เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เศรษฐกิจไทยไม่มีเว้นวรรค 5บิ๊กนักธุรกิจฟันธงศักยภาพประเทศสดใส
ไทยรัฐ 24/4/49
แม้ว่าประเทศไทยได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งใหญ่ไปแล้ว
รวมทั้งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศลั่น
เว้นวรรค โดยไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่
แต่ดูเหมือนว่าจนถึง ณ ขณะนี้ สถานการณ์การเมืองไทยยังตกอยู่ในห้วงหลุมดำ ไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายจบลงได้เมื่อไร
ด้วยเหตุนี้ ทั้งจากสถานการณ์การเมืองไทยที่ปะทุหนักมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งได้ลุกลามถึงขั้นมีการชุมนุมใหญ่อย่างต่อเนื่องหลายวันหลายคืนเพื่อประท้วงไล่รัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
รวมทั้งยังมีพายุร้าย 2 ลูกใหญ่ คอยไล่ซัดกระหน่ำเศรษฐกิจไทย นั่นคือ วิกฤติราคาน้ำมันที่พุ่งแรง และกระแสดอกเบี้ยขาขึ้น
จึงได้ทำให้เกิดความกังวลไปทั่วสังคมไทยว่าเศรษฐกิจ ของประเทศไทยในปีนี้อาจจะต้องชะลอตัวลงอย่างน่าเสียดาย
ขณะเดียวกัน ยังเกิดความวิตกว่าความยุ่งเหยิงทางการเมืองนั้น จะทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องทบทวนแผนการลงทุนในไทย
หรืออาจจะถึงขั้นโยกย้ายการลงทุนไปจากประเทศไทย!!
ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจ จึงได้เปิดเวทีให้ 5 บิ๊กบึ้มทางเศรษฐกิจของไทยมาฟันธงว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้
จะออกหัวหรือก้อยกันแน่?!?
ขออย่าให้เจอเซอร์ไพรส์
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ประเดิมด้วยความเห็นจากบิ๊กบอสธนาคารยักษ์ใหญ่สุดของไทย
นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ชี้เปรี้ยงว่า
เศรษฐกิจไทยโดยตัวของมันเอง น่าจะไปได้ดี ไม่ประสบปัญหาวิกฤติอะไรมากนัก
ก่อนอื่นอยากจะย้ำว่าเรื่องขั้นตอนของเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการอ่านสถานการณ์ เศรษฐกิจ เพราะในเรื่องของเศรษฐกิจนั้น ถ้าจะพูดกันให้มีความหมายแล้ว ก็จะต้องพิจารณากันในระยะที่ยาวพอสมควร เช่น 2-3 ปี หรืออย่างน้อยก็ 1 ปี
แต่ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังมีปัญหาด้านการเมืองอยู่ คำถามที่เห็นได้ชัดคือหลังเลือกตั้งแล้ว เราจะมีรัฐบาลที่สมบูรณ์แบบได้หรือไม่ และปัญหาจะยุติลงหรือไม่ เมื่อไร และอื่นๆอีกมากมาย
ประเด็นคำถามเหล่านี้ก็คือ เครื่องบ่งชี้ถึงความไม่แน่ใจ หรือการขาดความเชื่อมั่นในสถานการณ์ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจและคนค้าขายทั่วไป
แต่ถ้ามองในมุมของนักอุตสาหกรรมและนักลงทุนใหญ่ๆจริงๆแล้ว ก็มักจะให้ความสำคัญกับภาพในระยะยาวมากกว่าในระยะสั้น โดยระยะยาวก็ต้องรวมถึงสภาวะในประเทศและในตลาดโลกด้วย
ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในขณะนี้มีปัญหาใหญ่อยู่ 2 เรื่อง คือ ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย ส่วนภาพในระยะยาวของเศรษฐกิจไทยดูดีมาก
ส่วนในระยะสั้น คือ ช่วงนี้แม้จะผ่านพ้นการเลือกตั้งมาแล้วก็ยังคงจะมีเรื่องชักกระตุก หรือแกว่งไกวบ้างเล็กน้อยตามสภาวะทางการเมืองของไทย แต่การปรับตัวดังกล่าวน่าจะเป็นการชั่วคราว ไม่มีอะไรน่าห่วง
เจ้าสัวชาตรีย้ำว่า ข้อสำคัญคือ อย่าให้มีอะไรเซอร์ไพรส์มากเกินไปก็แล้วกัน นักธุรกิจไม่ชอบการเซอร์ไพรส์!!
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ไทยแลนด์ ชิล ชิล
ด้านเจ้าพ่ออุปโภคบริโภครายใหญ่สุดของไทย
นายบุญเกียรติ โชค-วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ ก็แสดงความมั่นใจเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้
ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยตลอดปีนี้ยังไปได้ดี สถานการณ์การเมืองไม่น่าจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจรุนแรง
ที่ดูเหมือนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคหดหายไปจากระบบเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ ไม่ใช่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี แต่เกิดจากผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายซื้อสินค้าและสังสรรค์ ซึ่งเป็นผลจากข่าวสารต่างๆที่ออกมาในภาพลบ
แต่เชื่อว่าในเร็วๆนี้สถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น ไม่ปะทุยืดเยื้อยาวนานเหมือนเมื่อปี 2540 ที่ประเทศไทยได้ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ
นายบุญเกียรติกล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเวลานี้ หากเทียบกับปี 2540 ยังถือว่าห่างกันหลายสิบเท่า หรือจะเรียกว่าเด็กๆ หรือ ชิล ชิล ก็ได้!!
เพราะที่ผ่านมาคนไทยเจอวิกฤติหนักกว่านี้มาก อย่างไร ก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยเวลานี้ถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นมาก และดีขึ้นมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
เพราะประเทศไทยมีการปรับตัว มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเยอะมาก ไม่ได้อยู่ในกะลา เศรษฐกิจไทยถือว่าได้มีการพัฒนามาโดยตลอด และดีมาโดยตลอดด้วยเช่นกัน
กล่าวได้ว่าศักยภาพประเทศไทยดีมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
แต่ถ้าบอกต้องดีเพื่อสู้กับสิงคโปร์ มาเลเซีย เราก็ต้องดูสภาพตลาด ก็เพราะ 2 ประเทศนั้นเล็กนิดเดียว ดังนั้นจะมาบริหารเหมือนกันได้อย่างไร ขอยืนยันว่าถึงเวลานี้ประเทศ ไทยไม่ได้แย่
เจ้าพ่ออุปโภคบริโภคกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพอเกิดปัญหาทาง การเมืองขึ้น ก็มักจะมีคนตกใจ และมีพวกบ้าจี้ที่คอยซ้ำเติมสถานการณ์ในประเทศ พร้อมออกมาพูดว่าเศรษฐกิจไทยแย่แล้ว
ในส่วนของนักลงทุนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติก็มี 2 กลุ่ม ทั้งพวกที่บ้าจี้และไม่บ้าจี้ แต่นักลงทุนที่รู้ประวัติประเทศไทยว่าเคยผ่านวิกฤติหนักกว่านี้มาแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเด็กๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรรุนแรง
นายบุญเกียรติกล่าวว่า หากการเมืองสงบแล้ว ผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ก็ต้องมีความหนักแน่นด้วย เพราะหากการเมืองดีและสงบแล้ว แต่ขาดผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมาบริหารประเทศก็คงลำบาก เศรษฐกิจคงแย่เหมือนกัน
การบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้หมด และภายใต้การเมืองไม่มีใครทำอะไรแล้วไม่มีคนวิจารณ์ สิ่งสำคัญผู้นำประเทศต้องหนักแน่น อย่างไรก็ตาม หากผู้นำมีวิสัยทัศน์ที่ดี ประชาชนชื่นชอบทุกอย่างก็ไปได้สวย
สำหรับในสายตาของนักลงทุน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่มองประเทศไทยดีมาก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจมองว่าดีขึ้นเรื่อยๆ และมองว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยเจอปัญหาหนักกว่านี้มาก
ในส่วนของเครือสหพัฒน์ที่มีบริษัทในเครือกว่า 300 บริษัท ก็ไม่ห่วงว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องการลงทุนก็คงทำต่อเนื่อง ไม่มีการชะลอแผนลงทุนแน่นอน
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ฝรั่งทึ่งการเมืองไทย
คำกล่าวของนายบุญเกียรติ เจ้าพ่อตลาดอุปโภคบริโภครายใหญ่สุดของไทย ในเรื่องมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ยังสดใสนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผิดไปจากความจริง
แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกนี้ ประเทศไทยจะประสบวิกฤติการเมืองที่อึมครึม ขณะที่พิษราคาน้ำมันและดอกเบี้ยขาขึ้นจะยังคงตามหลอกหลอนเศรษฐกิจไทยอยู่ในขณะนี้ก็ตาม
โดย
นายคาร์ล-ไฮนซ์ เฮคฮาวเซ่น ประธานหอการค้ายุโรป ประธานหอการค้าไทย-เยอรมัน และประธานบริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวยืนยันว่าความอึมครึมของการเมืองไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่มีการเดินขบวนครั้งใหญ่ รวมทั้งการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนั้น
ไม่ถือเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับนักลงทุนต่างชาติ!!
ตราบที่ไม่มีการปฏิวัติ รัฐประหาร ไม่มีทหารเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย
ขอยืนยันว่านักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนยุโรป มองเห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยในช่วงนี้เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย และยังถือเป็นการพัฒนาทางการเมืองไทยอีกด้วย
แถมยังอดทึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ทำไมการชุมนุมทางการเมืองของไทย ซึ่งมีประชาชนมาร่วมด้วยเป็นจำนวนมหาศาล มีการชุมนุมประท้วงกันหลายวันหลายคืน แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่มีการจลาจล หรือเหตุการณ์ความรุนแรงเลย
ไม่เหมือนการประท้วงในหลายประเทศ ขนาดที่ฝรั่งเศสก็ยังมีความรุนแรงถึงขั้นจลาจล
การที่ประเทศไทยมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสงบเรียบร้อย จึงยิ่งเป็นเครดิตหนุนส่งให้นักลงทุนต่างชาติอยากจะเพิ่มการ ลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
โดยจุดหนึ่งที่นักลงทุนต่างชาติมองเห็นว่าไทยได้เปรียบมากกว่าหลายประเทศ ก็คือการที่ไทยมีสถาบันกษัตริย์ที่เข้มแข็ง มีพระมหากษัตริย์ที่เป็นที่รักยิ่งของคนไทย ถือเป็นศูนย์รวมของคนไทยทั้งประเทศ
ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำท่าว่าจะเลวร้ายขึ้นในไทย แต่นักลงทุน ต่างชาติก็เชื่อว่าสุดท้ายก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีทุกครั้ง เพราะบารมีของ ในหลวง นั่นเอง
เศรษฐกิจไทยในสายตาของนักลงทุนต่างชาติจึงเป็นบวก เพราะมีศักยภาพที่น่าลงทุนอย่างมาก
ดังจะเห็นได้จากตลาดรถยนต์ แม้ว่ายอดขายรถยนต์นั่งจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะตลาดรถกระบะ 1 ตัน ยังมียอดขายขยายตัว ถือเป็นตัวสะท้อนว่าเศรษฐกิจของไทยยังมีพื้นฐานที่ดี แม้ว่าจะมีปัญหาการเมืองอึมครึม ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยขาขึ้นก็ตามที
โดยขณะนี้ทิศทางการลงทุนของต่างชาติในไทยมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!!!
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เปรี้ยงไทยโต 4.5-5.5%
ขณะที่มุมมองของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก็มีความเห็นในเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้ว่าช่วงนี้จะประสบปัญหาหลายด้านก็ตาม
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ รองประธาน ส.อ.ท. ตัวเต็งเบอร์หนึ่งที่จะขึ้นเป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ในวันนี้ (วันที่ 24 เม.ย.) กล่าวอย่างมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 4.5-5.5%
เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาไทยเผชิญสารพัดปัญหาทั้งคลื่นยักษ์ สึนามิ ไข้หวัดนก จนทำให้อุต-สาหกรรมท่องเที่ยวหดตัว แต่ก็ยังพอประคับประคองเศรษฐกิจไปได้
ขณะที่ในปีนี้ประเทศไทยปลอดภัยจากไข้หวัดนก ส่วนความ เสียหายของคลื่นยักษ์สึนามิก็ได้รับการเยียวยาไปส่วนหนึ่ง ที่แม้ว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวยังลดลงบ้าง แต่ในภาคอุตสาหกรรมกลับพบว่าคำสั่งซื้อจากต่างประเทศได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.จนถึงเดือน เม.ย.นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ รองเท้า เครื่องประดับ จิวเวลรี่ อาหารสำเร็จรูป กุ้งสด ไก่สดแช่แข็ง
ทั้งนี้ จากการสอบถามสมาชิกของ ส.อ.ท.ก็ยังยืนยันว่าคำสั่งซื้อยังคงทยอยเข้ามาทุกเดือน เนื่องจากประเทศจีนในฐานะคู่แข่งรายใหญ่ของไทย ในสินค้าเหล่านี้กำลังเผชิญแรงกดดันกีดกันสินค้าจีนของผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกคือ สหรัฐฯและสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้ไทยได้รับอานิสงส์ในเรื่องนี้
หนุนส่งให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเหล่านี้ คาดว่าในปีนี้จะเติบโตจากปีที่ผ่านมา 15% หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท จากยอดขายปกติของทุกๆปี
จึงเป็นหนึ่งในตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อไป!!
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เมืองไทยยังไปได้สวย
ด้านคนดูแลกองทุนยักษ์ใหญ่บิ๊กบึ้มของไทยอย่าง
นายวิสิฐ ตันติ-สุนทร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ กบข. กองทุนขนาดยักษ์ที่มีเงินทุนกว่า 300,000 ล้านบาท ก็มองภาพเศรษฐกิจไทยปีนี้ในแง่ที่ดี
โดยนายวิสิฐฟันธงว่า ถึงแม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะไม่ได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี เพราะปัญหาทางการเมืองอึมครึมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีนี้ไม่ได้อยู่ในคาดการณ์ของ กบข. โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ดีที่สุดเติบโตไม่เกิน 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
จึงทำให้กลยุทธ์การลงทุนของ กบข.ต้องเปลี่ยนไป เพราะอัตราผลกำไรสุทธิต่อมูลค่าหุ้นทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียนคงไม่ดีเท่าปีที่แล้ว
เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนจับจ่ายใช้สอย และผู้ ประกอบการที่จะเพิ่มการบริการ หรือลงทุนใหม่ๆ ออกมาในช่วงนี้จนถึงสิ้นปี จึงทำให้ภาพรวมของตลาดไม่คึกคักและไม่สามารถที่จะกระตุ้น หรือเพิ่มยอดรายได้ให้กับบริษัทของตนเองได้มากนัก
แต่พื้นฐานเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ยังไปได้สวย ไม่มีอะไรที่น่าห่วงมากนัก
เนื่องจากปัจจัยภายนอกเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก หรือขึ้นลงอย่างรวดเร็วเหมือนกับปีที่แล้ว เช่น ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง
ดังนั้น ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศยังไปได้ด้วยตัวของมันเอง!!!
ทีมเศรษฐกิจ