เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
"ศาสตร์"แห่งการยิงลูกโทษ
เมื่อการแข่งขันฟุตบอลโลกล่วงเข้าสู่รอบน็อคเอ๊าต์ หรือรอบแพ้คัดออกอย่างเช่นในปัจจุบัน ประเด็นหนึ่งที่พูดถึงกันมากและอาจกล่าวได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่บีบคั้นหัวใจที่สุดประการหนึ่งของกีฬาลูกหนังยุคปัจจุบันก็คือการ **ยิงลูกโทษ** นั่นเอง
การยิงลูกโทษที่ว่าไม่ได้จำกัดแค่การดวลจุดโทษช่วงท้ายเกมหลังจากหาข้อสรุปไม่ได้ในการดวลกันนาน 120 นาทีเต็มแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการยิงลูกโทษในเกมที่ทำเอาบางคนแทบสติแตกไปเลยก็มี
เหมือนอย่าง เฮนริก ลาร์สสัน กองหน้าดาวยิงชาวสวีดิชที่ปกติหนักแน่นมั่นคงและหวังผลได้ แต่กลับยิงลูกโทษสำคัญข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อในสถานการณ์สำคัญของรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับเจ้าภาพเยอรมนีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
...กล่าวกันว่า ระยะห่าง 12 หลาจากจุดโทษไปถึงหน้าปากประตู และแนวคิดเรื่องการ **วัดดวง** ของนายทวาร กับการ **วัดใจ** คนเตะนี้ ไม่เพียงตรึงแฟนบอลทั่วโลกให้กลั้นหายใจเพื่อลุ้นช่วงเวลาไม่กี่วินาทีดังกล่าวแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังจับความสนใจของนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยมาทุกยุคทุกสมัยอีกด้วย
ไม่เพียงแค่นักวิทยาศาสตร์การกีฬาเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าว แม้แต่ **นักเศรษฐศาสตร์** เองก็มีมุมมองต่อศาสตร์และศิลป์แห่งการยิงลูกโทษด้วยเช่นกัน เพราะหากคิดกันในแง่วิชาการแล้ว องค์ประกอบของการยิงลูกโทษก็อาศัยไอเดียเดียวกับหลักเศรษฐศาสตร์ นั่นคือ หา **จุดร่วม** ที่ลงตัวที่สุด เพื่อให้เกิดผลตามที่ต้องการ โดย **ผลลัพธ์** ที่จะออกมามีเพียง 2 อย่าง คือ ยิงได้หรือยิงไม่ได้เท่านั้น
เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนมีทักษะและความถนัดที่แตกต่างกันไป **สูตร** การยิงของแต่ละคนก็ต้องต่างกันออกไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากสรุปตามหลักวิชาการแล้ว เวลาที่ผู้เล่นซึ่งมีความสามารถเหมือนๆ กันใช้สูตรเดียวกันในการเตะ (เช่น ทิศทาง ความแรง หรือวิธียิงเหมือนๆ กัน) ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ควรจะเป็นแบบเดียวกัน ในทำนองเดียวกัน ในเมื่อทุกคนย่อมมีสูตรที่ตายตัวของตัวเอง ก็หมายความว่านักเตะคนหนึ่งๆ ไม่สามารถที่จะ **พัฒนา** การเตะลูกโทษของตัวเองให้เลิศเลอเพอร์เฟคต์ไปกว่าสูตรที่ลงตัวที่สุดนั้นได้อีกแล้ว (หรือก็คือถ้าเปลี่ยนวิธียิง อาจจะออกมาแย่กว่าที่เป็นอยู่ได้)
...เพียงแต่ฟุตบอลมันจะลงตัวเหมือนสูตรคณิตศาสตร์อย่างนั้นเชียวล่ะหรือ?
**ปิแอร์-อองเดร แชพโพรี** แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย **สตีเฟ่น ดี. เลวิตต์** แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก และ **ทิโมธี เจ. โกรสโคลส** แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ ได้ร่วมกันทำวิจัยเกี่ยวกับการยิงลูกโทษโดยเก็บสถิติการยิงลูกโทษในฟุตบอลลีกฝรั่งเศสระหว่างปี 1997-1999 และลีกอิตาลีระหว่างปี 1997-2000 ปรากฏว่า ถ้าผู้เล่นเตะแบบไม่ฝืนธรรมชาติ (คือเตะบอลด้วยเท้าขวาไปทางซ้าย และเตะบอลด้วยเท้าซ้ายไปทางขวา) จะมีเปอร์เซ็นต์ยิงเข้าถึง 77 เปอร์เซ็นต์ แต่หากยิงแบบผิดปกติ (คือเตะด้วยเท้าขวาไปทางขวา และเตะด้วยเท้าซ้ายไปทางซ้าย) จะยิงเข้า 70 เปอร์เซ็นต์ และถ้ายิงไปตรงกลางประตู จะมีโอกาสเข้าถึง 81 เปอร์เซ็นต์
ทีนี้ไปพิจารณาสถิติของผู้รักษาประตูกันบ้าง ในกรณีที่นายทวารคิดว่าคนเตะจะเตะแบบผิดธรรมชาติหรือจะเตะมาตรงกลาง จะมีโอกาสที่คนเตะยิงไม่เข้า 27 เปอร์เซ็นต์ แต่หากนายทวารพุ่งไปในทิศที่เป็นไปตามธรรมชาติของคนเตะ นักเตะจะยิงพลาด 24 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
แต่ก็ดังที่กล่าวไปว่า นักเตะแต่ละคนย่อมมีทักษะแตกต่างกันไป นักวิจัยบางคนจึงฃศึกษาลงลึกไปในสถิติเฉพาะบุคคลด้วย
อิกนาซีโอ ปาลาซิออส-อูเอร์ต้า ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบราวน์ เก็บข้อมูลการยิงลูกโทษของนักฟุตบอลในลีกยุโรปรวมกว่า 1,400 ตัวอย่าง ระหว่างปี 1995-2000 โดยเน้นวิเคราะห์ผู้เล่นที่ได้ยิงลูกโทษตั้งแต่ 30 ครั้งขึ้นไป เพื่อหาคำตอบว่า การเคลื่อนไหวของคนเตะกับผู้รักษาประตูจะอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า **คาดเดาได้** หรือไม่
ปรากฏว่าถึงนักเตะส่วนหนึ่งจะมีแพทเทิร์นการยิงที่แน่นอนของตัวเอง แต่โดยมากแล้ว ยุทธวิธีในการยิงลูกโทษ ทั้งฝ่ายนักเตะว่าจะยิงไปทางไหนด้วยเท้าอะไร หรือฝ่ายผู้รักษาประตูว่าจะเลือกพุ่งไปทิศใด กลับเป็นแบบสุ่มและไม่แน่ไม่นอนเสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของปาลาซิออสได้บอกให้เราทราบถึงข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับนักเตะบางคนในฟุตบอลโลกหนนี้ อาทิ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเฒ่าของฝรั่งเศส ซึ่งติดอันดับ 21 จากนักเตะ 22 คนที่ยิงลูกโทษเกิน 30 ลูก โดยมีเปอร์เซ็นต์การยิงเข้า 75 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าค่อนข้างต่ำสำหรับการยิงลูกโทษที่โอกาสเข้ามากกว่าไม่เข้าเช่นนี้
ขณะที่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ของอิตาลีมีเปอร์เซ็นต์การยิงเข้าสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ ติดอันดับ 2 ของตาราง ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ มาร์เซลโล่ ลิปปี้ ในกรณีที่เกมเลยเถิดไปถึงการดวลลูกจุดโทษ
แต่กุนซือทีมอัซซูรี่อาจจะอยากเปลี่ยนเอา จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารมือ 1 ของตัวเองออกก่อนต้องดวลกันถึงตอนนั้นก็เป็นได้ เพราะจากสถิติของปาลาซิออสแสดงให้เห็นว่า บุฟฟ่อน (ในฐานะนายทวารที่เผชิญหน้ากับการป้องกันลูกโทษมาเกิน 30 ครั้งขึ้นไป) โดนฝ่ายตรงข้ามส่องเข้าถึง 83 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นอันดับ 16 จากนายทวารที่ศึกษา 20 คน
...นั่นคือสิ่งที่ตัวเลขและสถิติบอกไว้ แต่สุดท้ายมันจะออกมาเป็นตามนี้หรือไม่ก็คงอีกเรื่องนึง เพราะสภาพจิตใจของนักเตะในเกมลีกที่นักวิจัยทั้งหลายไปเก็บข้อมูลมา คงเทียบไม่ได้กับเกมเวิร์ลด์คัพที่ 4 ปีจะมีให้ดูกันสักครั้งอย่างแน่นอน!!