สมควรหรือไม่ที่สังคมให้ความคุ้มครองบุคคลที่เป็นเยาวชนเพียงแค

[let me try]

เมื่อเวลา 00.15 น. วานนี้ (23 พ.ค.) พ.ต.ต.ธีรภัทร ตรีเภรี สารวัตรเวร สภ.กิ่ง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีผู้หญิงถูกข่มขืนกลางสวนยางพาราเขต หมู่ที่ 2 ต.หลักช้าง กิ่ง อ.ช้างกลาง หลังรับแจ้งได้รายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ. พิทักษ์ คลังจันทร์ ผกก. พ.ต.ท.สมโชค จันทร์มณี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อิสรา เจริญพูล รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ แย้มกลัด สวป.

พบชาวบ้านให้การช่วยเหลือ น.ส.ศิริขวัญ (นาม สมมติ) อายุ 22 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพบอบช้ำ เสื้อผ้าฉีกขาด นั่งร่ำไห้อยู่ในขนำ บนพื้นขนำมีขวดเหล้า ขวดเบียร์ แก้ว เทียนไข ตะเกียงแบบใช้น้ำมันก๊าด ล้มกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ ยังพบคราบอสุจิหยดติดพื้น  

น.ส.ศิริขวัญร่ำไห้ให้การอย่างน่าสงสารว่า ทำงานเป็นช่างเสริมสวยอยู่ต่างจังหวัด กลับมาเยี่ยมบ้านเดิมที่ กิ่ง อ.ช้างกลาง ก่อนเกิดเหตุไปกินข้าวกับเพื่อนที่ตลาดจันดี หมู่ที่ 4 ต.จันดี อ.ฉวาง แล้วขี่จักรยานยนต์มาตามถนนสายจันดี-ช้างกลาง เพื่อจะกลับบ้าน ขณะมาถึงช่วงระหว่างกิโลเมตร 11-12 หมู่ที่ 4 ต.หลักช้าง กิ่ง อ.ช้างกลาง รถน้ำมันหมด  

ระหว่างนั้นมีหนุ่มวัยรุ่น 2 คน ขี่จักรยานยนต์ผ่านมา จึงขอความช่วยเหลือให้ช่วยไปซื้อน้ำมัน โดย น.ส.ศิริขวัญซ้อนท้ายไปด้วย ปล่อยให้เพื่อนที่ไปด้วยกันเฝ้ารถจักรยานยนต์ไว้ แต่เมื่อนั่งรถไปได้ไม่นาน ชายดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปในป่าสวนยาง อ้างว่าเป็นทางลัด แต่กลับพามาที่ขนำ ซึ่งมีผู้ชายนั่งกินเหล้ากันอยู่ 9 คน พอรถจอดก็ชักปืนจี้ลากเข้าไปในขนำ ไล่พวกที่กินเหล้าอยู่ออกไป  

จากนั้นปลุกปล้ำข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง เสร็จแล้วคนอื่นที่รออยู่เตรียมจะข่มขืนต่อ พอดีมีคนงานสวนยางผ่านมาได้ยินเสียงร้อง เข้ามาช่วยไว้ได้ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปหมด หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุสกัดจับคนร้าย จนสามารถรวบตัวได้ 3 คน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร บริเวณหมู่ 6 ต.หลักช้าง กิ่ง อ.ช้างกลาง นำมาให้ผู้เสียหายดู ซึ่ง น.ส. ศิริขวัญชี้ตัวยืนยัน

สอบสวนชื่อนายหลอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายประภาส (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายอ้วน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี โดยนายหลอสารภาพว่า หลอก น.ส.ศิริขวัญไปข่มขืนจริง ส่วนคนอื่นเพียงแต่ลูบคลำเท่านั้น จึงนำตัวทั้งหมดส่งไปควบคุมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราชระหว่างรอการดำเนินคดี  

พ.ต.ต.ธีรภัทร ตรีเภรี สารวัตรเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า นายหลอเป็นลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอ ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเมื่อตอนอายุ 15 ปี เคยก่อคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายนักเรียนหญิงในท้องที่ อ.ฉวาง พออายุ 16 ปี ก่อเหตุข่มขืนและใช้มีดปาดคอผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสในท้องที่กิ่ง อ.ช้างกลาง อยู่ระหว่างประกันตัวทั้ง 2 คดี ชอบตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่น สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือล้วนเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-18 ปี จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

-----------------------------------------------------------

***[นายหลอเป็นลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในอำเภอ ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเมื่อตอนอายุ 15 ปี เคยก่อคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายนักเรียนหญิงในท้องที่ อ.ฉวาง พออายุ 16 ปี ก่อเหตุข่มขืนและใช้มีดปาดคอผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสในท้องที่กิ่ง อ.ช้างกลาง อยู่ระหว่างประกันตัวทั้ง 2 คดี ชอบตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่น สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือล้วนเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-18 ปี]***

สมควรหรือไม่ที่สังคมให้ความคุ้มครองบุคคลที่เป็นเยาวชนเพียงแค่อายุ แต่ใจเป็นสัตว์ การกระทำโหดเหี้ยมทารุณไร้มนุษยธรรม ข่มขืนและเชือดคอลูกสาวคนอื่นตอนอายุ16 แต่กฎหมายให้ความคุ้มครองและประกันตัวออกมาก่อความเดือดร้อนได้ ต้องแบบไหนถึงจะถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญได้ แล้วกฎหมายให้มันชดใช้อะไรแก่ครอบครัวผู้เสียหายบ้าง หรือว่าพ่อรวยแล้วเป็นเยาวชน ให้พ่อมาประกันตัวเรื่องก็จบ อย่างดีก็เข้ารับการอบรมในสถานพินิจ

เข้าใจว่ากฎหมายไม่ได้มีไว้แก้แค้น แต่มีไว้คุ้มครองผู้กระทำผิดหรืออย่างไร ถ้าจะบอกว่าคุ้มครองทุกคนในสังคมก็ดูจะหละหลวมเบาบางเกินไปไหม เปรียบไปก็เหมือนเอาชอล์กขีดเส้นล้อมรอบฝูงสัตว์ร้าย มันคงไม่กล้าข้ามมาหรอก ถ้าจะทำเป็นรั้วไฟฟ้าแบบในเรื่องจูแรสสิคพาร์คมันจะลำบากมากไหม