(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 1
สงสัยนานแล้วครับ อันไหนใช้กับอะไร ยังไง
{
(C) = copyright
(R) = Registered
(TM) = Trade Mark
}
{
(C) = copyright
(R) = Registered
(TM) = Trade Mark
}
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 2
เท่าที่รู้มานะครับ ไม่ชัวร์ 100 เปอร์เซนต์
Copyright คือลิขสิทธิ์ ใช้กับงานสร้างสรรทุกประเภท ได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างขึ้นโดยไม่ต้องจดทะเบียน
Trademark คือเครื่องหมายการค้า ได้แก่ คำ หรือรูปภาพ ที่แสดงความเป็นตัวตน เป็น subset ของลิขสิทธิ์ชนิดหนึ่ง
Registered Trademark คือ Trademark ที่ได้จดทะเบียนไว้กับ U.S.Patent แล้ว (จดหรือไม่จดก็ได้แต่จดแล้วจะดีกว่าเพราะมีหลักฐานในชั้นศาล)
Copyright คือลิขสิทธิ์ ใช้กับงานสร้างสรรทุกประเภท ได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างขึ้นโดยไม่ต้องจดทะเบียน
Trademark คือเครื่องหมายการค้า ได้แก่ คำ หรือรูปภาพ ที่แสดงความเป็นตัวตน เป็น subset ของลิขสิทธิ์ชนิดหนึ่ง
Registered Trademark คือ Trademark ที่ได้จดทะเบียนไว้กับ U.S.Patent แล้ว (จดหรือไม่จดก็ได้แต่จดแล้วจะดีกว่าเพราะมีหลักฐานในชั้นศาล)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 3
ประมาณนั้นแหละครับ
จริงๆ แล้ว Trademark ไม่เกี่ยวอะไรกับ Copyright
และ Registered Trademark ไม่เกี่ยวอะไรกับ Patent
แต่มักจะใช้คู่กัน
TM และ (R) ใช้กับชื่อเฉพาะครับ เช่น Intel หรือ Microsoft Excel
ส่วนลิขสิทธิ์หมายถึงความคุ้มครองในงานประเภทวรรณกรรมและ software
Microsoft Excel ที่เป็น software ได้รับความคุ้มครองจากลิขสิทธิ์
ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรก็ตาม ก็ยังได้รับความคุ้มครองทางลิขสิทธิ์
ส่วน Microsoft เป็น Registered Trademark
หมายความว่า คุณไม่สามารถสร้างสินค้าชื่อ Microsoft ได้
เพราะเขาฟ้องคุณได้ (จดทะเบียนไว้แล้วทุกประเทศทั่วโลก)
Excel เป็น Trademark เฉยๆ คุณจะสร้างสินค้าใหม่ชื่อ Excel
ก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าไปสร้าง spreadsheet ชื่อ Excel
ก็มีเหตุพอให้ microsoft เขาฟ้อง ว่าตั้งใจทำให้ผู้บริโภค "เข้าใจผิด"
Patent คือสิทธิบัตร ซึ่งความคุ้มครองจะแตกต่างกับลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์นั้น ไม่ต้องจดทะเบียนใดๆ คุณเขียนงานอะไรขึ้นมาหนึ่งอย่าง
เขียนโปรแกรม หรือถ่ายรูป งานนั้นจะได้รับ copyright โดยอัตโนมัติ
งาน copyright จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะตัวมันเอง เช่น
โปรแกรม Excel ถ้าเราไป copy โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ผิดกฎหมาย
ถ้าเราเขียนเอง มี function เหมือนกันเปี๊ยบ จะไม่ผิด
(แต่ถ้าใช้ชื่อ Excel จะไปละเมิดเรื่อง Trademark แทน งงไหม)
การจะพิสูจน์อย่างไรว่า ใครเป็นเจ้าของ copyright ถ้ามีคดีความเกิดขึ้น
ก็เป็นเรื่องในชั้นศาล
แต่ Patent หรือสิทธิบัตรนั้น จะต้องจดครับ จึงจะได้รับความคุ้มครอง
ใช้กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เช่นโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่ง software
การจดสิทธิบัตรจะต้องให้รายละเอียดการได้มาซึ่งสิ่งประดิษฐ์นั้นๆ
ซึ่งเมื่อจดและได้รับการรับรองแล้ว (ไม่มีใครแย้งว่าเคยทำมาก่อน
หรือเป็น "ความรู้ทั่วไป") จะได้รับการคุ้มครอง คนอื่นไม่สามารถ
reversed engineer ได้ ต่อให้คิดออกมาได้เองเหมือนกัน
แต่ก็ต้องยอมให้คนจดก่อน คนจดหลังไม่สามารถขายสิ่งประดิษฐ์
ของตัวเองได้เลย นอกจากจะได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิบัตร
อายุของสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์แต่ละประเภทจะแตกต่างกันไป
เช่น สิทธิบัตรของยาหลายประเภท มีอายุเพียง 3 ปี
เมื่อสิทธิบัตรหมดอายุ ใครๆ ก็ผลิตได้ ไปเปิดรายละเอียดที่จดไว้
ในสิทธิบัตรแล้วลุยผลิตได้เลยครับ เหมือนอย่าง LCD ที่เพิ่งจะ
ทะยอย expire ไปทั่วโลกในสองปีที่ผ่านมา
อีกคำที่เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเหมือนกันคือ
Trade Secret
ตัวอย่างของ Trade Secret ที่โด่งดังมาก คือสูตรของ Coca Cola
จริงๆ แล้ว Trademark ไม่เกี่ยวอะไรกับ Copyright
และ Registered Trademark ไม่เกี่ยวอะไรกับ Patent
แต่มักจะใช้คู่กัน
TM และ (R) ใช้กับชื่อเฉพาะครับ เช่น Intel หรือ Microsoft Excel
ส่วนลิขสิทธิ์หมายถึงความคุ้มครองในงานประเภทวรรณกรรมและ software
Microsoft Excel ที่เป็น software ได้รับความคุ้มครองจากลิขสิทธิ์
ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรก็ตาม ก็ยังได้รับความคุ้มครองทางลิขสิทธิ์
ส่วน Microsoft เป็น Registered Trademark
หมายความว่า คุณไม่สามารถสร้างสินค้าชื่อ Microsoft ได้
เพราะเขาฟ้องคุณได้ (จดทะเบียนไว้แล้วทุกประเทศทั่วโลก)
Excel เป็น Trademark เฉยๆ คุณจะสร้างสินค้าใหม่ชื่อ Excel
ก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าไปสร้าง spreadsheet ชื่อ Excel
ก็มีเหตุพอให้ microsoft เขาฟ้อง ว่าตั้งใจทำให้ผู้บริโภค "เข้าใจผิด"
Patent คือสิทธิบัตร ซึ่งความคุ้มครองจะแตกต่างกับลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์นั้น ไม่ต้องจดทะเบียนใดๆ คุณเขียนงานอะไรขึ้นมาหนึ่งอย่าง
เขียนโปรแกรม หรือถ่ายรูป งานนั้นจะได้รับ copyright โดยอัตโนมัติ
งาน copyright จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะตัวมันเอง เช่น
โปรแกรม Excel ถ้าเราไป copy โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ผิดกฎหมาย
ถ้าเราเขียนเอง มี function เหมือนกันเปี๊ยบ จะไม่ผิด
(แต่ถ้าใช้ชื่อ Excel จะไปละเมิดเรื่อง Trademark แทน งงไหม)
การจะพิสูจน์อย่างไรว่า ใครเป็นเจ้าของ copyright ถ้ามีคดีความเกิดขึ้น
ก็เป็นเรื่องในชั้นศาล
แต่ Patent หรือสิทธิบัตรนั้น จะต้องจดครับ จึงจะได้รับความคุ้มครอง
ใช้กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เช่นโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่ง software
การจดสิทธิบัตรจะต้องให้รายละเอียดการได้มาซึ่งสิ่งประดิษฐ์นั้นๆ
ซึ่งเมื่อจดและได้รับการรับรองแล้ว (ไม่มีใครแย้งว่าเคยทำมาก่อน
หรือเป็น "ความรู้ทั่วไป") จะได้รับการคุ้มครอง คนอื่นไม่สามารถ
reversed engineer ได้ ต่อให้คิดออกมาได้เองเหมือนกัน
แต่ก็ต้องยอมให้คนจดก่อน คนจดหลังไม่สามารถขายสิ่งประดิษฐ์
ของตัวเองได้เลย นอกจากจะได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิบัตร
อายุของสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์แต่ละประเภทจะแตกต่างกันไป
เช่น สิทธิบัตรของยาหลายประเภท มีอายุเพียง 3 ปี
เมื่อสิทธิบัตรหมดอายุ ใครๆ ก็ผลิตได้ ไปเปิดรายละเอียดที่จดไว้
ในสิทธิบัตรแล้วลุยผลิตได้เลยครับ เหมือนอย่าง LCD ที่เพิ่งจะ
ทะยอย expire ไปทั่วโลกในสองปีที่ผ่านมา
อีกคำที่เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเหมือนกันคือ
Trade Secret
ตัวอย่างของ Trade Secret ที่โด่งดังมาก คือสูตรของ Coca Cola
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 4

หรือ ผมควรจะออกแบบตราสินค้า แล้วไปจดทีเดียวเลยครับ (แต่ถ้าเกิดซ้ำกับของคนอื่น ผมก็จะเสียค่าออกแบบไปเปล่าๆ)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 5
สะดวกสุดคือให้ทนายดำเนินการให้ครับ
Registered Trademark สามารถจดได้ทั้งแบบ local
คือเฉพาะในประเทศไทย หรือแบบ global คือ
ทั่วโลก
ค่าใช้จ่ายจะต่างกันมาก
ลองเอาชื่อที่คุณอยากจด ส่งให้ทนาย แล้วให้เขา quote ราคาก็ได้ครับ
ชื่อ domain name แบบ .com ก็จดได้ครับ มีความคุ้มครองพิเศษ
คือถ้าจดสำเร็จแล้ว คุณสามารถฟ้องเพื่อเรียกสิทธิโดเมนนามสกุลอื่นๆ
คืนมาได้ หากมีคนมาจดชื่อ (เช่น .name .info .biz) หลังจากคุณ
ได้รับความคุ้มครอง
จดเฉพาะชื่อก่อนก็ได้ครับ แต่มันจะต้องเป็นชื่ที่ไม่ใช่ common noun
ที่มีความหมายทั่วไป
เช่น คุณสามารถจด Thai Value Investor ได้
แต่ Thai Value xxx หรือ Thai xxx investor หรือ xxx value investor
จะไม่ได้รับความคุ้มครองไปด้วย
แต่ถ้าจดชื่อประเภท Zygerie (มั่ว) สามารถป้องกันคนอื่นจด
Zygerie Mario อะไรแบบนี้ได้
ส่วน Logo สามารถจดทีหลังหรือทำไปพร้อมกันได้ครับ
ข้อกำหนดในการจด Logo ก็มีบ้างเหมือนกัน
ถ้าจะจดเองก็ไม่ค่อยยากครับ ลองติดต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาดูก็ได้
แต่เสียเวลาและมีขั้นตอนพอควร ถ้าจะทำเป็นการค้า แนะให้ใช้ทนาย
จะสะดวกกว่าเยอะครับ
Registered Trademark สามารถจดได้ทั้งแบบ local
คือเฉพาะในประเทศไทย หรือแบบ global คือ
ทั่วโลก
ค่าใช้จ่ายจะต่างกันมาก
ลองเอาชื่อที่คุณอยากจด ส่งให้ทนาย แล้วให้เขา quote ราคาก็ได้ครับ
ชื่อ domain name แบบ .com ก็จดได้ครับ มีความคุ้มครองพิเศษ
คือถ้าจดสำเร็จแล้ว คุณสามารถฟ้องเพื่อเรียกสิทธิโดเมนนามสกุลอื่นๆ
คืนมาได้ หากมีคนมาจดชื่อ (เช่น .name .info .biz) หลังจากคุณ
ได้รับความคุ้มครอง
จดเฉพาะชื่อก่อนก็ได้ครับ แต่มันจะต้องเป็นชื่ที่ไม่ใช่ common noun
ที่มีความหมายทั่วไป
เช่น คุณสามารถจด Thai Value Investor ได้
แต่ Thai Value xxx หรือ Thai xxx investor หรือ xxx value investor
จะไม่ได้รับความคุ้มครองไปด้วย
แต่ถ้าจดชื่อประเภท Zygerie (มั่ว) สามารถป้องกันคนอื่นจด
Zygerie Mario อะไรแบบนี้ได้
ส่วน Logo สามารถจดทีหลังหรือทำไปพร้อมกันได้ครับ
ข้อกำหนดในการจด Logo ก็มีบ้างเหมือนกัน
ถ้าจะจดเองก็ไม่ค่อยยากครับ ลองติดต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาดูก็ได้
แต่เสียเวลาและมีขั้นตอนพอควร ถ้าจะทำเป็นการค้า แนะให้ใช้ทนาย
จะสะดวกกว่าเยอะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณ คุณ CK มากๆเลยครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป คุณ CK พอจะแนะนำทนายเก่งๆ ให้สักคนได้มั้ยครับ ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
- nana
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 7
คร่าวๆนะคะ เอาตามกฎหมายเลยละกัน
1. (TM) คือเครื่องหมายการค้า(ซึ่งจะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้)
2. (R) หมายถึง เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
ซึ่งจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
ส่วนเครื่องหมายไหนจะจดได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องนึงค่ะ ค่อนข้างยากเพรา subjective หากมีทุนทรัพย์ก็ลองใช้บริการสำนักงานทนายความค่ะ
(3) งานที่จะได้รับความคุ้มครองเป็นลิขสิทธิ์นั้น ได้แก่
สิทธิบัตรก็เป็นอีกเรื่องนึง แต่เอาให้จบๆไป
ใช้ต่างกันอย่างไรก็ขึ้นกับว่า มันเป็นอะไรนั่นละค่ะ
1. (TM) คือเครื่องหมายการค้า(ซึ่งจะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้)
พรบ.เครื่องหมายการค้าฯเครื่องหมายการค้า หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น
2. (R) หมายถึง เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
ซึ่งจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
ความแตกต่างระหว่างเครื่องหมายที่จดทะเบียนกับไม่จด ประการหนึ่งก็คือมาตรา ๔๔ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๗ และมาตรา ๖๘ เมื่อได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว ผู้ซึ่งได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้านั้นสำหรับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้
ส่วนการจดที่เดียวใช้ได้ทั่วโลก ไทยยังไม่เข้าเป็นภาคีอนุสัญญา madrid ค่ะเพราะฉะนั้น หากคุณเป็นเจ้าของเครื่องหมายที่จดทะเบียนในต่างประเทศ หากต้องการความคุ้มครองตามกฎหมายไทยก็ต้องมาจดทะเบียนใหม่ค่ัะมาตรา ๔๖ บุคคลใดจะฟ้องคดี เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียน หรือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดสิทธิดังกล่าว ไม่ได้
บทบัญญัติมาตรานี้ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียน ในอันที่จะฟ้องคดีบุคคลอื่นซึ่งเอาสินค้าของตนไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น
ส่วนเครื่องหมายไหนจะจดได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องนึงค่ะ ค่อนข้างยากเพรา subjective หากมีทุนทรัพย์ก็ลองใช้บริการสำนักงานทนายความค่ะ
(3) งานที่จะได้รับความคุ้มครองเป็นลิขสิทธิ์นั้น ได้แก่
พรบ.ลิขสิทธิ์ฯมาตรา ๖ งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ ได้แก่งานสร้างสรรค์ประเภทวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ของผู้สร้างสรรค์ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบอย่างใด
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่คลุมถึงความคิด หรือขั้นตอน กรรมวิธีหรือระบบ หรือวิธีใช้หรือทำงาน หรือแนวความคิด หลักการ การค้นพบ หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
สิทธิบัตรก็เป็นอีกเรื่องนึง แต่เอาให้จบๆไป
พรบ.สิทธิบัตรฯสิทธิบัตร หมายความว่า หนังสือสำคัญที่ออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ตามที่กำหนดในหมวด ๒ และหมวด ๓ แห่งพระราชบัญญัตินี้
การประดิษฐ์ หมายความว่า การคิดค้นหรือคิดทำขึ้น อันเป็นผลให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใดขึ้นใหม่ หรือการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ดีขึ้นซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธี
ใช้ต่างกันอย่างไรก็ขึ้นกับว่า มันเป็นอะไรนั่นละค่ะ
Markets can remain irrational longer than you can remain solvent. -John Maynard Keynes
- nana
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
(C) (R) (TM) ใช้ต่างกันยังไงครับ
โพสต์ที่ 8
อ้อ เกร็ดเล็กๆน้อย ลองคิดเล่นๆ
ถ้าดูรายการคุณสรยุทธตอนเช้าๆ คุณจะเห็นว่าเค้ามาอ่านข่าว
ให้เราฟัง คำถามคือ ทำอย่างนี้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือป่าว
ถ้าดูรายการคุณสรยุทธตอนเช้าๆ คุณจะเห็นว่าเค้ามาอ่านข่าว
ให้เราฟัง คำถามคือ ทำอย่างนี้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือป่าว
Markets can remain irrational longer than you can remain solvent. -John Maynard Keynes