Paradigms

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จำได้ว่าเคยมีเพื่อนในนี้ท่านหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดคือ HVI เคยกล่าวถึงเรื่องของกระบวนทัศน์(Paradigms) อาจจะที่ห้องเลือกตั้ง..

วันนี้มีบทความอ่านง่ายๆ สบายๆ มาให้อ่านกันคับ..ซึ่งจริงๆแล้วมีคนอธิบายในเชิงวิชาการหลายท่าน นั่นอาจทำให้การอ่านน่าเบื่อหน่าย

อ่านบทความสไตล์มหาชนก่อนดีกว่าคับ...
บทความพิเศษ
อาจารย์ ดร.ตรัย  เป๊กทอง
สำนักวิชาวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

[email protected]

ความคิดนอกกรอบกับพาราดาม (Paradigms )

               
เพื่อนในที่ทำงานของผมทำสีหน้าแปลกใจเมื่อผมใช้เครื่องสแกนเนอร์ถ่ายเอกสาร  หรือใช้เครื่องแฟกซ์เพื่อถ่ายเอกสาร  บางคนเดินเข้ามาเสนอแนะว่าทำไมไม่ไปใช้เครื่องถ่ายเอกสารที่ห้องถ่ายเอกสาร  และผมก็แก้ตัวว่า ขี้เกียจ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับผมบ่อยๆ เมื่อมีงานหลายๆ อย่างกองอยู่บนโต๊ะและต้องเคลียร์ให้เร็วที่สุด  การเดินไปถ่ายเอกสารแค่ 2-3 แผ่นทำให้ผมสิ้นเปลืองเวลามากกว่าการที่ผมต้องแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เครื่องแฟกซ์โต๊ะเลขาฯ ที่อยู่ข้างๆ เพื่อถ่ายเอกสาร  นี่ยังไม่อยากคิดถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตอนไปถ่ายเอกสารที่ต้องรอคิว  ปัญหากระดาษติด หมึกหมด สารพัด

การใช้เครื่องแฟกซ์เพื่อถ่ายเอกสารนี้ถ้ามองในทางบวกถือว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสิ่งที่มีอยู่  เรียกว่าใช้ประโยชน์ให้เกิดคุณค่าสูงที่สุด  เป็นการปรับกระบวนทัศน์จากสิ่งที่เราเคยคิดเคยเข้าใจ  จะเรียกให้ทันสมัยกว่านั้นว่าเป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสก็คงพอจะได้  การมีทัศนคติหนึ่งต่อความคิดอะไรบางอย่างนั้นภาษาวิทยาศาสตร์เรียกมันว่าพาราดาม (paradigms) อาจเป็นกฏหรือข้อบังคับอะไรบางอย่างของสังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่  อาจยกตัวอย่างให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจคำว่าพาราดามจากตัวอย่างของคำย่อ (abbreviation) ดังนี้  เพื่อนผมกำลังจะซื้อ P.C. คุณคิดว่ามันคืออะไรครับระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal computer) หรือว่าไปรษณียบัตร (Postcard)  และเพื่อนหญิงอีกคนหนึ่งกำลังจะไปซื้อ CD  คุณจะรู้ไหมว่าเธอกำลังจะไปซื้อสินค้ายี่ห้อคริสเตียนดิออร์ (Christian Dior) หรือว่าซีดีหนังแผ่น (Compact Disk)

คำย่อนี่แหละครับเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อใช้อธิบายพาราดามของคนในสังคมต่างๆ กัน  คำย่อหนึ่งเมื่อนำไปพูดกับสังคมหนึ่งอาจจะแปลความหมายเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง  แต่เมื่อนำไปพูดกับอีกสังคมหนึ่งอาจจะหมายถึงเรื่องอื่นๆ ก็อาจจะเป็นได้  เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับผู้เขียนที่เมื่อไปประชุมเรื่องใดเรื่องหนึ่งในวงสังคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง  ก็พบว่าผู้ร่วมประชุมได้ใช้คำย่อบ่อยๆ ที่ไม่อาจทราบได้ว่าเขาหมายความถึงเรื่องอะไร และย่อมาจากอะไรเพราะว่าผู้พูดคิดว่าเราที่นั่งประชุมด้วยอยู่ในพาราดามเดียวกัน  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย

คนที่อยู่ในสังคมมักจะใช้พาราดามของสังคมตัดสินว่าสิ่งใดถูก  สิ่งใดผิด

เรื่องบางอย่างถ้าอยู่ในสังคมหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด  ไม่สมควรทำไปเลยก็ได้  แต่ถ้าไปอยู่อีกสังคมหนึ่งที่มีพาราดามต่างกันออกไปจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างเช่นมารยาทในการกินอาหารของชาวญี่ปุ่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 2

โพสต์

2



ที่ต้องซดน้ำซุปเสียงดัง  เวลาเคี้ยวก็จะมีเสียงแห่งความเอร็ดอร่อยเล็ดลอดออกมาด้วยถึงจะมีมารยาทและแสดงให้เห็นว่าอาหารนั้นอร่อย  ผิดกับมารยาทบนโต๊ะอีกหลายประเทศที่ต้องไม่ให้มีเสียงใดใดเวลารับประทานอาหาร  บางประเทศถึงกับต้องเรอให้เจ้าบ้านได้ยินด้วยถึงจะเป็นมารยาทที่ดีของแขกที่มารับประทานอาหารที่บ้านของเขา  ธรรมเนียมปฏิบัติบนโต๊ะอาหารหรือมารยาทบนโต๊ะอาหาร (table manner) ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องพาราดาม

               คนเรามักจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ

               คนในสังคมหนึ่งที่มีพาราดามในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นของตนมักไม่ค่อยยอมเปลี่ยนพาราดามนั้น  เพราะฉะนั้นมันเป็นการง่ายมากเลยใช่ไหมครับที่เราจะปฏิเสธ ความคิดใหม่  เพราะว่าความคิดใหม่มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและบางครั้งเราก็รู้สึกเหนื่อยเมื่อจะเปลี่ยนแปลง  ทำให้มีงานมากขึ้นมากกว่าวิธีเดิมๆ ที่เคยทำกันมา  ความคิดใหม่ๆ จึงมักจะถูกต่อต้านตั้งแต่ในห้องประชุม  บางครั้งความคิดดีๆ ก็ถูกทิ้งขว้างไปอย่างน่าเสียดายเพราะว่าคนเรามักจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอย่างเสมอๆ

นักวิทยาศาสตร์อย่างกาลิเลโอก็เคยเผชิญกับปัญหานี้เมื่อค้นพบความรู้ใหม่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดาวนพเคราะห์ในระบบสุริยะว่าความจริงโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ต่างหาก  หาใช่ดวงอาทิตย์ที่หมุนรอบโลก  แต่กลุ่มคนที่ติดอยู่กับพาราดามเดิมๆ บอกว่าเป็นไปไม่ได้  ความคิดที่ขัดกับพาราดามของคนกลุ่มนี้เลยต้องจบไปพร้อมกับเจ้าของ ความคิดใหม่ นั้น

ยังดีที่หลังจากนั้นมาอีกหลายร้อยปีเมื่อความคิดใหม่นี้ได้รับการยอมรับพร้อมๆ กับวิทยาการสมัยใหม่ที่เข้ามาอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ของธรรมชาติ  กาลิเลโอก็ได้รับคำขอโทษโดยที่เดาได้เลยว่าวิญญาณของกาลิเลโอที่ตายไปแล้วหลายร้อยปีจะได้รับรู้หรือไม่

ความรู้ใหม่หรือนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวัน  สิ่งที่ผู้คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในอดีตกลับมาเป็นไปได้แล้วในปัจจุบัน  เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้ลดละการแสวงหาวิทยาการใหม่ๆ มาตอบสนองตัณหาของตน  ความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นวิถีทางการดำรงชีวิตที่ยิ่งใหญ่  เพราะว่าเมื่อต้องการสร้างสรรค์อะไรมาสักอย่างหนึ่งเราต้องกำจัดเงื่อนไขต่างๆ ให้หมดสิ้นไป  ไม่เช่นนั้นเราก็คงจะทำได้แค่เพียงการลอกเลียนแบบซึ่งเครื่องจักรกลมีความสามารถทางด้านนี้  ต่างไปจากมนุษย์ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง  มีความคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ อย่าลืมนะครับว่า หุ่นยนต์มันไม่รู้ตัวเองว่ามันเป็นหุ่นยนต์  ต่างไปจากมนุษย์เราหรือสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่รู้ตัวตนของตนเอง

นักสร้างสรรค์นั้นเปรียบเสมือนเซลล์ที่ผ่าเหล่า  และพบว่าบางครั้งเซลล์ที่ผ่าเหล่านั้นไม่ได้ให้ผลร้ายเหมือนเซลล์มะเร็งเสมอไป  เพราะผลจากการผ่าเหล่าบางทีอาจจะเกิดเป็นผลดีขึ้นมาได้บ้างเหมือนกัน  และสามารถอยู่รอดได้ในธรรมชาติ  ถ้าสิ่งมีชีวิตไม่เกิดการผ่าเหล่าขึ้นมาเชื่อแน่ว่าทฤษฎีวิวัฒนาการคงไม่อาจเกิดขึ้นมาได้เช่นกัน  
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 3

โพสต์

3



ในโลกของสิ่งมีชีวิตนั้น  แม้เป็นสิ่งมีชีวิตชนิด (specie) เดียวกันก็ไม่อาจที่จะเหมือนกันโดยสมบูรณ์  ย่อมมีลักษณะภายในตั้งแต่ระดับของยีนในพันธุกรรมจนถึงลักษณะภายนอก  รูปร่าง  สัณฐานวิทยา  เพราะว่าสิ่งมีชีวิตต้องการความหลากหลายเพื่อนำพาให้ชีวิตนั้นอยู่รอดได้ในสภาพธรรมชาติที่มีความผันแปรต่างกัน เช่นกัน  สิ่งมีชีวิตที่เด่นที่สุด  แข็งแรงที่สุดย่อมเป็นผู้ชนะตามกฏการคัดเลือกโดยธรรมชาติ  ผู้ที่อ่อนแอจึงถูกธรรมชาติคัดออก

ในการที่จะสร้างสรรค์ชีวิตของนักสร้างสรรค์จึงต้องรู้จักเสาะแสวงหาและบุกเบิกเส้นทางใหม่ๆ ให้กับตนเอง  ต้องมีความคิดที่แยกออกจากกระแสของสังคม  ความคิดตามกระแสนั้นถือว่าเป็นความคิดในระดับต่ำที่สุดเพราะว่าไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เลย  เพียงแต่ทำตามกันไปเรื่อยๆ เหมือนเครื่องจักรแต่กลับหลอกตนเองให้มีความเชื่อว่า  เป็นสิ่งที่ดี ถูกต้องและควรทำตามเป็นแบบอย่าง  เพราะผู้คนในสังคมได้ให้การยอมรับและมอบเกียรติยศให้  มนุษย์เงินเดือนจึงทำตัวคล้ายหุ่นยนต์เข้าไปทุกทีๆ

ในอดีตนั้นนักสร้างสรรค์ทุกๆ ประเภทไม่ว่าจะเป็นนักเขียน  จิตรกร  นักดนตรี  กวี  หรือช่างแกะสลักไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงหรือได้รับการยอมรับจากผู้อื่น  พวกเขามักดำเนินชีวิตในแบบที่ใครๆ มักหาว่าเพี้ยนเพราะว่าทำตัวไม่เหมือนใคร  แต่การกระทำเช่นนั้นเองที่ทำให้พวกเขายังคงสามารถเป็นผู้ที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์อยู่ได้  ความเป็นจริงแล้วทุกๆ ชีวิตควรมีชีวิตอยู่ในแบบฉบับของตนเอง  ไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตเหมือนใครหรือแยแสในการที่ใครๆ จะหาว่าแปลกประหลาดเพราะธรรมชาติได้สร้างสรรค์ให้ทุกชีวิตแตกต่างตั้งแต่เริ่ม

มาถึงวันนี้แล้วคุณพร้อมหรือยังที่จะทำอะไรออกไปนอกเหนือจากพาราดามเดิมๆ ที่คุณกำลังดำเนินอยู่  พร้อมหรือยังที่จะหลุดออกมานอกกรอบที่ขังจินตนาการของคุณเอาไว้  พร้อมหรือยังที่จะทำในสิ่งที่คุณเคยเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้  โดยกำจัดคำว่า เป็นไปไม่ได้ ออกจากพจนานุกรมในสมองของคุณก่อน

หลักการขั้นแรกคือคุณต้องตอบคำถามให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นๆ  อะไรที่ทำให้ผู้คนจดจำคุณได้มากที่สุดในฐานะที่คุณไม่เป็นเหมือนใคร (unique)  อะไรเป็นจุดยืนให้คนอื่นได้รับรู้ถึงความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่ท้าทายสำหรับคุณก็คือต้องพร้อมที่จะทำให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ก็พร้อมที่จะเป็นผู้บุกเบิก  ปัดพาราดามเดิมๆ ทิ้งไป  พร้อมแสวงหาพาราดามใหม่ๆ

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 4

โพสต์

paradigm :

(แพ'ระดิม,ไดม์) n. ตัวอย่าง,แบบชุดแบบ,การสาธิต,ตารางการเปลี่ยนแปลงของคำศัพท์คำหนึ่ง ๆ - Hope

[n.] ตัวอย่าง
ความหมายอื่น : แบบอย่าง, แบบจำลอง
คำไกล้เคียง :    prototype; mold; model - Lexitron
[/b]
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เดี๋ยวนี้ 2 คำนี้ ฮิตนะครับ
1. Shift Paradigm
2. Think out of box

ขอบคุณครับ
บทความอ่านง่ายดีครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 6

โพสต์

น่าจะเป็น Paradigm Shift ครับ คุณ HVI

และ Think out of the Box


เรื่องมารยาทการทานอาหารญี่ปุ่น เคยได้ยินแบบที่ว่าเหมือนกัน
แต่พอไปถามเพื่อนญี่ปุ่นคนนึง เขาบอกเป็นความเข้าใจผิดของชาติอื่น

จริงๆ แล้ว เขาทานกันเรียบร้อยครับ

เลยไม่รู้ว่าใครโม้

นี่ก็ paradigm shift อิอิ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 7

โพสต์

CK เขียน:น่าจะเป็น Paradigm Shift ครับ คุณ HVI

และ Think out of the Box
ขอบคุณครับ พี่ CK  :D
ลองไปตรวจสอบดู

หากพูดให้ถูกจริงๆ ควรจะเป็น
"Thinking out of the box" หรือเปล่าครับ

แต่ Shift Paradigm เนี่ย ผมมองว่าได้ทั้ง 2 แบบนะครับ
Shift เป็นได้ทั้ง Verb และ Noun
เช่น
A shift in paradigm can lead, via the theory-dependence of observation, to a difference in one's experiences of things and thus to a change in one's phenomenal world.
ถ้าเป็น phrase ควรจะเป็น Paradigm Shift เห็นด้วยครับ
แต่ผมมักจะติดปากว่า Shift Paradigm. ยกตัวอย่าง

If you trust your prime minister, you should observe his behavior. Finally, you might be able to shift your paradigm.
"Winners never quit, and quitters never win."
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมก็ไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นกินมูมมามเหมือนกันครับ
(ที่เคยเห็นจะเป็นคนฮ่องกงมากกว่า ซดบะหมี่ จ๊วบๆๆ
ไม่รู้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า)

แต่ได้ยินมาเช่นเดียวกันว่าชาวญี่ปุ่นเขามีประเพณีบนโต๊ะอาหารแบบนี้
ทราบแต่ว่าที่ Fuji เขาไม่แจกช้อนให้ซดน้ำแกง  :lovl:
ตอนไปครั้งแรก นึกว่าเขาลืม
เพื่อนสะกิดบอกว่า เขากินกันแบบนี้ ยกซดเลย...  
นี่ก็ Paradigm Shift ... :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 9

โพสต์

to shift one's paradigm

ถ้าใช้เป็น verb ต้องมีตัวคั่นระหว่าง shift กับ paradigm ครับ

เช่น shift your paradigm, shift the paradigm, shift my paradigm, etc.

ส่วน Think out of the box ใช้ได้ครับ

เช่น

"I don't know how to solve this problem," CK said.
"Think out of the box," repied HVI.

หรือจะเป็น "Try thinking out of the box" ก็ได้ครับ

เอ ทำไม paradigms กลายมาเป็น English class ไปได้นะ :lol:

อ้อ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน คำว่า paradigm เป็นคำที่เท่ห์มากครับ
แต่ตอนนี้ ใช้กันจนเชยไปแล้ว (ที่อเมริกา)
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เดาเอาว่าพี่ CK เป็นอดีตนักเรียนนอก
ตรงนี้สงสัยมานานแล้วครับ ได้โอกาสถาม

HVI : "Why does this stock keep going down everyday?"
CK : "Looking at the management, you will see the answer."
or
CK : "Try looking at the management, you will see the answer."
or
CK "Look at the management, you will see the answer."

BSK : "What 's going on? This is not english class. I 'm talking about the paradigm shift."  :shock:

ผมเห็นใช้กันทั้ง 3 แบบ
หากพูดกันตามไวยกรณ์อังกฤษจริงๆเนี่ย แบบไหนถูกครับ
หรือว่าถูกทั้งหมด แล้วมีข้อแตกต่างกันมั้ยครับ

ขอบคุณครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตอบแบบ snake-snake-fish-fish นะครับ :oops:

CK : "Looking at the management, you will see the answer."

รูปประโยคถูกต้อง แต่ความหมายแปลกๆ ครับ
เพราะ "Looking at the management" เป็น phrase
ที่มีลักษณะเหมือน adverb ควรจะขยาย "will see"
ตัวเด่นจะกลาย see the answer ซึ่งไม่ได้ตอบคำถาม

"Try looking at the management, you will see the answer."

เป็นภาษาพูดครับ มีสองประโยคแต่คั่นด้วย , ซึ่งผิด
ควรจะใช้ ; แทน หรือไม่ก็เพิ่ม and เข้าไปหลัง ,
เป็น

Try looking at the management, and you'll see the answer
หรือ
Try looking at the managment; you'll see the answer

ใช้แบบมี and ความหมายจะตรงกับที่ต้องการมากสุด

"Look at the management, you will see the answer."

เหมือนกันครับ ต้องใส่ ; หรือใช้ and เชื่อมหลัง ,

BSK : "What 's going on? This is not english class. I 'm talking about the paradigm shift."

This is not "an" English class ครับ

ภาษาอังกฤษที่ยากกับคนไทย ผมว่าเรื่อง article (a, an, the, etc.)
จะพลาดกันมากกว่า tense และ singular plural เสียอีกครับ
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 12

โพสต์

bsk(มหาชน) เขียน:paradigm :

(แพ'ระดิม,ไดม์) n.
[/b]

โอ้วววว................
ผมหลงอ่านว่า พา-รา-ดิ๊-จึ้ม อยู่ตั้งนานแน่ะ  :oops:
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 13

โพสต์

[quote="Capo"]โอ้วววว................
ผมหลงอ่านว่า พา-รา-ดิ๊-จึ้ม อยู่ตั้งนานแน่ะ
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 14

โพสต์

CK เขียน:เรื่องมารยาทการทานอาหารญี่ปุ่น เคยได้ยินแบบที่ว่าเหมือนกัน
แต่พอไปถามเพื่อนญี่ปุ่นคนนึง เขาบอกเป็นความเข้าใจผิดของชาติอื่น

จริงๆ แล้ว เขาทานกันเรียบร้อยครับ

เลยไม่รู้ว่าใครโม้

นี่ก็ paradigm shift อิอิ

ผมไปญี่ปุ่น 2 ครั้ง ครั้งแรกอยู่เดือนนึง ครั้งที่สอง อยู่อาทิตย์นึง

จริงๆ คนญี่ปุ่นทานอาหารเรียบร้อย แต่ต้องซดน้ำแกงเสียงดังครับ
งงกันมั้ย  :?:   :!:  :?:

ยิ่งก๋วยเตี๋ยวน้ำ ยืนกินตามข้างทางนี่ ซูด ซ้าดเลย


คือ คนญี่ปุ่นนี่ทานอาหารเร็วมากๆครับ เพราะต้องแข่งกับเวลา
ผมว่าผมทานอาหารเร็วมากแล้ว ทานกับกลุ่มคนญี่ปุ่นนี่ กลายเป็นคนสุดท้ายครับ ส่วนก๋วยเตี๋ยวนี่เสร็จใหม่ๆ จะร้อนมากครับ เค้าไม่รอเย็นก่อน เวลาทาน ยกชามซด เค้าต้องสูดลมเข้าไปด้วยเพื่อ cool down ไม่งั้นปากพอง เลยเป็นที่มาของเสียง (ลองทำดู)

ไม่ใช่เขาตั้งใจทำให้เกิดเสียงครับ

และเขากินเรียบร้อยครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 15

โพสต์

งั้นเอาใหม่นะครับพี่ CK สงสัยมานานแล้วครับ
ไม่อยากเก็บความสงสัยแล้วก็ไม่อยากใช้อย่างผิดๆอีกต่อไป
(ครั้งที่แล้วผมตกไปประโยคนึง เลยใส่ไว้ในนี้เลย)

HVI : "Why does this stock keep going down everyday?"

เพื่อขจัดปัญญาเรื่อง puctuation mark ผมเลยแต่งประโยคใหม่

CK(1) : "Looking at the management. I 'm pretty sure that you will see the answer."
or
CK(2) : "Try looking at the management.  I 'm pretty sure that you will see the answer."
or
CK(3) : "Look at the management. I 'm pretty sure that you will see the answer."
or
CK(4) : "Try to Look at the management. I 'm pretty sure that you will see the answer."

ตามความเข้าใจผมผสมกับคำตอบพี่ CK
ประโยค 3 กับ 4 ถูกต้องตามไวยกรณ์ใช่มั้ยครับ
ส่วนประโยค 2 ใช้ได้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ใช้ในภาษาพูด
ไม่ใช่ในภาษาเขียน
ส่วน ประโยค 1 ไม่นิยมใช้เป็นประโยค
นิยมใช้เฉพาะเป็น phrase ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ...

BSK : "What 's going on? This is not (an/the) english class. I 'm talking about the paradigm shift."
"Winners never quit, and quitters never win."
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 16

โพสต์

คุณ CK   ตอบได้เป็นนักปราชญ์ขอรับ


this is ใช้  an English Class  อยู่ที่ sound  ของคำ ออกเสียงเป็น อิงลิชชช


Your doubt will never end 'til u attend an English class.  I wil tell u what. why don't u talk to CK about the English class of yours when u see him in Value Investor 101 class.
ภาพประจำตัวสมาชิก
let me try
Verified User
โพสต์: 22
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 17

โพสต์

[
HVI : "Why does this stock keep going down everyday?"

เพื่อขจัดปัญญาเรื่อง puctuation mark ผมเลยแต่งประโยคใหม่

CK(1) : "Looking at the management. I 'm pretty sure that you will see the answer."
or
CK(2) : "Try looking at the management.
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 18

โพสต์

3 กับ 4 ก็ไม่ค่อยดีครับ คุณ HVI

เพราะใช้ . ทำให้ทั้งสองประโยคแยกกันเกินไป
ทั้งๆ ที่แต่ละประโยคด้วยตัวมันเอง ความหมายไม่ครบสมบูรณ์

ที่เหมาะที่สุด ผมว่าเป็นอันนี้ครับ

Looking at the management, and you will see the answer.

ส่วน a กับ an ใช้ง่ายมากครับ ถ้าเสียงของตัวตามหลังมันเป็น อ. อ่าง
ก็ใช้ an

เช่น

an hour ago (อาวเออร์ ออกเสียง อ
a european (ยูโรเปี้ยนออกเสียง ย.)

ส่วนความแตกต่างระหว่าง a กับ the

the ใช้กับอันที่เฉพาะเจาะจงครับ

ดังนั้น

This is not the English class ก็ใช้ได้ครับ

เช่น

แต่ถ้าใช้ จะหมายถึงว่า มี English class เดียว
มักจะใช้ในกรอบว่า เรากำลังเรียนเทอมหนึ่งอยู่
ซึ่งมีวิชาภาษาอังกฤษอยู่หนึ่ง class
และเรากำลังอ้างถึง class นั้นครับ

ตามที่คุณ let me try ว่าไว้ครับ

The King of Thailand -- หมายถึงกษัตริย์องค์เดียว
ถ้าใช้ปกติ ก็หมายถึง King Rama IX

ถ้า A King of Thailand -- หนึ่งในกษัตริย์ของไทย
จะหมายถึง one of the past Kings ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 19

โพสต์

BSK :  :ohno:  :shock:  :drink:  :drink:  :bow:
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

Paradigms

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอบังอาจแสดงความเห็นหน่อยครับ
How could I think about a person who advise me like that?
Thank you very much khun "let me try", welcome to this board.

Thanks a lot Dr.Nong, I couldn't see you online today.

And special thanks to P' "CK", I always grasp something when I read your comment.

Finally, I must apologize khun "BSK" that mess up your topic.  :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
โพสต์โพสต์