ถึงเวลาต้องแยกห้องการเมืองรึยังครับ

[Stock Broker]

สงสารคนที่ไม่อยากอ่านกระทู้การเมืองครับ

[Jeng]

ดีเหมือนกันครับ

[ปรัชญา]

ผู้คนให้ความสนใจ

มาร่วมออกเสียง

ตั้งห้องการเมือง

ตามท่านFinancial Engineer  แน่นำครับ

คณะกรรมการบริหารเวปไทยวิ 8)

[ShexShy]

อืม ...
ผมคิดว่ายังไม่น่านะครับ เพราะ เท่าที่ดู ๆ การคุยกันเรื่องการเมือง เห็นจะเยอะกันเฉพาะ ช่วงนี้ครับ (ก่อนหน้านี้ 3-4 เดือน ไม่เห็นเยอะเท่าไรนัก) เพราะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่แทบทุกคนสนใจเรื่องการเมืองเป็นพิเศษ และ ไม่ค่อยเห็นสนใจเรื่องอิ่น แต่ในอนาคต ก็อาจจะไม่มีใครสนใจก็ได้ครับ

ก็อาจจะมีอะไรต่อท้ายว่า กระทู้นี้เกี่ยวกับการเมืองครับ คนที่ไม่อยากอ่านก็จะได้ไม่เข้ามา

ผมเองก็กลัวว่า ถ้าอยากจะคุยเรื่อง อื่น ๆ แต่เนื่อหาน่าจะคาบเกี่ยวกัน ก็ไม่รู้จะ post ที่ห้องใหนดี ก็จะแยกห้องลำบาก

ขอเป็นฝ่ายค้านแล้วกันนะครับ

[Stock Broker]

อืม ...
ผมคิดว่ายังไม่น่านะครับ เพราะ เท่าที่ดู ๆ การคุยกันเรื่องการเมือง เห็นจะเยอะกันเฉพาะ ช่วงนี้ครับ (ก่อนหน้านี้ 3-4 เดือน ไม่เห็นเยอะเท่าไรนัก) เพราะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่แทบทุกคนสนใจเรื่องการเมืองเป็นพิเศษ และ ไม่ค่อยเห็นสนใจเรื่องอิ่น แต่ในอนาคต ก็อาจจะไม่มีใครสนใจก็ได้ครับ

แสดงว่า คุณ ShexShy เห็นว่ากระแสต่อต้านจะจบลงเร็วสิครับ หลังจากนั้นจะกลับไปราบรื่นใหม่ ถึงจะไม่มีใครมาตั้งกระทู้มากๆ ในอนาคต

หวังให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับ

[คัดท้าย]

ผมขอไม่เห็นด้วยในการแยกครับ

คืองี้ครับ ผมย้อนอดีตให้ฟังนิด

ตอนแรก อาจจำกันไม่ได้ ว่าเรามีหลายห้องมาก แต่คนไม่ยอมไปโพสในห้องที่กำหนด ซึ่งก็สร้างปัญหากัน เพราะเอาทุกอย่างไปโพสกันในห้องรวมหุ้น

ช่วงนั้นผมเลยเสนอให้ยุบห้อง เหลือห้องเดียว เพราะว่าคนที่โพส ก็ต้องการให้คนเข้าไปอ่าน และ พอไม่มีคนอ่าน เงียบเหมือนป่าช้า ก็เลยไปโพสห้องรวมหุ้นกัน

ถ้าเรากระจายอีก Traffic ตก ไม่มีคนอ่าน ผมว่าเดี๋ยวมันก็กลับไปเหมือนเดิมอีกอะครับ

ทุกวันนี้ผมโพสเรื่องอื่น เช่น Rotiboy หรือหลายๆท่านโพสเรื่องชา คนก็อ่านนะ การเมืองผมก็ว่ามันช่วยสร้าง Traffic ก็ ok แล้วอาจจะเวียนหัวมั่ง แต่ผมว่ามันทำให้คนมาอ่านห้องนี้ ก็ดีครับ

ถ้าคิดว่าการเมืองมากไป ก็ลองโพสเรื่องอื่นๆกันมั่งครับผม

[ShexShy]

แสดงว่า คุณ ShexShy เห็นว่ากระแสต่อต้านจะจบลงเร็วสิครับ หลังจากนั้นจะกลับไปราบรื่นใหม่ ถึงจะไม่มีใครมาตั้งกระทู้มากๆ ในอนาคต

หวังให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับ

ผมเห็นว่าเรื่องต่อต้าน ก็ยังมีอยู่  และผมเชื่อว่า การต่อต้าน ก็จะขยายวงมากขึ้น จนกว่ารัฐบาล จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกศรัทธาคืนมา แต่วิธีการในการต่อต้านเปลี่ยนไปครับ
เพราะ มันมีทางออกมากขึ้น เช่น ร่วมลงชื่อถอดถอน, ให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ เป็นต้น
ความรุนแรงก็จะน้อยลง

แต่ต้องระวังครับ ถ้าการร่วมลงชื่อ การส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความไม่ได้รับการตอบรับ
ความรุนแรงก็จะกลับมาอีก เพราะ ทางออกถูกปิด

เพราะฉะนั้น วิธีการที่จะสงบได้อย่างเข้าใจทั้งสองฝ่าย อย่างสันติ คือ ให้ท่านนายกถูกตรวจสอบ โดยองค์กรอิสระจริง ๆ (ทั้งสองฝ่ายยอมรับ)

ถึงแม้ผลที่ออกมาอาจจะมีขี้แพ้ชวนตีบ้าง แต่ก็หาแนวร่วมได้น้อยลง

ความรุนแรงที่น้อยลง กระแสกระทู้เรื่องการเมืองก็น้อยตามครับ

[thaistock2005]

ไม่น่าแยกครับ
หลายห้องเกินไปก็ไม่ดีครับ