คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 2
ช่วยขยายความหน่อยครับ
รักในหลวงครับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 5
:lovl: (Please expand)
โดนพี่เพื่อนเล่นงานอีกแล้วเรา :lovl:
โดนพี่เพื่อนเล่นงานอีกแล้วเรา :lovl:
รักในหลวงครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 6
คืนก่อนวันสาร์ทจีนคับ เค้าปล่อยมากินของเซ่นไหว้
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 7
อีกหน่อยถ้าคนหันมาเล่นหุ้นมากๆ เวลาผีมาเข้าฝันคงไม่มาบอกเป็นเบอร์ แต่มาบอกเป็นอักษรภาษาอังกฤษ 3-5 ตัวแทน เหอๆ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 8
อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง ขอบคุณครับjaychou เขียน:คืนก่อนวันสาร์ทจีนคับ เค้าปล่อยมากินของเซ่นไหว้
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
คืนนี้เป็นคืนปล่อยผีคับ
โพสต์ที่ 10
ผมไม่มีความสามารถทางจิต ในการระลึกชาติหรอกนะครับ)
แต่ขอลองเสนอให้พิจารณาว่า มีคนทำได้จริงหรือไม่
ขณะที่ผมกำลังอ่านข้อความที่ใครบางคนโพสต์เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
สิ่งที่ผมได้เข้าไปรู้ ก็คือ ความคิดของคนนั้น ในเวลานั้น (เมื่อวาน)
เพียงแต่มี (สื่อ) หรือ อะไรบางอย่างเก็บสะสมข้อมูลไว้
แล้วก็เอา (สื่อ) หรือ อะไรบางอย่างดึงข้อมูลนั้นออกมาทีหลัง
เราก็จะรู้ถึงสภาวะของสิ่งๆ หนึ่ง ในขณะเวลาหนึ่ง
เป็นการย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในอดีต
แม้ภาพวาดบนฝาผนังถ้ำ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้หนังสือ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้ม้วนเทป ม้วนวีดีโอ ก็คือ สิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้แผ่นเพลง แผ่นซีดี ก็คือ สิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้ฮาร์ดดิสก์ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แต่นี่คือสิ่งที่ได้บันทึก ที่เก็บไว้ใน (รูป) อย่างเป็นรูปธรรม
มีการเก็บข้อมูล
ในรูปเส้นสายลายปากกา สี ดินสอ
ในรูปร่องของแผ่นเสียง
ในรูปแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์
ในรูปของสิ่งที่เป็นประจุไฟฟ้า บวก ลบ
ฯลฯ
คนที่เข้าใจ (เรื่องของรูป) อย่างแจ่มชัด ก็สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เป็น(รูป)
ให้สามารถเก็บ และ ดึง สิ่งเก่าๆ ในอดีตออกมาฉายให้ดูได้ในเสี้ยววินาที
จึงสามารถพูดได้ว่า พวกนักวิทยาศาสตร์พวกนี้
สามารถระลึกชาติ โดยผ่านทาง (รูป) ได้
และยังสามารถทำให้คนอื่นๆ ระลึกชาติทั้งของตนเองและของผู้อื่นได้อีกด้วย
เฉพาะคนที่มีสื่อ (ที่เป็นรูป) อยู่ในมือเท่านั้นจึงจะสามารถระลึกชาติกลับไปได้
หากให้คนๆ หนึ่งซึ่งมีกล้องวีดีโอที่เก็บเหตุการณ์ในสมัยอยุธยามาพูดให้อีกคนที่ไม่มีฟัง
ว่าตอนที่รบกันนั้น ใครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน ใครฆ่าใครได้บ้าง
คนที่ไม่มีกล้องก็ย่อมจะไม่เชื่อในสิ่งที่อีกคนได้เห็นผ่านสื่อวีดีโออันนั้น
คนที่ไปเห็นภาพเขียนสีทางประวัติศาสตร์
เขาก็มีสื่อที่เป็น (รูป) อยู่ตรงหน้าของเขานั่นเอง
ในเมื่อ(รูป) ก็สามารถเก็บข้อมูลได้
(นาม) จะเก็บข้อมูลได้หรือไม่
ก็ลองนึกๆ ดูแบบไม่ต้องใช้ (สื่อที่เป็นรูป)
เราก็ยังย้อนกลับไปยังวันเก่าๆ ได้
อาจจะย้อนได้ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี ไม่กี่ชาติ ไม่กี่อสงไขย ฯลฯ
มันก็คือ การกลับไปดึงข้อมูลเก่าๆ ออกมานั่นเอง
คนที่รู้ในเรื่องของ (นาม) อย่างแจ่มแจ้ง
ก็ย่อมสามารถที่จะ ไปดึงเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในอดีต
มาดูได้ในเสี้ยววินาทีเช่นกัน
ผมไม่รู้ในเรื่อง (นาม) มากมายเท่าใดนัก
แต่ก็คิดเอาว่า มันมีศักยภาพ เหนือกว่า (รูป) อย่างเทียบกันไม่ติด
มันมีความคงทนเสียยิ่งกว่า เพชร ที่นับว่าแข็งที่สุดในโลกตอนนี้
ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อาจเก็บได้หลายปี
แต่ (นาม) นั้นบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ยาวนานเสียจนนึกไม่ออกว่านานแค่ไหน
มันบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้อย่างมากมาย
มันสามารถบันทึกได้ แม้ไม่มีอุปกรณ์สำหรับเขียนบันทึก
ทุกๆ ความคิด ทุกๆ การกระทำที่ผ่านมา มันบันทึกไว้หมด
ไม่จำกัดว่า เป็นความคิดของใคร เป็นการกระทำของใคร
และการบันทึกในรูปของ (นาม) อย่างนี้
ก็ไม่ได้จำกัดว่าใครบ้างจะย้อนกลับไปดูข้อมูลเหล่านั้นได้
เหมือนกับที่ได้บันทึกไว้ใน (รูป) นั่นเอง
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า (ความลับไม่มีในโลก)
ก็เลยได้คิดว่า เออนะ..
เราจะทำอะไรที่มัน ชั่วๆ ก็จงมี หิริ โอตตัปปะ
คือความละอาย และเกรงกลัวต่อบาปบ้างก็น่าจะดี
แม้จะไม่อายที่คนอื่นจะมาเห็นในสิ่งแย่ๆ ที่เราทำ
ก็คงจะอายตัวเองหากได้กลับไปรู้ด้วยตัวเอง
แต่บางคนก็ย่อมไม่เชื่อในคนที่มีความสามารถในทางการระลึกชาติด้วยจิต
เหมือนๆ กับ ที่บางคนไม่รู้จักกล้องวีดีโอ ไม่มีเครื่องวีดีโอ
ไม่ได้เห็นภาพอย่างที่คนหนึ่งได้ดูสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา อย่างที่ได้ยกมาเป็นตัวอย่างตอนต้น
เพราะเขาไม่ได้เห็น ในสิ่งที่อีกคนหนึ่งได้ไปเห็นมา
มันก็ถูกแล้ว
หวังว่าท่านคงจะเพลิดเพลิน กับความฟุ้งซ่านของผมนะครับ
..
แต่ขอลองเสนอให้พิจารณาว่า มีคนทำได้จริงหรือไม่
ขณะที่ผมกำลังอ่านข้อความที่ใครบางคนโพสต์เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
สิ่งที่ผมได้เข้าไปรู้ ก็คือ ความคิดของคนนั้น ในเวลานั้น (เมื่อวาน)
เพียงแต่มี (สื่อ) หรือ อะไรบางอย่างเก็บสะสมข้อมูลไว้
แล้วก็เอา (สื่อ) หรือ อะไรบางอย่างดึงข้อมูลนั้นออกมาทีหลัง
เราก็จะรู้ถึงสภาวะของสิ่งๆ หนึ่ง ในขณะเวลาหนึ่ง
เป็นการย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในอดีต
แม้ภาพวาดบนฝาผนังถ้ำ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้หนังสือ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้ม้วนเทป ม้วนวีดีโอ ก็คือ สิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้แผ่นเพลง แผ่นซีดี ก็คือ สิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แม้ฮาร์ดดิสก์ ก็คือสิ่งที่บันทึกเหตุการณ์ในอดีต
แต่นี่คือสิ่งที่ได้บันทึก ที่เก็บไว้ใน (รูป) อย่างเป็นรูปธรรม
มีการเก็บข้อมูล
ในรูปเส้นสายลายปากกา สี ดินสอ
ในรูปร่องของแผ่นเสียง
ในรูปแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์
ในรูปของสิ่งที่เป็นประจุไฟฟ้า บวก ลบ
ฯลฯ
คนที่เข้าใจ (เรื่องของรูป) อย่างแจ่มชัด ก็สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เป็น(รูป)
ให้สามารถเก็บ และ ดึง สิ่งเก่าๆ ในอดีตออกมาฉายให้ดูได้ในเสี้ยววินาที
จึงสามารถพูดได้ว่า พวกนักวิทยาศาสตร์พวกนี้
สามารถระลึกชาติ โดยผ่านทาง (รูป) ได้
และยังสามารถทำให้คนอื่นๆ ระลึกชาติทั้งของตนเองและของผู้อื่นได้อีกด้วย
เฉพาะคนที่มีสื่อ (ที่เป็นรูป) อยู่ในมือเท่านั้นจึงจะสามารถระลึกชาติกลับไปได้
หากให้คนๆ หนึ่งซึ่งมีกล้องวีดีโอที่เก็บเหตุการณ์ในสมัยอยุธยามาพูดให้อีกคนที่ไม่มีฟัง
ว่าตอนที่รบกันนั้น ใครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน ใครฆ่าใครได้บ้าง
คนที่ไม่มีกล้องก็ย่อมจะไม่เชื่อในสิ่งที่อีกคนได้เห็นผ่านสื่อวีดีโออันนั้น
คนที่ไปเห็นภาพเขียนสีทางประวัติศาสตร์
เขาก็มีสื่อที่เป็น (รูป) อยู่ตรงหน้าของเขานั่นเอง
ในเมื่อ(รูป) ก็สามารถเก็บข้อมูลได้
(นาม) จะเก็บข้อมูลได้หรือไม่
ก็ลองนึกๆ ดูแบบไม่ต้องใช้ (สื่อที่เป็นรูป)
เราก็ยังย้อนกลับไปยังวันเก่าๆ ได้
อาจจะย้อนได้ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี ไม่กี่ชาติ ไม่กี่อสงไขย ฯลฯ
มันก็คือ การกลับไปดึงข้อมูลเก่าๆ ออกมานั่นเอง
คนที่รู้ในเรื่องของ (นาม) อย่างแจ่มแจ้ง
ก็ย่อมสามารถที่จะ ไปดึงเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในอดีต
มาดูได้ในเสี้ยววินาทีเช่นกัน
ผมไม่รู้ในเรื่อง (นาม) มากมายเท่าใดนัก
แต่ก็คิดเอาว่า มันมีศักยภาพ เหนือกว่า (รูป) อย่างเทียบกันไม่ติด
มันมีความคงทนเสียยิ่งกว่า เพชร ที่นับว่าแข็งที่สุดในโลกตอนนี้
ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อาจเก็บได้หลายปี
แต่ (นาม) นั้นบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ยาวนานเสียจนนึกไม่ออกว่านานแค่ไหน
มันบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้อย่างมากมาย
มันสามารถบันทึกได้ แม้ไม่มีอุปกรณ์สำหรับเขียนบันทึก
ทุกๆ ความคิด ทุกๆ การกระทำที่ผ่านมา มันบันทึกไว้หมด
ไม่จำกัดว่า เป็นความคิดของใคร เป็นการกระทำของใคร
และการบันทึกในรูปของ (นาม) อย่างนี้
ก็ไม่ได้จำกัดว่าใครบ้างจะย้อนกลับไปดูข้อมูลเหล่านั้นได้
เหมือนกับที่ได้บันทึกไว้ใน (รูป) นั่นเอง
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า (ความลับไม่มีในโลก)
ก็เลยได้คิดว่า เออนะ..
เราจะทำอะไรที่มัน ชั่วๆ ก็จงมี หิริ โอตตัปปะ
คือความละอาย และเกรงกลัวต่อบาปบ้างก็น่าจะดี
แม้จะไม่อายที่คนอื่นจะมาเห็นในสิ่งแย่ๆ ที่เราทำ
ก็คงจะอายตัวเองหากได้กลับไปรู้ด้วยตัวเอง
แต่บางคนก็ย่อมไม่เชื่อในคนที่มีความสามารถในทางการระลึกชาติด้วยจิต
เหมือนๆ กับ ที่บางคนไม่รู้จักกล้องวีดีโอ ไม่มีเครื่องวีดีโอ
ไม่ได้เห็นภาพอย่างที่คนหนึ่งได้ดูสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา อย่างที่ได้ยกมาเป็นตัวอย่างตอนต้น
เพราะเขาไม่ได้เห็น ในสิ่งที่อีกคนหนึ่งได้ไปเห็นมา
มันก็ถูกแล้ว
หวังว่าท่านคงจะเพลิดเพลิน กับความฟุ้งซ่านของผมนะครับ
..