปล่าวผมไม่มีใครสนใจ
มีแต่หญิงโสเภณีในซอยเจ็ดที่ควักมือให้ไปหา
ช่วงเวลาที่ผมบ่มความเหงาอ้างว้าง
ผมได้ยินอย่างนั้นก็เลยเลี้ยวไปตักดื่มหลายอึกสบายอารมณ์

Now the years are rolling by me, they are rockin' even me
I am older than I once was, and younger than I'll be, that's not unusual
No it isn't strange, after changes upon changes, we are more or less the same
After changes we are more or less the same.........


   ผมกลุมกาลเวลาที่ผันล่วงเลย แต่บางครั้งกาลเวลาก็กลุมผม
เวลาไม่เคยชักหย่อน  ถึงอายุมากขึ้น แต่ใจผมไม่หย่อนไปด้วย เป็นเรื่องปกติสำหรับผม
ใช่....มันไม่แปลกเลย ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านแดดผ่านฝน คนก็กลมกลืน
          ชีวิตคนเปลี่ยนแปลงตามคาคบไม้ปกคลุมด้วยฝอยลม หมู่ชนก็กลืนกลม


(Li la li... li la la la li la li)
(Li la li... li la la la li la li)
(La la la la li...)

And I'm laying out my winter clothes, wishing I was gone, goin' home
Where the New York city winters aren't bleedin' me, leadin' me to go home

    ผมถอดเสื้อโค๊ชยืนเด่นตระหง่านฝ่าความหนาว
ผมอยากไปจากที่นี่ ผมอยากกลับบ้าน
ทำไมความโหดร้ายหนาวเย็นเมืองนิวยอร์คไม่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว ผมจะได้ใช้เป็นข้ออ้างกลับบ้านไง



In the clearing stands a boxer, and a fighter by his trade
And he carries the reminder of every glove that laid him down or cut him
'Til he cried out in his anger and his shame
I am leaving, I am leaving, but the fighter still remains
Yes, he still remains........................

     หยัดยืนอย่างคนสู้ชีวิต ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคที่ขัดขวาง
เก็บอุปสรรคที่เลวร้ายที่กรีดเลือดไหลเป็นเส้นทาง
น้ำตาพรูพร่างอัดอยู่ในตรมระทมใจ
ขอลาจรเสียที ขอลาจาก บันไดถากทางเดินแห่งการต่อสู้
ใช่ แต่สุดท้ายเขาก็ยังอยู่ทีนี่........................
 


(Li la li... li la la la li la li)
(Li la li... li la la la li la li)
(La la la la li...)
(Li la la la li la li)
(Li la li... li la la la li la li)
(La la la la li...)
(Li la la la li la li)
(Li la li... li la la la li la li)

 
"some people never say the words
              I love you
 But, like a child, theyre longing to be told."
       
                                Paul Simon
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

OOO Oct 13

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เล่นเพลงเดียวกันเลยคับพี่โหน่ง

แต่ที่ชอบจัดๆ คือ scaborough fair
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

OOO Oct 13

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รูปภาพ

"ความเป็นผู้หญิงกับ การมีอำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ คล้ายๆกัน คุณไม่ต้องบอกใครว่าคุณมีมัน ถ้าคุณทำอย่างนั้น แสดงว่าคุณไม่ได้มี    
                         ท่านมาร์กาเร็ต แทตเชอร์



Margaret Hilda Thatcher, Baroness Thatcher
Born:  13-October-1925
Prime Minister of the United Kingdom from 1979 to 1990
ผู้หญิงคนเดียวและคนแรกของอังกฤษที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
     
       

     
        ท่านมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ เกิดที่เมืองแกรนแธม ลิงคอล์นไชร์ ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จบแล้วทำงานเป็นนักวิจัยทางเคมี (พ.ศ. 2490-2494) สมรสกับนายแดนิส แทตเชอร์ ในปี พ.ศ, 2494 ศึกษาต่อด้านกฎหมายสอบได้เนติบัณฑิต ในปี พ.ศ. 2497
         
        ในโลกนี้ ไม่มีอะไรเหมือนกับการอยู่ร่วมกันเป็นแบบสังคมมนุษย์  มีผู้ชาย มีผู้หญิง และมีสถาบันครอบครัว
 
       ท่านเข้าสู่การเมืองได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสถาผู้แทนราษฎรแห่งฟินช์เลย์เป็นครั้งแรก พ.ศ. 2502 ร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเงา พ.ศ. 2510 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ในปี พ.ศ. 2513-2517 เป็นอัครมหาเสนาบดีเงาร่วม (joint shadow Chancellor) พ.ศ. 2517-18 และใน พ.ศ. 2520 ได้เป็นหัวหน้า พรรคอนุรักษ์นิยม  เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของอังกฤษ
       
         ทุกคนที่ดิฉันรู้จักที่สามารถขึ้นไปยืนบนจุดที่สูงที่สุดได้ จะต้องผ่านความยากลำบากมาก่อน  จะว่านั่นเป็นสูตรสำเร็จก็ว่าได้..ดิฉันเป็นหนี้ชีวิตให้กับพ่อ หลายๆอย่างที่พ่อสอนในบ้านหลังเล็กๆของเรา หลายๆอย่างที่ดิฉันได้เรียนรู้จากเมืองเล็กๆที่ดิฉันเกิด  ทำให้ดิฉันชนะในการเลือกตั้ง

       
        ด้วยการนำของท่าน พรรคอนุรักษ์นิยมได้กลายเป็นพรรคขวาจัดมากขึ้น ทำให้การเมืองและสังคมของประเทศอังกฤษแบ่งขั้วมากที่สุดนับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลแทตเชอร์ได้ใช้นโยบายปฏิรูปที่ค่อนข้างรุนแรง สนับสนุนกิจการเอกชน แปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งอุตสาหกรรมและสาธารณุปโภคที่รัฐบาลก่อนๆ ยึดเป็นของรัฐคืนเอกชนด้วยการกระจายหุ้น ลดบทบาทสหภาพแรงงาน ลดภาษีเงินได้ และพยายามจัดตั้งบรรษัทขึ้นดูแลการศึกษาและสาธารณสุขที่เป็นหน้าที่ของรัฐ
     
         เสรีภาพในประเทศจะเกิดไม่ได้ ถ้าไม่มีการค้าที่เสรี
 
       
         ท่านได้รับเลือกกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลวาระที่ 2 ในปี พ.ศ. 2526 โดยได้เสียงข้างมากทั้งๆ ที่อัตราการว่างงานของอังกฤษต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี สงครามฟอล์กแลนด์และความระส่ำระสายของพรรคฝ่ายค้านทำให้ความนิยมแทตเชอร์เพิ่มมากขึ้นและได้รับเลือกกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลวาระที่ 3 ในปี พ.ศ. 2530
         

        ในการที่จะทำอะไรสักอย่างที่ยากเย็นแสนเข็น  ถ้าเรามีใจที่เด็ดเดี่ยว  มีความเชื่อมั่นอย่างมาก ว่าถ้าทำมันสำเร็จแล้ว ดีแน่นอน ถูกต้องแน่นอน  จงทำมันซะ เพราะถ้าคุณชนะความยากลำบากเหล่านั้นมาได้   มันจะกลายเป็น ประสบการณ์ที่มีค่า เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
                 
       
         และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2531 ท่านได้ทำสถิติกลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดในคริสต์ศตวรรษ ที่ 20  ท่านได้รับการขนานนามว่า ลัทธิแทตเชอร์ (Thatcherism) และด้วยเหตุผลที่ท่านเป็นผู้ดึงดันยึดมั่นในนโยบายอย่างมั่นคงไม่ว่าจะถูกคัดค้านจากนักวิจารณ์ว่าอย่างไร รวมทั้งจากการกังขาไม่แน่ใจของผู้สนับสนุนรัฐบาลเองด้วย
     

           ผู้หญิงโชคดีที่มีความอดทนมากว่าผู้ชาย งานหลายๆอย่างถ้าเป็นผู้ชายทำ พอเจอปัญหาก็ไม่เอากันแล้ว ในการเมือง ถ้าหาคนออกความคิดให้ใช้ผู้ชาย ถ้าหาคนทำงานให้ใช้ผู้หญิง

         
       ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2533 สืบเนื่องจากการต่อสู้ภายในพรรคและการถกเถียงโต้แย้งกับฝ่ายค้านในประเด็นที่ท่านไม่ยอมเสียเอกราชในการเข้าเป็นสมาชิกเศรษฐกิจประชาคมยุโรป EU รวมทั้งการเสื่อมความนิยมจากการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับนโยบายผู้มีสิทธิ์ออกเสียง
           
     
        เวลามีคนไม่ชอบเรา ทำดียังไงก็ไม่ดีในสายตาคนเหล่านั้น ยกตัวอย่างถ้าพวกนั้นมาเห็นดิฉันเหาะเหินเดินบนแม่น้ำเทมส์ได้  ก็จะพากันนินทาว่าเพราะดิฉันว่ายน้ำไม่เป็นต่างหาก

   
        หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางตลอดชีพชั้น บารอน ท่านได้ตระเวณปาฐกถาไปทั่วโลกในนามของมูลนิธิแทตเชอร์ และได้ตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติชื่อ "มากาเรต แทตเชอร์: ชีวิตในดาวนิงสตรีท" (Margaret Thatcher: the Downing Street Years) เมื่อปี พ.ศ. 2536

   
          ในช่วงชีวิตดิฉัน คุณจะไม่เห็นผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษอีกแล้ว"                                                                                 มาร์กาเร็ต แทตเชอร์              
   
Source:         จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โพสต์โพสต์