copy มาจากสินธรอีกที สรุปว่ายังไงทั้งหมดก็ต้องส่งคืนรัฐเมื่อหมดสัมปทาน ผิดหรือเปล่าผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ feeling ที่ทางสนธิสร้างคือ ทุกอย่างต่างชาติยึดไปแล้ว แต่ความจริงมันเป็นการเช่าและต้องให้ทุกอย่างกับทางรัฐเมื่อหมดสัมปทาน
กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ICT ยืนยัน การขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ใช่การขายสมบัติชาติ
จากกรณีที่มีความพยายามจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้คนในสังคม โดยนำประเด็นการขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) จำกัด ให้กับกองทุนเทมาเส็กมาบิดเบือนว่า เป็นการขายทรัพยากรและสมบัติของประเทศชาติ โดยเฉพาะในส่วนคลื่นความถี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม ซึ่งสร้างความสับสนเป็นอย่างมากให้ผู้คนในสังคมนั้น นายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชี้แจงว่า การดำเนินการกิจการโทรคมนาคมทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการบนหลักการของสัญญา BTO (Build Transfer and Operate) กล่าวคือ คลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือ และ
ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม เป็นสมบัติของประเทศชาติมาโดยตลอด บริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น AIS, TT&T(Fixed Line), True Move(Fixed Line) ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท ทีโอที (มหาชน) จำกัด และ DTAC, True Move, DPC ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ บริษัท กสท
โทรคมนาคม (มหาชน) จำกัด และบริษัท ชินแซทเทิลไลท์ (มหาชน) จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ลงทุนแล้วส่งมอบทรัพย์สินเหล่านั้น ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐในทันที โดยเอกชนผู้ลงทุนเหล่านั้น ได้รับสัมปทานสิทธิ์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ลงทุนเหล่านั้น แทนรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขในสัญญาร่วมการงาน โดยต้องนำส่งส่วนแบ่งรายได้ และเสียภาษี ให้กับรัฐบาลตลอดอายุสัมปทาน ซึ่งรัฐบาลนอกจากจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในคลื่นความถี่และ
ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมแล้ว ยังได้รับผลตอบแทน ซึ่งประกอบด้วย มูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนตามสัญญาทั้งหมด ส่วนแบ่งรายได้ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน ภาษีสรรพสามิตและภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่วนสัญญาร่วมการงานกับบริษัท ทีโอที (มหาชน) จำกัดนั้น นายคณวัฒน์ กล่าวว่า AIS สินทรัพย์ตามสัญญามีมูลค่ารวม 129,006 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ถึง ก.ย.48 จำนวน 71,404 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต จำนวน 20,313 ล้านบาท รวมผลประโยชน์ทั้งหมด 220,723 ล้านบาท ขณะที่ TT&T สินทรัพย์ตามสัญญามูลค่า 47,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ จำนวน
77,150 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 510 ล้านบาท รวม 94,660 ล้านบาท ในส่วนของ True สินทรัพย์ตามสัญญามีมูลค่า 86,829 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ จำนวน 26,000 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 1,100 ล้านบาท รวม 113,929 ล้านบาท
สำหรับสัญญาร่วมการงานกับบริษัท กสท. โทรคมนาคม (มหาชน) จำกัด นั้น DTAC สินทรัพย์ตามสัญญามูลค่า 67,673 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ ๒๓,๒๔๓ ล้านบาท สรรพสามิต 3,665 ล้านบาท รวม 94,581 ล้านบาท True Move สินทรัพย์ตามสัญญามูลค่า 22,460 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 3,328 ล้านบาท สรรพสามิต 1,588 ล้านบาท รวม 27,376 ล้านบาท ขณะที่ DPC ทรัพย์สินตามสัญญามูลค่า 14,360 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 3,572 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 10,007 ล้านบาท รวม 27,939 ล้านบาท
สำหรับสัญญาร่วมการงานดาวเทียม ทรัพย์สินตามเงินลงทุนมีมูลค่า 28,595 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 3,332 ล้านบาท รวม 31,927 ล้านบาท รวมมูลค่าผลตอบแทนที่กล่าวมาทั้งหมด ๖๑๑,๑๓๕ ล้านบาท
นายคณวัฒน์ ยังชี้แจงอีกว่า การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตามไม่มีผลให้เงื่อนไขในสัญญาร่วมการงานเปลี่ยนไป บริษัทเอกชนซึ่งเป็นนิติบุคคลไทยตามสัญญายังคงต้องปฏิบัติการเงื่อนไขสัญญาร่วมการฉบับเดิมอย่างเคร่งครัด โดยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งคลื่นความถี่ และตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมเป็นของรัฐมาโดยตลอดไม่มีใครจะเอาไปได้
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์