เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ต้องขอรบกวนพื้นที่ ถามเรื่องส่วนตัวนิดนึงครับ
คือผมทำงานและอาศัยอยู่ต่างประเทศ (U.A.E)

เมื่อคืนช่วงตี2ครึ่ง ผมรู้สึก เจ็บหน้าอก หลังจากลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ

มันรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ข้างใน บริเวณหัวใจเลย แต่เจ็บไม่มาก รู้สึกขัดๆ สักพัก แป๊ปเดียวก็หายไป  พอจะนอนก็นอนไม่หลับเลย รู้สึกกังวล แล้วสักพัก ก็จะรู้สึกเจ็บอีก ถึงเช้า ก็รู้สึกเกือบๆ 10 ครั้ง

ครึ่งชั่วโมงแรกที่รู้สึก มือ-เท้าจะเย็น แต่หลังจากนั้นก็ปกติ

เคยเป็นอย่างนี้ครั้งแรก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รู้สึกเจ็บเฉพาะตอนนอนกลางคืน อยู่ 1-2 คืน จากนั้นก็ปกติจนมารู้สึกอีกครั้งเมื่อคืน


*****
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมเป็นตับอักเสบเฉียบพลัน ตรวจเลือดพบค่า SGPT/SGOT สูงมาก Admit เข้าไปนอนโรงพยาบาล เกือบ 1 สัปดาห์ มีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง อยู่ 2-3 วัน นอกนั้นก็ไม่มีอาการอื่นใด

ตอน Admit ทาง รพ.ที่นี่ ก็ตรวจคลื่นหัวใจ ECG , X-ray ปอด และ ultrasound ช่วงท้อง พบทุกอย่างปกติดี ยกเว้นตับ และพบ คล้ายๆนิ่วในถุงน้ำดี แต่ก้อนเล็กๆ และเกาะอยู่ที่ผนัง แต่ไม่ได้ทำอะไร ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงหรือไม่ เลยกลับไปรักษาที่เมืองไทย ก็ตรงกันว่าเป็นแค่ตับอักเสบ

หลังจากนั้น ค่าผลเลือดก็ดีขึ้น จนเกือบปกติ และไปทำงานได้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (ออกจากโรงพยาบาล พักอยู่กับบ้านอีก เกือบ 2 อาทิตย์) ต้องไป follow-up ผล LFT อีกที ปลายเดือนนี้

ตอนนี้ทานยา legalon 70mg x3 และ Vitamin B-Complex x3 อยู่ครับ
*****

เท่าที่ผมอ่านเรื่องยา วิตามิน B-complex มีสรรพคุณ ป้องกันด้านโรคหัวใจด้วย ไม่ทราบถูกหรือไม่

เรียนถาม คุณหมอ อาการเจ็บหัวใจ ของผมถือว่า serious หรือไม่ ควรทำอย่างไร กรุณาแนะนำด้วย เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใคร
ขอบคุณ ในทุกๆคำแนะนำครับ

*****
ผมอายุ 33 ปี สูง 170 cm หนัก 67 kg ไม่สูบบุหรี่ เหล้าดื่มนานๆครั้ง ล่าสุดก่อนเป็นตับอักเสบ แต่ตั้งใจ ต่อไปจะไม่ดื่มแล้ว
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พึ่งตัวเอง ลองเข้าไป search ใน internet
เท่าที่เป็นแพทย์มากว่า 40 ปี เห็นผู้ป่วยที่เจ็บหน้าอกมานับพัน กว่าครึ่งของผู้ป่วยที่มาหาด้วยอาการเจ็บหน้าอกนั้นมาจากความเครียด ลักษณะการเจ็บจะเจ็บแบบแปล๊บๆ เจ็บเดี๋ยวเดียวก็หายไป ไม่เกี่ยวข้องกับการออกกำลัง หรือการทานอาหาร มักเป็นเวลาที่อยู่คนเดียว หรือนอน ถ้าเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง สนุกสนานจะไม่มีอาการเจ็บหน้าอกเลย

ผู้ป่วยที่เจ็บหน้าอกรุนแรงโดยเฉพาะมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น หายใจลำบาก จะเป็นลม หรือมีไข้ ควรจะไปหาแพทย์

เนื่องจากสาเหตุมีมาก ดังนั้นการรักษาจะต้องทราบว่าอะไรที่ทำให้เจ็บหน้าอก จึงจะรักษาได้

จาก แพทย์ศูนย์ปอด และระบบทางเดินหายใจ  เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 49  
อันนี้ค่อนข้างตรงกับอาการ อ่านแล้วก็สบายใจขึ้น
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อีก คห.
หากอาการเจ็บหน้าอกเกิดบ่อยขึ้น หรือแต่ละครั้งเกิดเวลานานขึ้น หรือมีการเจ็บรุนแรงขึ้น หรือมีอาการเจ็บหน้าอกเกิดขึ้นขณะที่พักผ่อน และไม่ได้มีอารมณ์เปลี่ยนแปลง ไม่มีความเครียดหรือความวิตกกังวลเลย ควรมาพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับการตรวจรักษาค่ะ ซึ่งอาจจำเป็นต้องตรวจร่างกายและตรวจพิเศษเพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญในการวินิจฉัยและพิจารณาการรักษาค่ะ ควรพยายามชวนให้แฟนของคุณไปพบแพทย์ แสดงให้แฟนของคุณรู้ว่าคุณเป็นห่วงและใส่ใจอาการที่เป็น และสร้างแรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจในการที่จะดูแลสุขภาพค่ะ



จาก BangkokHealth
จริงๆ ก่อนนอน ผมไม่มีความเครียดหรือกังวลมาก แต่หลังจากรู้สึกเจ็บครั้งแรก ก็กังวลทันที
กลัวจะเป็นอะไรร้ายแรง จริงๆแทบอยากจะไป emergency ด้วยว้ำ แต่กลัวเรื่องจะไปกันใหญ่ คุยก็รู้เรื่องไม่เต็มร้อย

กลางเดือนหน้า ผมจะมีตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งมีตรวจคลื่นหัวใจด้วย ไม่รู้จะรอนานไปหรือเปล่า
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ปัจจัยเสี่ยง
ต่อไปก็สำหรับคนที่ยังกังวลกลัวว่าจะเป็นโรคหัวใจอยู่ดี หรือคนที่เจ็บหน้าอกมานานเป็นๆหายๆ ก็ให้ดูตนเองก่อนครับว่าท่านมีปัจจัยเสี่ยงตัวใดตัวหนึ่งบ้างไหม
ก. อายุมากกว่า35-40
ข. เป็นเบาหวาน
ค. เป็นความดันโลหิตสูง
ง. ไขมันในเลือดสูง
จ. อ้วน
ฉ. ไม่เคยออกกำลังกายแบบได้เหงื่อเลยใน5-10ปีที่ผ่านมา
ก. ใกล้เคียง แต่อีก 2 ปี
ข. ไม่เป็น และประวัติครอบครัว ไม่มีใครเป็น
ค. ไม่เป็นครับ ความดันอยู่ประมาณ 110-120 / 70-80
ง. วัดล่าสุด Cholesterol อยู่ที่ 130 mg/dl
(HDL Cholesterol 60 mg/dl, LDL (calculated) 56 mg/dl ครับ

จ. ข้อนี้ใกล้เคียงที่สุด ออกกำลังกายแบบเป็นเรื่องเป็นราว วันเว้นวัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น ออกบ้างแต่น้อยมากครับ (ผมผิดไปแล้ว  :( )
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เคยเป็นเหมือนกันครับ แต่เป็นเวลาเทรดหุ้น แถมมีหน้ามืดตาลาย วิงเวียนเหมือนจะเป็นลม เกิดคิดได้ว่าเป็นอะไรไปคงไม่คุ้ม จากนั้นเลยเลิก และเป็น VI ในร่องในรอยอยู่จนถึงทุกวันนี้
ForrestGump
Verified User
โพสต์: 1435
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คุณ บางกอก ขอให้ไม่เป็นอะไรนะครับ

แล้วอย่าลืม ห้า ดีนะครับ
อาหาร อากาศ อารมณ์ ขับถ่าย พักผ่อน
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ระบบคลีนิค / โรงพยาบาลที่นี่ เครื่องไม้ เครื่องมือ ดีครับ มีพร้อม

แต่ที่ห่วง ก็ ตัวหมอ นั่นแหละ ห่วงทัศนคติของเขา การวินิจฉัย และ การสื่อสารครับ

รพ.เป็น ส่วนหนึ่ง ของสวัสดิการบริษัท หาหมอแต่ละครั้ง เสียเงินเทียบเท่า เงินไทย 100 บาท เหมารวมค่ายา ส่วนใหญ่ก็จ่ายยา มูลค่าเกินร้อย  บางทีจ่ายยาครั้งนึงเป็นหลายๆพันบาท ด้วยซ้ำ

ถ้าฉุกเฉิน หรือ Admit เข้า รพ. ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย


แต่เรื่อง สุขภาพ ไม่เจอกับตัวเอง ไม่รู้สึกครับ
เดือนที่แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องไปนอนใน รพ.
เป็นทีเดียวเอาให้คุ้ม ไปนอนมา 3 รพ. รวมเมืองไทย
ได้คิดอะไรเยอะ ทั้งกลัว ทั้งเข็ด ขอให้หายดีจากตับอักเสบ
จะรักษาสุขภาพให้ดีกว่านี้ครับ
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ForrestGump เขียน:คุณ บางกอก ขอให้ไม่เป็นอะไรนะครับ

แล้วอย่าลืม ห้า ดีนะครับ
อาหาร อากาศ อารมณ์ ขับถ่าย พักผ่อน
ผมก็หวังเช่นนั้น
คุณ ForrestGump อย่าเล่น Si@mbit เพลิน จนไม่ออกกำลังกายนะครับ อย่าทำแบบผม  :?

4-5 ปี ที่อยู่ที่นี่ ผมอยู่หน้าจอคอม ประมาณวันละกว่า 12 ชม.
(รวมการทำงาน และที่บ้าน) ทั้งปีประมาณสัก 300 วัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

Bangkok เขียน:ง. วัดล่าสุด Cholesterol อยู่ที่ 130 mg/dl
น้อยจังครับ สมัยนี้เขา 200 กว่ากันทั้งนั้น   :)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

4-5 ปี ที่อยู่ที่นี่ ผมอยู่หน้าจอคอม ประมาณวันละกว่า 12 ชม.
(รวมการทำงาน และที่บ้าน) ทั้งปีประมาณสัก 300 วัน
ต้องระวังนะครับ
เมื่อก่อนผมก็เป็นนี้ ทำงานทั้งวันหน้าคอมไม่พอ
กลับบ้านไปก็อยู่กับคอมพิวเตอร์อีก ปีละเกือบ 365 วัน ติดต่อกันหลายปี

ผลที่ตามมาคือความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่มากกว่าปกติ ปวดขมับ ปวดตา ปวดกล้ามเนื้อต้นคอ
ประกอบกับการที่เป็นภูมิแพ้อยู่ด้วย เลยแย่เลย
แพทย์แนะนำ ท่ากายภาพบำบัดในลักษณะการยืดกล้ามเนื้อ ให้ทำทั้ง เช้า กลางวัน เย็น แล้วก็ประคบน้ำอุ่นตอนกลางคืน

ต้องพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนะครับ

หากทำหน้าคอม ต้องรู้จักพักบ้าง ทำซัก 1 ชม. ต้องพักสายตา มองไกลๆบ้าง ลุกออกมายืดเส้นยืดสายบ้าง (หากทำได้)

จอ LCD (เช่นจอใน Laptop) จะช่วยลดการแผ่รังสีและสบายตากว่าจอ CRT

ที่สำคัญต้องหาเวลาออกกำลังกายนะครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
Mr. Boo
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1841
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ทำไมเลิก exercise เสียละครับ
ค่อยๆๆๆเริ่มใหม่น่าจะดี
ส่วนความเครียด ผมเดาว่าหมายถึง underlying stress มังครับ โดยไม่รู้ตัว....
Rabbit VS. Turtle
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:
น้อยจังครับ สมัยนี้เขา 200 กว่ากันทั้งนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอโทษทีที่ตอบช้าไปนิดเพราะเพิ่งเลิกงานครับ หวังว่าน้อง บางกอก ของเราคงยังไม่เป็นอะไรไปนะครับ ถ้าจำไม่ผิดน้องเป็นรุ่นน้องเตรียม ผมเป็นอายุรแพทย์ทั่วไป ไม่ใช่ Cardiologist แต่ก็มีประสพการณ์ไม่น้อยหวังว่าคงช่วยน้องได้บ้าง
  อาการเจ็บหน้าอกนั้นคั่นแรกจะต้องแยกก่อนว่าน่าจะเป็นจากอวัยวะใดบริเวณทรวงอกถ้าไล่จากข้างนอกเข้าไปข้างใน
 1.กล้ามเนื้อกระดูกซี่โครงและกระดูกซี่โครงอ่อน( Myofascial pain and costrondritis) อาการอาจเจ็บทั่วๆไปไม่รู้ตำแหน่งชัดเจนถ้าเป็นจากกล้ามเนื้ออย่างเดียว มักจะปวดแบบตื้อๆ เสียวๆ( dull pain or sharp pain or muscle aching)เป็นมากขึ้นเวลาหายใจเข้าแรงๆ หรือเอี้ยวตัวบิดตัว แต่หากเป็นกระดูกซี่โครงอ่อนอักเสบมักจะปวดแบบเป็นจุดกดเจ็บชัดเจนใกล้ๆตำแหน่งที่กระดูกซี่โครงที่มาชนกับกระดูกกลางหน้าอก ทำให้มัจะรู้สึกหายใจขัดๆและเหมือนหายใจไม่สุดหรือหายใจไม่อิ่ม ส่วนใหญ่มักมีประวัติว่าออกกำลังกายมากโดยเฉพาะการยกของหนัก เล่นเวท แต่บางรายก็เป็นขึ้นมาเองโดยไม่มีสาเหตุ โดยจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย(สรุปว่า ผู้หญิงจะขี้เมื่อยกว่าผู้ชายนะครับ แต่ผู้ชายชอบอ้างว่าเมื่อยหนีไปให้อีหนูนวดมากกว่า อิอิ :lol: ) ถ้าเป็นอันนี้ไม่อันตราย หายไปเองเมื่อร่างกายกล้ามเนื้อได้รับการพัก ผมเจอคนไข้กลุ่มนี้มากที่สุดใน OPD ส่วนใหญ่จะให้ยารักษาตามอาการและให้ความมั่นใจ
 2.ปอดและเยื่อหุ้มปอดอักเสบ(Pleuritic chest pain) อาการเจ็บมักจะเกิดในกรณีที่มีปอดและเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ซึ่งมักจะต้องมีอาการนำมากก่อนเช่นมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ เหนื่อยง่าย เวลาไอหรือหายใจเข้าลึกๆจะเจ็บเสียวแปล๊บ( sharp pain) ตำแหน่งจะเป็นมากบริเวณชายโครงได้ทั้งสองข้างขึ้นกับว่าเป็นข้างใด (ต่างจากข้อแรกที่ เป็นค่อนข้างจะตรงกลางๆ) แต่ที่สำคัญที่ผมมักจะใช้แยกคือควรจะต้องมีอาการของระบบทางเดินหายใจร่วมด้วยคือมักจะไอเกือบ 100% ผมคิดว่าที่น้องเล่ามาข้อนี้ไม่ค่อยเหมือน
 3.หลอดอาหาร( Esophagus) อาจมีแผลฉีกขาดที่หลอดอาหารที่เกิดจาการอาเจียนมากอย่างรุนแรงที่ทางแพทย์เรียกว่า Mallory-Wise's tear ส่วนใหญ่มักเกิดกับพวกขี้เหล้า (ผมว่าอันนี้อยู่ในข่ายนะครับเนี่ย อิอิ :lol:  ล้อเล่นนะครับ) อาจเป็นแผลครูดที่เกิดจากการกินยาเม็ดใหญ่ๆหรือยาที่ระคายเคืองเยื่อบุหลอดอาหาร เช่น ยากลุ่ม แอสไพริน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด หรืออาจเป็นหลอดอาหารอักเสบ(Esophagitis)ซึ่งมักเกิดจาการที่มีกรดในกระเพาะใหลย้อนจากกระเพาะอาหารเนื่องจากมีภาวะที่เรียกว่าหูรูดหลอดอาหารหย่อน(Gatroesophageal reflux disease, GERD) ซึ่งอาการมักจะเป็นอาการแสบร้อนเหมือนไฟสุมทรวงเพราะกรดกัด(ทางแพทย์เรียกว่า Heart burn) ตำแหน่งจะอยู่ตรงกลางหน้าอกพอดีหลังกระดูกกลางหน้าอก ส่วนใหญ่มักจะปวดไล่ตั้งแต่บริเวณระดับลิ้มปี่ไล่ขึ้นไปด้านบนขึ้นไปได้จนถึงคอ ขึ้นกับว่ากรดไหลย้อนขึ้นไปถึงระดับใด ส่วนใหญ่มักเป็นในท่านอนหงายลงไป และกินอาหารอิ่มๆ โดยเฉพาะถ้าดื่มเหล้าด้วย ซึ่งจะทำให้หูรูดดังกล่างหย่อนมากขึ้น ผมว่ากรณีนี้ยังมีสิทธิ์เป็นได้ไหม :?:
 4.โรคกระเพาะอาหารอักเสบและโรคแผลในกระเพาะอาหาร มักปวดแถวๆลิ้มปี่มากกว่าอาการส่วนใหญ่มักรู้อยู่แล้วจะไม่เล่าละเอียด
 5.โรคหัวใจ(เฮ่อ..เล่ามาตั้งนานกว่าจะมาถึง Highlight ที่เราจะกลัวและกังวลที่ซู๊ด..) สำหรับโรคหัวใจที่จะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกได้นั้นเป็นได้ตั้งแต่ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหรือ pericarditis ซึ่งอาการเจ็บคล้ายๆกับเยื่อหุ้มปอดอักเสบนั่นแหละครับคือจะเจ็บแบบเสียวแปล็บๆ และมักมีอาการไข้ปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย  และที่เราได้ยินบ่อยที่สุดก็คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน( Acute coronary syndrome) อาการเจ็บหน้าอกจากภาวะนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Angina pectoris ซึ่งจะมีอาการตามรูปแบบฉบับดังนี้ครับ Charcter of pain หรือลักษณะอาการปวดจะปวดแบบที่รู้สึกแน่นๆ อึดอัดมากหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับมารัดบริเวณหน้าอกจนรู้สึกเหมือนจะขาดใจ( Dullness heaviness very dyscomfort and breathlessness) Location หรือตำแน่งที่ปวดจะปวดบริเวณหน้าอกด้านซ้ายบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายมากที่สุด แต่ก็มีบ่อยๆที่เจ็บบริเวณหลังกระดูกกลางหนาอกที่เรียกว่า Substernal pain บางรายที่มีผนังหัวใจส่วนล่างขาดเลือดด้วยก็อาจเจ็บตรงลิ้นปี่คล้ายๆโรคกระเพาะอาหารได้ครับ   Radiation คือปวดร้าวไปที่ใด มักจะปวดร้าวจากหน้าอกด้านซ้ายไปที่คอและกรามด้านซ้าย(Jaw pain) หรืออาจร้าวไปที่สะบักด้านซ้ายหรือหัวไหล่ซ้าย Exertion related คือมักปวดเวลาออกแรง หรือเวลาที่เบ่งปัสสาวะหรืออุจจาระแรงๆ หรือเวลาโกรธเครียดจัดๆ อาการร่วมอื่นๆที่อาจพบด้วยเช่นเหงื่อแตก มือเท้าเย็น หน้าซีด จนถึงอาจเป็นลมหมดสติ ซึ่งเป็นอาการของระบบประสามอัตโณมัติถูกกระตุ้น อาการที่ผมเล่ามาเหล่านี้ถ้าเป็นตามนี้เกือบทั้งหมดก็ต้องบอกว่าเหมือน Angina pectoris มากๆ แต่บางรายก็ไม่ได้มีอาการครบตามรูปแบบฉบับก็ได้ ซึ่งเรียกว่า Angina equivalent อาการเจ็บจะไม่ชัดเจนเท่า ส่วนใหญ่มักจะเกิดในคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานและคุมไม่ดีมาเป็นเวลาหลายปีจนเกิดการชาตามปลายประสาทแล้วที่เรียกว่า Neuropathy ซึ่งถ้าเป็นคนไข้เบาหวานมาหาผมด้วยเรียกเจ็บหน้าอก ถึงแม้ว่าผมซักแล้วไม่ค่อยเหมือน Angina แต่ผมมักจะระวังไว้ก่อนและต้องตรวจ EKG แทบทุกราย  นอกจากรายละเอียดดังกล่าวแล้วการประเมิณ Risk factor for Atherosclerosis อย่างที่น้องบางกอก ว่ามานั้นก็มีความสำคัญต่อการประเมิณ Likelyhood หรือความเหมือนต่อการเป็นโรคนี้
 6.PSD(Pra-Saad-Daek) ขอโทษนะครับล้อเล่นจริงๆครับพวกเราหมอบางครั้งเครียดมากๆ ก็คุยกันเองสนุกๆครับ ถ้าเป็นตัวนี้ไม่ต้องรักษาอะไรครับ ทำใจให้สบาย ผ่อนคลายแล้วจะดีขึ้นเอง แต่ต้องแยกสาเหตุจากโรคทางกายออกไปก่อนนะครับ ห้ามเดาสุ่มว่าเป็นตัวนี้ หรือประมาทไม่ได้เด็ดขาด
  ผมฟังจากอาการที่คุณน้องเล่ามานั้น ผมว่า ถึง Likelyhood ที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันจะน้อย แต่อาการที่เล่ามาไม่สามารถสบายใจได้ 100% และถ้าเป็นจริงๆถือว่าอันตรายมากครับ ผมขอแนะนำให้คุณน้องควรรีบไปตรวจกับแพทย์ไว้ก่อนครับ Over ดีกว่า Under ครับ โดยน้องสามารถใช้ความรู้ เกี่ยวกับ อาการวิทยาและการวินนิจฉัยแยกโรคที่ผมเล่าให้ฟังนี้เป็นแนวทางในการให้ข้อมูลแก่แพทย์ได้อย่างครบถ้วน จนถึงการซักถามแพทย์ให้เข้าใจ เพราะหากเราไม่เข้าใจย่อมต้องทุกข์ใจแน่ๆ สำหรับแนวทางการตรวจวินนิจฉัย ผมคิดว่าขั้นต่ำคงต้องตรวจ EKG และ Chest X-Ray รวมไปถึงการตรวจเลือดดู Cardiac enzyme เช่น CK-MB LDH Troponin-T Troponin-I หากไม่พบอะไรอาจต้องทำ exercise stress test หรือ Echocardiogram หรือการตรวจหัวใจด้วยคลื่นอัลตราซาวน์หน่ะครับ ลองพิจารณาดูนะครับ หวังว่าที่ผมตอบมานี้คงจะเป็นประโยชน์พอจะช่วยเหลือน้องบางกอกได้บ้างไม่มากก็น้อย ท้ายนี้ขอให้มีความสุข ปลอดภัย โชคดี และขอให้อย่าเป็นเลยครับ(แต่ต้องไปตรวจก่อนนะครับ) ปล.ถ้าเป็นไปได้ต้องตรวจด้วยคุณหมอที่จบด้านอายุรกรรมทั่วไปหรือ Internist หรืออายุรแพทย์โรคหัวใจ Cardiologist จะดีที่สุด  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

สำหรับอาการที่เกิดจาการทำงานหน้าจอคอมฯ นานๆ เรียกว่า Computer vision syndrome ครับ การรักษา เนื่องจากเกิดจากล้ามเนื้อต่างๆบริเวณคอไหล่และกล้ามเนื้อควบคุมการกลอกลูกตารวมถึงการปรับความชัดของสายตาเวลาดูใกล้ๆ อ่อนล้าจาการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เราจะต้องรู้จักผ่อนคลาย หยุดพักสายตาเป็นระยะๆ ระหว่างทำงานไม่ควรเพลินจนลืม อย่างน้อยควรพักทุกๆ ครึ่งถึง หนึ่งชั่วโมง อาจหลับตา ทำสมาธิผ่อนคลาย เอนพิงหลังสบายๆ หรืออาจฟังเพลงเบาๆที่มีจังหวะผ่อนคลาย หรือการมองอกไปนอกหน้าต่างมองวิวสวยๆ หรือมองต้นไม้สีเขียว ก็จะช่วยได้ การฝึกเกร็งกล้ามเนื้อส่วนลูกตา(โดยเพ่งปลายปากกาแล้วเคลื่อนปากกาเข้ามาใกล้จมูกแล้วค้างไว้ 5นาที)  กล้ามนเนื้อคอ ไหล่สบัก จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ไม่ล้าง่าย
  อาการดังกล่าวสาเหตุเกิดจาก Overused หากไม่ระวังอาจกลายเป็นโรคกระดูกต้นคอเสื่อมแล้วพานชามือและแขนไปเลย อาจต้องไปดึงกระดูกคอเลย นอกจานั้นการทำงานหน้าจอคอมฯ ซึ่งมีแสงกระพิบความถี่สูงอาจกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ ในคนที่เป็นโรคลมชักหรือลมบ้าหมู อาจกระตุ้นให้กำเริบได้ ขอให้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ โชคดีทุกคนครับ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

(โดยเพ่งปลายปากกาแล้วเคลื่อนปากกาเข้ามาใกล้จมูกแล้วค้างไว้ 5นาที)
ขอแก้นิดครับ แค่ 5วินาทีครับ :o
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

[quote="drchatri"]สำหรับอาการที่เกิดจาการทำงานหน้าจอคอมฯ นานๆ เรียกว่า Computer vision syndrome ครับ การรักษา เนื่องจากเกิดจากล้ามเนื้อต่างๆบริเวณคอไหล่และกล้ามเนื้อควบคุมการกลอกลูกตารวมถึงการปรับความชัดของสายตาเวลาดูใกล้ๆ อ่อนล้าจาการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เราจะต้องรู้จักผ่อนคลาย หยุดพักสายตาเป็นระยะๆ ระหว่างทำงานไม่ควรเพลินจนลืม อย่างน้อยควรพักทุกๆ ครึ่งถึง หนึ่งชั่วโมง อาจหลับตา ทำสมาธิผ่อนคลาย เอนพิงหลังสบายๆ หรืออาจฟังเพลงเบาๆที่มีจังหวะผ่อนคลาย หรือการมองอกไปนอกหน้าต่างมองวิวสวยๆ หรือมองต้นไม้สีเขียว ก็จะช่วยได้ การฝึกเกร็งกล้ามเนื้อส่วนลูกตา(โดยเพ่งปลายปากกาแล้วเคลื่อนปากกาเข้ามาใกล้จมูกแล้วค้างไว้ 5นาที)
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอแก้อันนี้ด้วยครับ
1.กล้ามเนื้อกระดูกซี่โครงและกระดูกซี่โครงอ่อน( Myofascial pain and costrondritis)
costrochondritis ครับ  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ไม่เป็นไรครับยินดีมากๆครับที่ได้รับใช้พี่ๆน้องๆและเพื่อนๆชาวVI ทุกคท่านครับ    :D
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบพระคุณ พี่หมอชาตรี มากๆครับ ที่ผม รบกวนเวลา

ผมยังไม่ได้ไปหาหมอ และ เมื่อคืน ไม่มีอาการเจ็บครับ
แต่กว่าจะหลับได้นั้น ทรมานมากครับ เพราะคิดฟุ้งซ่าน กลัวต่างๆนาๆ

เมื่อคืนก่อน ที่เจ็บหน้าอก ได้นอนแค่ 3 ชั่วโมง เมื่อวานก็ง่วง และเพลียมาก กลางคืนเข้านอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม แต่กว่าจะหลับ ก็เกือบๆ 5ทุ่มได้ ทั้งๆที่ปกติ ผมเป็นคนหลับง่าย

จริงๆ ก็อยากไปหาหมอ ขอยาคลายเครียด หรือยานอนหลับมากินด้วยซ้ำ

ลูกชายก็วัยกำลังซน จะ 3 ขวบ ก็กวนการพักผ่อนบ้าง

ถ้ามีอาการอีก คงจะรีบไปหาหมอทันทีครับ

โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ นี่ไม่เกี่ยวกับ เส้นเลือดตีบ ใช่ไหมครับ ผมอ่านดูมันก็เข้าเค้าอยู่ เพราะเมื่อวานผมเพลียๆ แล้วก็ปวดๆกล้ามเนื้อต้นขา นิดหน่อยด้วยครับ
โรคนี้อันตราย มาก-น้อยแค่ไหนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

[quote="drchatri"]
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ( pericarditis) สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากติดเชื้อไวรัส แต่อาจมีเชื้ออื่นๆได้อีกเช่น เชื้อแบคทีเรียเชื้อวัณโรค เชื้อรา และมีสาเหตุจากโรคที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อได้อีกครับเช่น เป็นโรค SLE ซึ่งเป็นโรคกลุ่ม Autoimmune disease แต่หลักๆอาการจะคล้ายๆกัน เนื่องจากมีกระบวนการอักเสบอยู่จึงจะมีอาการต่างๆเหมือนคนเป็นไข้ เช่นปวดกล้ามเนื้อปวดเมื่อยตามตัว อาจมีไข้ได้ อาการเจ็บหน้าอกมักเป็นเจ็บแบบเสียวแป๊บๆ ที่หน้าอกด้านซ้ายแต่ต้องเป็นต่อเนื่องไม่ใช่เป็นๆหายๆ และมักจะมี อาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะ(Arrhythmnia) ร่วมด้วยที่พบบ่อยคือชนิด AF ซึ่งจะมีอาการใจสั่นใจกระตุก เวลาไปตรวจร่างกายและ EKG สามารถวินิจฉัยได้ไม่ยาก และส่วนใหญ่มักจะรู้สึกเหนื่อยง่ายด้วย แต่ถ้าอาการไม่มากไม่ชัดเจนนักเป็นๆหาย อย่างผมเองก็เคยเป็นครับอย่างที่น้องบางกอกเล่ามาอาจเป็นได้ครับที่เราพักผ่อนน้อยเกินไป จนกล้ามเนื้อมันล้า หรือบางครั้งก็มีอาการเสียวจี๊ดหน้าอกแปล๊บขึ้นมา 2-3ทีโดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีอาการอื่น ก็หายไปเอง จนบางครั้งขนาดผมเป็นหมอเอง รู้อาการต่างๆเป็นอย่างดียังเกิดวิตกจริตเป็นโรค PSD-Psychritic Sensation Disease (Pra-Saad-Daek) อย่างว่านี้ไม่ได้หมือนกันครับ ก็หวังว่าน้องบางกอกยังสบายดีอยู่ และขอให้ไม่เป็นอะไรเลยครับ อยู่ไกลบ้านไกลเมือง แต่เราก้อบอุ่นได้ด้วยเวบนี้นะครับ มีอะไรไม่ต้องเกรงใจ ยินดีรับใช้ครับ :D
Mr. Boo
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1841
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ต้องขอออกตัวว่าไม่ใช่หมอ

underlying stress เป็นคำของผมเองที่หมายถึง เครียด หรือ กังวล โดยไม่รู้ตัว ทำให้เป็นโรคต่างๆโดยไม่ทราบสาเหตุ

เรื่องออกกำลังช่วยผมไว้เยอะช่วง Crisis ปี ๔๐-๔๑ ทำให้หันเหไปเรื่องอื่นๆได้บ้าง ไม่กังวลจนคลั่ง พอมีสมาธิและกำลังใจแก้ปัญหาได้บ้าง

ฮอร์โมนที่หลั่งตอนexerciseเหมือนสารเสพติด ออกแล้วเหนื่อยแต่สบาย fit fit
Rabbit VS. Turtle
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

drchatri เขียน: ก็หวังว่าน้องบางกอกยังสบายดีอยู่ และขอให้ไม่เป็นอะไรเลยครับ อยู่ไกลบ้านไกลเมือง แต่เราก้อบอุ่นได้ด้วยเวบนี้นะครับ มีอะไรไม่ต้องเกรงใจ ยินดีรับใช้ครับ :D
อ่านแล้ว ซี้งครับ อบอุ่นใจดีเหลือเกิน
ครั้งที่แล้ว ตอนเป็นตับอักเสบ ไปนอนสับสนใน รพ.อยู่ 3 คืน
ก็ได้ติดต่อ พี่เจ๋ง ช่วยแนะนำ คุณหมอเฉพาะทางให้ปรึกษา ทำให้เข้าใจ สบายใจขึ้นมากๆ

แต่อย่างว่าครับ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง จะงานดี เงินดี ยังไงก็สู้บ้านเราไม่ได้ (แต่ช่วงผมกลับไปรักษา รพ.เอกชน ก็อึ้ง คชจ.เหมือนกันนะ) ยิ่งตอนป่วยนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย  อยากให้ที่นี่มีหมอคนไทยเหลือเกิน


ขอ update อาการผมต่อนะครับ ตอนกลางวันวันนี้ ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บหน้าอกอะไร แต่จะรู้สึก ล้าๆ เริ่มจากใต้รักแร้ข้างซ้าย ไปถึงต้นแขนด้านใน เหมือนปวดเมื่อยกล้ามเนื้อนะครับ บีบๆดู ก็ไม่หาย บางทีก็ล้าไปถึงหัวไหล่ด้านนอก  และหลังบ่า เฉพาะด้านซ้าย ไม่รู้ว่าจะเกิดจากท่าการนอนหรือเปล่า

พุดถึง อาการเจ็บหน้าอก ที่เล่ามาก่อนหน้า จริงๆมันก็ไม่ได้เจ็บมากนะครับ แต่มันรู้สึกเจ็บ ขัดๆ ด้านในทรวงอก ซึ่งมันไม่ใช่ที่ ที่ควรจะรู้สึกเจ็บ ผมเลยเป็นกังวลมากๆ แต่มันก็แปลกๆ เพราะมันจะเป็นเฉพาะ ตอนนอน ไม่รู้ว่า เวลากังวล ไม่ยอมหลับ จิตใจไปจดจ่อกับบริเวณนั้น มากไปหรือเปล่า

จะไปอธิบายกับหมอที่นี่ ก็กลัวอธิบายไม่เข้าใจกัน แต่ถ้ารู้สึกแปลกๆอีก คงต้องไปหาหมอแน่นอนครับ

วันนี้ ผมลองไปเดินออกกำลังกาย ช่วงเย็น ก็รู้สึก active ขึ้นหลังจากที่ นั่งๆ นอนๆ หลังจากเป็นตับอักเสบ อยู่ 1 เดือนเต็มๆ เพราะหมอไม่ให้ออกกำลัง ไม่รู้จะเป็นสาเหตุนึงหรือเปล่า ที่ทำให้กล้ามเนื้อล้า

ขอให้พรของพี่หมอชาตรี เป็นจริง และขอเน้นให้ พี่ๆน้องๆ ชาว TVI รักษาสุขภาพ กันมากๆนะครับ ขออย่าให้มีโรคภัยไข้เจ็บกันเลย ถึงมีเงินมากแค่ไหน ไม่คุ้มจริงๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
chansaiw
Verified User
โพสต์: 703
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ก่อนอื่น ขอให้ไม่ใช่โรคร้ายแรงนะครับ

ผมเคยเจอคนไข้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน มาด้วยเจ็บหน้าอกเนี่ยละครับ

อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยเจอเลย 38 ครับ

ไม่ทราบสาเหตุ เลยครับคนนี้ แต่ clinical นั้นน่าสงสัยมากๆ

คือเจ็บหน้าอกมากขณะออกเเรง เจ็บอย่างมากประมาณ ครึ่งชม.

สุดท้ายจำไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง

ไม่มีอะไร 100% ในmedicine หรอกครับถ้าสงสัยตรวจเถอะครับ

อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะครับ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยทีเดียว

เกือบลืมทักทายพี่ชาตรี ช่วงนี้ทองเป็นไงบ้างครับพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

หวัดดีน้อง Chansaiw ราคาทองนี้เท่าที่ติดตามดูยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แบบ Sideway ประมาณ 545-560 ดอล สหร.ครับ ราคาเป็นบาท ในเดือนนี้ที่ลงต่ำสุดก็ 10,150บ.ครับไม่ได้เข้าซื้อ ราคาก็ขึ้นไปอีกแล้ว เพราะยังกะรอดูจังหวะอยู่ครับ อยากได้แถวๆ 10,000+/-50บ. ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า ช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นก็มีผลให้ราคาทองเป็นเงินบาทถูกลงแค่ 50บ.เอง กำลังจดๆจ้องๆอยู่ครับไม่ได้ "ลงสนามเสียที"
  น้องบางกอกครับ ผมฟังดูแล้วถ้าเป็นอย่างที่เล่ามา น่าจะเป็นแค่ Myofascial pain จากกล้ามเนื้อมากกว่านะครับ ส่วนที่กังวลลองปรึกษา "หลวงพี่เจ๋ง" ซิครับท่านเชี่ยวชาญเรื่องการทำสมาธิทำจิตให้สงบหน่ะครับ ผมเคยทำครับ ช่วยได้แน่นอน ยิ่งน้องเป็นตับอักเสบอยู่ไม่ควรกินยามากโดยไม่จำเป็นครับ แต่อย่างที่น้อง "ชาญศัยว์" ว่าๆไม่มีอะไรแน่นอนครับ ถ้ายังไงตอนไปตรวจสุขภาพก็ลองให้หมอเขาตรวจดูนะครับ
  เอ่อ..แล้วที่น้องเป็นตับอักเสบนี่ คุณหมอบอกเป็นสามเหตุจากอะไรหล่ะครับ ถ้าเป็นจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ HAVก็ไม่เป็นอะไร พักผ่อนมากๆ ควรงดออกกำลังกายแบบหักโหมอย่างน้อย 3เดือนเลยครับ แต่สามารถเดินเหินออกกำลังกายเบาๆได้ครับ ห้ามนอนดึก ต้องนอนให้พอในแต่ละวัน ไม่จำเป็นต้องกินน้ำหวานมากเกินกว่าปรกติอย่างที่เขาชอบพูดกันครับ แต่อาจทานอาหารที่มีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นบ้าง ทานอาหารประเภท ไขมันให้น้อยลง เนื้อสัตว์ทานได้ตามปรกติ แต่อย่ากินเสต๊กเป็นชามก็แล้วกัน..พอดีหมดเวลาพักเที่ยงเดี๋ยวค่อยมาว่ากันต่อเรื่องตับอักเสบจากสาเหตุอื่นนะครับ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

มาต่อกันเลยนะครับเรื่องตับอักเสบ เรื่อการออกกำลังกายถ้าเริ่มฟื้นตัวแล้วไม่ต้องกังวลมากนะครับ ไม่ห้าม(ส่วนใหญ่ 2 สัปดาห์แรกจะไม่อยากออกอยู่แล้วเพราะจะเพลียมาก แต่หลังจากนั้นควรออกกำลังกายที่ไม่หักโหมเช่นการเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ เล่นปิงปอง แม้แต่การเล่นเทนนิส ว่ายน้ำก็ไม่ห้ามนะครับ
 เรื่องการพักผ่อนต้องพักเพียงพอ แต่ไม่ต้องถึงกับนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ถ้าสามารถเข้าห้องน้ำได้ นั่งทำงานหรืออ่านหนังสืออยู่กับบ้านก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะ 2สัปดาห์แรกควรที่จะอยู่บ้านเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ และมักแนะนำให้นอนกลางวันด้วย แต่หลังจากนั้นทำงานได้ตามปกติเลยครับ
  เรื่องการติดต่อนั้นเชื้อไวรัสตับอักเสบจะติดทาง Fecal-Oral route คือมักจะติดเชื้อมากจาการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อที่ไม่ได้ทำให้สุกเสียก่อน ที่พบมากคือ ส้มตำปู และหอยนางรมลวกสุกๆดิบๆ เพราะสัตว์พวกนี้จะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจาการขับถ่ายอุจจาระที่ไม่ถูกสุขลักษณะ( เชื้อจะออกมาทางอุจจาระลงไปปนเปื้อนในแหล่งน้ำ) ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการกินอาหารที่ปรุงสุกถูกสุขลักษณะ ส่วนประเด็นว่าจะต้องแยกแก้วน้ำจานชามช้อนภาชนะอาหารกับคนในบ้านหรือไม่ อันนี้ไม่มีความจำเป็นครับเนื่องจากการติดต่อระหว่างคนกันเองแทบไม่มีเลย สามรถกินข้าวร่วมสำรับกันได้ เพียงแต่ให้รักษาสุขลักษณะอนามัยทั่วๆไปครับ เช่นการล้างมือก่อนทานอาหารการใช้ช้อนกลาง
  เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยส่วนใหญ่ช่วงที่ป่วยเพลียจัดๆมักจะกินอาหารมื้อเช้าได้มากกว่ามื้ออื่นๆครับ และมักจะกินมื้อเย็นได้น้อย และท้องจะอืดดังนั้นควรกินอาหารมื้อเช้าให้มากขึ้นชดเชยตอนเย็น
  ยาที่ใช้รักษายังไม่มีการศึกษาใดๆที่รับรองครับโดยทั่วไปอาจกินวิตามินบ้างหรือไม่กินก็ได้ อาการต่างๆจะค่อยๆทุเลาไปเอง
 Post-hepatitis syndrome อันนี้ในผู้ป่วยบางรายที่หายจากโรคแล้วมีบางคนอาจจะมีอาการเพลีย ทำอะไรก็เหนื่อยง่ายทั้งๆที่ผล enzyme SGOT SGPT ก็เป็นปกติแล้ว อาการเหล่านี้อธิบายไม่ได้และไม่ทราบสาเหตุครับ อาจเกิดเนื่องจากจิตใจก็ได้ (ไม่รู้ว่าน้องบางกอกเป็นรึเปล่า)
 สุดท้ายเรื่องการฉีดวัคซีน จริงๆแล้วปัจจุบันมีวัคซีนที่ฉีดป้องกันได้ครับทั้งแบบ Passive immunization(ฉีดแล้วต้องรอภูมิขึ้นอย่างช้าก็ราว 4สัปดาห์ ฉีดแล้วสามารถคุ้มครองได้อย่างน้อย 7ปีหรือมากกว่านั้น) และแบบ Active immunization (Immunoglobulin ซึ่งจะมีผลป้องกันได้ทันทีหลังฉีด แต่ฤทธิ์ป้องกันสั้นๆ เพียง 3-6เดือนต้องฉีดซ้ำ ส่วนมากใช้สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในพืนที่ที่มีเชื้อมากแล้วมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในดงของเชื้อช่วงสั้นๆแล้วออกมา(สำหรับไทยถือเป็น Endemic area อยู่แล้ว)
  สำหรับเรื่องไวรัสตับอักเสบ บีHBV และ ซีHCV โดยหลักต่างๆจะคล้ายกับ เอ แต่แตกต่างกันที่ติดต่อไม่เหมือนกันคือจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือดและเข็มฉีดยาร่วมกัน และการได้รับเลือดที่ปนเปื้นเชื้อ(จำง่ายๆ ติดเหมือน HIV) ดังนั้นควรงดร่วมเพศชั่วคราว และไม่ควรใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันร่วมกัน จนกว่าอาการจะหาย และตรวจไม่พบ HBsAg ในเลือดแล้ว
   นอกจากนี้ข้อแตกต่างกันอีกอย่างคือ  ไวรัสเอไม่มีตับอักเสบแบบเรื้อรังเป็นแล้วหายเลย จบเลย แต่ไวรัสบีและซีอาจมีบางคนที่กลายเป็นพาหะคือหลังอาการตับอักเสบหายแล้วยังมีเชื้ออยู่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ และอาจกลายเป็นตับอักเสบชนิดเรื้อรังได้ และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งถ้าเป็นพาหะไปแล้วก็ต้องติดตามการรักษาต่อเนื่องกับแพทย์ และห้ามดื่มสุราเด็ดขาด ไม่ควรกินถั่วลิสงและพริกป่นซึ่งอาจปนเปื้อนสาร Aflatoxin ซึ่งจะทำให้เป็นมะเร็งตับมากขึ้น
 สาเหตุอื่นๆของตับอักเสบอาจไม่ใช่จากการติดเชื้อ แต่อาจเป็นจายาบางชนิดและสารพิษต่างๆก็ได้ครับ หวังว่าคงได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ :wink:
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

เรียนพี่หมอ ชาตรี   เรื่องตับอักเสบ หาสาเหตุไม่ได้ ไม่ได้เกิดจากไวรัสครับ ตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง ทั้ง ที่นี่ ที่เมืองไทย แล้วกลับมาตรวจอีกรอบ ไม่เจอทั้ง ไวรัส เอ, บี และซี (ผมมีภูมิคุ้มกัน ของไวรัสบี อยู่นานแล้ว) คราวนี้ เลยฉีด วัคซีนไวรัส เอมาด้วย

หมอที่เมืองไทย ตรวจละเอียด หาเชื้ออื่นๆอีก พวกเชื้อเริมและอีกหลายตัว แม้กระทั่งไปตรวจดูในตา กับ จักษุแพทย์  แต่ก้ไม่พบเชื้ออะไรครับ

จริงๆ ตอนแรกผมไม่มีอาการอะไรมากเลย ก่อนวาเลนไทน์ 1 วัน ตอนเช้าปัสสาวะเป็นสีชานม ครั้งนึง ตอนเย็นเลยไปหาหมอ ตรวจเลือด ได้ค่า SGPT กับ SGOT อยู่ที่ 1905 และ 667 u/l เท่านั้นแหละ ที่คลีนิคโทรมาที่บ้าน บอกให้ admit คืนนั้นเลย อดน้ำ-
อาหาร รุ่งขึ้นตรวจเลือดใหม่  ค่าขึ้นไปอีก ที่ 2142 และ 1133 u/l
ผมมารู้ทีหลังว่า ตับอักเสบนี่ก็อันตรายถึงชีวิตได้ นับว่าช่วงนั้นผมก็เข้าใกล้พอสมควร

(หมายเหตุ: ค่าปกติ SGPT ไม่เกิน 50 u/l และ SGOT ไม่เกิน 36 u/l)

จากนั้น 2-3 วันก็กลับเมืองไทย ตรวจใหม่ นอนพักอีก 2 อาทิตย์ ค่าก็ลงมาเรื่อยๆ ปลายเดือน เหลือ 198 และ 67 u/l หมอเลยให้ไปทำงานได้ และนัดมา follow-up ผลเลือดอีกที ปลายเดือนนี้ครับ

ส่วนเรื่อง เจ็บหน้าอก ผมรู้สึกว่า อาการดีขึ้น มันจะรู้สึกแค่ขัดยอกกล้ามเนื้อบริเวณ หน้าอก ต้นแขน หลัง บางช่วงเวลาเท่านั้น
แต่ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร ตอนนอนก็ไม่รู้สึกอะไรมากแล้วครับ
แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้ในบางครั้ง

ขอขอบพระคุณ พี่หมอชาตรีอย่างสูงจริงๆ แม้เวลาพักก็ยังแวะเข้ามาตอบ ถ้ามีโอกาสกลับเมืองไทย (คงเป็นต้นปีหน้า) จะขอแวะไปคารวะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
drchatri
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ไม่เป็นไรครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่งคุยกับพี่ๆน้องๆในนี้อบอุ่นและสนุกมากครับ  ได้มีเพื่อนหลากหลายอาชีพและประสบการณ์มาก  และเท่าที่ผมเข้าเวบนี้มาราว 3-4เดือนมานี้รู้สึกว่าเวบนี้จะค่อนข้างปัญญาชนถ้อยทีถ้อยอาศัย มีน้ำใจเอื้ออาทรดีเหลือเกินไม่เหมือนบางเวบครับมีแต่มลพิษ  ต้องยกความดีให้กับทีม Staff เลยครับเนี่ยที่ให้เราได้มีสังคมดีๆแบบนี้ไว้พบปะสังสรรค์กันได้ทุกวัน :D
ssaran
Verified User
โพสต์: 342
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ขอให้หายไวๆๆนะครับ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

เรียนคุณหมอใน TVI ปรึกษาปัญหาสุขภาพ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ไว้มีเรื่องกังวลเรื่องสุขภาพจะมาปรึกษาบ้างนะครับ

ดีจัง เหมือนมีหมอประจำตัว

ขอบคุณล่วงหน้าไว้ก่อนครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
โพสต์โพสต์