นิยาย รหัสลับ value investor
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๔
โพสต์ที่ 2
บทที่ ๔
แมลงวันติดสารนิโคตินตัวหนึ่งกำลังตอมเศษขี้ยาเส้นที่บ้ฟเฟททำล่นไว้บนโต๊ะ เขาเติมยาเส้นยัดลงกล้องเข้าไปอีกอย่างช้าๆ แล้วอธิบายความคิดของตัวเอง
ผมคิดว่าเศรษฐกิจที่ไร้สมดุลกระทันหันนี้มีความซับซ้อนน้อยกว่าที่ผมรู้สึกในตอนแรกอยู่มากโข
ใช่ ใช่ เอาเข้าจริงแล้ว น้อยกว่านั้นมากๆ ดร. นิเวศน์ย้ำซ้า
ผมพูดถึงว่า ไร้สมดุล เพราะในความคิดผมมันมีแค่เรื่องเดียว ราคาทองคำ โลหะเงิน ทองแดง สังกะสี และน้ำมันที่ต่างมีราคาทะลุระดับสูงสุด กดดันการพุ่งขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า, ความกังวลในสภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ และ---ที่ผมไม่ลืม---ความลึกลับของเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ด้งนี้แล้ว ในความคิดของผม ทั้งหมดที่ต้องทำคือค้นให้พบสายโซ่ที่ร้อยเชื่อมภาคส่วนต่างๆให้เป็นเรืองเดียวกัน เป็นข้อเท็จริงที่จะพิสูจน์ความเป็นหนึ่งเดียวของแบบแผนวีธีการทั้งหมด การเผิกเฉยของคุณทิวาวงศ์ผู้บัญชาการการเงินการคลัง ซึ่งมีความคิดเห็นที่ออกจะผิวเผิน---มองเห็นความเป็นหนึ่งเดียวนี้ไปในเรื่องการผันผวนชั่วคราวตามปกติเพื่อเข้าจุดดุลยภาพใหม่ ทำให้ผมไม่พอใจ
แล้วที่นี้?
ที่นี้ ในความคิดของผม บัฟเฟทตอบตรงไปตรงมา ลักษณะของเหตุการณ์ตื่นเต้นทั้งหมดเป็นฝีมือเฉพาะตัว การจงใจวางแผนของคุณ แม้จะยังไม่เป็นที่เข้าใจกัน---เพื่อสร้างเหตุการณ์นั้นขึ้นในสถานที่ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุณได้เลือกไว้แล้ว.....เรื่อง
เพื่อที่จะโผล่มาอีกครั้ง ในที่ที่พิลึกเช่นที่นี่ โรซอสหัวเราะ
เรื่องนี้มีสิ่งที่อยู่เหนือกว่าการวางแผนสิ่งนั้นคือความจำเป็น----เงื่อนไขอย่างหนึ่งซึ่งชี้ขาดความสำเร็จ
คุณจะไม่ลองสาธยายให้ฟังสักหน่อยหรือ
สบายมาก ถ้าคุณไม่ขัดจังหวะผมพูดอีก.....ก็อย่างเช่น ตั้งแต่แรกคุณรู้ว่านักเศรษฐศาสตร์อย่าง คุณทิวาวงศ์เป็นพวก Keynesianism ที่ใช้แบบจำลองเศรษฐมิติขนาดใหญ่เพื่อพยากรณ์ผลลัพธ์ของการดำเนินนโยบายการเงินการคลังว่า แบบจำลองเหล่านั้นถูกประมาณค่าจากข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต และสมมุติว่าพฤติกรรมของคนในระบอบเศรษฐกิจจะเหมือนเดิม แต่แท้จริงแล้วพฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไปมากเนื่องจากนโยบายประชานิยมใช้จ่ายเกินตัว ที่รัฐบาลนี้นำออกมาใช้ การพยากรณ์โดยพึ่งพาแบบจำลองเศรษฐกิจอย่างเดียวจึงอาจให้ภาพที่บิดเบือน ผมอ่านใจคุณออก หลายปีที่ผ่านมา คุณพยายามเผยแพร่แนวความคิดของในหนังสือของคุณ แต่ในมุมมองของคุณทิวาวงศ์ ไม่ได้เห็นภาพนายโรซอสเป็นนักคิดที่น่าเลื่อมใสแต่ประการใด บัฟเฟท หยุดพูดแป๊ปหนึ่งเพื่อเกาปาก
ขอโทษที่ต้องพูดแทงใจดำ แนวความคิดคุณแตกต่างจากทฤษฎี Efficient Market Hypothesis ซึ่งเป็นเสาหลักของการเงินยุคทักษิโณมิคมากเกินไป มันเรียกเสียง ยี้ จากนักเศรษฐศาสตร์ผู้เกรียงไกรอย่างเขาได้ไม่ยาก ทั้งๆที่คุณพยายามกระตุ้นให้เขาลองหันมาวิเคราะห์สนใจทฤษฎีของคุณบ้าง
ใช่ สิ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ จึงไม่สามารถแสดงสูตรคณิตศาสตร์ให้คนอย่างนั้นตื่นตาตื่นใจได้ โรซอสยืนยันความเชื่อมั่นในทฤษฎีของเขา เพราะมันเป็นเคล็ดลับวิชาการทำเงินจากการลงทุนของเขา
บัฟเฟทติดลมบนยังไม่หยุด อธิบายต่อ
คุณเชื่อว่า Keynesian มีจุดบกพร่อง ชอบนำวิธีทางวิทยาศาสตร์มาใช้แยก ความจริงก็คือมนุษย์อึเหม็นอย่างคุณกะผม ออกจาก ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่นบัญชีเดินสะพัด คุณรู้ว่าพวกเขาภูมิใจสาขาของพวกเขาว่ามีความเป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด การศึกษาเกี่ยวกับคนเป็นการศึกษาทางสังคมศาสตร์ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ คนมีความคิดทำให้ไม่สามารถแยกการศึกษาระหว่างตัวเลขเหล่านั้นออกจากคนได้ เพราะการรับรู้ถึงตัวเลขต่างๆที่ประกาศออกมา มีผลกระทบต่อจิตวิทยาของคนที่ปรากฏ ระบบเศรษฐกิจที่มีคนจำนวนเป็นล้านเป็นผู้เล่นอยู่จึงไม่สามารถเข้าสู่ดุลยภาพตามที่คุณทิวาวงศ์กล่าวอ้างได้ แต่มักจะอยู่ในภาวะไร้ดุลยภาพสลับไปสลับมาอยู่ตลอด ความจริงก็คือภาพสะท้อนนั้นไม่เคยเป็นภาพเดียวกัน อย่างที่คุณทิวาวงศ์เข้าใจ ความแตกต่างกันของภาพทั้งสองนี้เองที่คุณใช้เป็นเครื่องมือหาเงิน ถูกไหม
ฮ่า..ฮ่า...นับถือ ด้วยความคารวะจากผม
เชอะ! บัฟเฟทอุทานเมื่อได้รับการเยินยอ แค่ความคิดใคร่ครวญนิดๆ หน่อยๆเอง บัฟเฟทหน้าแดงปลาบปลื้ม
เมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งหาเงินที่ หมู แล้วยังเป็นเสมือนห้องทดลองเพื่อทดสอบวิชาของผมอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่สำคัญ ผมจะใช้วิชาภาพสะท้อนที่บรรลุขั้นสูงสุดของผม ลงโทษรัฐบาลไทยที่ประพฤติตรงข้ามดื้อดึงสู้หัวชนฝากับแนวความคิดผม ชักนำประเทศเข้าสู่วิกฤตหายนะอีกครั้ง ผมจะให้รางวัลแก่ประเทศที่เชื่อฟังผม อย่าง มาเลเชลีย ไงละ ครั้งก่อนผู้นำหัวรั้นอย่างมาหาเดะ ยังรู้จักประจบประแจงเชลียผม เพื่อเอาตัวรอด เขาฉลาดมากที่รู้จักเจรจาต่อรองกับผม คนอย่างทิวาวงศ์ไม่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์ที่พยายามขับรถไปข้างหน้า โดยชอบมองกระจกหลัง เขาขาดจินตนาการ เชื่อผิดๆว่าผมจะใช้รูปแบบยุทธวิธีเดิมๆเหมือนครั้งที่แล้วอีก ยิ่งมีความเชื่อมั่นในแบบจำลองไร้ชีวิตที่ปั่นตัวเลขออกมามากเท่าใด โอกาศที่เขาจะขับรถตกเขาก็มีมากเท่านั้น โรซอสดูเบิกบานแล้วพูดต่อ
ถึงแม้คุณถอดรหัสความคิดรู้เคล็ดลับวิชาผม แต่คุณไม่รู้กระบวนท่ากลยุทธ์การหาจังหวะโจมตีของผม ผมสาบานได้ว่าคุณเอาชนะ Untouchable อย่างผมไม่ได้หรอก ลาก่อนนะ ผมไม่มีเวลาจะเสียแม้แต่นาทีเดียว
ทำไมผมจะไม่รู้ มันง่ายมาก เป็นเพียงปัญหาอะไรเอ๋ยสำหรับทายเด็ก ป.4 เท่านั้น บัฟเฟทท้วงก่อนโรซอสจะผละจากไป กลยุทธ์ของคุณที่ทำคือจับ Trend ความปั่นป่วนให้ได้ก่อนคนอื่น แต่สิ่งที่แตกต่างคือคนอื่นที่อาจเห็น Trend เหมือนกันจะเริ่มทำกลยุทธ์อย่างละนิดอย่างละหน่อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรคนอื่นจะแห่ตามมา ซึ่งเป็นการหาจังหวะตลาดสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคุณ
ดังนั้น?....
ดังนั้น.... บัฟเฟทใช้เวลาคิดคำตอบราวกับว่าเขาพึ่งคิดออก ในที่สุดก็ลองเสี่ยงพูดว่า ดังนั้นคุณจะ ทุ่ม สุดตัวแบบบ้าคลั่ง คุณเชื่อว่าความคิดของคุณ เปลี่ยนตลาดได้ แต่คุณไม่ใช่ชาวสวน ทีชอบสวนตลาด คุณเป็นชาวไล่ต่างหาก คุณจะทั้งไล่ทั้งเร่งกระทืบเท้าให้การเก็งกำไรเกิดก่อนปกติ ทำกำไรมหาศาลจากการเข้าและออกจากตลาดก่อนคนอื่น นี่เองที่ทำให้คุณเป็นนักลงทุนที่ค่อนข้างสังคมรังเกลียดทั่วโลก เมื่อเทียบกับผม value investor no 1 ของโลก บัฟเฟทยิ้มเยาะ
ที่ชอบฉวยโอกาศช้อนหุ้นเก็บ โรซอสแทรกขึ้น เวลาตลาดตกต่ำจากการกระทำของผม คุณจะช้อนหุ้นเก็บ เป็นคนคอยอุ้มตลาด ทุกคนจะคิด ยกย่องคุณเป็นอัศวินม้าขาว คุณหลอกผมไม่ได้ มีแต่พวกโง่เขลาเบาปัญญา
หมายความว่า......? บัฟเฟทถาม
หมายความว่า.....คุณเข้ามาเก็บหุ้นนานแล้ว ตั้งแต่ปี2540 คุณให้ใครบางคนไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ เกาะ บริติช เวอร์จิ้น จากนั้นก็ใช้ฃื่อบริษัทแปลกๆของคุณไปเปิดบัญชีกะโบรกเกอร์ต่างประเทศหลายบัญชี พร้อมกับตั้งตัวแทน ทรัสตี้ ขึ้นมาดุแลผลประโยชน์ ขบวนการต่อไปคุณโอนเงินไปพักไว้ที่สิงคโปร์ ผมรู้ กองทุนเทมาเสก มันไม่ใช่เงินของรัฐบาลทั้งหมดหรอก มันมีเงินของคุณด้วย จุดหมายปลายทางคือตลาดหุ้นไทย หุ้นนาย ก. มันเป็นของคุณตั้งแต่แรก ตอนนี้แค่ส่งมอบคืนเจ้าของที่แท้จริงเท่านั้น
นี่คุณมาเล่านิทานอะไรให้ผมฟัง ไม่มีใครเชื่อคุณเรื่องนี้หรอก
และคุณมาที่นี่ก็เพื่อปกป้องผลโยชน์ของคุณ ไม่ใช่มาเพื่อประเทศนี้อย่างที่คนอื่นเข้าใจ
สายตาที่ชายสองคนมองกันและกันช่างดูลึกล้า เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นตีนไก่ เต็มไปด้วยการยั่วยุแบบเยือกเย็นและมุ่งมั่น มันเหมือนเสียงกระทบกันของดาบสองเล่ม ฟ้งกังวานชัดเจน
แมลงวันติดสารนิโคตินตัวหนึ่งกำลังตอมเศษขี้ยาเส้นที่บ้ฟเฟททำล่นไว้บนโต๊ะ เขาเติมยาเส้นยัดลงกล้องเข้าไปอีกอย่างช้าๆ แล้วอธิบายความคิดของตัวเอง
ผมคิดว่าเศรษฐกิจที่ไร้สมดุลกระทันหันนี้มีความซับซ้อนน้อยกว่าที่ผมรู้สึกในตอนแรกอยู่มากโข
ใช่ ใช่ เอาเข้าจริงแล้ว น้อยกว่านั้นมากๆ ดร. นิเวศน์ย้ำซ้า
ผมพูดถึงว่า ไร้สมดุล เพราะในความคิดผมมันมีแค่เรื่องเดียว ราคาทองคำ โลหะเงิน ทองแดง สังกะสี และน้ำมันที่ต่างมีราคาทะลุระดับสูงสุด กดดันการพุ่งขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า, ความกังวลในสภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ และ---ที่ผมไม่ลืม---ความลึกลับของเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ด้งนี้แล้ว ในความคิดของผม ทั้งหมดที่ต้องทำคือค้นให้พบสายโซ่ที่ร้อยเชื่อมภาคส่วนต่างๆให้เป็นเรืองเดียวกัน เป็นข้อเท็จริงที่จะพิสูจน์ความเป็นหนึ่งเดียวของแบบแผนวีธีการทั้งหมด การเผิกเฉยของคุณทิวาวงศ์ผู้บัญชาการการเงินการคลัง ซึ่งมีความคิดเห็นที่ออกจะผิวเผิน---มองเห็นความเป็นหนึ่งเดียวนี้ไปในเรื่องการผันผวนชั่วคราวตามปกติเพื่อเข้าจุดดุลยภาพใหม่ ทำให้ผมไม่พอใจ
แล้วที่นี้?
ที่นี้ ในความคิดของผม บัฟเฟทตอบตรงไปตรงมา ลักษณะของเหตุการณ์ตื่นเต้นทั้งหมดเป็นฝีมือเฉพาะตัว การจงใจวางแผนของคุณ แม้จะยังไม่เป็นที่เข้าใจกัน---เพื่อสร้างเหตุการณ์นั้นขึ้นในสถานที่ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุณได้เลือกไว้แล้ว.....เรื่อง
เพื่อที่จะโผล่มาอีกครั้ง ในที่ที่พิลึกเช่นที่นี่ โรซอสหัวเราะ
เรื่องนี้มีสิ่งที่อยู่เหนือกว่าการวางแผนสิ่งนั้นคือความจำเป็น----เงื่อนไขอย่างหนึ่งซึ่งชี้ขาดความสำเร็จ
คุณจะไม่ลองสาธยายให้ฟังสักหน่อยหรือ
สบายมาก ถ้าคุณไม่ขัดจังหวะผมพูดอีก.....ก็อย่างเช่น ตั้งแต่แรกคุณรู้ว่านักเศรษฐศาสตร์อย่าง คุณทิวาวงศ์เป็นพวก Keynesianism ที่ใช้แบบจำลองเศรษฐมิติขนาดใหญ่เพื่อพยากรณ์ผลลัพธ์ของการดำเนินนโยบายการเงินการคลังว่า แบบจำลองเหล่านั้นถูกประมาณค่าจากข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต และสมมุติว่าพฤติกรรมของคนในระบอบเศรษฐกิจจะเหมือนเดิม แต่แท้จริงแล้วพฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไปมากเนื่องจากนโยบายประชานิยมใช้จ่ายเกินตัว ที่รัฐบาลนี้นำออกมาใช้ การพยากรณ์โดยพึ่งพาแบบจำลองเศรษฐกิจอย่างเดียวจึงอาจให้ภาพที่บิดเบือน ผมอ่านใจคุณออก หลายปีที่ผ่านมา คุณพยายามเผยแพร่แนวความคิดของในหนังสือของคุณ แต่ในมุมมองของคุณทิวาวงศ์ ไม่ได้เห็นภาพนายโรซอสเป็นนักคิดที่น่าเลื่อมใสแต่ประการใด บัฟเฟท หยุดพูดแป๊ปหนึ่งเพื่อเกาปาก
ขอโทษที่ต้องพูดแทงใจดำ แนวความคิดคุณแตกต่างจากทฤษฎี Efficient Market Hypothesis ซึ่งเป็นเสาหลักของการเงินยุคทักษิโณมิคมากเกินไป มันเรียกเสียง ยี้ จากนักเศรษฐศาสตร์ผู้เกรียงไกรอย่างเขาได้ไม่ยาก ทั้งๆที่คุณพยายามกระตุ้นให้เขาลองหันมาวิเคราะห์สนใจทฤษฎีของคุณบ้าง
ใช่ สิ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ จึงไม่สามารถแสดงสูตรคณิตศาสตร์ให้คนอย่างนั้นตื่นตาตื่นใจได้ โรซอสยืนยันความเชื่อมั่นในทฤษฎีของเขา เพราะมันเป็นเคล็ดลับวิชาการทำเงินจากการลงทุนของเขา
บัฟเฟทติดลมบนยังไม่หยุด อธิบายต่อ
คุณเชื่อว่า Keynesian มีจุดบกพร่อง ชอบนำวิธีทางวิทยาศาสตร์มาใช้แยก ความจริงก็คือมนุษย์อึเหม็นอย่างคุณกะผม ออกจาก ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่นบัญชีเดินสะพัด คุณรู้ว่าพวกเขาภูมิใจสาขาของพวกเขาว่ามีความเป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด การศึกษาเกี่ยวกับคนเป็นการศึกษาทางสังคมศาสตร์ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ คนมีความคิดทำให้ไม่สามารถแยกการศึกษาระหว่างตัวเลขเหล่านั้นออกจากคนได้ เพราะการรับรู้ถึงตัวเลขต่างๆที่ประกาศออกมา มีผลกระทบต่อจิตวิทยาของคนที่ปรากฏ ระบบเศรษฐกิจที่มีคนจำนวนเป็นล้านเป็นผู้เล่นอยู่จึงไม่สามารถเข้าสู่ดุลยภาพตามที่คุณทิวาวงศ์กล่าวอ้างได้ แต่มักจะอยู่ในภาวะไร้ดุลยภาพสลับไปสลับมาอยู่ตลอด ความจริงก็คือภาพสะท้อนนั้นไม่เคยเป็นภาพเดียวกัน อย่างที่คุณทิวาวงศ์เข้าใจ ความแตกต่างกันของภาพทั้งสองนี้เองที่คุณใช้เป็นเครื่องมือหาเงิน ถูกไหม
ฮ่า..ฮ่า...นับถือ ด้วยความคารวะจากผม
เชอะ! บัฟเฟทอุทานเมื่อได้รับการเยินยอ แค่ความคิดใคร่ครวญนิดๆ หน่อยๆเอง บัฟเฟทหน้าแดงปลาบปลื้ม
เมืองไทยนอกจากจะเป็นแหล่งหาเงินที่ หมู แล้วยังเป็นเสมือนห้องทดลองเพื่อทดสอบวิชาของผมอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่สำคัญ ผมจะใช้วิชาภาพสะท้อนที่บรรลุขั้นสูงสุดของผม ลงโทษรัฐบาลไทยที่ประพฤติตรงข้ามดื้อดึงสู้หัวชนฝากับแนวความคิดผม ชักนำประเทศเข้าสู่วิกฤตหายนะอีกครั้ง ผมจะให้รางวัลแก่ประเทศที่เชื่อฟังผม อย่าง มาเลเชลีย ไงละ ครั้งก่อนผู้นำหัวรั้นอย่างมาหาเดะ ยังรู้จักประจบประแจงเชลียผม เพื่อเอาตัวรอด เขาฉลาดมากที่รู้จักเจรจาต่อรองกับผม คนอย่างทิวาวงศ์ไม่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์ที่พยายามขับรถไปข้างหน้า โดยชอบมองกระจกหลัง เขาขาดจินตนาการ เชื่อผิดๆว่าผมจะใช้รูปแบบยุทธวิธีเดิมๆเหมือนครั้งที่แล้วอีก ยิ่งมีความเชื่อมั่นในแบบจำลองไร้ชีวิตที่ปั่นตัวเลขออกมามากเท่าใด โอกาศที่เขาจะขับรถตกเขาก็มีมากเท่านั้น โรซอสดูเบิกบานแล้วพูดต่อ
ถึงแม้คุณถอดรหัสความคิดรู้เคล็ดลับวิชาผม แต่คุณไม่รู้กระบวนท่ากลยุทธ์การหาจังหวะโจมตีของผม ผมสาบานได้ว่าคุณเอาชนะ Untouchable อย่างผมไม่ได้หรอก ลาก่อนนะ ผมไม่มีเวลาจะเสียแม้แต่นาทีเดียว
ทำไมผมจะไม่รู้ มันง่ายมาก เป็นเพียงปัญหาอะไรเอ๋ยสำหรับทายเด็ก ป.4 เท่านั้น บัฟเฟทท้วงก่อนโรซอสจะผละจากไป กลยุทธ์ของคุณที่ทำคือจับ Trend ความปั่นป่วนให้ได้ก่อนคนอื่น แต่สิ่งที่แตกต่างคือคนอื่นที่อาจเห็น Trend เหมือนกันจะเริ่มทำกลยุทธ์อย่างละนิดอย่างละหน่อย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรคนอื่นจะแห่ตามมา ซึ่งเป็นการหาจังหวะตลาดสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคุณ
ดังนั้น?....
ดังนั้น.... บัฟเฟทใช้เวลาคิดคำตอบราวกับว่าเขาพึ่งคิดออก ในที่สุดก็ลองเสี่ยงพูดว่า ดังนั้นคุณจะ ทุ่ม สุดตัวแบบบ้าคลั่ง คุณเชื่อว่าความคิดของคุณ เปลี่ยนตลาดได้ แต่คุณไม่ใช่ชาวสวน ทีชอบสวนตลาด คุณเป็นชาวไล่ต่างหาก คุณจะทั้งไล่ทั้งเร่งกระทืบเท้าให้การเก็งกำไรเกิดก่อนปกติ ทำกำไรมหาศาลจากการเข้าและออกจากตลาดก่อนคนอื่น นี่เองที่ทำให้คุณเป็นนักลงทุนที่ค่อนข้างสังคมรังเกลียดทั่วโลก เมื่อเทียบกับผม value investor no 1 ของโลก บัฟเฟทยิ้มเยาะ
ที่ชอบฉวยโอกาศช้อนหุ้นเก็บ โรซอสแทรกขึ้น เวลาตลาดตกต่ำจากการกระทำของผม คุณจะช้อนหุ้นเก็บ เป็นคนคอยอุ้มตลาด ทุกคนจะคิด ยกย่องคุณเป็นอัศวินม้าขาว คุณหลอกผมไม่ได้ มีแต่พวกโง่เขลาเบาปัญญา
หมายความว่า......? บัฟเฟทถาม
หมายความว่า.....คุณเข้ามาเก็บหุ้นนานแล้ว ตั้งแต่ปี2540 คุณให้ใครบางคนไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ เกาะ บริติช เวอร์จิ้น จากนั้นก็ใช้ฃื่อบริษัทแปลกๆของคุณไปเปิดบัญชีกะโบรกเกอร์ต่างประเทศหลายบัญชี พร้อมกับตั้งตัวแทน ทรัสตี้ ขึ้นมาดุแลผลประโยชน์ ขบวนการต่อไปคุณโอนเงินไปพักไว้ที่สิงคโปร์ ผมรู้ กองทุนเทมาเสก มันไม่ใช่เงินของรัฐบาลทั้งหมดหรอก มันมีเงินของคุณด้วย จุดหมายปลายทางคือตลาดหุ้นไทย หุ้นนาย ก. มันเป็นของคุณตั้งแต่แรก ตอนนี้แค่ส่งมอบคืนเจ้าของที่แท้จริงเท่านั้น
นี่คุณมาเล่านิทานอะไรให้ผมฟัง ไม่มีใครเชื่อคุณเรื่องนี้หรอก
และคุณมาที่นี่ก็เพื่อปกป้องผลโยชน์ของคุณ ไม่ใช่มาเพื่อประเทศนี้อย่างที่คนอื่นเข้าใจ
สายตาที่ชายสองคนมองกันและกันช่างดูลึกล้า เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นตีนไก่ เต็มไปด้วยการยั่วยุแบบเยือกเย็นและมุ่งมั่น มันเหมือนเสียงกระทบกันของดาบสองเล่ม ฟ้งกังวานชัดเจน
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๕
โพสต์ที่ 4
บทที่ ๕
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ถนนบางนาตราด กม. 15
สมุทรปราการ
โฮมส์แงนหน้ามองหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก 132 เมตร เขารีบหมุนปิดหน้าต่างขณะที่รถแท็กซี่ออกตัวพาเขาร่อนออกจากอาคารผู้โดยสาร ในที่นั่งหลังคนขับ โฮมส์รู้สึกสบายกระปรี้กระเปร่าที่วัตสันติดธุระด่วนมาไม่ได้ แต่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยในภาพร่างสัญญาลักษณ์ที่ยังค้างคาอยู่ในห้วงคำนึง
ดร.โหน่งเกี่ยวพันกับ สัญญาลักษณ์ นี้อย่างไร หรือเขาจะเกี่ยวข้องกะคดีที่นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาลัย London School of Economics ถูกฆ่า สัญญาลักษณ์นี้น่าจะเป็นข้อความการส่งสัญญานอะไรบางอย่าง ความเกี่ยวพันที่มองไม่เห็น แต่มันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก โฮมส์หันหน้ามองออกนอกหน้าต่างรถพยายามปัดภาพนั้นออกจากจิตใจ
ภายนอกถนนรถค่อนข้างโล่ง สนามบินแวดล้อมด้วยแหล่งน้ำ ลำคลอง ท้องทุ่งนา ป่ากก หนอง บึง ตัวอะไรบางอย่างกำลังเล่นน้ำดูเหมือนจะเป็นกบหรือเขียด และนกบินกันขวักไขว่เต็มท้องทุ่ง
อุบัติเหตุเครื่องบินตกที่เกิดขึ้นทั่วโลกบ่อยครั้งมีสาเหตุมาจากการชนกันระหว่างนกกับเครื่องบิน บางครั้งมีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตไปด้วย ไม่น่าเชื่อว่านกตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรกับเจ้านกเหล็กตัวมหึมาได้
ตามหลักทางฟิสิกส์ วัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วนั้นมีพลังงานแฝงอยู่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักหรือมวลของวัตถุและความเร็วของการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้นๆ ยิ่งมีมวลมากและยิ่งเคลื่อนที่เร็วมากเท่าใด ก็ยิ่งมีพลังงานแฝงอยู่มากตามไปด้วย เครื่องบินลำใหญ่ ที่บินด้วยความเร็วเป็นพันกิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพลังงานแฝงอยู่มาก ในขณะเดียวกัน นกตัวเล็กๆ ที่บินด้วยความเร็วสูงก็เปรียบเหมือนลูกกระสุนที่หลุดจากปากกระบอกปืน เมื่อสิ่งที่มีพลังงานแฝงอยู่มหาศาลปะทะกัน ความเสียหายรุนแรงจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รถแท็กซี่พาโฮมส์หลุดจากสนามบินเข้าเมืองไปทางทิศตะวันตก ขึ้นเส้นชลบุรี--กรุงเทพ และตัดข้ามถนนศรีนครินทร์ลงพระรามเก้า ภายนอกถนนรถค่อนเยอะ แดดแจ่ม มีพ่อค้าเร่เข็นรถผลไม้แช่น้ำแข็ง หมากำลังเบ่งเยี่ยวรดเสาไฟฟ้า คนเร่ร่อนกำลังค้นถังขยะ แม่ค้าปิ้งไข่ท่ามกลางสายลมร้อนอบอ้าวอบอวลด้วยกลิ่นไอควัน รถแท็กซี่กำลังแล่นผ่านบางส่วนความวุ่นวายของกรุงเทพฯ
ข่อยรู้สึกเป็นปลื้มหลายที่มื้อนี้เป็นเกียรติ....ได้มีโอกาสส่งผู้โดยสารอย่างอ้ายครับ คุณโฮมส์ เป็นเรื่องบังเอิญที่โชคดีหลายครับ คนขับแท็กซี่กล่าวสำเนียงอีสาน เขาพึ่งอ้าปากพูดครั้งแรกตั้งแต่ออกจากสนามบินมา
โฮมส์หยุดกึก เขายังเงียบเฉย เพราะตกใจเท่าๆกับเกิดจากนิสัยระวังระไว
แท็กซี่เลยย้ำเป็นครั้งที่สอง นี่บ่แม่นมิสเตอร์โฮมส์ดอกหรือครับที่ข่อยกำลังได้รับเกียรติให้ว่าวนำ
คุณเอาอะไรมาพูด เขาพูดเสียงกระด้าง ในใจคิดนี่เป็นการพบปะที่ไม่ชอบมาพากล จำผิดคนหรือปล่าวพี่
คนขับรถส่ายศรีษะ จำบ่ผิดตัวดอกครับ ข่อยสิจำบ่ได้ แต่เจ้าอินเตอร์ลิงค์นี่มันสิจำได้ครับ
อินเตอร์ลิงค์ โฮมส์คิด ใช่แล้ว เขาลืมไปว่าเรื่องซึ่งดูเหมือนจะเป็นธรรมดา ที่แท็กซี่ทุกคันในกรุงเทพฯ ติดตั้งที่เปิดประตุรถซึ่งสามารถแสกนลายนิ้วมือได้ นั่นไม่ใช่พิธีการรักษาความปลอดภัย หากแต่เป็นกฏ ไม่ว่าใคร มาจากประเทศไหน เจ้าหน้าที่อินเตอร์ลิงค์สามารถระบุได้แน่ชัดว่าผู้โดยสารเป็นใคร มีประวัติอยู่ในแฟ้มอาชญากรรมหรือไม่ ที่คนขับพบว่าเป็นโฮมส์ขึ้นรถมา ก็คงใช้เวลาสืบค้นส่งข้อมูลไปกลับสักสองสามนาทีเท่านั้นเอง
ขณะที่รถวิ่งตะลุยตัดข้ามวิภาวดีขึ้นสะพานข้ามสามแยกดินแดงมุ่งตรงเข้า กิโลเมตรที่ ๐.๐ ถนนพหลโยธิน กึ่งกลางระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท แรงบันดาลใจของหม่อมหลวงปุ่น มาลากุลที่พุ่งสูงขึ้นไปกว่าร้อยกว่าเมตรบนท้องฟ้าขวามือก็ปรากฏแก่สายตา
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เมื่อมาถึงสี่แยกราชเทวี สัญญาณไฟแดงพอดี แต่แท็กซี่ไม่ยอมลดความเร็วเลย คนขับเหยียบคันเร่งมิดข้ามทางแยก วิ่งฉิวข้ามสะพานหัวช้าง พวกนักท่องเที่ยวมักคิดว่าบริเวณนี้เป็นเพนียดคล้องช้างมาก่อน ความจริงแล้ว สะพานหัวช้าง เป็นสะพานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่ 56 มีลักษณะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก คานเป็นคอนกรีตรูปโค้ง หัวสะพานทั้งสี่มุม มีรูปประดับเป็นช้าง 4 ด้าน ลูกกรงหล่อแบบลูกมะหวดฝรั่ง กลางสะพานมีพระปรมาภิไธยย่อ จปร.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 ซึ่งในปีนี้พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบรมอัยกาธิราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานพระราชพิธีพระชนมายุมงคลเสมอรัชกาลที่ 2 และฉลองวัดอรุณราชวรารามด้วย และเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีช้างเผือกในแผ่นดินถึง 4 เชือก จึงพระราชทานนามว่า สะพานเฉลิมหล้า ซึ่งมาจากพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และหัวเสาของสะพานออกแบบเป็นหัวช้างเผือก 4 หัว
ตอนนี้รถหักเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม1 เมื่อมองจากหน้าต่างรถด้านซ้าย โฮมส์รู้สึกพิศวงขณะที่นัยน์ตาพยายามจับภาพอาคารมหึมา ศูนย์การค้าทีมีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย
ศูนย์การค้าทีใช้เม็ดเงินลงทุนสูงที่สุด กว่า 15,000 ล้านบาท, มีร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำของโลกและของไทยมากที่สุดกว่า 250 ร้าน, ใช้สถาปนิกและดีไซเนอร์มากที่สุด กว่า 100 คน ซึ่งยังไม่รวมดีไซเนอร์ของแต่ละร้าน, มี flagship store และ first store ของแบรนด์ชั้นนำมากที่สุด, มีร้านค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย กว่า 50 ร้านค้าชั้นนำของโลกและของไทย, มีอะควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, มีเลนโบว์ลิ่งมากที่สุด 52 เลน, มีความจุของโรงหนังมากที่สุด 5,500 ที่นั่ง และโรงหนัง Imax อีก 600 ที่นั่ง, มีดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่กว่า 80,000 ตรม.
ห้างสยามพารากอน
มีผู้ประเมินไว้ว่าผู้มาเยือนต้องใช้เวลาร่วมหนึ่งอาทิตย์จึงจะสามารถเดินชื่นชมชิ้นงาน ที่สุด 10ลำดับ ในอาคารแห่งนี้ได้หมด และด้วยความใหญ่เฉพาะลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งมีเนื้อที่กว่า 25 ไร่ ทางห้างสยามพารากอนต้องลงทุนติดตั้งหัวอ่านบัตรจอดรถที่ประตูเข้าห้าง เพื่อทำให้นักช็อปรู้ว่าจอดรถอยู่ล็อกไหน โดยใช้งบลงทุนสร้างระบบกว่า 10 ล้านบาท
คนขับแท็กซี่ไม่สนใจป้ายห้ามจอดด้านหน้าห้าง เขาเหยียบคันเร่งพุ่งรถปีนขึ้นไปบนขอบทาง มองเห็นทางเข้าด้านหน้าของห้างแล้ว โดดเด่นมาแต่ไกล กำแพงน้ำตกมีน้ำพุประดับไฟกระจายอยู่รายรอบ แล้วชี้มือไประหว่างน้ำตกสองข้างสู่ประตูใหญ่ด้านหน้า ตรงนั้นมีทางเข้าครับ โชคดีครับมิสเตอร์โฮมส์
โฮมส์เหลือบมองคนขับก่อนส่งตังค์ให้ เขาสงสัยว่าคนกรุงเทพทุกคนขับรถอย่างนี่หรือไร เขาถอนลมหายใจเฮือกหนึ่งแล้วลงจากรถ ก็แล้วแต่จะสั่งเถอะพี่
แท็กซี่เร่งเครื่องแล้วพุ่งจากไป
ขณะที่โฮมส์ยืนอยู่ตามลำพัง จ้องมองท้ายแท็กซี่ห่างออกไป เขานึกขึ้นได้ว่าแค่เดินออกจากที่นี่ไป เรียกแท็กซี่อีกคันมุ่งหน้าไปแถวถนนรัชดาหาอะไรทำแก้เมื่อย ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะมีใครจำได้อีก
มิสเตอร์โฮมส์ ดิฉันจำไม่ผิดแน่
ใคร--ปีศาจตนใดมาเรียกชื่อเขา
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินอยู่ข้างๆนี่เองเป็นหญิงสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่กลับเน้นให้เห็นความเป็นคนที่มีอะไรพิเศษอยู่ในตัว โดยเฉพาะที่ทรงผม ใบหน้าเรียวงามน่ารักของเธอฉายความรู้สึกทั้งเศร้าและอึดอัดออกมาพร้อมกัน ดวงตาคู่งามที่ดูจริงจัง ใสกระจ่าง เหมือนสะท้อนจิตใจส่วนลึกของเธอออกมา เธอย้ำเพื่อความแน่ใจ คุณคือมิสเตอร์โฮมส์ ใช่ไหมคะ ใส่เสื้อโอเวอร์โค๊ทสีดำคุมเข่าขนาดนี้ ใส่หมวกลายสก็อตสีส้ม และชอบคาบไปร์ เหมือนในหน้าปกหนังสือคุณเลยคะ ดิฉันคุณหญิงฯหมอไงคะ เรามีนัดกันที่นี่
โฮมส์พยักหน้าแล้วว่า คูณหมอ?
โธ่ ก็ใช่ซีคะ อ๋อ...ทรงผมนี่หรือคะ เป็น trademark ส่วนตัวคะ คุณไม่เชื่อใจดิฉัน......
ทรงผมทรงใหม่ของคุณหญิงฯหมอเกือบจะเรียกได้ว่ามีชื่อพอๆกับตัวเธอเองเลย ทรงผมไฮไลด้วยสีม่วงรูปทรงสมัยใหม่เฉียบ ซึ่งกลายเป็นหัวข้อแห่งความขัดแย้ง กลุ่มคุณหมอหัวอนุรักษณ์รู้สึกว่าทรงผมนี้ทำลายความสง่างามเหมือนเล็บมือบนกระดานดำ แต่กลุ่มคุณหมอหัวก้าวหน้ายกย่องทรงผมอินเทรนด์สูงกว่าสิบห้าเซ็นต์ของเธอว่า เป็นการนำเอาโครงสร้างแบบโบราณและกรรมวิธียุคใหม่มารวมกันได้อย่างน่าตื่นตะลึง กลายเป็นการ เชื่อมหลอมสัญลักษณ์ของคนยุคเก่าและคนยุคใหม่เข้าด้วยกัน ช่วยในการนำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าสู่สหัสวรรษใหม่
ผมเชื่อใจคุณ คุณหมอ สีหน้าเศร้าของเธอทำให้เขาลืมควบคลุมความรู้สึกของตัวเอง
โอ ดิฉันดีใจจริงๆ! แล้วเพื่อนของคุณ...ไม่มาด้วยหรือคะ?....โชคดีจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ดิฉันมีความคิดดีมากๆเลยเชียว ฟังนะคะมิสเตอร์โฮมส์อีกห้านาทีจะมีรถไฟฟ้าBTSไปอนุสาวรีย์ฯ เราจะต่อรถไฟสายสีส้มที่นั่นไปถนนรามคำแหงซอย 34 เร็วซีคะ...ตามดิฉันมาทางนี้ เรามีเวลาไม่มากแล้ว...
เธอเดินนำลิ่วขึ้นบันไดพาโฮมส์ไปขึ้นรถไฟ แต่เขากลับหยุดนิ่งพุดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้สุภาพที่สุด
ผมยังไม่ได้ถ่ายรูปกะปลาฉลามเลย ปลากระเบนนั่นอีกคุณหมอ ผมไม่เคยละทิ้งภารกิจที่ต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุก่อน
ดิฉันขอร้องคะ.....โอ ถ้าคุณได้รู้เรื่องสักหน่อยก็ดี!
โฮมส์หันไปมองเธอขึ้นเสียงวิงวอน ดูเหมือนเขาจะต้องทำใจ คุณหมอคนนี้คงจะต้องไปจนสุดเส้นทางของเรื่องนี้.....สำหรับเธอแล้วสิ่งที่เรียกว่าเลิกกลางคันคงไม่มี
ว่าแล้วโฮมส์ก็ออกวิ่งไล่ตามคุณหมอไป
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ถนนบางนาตราด กม. 15
สมุทรปราการ
โฮมส์แงนหน้ามองหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก 132 เมตร เขารีบหมุนปิดหน้าต่างขณะที่รถแท็กซี่ออกตัวพาเขาร่อนออกจากอาคารผู้โดยสาร ในที่นั่งหลังคนขับ โฮมส์รู้สึกสบายกระปรี้กระเปร่าที่วัตสันติดธุระด่วนมาไม่ได้ แต่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยในภาพร่างสัญญาลักษณ์ที่ยังค้างคาอยู่ในห้วงคำนึง
ดร.โหน่งเกี่ยวพันกับ สัญญาลักษณ์ นี้อย่างไร หรือเขาจะเกี่ยวข้องกะคดีที่นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาลัย London School of Economics ถูกฆ่า สัญญาลักษณ์นี้น่าจะเป็นข้อความการส่งสัญญานอะไรบางอย่าง ความเกี่ยวพันที่มองไม่เห็น แต่มันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก โฮมส์หันหน้ามองออกนอกหน้าต่างรถพยายามปัดภาพนั้นออกจากจิตใจ
ภายนอกถนนรถค่อนข้างโล่ง สนามบินแวดล้อมด้วยแหล่งน้ำ ลำคลอง ท้องทุ่งนา ป่ากก หนอง บึง ตัวอะไรบางอย่างกำลังเล่นน้ำดูเหมือนจะเป็นกบหรือเขียด และนกบินกันขวักไขว่เต็มท้องทุ่ง
อุบัติเหตุเครื่องบินตกที่เกิดขึ้นทั่วโลกบ่อยครั้งมีสาเหตุมาจากการชนกันระหว่างนกกับเครื่องบิน บางครั้งมีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตไปด้วย ไม่น่าเชื่อว่านกตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรกับเจ้านกเหล็กตัวมหึมาได้
ตามหลักทางฟิสิกส์ วัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วนั้นมีพลังงานแฝงอยู่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักหรือมวลของวัตถุและความเร็วของการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้นๆ ยิ่งมีมวลมากและยิ่งเคลื่อนที่เร็วมากเท่าใด ก็ยิ่งมีพลังงานแฝงอยู่มากตามไปด้วย เครื่องบินลำใหญ่ ที่บินด้วยความเร็วเป็นพันกิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพลังงานแฝงอยู่มาก ในขณะเดียวกัน นกตัวเล็กๆ ที่บินด้วยความเร็วสูงก็เปรียบเหมือนลูกกระสุนที่หลุดจากปากกระบอกปืน เมื่อสิ่งที่มีพลังงานแฝงอยู่มหาศาลปะทะกัน ความเสียหายรุนแรงจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รถแท็กซี่พาโฮมส์หลุดจากสนามบินเข้าเมืองไปทางทิศตะวันตก ขึ้นเส้นชลบุรี--กรุงเทพ และตัดข้ามถนนศรีนครินทร์ลงพระรามเก้า ภายนอกถนนรถค่อนเยอะ แดดแจ่ม มีพ่อค้าเร่เข็นรถผลไม้แช่น้ำแข็ง หมากำลังเบ่งเยี่ยวรดเสาไฟฟ้า คนเร่ร่อนกำลังค้นถังขยะ แม่ค้าปิ้งไข่ท่ามกลางสายลมร้อนอบอ้าวอบอวลด้วยกลิ่นไอควัน รถแท็กซี่กำลังแล่นผ่านบางส่วนความวุ่นวายของกรุงเทพฯ
ข่อยรู้สึกเป็นปลื้มหลายที่มื้อนี้เป็นเกียรติ....ได้มีโอกาสส่งผู้โดยสารอย่างอ้ายครับ คุณโฮมส์ เป็นเรื่องบังเอิญที่โชคดีหลายครับ คนขับแท็กซี่กล่าวสำเนียงอีสาน เขาพึ่งอ้าปากพูดครั้งแรกตั้งแต่ออกจากสนามบินมา
โฮมส์หยุดกึก เขายังเงียบเฉย เพราะตกใจเท่าๆกับเกิดจากนิสัยระวังระไว
แท็กซี่เลยย้ำเป็นครั้งที่สอง นี่บ่แม่นมิสเตอร์โฮมส์ดอกหรือครับที่ข่อยกำลังได้รับเกียรติให้ว่าวนำ
คุณเอาอะไรมาพูด เขาพูดเสียงกระด้าง ในใจคิดนี่เป็นการพบปะที่ไม่ชอบมาพากล จำผิดคนหรือปล่าวพี่
คนขับรถส่ายศรีษะ จำบ่ผิดตัวดอกครับ ข่อยสิจำบ่ได้ แต่เจ้าอินเตอร์ลิงค์นี่มันสิจำได้ครับ
อินเตอร์ลิงค์ โฮมส์คิด ใช่แล้ว เขาลืมไปว่าเรื่องซึ่งดูเหมือนจะเป็นธรรมดา ที่แท็กซี่ทุกคันในกรุงเทพฯ ติดตั้งที่เปิดประตุรถซึ่งสามารถแสกนลายนิ้วมือได้ นั่นไม่ใช่พิธีการรักษาความปลอดภัย หากแต่เป็นกฏ ไม่ว่าใคร มาจากประเทศไหน เจ้าหน้าที่อินเตอร์ลิงค์สามารถระบุได้แน่ชัดว่าผู้โดยสารเป็นใคร มีประวัติอยู่ในแฟ้มอาชญากรรมหรือไม่ ที่คนขับพบว่าเป็นโฮมส์ขึ้นรถมา ก็คงใช้เวลาสืบค้นส่งข้อมูลไปกลับสักสองสามนาทีเท่านั้นเอง
ขณะที่รถวิ่งตะลุยตัดข้ามวิภาวดีขึ้นสะพานข้ามสามแยกดินแดงมุ่งตรงเข้า กิโลเมตรที่ ๐.๐ ถนนพหลโยธิน กึ่งกลางระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท แรงบันดาลใจของหม่อมหลวงปุ่น มาลากุลที่พุ่งสูงขึ้นไปกว่าร้อยกว่าเมตรบนท้องฟ้าขวามือก็ปรากฏแก่สายตา
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เมื่อมาถึงสี่แยกราชเทวี สัญญาณไฟแดงพอดี แต่แท็กซี่ไม่ยอมลดความเร็วเลย คนขับเหยียบคันเร่งมิดข้ามทางแยก วิ่งฉิวข้ามสะพานหัวช้าง พวกนักท่องเที่ยวมักคิดว่าบริเวณนี้เป็นเพนียดคล้องช้างมาก่อน ความจริงแล้ว สะพานหัวช้าง เป็นสะพานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่ 56 มีลักษณะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก คานเป็นคอนกรีตรูปโค้ง หัวสะพานทั้งสี่มุม มีรูปประดับเป็นช้าง 4 ด้าน ลูกกรงหล่อแบบลูกมะหวดฝรั่ง กลางสะพานมีพระปรมาภิไธยย่อ จปร.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 ซึ่งในปีนี้พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบรมอัยกาธิราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานพระราชพิธีพระชนมายุมงคลเสมอรัชกาลที่ 2 และฉลองวัดอรุณราชวรารามด้วย และเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีช้างเผือกในแผ่นดินถึง 4 เชือก จึงพระราชทานนามว่า สะพานเฉลิมหล้า ซึ่งมาจากพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และหัวเสาของสะพานออกแบบเป็นหัวช้างเผือก 4 หัว
ตอนนี้รถหักเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม1 เมื่อมองจากหน้าต่างรถด้านซ้าย โฮมส์รู้สึกพิศวงขณะที่นัยน์ตาพยายามจับภาพอาคารมหึมา ศูนย์การค้าทีมีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย
ศูนย์การค้าทีใช้เม็ดเงินลงทุนสูงที่สุด กว่า 15,000 ล้านบาท, มีร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำของโลกและของไทยมากที่สุดกว่า 250 ร้าน, ใช้สถาปนิกและดีไซเนอร์มากที่สุด กว่า 100 คน ซึ่งยังไม่รวมดีไซเนอร์ของแต่ละร้าน, มี flagship store และ first store ของแบรนด์ชั้นนำมากที่สุด, มีร้านค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย กว่า 50 ร้านค้าชั้นนำของโลกและของไทย, มีอะควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, มีเลนโบว์ลิ่งมากที่สุด 52 เลน, มีความจุของโรงหนังมากที่สุด 5,500 ที่นั่ง และโรงหนัง Imax อีก 600 ที่นั่ง, มีดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่กว่า 80,000 ตรม.
ห้างสยามพารากอน
มีผู้ประเมินไว้ว่าผู้มาเยือนต้องใช้เวลาร่วมหนึ่งอาทิตย์จึงจะสามารถเดินชื่นชมชิ้นงาน ที่สุด 10ลำดับ ในอาคารแห่งนี้ได้หมด และด้วยความใหญ่เฉพาะลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งมีเนื้อที่กว่า 25 ไร่ ทางห้างสยามพารากอนต้องลงทุนติดตั้งหัวอ่านบัตรจอดรถที่ประตูเข้าห้าง เพื่อทำให้นักช็อปรู้ว่าจอดรถอยู่ล็อกไหน โดยใช้งบลงทุนสร้างระบบกว่า 10 ล้านบาท
คนขับแท็กซี่ไม่สนใจป้ายห้ามจอดด้านหน้าห้าง เขาเหยียบคันเร่งพุ่งรถปีนขึ้นไปบนขอบทาง มองเห็นทางเข้าด้านหน้าของห้างแล้ว โดดเด่นมาแต่ไกล กำแพงน้ำตกมีน้ำพุประดับไฟกระจายอยู่รายรอบ แล้วชี้มือไประหว่างน้ำตกสองข้างสู่ประตูใหญ่ด้านหน้า ตรงนั้นมีทางเข้าครับ โชคดีครับมิสเตอร์โฮมส์
โฮมส์เหลือบมองคนขับก่อนส่งตังค์ให้ เขาสงสัยว่าคนกรุงเทพทุกคนขับรถอย่างนี่หรือไร เขาถอนลมหายใจเฮือกหนึ่งแล้วลงจากรถ ก็แล้วแต่จะสั่งเถอะพี่
แท็กซี่เร่งเครื่องแล้วพุ่งจากไป
ขณะที่โฮมส์ยืนอยู่ตามลำพัง จ้องมองท้ายแท็กซี่ห่างออกไป เขานึกขึ้นได้ว่าแค่เดินออกจากที่นี่ไป เรียกแท็กซี่อีกคันมุ่งหน้าไปแถวถนนรัชดาหาอะไรทำแก้เมื่อย ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะมีใครจำได้อีก
มิสเตอร์โฮมส์ ดิฉันจำไม่ผิดแน่
ใคร--ปีศาจตนใดมาเรียกชื่อเขา
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินอยู่ข้างๆนี่เองเป็นหญิงสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่กลับเน้นให้เห็นความเป็นคนที่มีอะไรพิเศษอยู่ในตัว โดยเฉพาะที่ทรงผม ใบหน้าเรียวงามน่ารักของเธอฉายความรู้สึกทั้งเศร้าและอึดอัดออกมาพร้อมกัน ดวงตาคู่งามที่ดูจริงจัง ใสกระจ่าง เหมือนสะท้อนจิตใจส่วนลึกของเธอออกมา เธอย้ำเพื่อความแน่ใจ คุณคือมิสเตอร์โฮมส์ ใช่ไหมคะ ใส่เสื้อโอเวอร์โค๊ทสีดำคุมเข่าขนาดนี้ ใส่หมวกลายสก็อตสีส้ม และชอบคาบไปร์ เหมือนในหน้าปกหนังสือคุณเลยคะ ดิฉันคุณหญิงฯหมอไงคะ เรามีนัดกันที่นี่
โฮมส์พยักหน้าแล้วว่า คูณหมอ?
โธ่ ก็ใช่ซีคะ อ๋อ...ทรงผมนี่หรือคะ เป็น trademark ส่วนตัวคะ คุณไม่เชื่อใจดิฉัน......
ทรงผมทรงใหม่ของคุณหญิงฯหมอเกือบจะเรียกได้ว่ามีชื่อพอๆกับตัวเธอเองเลย ทรงผมไฮไลด้วยสีม่วงรูปทรงสมัยใหม่เฉียบ ซึ่งกลายเป็นหัวข้อแห่งความขัดแย้ง กลุ่มคุณหมอหัวอนุรักษณ์รู้สึกว่าทรงผมนี้ทำลายความสง่างามเหมือนเล็บมือบนกระดานดำ แต่กลุ่มคุณหมอหัวก้าวหน้ายกย่องทรงผมอินเทรนด์สูงกว่าสิบห้าเซ็นต์ของเธอว่า เป็นการนำเอาโครงสร้างแบบโบราณและกรรมวิธียุคใหม่มารวมกันได้อย่างน่าตื่นตะลึง กลายเป็นการ เชื่อมหลอมสัญลักษณ์ของคนยุคเก่าและคนยุคใหม่เข้าด้วยกัน ช่วยในการนำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าสู่สหัสวรรษใหม่
ผมเชื่อใจคุณ คุณหมอ สีหน้าเศร้าของเธอทำให้เขาลืมควบคลุมความรู้สึกของตัวเอง
โอ ดิฉันดีใจจริงๆ! แล้วเพื่อนของคุณ...ไม่มาด้วยหรือคะ?....โชคดีจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร ดิฉันมีความคิดดีมากๆเลยเชียว ฟังนะคะมิสเตอร์โฮมส์อีกห้านาทีจะมีรถไฟฟ้าBTSไปอนุสาวรีย์ฯ เราจะต่อรถไฟสายสีส้มที่นั่นไปถนนรามคำแหงซอย 34 เร็วซีคะ...ตามดิฉันมาทางนี้ เรามีเวลาไม่มากแล้ว...
เธอเดินนำลิ่วขึ้นบันไดพาโฮมส์ไปขึ้นรถไฟ แต่เขากลับหยุดนิ่งพุดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้สุภาพที่สุด
ผมยังไม่ได้ถ่ายรูปกะปลาฉลามเลย ปลากระเบนนั่นอีกคุณหมอ ผมไม่เคยละทิ้งภารกิจที่ต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุก่อน
ดิฉันขอร้องคะ.....โอ ถ้าคุณได้รู้เรื่องสักหน่อยก็ดี!
โฮมส์หันไปมองเธอขึ้นเสียงวิงวอน ดูเหมือนเขาจะต้องทำใจ คุณหมอคนนี้คงจะต้องไปจนสุดเส้นทางของเรื่องนี้.....สำหรับเธอแล้วสิ่งที่เรียกว่าเลิกกลางคันคงไม่มี
ว่าแล้วโฮมส์ก็ออกวิ่งไล่ตามคุณหมอไป
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๖
โพสต์ที่ 5
บทที่ ๖
คุณหมอกะโฮมส์กระหืดกระหอบ เบียดเสียดขึ้นรถไฟฟ้า วันนี้เบียดกันมาก ๆ รถมาสาย รอนาน คนแน่น ครบ! ที่ยืนก่อนแล้วก็ไม่เดินเข้าไปข้างใน และ ปล่อยที่ว่างไว้
มีคุณพ่อพาคุณลูกสาวประมาณ 5 ขวบขึ้นมาข้างหลัง ประตูเกือบหนีบคุณพ่อ ผู้หญิงที่นั่งใกล้ประตูทางเข้าลุกให้เด็กนั่ง หลังจากเด็กนั่ง คุณพ่อทำท่าทำทางให้ลูกสาวขอบคุณพี่ผู้หญิง พ่อพยายามทำท่ายกมือไหว้ น้องเค้าก็ยังหาโอกาสขอบคุณพี่เค้าไม่ได้ซักที พ่อก็ขยิบตาให้ แล้วทำท่าไหว้ คุณหมอยืนอยู่เยื้องๆเห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ จนหนูน้อยเอื้อมมือไปสะกิดพี่ผู้หญิง แล้วยกมือไหว้ พร้อมบอกว่า ขอบคุณคะ พ่อก็ยิ้ม ผู้หญิงก็ยิ้ม คุณหมอก็ยิ้ม ต้องอย่างนี้ซิคนไทย มารยาทไทย
เรื่องดีๆในสังคม แม้มันจะน้อยนิด ถ้าช่วยๆกันทำก็ดีนะคะ สิ่งเหล่านี้ ทำแล้ว ความสุข ทั้งนั้น มากกว่าได้เงินทอง มิสเตอร์โฮมส์ว่าไหม คุณหมอกระซิบถาม
โฮมส์ไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้
เป็นไปได้สิ! คุณหมอสวนกลับ ขณะสไลด์รอยยิ้ม
แปลกเหลือเกิน โฮมส์ร้องออกมา
นั่นซี คุณหมอเอออวย แต่มันเรื่องอะไรนี่สิคะ
อะฮ้า! โฮมส์ตะโกน ผมไม่อยากจะเชื่อ โบโร่ชิงยูฟ่าคัพ
โฮมส์ตอบ หลังเอี้ยวคอแอบอ่าน SIAMSPORT ฉบับ วันศุกร์ที่ 28 เม.ย. จากคนยืนข้างๆ ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ "สิงห์แดง" แสดงพลังฮึด พลิกสกอร์จากตามหลัง 0-2 กลับมาไล่ถล่มชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 4-2 ซิวตั๋วเข้าไปชิงถ้วย ยูฟ่า คัพ กับ เซบีญ่า ด้วยสกอร์รวม 2 นัด ชนะ 4-3 ในศึกยูฟ่า คัพ รอบตัดเชือก นัดสอง ที่สนาม ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม
"ผมพูดไม่ออกจริงๆ..... อย่างกะมีใครมาเขียนสคริปต์ไว้ พวกเขาไม่เคยย่อท้อ ผม....ผมตื่นเต้นไปหมด! โบโร่ และ อาร์เซน่อล ถ้าคว้าแชมป์ทั้งสองถ้วย เป็นอะไรที่สุดยอด!
ทุกคนในรถไฟมองเขาอย่างไม่เชื่อถือ! เด็กผู้หญิงคนเดิมหัวเราะคิกคัก
ไม่เชื่อลุงใช่ไหมหนู โฮมส์ท้าทายหันไปทะเลาะกะเด็ก
ไม่อยากเชื่อเลย...... คุณหญิงเอ๋ย
โฮมส์หันกลับมามอง คุณหญิงมือหนึ่งปาดเช็ดน้ำคลอที่ตา ก่อนร่วงล่นมาบนสร้อยคอ ที่จับอีกมือ
โฮมส์ประหลาดใจที่เห็นจี้รูปหัวใจ ......... สีเงินสุกปลั่งตรงปลายสร้อย ดูเหมือนมีกามเทพยืนพิงข้างๆอีกทีดูแวววาวระยิบระยับและมีน้ำหนัก เขาซูมกามเทพขึ้นมาด้วยความพิศวงพินิศจ้องดู ตรงหัวกามเทพสีเงินขนาดเล็กรูปร่างเหมือนเป็นปุ่มกุญแจรีโมตไว้กดเปิดอะไรสักอย่าง
คุณหมอ ฟ้งผมนะ โฮมส์กลั้นใจ ไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดี สูดลมหายใจเข้าลึก นัยน์ตาสีฟ้าของเขาจ้องมองที่ช่วงคอเธอมั่น ขณะเอื้อมมือจะไปจับ ผมขอจับไอ้นั่นคุณหมอได้ไหม
คุณหญิงสะดุ้งขยับตัวถอยตั้งการ์ดขวานำ มองโฮมส์เหมือนพวกโรคจิต
คุณหมอ......สร้อยคอนั่นครับ ....ที่คุณหมอใส่ คุณหมอช่วยลองกดปุ่มตรงหัวตรงนั้น ครับ ครับ นั่นและครับ ได้ไหมครับ
โธ่ เอ้ย คุณหญิงถอนหายใจ แล้วไป เธอกดปุ่ม.... รูปกามเทพพิงหัวใจเปล่งแสงสีแดงกระพริบพร้อมกันสะท้อนตาโฮมส์ชัดเจน เขาร้องออกมารู้สึกหนาวยะเยือก
อักษร V.I.
V.I. โฮมส์พึมพำ คิ้วขมวด สัญญาลักษณ์แปลกๆนั่น ตัวอักษร VI ใช่ไหม เป็นชื่อย่อใครหรือปล่าวครับ มันเป็นกุญแจใช่ไหมครับ แล้วมันใช้เปิดอะไรครับ คุณหมอ ผมไม่เคยเห็น
คำถามนี้ทำให้เธอสะดุ้ง เชอร์ล็อค โฮมส์ รู้ได้อย่างไรนี่ ความเสียใจที่เข้าครอบงำจิตใจเธอฉับพลันนั้นแรงกล้า เป็นความโศกเศร้าล้ำลึกที่ร้อยรึงเอาสำนึกผิดเข้ามาด้วย
พี่โหน่งฝากสร้อยนี้ไว้กะดิฉันเมื่อเดือนก่อน ชื่อ VI ย่อมาจาก วิทูรย์ ชื่อจริงของพี่เค้า คุณหมอหันกลับไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง ดิฉันเห็นพี่เค้าใส่มันมาตั้งแต่เรายังเด็กๆวิ่งเล่นขี่จักรยานด้วยกันแถวบ้าน ประมาณเก้าขวบได้ พี่เค้าบอกว่า มันเอาไว้เปิดกล่อง ที่คุณพ่อพี่โหน่งเก็บความลับไว้ ความลับสุดยอด ห้ามบอกใคร คุณหมอยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ หัวเราะสนุกสนาน แล้วก็หยุด ดวงตาที่เหมือนมีเครื่องประดับงามล้ำคู่นั้น เหมือนมีเรื่องอะไรซ่อนอยู่
พี่โหน่งพยายามบอกเธอหลายต่อหลายหนตลอดเดือนที่ผ่านมา ชีวิตพี่เค้าอยู่ในอันตราย แต่คุณหมอยังทำเมินเฉย ไม่ยอมรับ ปิดโทรศัพท์ ทิ้งจดหมายที่พี่เค้าส่งมาไว้ก้นลิ้นชักโดยไม่ยอมเปิด และไม่ยอมเจอแม้พี่โหน่งจะพยายามเพียงไหน พี่เลิกล้อเล่นได้แล้วนะ! พอได้แล้ว ไอ้ปลาฉลามในตู้นั่นมันไม่กินพี่หรอกขี้เหร่ซะขนาดนี้! ขี้กลัวไปได้ แล้วจะให้ฉันทำอะไรได้ล่ะ และด้วยความรำคาญเหตุผลนี้เธอจึงกันพี่โหน่งออกจากชีวิตสักพัก
พี่โหน่งไปแล้ว เธอไม่มีโอกาสเอ๋ยคำว่า ขอโทษ!
ใช่ จดหมาย โอ... ถ้าคุณได้รู้เรื่องสักหน่อย คุณหมอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา
โฮมส์กระซิบอย่างแผ่วเบา จดหมายอะไรครับ
พี่โหน่งส่งมา คุณหมอยื่นให้โฮมส์ เขียนข้างหลังกระดาษด้วยว่า ให้เอาไปส่งที่ ตึก เพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส แถวถนนรามคำแหง เรากำลังจะไปที่นั่นคะ
เพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส! โฮมส์ย้ำ รับจากคุณหมอมาดู
พี่เค้าวาดเป็นรูปสัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำอีกแล้ว ลักษณะเดียวกะที่เขาวาดบนพื้นที่สยามโอเชี่ยนเวิลด์นั่น เออ..... คุณโฮมส์ เคยเห็นมาก่อนไหมคะ รู้ไหมคะพี่เค้าพยายามจะบอกอะไรดิฉัน ทำไมเค้าไม่เขียนชื่อไปเลยว่าใครทำ
โฮมส์ พยักหน้ารับ ครับ เคยเห็นครั้งหนึ่งประมาณสิบกว่าปีแล้ว
ที่ไหน!
โฮมส์ลังเล สบตาเธอแน่วแน่ แล้วลดเสียงลง คุณหมอ....นี่เป็นเรื่องสำคัญมากนะ ผมแน่ใจ พี่โหน่งของคุณหมอ เป็นสมาชิกของสมาคมนักลงทุนลับแห่งหนึ่งที่เรียกว่าตัวเองว่า Value Investorกลุ่มภราดรลับที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ---อักษร V.I. บวกกะสัญญาลักษณ์มันยืนยันความมั่นใจผม
คิดว่าสมาคมลับแห่งนี้เป็นแค่เพียงนิยายในตำนานเสียอีก ! เป็นไปไม่ได้ แต่เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เธอเริ่มรู้สึกหน้าท้องเกร็ง พี่โหน่งคงไม่บอกว่าเขาเองเป็นสมาชิกสมาคมอะไรนั่นอยู่ด้วย
ผมสนใจศึกษาค้นคว้าขีดเขียนเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ที่อังกฤษมาหลายปี การวิจัยเรื่องสัญญาลักษณ์ของสมาคมลับต่างๆเป็นความชำนาญพิเศษของผม สมาคมนี้มีสมาชิกเป็นผู้ทรงความสามารถ และทรงอำนาจ เป็นบุคคลที่มีการศึกษาดีและรอบรู้มากมายในหลากหลายวิชาสาขาจากทั่วประเทศ ตอนที่คุณหมอส่งรูปทางเมลให้ผมดู ผมรู้ทันทีว่าเขาเกี่ยวข้องกะสมาคมลับ ผมเคยเห็น สัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำ มาก่อนที่มหาลัย London School of Economics ..ในความคิดของผม ทั้งหมดที่ต้องทำคือค้นให้พบสายโซ่ที่ร้อยเชื่อมส่วนต่างๆให้เป็นเรืองเดียวกัน :
คนไทย + London School of Economics = ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์
ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์ + สมาคมลับในอังกฤษ = FREE THAI หรือ XOGROUP หรือ ขบวนการเสรีไทย
ขบวนการเสรีไทย + สมาคมลับในเมืองไทย = สมาคมนักลงทุนลับ value investor
สมาคมนักลงทุนลับ value investor + ดร. โหน่ง คำตอบ... บิงโก โฮมส์มองตาคุณหมอ
สร้อยที่คุณหมอใส่ และจดหมายที่เป็นปริศนาฉบับนี้ครับ!
ช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายเปิดให้แล้ว แต่เธอยังนิ่งเฉย
หนุกดี ใช่ไหมครับ conspiracy theory ของผม
โฮมส์รู้สึกหัวใจบีบเล็กน้อย เป็นความรู้สึกที่มักเกิดขึ้นเสมอเมื่อเขารู้ว่าได้พบปมเงื่อนสำคัญของความลับบางอย่าง ความสังหรณ์ณ์ใจว่าจะได้พบความจริงเฉกเช่นนี้อารมณ์ความรู้สึกแห่งความเชื่อมั่นนี้ไม่เคยหลอกลวงเขา เขารีบคลี่กระดาษจดหมายภาพสัญญาลักษณ์อีกด้วยความร้อนรน ความประหลาดใจอีกอย่างหนึ่งรอเขาอยู่ไม่นานนัก
วัตสันกำลังสืบค้นหาสถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของขบวนการเสรีไทยในอังกฤษอยู่ และ ที่ขาดไม่ได้ การที่จะสามารถตีรหัสลับของกลุ่ม Value investor ให้แตกได้ ก็จำเป็นต้องมี กุญแจถอดรหัสที่ใช้ทำการ encrypt สัญญาลักษณ์ข้อความ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันมา ระหว่างเสรีไทย กับ กลุ่มพันธมิตร ตั้งแต่ในช่วงสงครามโลกครั้งนั้น
โฮมส์ลอกวาดข้อความลึกลับในจดหมายลงใน มือถือ ยีห้อ Sony Ericsson รุ่น M600i เรียงตามลำดับ :
ให้ตายเถอะ! เขาบ่นพึม เห็นแล้วก้ใช่ว่าจะมีความหมายอะไรนักหนา
คำเฉลยเพียงหนึ่งเดียวผุดขึ้นในสมองของเขา และถึงที่สุดแล้วดูเหมือนเขารู้สึกว่าเป็นคำเฉลยที่แท้จริงด้วย ในเมื่อมันเข้ากันได้กับตรรกะของข้อเท็จจริงและสอดคล้องกับเงื่อนไขของสายโซ่ที่ร้อยเชื่อม
ถึงแล้ว คุณโฮมส์ ลงที่สถานีนี้ค่ะ....รามคำแหง ซอย 34..... อ้าว ประตูไม่ยอมเปิด
คุณหมอเหลือบมองโฮมส์เป็นเชิงขอความเห็น แล้วเธอก็เอากำปั้นทุบประตูปังๆ
เสียงเด็กผู้หญิงคนเดิมตกใจกรี๊ดร้องไห้ บอกให้รู้ว่าเจ้าของเสียงไม่ต้องการจะนั่งอีกต่อไป หนูน้อยลุกขึ้นกำปั้นน้อยๆ ช่วยทุบประตูอีกครั้ง ขณะโฮมส์ใช้ไหล่แข็งแรงของเขากระแทกโครมเข้าทีหนึ่งก็ได้ผล ประตูเปิดผาง ทั้งสองคน เด็กและโฮมส์พุ่งปร๊าดกระโจนพรวดออกก่อนใคร
คุณหมอกะโฮมส์กระหืดกระหอบ เบียดเสียดขึ้นรถไฟฟ้า วันนี้เบียดกันมาก ๆ รถมาสาย รอนาน คนแน่น ครบ! ที่ยืนก่อนแล้วก็ไม่เดินเข้าไปข้างใน และ ปล่อยที่ว่างไว้
มีคุณพ่อพาคุณลูกสาวประมาณ 5 ขวบขึ้นมาข้างหลัง ประตูเกือบหนีบคุณพ่อ ผู้หญิงที่นั่งใกล้ประตูทางเข้าลุกให้เด็กนั่ง หลังจากเด็กนั่ง คุณพ่อทำท่าทำทางให้ลูกสาวขอบคุณพี่ผู้หญิง พ่อพยายามทำท่ายกมือไหว้ น้องเค้าก็ยังหาโอกาสขอบคุณพี่เค้าไม่ได้ซักที พ่อก็ขยิบตาให้ แล้วทำท่าไหว้ คุณหมอยืนอยู่เยื้องๆเห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ จนหนูน้อยเอื้อมมือไปสะกิดพี่ผู้หญิง แล้วยกมือไหว้ พร้อมบอกว่า ขอบคุณคะ พ่อก็ยิ้ม ผู้หญิงก็ยิ้ม คุณหมอก็ยิ้ม ต้องอย่างนี้ซิคนไทย มารยาทไทย
เรื่องดีๆในสังคม แม้มันจะน้อยนิด ถ้าช่วยๆกันทำก็ดีนะคะ สิ่งเหล่านี้ ทำแล้ว ความสุข ทั้งนั้น มากกว่าได้เงินทอง มิสเตอร์โฮมส์ว่าไหม คุณหมอกระซิบถาม
โฮมส์ไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้
เป็นไปได้สิ! คุณหมอสวนกลับ ขณะสไลด์รอยยิ้ม
แปลกเหลือเกิน โฮมส์ร้องออกมา
นั่นซี คุณหมอเอออวย แต่มันเรื่องอะไรนี่สิคะ
อะฮ้า! โฮมส์ตะโกน ผมไม่อยากจะเชื่อ โบโร่ชิงยูฟ่าคัพ
โฮมส์ตอบ หลังเอี้ยวคอแอบอ่าน SIAMSPORT ฉบับ วันศุกร์ที่ 28 เม.ย. จากคนยืนข้างๆ ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ "สิงห์แดง" แสดงพลังฮึด พลิกสกอร์จากตามหลัง 0-2 กลับมาไล่ถล่มชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 4-2 ซิวตั๋วเข้าไปชิงถ้วย ยูฟ่า คัพ กับ เซบีญ่า ด้วยสกอร์รวม 2 นัด ชนะ 4-3 ในศึกยูฟ่า คัพ รอบตัดเชือก นัดสอง ที่สนาม ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม
"ผมพูดไม่ออกจริงๆ..... อย่างกะมีใครมาเขียนสคริปต์ไว้ พวกเขาไม่เคยย่อท้อ ผม....ผมตื่นเต้นไปหมด! โบโร่ และ อาร์เซน่อล ถ้าคว้าแชมป์ทั้งสองถ้วย เป็นอะไรที่สุดยอด!
ทุกคนในรถไฟมองเขาอย่างไม่เชื่อถือ! เด็กผู้หญิงคนเดิมหัวเราะคิกคัก
ไม่เชื่อลุงใช่ไหมหนู โฮมส์ท้าทายหันไปทะเลาะกะเด็ก
ไม่อยากเชื่อเลย...... คุณหญิงเอ๋ย
โฮมส์หันกลับมามอง คุณหญิงมือหนึ่งปาดเช็ดน้ำคลอที่ตา ก่อนร่วงล่นมาบนสร้อยคอ ที่จับอีกมือ
โฮมส์ประหลาดใจที่เห็นจี้รูปหัวใจ ......... สีเงินสุกปลั่งตรงปลายสร้อย ดูเหมือนมีกามเทพยืนพิงข้างๆอีกทีดูแวววาวระยิบระยับและมีน้ำหนัก เขาซูมกามเทพขึ้นมาด้วยความพิศวงพินิศจ้องดู ตรงหัวกามเทพสีเงินขนาดเล็กรูปร่างเหมือนเป็นปุ่มกุญแจรีโมตไว้กดเปิดอะไรสักอย่าง
คุณหมอ ฟ้งผมนะ โฮมส์กลั้นใจ ไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดี สูดลมหายใจเข้าลึก นัยน์ตาสีฟ้าของเขาจ้องมองที่ช่วงคอเธอมั่น ขณะเอื้อมมือจะไปจับ ผมขอจับไอ้นั่นคุณหมอได้ไหม
คุณหญิงสะดุ้งขยับตัวถอยตั้งการ์ดขวานำ มองโฮมส์เหมือนพวกโรคจิต
คุณหมอ......สร้อยคอนั่นครับ ....ที่คุณหมอใส่ คุณหมอช่วยลองกดปุ่มตรงหัวตรงนั้น ครับ ครับ นั่นและครับ ได้ไหมครับ
โธ่ เอ้ย คุณหญิงถอนหายใจ แล้วไป เธอกดปุ่ม.... รูปกามเทพพิงหัวใจเปล่งแสงสีแดงกระพริบพร้อมกันสะท้อนตาโฮมส์ชัดเจน เขาร้องออกมารู้สึกหนาวยะเยือก
อักษร V.I.
V.I. โฮมส์พึมพำ คิ้วขมวด สัญญาลักษณ์แปลกๆนั่น ตัวอักษร VI ใช่ไหม เป็นชื่อย่อใครหรือปล่าวครับ มันเป็นกุญแจใช่ไหมครับ แล้วมันใช้เปิดอะไรครับ คุณหมอ ผมไม่เคยเห็น
คำถามนี้ทำให้เธอสะดุ้ง เชอร์ล็อค โฮมส์ รู้ได้อย่างไรนี่ ความเสียใจที่เข้าครอบงำจิตใจเธอฉับพลันนั้นแรงกล้า เป็นความโศกเศร้าล้ำลึกที่ร้อยรึงเอาสำนึกผิดเข้ามาด้วย
พี่โหน่งฝากสร้อยนี้ไว้กะดิฉันเมื่อเดือนก่อน ชื่อ VI ย่อมาจาก วิทูรย์ ชื่อจริงของพี่เค้า คุณหมอหันกลับไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง ดิฉันเห็นพี่เค้าใส่มันมาตั้งแต่เรายังเด็กๆวิ่งเล่นขี่จักรยานด้วยกันแถวบ้าน ประมาณเก้าขวบได้ พี่เค้าบอกว่า มันเอาไว้เปิดกล่อง ที่คุณพ่อพี่โหน่งเก็บความลับไว้ ความลับสุดยอด ห้ามบอกใคร คุณหมอยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ หัวเราะสนุกสนาน แล้วก็หยุด ดวงตาที่เหมือนมีเครื่องประดับงามล้ำคู่นั้น เหมือนมีเรื่องอะไรซ่อนอยู่
พี่โหน่งพยายามบอกเธอหลายต่อหลายหนตลอดเดือนที่ผ่านมา ชีวิตพี่เค้าอยู่ในอันตราย แต่คุณหมอยังทำเมินเฉย ไม่ยอมรับ ปิดโทรศัพท์ ทิ้งจดหมายที่พี่เค้าส่งมาไว้ก้นลิ้นชักโดยไม่ยอมเปิด และไม่ยอมเจอแม้พี่โหน่งจะพยายามเพียงไหน พี่เลิกล้อเล่นได้แล้วนะ! พอได้แล้ว ไอ้ปลาฉลามในตู้นั่นมันไม่กินพี่หรอกขี้เหร่ซะขนาดนี้! ขี้กลัวไปได้ แล้วจะให้ฉันทำอะไรได้ล่ะ และด้วยความรำคาญเหตุผลนี้เธอจึงกันพี่โหน่งออกจากชีวิตสักพัก
พี่โหน่งไปแล้ว เธอไม่มีโอกาสเอ๋ยคำว่า ขอโทษ!
ใช่ จดหมาย โอ... ถ้าคุณได้รู้เรื่องสักหน่อย คุณหมอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา
โฮมส์กระซิบอย่างแผ่วเบา จดหมายอะไรครับ
พี่โหน่งส่งมา คุณหมอยื่นให้โฮมส์ เขียนข้างหลังกระดาษด้วยว่า ให้เอาไปส่งที่ ตึก เพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส แถวถนนรามคำแหง เรากำลังจะไปที่นั่นคะ
เพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส! โฮมส์ย้ำ รับจากคุณหมอมาดู
พี่เค้าวาดเป็นรูปสัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำอีกแล้ว ลักษณะเดียวกะที่เขาวาดบนพื้นที่สยามโอเชี่ยนเวิลด์นั่น เออ..... คุณโฮมส์ เคยเห็นมาก่อนไหมคะ รู้ไหมคะพี่เค้าพยายามจะบอกอะไรดิฉัน ทำไมเค้าไม่เขียนชื่อไปเลยว่าใครทำ
โฮมส์ พยักหน้ารับ ครับ เคยเห็นครั้งหนึ่งประมาณสิบกว่าปีแล้ว
ที่ไหน!
โฮมส์ลังเล สบตาเธอแน่วแน่ แล้วลดเสียงลง คุณหมอ....นี่เป็นเรื่องสำคัญมากนะ ผมแน่ใจ พี่โหน่งของคุณหมอ เป็นสมาชิกของสมาคมนักลงทุนลับแห่งหนึ่งที่เรียกว่าตัวเองว่า Value Investorกลุ่มภราดรลับที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ---อักษร V.I. บวกกะสัญญาลักษณ์มันยืนยันความมั่นใจผม
คิดว่าสมาคมลับแห่งนี้เป็นแค่เพียงนิยายในตำนานเสียอีก ! เป็นไปไม่ได้ แต่เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เธอเริ่มรู้สึกหน้าท้องเกร็ง พี่โหน่งคงไม่บอกว่าเขาเองเป็นสมาชิกสมาคมอะไรนั่นอยู่ด้วย
ผมสนใจศึกษาค้นคว้าขีดเขียนเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ที่อังกฤษมาหลายปี การวิจัยเรื่องสัญญาลักษณ์ของสมาคมลับต่างๆเป็นความชำนาญพิเศษของผม สมาคมนี้มีสมาชิกเป็นผู้ทรงความสามารถ และทรงอำนาจ เป็นบุคคลที่มีการศึกษาดีและรอบรู้มากมายในหลากหลายวิชาสาขาจากทั่วประเทศ ตอนที่คุณหมอส่งรูปทางเมลให้ผมดู ผมรู้ทันทีว่าเขาเกี่ยวข้องกะสมาคมลับ ผมเคยเห็น สัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำ มาก่อนที่มหาลัย London School of Economics ..ในความคิดของผม ทั้งหมดที่ต้องทำคือค้นให้พบสายโซ่ที่ร้อยเชื่อมส่วนต่างๆให้เป็นเรืองเดียวกัน :
คนไทย + London School of Economics = ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์
ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์ + สมาคมลับในอังกฤษ = FREE THAI หรือ XOGROUP หรือ ขบวนการเสรีไทย
ขบวนการเสรีไทย + สมาคมลับในเมืองไทย = สมาคมนักลงทุนลับ value investor
สมาคมนักลงทุนลับ value investor + ดร. โหน่ง คำตอบ... บิงโก โฮมส์มองตาคุณหมอ
สร้อยที่คุณหมอใส่ และจดหมายที่เป็นปริศนาฉบับนี้ครับ!
ช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายเปิดให้แล้ว แต่เธอยังนิ่งเฉย
หนุกดี ใช่ไหมครับ conspiracy theory ของผม
โฮมส์รู้สึกหัวใจบีบเล็กน้อย เป็นความรู้สึกที่มักเกิดขึ้นเสมอเมื่อเขารู้ว่าได้พบปมเงื่อนสำคัญของความลับบางอย่าง ความสังหรณ์ณ์ใจว่าจะได้พบความจริงเฉกเช่นนี้อารมณ์ความรู้สึกแห่งความเชื่อมั่นนี้ไม่เคยหลอกลวงเขา เขารีบคลี่กระดาษจดหมายภาพสัญญาลักษณ์อีกด้วยความร้อนรน ความประหลาดใจอีกอย่างหนึ่งรอเขาอยู่ไม่นานนัก
วัตสันกำลังสืบค้นหาสถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของขบวนการเสรีไทยในอังกฤษอยู่ และ ที่ขาดไม่ได้ การที่จะสามารถตีรหัสลับของกลุ่ม Value investor ให้แตกได้ ก็จำเป็นต้องมี กุญแจถอดรหัสที่ใช้ทำการ encrypt สัญญาลักษณ์ข้อความ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันมา ระหว่างเสรีไทย กับ กลุ่มพันธมิตร ตั้งแต่ในช่วงสงครามโลกครั้งนั้น
โฮมส์ลอกวาดข้อความลึกลับในจดหมายลงใน มือถือ ยีห้อ Sony Ericsson รุ่น M600i เรียงตามลำดับ :
ให้ตายเถอะ! เขาบ่นพึม เห็นแล้วก้ใช่ว่าจะมีความหมายอะไรนักหนา
คำเฉลยเพียงหนึ่งเดียวผุดขึ้นในสมองของเขา และถึงที่สุดแล้วดูเหมือนเขารู้สึกว่าเป็นคำเฉลยที่แท้จริงด้วย ในเมื่อมันเข้ากันได้กับตรรกะของข้อเท็จจริงและสอดคล้องกับเงื่อนไขของสายโซ่ที่ร้อยเชื่อม
ถึงแล้ว คุณโฮมส์ ลงที่สถานีนี้ค่ะ....รามคำแหง ซอย 34..... อ้าว ประตูไม่ยอมเปิด
คุณหมอเหลือบมองโฮมส์เป็นเชิงขอความเห็น แล้วเธอก็เอากำปั้นทุบประตูปังๆ
เสียงเด็กผู้หญิงคนเดิมตกใจกรี๊ดร้องไห้ บอกให้รู้ว่าเจ้าของเสียงไม่ต้องการจะนั่งอีกต่อไป หนูน้อยลุกขึ้นกำปั้นน้อยๆ ช่วยทุบประตูอีกครั้ง ขณะโฮมส์ใช้ไหล่แข็งแรงของเขากระแทกโครมเข้าทีหนึ่งก็ได้ผล ประตูเปิดผาง ทั้งสองคน เด็กและโฮมส์พุ่งปร๊าดกระโจนพรวดออกก่อนใคร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
นิยาย รหัสลับ value investor
โพสต์ที่ 7
เอารูปลงก็ต้องมีที่อยู่ของรูปเช่น
ของผม http://www.maebanthai.com/dr.nong.jpg
ที่นี้วิธีจะเอารูปมาลง ก็ต้องใส่เครืองหมาย
ของผม http://www.maebanthai.com/dr.nong.jpg
ที่นี้วิธีจะเอารูปมาลง ก็ต้องใส่เครืองหมาย
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๗
โพสต์ที่ 8
บทที่ ๗
ร้านเดิม ปั้มเจ็ทชานเมือง
แมลงวันตัวเดิมลอยผลุบๆโผล่ๆ ดิ้นอย่างอเนจอนาถ อยู่ในถ้วยกาแฟของบัฟเฟท เขานั่งสงบสำรวม ไม่โต้แย้ง ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครเชื่อหรอก อย่างน้อยก็ต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ แต่รอสโซ่ไม่มี เขายกถ้วยขึ้นมาจิบ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่หวั่นไหวสั่นเทา ตัวอะไรดิ้นอยู่ในปาก กลืนเข้าไป ไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงความกระสับกระส่าย ไม่มีสรรพสิ่งใดมาทำให้ความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้า ของมนุษย์พันธุ์พิเศษคนนี้ เขายอมตายอยู่ตรงนั้นมากกว่าจะยอมเผยริ้วรอย ความปั่นป่วนวุ่นวายใจให้เห็นแม้เพียงกระผีก
ยอมรับเสียเถิดเพื่อน รอสโซ่พูดอย่างช้าๆ พ่อคนเก่ง พ่อคนที่ผมนับถือ คุณมาที่นี่ก็ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อมาหาเงินทีคุณถ่วงน้ำเอาไว้นานแล้ว เพื่อป้องกันความสับสน ผมจะไม่ยุ่งกะเงินใต้น้ำนั่นของคุณ ปลาแบงค์ชาติตัวใหญ่กำลังตอดเหยื่อผมทีละหน่อย แต่ยังไม่งับเสียที ทุ่นติดสายเบ็ดของผมตอนนี้ลอยผลุบโผล่อยู่เหนือน้ำแล้ว ผมใคร่ให้คุณตอบง่ายๆ เพียงว่า ได้ หรือ ไม่ได้ เท่านั้น......เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ ยังมีเวลาแก้ไขความเลวร้ายที่คุณได้ทำไปแล้วนะ หลังจากนี้ผมไม่สามารถจะช่วยอะไรได้อีก จะยอมตกลงได้หรือไม่
ไม่ได้
รอสโซ่หน้านิ่วคิ้วขมวด ความดื้อรั้นของบัฟเฟททำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ผมขอร้องเพราะเห็นแก่คุณมากกว่าตัวผมเองซะอีก ผมร้องขอเพราะแน่ใจว่า คุณจะเป็นคนแรกที่เสียใจที่ตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยว ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย พ่อมหาจำเริญ นะ นะ : ได้หรือไม่ได้
ไม่ได้
เอาอย่างนั้นก็ได้ สวรรค์ทรงโปรด....เฮ้อ บัฟเฟทเพื่อนเรา ตามแต่ชะตากรรม จะตัดสิน....ดูซิ โชคชะตาได้ตัดสินแล้ว...
รอสโซ่ถอดหมวกฟางใบมหึมาออก ถอดเสื้อกั๊กม้วนวางไว้บนที่นั่งข้างตัว
ฉับพลันนั้นเขาก็กระโจนพรวดโถมร่างใส่บัฟเฟท กอดรัดไว้แน่น แล้วล้มโครมลงไป บนพื้นด้วยกัน
นี่มันยังไงกัน บัฟเฟทร้องขณะชุลลมุนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับรอสโซ่ แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา ถ้าเราคนใดคนหนึ่งกำราบอีกคนได้ ใครจะได้ประโยชน์นักรึ หือ ทำไมละ คุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับผม และผมก็ไม่รู้ทำอย่างไรกับคุณ คงต้องบอก ไอ้คนเขียน นั่น ให้เปลี่ยนชื่อ จาก รหัสลับ value investor เป็นเรื่อง รอสโซ่--บัฟเฟท นักเลงตลาดหุ้น แล้วมั้ง!
โต๊ะล้มระเนระนาดระหว่างพวกเขาต่อสู้กัน แก้วแตกกระจายไปทั่วพื้นร้านและน้ำกาแฟไหลหกเลอะเทอะหนังสือ Time Magazine ของบัฟเฟท หน้าที่ลงบทความ ร้านบ้านไร่ เปียกโชกขาดยุ่ย มีเสียงร้องเอะอะและเสียงตะโกนให้แยกจากกัน
บัฟเฟทพูดต่อไปว่า หาเรื่องเดือดร้อนเปล่าๆ ให้ตายซิ! คุณไม่รู้จักคิดเสียบ้างเลย...อายุปูนนี้แล้วยังทำเรื่องโง่ๆอีก คุณนี่มันบ้าบิ่น ซนจริงๆเลย.....
พูดมาถึงตรงนี้บัฟเฟทก็ดิ้นหลุดจากการยึดกุมของรอสโซ่ ฝ่ายรอสโซ่ที่กำลังโกรธจัดและพร้อมจะทำทุกอย่างได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป่า เขาสบถเบาๆ เกรงใจเจ้าของเว็บ ฟักทองเอ้ย! เมื่อรู้ว่าบัฟเฟทได้ฉกเอาสเปรย์พริก น้ำปลามะนาว ของเขาไปเสียแล้วโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
เอาเลย ผมไม่ว่าอะไรแล้ว!......ฉีดมาเลย บัฟเฟท เอาให้ตรงตานะ!.....สูงอีกหน่อย....ทางซ้ายอีกนิด.....อ้าว กดไม่ออก......เงอะงะจริงคุณนี่!.....ลองอีกที....ไม่ต้องสั่น......ทำตามที่สั่งนะ เอาละ.....นึง สอง ซ่ำ กด! ไม่ออกอีก! โธ่เอ้ย!
บัฟเฟทคลำข้างสเปรย์ ยกขึ้นมาอ่านวิธีใช้ที่ข้างกระป๋อง บริษัทไหนผลิตนี่!
ขณะที่รอสโซ่ยังร้องท้า
ที่นี้คุณจะว่ายังไง บัฟเฟท..... เมดอิน China กระป๋องนี้ผมพึ่งซื้อมาจาก Tecosco Lotus คำนับมันซะ ในฐานะที่มันวางขายอยู่ในบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุนด้วยเกือบ 4.3 ล้านหุ้นไม่ใช่หรือ และนี่กำลังจะยื่นขอจดเป็นธนาคารเพื่อรายย่อยอีก นับถือจริงๆ
บัฟเฟทรวบรวมเรี่ยวแรงเต็มที่แล้วเขาก็ทำท่าจะขว้าง......เปลี่ยนใจค่อยๆวางกระป๋องลงอย่างช้าๆบนเก้าอี้
บัฟเฟท อดยิ้มและชื่นชมชายผู้นี้ไม่ได้ ความกล้าบ้าบิ่นของเขาช่างมากล้นเสียนี่กระไร
ไม่แพ้ความกระฉับกระเฉง และความเบิกบานแห่งวัยไม้ใกล้ฝั่ง โคลงเคลงเท้งเต้ง และดูเหมือนเขาจะเพลิดเพลินกับทุกเรื่องราวเสียจริงๆ พูดได้ว่าความรู้สึกเร้าใจจากการเสี่ยงภัยทำให้ความปิติของเขาปรากฏออกมาทางกายและเป้าหมายในชีวิตของคนคนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสวงหา ภยันตรายใหม่ๆที่เขาจะนำมาพลิกแพลงเล่นสนุก ได้ดั่งเด็กโค่ง นักเล่นมายากล
เพื่อเห็นแก่พระเจ้า....คุณรอสโซ่ คุณเป็น คนจริง! คู่ปรับคนหนึ่ง! เมื่อกี้นี้คุณ...ทุ่มเทอุทิศตัวอย่างสุดๆ....ทว่ามันไม่เกิดมรรคผลใดๆ ยังไงบทบาทของผมในนิยายเรื่องนี้ ก็คงต้องเป็นอัฉริยะฝ่ายธรรมะผู้เข้ามาปกป้องและช่วยเหลือ ส่วนคุณเป็นฝ่ายอธรรมที่นำเอาน้ำตาและความสิ้นหวังมาให้ เราไปกันเถอะคุณนิเวศน์ เมื่อกี้นี้คุณ....เชียร์มวยมันเลยนะ
พวกเขาคำนับให้กันอย่างนอบน้อม ราวกับอยู่ในสนามประลองดาบ คู่ต้อสู้ทั้งสองฝ่ายคงมิได้เกลียดชังกัน แต่ชะตากรรมบังคับให้ฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ครั้นแล้วบัฟเฟทก็เดินนำดร. นิเวศน์ผลักประตูออกจากร้านไป
ร้านเดิม ปั้มเจ็ทชานเมือง
แมลงวันตัวเดิมลอยผลุบๆโผล่ๆ ดิ้นอย่างอเนจอนาถ อยู่ในถ้วยกาแฟของบัฟเฟท เขานั่งสงบสำรวม ไม่โต้แย้ง ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครเชื่อหรอก อย่างน้อยก็ต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ แต่รอสโซ่ไม่มี เขายกถ้วยขึ้นมาจิบ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่หวั่นไหวสั่นเทา ตัวอะไรดิ้นอยู่ในปาก กลืนเข้าไป ไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงความกระสับกระส่าย ไม่มีสรรพสิ่งใดมาทำให้ความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้า ของมนุษย์พันธุ์พิเศษคนนี้ เขายอมตายอยู่ตรงนั้นมากกว่าจะยอมเผยริ้วรอย ความปั่นป่วนวุ่นวายใจให้เห็นแม้เพียงกระผีก
ยอมรับเสียเถิดเพื่อน รอสโซ่พูดอย่างช้าๆ พ่อคนเก่ง พ่อคนที่ผมนับถือ คุณมาที่นี่ก็ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อมาหาเงินทีคุณถ่วงน้ำเอาไว้นานแล้ว เพื่อป้องกันความสับสน ผมจะไม่ยุ่งกะเงินใต้น้ำนั่นของคุณ ปลาแบงค์ชาติตัวใหญ่กำลังตอดเหยื่อผมทีละหน่อย แต่ยังไม่งับเสียที ทุ่นติดสายเบ็ดของผมตอนนี้ลอยผลุบโผล่อยู่เหนือน้ำแล้ว ผมใคร่ให้คุณตอบง่ายๆ เพียงว่า ได้ หรือ ไม่ได้ เท่านั้น......เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ ยังมีเวลาแก้ไขความเลวร้ายที่คุณได้ทำไปแล้วนะ หลังจากนี้ผมไม่สามารถจะช่วยอะไรได้อีก จะยอมตกลงได้หรือไม่
ไม่ได้
รอสโซ่หน้านิ่วคิ้วขมวด ความดื้อรั้นของบัฟเฟททำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ผมขอร้องเพราะเห็นแก่คุณมากกว่าตัวผมเองซะอีก ผมร้องขอเพราะแน่ใจว่า คุณจะเป็นคนแรกที่เสียใจที่ตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยว ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย พ่อมหาจำเริญ นะ นะ : ได้หรือไม่ได้
ไม่ได้
เอาอย่างนั้นก็ได้ สวรรค์ทรงโปรด....เฮ้อ บัฟเฟทเพื่อนเรา ตามแต่ชะตากรรม จะตัดสิน....ดูซิ โชคชะตาได้ตัดสินแล้ว...
รอสโซ่ถอดหมวกฟางใบมหึมาออก ถอดเสื้อกั๊กม้วนวางไว้บนที่นั่งข้างตัว
ฉับพลันนั้นเขาก็กระโจนพรวดโถมร่างใส่บัฟเฟท กอดรัดไว้แน่น แล้วล้มโครมลงไป บนพื้นด้วยกัน
นี่มันยังไงกัน บัฟเฟทร้องขณะชุลลมุนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับรอสโซ่ แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา ถ้าเราคนใดคนหนึ่งกำราบอีกคนได้ ใครจะได้ประโยชน์นักรึ หือ ทำไมละ คุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับผม และผมก็ไม่รู้ทำอย่างไรกับคุณ คงต้องบอก ไอ้คนเขียน นั่น ให้เปลี่ยนชื่อ จาก รหัสลับ value investor เป็นเรื่อง รอสโซ่--บัฟเฟท นักเลงตลาดหุ้น แล้วมั้ง!
โต๊ะล้มระเนระนาดระหว่างพวกเขาต่อสู้กัน แก้วแตกกระจายไปทั่วพื้นร้านและน้ำกาแฟไหลหกเลอะเทอะหนังสือ Time Magazine ของบัฟเฟท หน้าที่ลงบทความ ร้านบ้านไร่ เปียกโชกขาดยุ่ย มีเสียงร้องเอะอะและเสียงตะโกนให้แยกจากกัน
บัฟเฟทพูดต่อไปว่า หาเรื่องเดือดร้อนเปล่าๆ ให้ตายซิ! คุณไม่รู้จักคิดเสียบ้างเลย...อายุปูนนี้แล้วยังทำเรื่องโง่ๆอีก คุณนี่มันบ้าบิ่น ซนจริงๆเลย.....
พูดมาถึงตรงนี้บัฟเฟทก็ดิ้นหลุดจากการยึดกุมของรอสโซ่ ฝ่ายรอสโซ่ที่กำลังโกรธจัดและพร้อมจะทำทุกอย่างได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป่า เขาสบถเบาๆ เกรงใจเจ้าของเว็บ ฟักทองเอ้ย! เมื่อรู้ว่าบัฟเฟทได้ฉกเอาสเปรย์พริก น้ำปลามะนาว ของเขาไปเสียแล้วโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
เอาเลย ผมไม่ว่าอะไรแล้ว!......ฉีดมาเลย บัฟเฟท เอาให้ตรงตานะ!.....สูงอีกหน่อย....ทางซ้ายอีกนิด.....อ้าว กดไม่ออก......เงอะงะจริงคุณนี่!.....ลองอีกที....ไม่ต้องสั่น......ทำตามที่สั่งนะ เอาละ.....นึง สอง ซ่ำ กด! ไม่ออกอีก! โธ่เอ้ย!
บัฟเฟทคลำข้างสเปรย์ ยกขึ้นมาอ่านวิธีใช้ที่ข้างกระป๋อง บริษัทไหนผลิตนี่!
ขณะที่รอสโซ่ยังร้องท้า
ที่นี้คุณจะว่ายังไง บัฟเฟท..... เมดอิน China กระป๋องนี้ผมพึ่งซื้อมาจาก Tecosco Lotus คำนับมันซะ ในฐานะที่มันวางขายอยู่ในบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุนด้วยเกือบ 4.3 ล้านหุ้นไม่ใช่หรือ และนี่กำลังจะยื่นขอจดเป็นธนาคารเพื่อรายย่อยอีก นับถือจริงๆ
บัฟเฟทรวบรวมเรี่ยวแรงเต็มที่แล้วเขาก็ทำท่าจะขว้าง......เปลี่ยนใจค่อยๆวางกระป๋องลงอย่างช้าๆบนเก้าอี้
บัฟเฟท อดยิ้มและชื่นชมชายผู้นี้ไม่ได้ ความกล้าบ้าบิ่นของเขาช่างมากล้นเสียนี่กระไร
ไม่แพ้ความกระฉับกระเฉง และความเบิกบานแห่งวัยไม้ใกล้ฝั่ง โคลงเคลงเท้งเต้ง และดูเหมือนเขาจะเพลิดเพลินกับทุกเรื่องราวเสียจริงๆ พูดได้ว่าความรู้สึกเร้าใจจากการเสี่ยงภัยทำให้ความปิติของเขาปรากฏออกมาทางกายและเป้าหมายในชีวิตของคนคนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสวงหา ภยันตรายใหม่ๆที่เขาจะนำมาพลิกแพลงเล่นสนุก ได้ดั่งเด็กโค่ง นักเล่นมายากล
เพื่อเห็นแก่พระเจ้า....คุณรอสโซ่ คุณเป็น คนจริง! คู่ปรับคนหนึ่ง! เมื่อกี้นี้คุณ...ทุ่มเทอุทิศตัวอย่างสุดๆ....ทว่ามันไม่เกิดมรรคผลใดๆ ยังไงบทบาทของผมในนิยายเรื่องนี้ ก็คงต้องเป็นอัฉริยะฝ่ายธรรมะผู้เข้ามาปกป้องและช่วยเหลือ ส่วนคุณเป็นฝ่ายอธรรมที่นำเอาน้ำตาและความสิ้นหวังมาให้ เราไปกันเถอะคุณนิเวศน์ เมื่อกี้นี้คุณ....เชียร์มวยมันเลยนะ
พวกเขาคำนับให้กันอย่างนอบน้อม ราวกับอยู่ในสนามประลองดาบ คู่ต้อสู้ทั้งสองฝ่ายคงมิได้เกลียดชังกัน แต่ชะตากรรมบังคับให้ฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ครั้นแล้วบัฟเฟทก็เดินนำดร. นิเวศน์ผลักประตูออกจากร้านไป
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๘
โพสต์ที่ 9
บทที่ ๘
ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส
ถนนรามคำแหง 34
สำนักงานใหญ่และศูนย์อบรมสัมมนาของไทยแวลูอินเวสเตอร์ตั้งอยู่ที่ ๒๑๘๘/๔๙ ตั้งอยู่บนพื้นที่ ๖ ไร่ บริเวณถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ ด้วยมูลค่ากว่า ๔๖ ล้านบาท อาคารสูงทรงเรือนไทยโบราณ 19 ชั้น เนื้อที่เกือบ ๑๒,๓๔๕ ตารางเมตรแห่งนี้ หันประตูหน้าด้านถนนรามคำแหง ตกแต่งด้วยอิฐแดงและไม้สักทองไทย
มีบริษัทกลางและเล็กราว 20 แห่งเช่าในตึก รวมถึงหน่วยราชการของไทย คือ สำนักงานการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า อยู่ในชั้นที่ 3 สำนักงานของธนาคารเน้นคุณค่าความเป็นไทย อยู่ชั้น 4 บริษัท Thai Value โภคภัณฑ์ ชั้น 5 ผู้ทำงานอยู่ในตึก มีประมาณ 2,000 คน ทั้งอาคารมีห้อง อาหาร 9 ห้อง อยู่ทางทิศใต้ตามลำดับ ห้องสปา & สปอร์ท ชั้น 15 ทางทิศตะวันตก ห้องนั่งเล่น ห้องประชุม ชั้น 16 ทางทิศเหนือ และ ชั้นที่ 17 มีห้องนั่งสมาธิ ตกแต่งด้วยงานไม้กับหินอ่อน ชั้นที่ 19 บนสุดเป็นสกายโดม มีสวนสาธารณะแบบป่าดงดิบและ มีภัตตาคารไทย ชื่อร้าน Thai Value Smile หรือ ร้านอาหารไทยแบบเน้นรอยยิ้ม ได้รับคำบรรยายว่า บรรยากาศในยามเช้าเย็นๆ มี มีดนตรีบรรเลงเสียงซึง มีเสียงนกร้อง เสียงลำธาร เสียงจิ้งหรีด เหมือนป่าธรรมชาติ ไม้ป่าหลายชนิด หน้าร้อนนี้เริ่มบานดอกแล้ว ส่งกลื่นหอมเย็นๆ ยั่วหมู่ผึ้งให้มาตอม อย่าง ดอกเอื้องผึ้ง เอื้องคำ ว่านสี่ทิศ ส่วนดอกลำใยส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาแตะจมูก สดชื่นไม่เบา แล้วที่ . . ตื่นเต้นกันมาก ก้อคือ !! ฝูงผีเสื้อนับร้อยนับพันบินว่อนคละเคล้ากับหมอกยามเช้าเต็มไปหมด
อาหารที่นี่ฝีมือแม่ครัว ทำแกงเลียง น้ำพริกอ่อง กระบองจ่อ ผักกูดน้ำมันหอย ตามด้วยแกงแค ประทับใจและอร่อยมาก ถ้าไปแวะไปกินบ่อยๆ บางทีจะติดพูดภาษากลางไม่ชัด ติดภาษาของน้องเป้อตู๋ บริกรกระเหรี่ยง มากันทุกคน
ชั้นล่างของอาคาร ตกแต่งบรรยากาศแบบสมัยใหม่ไทยโมเดิร์น มีการจัดงานนิทรรศการศิลปะไทย จัดแสดงบริบทของโขนเรื่องรามเกียรติ์ในด้านศิลปกรรมแขนงต่างๆ ได้แก่ การแสดง จิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรมและวรรณคดี นำเสนอด้วย กองทัพตุ๊กตา ตอนศึกกุมภกรรณที่เคลื่อนกองทัพโรมรัน ทำสงคราม ตุ๊กตาดินปั้น หัวโขนขนาดเท่าจริง หุ่นละครเล็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นงานหัตถกรรมของช่างไทยทั้งฝีมือชาวบ้าน ช่างพาณิชย์และช่างวิจิตร
ป้ายหน้าอาคาร ประดับด้วยงาช้างแกะสลักลายไทย ติดชื่อว่า
ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส
คุณหญิงกะโฮมส์ด้อมๆมองๆ ตอกแรกไม่กล้าเข้า เห็นที่แรกคิดว่าพิพิธภัณฑ์ พอเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ รปภ.ขอประทับหลังมือโดยเหลือบมองเพียงแวบเดียว แล้วชี้มือไปทางน้องนั่งเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ผิวขาวนวลผ่อง ดูดัดผมหยิกเล็กน้อย กัดสีผมหน่อย ดัดฟันและอำนวยความสะดวกด้วยการถลึงตา ฉีกยิ้ม ให้เหมือนรูปถ่ายที่ห้อยคอไว้
โฮมส์บอกผมเองคุณหมอ! เขาถอดเสื้อโคตสเว็ตเตอร์สีมัสตาร์ดออก เห็นเสื้อเชิ้ตไหมสีขาวนวลข้างใน เข็มขัดหนังสีน้ำตาลคร่าคร่า หัวเข็มขัดทองเหลือง รองเท้าหนังสีน้ำตาลหนังกลับ ที่ดูเหมือนจะประกาศว่า รับประกันตลอดชีพ กระเป๋ากางเกงตกห้อย....มีเศษตังค์อัดแน่นเต็มจนโป่งนูน เขาเดินเอื่อยตรงเข้าไปหา ประชาสัมพันธ์ คางเชิดสูง อกผายไหล่ผึ่ง รอยยิ้มเรื่อแต้มบนใบหน้า ปล่อยให้บรรยากาศซึมแทรกเรือนร่างอย่างช้าๆ ใช่แล้วนี่คือผู้หญิงที่เขาจะหลงรัก พาไปขึ้นหอไอเฟล ดูโอเปราฟิกาโร แล้วไปดินเนอ์ต่อที่โดม สั่ง เครื่องดื่ม อาโล คล้องแขนดื่มท่ามกลางแสงเทียน
โทษนะคะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ เสียงผู้ชายในร่างผู้หญิงคนนั้นถาม
เออ....... โฮมส์สะดุ้งเล็กน้อย หันไปมองคุณหญิงเชิงขอความเห็น ขมวดคิ้ว คำนับแล้วถอยออก ไม่อยากรู้จักแล้ว
เขาเดินเลี่ยงไปทางงานนิทรรศการ โฮมส์รู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยปลอดโปร่งสบายใจอย่างนี้มาก่อนเท่าที่จำได้ เขาวางตัวสง่างาม ภาพสุภาพบุรุษในงาน
แสดงศิลปะนี่คือกระดานชนวนลบใหม่ว่างเปล่าที่เขาฝันไว้เสมอ....ลบอดีตและตัวตนทิ้ง
เขาเดินเลยไปร้านกาแฟด้านในเพราะต้องการไอเย็น รู้สึกหิวเล็กน้อย แต่บ่อยครั้งพบว่า ยิ่งหนาวยิ่งขายแพง ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ก่อนจ้องมองเขา แต่ไม่ได้ทักทายด้วย โฮมส์เตรียมตัวพร้อมแล้ว หากจะมีสาวจริงๆ สักคนลุกจากโต๊ะเดินตรงมาหา และร้องทักว่า เชอร์ล็อค โฮมส์ นี่คุณจริงๆ หรือ
โฮมส์เหลียวมองรอบกาย ร้านนี้นับว่าอยู่ในสมัยนิยม ดูเมนู มีปาเต ออง ครูต ไก่งวง เพติ โฟร์ เค้กแช่แข็งตัดเป้นก้อนพอคำ .....แม้ว่าผ้าหุ้มโซฟาและผ้ามานผืนยาวห้อยกั้นหน้าต่างเนื้อจะบางและสีแดงไปหน่อย เขาสั่งนมร้อนมาดื่ม โห....จืดชืดไร้รสชาติจริงๆ เอ๊......โฮมส์สะดุดตาที่ผนังสีขาวรอบร้าน ตัวหนังสืออะไรสักอย่างเต็มไปหมด เหมือนมีคนมาเซ็นต์ไว้ สงสัยจะให้ลูกค้าที่เคยแวะมาร้านนี้ เขียนไว้เป็นที่ระลึก เขาเดินไปอ่านทุกข้อความอย่างละเมียดละไม น้ำตาหลั่งหลินอาบสองแก้ม :
ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง..........
ครรชิต ไพศาล
เลือก ซางดู เพราะเขาอยู่ได้ด้วยคนอื่น...เพื่อคนอื่น..และเพราะคนอื่น ไม่ว่างเปล่า มีค่า มีความหมาย เป็นผู้ชายที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง....
แช อุน วาน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
Yoyo
การลงทุน ไปนั่งดูสาวๆแถวสยามพารากอน เพลิดเพลินที่สุด
เกจินูด
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
อาหารที่อร่อยที่สุดคือการกินฟรี ไม่ต้องลงทุน
แดงจังกึม
การลงทุนที่เร้าใจที่สุดคือการแทงม้า
ไมเคิล โอเว่น
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
สามัญชน
เป้าหมายการลงทุนของข้าพเจ้า - มี Passive income 6 หลักต่อเดือน ภายใน 31 ธันวาคม 2556
Dr.T
ใจเย็นๆ........จะทำอะไรตูมตามไม่ได้
แดง ไบเล่
ทำไม่ได้ หรือ ไม่ได้ทำ
por_jai
ทำแล้ว แต่ไม่ติด เมื่อยไปหมด หมอบอกว่าเชื้อเฮียไม่แข็งแรง
ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม
ไม่มีกลยุทธ์ใดตายตัวขึ้นอยู่กับสภาวะการณ์ เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้นปลายทาง คือ ความหลุดพ้น ชีวิต คือ ความว่างเปล่า ไม่มีใครหนีพ้นความตาย แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
ขงเบ้ง
สาธุ....
บิล เกตท์
เดินให้ถึงจุดหมาย อย่างมีความสุข
suirya
จุดหมายเดียวกับผมหรือเปล่า
บิน ลาเดน
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอสำหรับโอกาสที่ยังมาไม่ถึง และใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ยามมาถึง
2nd wind
ผมไม่อาย เพราะโชคช่วย เราเล่นห่วย แต่เข้าชิง
เวงเกอร์
ผมสนใจเฉพาะโอกาสที่ "ไม่ซื้อก็บ้าแล้ว" เท่านั้น
สุมาอี้
ถ้าบาเซ แพ้ อาเซ ผมบ้าแน่
มูรินโญ
ขายหมูไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าไปซื้อควายกลับมา
CopyWriter
ซื้อแล้วไม่เป็นไร สงสารมัน อาตมาขอบิณฑบาต เจริญพรนะโยม
หลวงพี่
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
moo
ผมไม่เสียคะ บ้า! เกิดหนึ่งอะไรหรอ ทายอายุจากผมก็แล้วกัน
คาร่า
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
คนขายของ
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
พี่แท่ง
เค้าว่ากันว่ากำไรที่แย่ ยังดีกว่าการขาดทุนที่ฉลาด
Onokung
เค้าว่ากันว่าเข็นภูเขาลงครก อยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
คนขายครก
ประเทศชาติที่ดี.. ต้องมีสังคมที่ดีงามสังคมที่ดีงาม.. ต้องมีประชาชนที่ดี
ประชาชนที่ดี.. ต้องมีจิตใจที่ดีงาม
doji
ผมขอเข้าพรรค ด้วยคนครับ ท่าน!
ชูวิทย์
มี 1 หุ้น พึ่งบรรจบให้ครบ 100 ความรู้ยังด้อย เร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่ จะได้มีวิชา วันข้างหน้า คงเป็นเซียนอย่างใครเขา
เด็กเลี้ยงห่าน
มีแกะหนึ่ง พึงบรรจบให้ครบสอง อย่ากลัวลองนับดูจะเห็นผล
ตั้งสตินับดูอย่าให้ปน อ้าวเสียงกรนใครเอยหลับง่ายจริง
เด็กเลี้ยงแกะ
ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็ทำได้
ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็แพ้ตั้งแต่ต้น
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง
ในตลาดหุ้นนั้น สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่อน
VIB007
สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง
กล้วยทอด
สักวัน กล้วยถอดป้าจะขายดี
ป้าเก่งปากซอย
มือใหม่ตัวน้อย..อ่อนด้อยศึกษา..ขอความกรุณาด้วยค้าบบ สู้ว้อย!!!
t_a_y_pt
กล่าววาจาทางลมปากมีความหมายอันใด.....รับดาบ
โค่วจง มังกรคู่สู้สิบทิศ
แม่งเม่าในวันนี้ คือขาใหญ่ในวันข้างหน้า
Miracle
I just walk into the investment world.
แล้วแมงเม่าจะเป็นแมงมุม
i_thewind
สัตว์โลกทั้งหลาย จงยังไว้ซึ่งความไม่ประมาทเถิด
หลวงพี่คนเดิม
มีบางคนบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อตามหาอีกครึ่งหนึ่งของตัวเรา "ที่หายไป"
bluesky
มีบางคนบอกว่า ผมคือคนคนนั้นที่คุณกำลังตามหา
เฒ่าหัวงู
ฝัน ถึงวันฟ้าสวย อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น ฝัน เป็น นักลงทุน ลุ้นความหวัง-ความ ตั้งใจ
ปรัชญา
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เล่นทั้งหวยทั้งหุ้น ต้องนั่งลุ้นทั้งหุ้นทั้งหวย
Belffet
但願人長久,千里共嬋娟
Jaychou
EXPECT FOR THE BEST, PREPARE FOR THE WORST
CK
Everyone loves Heroes But there is no true Saviour.
Viewtiful Investor
"Someone's sitting in the shade today because someone planted a tree long time ago."
ba_2l
One day, I will be a successful Strategic Investor
Financial Engineer
You'll never walk alone...If you take profit
โอ@
My name is Forrest,Forrest Gump. Now We are not strangers any more. ForrestGump
Expecto Patronum!!!!!
Harry
margin of safety, circle of competence
worapong
Fitness is my life,Cawow is my lover.
david
What do you mean.? How do you know.?
Is it True.? Can it be explain in anotherway.?
sirivajj
Investing is most intelligent when it is most businesslike
momo29
Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
Knott
Price is what you pay. Value is what you get.
Kao
Price is not Value.....Screening is not Valuation
Jeng
Impossible is Nothing
woody
โห......อะไรนี่ โฮมส์กระหืดกระหอบด้วยความดีใจ นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะเขียนแสดงความรู้ทางปรัชญาที่ไม่เคยมีใครรู้ของเขาบ้าง เขาจดปากกาหมึกซึมสีดำมีอักษรย่อ S.H.
คุณโฮมส์ ไปเถอะคะ ที่เคาร์เตอร์ให้ไปพบใครก็ไม่รู้ที่ร้านอาหารชั้น 19 ทำอะไรอยู่ละ เร็วๆคะ คงมีเซอร์ไพร์แน่คะ ทุกอย่างที่เป็นความลับทั้งหมดจะได้ถูกเปิดเผยซะที
โฮมส์ทำเป็นอ้ำอึ้ง ควักเศษตังค์มาจ่าย แล้วเดินบ่นหงุบๆ ตามคุณหมอไป
ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส
ถนนรามคำแหง 34
สำนักงานใหญ่และศูนย์อบรมสัมมนาของไทยแวลูอินเวสเตอร์ตั้งอยู่ที่ ๒๑๘๘/๔๙ ตั้งอยู่บนพื้นที่ ๖ ไร่ บริเวณถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ ด้วยมูลค่ากว่า ๔๖ ล้านบาท อาคารสูงทรงเรือนไทยโบราณ 19 ชั้น เนื้อที่เกือบ ๑๒,๓๔๕ ตารางเมตรแห่งนี้ หันประตูหน้าด้านถนนรามคำแหง ตกแต่งด้วยอิฐแดงและไม้สักทองไทย
มีบริษัทกลางและเล็กราว 20 แห่งเช่าในตึก รวมถึงหน่วยราชการของไทย คือ สำนักงานการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า อยู่ในชั้นที่ 3 สำนักงานของธนาคารเน้นคุณค่าความเป็นไทย อยู่ชั้น 4 บริษัท Thai Value โภคภัณฑ์ ชั้น 5 ผู้ทำงานอยู่ในตึก มีประมาณ 2,000 คน ทั้งอาคารมีห้อง อาหาร 9 ห้อง อยู่ทางทิศใต้ตามลำดับ ห้องสปา & สปอร์ท ชั้น 15 ทางทิศตะวันตก ห้องนั่งเล่น ห้องประชุม ชั้น 16 ทางทิศเหนือ และ ชั้นที่ 17 มีห้องนั่งสมาธิ ตกแต่งด้วยงานไม้กับหินอ่อน ชั้นที่ 19 บนสุดเป็นสกายโดม มีสวนสาธารณะแบบป่าดงดิบและ มีภัตตาคารไทย ชื่อร้าน Thai Value Smile หรือ ร้านอาหารไทยแบบเน้นรอยยิ้ม ได้รับคำบรรยายว่า บรรยากาศในยามเช้าเย็นๆ มี มีดนตรีบรรเลงเสียงซึง มีเสียงนกร้อง เสียงลำธาร เสียงจิ้งหรีด เหมือนป่าธรรมชาติ ไม้ป่าหลายชนิด หน้าร้อนนี้เริ่มบานดอกแล้ว ส่งกลื่นหอมเย็นๆ ยั่วหมู่ผึ้งให้มาตอม อย่าง ดอกเอื้องผึ้ง เอื้องคำ ว่านสี่ทิศ ส่วนดอกลำใยส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาแตะจมูก สดชื่นไม่เบา แล้วที่ . . ตื่นเต้นกันมาก ก้อคือ !! ฝูงผีเสื้อนับร้อยนับพันบินว่อนคละเคล้ากับหมอกยามเช้าเต็มไปหมด
อาหารที่นี่ฝีมือแม่ครัว ทำแกงเลียง น้ำพริกอ่อง กระบองจ่อ ผักกูดน้ำมันหอย ตามด้วยแกงแค ประทับใจและอร่อยมาก ถ้าไปแวะไปกินบ่อยๆ บางทีจะติดพูดภาษากลางไม่ชัด ติดภาษาของน้องเป้อตู๋ บริกรกระเหรี่ยง มากันทุกคน
ชั้นล่างของอาคาร ตกแต่งบรรยากาศแบบสมัยใหม่ไทยโมเดิร์น มีการจัดงานนิทรรศการศิลปะไทย จัดแสดงบริบทของโขนเรื่องรามเกียรติ์ในด้านศิลปกรรมแขนงต่างๆ ได้แก่ การแสดง จิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรมและวรรณคดี นำเสนอด้วย กองทัพตุ๊กตา ตอนศึกกุมภกรรณที่เคลื่อนกองทัพโรมรัน ทำสงคราม ตุ๊กตาดินปั้น หัวโขนขนาดเท่าจริง หุ่นละครเล็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นงานหัตถกรรมของช่างไทยทั้งฝีมือชาวบ้าน ช่างพาณิชย์และช่างวิจิตร
ป้ายหน้าอาคาร ประดับด้วยงาช้างแกะสลักลายไทย ติดชื่อว่า
ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส
คุณหญิงกะโฮมส์ด้อมๆมองๆ ตอกแรกไม่กล้าเข้า เห็นที่แรกคิดว่าพิพิธภัณฑ์ พอเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ รปภ.ขอประทับหลังมือโดยเหลือบมองเพียงแวบเดียว แล้วชี้มือไปทางน้องนั่งเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ผิวขาวนวลผ่อง ดูดัดผมหยิกเล็กน้อย กัดสีผมหน่อย ดัดฟันและอำนวยความสะดวกด้วยการถลึงตา ฉีกยิ้ม ให้เหมือนรูปถ่ายที่ห้อยคอไว้
โฮมส์บอกผมเองคุณหมอ! เขาถอดเสื้อโคตสเว็ตเตอร์สีมัสตาร์ดออก เห็นเสื้อเชิ้ตไหมสีขาวนวลข้างใน เข็มขัดหนังสีน้ำตาลคร่าคร่า หัวเข็มขัดทองเหลือง รองเท้าหนังสีน้ำตาลหนังกลับ ที่ดูเหมือนจะประกาศว่า รับประกันตลอดชีพ กระเป๋ากางเกงตกห้อย....มีเศษตังค์อัดแน่นเต็มจนโป่งนูน เขาเดินเอื่อยตรงเข้าไปหา ประชาสัมพันธ์ คางเชิดสูง อกผายไหล่ผึ่ง รอยยิ้มเรื่อแต้มบนใบหน้า ปล่อยให้บรรยากาศซึมแทรกเรือนร่างอย่างช้าๆ ใช่แล้วนี่คือผู้หญิงที่เขาจะหลงรัก พาไปขึ้นหอไอเฟล ดูโอเปราฟิกาโร แล้วไปดินเนอ์ต่อที่โดม สั่ง เครื่องดื่ม อาโล คล้องแขนดื่มท่ามกลางแสงเทียน
โทษนะคะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ เสียงผู้ชายในร่างผู้หญิงคนนั้นถาม
เออ....... โฮมส์สะดุ้งเล็กน้อย หันไปมองคุณหญิงเชิงขอความเห็น ขมวดคิ้ว คำนับแล้วถอยออก ไม่อยากรู้จักแล้ว
เขาเดินเลี่ยงไปทางงานนิทรรศการ โฮมส์รู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยปลอดโปร่งสบายใจอย่างนี้มาก่อนเท่าที่จำได้ เขาวางตัวสง่างาม ภาพสุภาพบุรุษในงาน
แสดงศิลปะนี่คือกระดานชนวนลบใหม่ว่างเปล่าที่เขาฝันไว้เสมอ....ลบอดีตและตัวตนทิ้ง
เขาเดินเลยไปร้านกาแฟด้านในเพราะต้องการไอเย็น รู้สึกหิวเล็กน้อย แต่บ่อยครั้งพบว่า ยิ่งหนาวยิ่งขายแพง ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ก่อนจ้องมองเขา แต่ไม่ได้ทักทายด้วย โฮมส์เตรียมตัวพร้อมแล้ว หากจะมีสาวจริงๆ สักคนลุกจากโต๊ะเดินตรงมาหา และร้องทักว่า เชอร์ล็อค โฮมส์ นี่คุณจริงๆ หรือ
โฮมส์เหลียวมองรอบกาย ร้านนี้นับว่าอยู่ในสมัยนิยม ดูเมนู มีปาเต ออง ครูต ไก่งวง เพติ โฟร์ เค้กแช่แข็งตัดเป้นก้อนพอคำ .....แม้ว่าผ้าหุ้มโซฟาและผ้ามานผืนยาวห้อยกั้นหน้าต่างเนื้อจะบางและสีแดงไปหน่อย เขาสั่งนมร้อนมาดื่ม โห....จืดชืดไร้รสชาติจริงๆ เอ๊......โฮมส์สะดุดตาที่ผนังสีขาวรอบร้าน ตัวหนังสืออะไรสักอย่างเต็มไปหมด เหมือนมีคนมาเซ็นต์ไว้ สงสัยจะให้ลูกค้าที่เคยแวะมาร้านนี้ เขียนไว้เป็นที่ระลึก เขาเดินไปอ่านทุกข้อความอย่างละเมียดละไม น้ำตาหลั่งหลินอาบสองแก้ม :
ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง..........
ครรชิต ไพศาล
เลือก ซางดู เพราะเขาอยู่ได้ด้วยคนอื่น...เพื่อคนอื่น..และเพราะคนอื่น ไม่ว่างเปล่า มีค่า มีความหมาย เป็นผู้ชายที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง....
แช อุน วาน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
Yoyo
การลงทุน ไปนั่งดูสาวๆแถวสยามพารากอน เพลิดเพลินที่สุด
เกจินูด
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
อาหารที่อร่อยที่สุดคือการกินฟรี ไม่ต้องลงทุน
แดงจังกึม
การลงทุนที่เร้าใจที่สุดคือการแทงม้า
ไมเคิล โอเว่น
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
สามัญชน
เป้าหมายการลงทุนของข้าพเจ้า - มี Passive income 6 หลักต่อเดือน ภายใน 31 ธันวาคม 2556
Dr.T
ใจเย็นๆ........จะทำอะไรตูมตามไม่ได้
แดง ไบเล่
ทำไม่ได้ หรือ ไม่ได้ทำ
por_jai
ทำแล้ว แต่ไม่ติด เมื่อยไปหมด หมอบอกว่าเชื้อเฮียไม่แข็งแรง
ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม
ไม่มีกลยุทธ์ใดตายตัวขึ้นอยู่กับสภาวะการณ์ เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้นปลายทาง คือ ความหลุดพ้น ชีวิต คือ ความว่างเปล่า ไม่มีใครหนีพ้นความตาย แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
ขงเบ้ง
สาธุ....
บิล เกตท์
เดินให้ถึงจุดหมาย อย่างมีความสุข
suirya
จุดหมายเดียวกับผมหรือเปล่า
บิน ลาเดน
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอสำหรับโอกาสที่ยังมาไม่ถึง และใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ยามมาถึง
2nd wind
ผมไม่อาย เพราะโชคช่วย เราเล่นห่วย แต่เข้าชิง
เวงเกอร์
ผมสนใจเฉพาะโอกาสที่ "ไม่ซื้อก็บ้าแล้ว" เท่านั้น
สุมาอี้
ถ้าบาเซ แพ้ อาเซ ผมบ้าแน่
มูรินโญ
ขายหมูไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าไปซื้อควายกลับมา
CopyWriter
ซื้อแล้วไม่เป็นไร สงสารมัน อาตมาขอบิณฑบาต เจริญพรนะโยม
หลวงพี่
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
moo
ผมไม่เสียคะ บ้า! เกิดหนึ่งอะไรหรอ ทายอายุจากผมก็แล้วกัน
คาร่า
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
คนขายของ
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
พี่แท่ง
เค้าว่ากันว่ากำไรที่แย่ ยังดีกว่าการขาดทุนที่ฉลาด
Onokung
เค้าว่ากันว่าเข็นภูเขาลงครก อยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
คนขายครก
ประเทศชาติที่ดี.. ต้องมีสังคมที่ดีงามสังคมที่ดีงาม.. ต้องมีประชาชนที่ดี
ประชาชนที่ดี.. ต้องมีจิตใจที่ดีงาม
doji
ผมขอเข้าพรรค ด้วยคนครับ ท่าน!
ชูวิทย์
มี 1 หุ้น พึ่งบรรจบให้ครบ 100 ความรู้ยังด้อย เร่งศึกษา
เมื่อเติบใหญ่ จะได้มีวิชา วันข้างหน้า คงเป็นเซียนอย่างใครเขา
เด็กเลี้ยงห่าน
มีแกะหนึ่ง พึงบรรจบให้ครบสอง อย่ากลัวลองนับดูจะเห็นผล
ตั้งสตินับดูอย่าให้ปน อ้าวเสียงกรนใครเอยหลับง่ายจริง
เด็กเลี้ยงแกะ
ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็ทำได้
ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็แพ้ตั้งแต่ต้น
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง
ในตลาดหุ้นนั้น สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่อน
VIB007
สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง
กล้วยทอด
สักวัน กล้วยถอดป้าจะขายดี
ป้าเก่งปากซอย
มือใหม่ตัวน้อย..อ่อนด้อยศึกษา..ขอความกรุณาด้วยค้าบบ สู้ว้อย!!!
t_a_y_pt
กล่าววาจาทางลมปากมีความหมายอันใด.....รับดาบ
โค่วจง มังกรคู่สู้สิบทิศ
แม่งเม่าในวันนี้ คือขาใหญ่ในวันข้างหน้า
Miracle
I just walk into the investment world.
แล้วแมงเม่าจะเป็นแมงมุม
i_thewind
สัตว์โลกทั้งหลาย จงยังไว้ซึ่งความไม่ประมาทเถิด
หลวงพี่คนเดิม
มีบางคนบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อตามหาอีกครึ่งหนึ่งของตัวเรา "ที่หายไป"
bluesky
มีบางคนบอกว่า ผมคือคนคนนั้นที่คุณกำลังตามหา
เฒ่าหัวงู
ฝัน ถึงวันฟ้าสวย อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น ฝัน เป็น นักลงทุน ลุ้นความหวัง-ความ ตั้งใจ
ปรัชญา
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เล่นทั้งหวยทั้งหุ้น ต้องนั่งลุ้นทั้งหุ้นทั้งหวย
Belffet
但願人長久,千里共嬋娟
Jaychou
EXPECT FOR THE BEST, PREPARE FOR THE WORST
CK
Everyone loves Heroes But there is no true Saviour.
Viewtiful Investor
"Someone's sitting in the shade today because someone planted a tree long time ago."
ba_2l
One day, I will be a successful Strategic Investor
Financial Engineer
You'll never walk alone...If you take profit
โอ@
My name is Forrest,Forrest Gump. Now We are not strangers any more. ForrestGump
Expecto Patronum!!!!!
Harry
margin of safety, circle of competence
worapong
Fitness is my life,Cawow is my lover.
david
What do you mean.? How do you know.?
Is it True.? Can it be explain in anotherway.?
sirivajj
Investing is most intelligent when it is most businesslike
momo29
Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
Knott
Price is what you pay. Value is what you get.
Kao
Price is not Value.....Screening is not Valuation
Jeng
Impossible is Nothing
woody
โห......อะไรนี่ โฮมส์กระหืดกระหอบด้วยความดีใจ นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะเขียนแสดงความรู้ทางปรัชญาที่ไม่เคยมีใครรู้ของเขาบ้าง เขาจดปากกาหมึกซึมสีดำมีอักษรย่อ S.H.
คุณโฮมส์ ไปเถอะคะ ที่เคาร์เตอร์ให้ไปพบใครก็ไม่รู้ที่ร้านอาหารชั้น 19 ทำอะไรอยู่ละ เร็วๆคะ คงมีเซอร์ไพร์แน่คะ ทุกอย่างที่เป็นความลับทั้งหมดจะได้ถูกเปิดเผยซะที
โฮมส์ทำเป็นอ้ำอึ้ง ควักเศษตังค์มาจ่าย แล้วเดินบ่นหงุบๆ ตามคุณหมอไป
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๙
โพสต์ที่ 10
บทที่ ๙
ป่าดงดิบ
ชั้น 19
การออกเดินทางไป ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส ของ เชอร์ล็อค โฮมส์ พร้อมกับ คุณหมอผู้ทำหน้าที่เก็บรักษาสร้อยคอสำคัญของ ดร. โหน่ง ในวันที่ 29 เมษายน 2549 แม้ว่าจะถือจดหมายปริศนาภาพสัญญาลักษณ์ ไปด้วย แต่จากการที่ไม่เคยมีการติดต่อกัน ระหว่างสมาคมนักลงทุนลับ value investor ในประเทศ หรือแม้แต่ สมาคม value investor นอกประเทศ ทำให้ทั้งสองคนต้องถูกทางเจ้าหน้าที่สมาคมควบคุมตัวไว้
โดยไม่รู้ตัว
อะไรกันนี่ โฮมส์อุทาน ไม่อยากเชื่อ! ป่าดงดิบกลางเมือง
แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวข้างล่าง แต่ที่ชั้นสิบเก้าสูงบนป่าใหญ่จำลองอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส ชุ่มฉ่ำ ไม้ป่าเริ่มมีดอกหลากสีบานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย เสียงน้ำตกไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่าให้ชีวิตชีวาแก่โฮมส์กะคุณหมอผู้ไปเยือน แม้ทางเดินเข้าป่าจะหยักคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะลำบากกว่าปกติ แต่รอยยิ้มเรื่อๆแต้มบนใบหน้าของทั้งสองคนไม่ลดน้อยลงเลย โดยเฉพาะโฮมส์ หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับความจอแจแออัดของมหานครลอนดอนมาหลายปี
อากาศบนนี้จะเย็นลงอีกในเวลากลางคืน พอรุ่งเช้าวันใหม่ ป่าจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา ความสวยงามของที่นี่แตกต่างไม่เคยเหมือนกันไม่เคยซ้ากัน เจ้าหน้าที่บรรยายขณะพาเดินนำ เขาเป็นคนผิวคล้ำ สูงขนาดธรรมดา ท่าทางเป็นคนขรึม กำลังกายปานกลางและรู้จักชั่งใจ แอบสังเกตสังกาโฮมส์ตลอดเวลา
คุณหมอ กระต่าย! โฮมส์ร้อง ขณะที่กระต่ายป่าตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าเขาไป
ท่ามกลางป่าจำลองแห่งนี้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกชนิดต่างๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 30 ชนิด ที่สำรวจพบอาศัยเป็นแหล่งหาอาหารกินแมลงและอาศัยอย่างถาวร นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกขุนทอง นกขุนแผน นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา และนกกระปูด ส่วนพวกแมลงที่พบมีมากกว่า 500 ชนิด ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อต่างๆหลากหลายสีหลากหลายชนิด
เจ้าหน้าที่ชี้ไปตามทางเดินสายยาวเบื้องหน้า จุดหมายปลายทางพอมองแล้ว เห็นหลังคาแวบๆลอดทิวไผ่ลำมะลอกลำใหญ่ๆที่ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มข้างทางเดิน ยังมี เคี่ยมคะนอง ปรก บรมือ จำปีป่า พะดง ทะโล้ ก่อน้ำ ก่อรัก ก่อด่าง และก่อเดือย ขึ้นปะปนกัน โฮมส์และคุณหมอจ้องมองภาพที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น
หมู่เรือนไทยโบราณซุกซ่อนตัวตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าริมเนินน้ำตก
ทั้งหมดมีอยู่ ๘ หลังด้วยกัน เรือนหลังที่ ๑ ตั้งอยู่ด้านหน้าทิศเหนือขนานกับถนนรามคำแหง มีสะพานเดินไปยังเรือนหลังที่ ๒, ๓ และ ๔ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ตามลำดับ เรือนหลังที่ ๕- ๘ ปลูกอยู่ห่างกันทางด้านทิศตะวันตก
มีป้ายปักริมรั้วใช้ภาษาไทยบอกว่า :
สถานที่ส่วนบุคคลห้ามล่วงล้ำ
เจ้าหน้าที่หยุดนิ่ง ขยับตัว เอื้อมมือไปกดปุ่มอินเทอร์คอม หมุนตัวกลับ แล้วเดินจากไป เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังมาจากลำโพงกระบอกไม้ไผ่ลำเล็กๆ และเสียงคนพูดดังขึ้น นั่นใคร บอกสโลแกนประจำตัวมา
ผมชื่อ เชอร์ล็อค โฮมส์ครับ โฮมส์ประกาศ บ่นพึมพำ สโลแกนอะไรฟะ และนี่...... คุณหมอชะโงกเอี้ยวตัวข้ามโฮมส์ ดิฉันเป็นเพื่อน พี่โหน่ง เป็นคนที่ถือจดหมายฉบับนั้นมา เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ..สโลแกน คือ ความดีของคนอยู่ในใจของคนทำ ทำดีไม่ขึ้นนั้นไม่มี ทำดีได้ดีเสมอ ต้องฝึกให้มั่นคงแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย...
เสียงเงียบไปนาน ทั้งคู่รอคอย นาทีเต็มๆ ผ่านไป
ในที่สุดก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น สุ้มเสียงมีพลังเต็มเปี่ยม ประตูรั้วเปิดดังกริ๊ก เรายังไม่ได้รับคำยืนยันสถานภาพของคุณ คุณโฮมส์ ทำให้การตรวจสอบยังไม่ประสบผลในเบื้องต้น และไม่สามารถติดต่อคนที่อังกฤษได้ แต่สำหรับคุณหมอ หัวใจของคุณมีแต่ความสัตย์จริง คุณผ่านเข้ามาได้คนเดียว
โฮมส์ทำหน้าเหมือนพึ่งกินอะไรเฝิ่อนๆ นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วทำเสียงบันเทิงใจเต็มที่
แหม! กำลังอยากฮ้องเพลงกำเมืองกั๋นเต๊อะ อยู่พอดีเลย ผมไปรอที่ร้านอาหารตรงที่เราผ่านมานะ แผ่ว แผ่วพริ้ว เสียงลม เสียงซึง ... นั่นคือ เสียงซึง จากลุง ต๋าคำ ...
โฮมส์อ้าปากร้องเพลงเดินผละไป ไม่รู้ไปถูกหรือปล่าว เป็นปล่าวพี่!
พอเดินขึ้นไปบนเรือน มองจนทั่ว คุณหมอพบว่าทั้งแปดหลังไม่มีใครอยู่เลย ใต้ถุนก็ไม่มี พอเธอเดินไปเรือนหลังที่แปดอีกครั้ง เธอก็ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ชั่งครู่ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนั้นเองที่คุณหมอได้ยินเสียง
เป็นเสียงที่ฟังไม่ชัดเจน และดูเหมือนจะดังมาจากไกลๆ ยังมี "หอเขียน" ตั้งอยู่ถัดจากสนามหญ้าสุดไปทางทิศใต้อีกนี่! ใช่จริงๆ เสียงนั้นมาจากหอเขียนนั่น เป็นเสียงเหมือนเสียงร้องเพลง หรือว่า ท่องมนตร์ใช่ไหมนี่ เธอรู้สึกหวาดหวั่น
คุณหมอเดินลงตรงไปหอเขียนนั้น รู้สึกว่าเสียงสวดดังขึ้น เธอเงี่ยหูฟัง เสียงชัดเจนขึ้น เป็นเสียงคนกำลังร้องเพลงแน่ๆ......เป็นถ้อยคำสูงๆ ต่ำๆ ที่คุณหมอฟังยังไม่ค่อยถนัด
ผนังตรงนี้เป็นช่องว่างมีรูนี่!
คุณหมอค่อยๆย่องไปตรงผนังมีรูนั้น หัวใจเต้นแรงขณะสอดนิ้วลงไปในช่อง เธอลังเลที่จะส่องดู เป็นเสียงคนกำลังร้องเพลงจริงๆดังก้องขึ้นมาจากความมืดมิดด้านใน ก่อนจะแนบหูลงบนผนังไม้ เสียงดังฟ้งชัดเจนขึ้นทันที :
หุ้นดีในดวงใจ ที่ยังเก็บไว้
เก็บเอาไว้ อีกนาน แสนนาน
ไม่เคยจะขาย ไม่เคยจะทิ้ง
ก็เป็นหุ้นที่ดี
หุ้นดีในดวงใจ ที่ยังใฝ่ฝัน
ว่าสักวันจะต้อง ขึ้นมา
สักวันที่ฝัน วันนั้นจะมาหา
ต้องมีทางเป็นสักวัน
เก็บไว้อีกนานนาน หุ้นดีในใจ
ไม่ขายก็ไม่ต้อง ขาดทุน
เก็บไว้อยู่ในใจ ไม่ว่าเท่าไหร่
จะนานอีกแค่ไหนก็รอ
**เก็บไว้ เพราะมันต้องเก็บไว้
ขายก็คงไม่ไหว ขายก็ไม่ได้ทุน
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ให้ลูกหลานต่อไป เป็นหุ้นประจำตระกูล
หุ้นดีในดวงใจ ไม่เคยปันผล
ก็จะทนเก็บไว้ เรื่อยไป
เพราะว่าตอนนี้ มีค่าแค่ครึ่งเดียว
จะขายมันลงได้ไง
เก็บไว้อีกนานนาน หุ้นดีในใจ
ไม่ขายก็ไม่ต้อง ขาดทุน
เก็บไว้อยู่ในใจ ไม่ว่าเท่าไหร่
จะนานอีกแค่ไหนก็รอ
**เก็บไว้ เพราะมันต้องเก็บไว้
ขายก็คงไม่ไหว ขายก็ไม่ได้ทุน
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ให้ลูกหลานต่อไป เป็นหุ้นประจำตระกูล
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ไม่ขายก็ไม่ขาดทุน แต่ก็แทบขาดใจ
http://www.doohoon.com/songs/song2.htm
(SOURCE: เพลงหุ้นดีในดวงใจ โสมรัศมี เนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียง หมื่นรู้ ขอบคุณมากๆ ครับ)
คุณหมอ กลั้นใจ ค่อยๆส่องเข้าไปในโพรง ใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะรับรู้ได้ว่าเธอกำลังมองเห็นอะไร แสงสว่างส่องมาจากเทียนนับสิบเล่มข้างผนัง ท่ามกลางแสงเรืองรองจากเทียนไข คนประมาณสามสิบคนยืนเป็นวงกลมอยู่กลางห้อง
นี่ฉันฝันไปละกระมัง คุณหมอบอกตนเอง เป็นความฝันนะ ไม่งั้นจะเป็นอะไรได้เล่า!
ป่าดงดิบ
ชั้น 19
การออกเดินทางไป ตึกเพอร์เฟ็คฮิลล์เพลส ของ เชอร์ล็อค โฮมส์ พร้อมกับ คุณหมอผู้ทำหน้าที่เก็บรักษาสร้อยคอสำคัญของ ดร. โหน่ง ในวันที่ 29 เมษายน 2549 แม้ว่าจะถือจดหมายปริศนาภาพสัญญาลักษณ์ ไปด้วย แต่จากการที่ไม่เคยมีการติดต่อกัน ระหว่างสมาคมนักลงทุนลับ value investor ในประเทศ หรือแม้แต่ สมาคม value investor นอกประเทศ ทำให้ทั้งสองคนต้องถูกทางเจ้าหน้าที่สมาคมควบคุมตัวไว้
โดยไม่รู้ตัว
อะไรกันนี่ โฮมส์อุทาน ไม่อยากเชื่อ! ป่าดงดิบกลางเมือง
แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวข้างล่าง แต่ที่ชั้นสิบเก้าสูงบนป่าใหญ่จำลองอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส ชุ่มฉ่ำ ไม้ป่าเริ่มมีดอกหลากสีบานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย เสียงน้ำตกไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่าให้ชีวิตชีวาแก่โฮมส์กะคุณหมอผู้ไปเยือน แม้ทางเดินเข้าป่าจะหยักคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะลำบากกว่าปกติ แต่รอยยิ้มเรื่อๆแต้มบนใบหน้าของทั้งสองคนไม่ลดน้อยลงเลย โดยเฉพาะโฮมส์ หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับความจอแจแออัดของมหานครลอนดอนมาหลายปี
อากาศบนนี้จะเย็นลงอีกในเวลากลางคืน พอรุ่งเช้าวันใหม่ ป่าจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา ความสวยงามของที่นี่แตกต่างไม่เคยเหมือนกันไม่เคยซ้ากัน เจ้าหน้าที่บรรยายขณะพาเดินนำ เขาเป็นคนผิวคล้ำ สูงขนาดธรรมดา ท่าทางเป็นคนขรึม กำลังกายปานกลางและรู้จักชั่งใจ แอบสังเกตสังกาโฮมส์ตลอดเวลา
คุณหมอ กระต่าย! โฮมส์ร้อง ขณะที่กระต่ายป่าตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าเขาไป
ท่ามกลางป่าจำลองแห่งนี้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกชนิดต่างๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 30 ชนิด ที่สำรวจพบอาศัยเป็นแหล่งหาอาหารกินแมลงและอาศัยอย่างถาวร นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกขุนทอง นกขุนแผน นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา และนกกระปูด ส่วนพวกแมลงที่พบมีมากกว่า 500 ชนิด ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อต่างๆหลากหลายสีหลากหลายชนิด
เจ้าหน้าที่ชี้ไปตามทางเดินสายยาวเบื้องหน้า จุดหมายปลายทางพอมองแล้ว เห็นหลังคาแวบๆลอดทิวไผ่ลำมะลอกลำใหญ่ๆที่ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มข้างทางเดิน ยังมี เคี่ยมคะนอง ปรก บรมือ จำปีป่า พะดง ทะโล้ ก่อน้ำ ก่อรัก ก่อด่าง และก่อเดือย ขึ้นปะปนกัน โฮมส์และคุณหมอจ้องมองภาพที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น
หมู่เรือนไทยโบราณซุกซ่อนตัวตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าริมเนินน้ำตก
ทั้งหมดมีอยู่ ๘ หลังด้วยกัน เรือนหลังที่ ๑ ตั้งอยู่ด้านหน้าทิศเหนือขนานกับถนนรามคำแหง มีสะพานเดินไปยังเรือนหลังที่ ๒, ๓ และ ๔ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ตามลำดับ เรือนหลังที่ ๕- ๘ ปลูกอยู่ห่างกันทางด้านทิศตะวันตก
มีป้ายปักริมรั้วใช้ภาษาไทยบอกว่า :
สถานที่ส่วนบุคคลห้ามล่วงล้ำ
เจ้าหน้าที่หยุดนิ่ง ขยับตัว เอื้อมมือไปกดปุ่มอินเทอร์คอม หมุนตัวกลับ แล้วเดินจากไป เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังมาจากลำโพงกระบอกไม้ไผ่ลำเล็กๆ และเสียงคนพูดดังขึ้น นั่นใคร บอกสโลแกนประจำตัวมา
ผมชื่อ เชอร์ล็อค โฮมส์ครับ โฮมส์ประกาศ บ่นพึมพำ สโลแกนอะไรฟะ และนี่...... คุณหมอชะโงกเอี้ยวตัวข้ามโฮมส์ ดิฉันเป็นเพื่อน พี่โหน่ง เป็นคนที่ถือจดหมายฉบับนั้นมา เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ..สโลแกน คือ ความดีของคนอยู่ในใจของคนทำ ทำดีไม่ขึ้นนั้นไม่มี ทำดีได้ดีเสมอ ต้องฝึกให้มั่นคงแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย...
เสียงเงียบไปนาน ทั้งคู่รอคอย นาทีเต็มๆ ผ่านไป
ในที่สุดก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น สุ้มเสียงมีพลังเต็มเปี่ยม ประตูรั้วเปิดดังกริ๊ก เรายังไม่ได้รับคำยืนยันสถานภาพของคุณ คุณโฮมส์ ทำให้การตรวจสอบยังไม่ประสบผลในเบื้องต้น และไม่สามารถติดต่อคนที่อังกฤษได้ แต่สำหรับคุณหมอ หัวใจของคุณมีแต่ความสัตย์จริง คุณผ่านเข้ามาได้คนเดียว
โฮมส์ทำหน้าเหมือนพึ่งกินอะไรเฝิ่อนๆ นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วทำเสียงบันเทิงใจเต็มที่
แหม! กำลังอยากฮ้องเพลงกำเมืองกั๋นเต๊อะ อยู่พอดีเลย ผมไปรอที่ร้านอาหารตรงที่เราผ่านมานะ แผ่ว แผ่วพริ้ว เสียงลม เสียงซึง ... นั่นคือ เสียงซึง จากลุง ต๋าคำ ...
โฮมส์อ้าปากร้องเพลงเดินผละไป ไม่รู้ไปถูกหรือปล่าว เป็นปล่าวพี่!
พอเดินขึ้นไปบนเรือน มองจนทั่ว คุณหมอพบว่าทั้งแปดหลังไม่มีใครอยู่เลย ใต้ถุนก็ไม่มี พอเธอเดินไปเรือนหลังที่แปดอีกครั้ง เธอก็ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ชั่งครู่ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนั้นเองที่คุณหมอได้ยินเสียง
เป็นเสียงที่ฟังไม่ชัดเจน และดูเหมือนจะดังมาจากไกลๆ ยังมี "หอเขียน" ตั้งอยู่ถัดจากสนามหญ้าสุดไปทางทิศใต้อีกนี่! ใช่จริงๆ เสียงนั้นมาจากหอเขียนนั่น เป็นเสียงเหมือนเสียงร้องเพลง หรือว่า ท่องมนตร์ใช่ไหมนี่ เธอรู้สึกหวาดหวั่น
คุณหมอเดินลงตรงไปหอเขียนนั้น รู้สึกว่าเสียงสวดดังขึ้น เธอเงี่ยหูฟัง เสียงชัดเจนขึ้น เป็นเสียงคนกำลังร้องเพลงแน่ๆ......เป็นถ้อยคำสูงๆ ต่ำๆ ที่คุณหมอฟังยังไม่ค่อยถนัด
ผนังตรงนี้เป็นช่องว่างมีรูนี่!
คุณหมอค่อยๆย่องไปตรงผนังมีรูนั้น หัวใจเต้นแรงขณะสอดนิ้วลงไปในช่อง เธอลังเลที่จะส่องดู เป็นเสียงคนกำลังร้องเพลงจริงๆดังก้องขึ้นมาจากความมืดมิดด้านใน ก่อนจะแนบหูลงบนผนังไม้ เสียงดังฟ้งชัดเจนขึ้นทันที :
หุ้นดีในดวงใจ ที่ยังเก็บไว้
เก็บเอาไว้ อีกนาน แสนนาน
ไม่เคยจะขาย ไม่เคยจะทิ้ง
ก็เป็นหุ้นที่ดี
หุ้นดีในดวงใจ ที่ยังใฝ่ฝัน
ว่าสักวันจะต้อง ขึ้นมา
สักวันที่ฝัน วันนั้นจะมาหา
ต้องมีทางเป็นสักวัน
เก็บไว้อีกนานนาน หุ้นดีในใจ
ไม่ขายก็ไม่ต้อง ขาดทุน
เก็บไว้อยู่ในใจ ไม่ว่าเท่าไหร่
จะนานอีกแค่ไหนก็รอ
**เก็บไว้ เพราะมันต้องเก็บไว้
ขายก็คงไม่ไหว ขายก็ไม่ได้ทุน
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ให้ลูกหลานต่อไป เป็นหุ้นประจำตระกูล
หุ้นดีในดวงใจ ไม่เคยปันผล
ก็จะทนเก็บไว้ เรื่อยไป
เพราะว่าตอนนี้ มีค่าแค่ครึ่งเดียว
จะขายมันลงได้ไง
เก็บไว้อีกนานนาน หุ้นดีในใจ
ไม่ขายก็ไม่ต้อง ขาดทุน
เก็บไว้อยู่ในใจ ไม่ว่าเท่าไหร่
จะนานอีกแค่ไหนก็รอ
**เก็บไว้ เพราะมันต้องเก็บไว้
ขายก็คงไม่ไหว ขายก็ไม่ได้ทุน
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ให้ลูกหลานต่อไป เป็นหุ้นประจำตระกูล
เก็บไว้ เพราะจำต้องเก็บไว้
ไม่ขายก็ไม่ขาดทุน แต่ก็แทบขาดใจ
http://www.doohoon.com/songs/song2.htm
(SOURCE: เพลงหุ้นดีในดวงใจ โสมรัศมี เนื้อร้อง ทำนอง เรียบเรียง หมื่นรู้ ขอบคุณมากๆ ครับ)
คุณหมอ กลั้นใจ ค่อยๆส่องเข้าไปในโพรง ใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะรับรู้ได้ว่าเธอกำลังมองเห็นอะไร แสงสว่างส่องมาจากเทียนนับสิบเล่มข้างผนัง ท่ามกลางแสงเรืองรองจากเทียนไข คนประมาณสามสิบคนยืนเป็นวงกลมอยู่กลางห้อง
นี่ฉันฝันไปละกระมัง คุณหมอบอกตนเอง เป็นความฝันนะ ไม่งั้นจะเป็นอะไรได้เล่า!
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑0
โพสต์ที่ 13
บทที่ ๑0
มันส์อะไรกันเนี๊ยะ!
ทุกคนในห้องสวมหน้ากากสีขาว ล้อมวงปรบมือโยกย้ายส่ายสะโพก ซ้ายทีขวาที พร้อมใจประสานเสียงร้องบทเพลงอะไรสักอย่าง ทั้งผู้หญิงผู้ชายใส่เสื้อโปโลสีเหลืองน้ำตาล กางเกงยีนส์ ร้องเท้าผ้าใบตามแฟชั่นหน่อยๆ น่ารักสะดุดตา เสียงหัวเราะนั่น และภาพรอยยิ้ม ทำให้มิตรภาพของคนข้างในดูงดงาม ก่อเกิด ความสุขสมหวัง พลังล้นปรี่ สนุกสนานเต็มที่ ปรีดีกันทุกคน ไม่ว่าพลังเสียง ท่าเต้น ลีลา แสงเทียน รวมถึง นักดนตรี และคอรัส ทุกอย่างแสดงถึงการเตรียมพร้อมและฝึกฝนมาอย่างดีได้อย่างกลมเกลียวยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เรียกเสียงกรี๊ดจากคุณหมอ สุดยอดความประทับใจคอนเสริ์ต ขอแจมหน่อยเถอะ เก็บไว้...... เพราะจำต้องเก็บไว้.ให้ลูกหลานต่อไป.......เป็นหุ้นประจำตระกูล คุณหมอคิดว่าไม่มีอะไรในวันนี้ที่จะทำให้ทั้งตัวและหัวใจรู้สึกว่ามันส์ล้นได้อีกแล้ว
เชิญทางนี้ คุณหมอ! เสียงแผดลั่นมาจากข้างหลัง คุณหมอผวาลุกขึ้นยืน ชายฉกรรย์ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังเธอ แต่งตัวสุภาพ ใส่เสื้อเชิ้ท ผูกเน็คไทปักตรงกลางเห็นได้ชัด เขียนว่า Thai Value Investor อายุประมาณยี่สิบ สายตาแข็งกร้าว ดูไม่กลัวใครหรือสิ่งใด สีหน้าเคร่ง แทบไม่ต้องสงสัยว่าคงไม่ค่อยพอใจการปรากฏตัวของคุณหมอที่หอเขียน
คุณหมอเดินตามไปผ่านสนามหญ้า ขณะที่เมฆครึ้มดำทะมึนมาแต่ไกล....บรรยากาศหดหู่ ทำท่าจะตกไม่นาทีใดก็นาทีหนึ่ง สายตากวาดมองไปทั่ว ตั้งแต่ท้องฟ้าไล่มาจนถึงเรือนไทยอันงดงามตระการตา เสียงแซกๆเบาๆเหมือนจะเป็นเสียงครูดระหว่างเกล็ดกับพื้นทำให้คุณหมอหันขวับไปมอง! ที่ด้านหลัง หางของตัวอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังเลื้อยหายเข้าไปในพุ่มไม้ด้านขวา คุณหมอขนลุกเกลียว... อะไรบางอย่างที่ขนาดใหญ่และมีเกล็ด! เธอกลืนน้ำลายเอื้อก เร่งฝีเท้าก้าว ขึ้นบันไดตามชายฉกรรย์เข้าสู่โถงเรือนไทยหลังที่ ๘ อันร้างผู้คน
เรือนหลังนี้เป็นหอพระ มีแสงไฟนวลตาจากโคมไฟแบบวิกตอเรียที่จับจีบและมีพู่ห้อย อากาศในห้องมีกลิ่นไม้เก่าๆ แต่เป็นกลิ่นที่แฝงความรู้สึกงามสง่า มีร่องรอยของกลิ่นธูปหอม และใบชา หน้าหอพระมีบานประตูมุกสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ ภายในห้องพระ มีพระพุทธรูปสำริดสมัยต่างๆ เช่น สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อู่ทอง และมีพระบทเกี่ยวกับพุทธประวัติ
เมื่อเดินไปถึงตู้พระไตรปิฎกขนาดใหญ่ลายรดน้ำสมัยอยุธยา เขาไขกุญแจและเปิดออก แผงควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยด้านในก็กระพริบเป็นไฟสีแดงเตือน เขารีบกดรหัสปลดล็อคการทำงานก่อนสัญญาณเตือนจะส่งเสียงดัง ชี้มือให้คุณหมอเดินเข้าไป เธอเลื่อนตัวผ่านประตูเข้าไปคนเดียวในความมืดมิดเบื้องหน้า
แล้วเขาล็อคกุญแจ กึก!
คุณหมอพบว่าตนเองยืนอยู่บนบันไดหินสกัดหยาบๆ ซึ่งทอดวกวนลงไปด้านล่าง ขณะเดินลงไป อากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ ทัสนวิสัยจำกัดด้วยบันไดเวียน แต่ก็เวียนมาจนพอมองเห็นบันไดขั้นสุดท้ายแล้ว ถัดจากบันไดขั้นนั้น เธอมองเห็นเนื้อที่แคบๆของพื้นห้องเป็นพื้นหินอ่อน สว่างไสวด้วยเปลวไฟเทียนสีส้มวูบไปวูบมา
ใต้เรือนไทยหมู่นี้ คือ ห้องโล่งๆเล็กๆว่างเปล่า
ไม่มีใครอยู่ข้างล่างนี่เลย ไม่มีเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงหายใจคุณหมอที่เต้นแรง หายใจไม่ปกติ ชั่วขณะนั้นเองผนังด้านหน้าหนักๆค่อยๆเลื่อนหมุนเป็นวงกลมอย่างเที่ยงตรงและเงียบเชียบ
เสียงอื้ออึงดังขึ้น!
ราวกับห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมระดับห้าดาว เจ้าหน้าที่จากสมาคมนักลงทุนลับประมาณยี่สิบกว่าคนใส่หน้ากากสีขาวแยกย้ายกันอยู่กลางห้องรอบๆเวที กำลังเอาแผ่นไม้อัดรูปวงกลมไปวางในที่ของมัน และจัดตามโต๊ะเพื่อให้มีที่นั่งเพียงพอแก่แขกจำนวนหกร้อยคน พวกเขาเอาผ้าปูโต๊ะสีขาวคลุมเหนือแผ่นไม้วงกลมที่ว่า
จ๊ะเอ๋! คุณหมอ เรื่องไปถึงไหนแล้วครับ โฮมส์เอ๋ยถามขณะเดินผ่านประตู คุณหมอพบเขากำลังเดินง่วนอยู่ เครื่องแต่งตัวแบบหัวมังกุท้ายมังกรทำให้เขาดูตลกจนคุณหมอยากจะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้ กริยาท่าทางของเขาบ่งบอกกำลังหมกหมุ่นครุ่นคิด ไหล่คู้ค่อม เดินเหมือนหุ่นยนตร์จากตรงโน้นทีตรงนี้ที โฮมส์หยุดเดินปุบปับ
ในที่สุดโฮมส์มาหยุดลงตรงหน้าคุณหมอ เขาลากเก้าอี้สองตัวมานั่งตรงมุมห้องที่มีสิ้นค้าที่ระลึกจากสมาคมวางขายอยู่ คุณพบอะไรที่นั่นบ้าง
นี่มันยังไงกัน! ที่นี่ที่ไหนกัน คุณหมอถาม
ผมก็ไม่รู้ มีเจ้าหน้าที่มาดูตัว สอบสัมภาษณ์ผมที่ร้านอาหารข้างบน และพาตัวมาที่นี่ คำไขปริศนาในจดหมายนั้น แน่ละคุณหมอหามาได้แล้วใช่ไหม ผมจะประหลาดใจมากหากคุณยังไม่พบมันอีก
ไปดูคอนเสริ์ตมา คุณหมอดูงงงวย
ยังไงกัน! คุณรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่ยอมบอกผม! คุณโดนป้ายยาลบความจำแน่ ใครทำ!....แข็งใจหน่อยคุณหมอ โฮมส์ตะโกนบอก อย่าเพิ่งท้อ....ผมมาช่วยแล้ว....ผมเอง.......โฮมส์ไง......ออกแรงอีกนิด คุณหมอ....เอ้า จับมือไว้!
พ่อคนเก่ง.พอได้แล้ว คุณหมอพูดแล้วถอนใจ
คุณเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวอะไรเช่นนี้! แต่ก็ช่างน่าสงสารที่คุณหมอยังแข็งใจทำเรื่องซึ่งแน่นอนว่าได้ทำสุดความสามารถแล้ว คุณหมอ.....ผมจะไปหาตัวมันทีหลัง...คุณหมอ.ตั้งสติไว้ครับ
ห_ยุ_ด! เธอตะโกน นายต่างหากที่ต้องตั้งสติ.....นายพูดมากแล้ว
นายท่านให้เรียนว่าขอให้คุณทั้งสองทำตัวตามสบาย ท่านกำลังจะขึ้นมาครับ ชายฉกรรย์คนเดิมพูด สายตาดูอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เหมือนคนเดิม เดินตรงโผล่เข้ามาหา จัดดึงเน็คไทที่คอให้เข้าที่
ที่นี่ที่ไหนน้องคะ จะมีงานเลี้ยงค่ำนี้หรือ
ห้อง Grand Value Ballroom ชั้น 18 ครับ จะมีงานเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญค่ำนี้ครับ
ใคร! คุณหมอกะโฮมส์ร้องสำทับพร้อมกัน
มิสเตอร์ วอเร้นท์ บัฟเฟท กับ ดร. นิเวศน์ ครับ แค่นั้นเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณหมอกับโฮมส์อยู่กันตามลำพังเทียงกันต่อ
ขณะที่ value investor สายอเมริกา คือ วอเร้นท์ บัฟเฟท กับ ดร. นิเวศน์ แม้ว่าจะอยู่ที่ข้างล่างชั้น 1 แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทราบข่าวการมาเยือนของคุณหมอกะโฮมส์ ทั้งนี้เนื่องมาจากมัวยืนเซ็นต์ข้อความที่ระลึกภายในร้านกาแฟนั่นเอง ทำให้การประสานงานระหว่างสมาชิกสมาคมกับบุคคลทั้งสองต้องล่าช้าออกไป
มันส์อะไรกันเนี๊ยะ!
ทุกคนในห้องสวมหน้ากากสีขาว ล้อมวงปรบมือโยกย้ายส่ายสะโพก ซ้ายทีขวาที พร้อมใจประสานเสียงร้องบทเพลงอะไรสักอย่าง ทั้งผู้หญิงผู้ชายใส่เสื้อโปโลสีเหลืองน้ำตาล กางเกงยีนส์ ร้องเท้าผ้าใบตามแฟชั่นหน่อยๆ น่ารักสะดุดตา เสียงหัวเราะนั่น และภาพรอยยิ้ม ทำให้มิตรภาพของคนข้างในดูงดงาม ก่อเกิด ความสุขสมหวัง พลังล้นปรี่ สนุกสนานเต็มที่ ปรีดีกันทุกคน ไม่ว่าพลังเสียง ท่าเต้น ลีลา แสงเทียน รวมถึง นักดนตรี และคอรัส ทุกอย่างแสดงถึงการเตรียมพร้อมและฝึกฝนมาอย่างดีได้อย่างกลมเกลียวยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เรียกเสียงกรี๊ดจากคุณหมอ สุดยอดความประทับใจคอนเสริ์ต ขอแจมหน่อยเถอะ เก็บไว้...... เพราะจำต้องเก็บไว้.ให้ลูกหลานต่อไป.......เป็นหุ้นประจำตระกูล คุณหมอคิดว่าไม่มีอะไรในวันนี้ที่จะทำให้ทั้งตัวและหัวใจรู้สึกว่ามันส์ล้นได้อีกแล้ว
เชิญทางนี้ คุณหมอ! เสียงแผดลั่นมาจากข้างหลัง คุณหมอผวาลุกขึ้นยืน ชายฉกรรย์ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังเธอ แต่งตัวสุภาพ ใส่เสื้อเชิ้ท ผูกเน็คไทปักตรงกลางเห็นได้ชัด เขียนว่า Thai Value Investor อายุประมาณยี่สิบ สายตาแข็งกร้าว ดูไม่กลัวใครหรือสิ่งใด สีหน้าเคร่ง แทบไม่ต้องสงสัยว่าคงไม่ค่อยพอใจการปรากฏตัวของคุณหมอที่หอเขียน
คุณหมอเดินตามไปผ่านสนามหญ้า ขณะที่เมฆครึ้มดำทะมึนมาแต่ไกล....บรรยากาศหดหู่ ทำท่าจะตกไม่นาทีใดก็นาทีหนึ่ง สายตากวาดมองไปทั่ว ตั้งแต่ท้องฟ้าไล่มาจนถึงเรือนไทยอันงดงามตระการตา เสียงแซกๆเบาๆเหมือนจะเป็นเสียงครูดระหว่างเกล็ดกับพื้นทำให้คุณหมอหันขวับไปมอง! ที่ด้านหลัง หางของตัวอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังเลื้อยหายเข้าไปในพุ่มไม้ด้านขวา คุณหมอขนลุกเกลียว... อะไรบางอย่างที่ขนาดใหญ่และมีเกล็ด! เธอกลืนน้ำลายเอื้อก เร่งฝีเท้าก้าว ขึ้นบันไดตามชายฉกรรย์เข้าสู่โถงเรือนไทยหลังที่ ๘ อันร้างผู้คน
เรือนหลังนี้เป็นหอพระ มีแสงไฟนวลตาจากโคมไฟแบบวิกตอเรียที่จับจีบและมีพู่ห้อย อากาศในห้องมีกลิ่นไม้เก่าๆ แต่เป็นกลิ่นที่แฝงความรู้สึกงามสง่า มีร่องรอยของกลิ่นธูปหอม และใบชา หน้าหอพระมีบานประตูมุกสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ ภายในห้องพระ มีพระพุทธรูปสำริดสมัยต่างๆ เช่น สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อู่ทอง และมีพระบทเกี่ยวกับพุทธประวัติ
เมื่อเดินไปถึงตู้พระไตรปิฎกขนาดใหญ่ลายรดน้ำสมัยอยุธยา เขาไขกุญแจและเปิดออก แผงควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยด้านในก็กระพริบเป็นไฟสีแดงเตือน เขารีบกดรหัสปลดล็อคการทำงานก่อนสัญญาณเตือนจะส่งเสียงดัง ชี้มือให้คุณหมอเดินเข้าไป เธอเลื่อนตัวผ่านประตูเข้าไปคนเดียวในความมืดมิดเบื้องหน้า
แล้วเขาล็อคกุญแจ กึก!
คุณหมอพบว่าตนเองยืนอยู่บนบันไดหินสกัดหยาบๆ ซึ่งทอดวกวนลงไปด้านล่าง ขณะเดินลงไป อากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ ทัสนวิสัยจำกัดด้วยบันไดเวียน แต่ก็เวียนมาจนพอมองเห็นบันไดขั้นสุดท้ายแล้ว ถัดจากบันไดขั้นนั้น เธอมองเห็นเนื้อที่แคบๆของพื้นห้องเป็นพื้นหินอ่อน สว่างไสวด้วยเปลวไฟเทียนสีส้มวูบไปวูบมา
ใต้เรือนไทยหมู่นี้ คือ ห้องโล่งๆเล็กๆว่างเปล่า
ไม่มีใครอยู่ข้างล่างนี่เลย ไม่มีเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงหายใจคุณหมอที่เต้นแรง หายใจไม่ปกติ ชั่วขณะนั้นเองผนังด้านหน้าหนักๆค่อยๆเลื่อนหมุนเป็นวงกลมอย่างเที่ยงตรงและเงียบเชียบ
เสียงอื้ออึงดังขึ้น!
ราวกับห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมระดับห้าดาว เจ้าหน้าที่จากสมาคมนักลงทุนลับประมาณยี่สิบกว่าคนใส่หน้ากากสีขาวแยกย้ายกันอยู่กลางห้องรอบๆเวที กำลังเอาแผ่นไม้อัดรูปวงกลมไปวางในที่ของมัน และจัดตามโต๊ะเพื่อให้มีที่นั่งเพียงพอแก่แขกจำนวนหกร้อยคน พวกเขาเอาผ้าปูโต๊ะสีขาวคลุมเหนือแผ่นไม้วงกลมที่ว่า
จ๊ะเอ๋! คุณหมอ เรื่องไปถึงไหนแล้วครับ โฮมส์เอ๋ยถามขณะเดินผ่านประตู คุณหมอพบเขากำลังเดินง่วนอยู่ เครื่องแต่งตัวแบบหัวมังกุท้ายมังกรทำให้เขาดูตลกจนคุณหมอยากจะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้ กริยาท่าทางของเขาบ่งบอกกำลังหมกหมุ่นครุ่นคิด ไหล่คู้ค่อม เดินเหมือนหุ่นยนตร์จากตรงโน้นทีตรงนี้ที โฮมส์หยุดเดินปุบปับ
ในที่สุดโฮมส์มาหยุดลงตรงหน้าคุณหมอ เขาลากเก้าอี้สองตัวมานั่งตรงมุมห้องที่มีสิ้นค้าที่ระลึกจากสมาคมวางขายอยู่ คุณพบอะไรที่นั่นบ้าง
นี่มันยังไงกัน! ที่นี่ที่ไหนกัน คุณหมอถาม
ผมก็ไม่รู้ มีเจ้าหน้าที่มาดูตัว สอบสัมภาษณ์ผมที่ร้านอาหารข้างบน และพาตัวมาที่นี่ คำไขปริศนาในจดหมายนั้น แน่ละคุณหมอหามาได้แล้วใช่ไหม ผมจะประหลาดใจมากหากคุณยังไม่พบมันอีก
ไปดูคอนเสริ์ตมา คุณหมอดูงงงวย
ยังไงกัน! คุณรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่ยอมบอกผม! คุณโดนป้ายยาลบความจำแน่ ใครทำ!....แข็งใจหน่อยคุณหมอ โฮมส์ตะโกนบอก อย่าเพิ่งท้อ....ผมมาช่วยแล้ว....ผมเอง.......โฮมส์ไง......ออกแรงอีกนิด คุณหมอ....เอ้า จับมือไว้!
พ่อคนเก่ง.พอได้แล้ว คุณหมอพูดแล้วถอนใจ
คุณเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวอะไรเช่นนี้! แต่ก็ช่างน่าสงสารที่คุณหมอยังแข็งใจทำเรื่องซึ่งแน่นอนว่าได้ทำสุดความสามารถแล้ว คุณหมอ.....ผมจะไปหาตัวมันทีหลัง...คุณหมอ.ตั้งสติไว้ครับ
ห_ยุ_ด! เธอตะโกน นายต่างหากที่ต้องตั้งสติ.....นายพูดมากแล้ว
นายท่านให้เรียนว่าขอให้คุณทั้งสองทำตัวตามสบาย ท่านกำลังจะขึ้นมาครับ ชายฉกรรย์คนเดิมพูด สายตาดูอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เหมือนคนเดิม เดินตรงโผล่เข้ามาหา จัดดึงเน็คไทที่คอให้เข้าที่
ที่นี่ที่ไหนน้องคะ จะมีงานเลี้ยงค่ำนี้หรือ
ห้อง Grand Value Ballroom ชั้น 18 ครับ จะมีงานเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญค่ำนี้ครับ
ใคร! คุณหมอกะโฮมส์ร้องสำทับพร้อมกัน
มิสเตอร์ วอเร้นท์ บัฟเฟท กับ ดร. นิเวศน์ ครับ แค่นั้นเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณหมอกับโฮมส์อยู่กันตามลำพังเทียงกันต่อ
ขณะที่ value investor สายอเมริกา คือ วอเร้นท์ บัฟเฟท กับ ดร. นิเวศน์ แม้ว่าจะอยู่ที่ข้างล่างชั้น 1 แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทราบข่าวการมาเยือนของคุณหมอกะโฮมส์ ทั้งนี้เนื่องมาจากมัวยืนเซ็นต์ข้อความที่ระลึกภายในร้านกาแฟนั่นเอง ทำให้การประสานงานระหว่างสมาชิกสมาคมกับบุคคลทั้งสองต้องล่าช้าออกไป
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑๑
โพสต์ที่ 15
บทที่ ๑๑
ห้อง Grand Value Ballroom
ชั้น 18
คุณหมอนึกถึงภาพสัญญาลักษณ์ในจดหมาย มันต้องเป็นภาพรหัสอะไรบางอย่าง ตอนนี้จดหมายนั่นไม่ได้อยู่ที่เธอแล้ว ตั้งแต่เธอยื่นให้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ข้างล่างนั่น เธอยังไม่ได้เห็นมันอีกเลย และสงสัยขึ้นมาว่า ดร.โหน่งจะเป็นคนของสมาคมลับ thai value investor อย่างที่โฮมส์พูดจริงหรือ กลุ่มคนร้องเพลงข้างบนที่หอเขียนเรือนไทยนั่นพวกเขาทำไมต้องใส่หน้ากากด้วย รวมถึงทุกคนในห้องจัดเลี้ยงนี้ ทุกคนใส่หน้ากากสีขาวเหมือนกันแบบเดียวกันหมด หรือว่าจะเป็นเพียงแค่งานกาล่าดินเนอร์ที่ต้องใส่หน้ากากมาในงานกัน น่าสนุกแฮะ บรรยากาศทุกอย่างที่นี่ล้วนดูเป็นความลับไปหมด
คุณโฮมส์.. เคยสวมหน้ากากไหม? คุณหมอเอ๋ยถามลอยๆ
ครับ! โลกนี้คงไม่มีใครที่ไม่ใส่หน้ากาก ถ้าหากเขายังคิดมีปฏิสัมพันธ์กับโลกอยู่ ผมรู้คุณหมอเกลียดการใส่หน้ากาก วันนี้..ผมถอดหน้ากากออกแล้วนะ โฮมส์ลองเอามือไปจับใบหน้าของเขา ทำเป็นไม่แน่ใจ ... ยิ้มกริ่มกระชั้นชิด
Image ไง ศัพท์ที่คุ้นเคย แต่ก่อน อาจจะเน้นไปที่การสร้าง Image ให้กับสินค้า บริการ ให้กับองค์กร แต่เดี่ยวนี้เจ้านี้กำลังมีอิทธิพลแรงต่อการดำเนินชีวิตปกติของคนแบบเราๆ เป็นศิลปิน ต้องมี Image เป็นอิสระชน ที่ต้องทำตัวอยู่ในขนบ เป็นครูบา อาจารย์ ต้องมี Image ของคนที่ทรงแก่เรียน จะมาทะลึ่งตึงตังไม่ได้ เป็น ทหาร ตำรวจ ต้องมี Image บู๊ ล้างผลาญ เก่งกาจ สมชาย เป็น คนรุ่นใหม่ ต้องมี Image เป็นตัวของตัวเอง ไม่ตามใคร หรือ เป็นนักการเมือง ต้องมี Image รักประชาชนอย่างผิดปกติ อย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมี Image Builder มืออาชีพ เงินว่าจ้างแพงมหาศาล เพื่อสร้างบุคลิก การพูดการจา ความคิด ท่าเดิน ใส่โปรแกรมพวกนี้ลงไปในตัวประธานาธิบดี เพื่อสร้าง Image ผู้นำ
Image ก็คือ หน้ากาก ดีๆนี้เอง
คุณหมอ! มิสเตอร์โฮมส์! เป็นเกียรติที่ได้พบครับ เสียงเรียกจากข้างหลังเคลื่อนตัวเข้ามาหา ผมเสียใจที่ต้องให้รอนานไม่สามารถไปต้อนรับที่เรือนไทย แต่ปลื้มใจที่คุณได้นำจดหมายหัสของดร. โหน่ง มาให้ฝ่ายสมาคมฯ นำสิ่งของที่ต้องการมาให้ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่สุดตอนนี้
ทั้งคู่ผวาลุกขึ้นยืน สวัสดีครับ โฮมส์ร้องตอบ ขอบคุณที่รับเราเข้ามาคะ คุณหมอกล่าว ถึงตอนนี้เธอจึงได้เห็นเจ้าของเสียงเป็นชายอาวุโสแต่งตัวโก้หรูชุดทักซีโดอย่างปราณีต ดูกระฉับกระเฉงน่าจะเป็นนักปฏิบัติมากกว่าคนช่างคิดหรือนักทฤษฎี ดิฉันรู้คะว่าคุณกำลังมีงาน คงยุ่งหน่อยนะคะ
เรามีปัญหานิดหน่อยครับ.......ผมมีรหัสชื่อว่า Jame Bond และดำรงตำแหน่งประธานผู้อำนวยการสมาคมฯ คณะของสมาคมฯแก้ปัญหาการที่ไม่มีผู้รับรองสถานภาพของคุณโฮมส์ ด้วยการติดต่อไปยังตึก ว่องวานิช เจ้าของห้างขายยาอังกฤษตรางู ซึ่งวันนี้ได้ไปจัดตั้งหน่วยพยาบาล ของชาวอังกฤษโพ้นทะเล ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษในถนนข้าวสาร ในที่สุดคณะของเราก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ที่นั่น ถ้านับว่าความพยายามที่จะติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรในต่างประเทศเป็นความยากลำบากแล้ว ความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่า มี value investor เกิดขึ้นจริงในประเทศ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งกว่า เพราะในสถานการณ์สงครามเศรษฐกิจที่วุ่นวายตอนนี้นั้น ไม่มีใครสามารถไว้ใจใครได้ แม้แต่ภราดรสมาคมฯ........ปีนี่เป็นครั้งแรกที่ value investor ในสหรัฐฯ และอังกฤษได้รับทราบว่าเมืองไทยมี ไทยแวลูอินเวสเตอร์เกิดขึ้น
คุณหมอชำเลืองมองโฮมส์ ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลุดเข้ามาอยู่ในโลกของนิยายหรือโรงพยาบาลบ้ากันแน่ หันไปมองรอบตัว เจ้าหน้าที่หน้ากากขาวเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว
คุณ Jame Bond คุณหมอยิ้มละไม เราอยากหารือกับคุณเรื่องการเสียชีวิตของพี่โหน่ง ดิฉันมีเรื่องวุ่นวายมากเลยละ ในฐานะ ภารกิจที่ได้รับมาจากพี่โหน่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้ฝ่ายคุณยอมรับโดยทันที แต่จดหมายรหัสนั่นก็เปิดช่องให้เจรจากันมากขึ้นใช่ไหมคะ
"ทางสมาคมฯ จำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของคุณหมอและผ่อนผันข้อบังคับบางประการ โดยคุณหมอกะมิสเตอร์โฮมส์ต้องรับคำมั่นจากสมาคมฯเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะเคารพพิทักษ์ เอกราช อธิปไตย และเกียรติศักดิ์ของสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ ด้วยเหตุนี้ผมจะสามารถตกลงบอกเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงรายละเอียดในจดหมายได้ด้วย
คิ้วดกของคุณหมอเลิกขึ้นอย่างสนใจ ความไม่มั่นใจก็เป็นการยากที่จะยอมรับได้คะ แต่ความเชื่อดิฉันที่ว่าจะหยุดยอมแพ้กะเรื่องนี้อย่างง่ายดายนั้น ไม่เคยมีอยู่ในความคิดของผู้ที่เสี่ยงชีวิตเข้าแลก เพื่อต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมคะ
จุดสุดท้ายที่ยุติความหวาดระแวงของทั้งสองฝ่ายคือบริเวณห้อง grand value ballroom ในเวลา ๑๘.๐๐ น. ของวันที่ ๒๙ เมษายน
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ถลำลึกมากขึ้น มีการทำสัญญาพันธมิตรร่วมเป็นภราดรสมาคมฯ รับเสื้อไปคนละตัว อีก ๑๐ นาทีต่อมาก็ทำสัญญาร่วมวงศ์ไพบูลย์ กรุณาอย่าโฆษณาขายสินค้าในตึกนี้แบบเหวี่ยงแห คุณสามารถลงโฆษณาต้องการซื้อ/ขายได้ครับ แต่การซื้อ/ขายจริงให้ทำผ่าน PM (Private Message) หรืออีเมล์เท่านั้นครับ และกรุณาอย่าใช้บอร์ดผนังร้านกาแฟที่ชั้น 1 ในการโจมตีบุคคลอื่นนะครับ หากมีกรณีพาดพิงกับบุคคลอื่นใด จนเป็นเหตุให้เกิดคดีความ ทางคณะกรรมการสมาคมฯจะไม่รับผิดชอบแต่อย่างใด Jame Bond โบกนิ้วไปมาส่งสายตาตำหนิไปที่โฮมส์แล้วพูดต่อ
ถ้าตักเตือนแล้วไม่เชื่อ มีการทำซ้ำบ่อยๆ เราจะส่ง IP ทั้งหมดให้กับ ISP ของคุณ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป พวกมาแปลกๆชอบมาขายของ ยื่นหมูยื่นแมว ได้ ได้ ผมพร้อมจะรับมืออยู่แล้ว ถึงแม้จะมีกระแสความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของสมาคมฯอยู่บ้าง แต่ทางเราเห็นว่าเป็นความ ชอบธรรม" อย่างยิ่งในการปราบปรามผู้ที่เกเรรุกราน โดยใช้อำนาจตามกฎหมายที่ได้ตราไว้ก่อนหน้านั้น เช่น การกำหนดหน้าที่ของภราดรในการใช้วาจาสุภาพ การจำกัดสิทธิภราดรผู้กระทำการอันเป็นภัยต่อสมาคมฯ โดยมีบทลงโทษเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.....ผมพร้อมจะบริการคุณแล้ว อะไรละที่จะให้ผมบอกคุณ
คุณหมอถอนหายใจ จบซะที ดิฉันหวังว่าคุณจะกรุณาพอที่จะอธิบายเรื่องลักษณะที่แท้จริงของสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ให้ฟังคะ
Jame Bond ตะลึงงัน คุณหมอ ไม่รู้เลยรึ
คุณหมอส่ายหน้า
Jame Bond ยิ้มมองอย่างกระตือรือร้น นี่คุณหมอเป็น เวอร์จิน รึนี่ เขานิ่วหน้า เหลือบมองคุณหมอ เวอร์จินเป็นศัพท์ที่เราใช้หมายถึงคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่แท้จริงของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเลยนะครับ คุณหมอรู้สักแค่ไหนครับ
คุณหมอเล่าเรื่องที่โฮมส์อธิบายให้ฟังก่อนหน้านี้อย่างคร่าวๆ คือเรื่องสมาคมนี้มีสมาชิกเป็นผู้ทรงความสามารถ และทรงอำนาจ เป็นบุคคลที่มีการศึกษาดีและรอบรู้มากมายในหลากหลายวิชาสาขาจากทั่วประเทศ London School of Economics ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์ XOGROUP ขบวนการเสรีไทย และสัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำ
และสมาคมนักลงทุนลับซึ่งเก็บสมุดรหัสบางอย่าง......บางอย่างที่ทรงพลังมาก
แค่นั้นรึ Jame Bond ส่งสายตาตำหนิไปอีกครั้งที่โฮมส์ คุณโฮมส์......คุณศึกษาค้นคว้าขีดเขียนวิจัยเรื่องสมาคมลับต่างๆมาหลายปี......เป็นความชำนาญแต่ยังไม่พิเศษหรอกนะ
เออ...ผมรู้น่า คิดว่าบางทีคุณกะผมน่าจะ.... ดูท่าโฮมส์จะตัดสินใจได้ว่าการใช้อุปมาอุปมัยอย่างไม่ถูกกาลเทศะนี้น่าจะยุติได้แล้ว
หากสายตาระยิบระยับของ Jame Bond จ้องแน่วแน่อยู่ที่คุณหมอแล้ว คุณคือเวอร์จินเรื่องนักลงทุนแบบเน้นคุณค่านะครับ คราวนี้จงไว้วางใจผม ลงไปที่ชั้นสองข้างล่างไปที่ร้าน ซีเอ็ดยูเคชั่น ไปถามพนักขาย หาชื่อหนังสือ : ตามรอย วอเร็น บัฟเฟต ชื่อผู้เขียน : James Pardoe ชื่อผู้แปล : เอกสิทธิ์ หัสสรังสี สำนักพิมพ์: บริษัท ฟิเดลลิตี้ จำกัด ราคา: 198 บาท จำนวนหน้า: 167 หน้า ผมมั่นใจว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของ วอเร็น บัฟเฟต ที่คนเริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนทุกคนจะไม่ผิดหวัง และควรมีไว้ติดตัวทุกคน แล้วคุณจะไม่มีวันลืมครั้งแรกที่ได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย"
ห้อง Grand Value Ballroom
ชั้น 18
คุณหมอนึกถึงภาพสัญญาลักษณ์ในจดหมาย มันต้องเป็นภาพรหัสอะไรบางอย่าง ตอนนี้จดหมายนั่นไม่ได้อยู่ที่เธอแล้ว ตั้งแต่เธอยื่นให้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ข้างล่างนั่น เธอยังไม่ได้เห็นมันอีกเลย และสงสัยขึ้นมาว่า ดร.โหน่งจะเป็นคนของสมาคมลับ thai value investor อย่างที่โฮมส์พูดจริงหรือ กลุ่มคนร้องเพลงข้างบนที่หอเขียนเรือนไทยนั่นพวกเขาทำไมต้องใส่หน้ากากด้วย รวมถึงทุกคนในห้องจัดเลี้ยงนี้ ทุกคนใส่หน้ากากสีขาวเหมือนกันแบบเดียวกันหมด หรือว่าจะเป็นเพียงแค่งานกาล่าดินเนอร์ที่ต้องใส่หน้ากากมาในงานกัน น่าสนุกแฮะ บรรยากาศทุกอย่างที่นี่ล้วนดูเป็นความลับไปหมด
คุณโฮมส์.. เคยสวมหน้ากากไหม? คุณหมอเอ๋ยถามลอยๆ
ครับ! โลกนี้คงไม่มีใครที่ไม่ใส่หน้ากาก ถ้าหากเขายังคิดมีปฏิสัมพันธ์กับโลกอยู่ ผมรู้คุณหมอเกลียดการใส่หน้ากาก วันนี้..ผมถอดหน้ากากออกแล้วนะ โฮมส์ลองเอามือไปจับใบหน้าของเขา ทำเป็นไม่แน่ใจ ... ยิ้มกริ่มกระชั้นชิด
Image ไง ศัพท์ที่คุ้นเคย แต่ก่อน อาจจะเน้นไปที่การสร้าง Image ให้กับสินค้า บริการ ให้กับองค์กร แต่เดี่ยวนี้เจ้านี้กำลังมีอิทธิพลแรงต่อการดำเนินชีวิตปกติของคนแบบเราๆ เป็นศิลปิน ต้องมี Image เป็นอิสระชน ที่ต้องทำตัวอยู่ในขนบ เป็นครูบา อาจารย์ ต้องมี Image ของคนที่ทรงแก่เรียน จะมาทะลึ่งตึงตังไม่ได้ เป็น ทหาร ตำรวจ ต้องมี Image บู๊ ล้างผลาญ เก่งกาจ สมชาย เป็น คนรุ่นใหม่ ต้องมี Image เป็นตัวของตัวเอง ไม่ตามใคร หรือ เป็นนักการเมือง ต้องมี Image รักประชาชนอย่างผิดปกติ อย่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมี Image Builder มืออาชีพ เงินว่าจ้างแพงมหาศาล เพื่อสร้างบุคลิก การพูดการจา ความคิด ท่าเดิน ใส่โปรแกรมพวกนี้ลงไปในตัวประธานาธิบดี เพื่อสร้าง Image ผู้นำ
Image ก็คือ หน้ากาก ดีๆนี้เอง
คุณหมอ! มิสเตอร์โฮมส์! เป็นเกียรติที่ได้พบครับ เสียงเรียกจากข้างหลังเคลื่อนตัวเข้ามาหา ผมเสียใจที่ต้องให้รอนานไม่สามารถไปต้อนรับที่เรือนไทย แต่ปลื้มใจที่คุณได้นำจดหมายหัสของดร. โหน่ง มาให้ฝ่ายสมาคมฯ นำสิ่งของที่ต้องการมาให้ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่สุดตอนนี้
ทั้งคู่ผวาลุกขึ้นยืน สวัสดีครับ โฮมส์ร้องตอบ ขอบคุณที่รับเราเข้ามาคะ คุณหมอกล่าว ถึงตอนนี้เธอจึงได้เห็นเจ้าของเสียงเป็นชายอาวุโสแต่งตัวโก้หรูชุดทักซีโดอย่างปราณีต ดูกระฉับกระเฉงน่าจะเป็นนักปฏิบัติมากกว่าคนช่างคิดหรือนักทฤษฎี ดิฉันรู้คะว่าคุณกำลังมีงาน คงยุ่งหน่อยนะคะ
เรามีปัญหานิดหน่อยครับ.......ผมมีรหัสชื่อว่า Jame Bond และดำรงตำแหน่งประธานผู้อำนวยการสมาคมฯ คณะของสมาคมฯแก้ปัญหาการที่ไม่มีผู้รับรองสถานภาพของคุณโฮมส์ ด้วยการติดต่อไปยังตึก ว่องวานิช เจ้าของห้างขายยาอังกฤษตรางู ซึ่งวันนี้ได้ไปจัดตั้งหน่วยพยาบาล ของชาวอังกฤษโพ้นทะเล ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษในถนนข้าวสาร ในที่สุดคณะของเราก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ที่นั่น ถ้านับว่าความพยายามที่จะติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรในต่างประเทศเป็นความยากลำบากแล้ว ความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่า มี value investor เกิดขึ้นจริงในประเทศ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งกว่า เพราะในสถานการณ์สงครามเศรษฐกิจที่วุ่นวายตอนนี้นั้น ไม่มีใครสามารถไว้ใจใครได้ แม้แต่ภราดรสมาคมฯ........ปีนี่เป็นครั้งแรกที่ value investor ในสหรัฐฯ และอังกฤษได้รับทราบว่าเมืองไทยมี ไทยแวลูอินเวสเตอร์เกิดขึ้น
คุณหมอชำเลืองมองโฮมส์ ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลุดเข้ามาอยู่ในโลกของนิยายหรือโรงพยาบาลบ้ากันแน่ หันไปมองรอบตัว เจ้าหน้าที่หน้ากากขาวเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว
คุณ Jame Bond คุณหมอยิ้มละไม เราอยากหารือกับคุณเรื่องการเสียชีวิตของพี่โหน่ง ดิฉันมีเรื่องวุ่นวายมากเลยละ ในฐานะ ภารกิจที่ได้รับมาจากพี่โหน่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้ฝ่ายคุณยอมรับโดยทันที แต่จดหมายรหัสนั่นก็เปิดช่องให้เจรจากันมากขึ้นใช่ไหมคะ
"ทางสมาคมฯ จำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของคุณหมอและผ่อนผันข้อบังคับบางประการ โดยคุณหมอกะมิสเตอร์โฮมส์ต้องรับคำมั่นจากสมาคมฯเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะเคารพพิทักษ์ เอกราช อธิปไตย และเกียรติศักดิ์ของสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ ด้วยเหตุนี้ผมจะสามารถตกลงบอกเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงรายละเอียดในจดหมายได้ด้วย
คิ้วดกของคุณหมอเลิกขึ้นอย่างสนใจ ความไม่มั่นใจก็เป็นการยากที่จะยอมรับได้คะ แต่ความเชื่อดิฉันที่ว่าจะหยุดยอมแพ้กะเรื่องนี้อย่างง่ายดายนั้น ไม่เคยมีอยู่ในความคิดของผู้ที่เสี่ยงชีวิตเข้าแลก เพื่อต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมคะ
จุดสุดท้ายที่ยุติความหวาดระแวงของทั้งสองฝ่ายคือบริเวณห้อง grand value ballroom ในเวลา ๑๘.๐๐ น. ของวันที่ ๒๙ เมษายน
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ถลำลึกมากขึ้น มีการทำสัญญาพันธมิตรร่วมเป็นภราดรสมาคมฯ รับเสื้อไปคนละตัว อีก ๑๐ นาทีต่อมาก็ทำสัญญาร่วมวงศ์ไพบูลย์ กรุณาอย่าโฆษณาขายสินค้าในตึกนี้แบบเหวี่ยงแห คุณสามารถลงโฆษณาต้องการซื้อ/ขายได้ครับ แต่การซื้อ/ขายจริงให้ทำผ่าน PM (Private Message) หรืออีเมล์เท่านั้นครับ และกรุณาอย่าใช้บอร์ดผนังร้านกาแฟที่ชั้น 1 ในการโจมตีบุคคลอื่นนะครับ หากมีกรณีพาดพิงกับบุคคลอื่นใด จนเป็นเหตุให้เกิดคดีความ ทางคณะกรรมการสมาคมฯจะไม่รับผิดชอบแต่อย่างใด Jame Bond โบกนิ้วไปมาส่งสายตาตำหนิไปที่โฮมส์แล้วพูดต่อ
ถ้าตักเตือนแล้วไม่เชื่อ มีการทำซ้ำบ่อยๆ เราจะส่ง IP ทั้งหมดให้กับ ISP ของคุณ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป พวกมาแปลกๆชอบมาขายของ ยื่นหมูยื่นแมว ได้ ได้ ผมพร้อมจะรับมืออยู่แล้ว ถึงแม้จะมีกระแสความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของสมาคมฯอยู่บ้าง แต่ทางเราเห็นว่าเป็นความ ชอบธรรม" อย่างยิ่งในการปราบปรามผู้ที่เกเรรุกราน โดยใช้อำนาจตามกฎหมายที่ได้ตราไว้ก่อนหน้านั้น เช่น การกำหนดหน้าที่ของภราดรในการใช้วาจาสุภาพ การจำกัดสิทธิภราดรผู้กระทำการอันเป็นภัยต่อสมาคมฯ โดยมีบทลงโทษเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.....ผมพร้อมจะบริการคุณแล้ว อะไรละที่จะให้ผมบอกคุณ
คุณหมอถอนหายใจ จบซะที ดิฉันหวังว่าคุณจะกรุณาพอที่จะอธิบายเรื่องลักษณะที่แท้จริงของสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ให้ฟังคะ
Jame Bond ตะลึงงัน คุณหมอ ไม่รู้เลยรึ
คุณหมอส่ายหน้า
Jame Bond ยิ้มมองอย่างกระตือรือร้น นี่คุณหมอเป็น เวอร์จิน รึนี่ เขานิ่วหน้า เหลือบมองคุณหมอ เวอร์จินเป็นศัพท์ที่เราใช้หมายถึงคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่แท้จริงของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเลยนะครับ คุณหมอรู้สักแค่ไหนครับ
คุณหมอเล่าเรื่องที่โฮมส์อธิบายให้ฟังก่อนหน้านี้อย่างคร่าวๆ คือเรื่องสมาคมนี้มีสมาชิกเป็นผู้ทรงความสามารถ และทรงอำนาจ เป็นบุคคลที่มีการศึกษาดีและรอบรู้มากมายในหลากหลายวิชาสาขาจากทั่วประเทศ London School of Economics ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์ XOGROUP ขบวนการเสรีไทย และสัญญาลักษณ์คนกำลังเต้นรำ
และสมาคมนักลงทุนลับซึ่งเก็บสมุดรหัสบางอย่าง......บางอย่างที่ทรงพลังมาก
แค่นั้นรึ Jame Bond ส่งสายตาตำหนิไปอีกครั้งที่โฮมส์ คุณโฮมส์......คุณศึกษาค้นคว้าขีดเขียนวิจัยเรื่องสมาคมลับต่างๆมาหลายปี......เป็นความชำนาญแต่ยังไม่พิเศษหรอกนะ
เออ...ผมรู้น่า คิดว่าบางทีคุณกะผมน่าจะ.... ดูท่าโฮมส์จะตัดสินใจได้ว่าการใช้อุปมาอุปมัยอย่างไม่ถูกกาลเทศะนี้น่าจะยุติได้แล้ว
หากสายตาระยิบระยับของ Jame Bond จ้องแน่วแน่อยู่ที่คุณหมอแล้ว คุณคือเวอร์จินเรื่องนักลงทุนแบบเน้นคุณค่านะครับ คราวนี้จงไว้วางใจผม ลงไปที่ชั้นสองข้างล่างไปที่ร้าน ซีเอ็ดยูเคชั่น ไปถามพนักขาย หาชื่อหนังสือ : ตามรอย วอเร็น บัฟเฟต ชื่อผู้เขียน : James Pardoe ชื่อผู้แปล : เอกสิทธิ์ หัสสรังสี สำนักพิมพ์: บริษัท ฟิเดลลิตี้ จำกัด ราคา: 198 บาท จำนวนหน้า: 167 หน้า ผมมั่นใจว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของ วอเร็น บัฟเฟต ที่คนเริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนทุกคนจะไม่ผิดหวัง และควรมีไว้ติดตัวทุกคน แล้วคุณจะไม่มีวันลืมครั้งแรกที่ได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย"
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑๒
โพสต์ที่ 16
บทที่ ๑๒
Jame Bond จ้องมองคุณหมออย่างเพ่งพิศ พยักหน้า สีหน้าจริงจัง เงียบไปครู่หนึ่งยืนขึ้น เดินไปปิดไฟสปอตล์ ทั้งห้องมืดลงทันที
คุณหมอกะโฮมส์มองไม่เห็นอะไรไปชั่วขณะ และรู้สึกแปลกๆไม่แน่ใจ เงาดำๆของบอนด์ปรากฏขึ้นโดยมีแสงสีม่วงให้ความสว่าง เขาเดินใกล้เข้ามา มือซ้ายถือไฟฉายสาดแสงสีม่วงจางๆอาบตัวเขาไว้ ขณะที่มือขวาผยุงถือจานใส่น้ำมาด้วย คุณคงไม่คุ้นกับปากกาแบบนี้มาก่อน
โฮทส์ชะโงกหน้าก้มดูยี่ห้อปากกา
investisseur de valeur*
เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ปากกามองเห็นในที่มืด และมองเห็นเมื่ออยู่ในน้ำเท่านั้น เป็นปากกาหัวสักหลาดที่ออกแบบโดยสมาคมฯ เพื่อทำเครื่องหมายที่มองไม่เห็นบนสิ่งต่างๆในน้ำ ปากกานี้เขียนด้วยหมึกฟลูออเรสเซนต์ที่ผสมแอลกอฮอล์และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ ซึ่งจะมองเห็นได้ภายใต้แสงสีดำเท่านั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสัตวแพทย์ของโอเชียนเวิลด์จะถือปากกาแบบนี้เวลาดำไปใต้น้ำ ตรวจสุขภาพพลานามัยของปลาต่างๆเป็นประจำทุกวัน เพื่อใช้ทำเครื่องหมายที่มองไม่เห็นบนตัวปลาที่ต้องรักษาอาการต่อไป
คุณคงไม่รู้ บอนด์พูด แววตาเป็นประกายอยู่ในแสงสีม่วง ดร.โหน่งใช้ไฟฉายแสงสีดำตรวจหารอยเลือดของปลาและอาการของโรคอื่นๆใต้น้ำ คุณคงไม่รู้ว่าเราประหลาดใจแค่ไหน..... เขาควักจดหมายรหัสของดร.โหน่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแช่ลงน้ำปริ่มๆในจาน แล้วสาดแสงนั้นลงไปที่จานทันใด
คุณหมอกะโฮมส์มองลงไปแล้วก็ถอยกรูดออกมาด้วยความตกใจ
หัวใจของโฮมส์เต้นแรงขณะที่มองเห็นอักษรภาษาอังกฤษสว่างเรืองขึ้นมาจากภาพ สัญญาลักษณ์คนเต้นระบำที่เขาเห็นในจดหมายตั้งแต่แรก เป็นลายมือเรืองแสงสีม่วงสอดแทรกซ้อนในสัญญาลักษณ์นั้น เขารู้สึกว่าเมฆครึ้มดำทะมึนที่ปกคลุมค่ำคืนนี้อยู่นั้นยิ่งหนาทึบมากขึ้นไปอีก ไม่สามารถละสายตาจากตัวอักษรสีม่วงนั้นได้ ดูจะเป็นข้อความที่จินตนาการของเขาไปไม่ถึง
ข้อความนั้นอ่านได้ว่า :
ba_2lFinancialEngineermomo29
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump
โฮมส์เกาหัวแล้วเงยหน้ามองบอนด์ทำตาเคลิ้มๆ นี่มันแปลว่าอะไรกันครับ บางส่วนดูคล้ายรหัสตัวเลขนะครับ
นัยน์ตาของบอนด์ลุกโชน แม้ว่าบอนด์ยังนึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อยว่ามันหมายความว่าอย่างไรแต่เขาก็เข้าใจสัญชาตญาณของ ดร.โหน่ง ที่ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ซ่อนของสมุดบันทึกลับ----ข้อมูลเอกสารลับอันทรงพลังยิ่งจนเป็นภัยต่อกลุ่มภราดรซึ่ง วินาที่ นี้ดำรงอยู่ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์ความลับนี้
มันเป็นรายชื่อรหัสของกลุ่มภราดรบางคนในสมาคมฯนะครับ นักถอดรหัสของเราพยายามถอดอยู่...... เออ!.....ที่นี่เราจะไม่เรียกชื่อจริงกันครับ การปฏิบัติการต่อต้านผู้รุกราน จำเป็นต้องเป็นงาน "ใต้ดิน" ที่ปิดลับ แม้แต่คนใกล้ชิดก็ให้รับทราบไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องจำกัดวงของผู้ปฏิบัติงานในแต่ละฝ่าย เป็นการรักษาความลับในกรณีที่ผู้หนึ่งผู้ใดถูกจับกุม เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อขบวนการของสมาคมฯโดยรวม แต่อย่างไรก็ตามนะครับ.ถึงแม้ภราดรแต่ละกลุ่ม ที่มีความหลากหลายทางความคิด หรือเคยขัดแย้งทางความเห็นด้านการลงทุนก่อนหน้านั้น แต่เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ และจุดหมายเฉพาะหน้าคือการรักษาเอกราชอธิปไตยและขับไล่ผู้รุกราน ภราดรเหล่านี้จะเข้ามาทำงานร่วมกันทันที นี่แหละครับ!
ไทยแวลูอินเวสเตอร์
โฮมส์มีท่างุนงงเต็มที่ ถ้าอย่างนั้นแล้ว กลุ่มภราดรเหล่านั้นจะได้อะไรเป็นการตอบแทนจากสมาคมฯ ละครับ คุณหมอพยักหน้า ท่าทีไม่แน่ใจ หันไปมองบอนด์รอคำตอบด้วยคน
เมื่อพูดถึงไทยแวลูอินเวสเตอร์ คนเหล่านี้อาจจะอาสาสมัครเข้ามาด้วยเหตุต่าง ๆ กัน ได้มีการถกเถียงกันถึงเรื่องนี้ในระหว่างสมัครเข้ามาใหม่ ๆ ... บางคนก็ว่าสมัครเพื่อชาติ บางคนสมัครเพื่อเสรีภาพและความชอบธรรมแห่งชีวิต บางคนก็พูดไม่ออก บางคนเห็นว่าเป็นหน้าที่ อย่างไรก็ตามพอพูดได้ว่า ความมุ่งหมายร่วมกันของพวกเรา ก็ขอให้เป็นอย่างที่ "นาย Marrine Money ได้เขียนไว้ในหนังสือ VI GROUP เรื่องภายในสมาคมว่า "ขอให้เราอย่านึกถึงตัวตนของบุคคลซึ่งย่อมร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ขอให้นึกถึงงานและความคิดอันอมตะของพวกเรา บุคคลอาจจะแตกต่างด้วยกำเนิด ด้วยฐานะและการศึกษา ปัญญาชนชั้นหนึ่งเท่าที่สมาคมเคยมีมา แต่ละคนมีปริญญาเอก ปริญญาโท จากฮาวาร์ด เอ็มไอที และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ในสหรัฐ แต่การเสียสละเป็นยอดแห่งคุณธรรม ที่ยกให้มนุษย์อยู่ในระดับเดียวกัน"
โฮมส์ตื้นตัน น้ำตาคลอ อี๋! น้ำลายยืดด้วย สกปรก! เหม็น! อยู่ดีดีก็ลุกขึ้นพรวด เหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผม เชอร์ล็อค โฮมส์ ขอให้สัตย์ปฏิญานว่า เพื่อรับภารกิจเร่งด่วนนี้ ไม่ว่าจะฝึกหนักมากขนาดไหน การจู่โจมข้าศึก และป้องกันตัวเองการฝึกเอาตัวรอดหรือให้อยู่รอด สอดแนม สะเดาะกุญแจ โจรกรรม ตื่นแต่เช้าตรู่ จมอยู่ในน้ำทั้งวัน แดดร้อน น้ำจืดหรือว่าน้ำเค็ม...ร่างกายและจิตใจผมตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมแล้วที่จะออกไปทำภารกิจที่แลกด้วยชีวิตกับความสำเร็จครับ!
สีหน้าคุณหมอเงียบสงบหันไปทางบอนด์ สงสัยยังไม่ได้กินยาคะ อาการกำเริบ คงต้องจับไปผ่าซะหน่อยคะ
คุณหมอควบคุมคนไข้ของเธอได้ทันที โฮมส์หยุดกึก รู้สึกมีจุดแดงเล็กกะพริบวาบในใจกลางความคิดเขา ดึงตัวเองกลับมาจากความนึกคิดอันไกลโพ้น สะดุดกึกกับความคิดที่ประจักษ์ขึ้นมาทันใด
รายชื่อรหัสของกลุ่มภราดร!
โฮมส์หันกลับมามองที่จดหมาย
ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น โฮมส์นึก
แต่เขารู้ว่าใช่แน่ๆ
ณ บอร์ดผนังร้านกาแฟที่ชั้น 1 นั่นเอง.....ด้วยภาพข้อความคำสโลแกนที่วนเวียนอยู่ในจิตใจของโฮมส์ ซึ่งจำทุกข้อความคำพูดได้อย่างแม่นยำละเมียดละไม เขาก็ไขปริศนาจากจดหมายรหัสของ ดร.โหน่งได้ฉับพลัน และอย่างไม่คาดคิด
ba_2lFinancialEngineermomo29! เขาเอ๋ยออกมา
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump! นี่มันรหัสที่ง่ายที่สุดเลยนี่!
บอนด์ชะงักค้าง เงยหน้ามองโฮมส์ด้วยความพิศวง รหัสรึ ทางหน่วยถอดรหัสครุ่นคิด
ข้อความเหล่านั้นมาตลอดตั้งหลายชั่วไมง แต่ยังไม่เห็นรหัสอะไร โดนเฉพาะรหัสที่ว่าง่ายที่สุดด้วยแล้ว
คุณพูดขึ้นมาเองไง เสียงของโฮมส์สะท้อนกึกก้องด้วยความตื่นเต้น ดร.โหน่งได้จัดลำดับรายชื่อรหัสของกลุ่มภราดรอย่างถูกต้องแล้วครับ ไม่อย่างนั้นข้อความคำสโลแกนก็เป็นรหัสลับที่ไม่มีความหมาย
บอนด์ไม่รู้เลยว่าโฮมส์พูดถึงอะไร เขาแน่ใจว่า ดร.โหน่งคงตั้งใจให้ทางสมาคมไปสอบถามภราดรที่มีรายชื่อเหล่านั้น บางทีพวกเขาต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ซ่อนของสมุดบันทึกลับ มากไปกว่าเป็นวิธีที่จะให้หน่วยถอดรหัสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยังมีจุดหมายอื่นด้วยรึ เขาหันไปมองจดหมายรหัสที่แช่อยู่ในน้ำทบทวนข้อความของ ดร.โหน่งอีกครั้ง
ba_2lFinancialEngineermomo29
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump
มีอะไรเกี่ยวกับสโลแกนหรือ
ลำดับรายชื่อรหัสที่วางเรียงกันมีความสำคัญมากครับ แต่สโลแกนของพวกเขานั่นแหละคือกุญแจไขปริศนา โฮมส์บอก ดร.โหน่งจงใจเขียนรายชื่อเรียงกัน เพื่อจะบอกเราให้ใช้วิธีเดียวกันกับข้อความสโลแกนของพวกเขา ข้อความชื่อเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบ.... แต่เป็นคำถามครับ เป็นปริศนาให้เราแก้อีกชั้นหนึ่ง
โฮมส์ สบตาบอนด์กะคุณหมอแน่วแน่ เห็นความข้องใจบนใบหน้า ความหมายของ ดร.โหน่งชัดเจนอยู่ต่อหน้าเราตลอดเวลา แถมเขายังทิ้งเบาะแสไว้ให้เรามากเกินพอเสียอีก
โฮมส์ดึงปากกาหมึกซึมออกจากกระเป๋าเสื้อโดยไม่พูดอะไรอีก เขาดึงสามคำสุดท้ายของสโลแกนเหล่านั้นมาเขียนตามลำดับรายชื่อแต่ละบรรทัดใหม่
ba_2l long time ago
FinancialEngineer successful Strategic Investor
momo29 is most businesslike
CK FOR THE WORST
ViewtifulInvestor no true Saviour
Knott buy and sell
โอ@ you take profit
Jeng is not Valuation
Sirivajj explain in anotherway
Kao what you get
David is my lover
Worapong circle of competence
woody Impossible is Nothing
ForrestGump strangers any more
เป็นการวางลำดับคำที่สมบูรณ์แบบยิ่งของ......
ba_2l. FinancialEngineer.momo29
long time ago. successful Strategic Investor.is most businesslike
( นานมาแล้วนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จซื้อหุ้นเหมือนลงทุนในกิจการนั้นๆ)
CK. ViewtifulInvestor. Knott. โอ@. Jeng
FOR THE WORST.no true Saviour. buy and sell. you take profit. is not Valuation
(สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่มีใครหรอกที่ซื้อเร็วขายเร็วจะมีกำไรทุกครั้งมันไม่ใช่แนวทางแบบเน้นคุณค่า)
Sirivajj. Kao. david. worapong
explain in anotherway. what you get. is my lover. circle of competence
(พูดอีกแบบหนึ่งสิ่งที่คุณได้เรียนรู้คือหัวใจของการลงทุนภายใต้ขอบเขตความสามารถ)
woody. ForrestGump
Impossible is Nothing. strangers any more
(คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกสำหรับผมอีกต่อไป)
Jame Bond จ้องมองคุณหมออย่างเพ่งพิศ พยักหน้า สีหน้าจริงจัง เงียบไปครู่หนึ่งยืนขึ้น เดินไปปิดไฟสปอตล์ ทั้งห้องมืดลงทันที
คุณหมอกะโฮมส์มองไม่เห็นอะไรไปชั่วขณะ และรู้สึกแปลกๆไม่แน่ใจ เงาดำๆของบอนด์ปรากฏขึ้นโดยมีแสงสีม่วงให้ความสว่าง เขาเดินใกล้เข้ามา มือซ้ายถือไฟฉายสาดแสงสีม่วงจางๆอาบตัวเขาไว้ ขณะที่มือขวาผยุงถือจานใส่น้ำมาด้วย คุณคงไม่คุ้นกับปากกาแบบนี้มาก่อน
โฮทส์ชะโงกหน้าก้มดูยี่ห้อปากกา
investisseur de valeur*
เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ปากกามองเห็นในที่มืด และมองเห็นเมื่ออยู่ในน้ำเท่านั้น เป็นปากกาหัวสักหลาดที่ออกแบบโดยสมาคมฯ เพื่อทำเครื่องหมายที่มองไม่เห็นบนสิ่งต่างๆในน้ำ ปากกานี้เขียนด้วยหมึกฟลูออเรสเซนต์ที่ผสมแอลกอฮอล์และไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ ซึ่งจะมองเห็นได้ภายใต้แสงสีดำเท่านั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสัตวแพทย์ของโอเชียนเวิลด์จะถือปากกาแบบนี้เวลาดำไปใต้น้ำ ตรวจสุขภาพพลานามัยของปลาต่างๆเป็นประจำทุกวัน เพื่อใช้ทำเครื่องหมายที่มองไม่เห็นบนตัวปลาที่ต้องรักษาอาการต่อไป
คุณคงไม่รู้ บอนด์พูด แววตาเป็นประกายอยู่ในแสงสีม่วง ดร.โหน่งใช้ไฟฉายแสงสีดำตรวจหารอยเลือดของปลาและอาการของโรคอื่นๆใต้น้ำ คุณคงไม่รู้ว่าเราประหลาดใจแค่ไหน..... เขาควักจดหมายรหัสของดร.โหน่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแช่ลงน้ำปริ่มๆในจาน แล้วสาดแสงนั้นลงไปที่จานทันใด
คุณหมอกะโฮมส์มองลงไปแล้วก็ถอยกรูดออกมาด้วยความตกใจ
หัวใจของโฮมส์เต้นแรงขณะที่มองเห็นอักษรภาษาอังกฤษสว่างเรืองขึ้นมาจากภาพ สัญญาลักษณ์คนเต้นระบำที่เขาเห็นในจดหมายตั้งแต่แรก เป็นลายมือเรืองแสงสีม่วงสอดแทรกซ้อนในสัญญาลักษณ์นั้น เขารู้สึกว่าเมฆครึ้มดำทะมึนที่ปกคลุมค่ำคืนนี้อยู่นั้นยิ่งหนาทึบมากขึ้นไปอีก ไม่สามารถละสายตาจากตัวอักษรสีม่วงนั้นได้ ดูจะเป็นข้อความที่จินตนาการของเขาไปไม่ถึง
ข้อความนั้นอ่านได้ว่า :
ba_2lFinancialEngineermomo29
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump
โฮมส์เกาหัวแล้วเงยหน้ามองบอนด์ทำตาเคลิ้มๆ นี่มันแปลว่าอะไรกันครับ บางส่วนดูคล้ายรหัสตัวเลขนะครับ
นัยน์ตาของบอนด์ลุกโชน แม้ว่าบอนด์ยังนึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อยว่ามันหมายความว่าอย่างไรแต่เขาก็เข้าใจสัญชาตญาณของ ดร.โหน่ง ที่ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ซ่อนของสมุดบันทึกลับ----ข้อมูลเอกสารลับอันทรงพลังยิ่งจนเป็นภัยต่อกลุ่มภราดรซึ่ง วินาที่ นี้ดำรงอยู่ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์ความลับนี้
มันเป็นรายชื่อรหัสของกลุ่มภราดรบางคนในสมาคมฯนะครับ นักถอดรหัสของเราพยายามถอดอยู่...... เออ!.....ที่นี่เราจะไม่เรียกชื่อจริงกันครับ การปฏิบัติการต่อต้านผู้รุกราน จำเป็นต้องเป็นงาน "ใต้ดิน" ที่ปิดลับ แม้แต่คนใกล้ชิดก็ให้รับทราบไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องจำกัดวงของผู้ปฏิบัติงานในแต่ละฝ่าย เป็นการรักษาความลับในกรณีที่ผู้หนึ่งผู้ใดถูกจับกุม เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อขบวนการของสมาคมฯโดยรวม แต่อย่างไรก็ตามนะครับ.ถึงแม้ภราดรแต่ละกลุ่ม ที่มีความหลากหลายทางความคิด หรือเคยขัดแย้งทางความเห็นด้านการลงทุนก่อนหน้านั้น แต่เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ และจุดหมายเฉพาะหน้าคือการรักษาเอกราชอธิปไตยและขับไล่ผู้รุกราน ภราดรเหล่านี้จะเข้ามาทำงานร่วมกันทันที นี่แหละครับ!
ไทยแวลูอินเวสเตอร์
โฮมส์มีท่างุนงงเต็มที่ ถ้าอย่างนั้นแล้ว กลุ่มภราดรเหล่านั้นจะได้อะไรเป็นการตอบแทนจากสมาคมฯ ละครับ คุณหมอพยักหน้า ท่าทีไม่แน่ใจ หันไปมองบอนด์รอคำตอบด้วยคน
เมื่อพูดถึงไทยแวลูอินเวสเตอร์ คนเหล่านี้อาจจะอาสาสมัครเข้ามาด้วยเหตุต่าง ๆ กัน ได้มีการถกเถียงกันถึงเรื่องนี้ในระหว่างสมัครเข้ามาใหม่ ๆ ... บางคนก็ว่าสมัครเพื่อชาติ บางคนสมัครเพื่อเสรีภาพและความชอบธรรมแห่งชีวิต บางคนก็พูดไม่ออก บางคนเห็นว่าเป็นหน้าที่ อย่างไรก็ตามพอพูดได้ว่า ความมุ่งหมายร่วมกันของพวกเรา ก็ขอให้เป็นอย่างที่ "นาย Marrine Money ได้เขียนไว้ในหนังสือ VI GROUP เรื่องภายในสมาคมว่า "ขอให้เราอย่านึกถึงตัวตนของบุคคลซึ่งย่อมร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ขอให้นึกถึงงานและความคิดอันอมตะของพวกเรา บุคคลอาจจะแตกต่างด้วยกำเนิด ด้วยฐานะและการศึกษา ปัญญาชนชั้นหนึ่งเท่าที่สมาคมเคยมีมา แต่ละคนมีปริญญาเอก ปริญญาโท จากฮาวาร์ด เอ็มไอที และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ในสหรัฐ แต่การเสียสละเป็นยอดแห่งคุณธรรม ที่ยกให้มนุษย์อยู่ในระดับเดียวกัน"
โฮมส์ตื้นตัน น้ำตาคลอ อี๋! น้ำลายยืดด้วย สกปรก! เหม็น! อยู่ดีดีก็ลุกขึ้นพรวด เหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผม เชอร์ล็อค โฮมส์ ขอให้สัตย์ปฏิญานว่า เพื่อรับภารกิจเร่งด่วนนี้ ไม่ว่าจะฝึกหนักมากขนาดไหน การจู่โจมข้าศึก และป้องกันตัวเองการฝึกเอาตัวรอดหรือให้อยู่รอด สอดแนม สะเดาะกุญแจ โจรกรรม ตื่นแต่เช้าตรู่ จมอยู่ในน้ำทั้งวัน แดดร้อน น้ำจืดหรือว่าน้ำเค็ม...ร่างกายและจิตใจผมตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมแล้วที่จะออกไปทำภารกิจที่แลกด้วยชีวิตกับความสำเร็จครับ!
สีหน้าคุณหมอเงียบสงบหันไปทางบอนด์ สงสัยยังไม่ได้กินยาคะ อาการกำเริบ คงต้องจับไปผ่าซะหน่อยคะ
คุณหมอควบคุมคนไข้ของเธอได้ทันที โฮมส์หยุดกึก รู้สึกมีจุดแดงเล็กกะพริบวาบในใจกลางความคิดเขา ดึงตัวเองกลับมาจากความนึกคิดอันไกลโพ้น สะดุดกึกกับความคิดที่ประจักษ์ขึ้นมาทันใด
รายชื่อรหัสของกลุ่มภราดร!
โฮมส์หันกลับมามองที่จดหมาย
ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น โฮมส์นึก
แต่เขารู้ว่าใช่แน่ๆ
ณ บอร์ดผนังร้านกาแฟที่ชั้น 1 นั่นเอง.....ด้วยภาพข้อความคำสโลแกนที่วนเวียนอยู่ในจิตใจของโฮมส์ ซึ่งจำทุกข้อความคำพูดได้อย่างแม่นยำละเมียดละไม เขาก็ไขปริศนาจากจดหมายรหัสของ ดร.โหน่งได้ฉับพลัน และอย่างไม่คาดคิด
ba_2lFinancialEngineermomo29! เขาเอ๋ยออกมา
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump! นี่มันรหัสที่ง่ายที่สุดเลยนี่!
บอนด์ชะงักค้าง เงยหน้ามองโฮมส์ด้วยความพิศวง รหัสรึ ทางหน่วยถอดรหัสครุ่นคิด
ข้อความเหล่านั้นมาตลอดตั้งหลายชั่วไมง แต่ยังไม่เห็นรหัสอะไร โดนเฉพาะรหัสที่ว่าง่ายที่สุดด้วยแล้ว
คุณพูดขึ้นมาเองไง เสียงของโฮมส์สะท้อนกึกก้องด้วยความตื่นเต้น ดร.โหน่งได้จัดลำดับรายชื่อรหัสของกลุ่มภราดรอย่างถูกต้องแล้วครับ ไม่อย่างนั้นข้อความคำสโลแกนก็เป็นรหัสลับที่ไม่มีความหมาย
บอนด์ไม่รู้เลยว่าโฮมส์พูดถึงอะไร เขาแน่ใจว่า ดร.โหน่งคงตั้งใจให้ทางสมาคมไปสอบถามภราดรที่มีรายชื่อเหล่านั้น บางทีพวกเขาต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่ซ่อนของสมุดบันทึกลับ มากไปกว่าเป็นวิธีที่จะให้หน่วยถอดรหัสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยังมีจุดหมายอื่นด้วยรึ เขาหันไปมองจดหมายรหัสที่แช่อยู่ในน้ำทบทวนข้อความของ ดร.โหน่งอีกครั้ง
ba_2lFinancialEngineermomo29
CKViewtifulInvestorKnottโอ@Jeng
sirivajjKaodavidworapong
woodyForrestGump
มีอะไรเกี่ยวกับสโลแกนหรือ
ลำดับรายชื่อรหัสที่วางเรียงกันมีความสำคัญมากครับ แต่สโลแกนของพวกเขานั่นแหละคือกุญแจไขปริศนา โฮมส์บอก ดร.โหน่งจงใจเขียนรายชื่อเรียงกัน เพื่อจะบอกเราให้ใช้วิธีเดียวกันกับข้อความสโลแกนของพวกเขา ข้อความชื่อเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบ.... แต่เป็นคำถามครับ เป็นปริศนาให้เราแก้อีกชั้นหนึ่ง
โฮมส์ สบตาบอนด์กะคุณหมอแน่วแน่ เห็นความข้องใจบนใบหน้า ความหมายของ ดร.โหน่งชัดเจนอยู่ต่อหน้าเราตลอดเวลา แถมเขายังทิ้งเบาะแสไว้ให้เรามากเกินพอเสียอีก
โฮมส์ดึงปากกาหมึกซึมออกจากกระเป๋าเสื้อโดยไม่พูดอะไรอีก เขาดึงสามคำสุดท้ายของสโลแกนเหล่านั้นมาเขียนตามลำดับรายชื่อแต่ละบรรทัดใหม่
ba_2l long time ago
FinancialEngineer successful Strategic Investor
momo29 is most businesslike
CK FOR THE WORST
ViewtifulInvestor no true Saviour
Knott buy and sell
โอ@ you take profit
Jeng is not Valuation
Sirivajj explain in anotherway
Kao what you get
David is my lover
Worapong circle of competence
woody Impossible is Nothing
ForrestGump strangers any more
เป็นการวางลำดับคำที่สมบูรณ์แบบยิ่งของ......
ba_2l. FinancialEngineer.momo29
long time ago. successful Strategic Investor.is most businesslike
( นานมาแล้วนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จซื้อหุ้นเหมือนลงทุนในกิจการนั้นๆ)
CK. ViewtifulInvestor. Knott. โอ@. Jeng
FOR THE WORST.no true Saviour. buy and sell. you take profit. is not Valuation
(สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่มีใครหรอกที่ซื้อเร็วขายเร็วจะมีกำไรทุกครั้งมันไม่ใช่แนวทางแบบเน้นคุณค่า)
Sirivajj. Kao. david. worapong
explain in anotherway. what you get. is my lover. circle of competence
(พูดอีกแบบหนึ่งสิ่งที่คุณได้เรียนรู้คือหัวใจของการลงทุนภายใต้ขอบเขตความสามารถ)
woody. ForrestGump
Impossible is Nothing. strangers any more
(คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกสำหรับผมอีกต่อไป)
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑๓
โพสต์ที่ 18
บทที่ ๑๓
ปริศนาต่อไป
นานมาแล้วนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จซื้อหุ้นเหมือนลงทุนในกิจการนั้นๆ
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่มีใครหรอกที่ซื้อเร็วขายเร็วจะมีกำไรทุกครั้งมันไม่ใช่แนวทางแบบเน้นคุณค่า
พูดอีกแบบหนึ่งสิ่งที่คุณได้เรียนรู้คือหัวใจของการลงทุนภายใต้ขอบเขตความสามารถ
คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกสำหรับผมอีกต่อไป
ห้านาทีเคลื่อนผ่านนานเนิ่นพอสมควรชวนให้นิทรา แสงไฟเรื่อหรี่ทอดลำโรยแรงส่องแสงจับลำดับ คำอักษร ตามรับสลับเสียงของคุณหมอก่อนจะกรี๊ดสุดเสียงเพียงในใจดังๆไม่ให้ใครได้ยิน
เบื้องขวาปรากฏภาพบอนด์จ้องมองข้อความทั้งสี่บรรทัด หลายอึดใจ...... เหมือนถูกชกที่หน้าท้องอย่างจัง!........ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ดูกระหยิ่มปลื้มยิ่งนัก สองมือพนมรำลึกคุณครูผู้เฒ่าที่เขาเคารพนบไหว้ จ่อจรดจุดต่อประทีปความคิดแบบ VI สว่างเรืองลุกดุจหมายปลุกสำนึกน้อยๆที่ค่อยๆหนักแน่นเป็นความหวังในสมาคมฯของวันพรุ่ง
บอนด์นั่งจ้องโฮมส์อย่างอัศจรรย์ใจ เพื่อนภราดรผู้น้องรับบทขัดตาทัพขยับคำขยำเรื่องไขปริศนา ไม่เท่าไหร่โฮมส์ซึ่งพึ่งมีโอกาสเพียงสัมผัสไมตรีผ่านโลก value investor ไซเบอร์อินเตอร์เน็ต ก็ขึ้นมาแถลงความคำนำรายการ ประมาณที่จำได้ให้กระตุกฉุกคิดไว้ว่า..
..สิ่งสำคัญอันกอรปเวลาซื้อหุ้น ใช่มีเงินมองราคาเพียงอย่างเดียวก็หาไม่
สร้างวัฒนธรรมคิดเหมือนธุรกิจประจำใจ เสริมสร้างไว้แต่โบราณเนิ่นนานมา...
..หากพี่น้องผอง VI ไม่มั่นมุ่ง หมายผดุงหมุนเวียนซื้อไม่รักษา
ไม่เกื้อกูลไม่หนุนค้ำไม่นำพา จะเรียกหาความเป็น VI ที่ไหนกัน.
....สำคัญนักการลงทุนในขอบเขต กำหนดเหตุเส้นรอบวงอยู่ตรงไหน
ความสามารถที่แท้จริงเป็นเช่นไร ขอบจะเล็กขอบจะใหญ่ไม่สำคัญ....
... เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลก สิ่งที่แยกแปลกกว่าคือความเป็นไปได้
พอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสมที่สุดเป็นเยี่ยงไร ต้องเข้าใจความเป็นไปได้นี้เอย.....
ท่องจบ โฮมส์ก็ยังไม่เข้าใจ......ความคิดในสมองวุ่นวายสับสน งุนงงสงสัย ผมยังนึกไม่ออกเลยจริงๆ โฮมส์กล่าวขณะจ้องมองหน้าบอนด์ ว่า ดร.โหน่งจับชื่อรหัสอักษรมาวางเรียงกันถอดเป็นประโยคเหล่านี้เพื่ออะไรกัน หรือทั้งหมดนี่จะเป็น........
ใช่ ครับ....ถ้าคุณคิดเหมือนผม ทั้งหมดเป็นวาจาอมตะของคนเพียงคนเดียวครับ
ใครครับ!.... โฮมส์ออกอาการร้อนรน เสียววาบ!
บอนด์เงยหน้า เสียงแผ่วนุ่ม กระพริบตาทีหนึ่ง กี่โมงแล้วนี่ มันเหมือนเสียง ดร.โหน่ง ร้องเรียกให้เจ้าของคำพูดนี้ให้ช่วย ชัดเจนจนน่าขนลุกครับ!
วอเร็น วอเร็น บัฟเฟท! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!
ข้อความสุดท้ายที่ ดร.โหน่งเขียนถึงสมาคมฯ ทำไมไปเกี่ยวข้องกับ บัฟเฟท อันลือเลื่อง บอนด์ยังคิดไม่ออก เท่าที่คิดได้ประการเดียวซึ่งเป็นประการที่ทำให้รู้สึกกังวล เอ๊.....หรือว่า....หรือว่า
สมุดลับนั่นจะอยู่ที่เขา!
ไฟสปอร์ตเปิดพรึบ! กระชากอารมณ์คนทั้งสามกระตุกตื่นจากภวังค์ วอเร็น บัฟเฟท และ ดร.นิเวศน์ เดินเข้าห้องอย่างช้าๆ เพลง เจ้าพ่อเซี่ยงไห้ ดังขึ้นแบบไม่มีปี่ มีแต่ขลุ่ยกับขิมและซอ คุณหมอ โฮมส์ และบอนด์นั่งปากหวอ ฟังซาวด์แทรคภาษาจีน
ลองปัง.......ลองเลา.......mhmmmmmm
ปริศนาต่อไป
นานมาแล้วนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จซื้อหุ้นเหมือนลงทุนในกิจการนั้นๆ
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่มีใครหรอกที่ซื้อเร็วขายเร็วจะมีกำไรทุกครั้งมันไม่ใช่แนวทางแบบเน้นคุณค่า
พูดอีกแบบหนึ่งสิ่งที่คุณได้เรียนรู้คือหัวใจของการลงทุนภายใต้ขอบเขตความสามารถ
คำว่าเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกสำหรับผมอีกต่อไป
ห้านาทีเคลื่อนผ่านนานเนิ่นพอสมควรชวนให้นิทรา แสงไฟเรื่อหรี่ทอดลำโรยแรงส่องแสงจับลำดับ คำอักษร ตามรับสลับเสียงของคุณหมอก่อนจะกรี๊ดสุดเสียงเพียงในใจดังๆไม่ให้ใครได้ยิน
เบื้องขวาปรากฏภาพบอนด์จ้องมองข้อความทั้งสี่บรรทัด หลายอึดใจ...... เหมือนถูกชกที่หน้าท้องอย่างจัง!........ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ดูกระหยิ่มปลื้มยิ่งนัก สองมือพนมรำลึกคุณครูผู้เฒ่าที่เขาเคารพนบไหว้ จ่อจรดจุดต่อประทีปความคิดแบบ VI สว่างเรืองลุกดุจหมายปลุกสำนึกน้อยๆที่ค่อยๆหนักแน่นเป็นความหวังในสมาคมฯของวันพรุ่ง
บอนด์นั่งจ้องโฮมส์อย่างอัศจรรย์ใจ เพื่อนภราดรผู้น้องรับบทขัดตาทัพขยับคำขยำเรื่องไขปริศนา ไม่เท่าไหร่โฮมส์ซึ่งพึ่งมีโอกาสเพียงสัมผัสไมตรีผ่านโลก value investor ไซเบอร์อินเตอร์เน็ต ก็ขึ้นมาแถลงความคำนำรายการ ประมาณที่จำได้ให้กระตุกฉุกคิดไว้ว่า..
..สิ่งสำคัญอันกอรปเวลาซื้อหุ้น ใช่มีเงินมองราคาเพียงอย่างเดียวก็หาไม่
สร้างวัฒนธรรมคิดเหมือนธุรกิจประจำใจ เสริมสร้างไว้แต่โบราณเนิ่นนานมา...
..หากพี่น้องผอง VI ไม่มั่นมุ่ง หมายผดุงหมุนเวียนซื้อไม่รักษา
ไม่เกื้อกูลไม่หนุนค้ำไม่นำพา จะเรียกหาความเป็น VI ที่ไหนกัน.
....สำคัญนักการลงทุนในขอบเขต กำหนดเหตุเส้นรอบวงอยู่ตรงไหน
ความสามารถที่แท้จริงเป็นเช่นไร ขอบจะเล็กขอบจะใหญ่ไม่สำคัญ....
... เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แปลก สิ่งที่แยกแปลกกว่าคือความเป็นไปได้
พอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสมที่สุดเป็นเยี่ยงไร ต้องเข้าใจความเป็นไปได้นี้เอย.....
ท่องจบ โฮมส์ก็ยังไม่เข้าใจ......ความคิดในสมองวุ่นวายสับสน งุนงงสงสัย ผมยังนึกไม่ออกเลยจริงๆ โฮมส์กล่าวขณะจ้องมองหน้าบอนด์ ว่า ดร.โหน่งจับชื่อรหัสอักษรมาวางเรียงกันถอดเป็นประโยคเหล่านี้เพื่ออะไรกัน หรือทั้งหมดนี่จะเป็น........
ใช่ ครับ....ถ้าคุณคิดเหมือนผม ทั้งหมดเป็นวาจาอมตะของคนเพียงคนเดียวครับ
ใครครับ!.... โฮมส์ออกอาการร้อนรน เสียววาบ!
บอนด์เงยหน้า เสียงแผ่วนุ่ม กระพริบตาทีหนึ่ง กี่โมงแล้วนี่ มันเหมือนเสียง ดร.โหน่ง ร้องเรียกให้เจ้าของคำพูดนี้ให้ช่วย ชัดเจนจนน่าขนลุกครับ!
วอเร็น วอเร็น บัฟเฟท! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!
ข้อความสุดท้ายที่ ดร.โหน่งเขียนถึงสมาคมฯ ทำไมไปเกี่ยวข้องกับ บัฟเฟท อันลือเลื่อง บอนด์ยังคิดไม่ออก เท่าที่คิดได้ประการเดียวซึ่งเป็นประการที่ทำให้รู้สึกกังวล เอ๊.....หรือว่า....หรือว่า
สมุดลับนั่นจะอยู่ที่เขา!
ไฟสปอร์ตเปิดพรึบ! กระชากอารมณ์คนทั้งสามกระตุกตื่นจากภวังค์ วอเร็น บัฟเฟท และ ดร.นิเวศน์ เดินเข้าห้องอย่างช้าๆ เพลง เจ้าพ่อเซี่ยงไห้ ดังขึ้นแบบไม่มีปี่ มีแต่ขลุ่ยกับขิมและซอ คุณหมอ โฮมส์ และบอนด์นั่งปากหวอ ฟังซาวด์แทรคภาษาจีน
ลองปัง.......ลองเลา.......mhmmmmmm
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑๔
โพสต์ที่ 20
บทที่ ๑๔
เสียงกร๊ดเฮลั่นทะลักเข้ามาในห้อง Grand Value ballroom ภราดรหกร้อยกว่าคนบรรดาแม่ยก พี่ยกน้องยก กิ๊กยก มากันเต็มห้อง วิ่งแย่งกันหาที่นั้งเพื่อมาฟังปรมาจารย์ทั้งสองถ่ายทอดสอนวิชาจากปากของพวกเขาเอง ที่ก้าวขึ้นเวที่คนแรกเป็นดร.นิเวศน์ รวยเงินรวยความรู้ ดูมาดเข้ม เหมือนขุนนางโบราณ กระฉับกระเฉงคล่องแคล่วว่องไว ทำให้คนที่เห็นรู้สึก active ไปด้วย เป็นคนที่คอยสแกนมุขของห้อง ถ้าไม่ขำจริง ดร.ไม่ยิ้ม ความนิ่งสยบทุกสิ่ง แต่ถ้า ดร.ฮาละก็ มุขนั้นเป็นอันผ่าน คร๊าบ กระผมเจ้านาย
บัฟเฟทก้าวขึ้นตาม ทำตัวสบายๆไม่ถือตัว เป็นกันเอง อบอุ่น ใจดี มนุษย์สัมพันธ์โดดเด่นกว่าวิชาความรู้ ดูแล้วประทับใจ ใครมีเบอร์บัฟเฟทเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ ข้างหลังได้ยินชัดไหม ขอเสียงห_น่_อ_ย ขอมือขวาด้วยครับ บัฟเฟททักทาย ทั้งห้องกว่าหกเจ็ดร้อย ถึงพันด้วยมั้ง ประตูปิดไม่ได้เลยนี่ ชูมือกันทุกคน มีส่วนร่วมเต็มที่!
บัฟเฟทกล่าวขึ้นต้นอย่างช้าๆ
ท่านประธานคณะกรรมการ ท่านกรรมการผู้จัดการ ท่านผู้บริหารสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ ท่านสมาชิก และท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ
พวกคุณคงรู้กัน ว่าเป็นประเพณีของผม ไม่ว่าไปพูดที่ไหนก็แล้วแต่ ผมไม่เคยแนะนำ ว่าหุ้นตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับราคาเป้าหมายและการชักชวนให้ซื้อขาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมจะพูดในวันนี้ เนื้อหาบางช่วงบางตอนอาจพาดพิงอย่างหมิ่นเหม่สะเทือนความรู้สึกสมาชิกภราดรบางคนได้ ผมจึงใคร่ขอให้ผู้ฟังถือว่าปาฐกถาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงของผู้ฟังเท่านั้น ส่วนสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนี้ที่ผู้ฟังอาจ ได้รับ คงต้องขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณในการฟังโดยรอบครอบก่อนตัดสินใจเป็นสำคัญ
เริ่มเลยนะครับ....ท่านเคยคิดหรือไม่ครับว่าในมุมมองของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า สัณฐานโลกทางธุรกิจกับโลกในทางรูปทรงเรขาคณิตอาจจะไม่ตรงกันครับ
อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีกซึ่งมีอายุอยู่กว่าสามร้อยกว่าปีก่อนคริสตร์กาล ได้เคยเขียนหนังสือไว้ว่าโลกมีสัณฐานกลม เนื่องจากท่านสังเกตว่าในช่วงที่มีจันทรคราสนั้นเงาของโลกที่พาดลงบนควงจันทร์ มีรูปลักษณะที่โค้งครับ
แต่ทฤษฎีนี้ก็มิได้มีผู้เชื่อกันทั้งหมดหรอกนะครับ.... ดังนั้น สมัยก่อนที่จะมีการพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าโลกมีทรงกลม การถกเถียงในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ผู้ที่คิดว่าโลกมีทรงแบนก็เตือนห้ามมิให้เดินทางล่องเรือไกลเกินไปเดี๋ยวจะไปตกขอบโลก
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นคนเดียวครับ.... ที่มีความเชื่อว่าโลกมีสันฐานกลม และในปี ค.ศ. 1492 ถ้าผมจำไม่ผิด.......โคลัมบัสก็ได้เดินเรือออกจากยุโรปไปทางทิศตะวันตก...แต่ไปอินเดียนะครับ! เพื่อพิสูจน์ว่าถ้าโลกกลมจริง อย่างไงเมื่อเดินเรือไปรอบโลกก็จะต้องเจอประเทศอินเดียจนได้ ตอนนั้นโคลัมบัสเชื่อมั่นอย่างนี้ครับ
ท่านผู้ฟังว่า โคลัมบัสไปถึงอินเดียไหมครับ......ไม่ถึงใช่ไหมครับ! ครับ! แต่เมื่อเขาข้_า_มมหาสมุทรอัตลันติกแล้ว โคลัมบัสได้พบทวีปอเมริกา ความที่เขาสับสนคิดว่าเจอประเทศอินเดียเข้าแล้ว เขาจึงได้เรียกคนท้องถิ่นที่นั่นว่า อินเดียน คนไทยฉลาดกว่าครับคงรู้ว่าเป็นอินเดียนคนละประเภทจึงเรียกพวกนี้ว่าอินเดียนแดง
นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า โคลัมบัสเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาคนแรก แต่ล่าสุดมีผู้อ้างว่าค้นพบแผนที่ซึ่งจัดทำจากต้นฉบับสมัยที่มีขันที เจิ้งเหอ ในสมัยราชวงศ์หมิง ขันทีผู้นี้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการเดินทางด้วยเรือสำเภาพาณิชย์ออกจากจีนไปยังประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อประมาณห้าร้อยปีก่อน และต่อเนื่องไปจนถึงชายฝั่งแอฟริกาด้านตะวันออก
ทีนี้นักประวัติศาสตร์ต้องยอมรับว่าขันทีเจิ้งเหอนั้นเดินทางไปถึงแอฟริกาจริงเพราะมีประวัติที่บันทึกไว้ว่าได้นำยีราฟกลับไปให้จักรพรรดิจีนดูเล่น แต่ผู้ที่อ้างว่าค้นพบแผนที่ซึ่งอ้างอิงถึงแผนที่ฉบับแรกที่จัดทำขึ้นโดยเจิ้งเหอนั้น ปรากฏว่าแผนที่ดังกล่าวมีทวีปอเมริกาวาดไว้ด้วย คนจีนเจ้าของแผนที่ดังกล่าวจึงประกาศทฤษฎีว่า ขันทีเจิ้งเหอน่าจะเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัส...... ยุ่งละครับทีนี้!
เรื่องใครเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนกันระหว่างโคลัมบัสและขันทีเจิ้งเหอคงจะต่อสู้และถกเถียงกันได้อีกนาน แต่ประเด็นว่าโลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีทรงกลมนั้นขณะนี้ไม่มีใครถกเถียงแล้ว
แต่มาวันนี้......ถ้าพิจารณาในแง่การแข่งขันทางธุรกิจข้ามชาติแล้วโลกของเรานับวันจะมีแต่แบนราบมากขึ้นมากขึ้น หลักข้อวิจารณ์นี้ก็คือ ในอดีตนั้นมีบางประเทศที่มีพลังอำนาจในการแข่งขันด้านการค้าสูงมากไม่ว่าจะเกิดจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือ ประเทศนั้นมีความได้เปรียบที่เกิดจากทรัพยากรธรรมชาติ หรือที่เกิดจากความรู้ทางเทคโนโลยี ความได้เปรียบเหล่านี้ถึงแม้ประเทศอื่น ๆ จะพยายามแข่งขันแต่ก็ไม่สามารถเ_อ_าชนะได้
ส่วนประเทศกำลังพัฒนานั้น มีลักษณะเป็นประเทศผู้ตามไม่มีโอกาสเข้ามาแข่งขันได้มากนัก ดังนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับโลกที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมแล้ว ประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีปัจจัยได้เปรียบคือผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่สูงส่วนบน ส่วนประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศที่ไม่มีปัจจัยได้เปรียบคือผู้ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำหรืออยู่ตามขอบรอบนอก แข่งขันอย่างไรก็ไม่อาจชนะประเทศที่อยู่ในพื้นที่สูงได้!
แต่มาวันนี้ครับ!......ความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ปัจจัยต่าง ๆ ที่เคยมีความสำคัญต่อการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศนั้น บัดนี้มีความสำคัญน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์เชื้อชาติ หรือการที่เป็นผู้ที่มีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการมากกว่า จึงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าเปรียบเทียบกับอดีต ปัจจุบันนี้ความ ได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันได้เปลี่ยนไปในทางที่อุปสรรคทางการค้าน้อยลง ในทางที่ประเทศต่าง ๆ สามารถแข่งขันกันโดยตรงได้มากขึ้น จนกระทั่งพูดได้ว่าโลกที่เดิมมีความสูงต่ำ.....บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นแบนลงแล้ว น่าสนใจไหมครับ!
ในด้านสินค้าประเภทอุตสาหกรรม เราเห็นประเทศกำลังพัฒนาที่เปิดตัวเข้าตลาดโลกเป็นครั้งแรก ที่สามารถผลิตสินค้าอุตสาหกรรมตีตลาดโลกแบบกว้างขวาง เป็นเช่นนี้มาแล้วหลายประเทศเป็นระลอก ๆ นับตั้งแต่ประเทศสหรัฐเมื่อ 70 ปีก่อน ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศเอเชียอื่น ๆ และปัจจุบันนี้ประเทศที่มีบทบาทสูงสุดก็คือ....
ประเทศจีน
ตัวอย่างแรกครับ ประเทศเม็กซิโกจะเห็นปัญหานี้ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่มีข้อตกลงทางการค้า NAFTA เม็กซิโกเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการส่งสินค้าขายแก่สหรัฐฯ มากที่สุดประเทศหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเทศทั้งหมดที่ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ เม็กซิโกพุ่งขึ้นเป็นประเทศอันดับสองรองจากแคนาดา ครองตำแหน่งนี้มาเป็นเวลาหนึ่ง
แต่แรงกดดันการแข่งขันกับประเทศจีนเริ่มส่งผลต่อสถานะของเม็กซิโกมากขึ้นมากขึ้น อาการเริ่มปรากฏชัดที่สุดตั้งแต่ปี 2001 ปีนั้นเป็นปีแรกที่ยอดส่งออกจากเม็กซิโกไปสหรัฐฯ ซึ่งเคยเพิ่มขึ้นทุกปีทุกปีมาเป็นเวลา 20 ปีก่อนหน้า กลับเริ่มลดลง และในปี 2003 ตำแหน่งประเทศอันดับสองที่ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ ก็ได้เปลี่ยนไปจากเม็กซิโกเป็นประเทศจีนครับ น่ากลัวไหมครับ!
ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของเม็กซิโกจากการที่อยู่ติดพรมแดนกับสหรัฐฯ และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้กลับหมดไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวอย่างที่สอง ในประเทศอียิปต์จะมีตะเกียงที่ใช้ในช่วงถือศีลอด รามาดอน ซึ่งเด็ก ๆ จะจุดตะเกียงเหล่านี้แล้วเดินไปตามบ้าน แกว่งตะเกียงไปมา เดินไปร้องเพลงไป และผู้คนต่าง ๆตามบ้านก็จะให้ขนมและของขวัญแก่เด็ก ๆ
ตะเกียงนี้เดิมเป็นงานอุตสาหกรรมพื้นบ้านในอียิปต์ทำกันในโรงงานเล็กๆ ที่ค่าแรงต่ำ และทำมาแล้วเป็นเวลาร้อย ๆ ปีด้วยครับ เป็นร้อยปีนะครับ ไม่ใช่พึ่งทำแต่มาวันหนึ่งมีผู้นำเข้าตะเกียงจากประเทศจีน ตะเกียงจีนไม่ใช้เทียนไขครับ แต่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยกว่าแล้วยังทำจากพลาสติกจึงมีน้ำหนักเบาและลดปัญหามุมแหลมคมจากเดิมที่ใช้วัสดุกระจกและโลหะ ปัจจุบันตะเกียงจากจีนครองตลาดกว่าร้อยละ 95 ในอียิปต์ครับ!
ตัวอย่างที่สาม คือการเติบโตของธุรกิจที่เกิดจากเทคโนโลยี ซึ่งรวมทั้ง call center ที่เบ่งบานมาที่อินเดียไปจนถึงการเข้าไปร่วมในขบวนการ supply chain ที่ขายสินค้าหรือบริการแก่บริษัทขนาดใหญ่ของโลก
กรณีที่อินเดีย ธุรกิจ call center เขาจะขอให้พนักงานแต่ละคนตั้งชื่อตัวเองเป็นคนท้องถิ่น เช่น เป็นชื่ออเมริกันหรือเป็นชื่ออังกฤษ เขาจะมีคนมาสอนดัดแปลงสำเนียง สอนวิธีการพูดที่มีคำแสลงต่าง ๆ เพื่อมิให้ลูกค้าทราบได้เลยว่าคนที่เปิดจอคอมพิวเตอร์ดูบัญชีส่วนตัวของลูกค้า และให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้นอยู่ฟากโลกคนละ time zone อย่างสิ้นเชิง
หรือกรณีที่สหรัฐฯ เองนะครับ ทุกครั้งที่ลูกค้าใน Walmart หิ้วสินค้าไปที่ check out และผ่าน scanner ผู้ผลิตในจีนจะได้ข้อมูลนี้ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ด้วยในเวลาเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ของ Walmart ได้ข้อมูลนี้ ซึ่งเอื้ออำนวยให้ผู้ผลิตในจีนสามารถวางแผนให้สามารถเตรียมสินค้าเพื่อส่งให้แก่ร้านค้าปลีกได้อย่างไม่ขาดสาย น่าทึ่งไหมครับ!
หรืออีกกรณีหนึ่ง....เออ.... เหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ผมนึกออกละสมมุติวันหนึ่ง เหนือน่านฟ้าประเทศไทย เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งถูกฟ้าผ่าที่เครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์เริ่มขัดข้อง ในอดีตขบวนการซ่อมบำรุงจะเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อเครื่องบินลงจอดที่ดอนเมืองเสียก่อน และวิศกรจะต้องตรวจสอบทำการสั่งซื้ออุปกรณ์ เครื่องบินจะไม่สามารถใช้งานไปหลายวัน ต้องรอจนกว่าอุปกรณ์จะมาถึง
แต่สมัยนี้บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์จะมีคอมพิวเตอร์ชิพที่ฝังไว้ในระบบเครื่องยนต์และจะสามารถติดตามสภาวะของเครื่องยนต์แต่ละเครื่องได้ตลอดเวลาผ่านการสื่อสารทางดาวเทียม ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตเครื่องจะสามารถแจ้งปัญหาไปให้แก่สายการบินแต่เนิ่น ๆ และสามารถประสานงานเพื่อส่งอุปกรณ์มาจากสิงค์โปร์แต่เนิ่น ๆ เพื่อจะทำให้เวลาซ่อมแซม เวลา down time สั้นลงอย่างมาก
เฮ้อ......เป็นไงครับ......ฟังแล้ว......อะไรนะครับ......ฟังแล้วจะหลับ..อย่าพึ่งหลับครับ! คำถามครับ........ถามว่า การที่โลกแบนลงในเชิงธุรกิจเช่นนี้ นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจะต้องปรับตัวอย่างไร???.....
ใครมีความคิดเห็นอย่างไงเชิญเลยนะครับ อ้าว คุณพี่ผู้ชายแถวหน้านี่ คุณโฮมส์ ใช่ไหมครับ โผล่มาได้อย่างไงครับ เป็นสมาชิกเหมือนกันหรือครับ อ้าว ผมพึ่งรู้ เชอร์ล็อค โฮมส์ ก็เป็น VI กับเขาด้วยหรือนี่.......แถวสามครับ ทั้งแถวเลยครับ ใส่เสื้อของ thaivi เด่นเป็นสง่า พี่ผู้ชายคนนั้นครับ ผมสังเกตจากข้างบนนี้ตั้งนานแล้ว คิดว่าต้องไม่ใช่สมาชิกธรรมดาแน่ ๆ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเซียนใน Thaivi แน่นอน หนึ่งในนั้นน่าจะมี คุณเจ๋ง คุณสุมาอี้ ถ้าผิดก็ขออภัยด้วย ถัดมาเสื้อน้ำเงินเข้ม น่าจะเป็น คุณธันวา ถัดมาเสื้อม่วง เป็นคุณวิบูลย์ สุดแถวขวามือ เสื้อน้ำเงินเหมือนกัน คือท่านประธานมน มันนี่ ใช่ไหมครับ! หรือจะเป็นท่านอื่นที่มีความคิดเห็นอย่างไรก็เชิญข้างบนเลยครับ!
เชิญบนนี้เลยครับ.....ขอไมค์พี่เขาด้วยครับ......เชิญครับ
เสียงกร๊ดเฮลั่นทะลักเข้ามาในห้อง Grand Value ballroom ภราดรหกร้อยกว่าคนบรรดาแม่ยก พี่ยกน้องยก กิ๊กยก มากันเต็มห้อง วิ่งแย่งกันหาที่นั้งเพื่อมาฟังปรมาจารย์ทั้งสองถ่ายทอดสอนวิชาจากปากของพวกเขาเอง ที่ก้าวขึ้นเวที่คนแรกเป็นดร.นิเวศน์ รวยเงินรวยความรู้ ดูมาดเข้ม เหมือนขุนนางโบราณ กระฉับกระเฉงคล่องแคล่วว่องไว ทำให้คนที่เห็นรู้สึก active ไปด้วย เป็นคนที่คอยสแกนมุขของห้อง ถ้าไม่ขำจริง ดร.ไม่ยิ้ม ความนิ่งสยบทุกสิ่ง แต่ถ้า ดร.ฮาละก็ มุขนั้นเป็นอันผ่าน คร๊าบ กระผมเจ้านาย
บัฟเฟทก้าวขึ้นตาม ทำตัวสบายๆไม่ถือตัว เป็นกันเอง อบอุ่น ใจดี มนุษย์สัมพันธ์โดดเด่นกว่าวิชาความรู้ ดูแล้วประทับใจ ใครมีเบอร์บัฟเฟทเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ ข้างหลังได้ยินชัดไหม ขอเสียงห_น่_อ_ย ขอมือขวาด้วยครับ บัฟเฟททักทาย ทั้งห้องกว่าหกเจ็ดร้อย ถึงพันด้วยมั้ง ประตูปิดไม่ได้เลยนี่ ชูมือกันทุกคน มีส่วนร่วมเต็มที่!
บัฟเฟทกล่าวขึ้นต้นอย่างช้าๆ
ท่านประธานคณะกรรมการ ท่านกรรมการผู้จัดการ ท่านผู้บริหารสมาคมไทยแวลูอินเวสเตอร์ ท่านสมาชิก และท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ
พวกคุณคงรู้กัน ว่าเป็นประเพณีของผม ไม่ว่าไปพูดที่ไหนก็แล้วแต่ ผมไม่เคยแนะนำ ว่าหุ้นตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับราคาเป้าหมายและการชักชวนให้ซื้อขาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมจะพูดในวันนี้ เนื้อหาบางช่วงบางตอนอาจพาดพิงอย่างหมิ่นเหม่สะเทือนความรู้สึกสมาชิกภราดรบางคนได้ ผมจึงใคร่ขอให้ผู้ฟังถือว่าปาฐกถาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงของผู้ฟังเท่านั้น ส่วนสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนี้ที่ผู้ฟังอาจ ได้รับ คงต้องขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณในการฟังโดยรอบครอบก่อนตัดสินใจเป็นสำคัญ
เริ่มเลยนะครับ....ท่านเคยคิดหรือไม่ครับว่าในมุมมองของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า สัณฐานโลกทางธุรกิจกับโลกในทางรูปทรงเรขาคณิตอาจจะไม่ตรงกันครับ
อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีกซึ่งมีอายุอยู่กว่าสามร้อยกว่าปีก่อนคริสตร์กาล ได้เคยเขียนหนังสือไว้ว่าโลกมีสัณฐานกลม เนื่องจากท่านสังเกตว่าในช่วงที่มีจันทรคราสนั้นเงาของโลกที่พาดลงบนควงจันทร์ มีรูปลักษณะที่โค้งครับ
แต่ทฤษฎีนี้ก็มิได้มีผู้เชื่อกันทั้งหมดหรอกนะครับ.... ดังนั้น สมัยก่อนที่จะมีการพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าโลกมีทรงกลม การถกเถียงในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ผู้ที่คิดว่าโลกมีทรงแบนก็เตือนห้ามมิให้เดินทางล่องเรือไกลเกินไปเดี๋ยวจะไปตกขอบโลก
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นคนเดียวครับ.... ที่มีความเชื่อว่าโลกมีสันฐานกลม และในปี ค.ศ. 1492 ถ้าผมจำไม่ผิด.......โคลัมบัสก็ได้เดินเรือออกจากยุโรปไปทางทิศตะวันตก...แต่ไปอินเดียนะครับ! เพื่อพิสูจน์ว่าถ้าโลกกลมจริง อย่างไงเมื่อเดินเรือไปรอบโลกก็จะต้องเจอประเทศอินเดียจนได้ ตอนนั้นโคลัมบัสเชื่อมั่นอย่างนี้ครับ
ท่านผู้ฟังว่า โคลัมบัสไปถึงอินเดียไหมครับ......ไม่ถึงใช่ไหมครับ! ครับ! แต่เมื่อเขาข้_า_มมหาสมุทรอัตลันติกแล้ว โคลัมบัสได้พบทวีปอเมริกา ความที่เขาสับสนคิดว่าเจอประเทศอินเดียเข้าแล้ว เขาจึงได้เรียกคนท้องถิ่นที่นั่นว่า อินเดียน คนไทยฉลาดกว่าครับคงรู้ว่าเป็นอินเดียนคนละประเภทจึงเรียกพวกนี้ว่าอินเดียนแดง
นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า โคลัมบัสเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาคนแรก แต่ล่าสุดมีผู้อ้างว่าค้นพบแผนที่ซึ่งจัดทำจากต้นฉบับสมัยที่มีขันที เจิ้งเหอ ในสมัยราชวงศ์หมิง ขันทีผู้นี้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการเดินทางด้วยเรือสำเภาพาณิชย์ออกจากจีนไปยังประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อประมาณห้าร้อยปีก่อน และต่อเนื่องไปจนถึงชายฝั่งแอฟริกาด้านตะวันออก
ทีนี้นักประวัติศาสตร์ต้องยอมรับว่าขันทีเจิ้งเหอนั้นเดินทางไปถึงแอฟริกาจริงเพราะมีประวัติที่บันทึกไว้ว่าได้นำยีราฟกลับไปให้จักรพรรดิจีนดูเล่น แต่ผู้ที่อ้างว่าค้นพบแผนที่ซึ่งอ้างอิงถึงแผนที่ฉบับแรกที่จัดทำขึ้นโดยเจิ้งเหอนั้น ปรากฏว่าแผนที่ดังกล่าวมีทวีปอเมริกาวาดไว้ด้วย คนจีนเจ้าของแผนที่ดังกล่าวจึงประกาศทฤษฎีว่า ขันทีเจิ้งเหอน่าจะเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัส...... ยุ่งละครับทีนี้!
เรื่องใครเป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนกันระหว่างโคลัมบัสและขันทีเจิ้งเหอคงจะต่อสู้และถกเถียงกันได้อีกนาน แต่ประเด็นว่าโลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีทรงกลมนั้นขณะนี้ไม่มีใครถกเถียงแล้ว
แต่มาวันนี้......ถ้าพิจารณาในแง่การแข่งขันทางธุรกิจข้ามชาติแล้วโลกของเรานับวันจะมีแต่แบนราบมากขึ้นมากขึ้น หลักข้อวิจารณ์นี้ก็คือ ในอดีตนั้นมีบางประเทศที่มีพลังอำนาจในการแข่งขันด้านการค้าสูงมากไม่ว่าจะเกิดจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือ ประเทศนั้นมีความได้เปรียบที่เกิดจากทรัพยากรธรรมชาติ หรือที่เกิดจากความรู้ทางเทคโนโลยี ความได้เปรียบเหล่านี้ถึงแม้ประเทศอื่น ๆ จะพยายามแข่งขันแต่ก็ไม่สามารถเ_อ_าชนะได้
ส่วนประเทศกำลังพัฒนานั้น มีลักษณะเป็นประเทศผู้ตามไม่มีโอกาสเข้ามาแข่งขันได้มากนัก ดังนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับโลกที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมแล้ว ประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่มีปัจจัยได้เปรียบคือผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่สูงส่วนบน ส่วนประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศที่ไม่มีปัจจัยได้เปรียบคือผู้ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำหรืออยู่ตามขอบรอบนอก แข่งขันอย่างไรก็ไม่อาจชนะประเทศที่อยู่ในพื้นที่สูงได้!
แต่มาวันนี้ครับ!......ความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ปัจจัยต่าง ๆ ที่เคยมีความสำคัญต่อการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศนั้น บัดนี้มีความสำคัญน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์เชื้อชาติ หรือการที่เป็นผู้ที่มีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการมากกว่า จึงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าเปรียบเทียบกับอดีต ปัจจุบันนี้ความ ได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันได้เปลี่ยนไปในทางที่อุปสรรคทางการค้าน้อยลง ในทางที่ประเทศต่าง ๆ สามารถแข่งขันกันโดยตรงได้มากขึ้น จนกระทั่งพูดได้ว่าโลกที่เดิมมีความสูงต่ำ.....บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นแบนลงแล้ว น่าสนใจไหมครับ!
ในด้านสินค้าประเภทอุตสาหกรรม เราเห็นประเทศกำลังพัฒนาที่เปิดตัวเข้าตลาดโลกเป็นครั้งแรก ที่สามารถผลิตสินค้าอุตสาหกรรมตีตลาดโลกแบบกว้างขวาง เป็นเช่นนี้มาแล้วหลายประเทศเป็นระลอก ๆ นับตั้งแต่ประเทศสหรัฐเมื่อ 70 ปีก่อน ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศเอเชียอื่น ๆ และปัจจุบันนี้ประเทศที่มีบทบาทสูงสุดก็คือ....
ประเทศจีน
ตัวอย่างแรกครับ ประเทศเม็กซิโกจะเห็นปัญหานี้ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่มีข้อตกลงทางการค้า NAFTA เม็กซิโกเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการส่งสินค้าขายแก่สหรัฐฯ มากที่สุดประเทศหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเทศทั้งหมดที่ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ เม็กซิโกพุ่งขึ้นเป็นประเทศอันดับสองรองจากแคนาดา ครองตำแหน่งนี้มาเป็นเวลาหนึ่ง
แต่แรงกดดันการแข่งขันกับประเทศจีนเริ่มส่งผลต่อสถานะของเม็กซิโกมากขึ้นมากขึ้น อาการเริ่มปรากฏชัดที่สุดตั้งแต่ปี 2001 ปีนั้นเป็นปีแรกที่ยอดส่งออกจากเม็กซิโกไปสหรัฐฯ ซึ่งเคยเพิ่มขึ้นทุกปีทุกปีมาเป็นเวลา 20 ปีก่อนหน้า กลับเริ่มลดลง และในปี 2003 ตำแหน่งประเทศอันดับสองที่ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ ก็ได้เปลี่ยนไปจากเม็กซิโกเป็นประเทศจีนครับ น่ากลัวไหมครับ!
ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของเม็กซิโกจากการที่อยู่ติดพรมแดนกับสหรัฐฯ และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้กลับหมดไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวอย่างที่สอง ในประเทศอียิปต์จะมีตะเกียงที่ใช้ในช่วงถือศีลอด รามาดอน ซึ่งเด็ก ๆ จะจุดตะเกียงเหล่านี้แล้วเดินไปตามบ้าน แกว่งตะเกียงไปมา เดินไปร้องเพลงไป และผู้คนต่าง ๆตามบ้านก็จะให้ขนมและของขวัญแก่เด็ก ๆ
ตะเกียงนี้เดิมเป็นงานอุตสาหกรรมพื้นบ้านในอียิปต์ทำกันในโรงงานเล็กๆ ที่ค่าแรงต่ำ และทำมาแล้วเป็นเวลาร้อย ๆ ปีด้วยครับ เป็นร้อยปีนะครับ ไม่ใช่พึ่งทำแต่มาวันหนึ่งมีผู้นำเข้าตะเกียงจากประเทศจีน ตะเกียงจีนไม่ใช้เทียนไขครับ แต่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยกว่าแล้วยังทำจากพลาสติกจึงมีน้ำหนักเบาและลดปัญหามุมแหลมคมจากเดิมที่ใช้วัสดุกระจกและโลหะ ปัจจุบันตะเกียงจากจีนครองตลาดกว่าร้อยละ 95 ในอียิปต์ครับ!
ตัวอย่างที่สาม คือการเติบโตของธุรกิจที่เกิดจากเทคโนโลยี ซึ่งรวมทั้ง call center ที่เบ่งบานมาที่อินเดียไปจนถึงการเข้าไปร่วมในขบวนการ supply chain ที่ขายสินค้าหรือบริการแก่บริษัทขนาดใหญ่ของโลก
กรณีที่อินเดีย ธุรกิจ call center เขาจะขอให้พนักงานแต่ละคนตั้งชื่อตัวเองเป็นคนท้องถิ่น เช่น เป็นชื่ออเมริกันหรือเป็นชื่ออังกฤษ เขาจะมีคนมาสอนดัดแปลงสำเนียง สอนวิธีการพูดที่มีคำแสลงต่าง ๆ เพื่อมิให้ลูกค้าทราบได้เลยว่าคนที่เปิดจอคอมพิวเตอร์ดูบัญชีส่วนตัวของลูกค้า และให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้นอยู่ฟากโลกคนละ time zone อย่างสิ้นเชิง
หรือกรณีที่สหรัฐฯ เองนะครับ ทุกครั้งที่ลูกค้าใน Walmart หิ้วสินค้าไปที่ check out และผ่าน scanner ผู้ผลิตในจีนจะได้ข้อมูลนี้ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ด้วยในเวลาเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ของ Walmart ได้ข้อมูลนี้ ซึ่งเอื้ออำนวยให้ผู้ผลิตในจีนสามารถวางแผนให้สามารถเตรียมสินค้าเพื่อส่งให้แก่ร้านค้าปลีกได้อย่างไม่ขาดสาย น่าทึ่งไหมครับ!
หรืออีกกรณีหนึ่ง....เออ.... เหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ผมนึกออกละสมมุติวันหนึ่ง เหนือน่านฟ้าประเทศไทย เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งถูกฟ้าผ่าที่เครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์เริ่มขัดข้อง ในอดีตขบวนการซ่อมบำรุงจะเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อเครื่องบินลงจอดที่ดอนเมืองเสียก่อน และวิศกรจะต้องตรวจสอบทำการสั่งซื้ออุปกรณ์ เครื่องบินจะไม่สามารถใช้งานไปหลายวัน ต้องรอจนกว่าอุปกรณ์จะมาถึง
แต่สมัยนี้บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์จะมีคอมพิวเตอร์ชิพที่ฝังไว้ในระบบเครื่องยนต์และจะสามารถติดตามสภาวะของเครื่องยนต์แต่ละเครื่องได้ตลอดเวลาผ่านการสื่อสารทางดาวเทียม ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตเครื่องจะสามารถแจ้งปัญหาไปให้แก่สายการบินแต่เนิ่น ๆ และสามารถประสานงานเพื่อส่งอุปกรณ์มาจากสิงค์โปร์แต่เนิ่น ๆ เพื่อจะทำให้เวลาซ่อมแซม เวลา down time สั้นลงอย่างมาก
เฮ้อ......เป็นไงครับ......ฟังแล้ว......อะไรนะครับ......ฟังแล้วจะหลับ..อย่าพึ่งหลับครับ! คำถามครับ........ถามว่า การที่โลกแบนลงในเชิงธุรกิจเช่นนี้ นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจะต้องปรับตัวอย่างไร???.....
ใครมีความคิดเห็นอย่างไงเชิญเลยนะครับ อ้าว คุณพี่ผู้ชายแถวหน้านี่ คุณโฮมส์ ใช่ไหมครับ โผล่มาได้อย่างไงครับ เป็นสมาชิกเหมือนกันหรือครับ อ้าว ผมพึ่งรู้ เชอร์ล็อค โฮมส์ ก็เป็น VI กับเขาด้วยหรือนี่.......แถวสามครับ ทั้งแถวเลยครับ ใส่เสื้อของ thaivi เด่นเป็นสง่า พี่ผู้ชายคนนั้นครับ ผมสังเกตจากข้างบนนี้ตั้งนานแล้ว คิดว่าต้องไม่ใช่สมาชิกธรรมดาแน่ ๆ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเซียนใน Thaivi แน่นอน หนึ่งในนั้นน่าจะมี คุณเจ๋ง คุณสุมาอี้ ถ้าผิดก็ขออภัยด้วย ถัดมาเสื้อน้ำเงินเข้ม น่าจะเป็น คุณธันวา ถัดมาเสื้อม่วง เป็นคุณวิบูลย์ สุดแถวขวามือ เสื้อน้ำเงินเหมือนกัน คือท่านประธานมน มันนี่ ใช่ไหมครับ! หรือจะเป็นท่านอื่นที่มีความคิดเห็นอย่างไรก็เชิญข้างบนเลยครับ!
เชิญบนนี้เลยครับ.....ขอไมค์พี่เขาด้วยครับ......เชิญครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor บทที่ ๑๕
โพสต์ที่ 21
บทที่ 15
อ้า แหม! ......ไม่มีใครขึ้นมาเลยครับ ........
อย่าง BERKSHIRE HATHAWAY เอง เราเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน .........เพื่อฉกฉวยโอกาสในการขยายบทบาทใหม่ๆเมื่อปีที่แล้วครับ...... BERKSHIRE ลดการลงทุนในเงินสกุลตราต่างประเทศกว่า 20000 ล้านดอลลาร์ เราหันไปซื้อหุ้นในต่างประเทศมากขึ้น เราจำเป็นที่ต้องลงทุนในบริษัทและหลักทรัพย์ต่างชาติเพิ่มความหลากหลายของรายได้ของ BERKSHIRE และ เพื่อป้องกันการเจ็บตัวหากค่าดอลล์ทรุดตัวกระทันหัน ดอลลาร์จะอ่อนหนักไปอีก นั่นเป็นความเชื่อส่วนตัวผม ผมยังคงมีมุมมองในแง่ลบต่อนโยบายงบประมาณของรัฐบาลประธานาธิบดี บุช และการเก็งกำไรอย่างเห็นได้ชัดในตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์
ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น..... มีธุรกิจที่โดดเด่นที่ผมสนใจเป็นจำนวนมาก อัตราดอกเบี้ยในญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำมากครับ แต่เสียดายครับ บริษัทในญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากจะขายหุ้นให้ต่างชาติเลยครับ ผมเคยเจรจากับบริษัทรายหนึ่งเมื่อปลายปี ขอไม่เอ๋ยชื่อนะครับ! แต่ไม่ประสบความสำเร็จครับ ผมหวังว่า.......หวังว่าสักวันครับที่ผมจะซื้อกิจการในญี่ปุ่นแบบเหมาบริษัทได้ ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนผมแวะมาเมืองไทย ผมได้เข้าไปซื้อหุ้น 80% ในบริษัทอิสคาร์ เมทัลเวร์กกิง ผู้ผลิตเครื่องมือตัดโลหะของอิสราเอล
การปรับตัวเหล่านี้ของ BERKSHIRE จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ไม่ว่าในเชิงรับหรือในเชิงรุกให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดโดยมีต้นทุนที่ต่ำที่สุดครับ
การที่โลกธุรกิจมีลักษณะแบนลงก่อให้เกิดทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อแนวทางการคิดและหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ เราจะปรับตัวอย่างไรดีครับ ในมุมมองส่วนตัวของผม
คิดให้แตกต่างครับ
การเริ่มการศึกษาของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า กี่ปีกี่ปี ก็ยังยึดแนวทางจากการวิเคราะห์เหมือนธุรกิจเป็นหลัก เป็นตัวนำ มันไม่สนุกครับ วัฒนธรรมการคิดนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ทั้งที่โดยเนื้อแท้แล้ว การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเดินทางมาไกลมาก ถึงจุดที่สมควรจะต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมทางความคิด
เรียกว่า "แหก" กฏเดิม ๆ ออกมาสู่โลกเน้นคุณค่าใน generation ที่ 2 ได้แล้ว
ผมเห็นว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษนั่นคือ วิธีที่คนจะบรรลุความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับเน้นคุณค่าคือ ความรอบรู้เกี่ยวกับมนุษย์โลกครับ น้อยรายจะใช้ความรอบรู้นี้เป็นตัวนำในการออกสตาร์ท เวลาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถ้าวิชาน่าสนใจ น่าดู คนเรียนจะจำได้ แต่เรื่องความน่าเชื่อถือ ในสิ่งที่อยากบอก สิ่งที่คน หรือกลุ่มผู้รับสารได้เห็น มันเป็นคนละเรื่องกันนะครับ ชอบแต่ไม่เชื่อ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร นอกจากเสียเวลาไปโดยไม่เกิดประโยชน์
ทั้งที่การสร้างนักลงทุนเน้นคุณค่าแบรนด์ใหม่ที่เชี่ยวชาญสักหนึ่งคนไม่ใช่ของง่าย การใช้กลยุทธ์การจับเอาตัวเลขต่างๆไปใส่ในหัวของคนที่เริ่มนับหนึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ควรคิดใหม่ การอ้างถึงตัวเลขไม่สามารถสร้างความเข้าใจถึงการเน้นคุณค่าเท่าที่ควร เนื่องด้วยการวิเคราะห์เหล่านั้นเป็นการสื่อสารทางเดียวเพื่อเป้าหมายหลัก คือต้องการหา มูลค่าของธุรกิจ หรือ ราคาหุ้นในตลาดเท่านั้น
โดยเนื้อแท้คือ การหา มูลค่าของธุรกิจ หรือ ราคาหุ้น เป็นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งควรจะกระทำ เมื่อ วิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขต่างๆ บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว การตอกย้ำด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับมนุษย์โลก จะช่วยตอกย้ำการยอมรับ และความเข้าใจของการเน้นคุณค่า ให้ความรู้ที่ต้องการให้จดจำอยู่ในใจของคนที่เรียนรู้ใหม่อย่างยั่งยืน ไม่ใช่ประเภทมา "ตูมเดียวหาย"
ความรอบรู้ไม่ควรถูกเริ่มสะท้อนจากการรวบรวมและอ้างถึงตัวเลข ความรอบรู้เป็นเรื่องของวิธีการที่ข้อเท็จจริงหลายๆอย่างเข้ามาประสานและรวมกันมากกว่า มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ถ้าทำให้เหมาะสม และถูกจังหวะ จะสร้างการรับรู้ได้ดี สามารถเสริมการรับรู้ ทำให้สามารถเข้าใจได้ดีกว่า ผมเชื่อว่าวิธีเดียวที่จะได้ความรู้หรือภูมิปัญญาก็คือการที่สามารถแขวนประสบการณ์ชีวิตตัดผ่านทางขวางกับตัวแบบทางด้านจิตใจ ทุกคนควรจะมีตัวแบบในหัวและต้องจัดเรื่องประสบการณ์ ทั้งที่เป็นตัวแทนและโดยตรงบนโครงข่ายของตัวแบบนี้
กฏข้อแรกที่เรียนก็คือ คนที่เริ่มเรียนรู้ใหม่ต้องมีตัวแบบหลายๆตัวแบบในใจ ไม่เพียงแต่ท่านเหล่านั้นจะต้องมีตัวแบบมากพอสมควร แต่คุณจำเป็นที่จะต้องยึดเอาตัวแบบจากหลายๆสาขาวิชาด้วยการที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัยความคิดที่ผสมผสานจากหลายๆสาขาวิชา
แนวทางนั้นจะทำให้คุณอยู่ในจุดที่แตกต่างจากคนอื่นเกือบทุกคน ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าโลกไม่ได้ประกอบด้วยคนที่เรียนรู้หลายสาขาวิชา ศาสตราจารย์ทางด้านธุรกิจ โดยปกติจะไม่รวมวิชาฟิสิกส์ในเล็กเชอร์ของเขา และอาจารย์ฟิสิกส์ไม่พูดเกี่ยวกับชีววิทยา และครูชีววิทยาไม่รวมคณิตศาสตร์ และศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์ไม่สอนวิชาจิตวิทยา คุณจะไม่มีความพอใจกับการลงทุนจนกว่าคุณจะเข้าใจตัวแบบของพฤติกรรมซึ่งมาจากวิชาจิตวิทยา คุณจะไม่รู้วิธีสร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ได้เรียนตัวแบบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางสถิติ
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาใดวิชาหนึ่ง ทั้งหมดที่จะต้องทำคือการเลือกเอาความคิดที่หลักๆจริงๆ และเรียนรู้มันตั้งแต่เนิ่นๆ และเรียนรู้ให้ดี สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่เป็นไปได้เมื่อตัวแบบหลายๆตัวแบบมารวมกันและเริ่มทำงานในทิศทางเดียวกัน คณิตศาสตร์พื้นฐาน สามัญสำนึกพื้นฐาน ความกลัวพื้นฐาน การวิเคราะห์ธรรมชาติของมนุษย์พื้นฐานที่ทำให้สามารถคาดการณ์พฤติกรรมมนุษย์ได้ ถ้าคุณเพียงแต่ทำสิ่งนั้นด้วยวินัยพอสมควร ผมคิดว่าเราน่าจะได้นักลงทุนเน้นคุณค่าที่มีมุมมองที่แตกต่างและสร้างสรรค์อีกคนหนึ่ง ผลที่ออกมาน่าจะค่อนข้างดี
การคิดแบบเน้นคุณค่ามันเหมือนกับภาพเขียนครับ ที่ทุกวันนี้การใช้ประโยชน์ น้อยลงไป เมื่อเทียบกับการใช้ประโยชน์ของภาพเขียนเบื้องต้น คือการเล่าเรื่องหรือบันทึกสิ่งที่ได้เห็น หลังจากมีการถ่ายภาพเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่า "ภาพเขียน" จะมีความสำคัญน้อยลงไปก็หาไม่ แต่กลายเป็น "ศิลปะ"
ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเป็น "ศิลปะ" แล้วการเน้นคุณค่าจะด้อยคุณค่าในตัวเอง การมองอะไรให้เป็น "ศิลปะ" มันเป็นเรื่องของต่างคนต่างมอง เพียงแค่อยากบอกว่าเมื่อการใช้ประโยชน์ กลายเป็น "ศิลปะ" คุณค่าของการใช้ประโยชน์ก็น้อยลงไปตามลำดับ รวมทั้งการประเมินความสามารถในการใช้งานให้บรรลุเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้เช่นกัน
ตอนที่โทมัส เอดิสัน ทำหลอดไฟขึ้นมาให้โลกใช้ แทนเทียนไข ประโยชน์ของเทียนไขคือ เป็นตัวให้แสงสว่างด้อยลงทันที แต่คุณค่าความเป็น"ศิลปะ" มิได้สูญหายไปเลย กลับเพิ่มมากขึ้น งานเลี้ยงหรู ๆ จะไม่ครบเครื่องถ้าไม่มีการจุดเทียนหรู เพื่อเป็นองค์ประกอบ เทียนบางเล่มราคาแพงเกือบ 1,000 บาท พูดเป็นเล่นไป
คุณประโยชน์ของเทียนไม่มีใครสนใจแล้วครับว่าจะให้แสงสว่างมากน้อยเท่าไร เพราะ "เทียน" กลายเป็น "ศิลปะ" ที่มีความหมาย และคุณค่ามากกว่า "ความสว่าง" ซึ่งเป็นประโยชน์เบื้องต้นของเทียนไปแล้ว
ศิลปะ" ทุกรูปแบบจะเป็นที่หลงไหล ชื่นชมในหมู่คนที่เข้าถึงความเป็น ศิลปะ มุมมองและข้อโต้แย้งถึง "องค์ประกอบ" ของ "ศิลปะ" ถ้าจะให้โต้แย้งกันพูดกันทั้งวันก็ไม่จบ เพราะการวัดคุณค่าจาก "ศิลปะ" มันสูงเกินกว่าจะวัดค่าออกมาได้
นักลงทุนเน้นคุณค่า จะมีเหตุผลด้านอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นอันมากในการป้องกันแนวความคิดของเขาบนพื้นฐานของการเพิ่มพูน "คุณค่า" ของพอร์ตโฟลิโอ หรือสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับหุ้นนั้นๆ เพื่อโน้มน้าวความเชื่อมั่น และกระตุ้นต่อยอดความคิด ในหลายกรณี เป็นวิธีการที่ถูกต้อง แต่วัดคุณค่ายากมาก เพราะการเน้นคุณค่าเป็น "ศิลปะ" ทำให้การสื่อความถึงคุณประโยชน์ไม่ตรงประเด็น
ความจริงอันเจ็บปวดที่เกิดขึ้นคือ คนเน้นคุณค่าใช้เวลา และทรัพยากรอย่างเต็มที่ กระบวนการสร้างหล่อหลอมความคิดซึ่งในหลายกรณีมีความเชี่ยวชาญ ยังไม่ตกผลึกพอที่จะสู้ในสงครามตลาดหุ้นต่างประเทศแบบทั้งรุกและตั้งรับ
และอีกไม่ช้าคงได้เห็นกัน นักลงทุนเน้นคุณค่าไทยจะริเริ่มการเชื่อมโยงกับต่างประเทศเพื่อปูพื้นสามารถที่ขยายเครือข่ายทางการลงทุนไปยังประเทศภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งปูพื้นเตรียมไว้สำหรับอนาคตที่ประเทศในภูมิภาคจะมีฐานะทางเศรษฐกิจการเงินที่สามารถอนุญาตเปิดให้มีการนำเงินออมในแต่ละประเทศออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนแบบ portfolio ในภูมิภาค
ในโลกธุรกิจที่มีสภาพแบนมากขึ้นมากขึ้นนั้น นักลงทุนเน้นคุณค่าจำเป็นจะต้องวางแผนปรับตัวแต่เนิ่น ๆ ครับ เพราะสำหรับความรู้ที่ไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพในการลงทุนนั้นในโลกที่แบนราบ จะไม่มีสถานที่จะใช้หลบกำบังได้อีกต่อไป
ขอบคุณครับ
อ้า แหม! ......ไม่มีใครขึ้นมาเลยครับ ........
อย่าง BERKSHIRE HATHAWAY เอง เราเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน .........เพื่อฉกฉวยโอกาสในการขยายบทบาทใหม่ๆเมื่อปีที่แล้วครับ...... BERKSHIRE ลดการลงทุนในเงินสกุลตราต่างประเทศกว่า 20000 ล้านดอลลาร์ เราหันไปซื้อหุ้นในต่างประเทศมากขึ้น เราจำเป็นที่ต้องลงทุนในบริษัทและหลักทรัพย์ต่างชาติเพิ่มความหลากหลายของรายได้ของ BERKSHIRE และ เพื่อป้องกันการเจ็บตัวหากค่าดอลล์ทรุดตัวกระทันหัน ดอลลาร์จะอ่อนหนักไปอีก นั่นเป็นความเชื่อส่วนตัวผม ผมยังคงมีมุมมองในแง่ลบต่อนโยบายงบประมาณของรัฐบาลประธานาธิบดี บุช และการเก็งกำไรอย่างเห็นได้ชัดในตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์
ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น..... มีธุรกิจที่โดดเด่นที่ผมสนใจเป็นจำนวนมาก อัตราดอกเบี้ยในญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำมากครับ แต่เสียดายครับ บริษัทในญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากจะขายหุ้นให้ต่างชาติเลยครับ ผมเคยเจรจากับบริษัทรายหนึ่งเมื่อปลายปี ขอไม่เอ๋ยชื่อนะครับ! แต่ไม่ประสบความสำเร็จครับ ผมหวังว่า.......หวังว่าสักวันครับที่ผมจะซื้อกิจการในญี่ปุ่นแบบเหมาบริษัทได้ ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนผมแวะมาเมืองไทย ผมได้เข้าไปซื้อหุ้น 80% ในบริษัทอิสคาร์ เมทัลเวร์กกิง ผู้ผลิตเครื่องมือตัดโลหะของอิสราเอล
การปรับตัวเหล่านี้ของ BERKSHIRE จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ไม่ว่าในเชิงรับหรือในเชิงรุกให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดโดยมีต้นทุนที่ต่ำที่สุดครับ
การที่โลกธุรกิจมีลักษณะแบนลงก่อให้เกิดทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อแนวทางการคิดและหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าครับ เราจะปรับตัวอย่างไรดีครับ ในมุมมองส่วนตัวของผม
คิดให้แตกต่างครับ
การเริ่มการศึกษาของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า กี่ปีกี่ปี ก็ยังยึดแนวทางจากการวิเคราะห์เหมือนธุรกิจเป็นหลัก เป็นตัวนำ มันไม่สนุกครับ วัฒนธรรมการคิดนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ทั้งที่โดยเนื้อแท้แล้ว การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเดินทางมาไกลมาก ถึงจุดที่สมควรจะต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมทางความคิด
เรียกว่า "แหก" กฏเดิม ๆ ออกมาสู่โลกเน้นคุณค่าใน generation ที่ 2 ได้แล้ว
ผมเห็นว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษนั่นคือ วิธีที่คนจะบรรลุความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับเน้นคุณค่าคือ ความรอบรู้เกี่ยวกับมนุษย์โลกครับ น้อยรายจะใช้ความรอบรู้นี้เป็นตัวนำในการออกสตาร์ท เวลาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถ้าวิชาน่าสนใจ น่าดู คนเรียนจะจำได้ แต่เรื่องความน่าเชื่อถือ ในสิ่งที่อยากบอก สิ่งที่คน หรือกลุ่มผู้รับสารได้เห็น มันเป็นคนละเรื่องกันนะครับ ชอบแต่ไม่เชื่อ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร นอกจากเสียเวลาไปโดยไม่เกิดประโยชน์
ทั้งที่การสร้างนักลงทุนเน้นคุณค่าแบรนด์ใหม่ที่เชี่ยวชาญสักหนึ่งคนไม่ใช่ของง่าย การใช้กลยุทธ์การจับเอาตัวเลขต่างๆไปใส่ในหัวของคนที่เริ่มนับหนึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ควรคิดใหม่ การอ้างถึงตัวเลขไม่สามารถสร้างความเข้าใจถึงการเน้นคุณค่าเท่าที่ควร เนื่องด้วยการวิเคราะห์เหล่านั้นเป็นการสื่อสารทางเดียวเพื่อเป้าหมายหลัก คือต้องการหา มูลค่าของธุรกิจ หรือ ราคาหุ้นในตลาดเท่านั้น
โดยเนื้อแท้คือ การหา มูลค่าของธุรกิจ หรือ ราคาหุ้น เป็นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งควรจะกระทำ เมื่อ วิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขต่างๆ บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว การตอกย้ำด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับมนุษย์โลก จะช่วยตอกย้ำการยอมรับ และความเข้าใจของการเน้นคุณค่า ให้ความรู้ที่ต้องการให้จดจำอยู่ในใจของคนที่เรียนรู้ใหม่อย่างยั่งยืน ไม่ใช่ประเภทมา "ตูมเดียวหาย"
ความรอบรู้ไม่ควรถูกเริ่มสะท้อนจากการรวบรวมและอ้างถึงตัวเลข ความรอบรู้เป็นเรื่องของวิธีการที่ข้อเท็จจริงหลายๆอย่างเข้ามาประสานและรวมกันมากกว่า มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ถ้าทำให้เหมาะสม และถูกจังหวะ จะสร้างการรับรู้ได้ดี สามารถเสริมการรับรู้ ทำให้สามารถเข้าใจได้ดีกว่า ผมเชื่อว่าวิธีเดียวที่จะได้ความรู้หรือภูมิปัญญาก็คือการที่สามารถแขวนประสบการณ์ชีวิตตัดผ่านทางขวางกับตัวแบบทางด้านจิตใจ ทุกคนควรจะมีตัวแบบในหัวและต้องจัดเรื่องประสบการณ์ ทั้งที่เป็นตัวแทนและโดยตรงบนโครงข่ายของตัวแบบนี้
กฏข้อแรกที่เรียนก็คือ คนที่เริ่มเรียนรู้ใหม่ต้องมีตัวแบบหลายๆตัวแบบในใจ ไม่เพียงแต่ท่านเหล่านั้นจะต้องมีตัวแบบมากพอสมควร แต่คุณจำเป็นที่จะต้องยึดเอาตัวแบบจากหลายๆสาขาวิชาด้วยการที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัยความคิดที่ผสมผสานจากหลายๆสาขาวิชา
แนวทางนั้นจะทำให้คุณอยู่ในจุดที่แตกต่างจากคนอื่นเกือบทุกคน ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าโลกไม่ได้ประกอบด้วยคนที่เรียนรู้หลายสาขาวิชา ศาสตราจารย์ทางด้านธุรกิจ โดยปกติจะไม่รวมวิชาฟิสิกส์ในเล็กเชอร์ของเขา และอาจารย์ฟิสิกส์ไม่พูดเกี่ยวกับชีววิทยา และครูชีววิทยาไม่รวมคณิตศาสตร์ และศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์ไม่สอนวิชาจิตวิทยา คุณจะไม่มีความพอใจกับการลงทุนจนกว่าคุณจะเข้าใจตัวแบบของพฤติกรรมซึ่งมาจากวิชาจิตวิทยา คุณจะไม่รู้วิธีสร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ได้เรียนตัวแบบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางสถิติ
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาใดวิชาหนึ่ง ทั้งหมดที่จะต้องทำคือการเลือกเอาความคิดที่หลักๆจริงๆ และเรียนรู้มันตั้งแต่เนิ่นๆ และเรียนรู้ให้ดี สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่เป็นไปได้เมื่อตัวแบบหลายๆตัวแบบมารวมกันและเริ่มทำงานในทิศทางเดียวกัน คณิตศาสตร์พื้นฐาน สามัญสำนึกพื้นฐาน ความกลัวพื้นฐาน การวิเคราะห์ธรรมชาติของมนุษย์พื้นฐานที่ทำให้สามารถคาดการณ์พฤติกรรมมนุษย์ได้ ถ้าคุณเพียงแต่ทำสิ่งนั้นด้วยวินัยพอสมควร ผมคิดว่าเราน่าจะได้นักลงทุนเน้นคุณค่าที่มีมุมมองที่แตกต่างและสร้างสรรค์อีกคนหนึ่ง ผลที่ออกมาน่าจะค่อนข้างดี
การคิดแบบเน้นคุณค่ามันเหมือนกับภาพเขียนครับ ที่ทุกวันนี้การใช้ประโยชน์ น้อยลงไป เมื่อเทียบกับการใช้ประโยชน์ของภาพเขียนเบื้องต้น คือการเล่าเรื่องหรือบันทึกสิ่งที่ได้เห็น หลังจากมีการถ่ายภาพเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่า "ภาพเขียน" จะมีความสำคัญน้อยลงไปก็หาไม่ แต่กลายเป็น "ศิลปะ"
ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเป็น "ศิลปะ" แล้วการเน้นคุณค่าจะด้อยคุณค่าในตัวเอง การมองอะไรให้เป็น "ศิลปะ" มันเป็นเรื่องของต่างคนต่างมอง เพียงแค่อยากบอกว่าเมื่อการใช้ประโยชน์ กลายเป็น "ศิลปะ" คุณค่าของการใช้ประโยชน์ก็น้อยลงไปตามลำดับ รวมทั้งการประเมินความสามารถในการใช้งานให้บรรลุเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้เช่นกัน
ตอนที่โทมัส เอดิสัน ทำหลอดไฟขึ้นมาให้โลกใช้ แทนเทียนไข ประโยชน์ของเทียนไขคือ เป็นตัวให้แสงสว่างด้อยลงทันที แต่คุณค่าความเป็น"ศิลปะ" มิได้สูญหายไปเลย กลับเพิ่มมากขึ้น งานเลี้ยงหรู ๆ จะไม่ครบเครื่องถ้าไม่มีการจุดเทียนหรู เพื่อเป็นองค์ประกอบ เทียนบางเล่มราคาแพงเกือบ 1,000 บาท พูดเป็นเล่นไป
คุณประโยชน์ของเทียนไม่มีใครสนใจแล้วครับว่าจะให้แสงสว่างมากน้อยเท่าไร เพราะ "เทียน" กลายเป็น "ศิลปะ" ที่มีความหมาย และคุณค่ามากกว่า "ความสว่าง" ซึ่งเป็นประโยชน์เบื้องต้นของเทียนไปแล้ว
ศิลปะ" ทุกรูปแบบจะเป็นที่หลงไหล ชื่นชมในหมู่คนที่เข้าถึงความเป็น ศิลปะ มุมมองและข้อโต้แย้งถึง "องค์ประกอบ" ของ "ศิลปะ" ถ้าจะให้โต้แย้งกันพูดกันทั้งวันก็ไม่จบ เพราะการวัดคุณค่าจาก "ศิลปะ" มันสูงเกินกว่าจะวัดค่าออกมาได้
นักลงทุนเน้นคุณค่า จะมีเหตุผลด้านอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นอันมากในการป้องกันแนวความคิดของเขาบนพื้นฐานของการเพิ่มพูน "คุณค่า" ของพอร์ตโฟลิโอ หรือสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับหุ้นนั้นๆ เพื่อโน้มน้าวความเชื่อมั่น และกระตุ้นต่อยอดความคิด ในหลายกรณี เป็นวิธีการที่ถูกต้อง แต่วัดคุณค่ายากมาก เพราะการเน้นคุณค่าเป็น "ศิลปะ" ทำให้การสื่อความถึงคุณประโยชน์ไม่ตรงประเด็น
ความจริงอันเจ็บปวดที่เกิดขึ้นคือ คนเน้นคุณค่าใช้เวลา และทรัพยากรอย่างเต็มที่ กระบวนการสร้างหล่อหลอมความคิดซึ่งในหลายกรณีมีความเชี่ยวชาญ ยังไม่ตกผลึกพอที่จะสู้ในสงครามตลาดหุ้นต่างประเทศแบบทั้งรุกและตั้งรับ
และอีกไม่ช้าคงได้เห็นกัน นักลงทุนเน้นคุณค่าไทยจะริเริ่มการเชื่อมโยงกับต่างประเทศเพื่อปูพื้นสามารถที่ขยายเครือข่ายทางการลงทุนไปยังประเทศภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งปูพื้นเตรียมไว้สำหรับอนาคตที่ประเทศในภูมิภาคจะมีฐานะทางเศรษฐกิจการเงินที่สามารถอนุญาตเปิดให้มีการนำเงินออมในแต่ละประเทศออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนแบบ portfolio ในภูมิภาค
ในโลกธุรกิจที่มีสภาพแบนมากขึ้นมากขึ้นนั้น นักลงทุนเน้นคุณค่าจำเป็นจะต้องวางแผนปรับตัวแต่เนิ่น ๆ ครับ เพราะสำหรับความรู้ที่ไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพในการลงทุนนั้นในโลกที่แบนราบ จะไม่มีสถานที่จะใช้หลบกำบังได้อีกต่อไป
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
รหัสลับ valueinvestor brief story
โพสต์ที่ 23
ขออนุญาตสรุปครับ ไม่มีเวลาเขียน ไป Shanghai อีกนานกลับ
"Sherlock Holmes and Thai Value Investor code"
นิยาย "Sherlock Holmes and Thai Value Investor Code " concerns Mr. Warren Buffet and members of Thaivi attempts to stop new Thai baht speculation bomb developed by George Rossos . The story takes place in Bangkok during 2006.
Brief story
In Siam Ocean World, an oceanist name Dr. Nong kneels down before a blond-haired murderer name Benetes from Rossos Gestapo who enforces him to reveal secret books of Thai value investor organization. The Rossoss are expecting Dr Nong to unveil his secret hided place, but he refuses so the blond hair dismissed the oceanist and the murderer Gestapo escape away. Thus the way is clear for the blond to escape and meet the master Rossos at a small coffee house site called BannRieCoffee which later on he unexpectedly encounter Buffet the great opponent of all time . They have a fight and swear to beat the other in the Thai baht speculation bomb.
When Holmes receive email SOS message at 221AB Bakery Street from a lady from Bangkok, Holmes calls her Khun porntip about helping the case. Holmes asks Watson to keep an eye on the milk man while he flys to meet Khun Porntip in Bangkok. Although Holmes has warned by Rossos that he is in danger, Holmes doesn't seem to believe it, or care. Holmes falls in love with a woman in Thai Value investor Org. and cant leave her to return England.
While at BTS skytrain , Khun Porntip remembers Dr Nong makes a curious drawing of dancing men. He puts it into an envelope asks Khun Porntip to deliver it personally to Perfecthill Place Blds on Ramkamhaeng 34 street if anything should happen to him. As he leaves to work that night same day he is assaulted and killed. When Holmes and Khun Porntip visit Thaivi on Ramkamheang Street, they meet Mr. James Bond who asks both of them to obey Thaivis laws and policies and accept them as members. Later on Holmes demonstrates his cleverness at decoding Dr Nongs drawing of dancing men which are simple slogan-substitution code in which each slogan of the Thaivi code member is represented in the coffee house by the first floor.
The next midnight , the blond demonstrates his site at the stock exchange of Thailand and claims to see the secret book at the site . Rossos is thrilled and wants to begin speculation bomb immediately after secret books retrieved. He needs the book so badly. It contains his birth Yew religion in which he will do anything to hide the fact from American people who will soon this year vote him for the US president election. Rossos offers the Thai baht bomb peace to the Thai finance chief but insists on supervising policies himself; like open FTA with US --no one else will know the secret. The finance chief complies with Rossos's wishes because he is no way out at dead end under obligation not to loss face and fames second time by speculation bomb.
DR. Nong divides his secret message into four parts, each of which is meaningless without the others and given to four secret Thaivi members, no one but Dr Nong knows , these are the names of four members written in the "dancing men" code before he mysteriously killed.
When Holmes learns that Dr Nong graduates from London School Of Economics, Mr. Holmes is puzzled and tells her about once he almost gets killed by a blond hair electrician who had "eyes like a snake." Holmes knows that the "electrician" must be related in Dr. Nongs Murder.
In the guise of a murderous named Benetes who was once in pattaya's employ, Sherlock Holmes tracks down the murder in bar's court and met Rososs.
ROSOS: My man have instructions to bring anyone down who treathened me. I know I may fool Thai police completely. Of course I didn't fool you.
Holmes: I never intended that it should. I meant only that it should bring us face to face.
ROSSOS: Just like old times, eh?. a battle of wits, of superior intellects. I may say I have been expecting you since I made off with your precious Dr. Nong.
HOLMES: And his code
ROSSOS: Ah, yes, and his code. But valuable as your lady doctor and his code.
To eliminate Holmes, Benetes forces him to get into the false bottom of a sea chest, which then will be dumped overboard from a ship as soon as it's out of sight of land. SuMaE, CK, Jeng, HVI, Thaivi members who are outside keeping watch notice two men are staggering under the weight of the sea chest, and stop them, rescuing Holmes.
Having learned that Benetes plans to attack the four members, Holmes returns to Khun Porntip s office to find a second envelop with some new clue to the "dancing men" message, which would reveal the real names of the four members who have parts of the hided place of hided secret book. He takes the pen upon which Dr. Nong wrote his message, and is able to make the message appear on the second sheet by soaking the page in a water.
Holmes recognizes the symbols as an alphabet substitution code. Holmes explains that the code is more complicated than the first letter. He's able to decipher the first three names and addresses, but the fourth one doesn't fit the code. Rossos and Benetes has also broken the code for the first three names, and captured those members. Holmes manages to break the code for the fourth name before Rossos. By the time Benetes gets to Jeng's house, Holmes is there in disguise ; he kidnaps Holmes whom he thought were Jeng and brings him to Rososs. Rossos recognizes Holmes and tells him since he didn't get the crucial fourth part of the clue, he will kill Holmes and that no one will be able to find him, not even Scotland Yard. As they sit and discuss what method of execution Rossos will use on Holmes, Holmes offers his own suggestions
"Gas, poison, bullets. I assure you, Rossos, were our positions reversed, I should have something more colorful, more imaginative to offer. . . . You didn't trap me here. I came here because I wanted to, to prevent your getting the secret book. And all you can do in return is to commit ordinary murder, to relieve your sense of frustration."
Rossos suggests that he would place an African poisoned spider on Holmes , and draw off his blood, drop by drop until Holmes dies. So that's exactly what Rossos decides to do to Holmes.
Meanwhile Watson, VIB007, Mon Money, Thanwa , Jeng and other members are on the trail. The real Jeng attached a leaky can of luminous paint to the undercarriage of Holmes' abductors' car, and it has left a trail of paint spots on the road. They follow the spots to Rossoss waehouse, and rescue Holmes just in time.
Everyone in Rossos's gang is captured except Rossos accidentally falls through a trap door while trying to escape, and is apparently disapeared.
At the end of the story, as Holmes and Watson are on the take-offs plane returning to England , Watson remarks, "Well, this country is still on the map." In his closing patriotic speech characteristic of Sherlock Holmes, Holmes responds with a quote from Shakespeare: "This fortress built by Nature for herself . . . This blessed plot, this earth, this realm, this country" (Richard II, Act II, Scene 1).
In spite of the incredible security finger scanning, Rossos is suspenseful and very entertaining on the same plane. Rossos enjoyed the opportunity to wear a disguise: a Swiss funny-looking bearded scientist. The last scenes Rossos is especially smiling while Holmes and Watson are seated behind.
The End
"Sherlock Holmes and Thai Value Investor code"
นิยาย "Sherlock Holmes and Thai Value Investor Code " concerns Mr. Warren Buffet and members of Thaivi attempts to stop new Thai baht speculation bomb developed by George Rossos . The story takes place in Bangkok during 2006.
Brief story
In Siam Ocean World, an oceanist name Dr. Nong kneels down before a blond-haired murderer name Benetes from Rossos Gestapo who enforces him to reveal secret books of Thai value investor organization. The Rossoss are expecting Dr Nong to unveil his secret hided place, but he refuses so the blond hair dismissed the oceanist and the murderer Gestapo escape away. Thus the way is clear for the blond to escape and meet the master Rossos at a small coffee house site called BannRieCoffee which later on he unexpectedly encounter Buffet the great opponent of all time . They have a fight and swear to beat the other in the Thai baht speculation bomb.
When Holmes receive email SOS message at 221AB Bakery Street from a lady from Bangkok, Holmes calls her Khun porntip about helping the case. Holmes asks Watson to keep an eye on the milk man while he flys to meet Khun Porntip in Bangkok. Although Holmes has warned by Rossos that he is in danger, Holmes doesn't seem to believe it, or care. Holmes falls in love with a woman in Thai Value investor Org. and cant leave her to return England.
While at BTS skytrain , Khun Porntip remembers Dr Nong makes a curious drawing of dancing men. He puts it into an envelope asks Khun Porntip to deliver it personally to Perfecthill Place Blds on Ramkamhaeng 34 street if anything should happen to him. As he leaves to work that night same day he is assaulted and killed. When Holmes and Khun Porntip visit Thaivi on Ramkamheang Street, they meet Mr. James Bond who asks both of them to obey Thaivis laws and policies and accept them as members. Later on Holmes demonstrates his cleverness at decoding Dr Nongs drawing of dancing men which are simple slogan-substitution code in which each slogan of the Thaivi code member is represented in the coffee house by the first floor.
The next midnight , the blond demonstrates his site at the stock exchange of Thailand and claims to see the secret book at the site . Rossos is thrilled and wants to begin speculation bomb immediately after secret books retrieved. He needs the book so badly. It contains his birth Yew religion in which he will do anything to hide the fact from American people who will soon this year vote him for the US president election. Rossos offers the Thai baht bomb peace to the Thai finance chief but insists on supervising policies himself; like open FTA with US --no one else will know the secret. The finance chief complies with Rossos's wishes because he is no way out at dead end under obligation not to loss face and fames second time by speculation bomb.
DR. Nong divides his secret message into four parts, each of which is meaningless without the others and given to four secret Thaivi members, no one but Dr Nong knows , these are the names of four members written in the "dancing men" code before he mysteriously killed.
When Holmes learns that Dr Nong graduates from London School Of Economics, Mr. Holmes is puzzled and tells her about once he almost gets killed by a blond hair electrician who had "eyes like a snake." Holmes knows that the "electrician" must be related in Dr. Nongs Murder.
In the guise of a murderous named Benetes who was once in pattaya's employ, Sherlock Holmes tracks down the murder in bar's court and met Rososs.
ROSOS: My man have instructions to bring anyone down who treathened me. I know I may fool Thai police completely. Of course I didn't fool you.
Holmes: I never intended that it should. I meant only that it should bring us face to face.
ROSSOS: Just like old times, eh?. a battle of wits, of superior intellects. I may say I have been expecting you since I made off with your precious Dr. Nong.
HOLMES: And his code
ROSSOS: Ah, yes, and his code. But valuable as your lady doctor and his code.
To eliminate Holmes, Benetes forces him to get into the false bottom of a sea chest, which then will be dumped overboard from a ship as soon as it's out of sight of land. SuMaE, CK, Jeng, HVI, Thaivi members who are outside keeping watch notice two men are staggering under the weight of the sea chest, and stop them, rescuing Holmes.
Having learned that Benetes plans to attack the four members, Holmes returns to Khun Porntip s office to find a second envelop with some new clue to the "dancing men" message, which would reveal the real names of the four members who have parts of the hided place of hided secret book. He takes the pen upon which Dr. Nong wrote his message, and is able to make the message appear on the second sheet by soaking the page in a water.
Holmes recognizes the symbols as an alphabet substitution code. Holmes explains that the code is more complicated than the first letter. He's able to decipher the first three names and addresses, but the fourth one doesn't fit the code. Rossos and Benetes has also broken the code for the first three names, and captured those members. Holmes manages to break the code for the fourth name before Rossos. By the time Benetes gets to Jeng's house, Holmes is there in disguise ; he kidnaps Holmes whom he thought were Jeng and brings him to Rososs. Rossos recognizes Holmes and tells him since he didn't get the crucial fourth part of the clue, he will kill Holmes and that no one will be able to find him, not even Scotland Yard. As they sit and discuss what method of execution Rossos will use on Holmes, Holmes offers his own suggestions
"Gas, poison, bullets. I assure you, Rossos, were our positions reversed, I should have something more colorful, more imaginative to offer. . . . You didn't trap me here. I came here because I wanted to, to prevent your getting the secret book. And all you can do in return is to commit ordinary murder, to relieve your sense of frustration."
Rossos suggests that he would place an African poisoned spider on Holmes , and draw off his blood, drop by drop until Holmes dies. So that's exactly what Rossos decides to do to Holmes.
Meanwhile Watson, VIB007, Mon Money, Thanwa , Jeng and other members are on the trail. The real Jeng attached a leaky can of luminous paint to the undercarriage of Holmes' abductors' car, and it has left a trail of paint spots on the road. They follow the spots to Rossoss waehouse, and rescue Holmes just in time.
Everyone in Rossos's gang is captured except Rossos accidentally falls through a trap door while trying to escape, and is apparently disapeared.
At the end of the story, as Holmes and Watson are on the take-offs plane returning to England , Watson remarks, "Well, this country is still on the map." In his closing patriotic speech characteristic of Sherlock Holmes, Holmes responds with a quote from Shakespeare: "This fortress built by Nature for herself . . . This blessed plot, this earth, this realm, this country" (Richard II, Act II, Scene 1).
In spite of the incredible security finger scanning, Rossos is suspenseful and very entertaining on the same plane. Rossos enjoyed the opportunity to wear a disguise: a Swiss funny-looking bearded scientist. The last scenes Rossos is especially smiling while Holmes and Watson are seated behind.
The End
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
นิยาย รหัสลับ value investor
โพสต์ที่ 25
โทษทีครับตอบคุณ Jeng ช้าไปหน่อย พรุ่งนี้ต้องเดินทาง เลยยุ่งหน่อยครับ
ผมคิดประจำจิตอย่างหนึ่งว่า เวลาทำอะไร ทำให้เต็มที่ เพราะผมไม่อยากดูถูกตัวเอง จะคัดเอาศาสตร์หลาย ๆ แขนงที่ดีมาศึกษา ผสมผสาน อย่างเรื่อง stock investment ผมถือว่าการลงทุนมีหลายแบบ value investment เป็นแบบหนึ่งที่น่าจะเป็นแนวทางในการลงทุน ผมมีความคิดว่าแนว value โดยการเรียนรู้จากของจริง มันไม่ได้สิ้นสุดที่ Warren Buffet ของฝรั่ง แต่มันจะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าเราจะไขว่คว้าหรือไปถึงจุดไหน อย่างนั้นเราคงไม่มี Post-Warren อย่าง ดร.นิเวศน์ ในเมืองไทย
สมัยก่อน ผมเป็นคนชอบการลงทุนที่มีสีสัน การเก็งกำไร ผมถือว่าการลงทุนที่ดีต้องเป็นการลงทุนที่มีสี เปรียบเหมือนกับการเขียนรูป ผมไม่ได้ตั้งใจจะเขียนดอกไม้ให้เป็นดอก ไม่ใช่เขียนดอกไม้ให้สามารถบอกได้ว่าไอ้นี่คือกุหลาบ ไอ้นี่คือกล้วยไม้ ผมเพียงแต่อาศัยเอาอะไรเล็กๆน้อยๆจากรูปทรงของมัน ซึ่งรูปทรงนั้นมันมีสีอยู่ มีอารมณ์ของหุ้นตัวนั้นอยู่ ผมก็จะเขียนสีที่อยู่บนรูปทรงของดอกไม้ใบหญ้าในธรรมชาติ ดอกไม้เป็นสิ่งที่มีสีมากที่สุด
ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจเขียนดอกไม้ให้เป็นดอก แต่ถ้าบอกว่าผมอาศัยดอกไม้เพื่อเขียนสีอาจจะใช่ ดอกไม้ก็เลยกลายเป็นเนื้อหาในภาพการลงทุนผมไป กลายเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยๆ
แถวตลาดหุ้นไทยมันจะมีดอกไม้เยอะ ผมก็ไปตลาด ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า หิ้วดอกไม้มาหอบนึง ถือเงินไป เอามาเขียนได้สามวันแล้วก็ขว้างทิ้ง และไปตลาดใหม่ ไปซื้อดอกไม้มาใหม่โดยไม่ต้องคิดถึงว่าของเก่ามันเป็นยังไง ดอกไม้ใหม่มันสวยยังไง รูปร่างยังไงก็เอามาเขียนแล้วก็ทิ้ง เขียนใหม่จนกว่าจะพอใจ มันก็จะเป็นกลุ่มดอกไม้สามกลุ่มถึงสี่กลุ่มในภาพเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
ช่วงหลังมานี้ เมื่อห้าหกเดือนมา ผมมาศึกษาแนวลงทุนแบบ value การลงทุนของผม ถือว่าผมเปลี่ยนมาคิดเขียนรูปดอกไม้ที่เป็นสีๆเดียว สีขาวหรือเหลืองสีเดียวทั้งรูป เขียนใกล้ซักรูปนึง ไกลซักรูปนึง สีเดียวกัน ต้นเดียวกัน ดูซิว่ามันจะเป็นยังไง ผมคิดเรื่องนี้ จะได้ผลหรือไม่ได้ผล ไม่รู้ ไม่ได้ผลเราก็เลิก ได้ผลก็ทำต่อไป การคิดเรื่องอย่างนี้ มันทำให้เรามีความหลากหลายในความคิด ไม่ใช่อ่านตำรา แล้วลงทุนให้เหมือน เขียนรูปไปเรื่อย ตามองดูรูปแล้วก็เขียน มันธรรมดา โดยที่ไม่ต้องคิดอะไร แต่ผมเป็นคนเขียนรูป มันต้องคิดไปเรื่อยๆ นี่คือแนวที่การลงทุนที่ผมเรียกว่า impressionist investment
ผมเริ่มเขียนทุกรูปตั้งใจหมด ไม่ใช่เขียนๆแล้วขว้างทิ้งอย่างแต่ก่อน ลงมือเขียนแล้วต้องลงมือเขียนให้เสร็จ ไม่ดีไม่เป็นไร ไม่ดีก็คือไม่ดี ความไม่ดีในรูปเขียนเป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ตั้งใจเขียนรูป เราทำงานเต็มที่ไม่ดีก็ช่วยไม่ได้
ผมคิดว่าคนที่ลงทุนเก่งเป็นอัฉริยะ อย่างเช่น Warren Buffet, George Soros, Graham หรือ ดร. นิเวศน์ พวกนี้เป็นอัฉริยะ สะสมบารมีมาแล้วหลายร้อยชาติ ถ้าเป็นศาสนาก็เหมือนกับว่า ทำไมพระพุทธเจ้าไปนั่งสมาธิ ทำไมท่านตรัสรู้ได้ บางคนค้นมาตลอดชีวิตยังตรัสรู้ไม่ได้ อันนี้มันเป็นบุญเก่าที่เขาสะสมมาแล้วหลายร้อยชาติ ผมคิดว่าชาตินี้ผมไม่ได้ ชาติหน้าผมก็คงจะได้ ไม่ได้ก็ชาติโน้น ชาติโน้น ไปเรื่อยๆ
ผมคิดประจำจิตอย่างหนึ่งว่า เวลาทำอะไร ทำให้เต็มที่ เพราะผมไม่อยากดูถูกตัวเอง จะคัดเอาศาสตร์หลาย ๆ แขนงที่ดีมาศึกษา ผสมผสาน อย่างเรื่อง stock investment ผมถือว่าการลงทุนมีหลายแบบ value investment เป็นแบบหนึ่งที่น่าจะเป็นแนวทางในการลงทุน ผมมีความคิดว่าแนว value โดยการเรียนรู้จากของจริง มันไม่ได้สิ้นสุดที่ Warren Buffet ของฝรั่ง แต่มันจะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าเราจะไขว่คว้าหรือไปถึงจุดไหน อย่างนั้นเราคงไม่มี Post-Warren อย่าง ดร.นิเวศน์ ในเมืองไทย
สมัยก่อน ผมเป็นคนชอบการลงทุนที่มีสีสัน การเก็งกำไร ผมถือว่าการลงทุนที่ดีต้องเป็นการลงทุนที่มีสี เปรียบเหมือนกับการเขียนรูป ผมไม่ได้ตั้งใจจะเขียนดอกไม้ให้เป็นดอก ไม่ใช่เขียนดอกไม้ให้สามารถบอกได้ว่าไอ้นี่คือกุหลาบ ไอ้นี่คือกล้วยไม้ ผมเพียงแต่อาศัยเอาอะไรเล็กๆน้อยๆจากรูปทรงของมัน ซึ่งรูปทรงนั้นมันมีสีอยู่ มีอารมณ์ของหุ้นตัวนั้นอยู่ ผมก็จะเขียนสีที่อยู่บนรูปทรงของดอกไม้ใบหญ้าในธรรมชาติ ดอกไม้เป็นสิ่งที่มีสีมากที่สุด
ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจเขียนดอกไม้ให้เป็นดอก แต่ถ้าบอกว่าผมอาศัยดอกไม้เพื่อเขียนสีอาจจะใช่ ดอกไม้ก็เลยกลายเป็นเนื้อหาในภาพการลงทุนผมไป กลายเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยๆ
แถวตลาดหุ้นไทยมันจะมีดอกไม้เยอะ ผมก็ไปตลาด ไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า หิ้วดอกไม้มาหอบนึง ถือเงินไป เอามาเขียนได้สามวันแล้วก็ขว้างทิ้ง และไปตลาดใหม่ ไปซื้อดอกไม้มาใหม่โดยไม่ต้องคิดถึงว่าของเก่ามันเป็นยังไง ดอกไม้ใหม่มันสวยยังไง รูปร่างยังไงก็เอามาเขียนแล้วก็ทิ้ง เขียนใหม่จนกว่าจะพอใจ มันก็จะเป็นกลุ่มดอกไม้สามกลุ่มถึงสี่กลุ่มในภาพเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
ช่วงหลังมานี้ เมื่อห้าหกเดือนมา ผมมาศึกษาแนวลงทุนแบบ value การลงทุนของผม ถือว่าผมเปลี่ยนมาคิดเขียนรูปดอกไม้ที่เป็นสีๆเดียว สีขาวหรือเหลืองสีเดียวทั้งรูป เขียนใกล้ซักรูปนึง ไกลซักรูปนึง สีเดียวกัน ต้นเดียวกัน ดูซิว่ามันจะเป็นยังไง ผมคิดเรื่องนี้ จะได้ผลหรือไม่ได้ผล ไม่รู้ ไม่ได้ผลเราก็เลิก ได้ผลก็ทำต่อไป การคิดเรื่องอย่างนี้ มันทำให้เรามีความหลากหลายในความคิด ไม่ใช่อ่านตำรา แล้วลงทุนให้เหมือน เขียนรูปไปเรื่อย ตามองดูรูปแล้วก็เขียน มันธรรมดา โดยที่ไม่ต้องคิดอะไร แต่ผมเป็นคนเขียนรูป มันต้องคิดไปเรื่อยๆ นี่คือแนวที่การลงทุนที่ผมเรียกว่า impressionist investment
ผมเริ่มเขียนทุกรูปตั้งใจหมด ไม่ใช่เขียนๆแล้วขว้างทิ้งอย่างแต่ก่อน ลงมือเขียนแล้วต้องลงมือเขียนให้เสร็จ ไม่ดีไม่เป็นไร ไม่ดีก็คือไม่ดี ความไม่ดีในรูปเขียนเป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้ตั้งใจเขียนรูป เราทำงานเต็มที่ไม่ดีก็ช่วยไม่ได้
ผมคิดว่าคนที่ลงทุนเก่งเป็นอัฉริยะ อย่างเช่น Warren Buffet, George Soros, Graham หรือ ดร. นิเวศน์ พวกนี้เป็นอัฉริยะ สะสมบารมีมาแล้วหลายร้อยชาติ ถ้าเป็นศาสนาก็เหมือนกับว่า ทำไมพระพุทธเจ้าไปนั่งสมาธิ ทำไมท่านตรัสรู้ได้ บางคนค้นมาตลอดชีวิตยังตรัสรู้ไม่ได้ อันนี้มันเป็นบุญเก่าที่เขาสะสมมาแล้วหลายร้อยชาติ ผมคิดว่าชาตินี้ผมไม่ได้ ชาติหน้าผมก็คงจะได้ ไม่ได้ก็ชาติโน้น ชาติโน้น ไปเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
นิยาย รหัสลับ value investor
โพสต์ที่ 27


ที่ให้การสนับสนุนนิยายเรื่องนี้ด้วยดีตลอดเวลาที่ผ่านมา
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่เว็บไทวีที่ให้เกียรตินำนิยายขึ้นหิ้ง
และที่ไม่เอ๋ยไม่ได้คือสมาชิกไทวี
ที่ต้อนรับผมด้วยความอบอุ่นด้วยดีเสมอมา
ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ
ขณะนี้ผมเห็นว่าเป็นเวลาสมควรแล้ว
เรื่องของพี่ๆท่านก็น่าสนใจมีอีกมากมาย
ได้โปรดปล่อยนิยายให้ลอยน้ำไปด้วยครับ
ด้วยความเคารพ

โหน่ง