พ่อของแผ่นดิน

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รูปภาพ


ถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 เวลา 16.00 น.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา

พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้า ฯ

ถวายพระพรชัยมงคล
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2548
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 2

โพสต์





พระราชดำรัส เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม

เมื่อเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี คู่สมรสคณะรัฐมนตรี และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ความว่า

ขอขอบใจ นายกรัฐมนตรี ที่ได้กล่าวอวยพร ในโอกาสที่จะถึงวันเกิดในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ซึ่งขอบใจว่าจะทำให้ทุกคนในที่นี้และนอกที่นี้มีกำลังใจว่า นายกฯ พูดดี ก็ไม่ทราบว่า ที่ชมนายกฯ ว่าพูดดี อาจจะมีคนไม่เห็นด้วย ที่มาพูดนี่เป็นความเดือดร้อนกับตัวเอง เพราะว่าถ้าชมนายกฯ คนอื่นอาจจะไม่ชม คือไม่ชมข้าพเจ้าว่าชมนายกฯ ทำไม แต่นายกฯ มีอยู่ไว้ให้ชม คือถ้ามีนายกฯ แล้วไม่ชม นายกฯ ก็ไม่ค่อยพอใจ แล้วถ้านายกฯ ไม่พอใจ งานการจะไปได้อย่างไร จึงต้องชมนายกฯ ชมนายกฯ ว่าพูดดี เพราะถือว่านายกฯ พูดดี เพราะมาชมเรา

เป็นของธรรมดาที่ทุกคนชอบให้เขาชม เขาไม่ชอบให้ติ ข้าพเจ้าเองได้ติคนอยู่เรื่อยๆ เขาก็ไม่พอใจกัน แม้จะไม่ติคน บางทีเขาไปประกาศในหนังสือพิมพ์ ว่าพระเจ้าอยู่หัวติคนโน้นคนนี้ แท้จริงไม่เคยติใครเท่าไร บอกว่าเท่าไรเพราะว่าอาจจะติแต่ไม่ได้พูดออกมาโจ่งแจ้งว่าติ คนเราถ้าอยู่ในที่แจ้ง ในที่ที่คนเห็นมากๆ ย่อมถูกติได้ง่ายๆ เพราะว่าคนเห็นมาก ถ้าเห็นมาแล้วเราทำอะไรไม่มีดีหรือมีดี ก็ที่ไม่ดีมาก

แต่ถ้าสมมติว่ามีดีมากก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ดีบ้าง แล้วคนเขาติ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ดีมีการแสดงตนว่า รู้ว่าไม่ดีนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึก แล้วถ้าเกิดความรู้สึก บางทีก็รู้สึกชื่นชม บางทีก็รู้สึกเคือง ถ้าผู้ที่ถูกเล็งรู้สึกว่า ถูกติเตียน แล้วก็แสดงตัวว่า เข้าใจว่าถูกแล้ว เขาติเตียนเรา แล้วเราไม่พอใจก็เสียหาย ทำให้ส่วนรวมทั้งหมดก็เกิดปั่นป่วน พูดแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าพูดมากกว่านี้จะทำให้เกิดเรื่องยุ่ง

แต่ว่าวันนี้ตั้งใจจะพูดอะไรไม่พาดพิงใครเลย ไม่ติเตียนใครเลย เพราะว่าการติเตียนใคร พาดพิงใคร ก็เกิดเคือง เกิดไม่สบายใจ แต่ที่เห็นอยู่ข้างหน้านี่ มีคนที่พูด ก็คงรู้ว่าใครพูด มีคนที่พูดว่าข้าพเจ้าไม่ดี พระเจ้าอยู่หัวไม่ดี ทำอะไรผิด แต่เขาต้องแสดงออกมาว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่ผิด ผิดไม่ได้ ซึ่งเป็นตามความจริงในระบอบประชาธิปไตย ในระบอบรัฐธรรมนูญ ที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข พระเจ้าอยู่หัวผิดไม่ได้ เขาพูดอย่างนั้น "เดอะ คิง แคน ดู โน รอง" (The King can do no wrong) เหมือนท่านองคมนตรีชอบพูดว่า ต้องภาษาอังกฤษ แต่ว่าเวลาบอกว่า เดอะ คิง บอกว่า "เดอะ คิง แคน ดู โน รอง" ก็เป็นสิ่งที่ รอง แล้ว ที่ผิดแล้ว ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น

ความจริงเวลาอ่านตำรากฎหมายรัฐธรรมนูญของอังกฤษ มีตำราที่คนเขาอ้างอยู่เสมอ และคนที่เรียนภาษาอังกฤษ เรียนกฎหมายอังกฤษ ก็ต้องอ้างถึงเสมอ ไอ้เรื่อง "เดอะ คิง แคน ดู โน รอง" เนี่ย และนักกฎหมายแถวนี้เขาพยักหน้าว่าใช่ ความจริง "เดอะ คิง แคน ดู โน รอง" เนี่ยเป็นการดูถูก เดอะ คิง อย่างมาก เพราะว่า เดอะ คิง ทำไม จะ ดู รอง ไม่ได้ เพราะว่าแสดงให้เห็นว่า เขาถือว่า เดอะ คิง ไม่ใช่คน แต่ว่า เดอะ คิง ทำ รอง ได้ แต่ข้อสำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเป็น เดอะ คิง แล้ว เขาบอกว่า ดัส โน รอง เราก็เห็นด้วยกับเขา

เพราะว่าการทำอะไร คนเราถือว่าต้องมีสติ คือหมายความว่ารู้ว่ากำลังทำอะไร รู้ว่ากำลังคิดอะไร แล้วไม่ปล่อยให้มันผิดออกมา มันก็ไม่มีที่ผิด ผิดไม่ได้ อันนี้ก็เป็นการพูดว่า ข้าพเจ้าเองไม่ผิด ไม่มีวันผิด ถ้าสมมติว่าพูดผิด เพราะไม่รู้ก็อย่าง แต่ว่าผิดโดยรู้ รู้ว่าผิด และการทำผิดโดยรู้ รู้ว่าไม่ดี แต่บางทีไม่รู้เพราะว่าไม่ดี ต้องขอโทษ ถ้าจะพูดว่าไม่มีสติ ขาดสติ คือไม่ระวังตัว ทีหลังก็เสียใจ

เมื่อก่อนนี้ก่อนที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก่อนที่จะเป็นคิง ก็เสียใจหลายครั้ง แต่ตอนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเป็นคิง คิงแบบไทยๆ เนี่ย ซึ่งฝรั่งเขาบอกว่าเป็น เดอะ คิง เข้าใจว่าน้อยครั้งที่จะได้ทำผิด เพราะว่าระวัง ถ้าไม่ระวังป่านนี้ก็คงตายแล้ว ต้องระมัดระวัง ถ้าไม่ระวังก็ตาย ไอ้นี่เป็นเรื่องของธรรมชาติ ของที่เรียกว่าการเมือง หรือการที่อยู่ในสายตาของคน

สายตาของคนมันฆ่าได้ ถ้าเราไม่ระวังเราตาย ก็เลยถึงบอกได้ว่า ทำไมถึงการที่บอกว่า "เดอะ คิง แคน ดู โน รอง" เพราะต้อง ดู โน รอง ถ้าทำ รอง ตาย ทุกคนก็มีสถานะอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า เดอะ คิง เก่ง แต่ทุกคน ก็มีส่วนที่เก่ง เพราะมีตำแหน่ง รับตำแหน่งที่สูง ได้รับเหรียญตรา และคนก็ชี้ว่าคนคนนี้สูงมาก มียศศักดิ์ เดอะ คิง เป็นยศศักดิ์สูง แต่คนอยู่ในที่นี้มียศศักดิ์ทั้งนั้น ไม่ระวังตัวก็ตายเหมือนกัน ไม่ใช่คนที่นึกว่าคนนั้นเขาต้องตายแน่ เพราะว่าไม่ระวัง ทุกคน ตั้งแต่แถวแรก จนถึงแถวสุดท้ายโน้น จนกระทั่งหลังแถว จนกระทั่งข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็มีอันตราย

ฉะนั้นวันนี้ที่พูดอย่างนี้ก็แปลกๆ หน่อย นี่ก็หาว่าแช่ง แต่ที่จริงไม่ได้แช่ง สงสาร เพราะว่าถ้าไม่ระวัง เมืองไทยตาย ฉะนั้นถึงขอร้องอย่างเดียวว่า มาวันนี้ให้ระวังๆ ระมัดระวังที่คิด ที่พูด ที่ทำ ถ้านึกว่าทำถูกต้องก็ทำ

เรื่องที่มีแล้วเขาก็บอกในหนังสือพิมพ์ ในวิทยุ ในโทรทัศน์ บอกว่าที่ เดอะ คิง ทำอะไรเขาไม่วิจารณ์ แล้วก็บอก อย่าวิจารณ์ ที่จริงอยากให้วิจารณ์ เพราะว่าเราทำอะไรก็ต้องรู้ว่าเขาเห็นดีหรือไม่ดี ถ้าไม่พูด ก็หาว่าทำดีแล้ว แต่แท้จริงที่พูด ที่ออกข่าว ให้สัมภาษณ์ บอกว่า อย่าไปวิจารณ์เดอะ คิง ต้องบอกว่าอย่าไปวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าไม่ควร

ในรัฐธรรมนูญก็มีอยู่ว่า ละเมิดมิได้ นักกฎหมายก็พยักหน้าอีกแล้วว่าถูกต้อง ว่าไม่ควรจะวิจารณ์ วิจารณ์ไม่ได้ ละเมิดไม่ได้ แต่ถ้าพูดว่า พระเจ้าอยู่หัวทำถูก พูดถูก ไม่ใช่ละเมิด ถ้าพูดภาษาอังกฤษก็ แอพปรู๊ฟ พระเจ้าอยู่หัวเห็นชอบด้วย แต่ไม่เคยมีใครมาบอกว่า เห็นชอบด้วยว่าพระเจ้าอยู่หัวพูดดี พูดถูก แต่ว่าความจริงก็จะต้องวิจารณ์บ้างเหมือนกัน และก็ไม่กลัวถ้าใครมาวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้นๆ จะได้รู้ เพราะว่า ถ้าบอกว่า พระเจ้าอยู่หัว ไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัว ไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์ เราก็กลัวเหมือนกัน ถ้าบอกว่าไม่วิจารณ์ แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี รู้ได้อย่างไร ถ้าเขาบอกว่าไม่วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะพระเจ้าอยู่หัวดีมาก ไม่ใช่อย่างนั้น

บางคนอยู่ในสมอง พระเจ้าอยู่หัวพูดชอบกล พูดประหลาดๆ ถ้าขอเปิดเผยว่าวิจารณ์ตัวเองได้ ว่าบางทีก็อาจจะผิด แต่ให้รู้ว่าผิด ถ้าเขาบอกว่าวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวว่าผิด นั้นขอทราบว่าผิดตรงไหน ถ้าไม่ทราบเดือดร้อน ฉะนั้นที่บอกว่าการวิจารณ์เรียกว่าละเมิดพระมหากษัตริย์ ให้ละเมิดได้ แต่ถ้าเขาละเมิดผิด เขาก็ถูกประชาชนบอมบ์ ว่างั้น คือเป็นเรื่องขอให้เขารู้ว่าเขาวิจารณ์อย่างไร ถ้าเขาวิจารณ์ถูกก็ไม่ว่า แต่ถ้าวิจารณ์ผิดไม่ดี แต่เมื่อบอกว่าไม่ให้วิจารณ์ ละเมิดไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญว่าอย่างนั้น ก็ลงท้ายอย่างนี้ พระมหากษัตริย์ก็เลยลำบากแย่ อยู่ในฐานะลำบาก เพราะแสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ให้วิจารณ์ ก็หมายความว่า พระเจ้าอยู่หัวนี้ต้องวิจารณ์ ต้องละเมิด แล้วไม่ให้ละเมิด พระเจ้าอยู่หัวเสีย พระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไม่ดี ซึ่งถ้าคนไทยด้วยกัน หนึ่งไม่กล้า สองไม่เอ็นดูพระเจ้าอยู่หัว ไม่อยากละเมิด

แต่มีฝ่ายชาวต่างประเทศ มีบ่อยๆ ละเมิดพระเจ้าอยู่หัว ละเมิดเดอะ คิง แล้วเขาก็หัวเราะเยาะว่า เดอะ คิง เนี่ยของไทยแลนด์ เดอะ คิง ของยู พวกคนไทยทั้งหลายเป็นคนแย่ ละเมิดไม่ได้ ในที่สุดถ้าละเมิดไม่ได้ ก็เป็นคนเสีย เป็นคนที่เสีย ฉะนั้นบางโอกาสขอให้ละเมิด จะได้รู้กันว่าใครดีใครไม่ดี นี่พูดเลยเถิด พูดมากไป แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเนี่ยไม่ต้องกลัว เพราะว่าไม่ได้มีความผิด คนที่นึกว่ามีความผิดพยักหน้า พยักหน้าว่ามีความผิดจริงๆ ความจริงเขาไม่มีความรับผิดชอบ คนที่มาก่อนนะมีความผิด แล้วคนที่พยักหน้าไม่ได้แก้ไข นี่ผิดตรงนี้ ไม่ได้แก้ไข หลบความรับผิดชอบ มันเป็นอย่างนั้น

คือในเมืองไทย คนไหนที่ทำอะไรไม่เข้าร่องเข้ารอยก็ลาออก ลาออกแล้วไม่มีอะไรผิดเลย แม้จะทำอะไรผิดอย่างมากๆ ถ้าเป็นข้าราชการก็เรียกเข้ากระทรวง เข้ากรุงเทพฯ แล้วก็หมดเรื่อง นานๆ ทีมีเข้าคุก นี่พูดอย่างนี้ชักจะหนัก จะเรียกเข้ากรุงเทพฯ แล้วเข้าคุก แต่มีที่เกิดเรื่องเข้าคุก แต่อย่างไรก็ตามเข้าคุกแล้ว ถ้าเป็นการละเมิดพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เองเดือดร้อน เดือดร้อนหลายทาง ทางหนึ่งต่างประเทศเขามองเมืองไทยพูดวิจารณ์พระมหากษัตริย์ไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้ก็เข้าคุก มีที่เข้าคุก เดือดร้อนพระมหากษัตริย์ ต้องบอกว่า เข้าคุกแล้วต้องให้อภัย

ที่เขาด่าเราอย่างหนักๆ ฝรั่งเขาบอกว่า ในเมืองไทย พระมหากษัตริย์ถูกด่าเข้าคุก ที่จริงควรจะเข้าคุก แต่ว่า เพราะฝรั่งบอกอย่างนั้น ก็ไม่ให้เข้า ไม่มีใครกล้าเอาคนที่ด่าพระมหากษัตริย์เข้าคุก เพราะพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เพราะเขาหาว่าพระมหากษัตริย์เป็นคนที่ไม่ดี อย่างน้อยๆ ที่สุดก็เป็นคนที่จั๊กจี้ ใครมาว่าสักนิดก็บอกให้เข้าคุก ที่จริงพระมหากษัตริย์ไม่เคยบอกให้เข้าคุก

ตั้งแต่สมัยรัชกาลก่อนๆ เป็นกบฏก็ยังไม่จับใส่คุก ไม่ลงโทษ รัชกาลที่ 6 ท่านไม่ลงโทษ ไม่ได้ลงโทษผู้ที่เป็นกบฏ มากระทั่งถึงต่อมารัชกาลที่ 9 เนี่ย ใครเป็นกบฏ ซึ่งก็ไม่เคยมีแท้ๆ ที่จริงก็ทำแบบเดียวไม่ให้เข้าคุก ให้ปล่อย หรือถ้าเข้าคุกแล้วก็มักให้ปล่อย ถ้าไม่เข้าคุกก็ไม่ฟ้อง เพราะว่าเดือดร้อน ผู้ที่ถูกด่าเป็นคนที่เดือดร้อน คนที่ละเมิดพระมหากษัตริย์ นี่แล้วก็ถูกทำโทษ ไม่ใช่คนนั้นที่เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน ไอ้นี่ก็แปลก คราวนี้นักกฎหมายก็ชอบให้ฟ้องให้จับเข้าคุก

อันนี้นักกฎหมายก็สอนนายกฯ บอกว่าต้องฟ้อง ต้องลงโทษ นี่ขอสอนนายกฯ ว่า ใครบอกว่าให้ลงโทษ อย่าลงโทษเขา ลงโทษไม่ดี ลงท้ายไม่ใช่นายกฯ เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน หรืออยากให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อนก็ไม่รู้นะ เขาทำผิดเขาด่าพระมหากษัตริย์ เพื่อที่จะให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน แล้วเดือดร้อนจริงๆ เพราะว่าใครมาด่าเรา ก็ไม่ชอบ แต่ว่าถ้านายกฯ เกิดให้ลงโทษแย่เลย แล้วนักกฎหมายต่างๆ ก็จะให้ลงโทษคนที่ด่าพระมหากษัตริย์ ทำไปทำมาเลยต้องเอาวะ เขาด่านายกฯ ถ้าด่านายกฯ นายกฯ เดือดร้อนมั้ย ไม่ควรจะเดือดร้อน แต่ถ้าด่านายกฯ พระมหากษัตริย์ก็ไม่เดือดร้อน เพราะว่า เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ถ้าเขาด่าพระมหากษัตริย์ นายกฯ เดือดร้อน เพราะว่าต้องเป็นคนจัดการ เรื่องมันยุ่งอย่างนี้

กฎหมายก็สอนนายกฯ มาอย่างนั้น สอนนายกฯ ว่าใครมาด่าเรา เราต้องด่าเขา มันไม่ดี นี่พูดชักจะไม่ดี เพราะว่าชักจะเป็นส่วนตัว แต่ว่าเราเองก็ไม่ขอบอกว่าควรจะทำอะไร ควรจะรู้ นักกฎหมายก็ต้องรู้ว่าทำอะไรถูกอะไรผิด ไม่ต้องพูดทุกวันๆ ที่จริงเขาไม่ได้พูดทุกวัน แต่เขาทำเทปเอาไว้ ทำดีวีดี แล้วก็แจกทั่วให้ คนก็ฟัง ดู เขาเอือมกันนะ ที่ไปแก้ตัวแทนนายกฯ

วันนี้เราขึ้นมานี่ เราแก้ตัวแทนนายกฯ เพราะนายกฯ ไม่ผิด นายกฯ ทำได้ทุกอย่าง ก็ไม่ต้องไปออกทีวีแล้ว ไปออกทีวีทุกวันๆ มีคนเขาบอกว่าเขาเอือม ที่ออก แต่มีหน้าที่ที่จะออกก็ออก มีคนที่เขาเดือดร้อนที่อยู่ในรายการ เพราะเขาเป็นคนที่ต้องพูด แล้วคนที่พูดนั้นก็เลยถูกลูกหลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามไอ้การแก้ตัวครั้งเดียว ก็ได้ แต่นี่แก้ตัวมา 10 ครั้งแล้วนะที่ออกทีวี ชักจะเอือม คนเขาอยากดูละคร แค่นี้พอแล้ว เสียไฟฟ้า ไม่ใช่เสียไฟฟ้าของคนที่ดู เสียไฟฟ้าคนที่ส่ง เพราะว่าทีวีออกทีไฟฟ้าแรง เสียน้ำมัน นี่ก็เลยนึกว่า ควรจะพูดพอแล้ว ที่พูดนี่ก็เสียไฟฟ้ามาก เขาคงจะบอกว่าเลิกเสียที ไม่ต้องพูดมาก แต่เราก็พูดต่อ เพราะว่าเป็นรายการที่อัดเสียงเอาไว้ ใส่เทปเอาไว้ ไม่ได้ออกโทรทัศน์ ไม่ต้องเสียไฟฟ้าสำหรับโทรทัศน์

มาพูดถึงไฟฟ้าและพลังงาน การไฟฟ้าต้องใช้พลังงาน เพราะว่าสำหรับปั่นไฟฟ้าต้องใช้พลังงานเพื่อให้มีพลังงานไฟฟ้า อันนี้ก็ทำมานานแล้ว เวลาขาดแคลน เชื้อเพลิง ก็บอกว่าให้ปิดโทรทัศน์ๆ ให้ปิดไฟ แล้วบอกว่าได้ผลดี ความจริง เปิดโทรทัศน์ไม่เป็นไร ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงหมดแล้วก็ยังใช้เชื้อเพลิงอย่างอื่นได้ มี แต่ต้องขยัน ต้องหาวิธีให้เชื้อเพลิงเกิดขึ้นมาใหม่ เชื้อเพลิงที่เรียกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง มันจะหมดภายในไม่กี่ปี หรือไม่กี่สิบปีก็หมด ถ้าว่าไป 40 ปีหมด เราก็จะอายุ 118 ปี 118 นี่ เรายังมีชีวิตอีก 2 ปี เราก็จะใช้ก๊าซโซฮอล์ ก๊าซโซฮอล์ก็ไม่มี เพราะว่าก๊าซโซฮอล์ใส่ 10% เป็นอย่างมากมาก ต้องใช้ ต้องใช้น้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม เขาใช้ 10%

นายกฯ ก็ได้เห็นรถแล่นมาน้ำมันปาล์ม 100% เพราะยืนอยู่ที่รถคันหนึ่งเสร็จแล้วก็มีรถอีกคันหนึ่งถอยหลังมา ได้ยินเสียง บึ้มๆๆ นั่นอะไร รถดีเซล รถใช้น้ำมันดีเซล 100% 100% น้ำมันปาล์ม แล้วนายกฯ ก็บอกว่าหอมดี แล้วไม่เดือดร้อน เพราะว่า นายกฯ ไม่เป็นมะเร็ง เพราะอันนี้ไม่เป็นมะเร็ง เราทำแล้ว ก็หมายความว่าเราไม่เดือดร้อน เวลาเราอายุ 118 ถ้าอย่างไรเราก็ใช้น้ำมันปาล์มของเราเอง คนอื่นอาจจะไม่ได้ คนอื่นอาจจะไม่มี แต่ว่าเรามี เพราะขวนขวายหาวิธีที่จะทำเชื้อเพลิงทดแทนได้ ถ้าไม่ทำเชื้อเพลิงทดแทน เราก็เดือดร้อน เราก็เป็นห่วง แต่เราไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าคนอื่นเขาไม่ทำ เขาอาจจะไม่มีน้ำมันไบโอดีเซลใช้ แต่ว่าเรามี

เราคือข้าพเจ้า ทำเอง คนอื่นอาจจะไม่มี ไม่เป็นไร ต้องเห็นแก่ตัว แต่ละคนก็เห็นแก่ตัว เลยรู้ว่าไม่เป็นไร เพราะแต่ละคนต้องพยายามหาพลังงานมาทดแทนทั้งนั้น เราเชื่อว่า เวลาเราอายุ 118 นายกฯ ก็บอกว่าแก่แล้ว แต่เราไม่แก่ เพราะเราคิดทำพลังงานทดแทนอยู่เรื่อยๆ แต่นายกฯ บอกแก่ จะถึงอายุเท่าไร จะเอาอายุ 94, 96 นายกฯ จะอายุ 94 ก็ไม่รู้ว่า 94 อาจจะแข็งแรงก็ได้ คงแข็งแรง อาจจะมีความคิดที่จะสร้างโรงงานก๊าซโซฮอล์ และไบโอดีเซลสำเร็จแล้ว นายกฯ ก็ไม่เดือดร้อน เอาไบโอดีเซลใส่เครื่องบินได้ เครื่องบินเขาใช้ไบโอดีเซลได้แล้ว แต่ลำไม่ใช่โตๆ แต่เวลานั้นอาจจะใช้ลำโตๆ สำหรับนายกฯ ได้ สามารถที่จะมีได้ แต่ว่าเฉพาะนายกฯ คนอื่นไม่สามารถที่จะมี ก็มี 2 คนแหละ พระเจ้าอยู่หัว กับนายกฯ มีเครื่องบินใช้ แล้วใช้ไบโอดีเซล

ท่านองคมนตรี สั่นหัวว่าไม่มี เวลานั้นท่านอายุเท่าไร 130 ก็คงไม่อยู่แล้ว เราก็อยู่กัน 2 คน สุดท้าย ก็อยู่กัน 2 คน มีไบโอดีเซลใช้ แล้วจะไปไหน จะไปเชียงใหม่ ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วไปเชียงใหม่ ไปดูสวนสัตว์ สวนสัตว์อยู่สบายเพราะไม่ต้องใช้ไบโอดีเซล เป็นอันว่า ไม่ต้องกลัว เราไม่เดือดร้อน เพราะว่าอีก 40 ปี มีไบโอดีเซลพอสำหรับเราใช้ 2 คน อย่างไรก็ตาม นี่ชักเฟื่อง พูดว่าเราอีก 40 ปี เราจะมี 2 คนที่มีพลังงานน้ำมันใช้ได้ แล้วดูทีวีได้ ดูทีวีก็อาจจะโฆษณาอะไรในทีวี ประกาศชี้แจงนายกฯ ก็ชี้แจงได้ เพราะเปิดทีวีให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาปั่นไฟฟ้า แต่ป่านนั้นทีวีก็อาจจะมีอะไรใหม่ แล้วก็อาจจะมีข่าวต่างๆ ฉะนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วง

ที่นี้ก็ต้องดูเป็นบุคคลๆ การที่จะบอกว่าเป็นห่วง แต่เป็นห่วงทั้งบ้านเมืองก็เป็นห่วง แต่ว่าถ้าเราทำจริงๆ คิดจริงๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแต่ละคนก็ต้องมีการขวนขวายเหมือนกัน เป็นอันว่าถ้าแต่ละคนขวนขวายของตัว อีก 40 ปี ไม่มีเดือดร้อน โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทย มีคนที่มีความคิดดีๆ ก็คนหนึ่ง ก็ข้าพเจ้าคนหนึ่งมีความคิดดีๆ และนายกฯ อีกคนที่มีความคิดที่ดี ไม่จนมุม ฉะนั้น 2 คนเดือดร้อน ไม่เดือดร้อน คนอื่นเขาก็ต้องไม่เดือดร้อน เขาก็ต้องหาทางออกได้ เพราะว่าถ้าเดือดร้อนก็ต้องไปดูโครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริเปิดเผยให้ทุกคนได้ทั้งนั้น และถ้าปฏิบัติตามโครงการพระราชดำริ หมายความว่า ทำอย่างเศรษฐกิจพอเพียง ตอนนี้นายกฯ ก็เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ไปจ่ายเงินแล้ว ใช้แต่เศรษฐกิจพอเพียง เพราะว่ามีการโฆษณาคู่สมรสของคณะรัฐมนตรี ก็ชำนิชำนาญในเศรษฐกิจพอเพียง เก่งมาก นี่ก็อีกคน ที่ทำได้ ก็เลยไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ทราบว่าคู่สมรสขององคมนตรีจะทำเศรษฐกิจพอเพียงหรือเปล่า สงสัยว่าไม่ ไม่ทำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็เปิดให้ความกว้างขวางของเศรษฐกิจจะดีขึ้น

ท่านรองนายกฯ ทั้งหลายอาจจะไม่ทำ เพราะว่าเคยชินกับเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินมาก ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง ไม่พอเพียง นายกฯ และคุณหญิง อาจจะให้เพื่อนนายกฯ รองนายกฯ ต่างๆ ทำเศรษฐกิจพอเพียงสักนิดหน่อย ก็จะทำให้อีก 40 ปี ประเทศชาติไปได้ แต่นี่ก็มีแต่นายกฯ รองนายกฯ จัดการ รวมทั้งคู่สมรสทำเศรษฐกิจพอเพียง ก็เชื่อว่าประเทศจะมีความประหยัดได้เยอะเหมือนกัน ถ้าไม่ประหยัด ประเทศไปไม่ได้ คนอื่นไม่ประหยัด สำหรับคณะรองนายกรัฐมตรี จะทำให้ไปได้ดีขึ้นเยอะ มามองทางนี้ สภาเป็นอย่างไร สภาด้วยเหมือนกัน สภาเป็นอาจารย์ของนายกฯ นายกฯ ก็สอนครูหน่อย สอนอาจารย์หน่อยว่าเศรษฐกิจพอเพียงทำอย่างไร สอนครูคนเดียวก็พอแล้ว เพราะว่าครูก็ไปสอนคนอื่น

ฝ่ายค้านไม่ต้องสอน เขาพอเพียงอยู่แล้ว ฝ่ายค้านเนี่ยหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่ทราบเขาพอเพียงหรือเปล่า แต่อย่างน้อยอดีตหัวหน้าพรรคเขาพอเพียงอย่างมากๆ เขาทำอะไรที่ทำให้ประเทศชาติใช้เงินนิดเดียวไม่พอเขาถึงต้องออก เลยไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะพอเพียงหรือไม่ แต่อย่างน้อยๆ อดีตหัวหน้าพรรคเขาพอเพียงมาก จนกระทั่งต้องออกจากหัวหน้าพรรค นอกจากนั้น ถ้าทุกคนเลื่อมใสว่าจะต้องพอเพียง ก็ปฏิบัติเถิด ถ้าปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง มันใช้ได้จริงๆ ไปได้จริงๆ แต่ว่าอาจจะไม่สบาย

ทุกอย่างที่นายกฯ พูดเมื่อกี้ ก็มาพูดไม่ได้แต่งเอา นายกฯ พูด ที่พระเจ้าอยู่หัวพูดอะไร ทำอะไร ถูกต้อง ชื่นชมว่าเพราะเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศชาติอยู่ได้ เช่น เดียวกับแก้มลิง แก้มลิง เมื่อครั้งก่อนนี้พูดถึงแก้มลิงคนก็หัวเราะ เดี๋ยวนี้ไม่หัวเราะแล้ว เพราะว่าลิงเขาต้องมีแก้ม ถ้าลิงไม่มีแก้มเขาอยู่ไม่ได้ คนเราก็ต้องมีแก้ม เป็นแก้มคนก็เป็นแก้มลิงได้ คือหมายความว่า ต้องระวัง ต้องรักษา กล้วยเข้าไปก็เก็บไว้ได้ เป็นการประหยัด จะพูดอะไรก็เก็บไว้ในแก้ม เก็บในแก้มก็ได้ ก็ประหยัด คือแก้มลิงเป็นการประหยัด และโครงการอะไรอื่นๆ ที่พูด

อย่างฝายแม้ว ก็ฝายนายกฯ ฝายนายกฯ นายกฯ ไปดูฝายแม้ว ฝายเรานี่ เราทำ ฝายแม้วเดี๋ยวนี้ซาบซึ้งหรือเปล่าว่า มีประโยชน์อะไร คือมีประโยชน์ทำให้ไม่มีน้ำท่วม ไม่มีน้ำแล้ง ตอนนี้น้ำท่วมเชียงใหม่ นายกฯ เดือดร้อนมาก โกรธมาก ทำไม มีฝายแม้ว แล้วทำไมน้ำยังถึงท่วม ก็เพราะว่า ฝายแม้วทำไม่ถูกต้อง ทำไม่ดี แล้วก็ปล่อยน้ำลงมาผิดทาง ที่จริงที่ไปดูกุยบุรี ไปขยายเขื่อนที่กุยบุรี ที่ยังชุ่ม เคราะห์ดีไปทำ และโครงการพระราชดำริอันนี้ถ้าไม่ได้ทำ ถ้าทำตามที่ทางชลประทานเขาจะทำ ป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ และถ้าไม่เสร็จ น้ำท่วมแล้ว ปีนี้ที่น้ำไม่ท่วมกุยบุรี และประจวบฯ ท่วมบ้าง แต่ว่า ไม่ขึ้นมาถึงหัวหินเพราะว่า เขื่อนกุยบุรี และเขื่อนกุยบุรีขยายได้ ขยายได้เก็บน้ำได้ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะว่า เดี๋ยวนี้เรามีโครงการพระราชดำริ และบอกทำเลย อธิบดีชลประทาน ทำอย่างไร จะต้องของบประมาณ งบประมาณไม่มี ก็มีโครงการพระราชดำริ ก็เลยทำทันที แทนที่จะใช้เวลา 3 ปี ก็ใช้เวลา 2 ปี ทำงานได้

ที่ที่เราไปดูนั่น ทำงานได้จริงๆ เพราะว่าถ้าไม่มีน้ำ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร มันเต็มแล้ว แต่ว่าน้ำมันก็ล้นปกติตามจำนวนที่ปกติ เลยทำให้น้ำไม่ท่วม ถ้า 9 ล้านลูกบาศก์เมตร ฝนมันลงฟู่ๆ มีหวังท่วม ท่วมทั้งด้านบนและด้านล่าง ถ้าท่วมแล้วน้ำก็ทำลาย ถ้าเราทำโครงการที่ใช้งานได้เร็ว ประหยัดการท่วมของพื้นดิน และถ้าว่าไปประหยัดทรัพย์ ความจริงที่ใช้เงิน ตอนนั้นใช้เงิน 100 ล้านกว่าๆ เดี๋ยวนี้ก็กลับคืนมาแล้ว ถ้าไม่ได้ทำ น้ำที่มาท่วมก็ทำลายร้อยล้าน ร้อยล้าน สำหรับคนที่พยักหน้า ไม่ใช่อะไร มันต้อง พันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน แต่ร้อยล้านชาวบ้านเขารู้สึก ก็หมายความว่า ร้อยล้านที่เอาจากโครงการพระราชดำริกลับคืนมาแล้ว กลับคืนมาที่ไหน ก็กลับคืนมาที่ประชาชน ประชาชนก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช้เงินนี้ ปีหน้าจะต้องใช้ สองร้อยล้าน ถ้าหากไม่ใช้ทันที เงินมีอยู่ บางคนบอกว่าไม่มีเงิน แต่เงินอันนี้มีอยู่ เพราะว่าในงบประมาณมี ถ้าไม่มีก็หมายความว่า งบประมาณทำไม่ถูก

แต่อันนี้ ร้อยล้านไปใช้ดีแล้ว ใช้ถูกต้องไม่เสียหาย ทำให้ประชาชนได้กำไร ถ้าไม่ได้ใช้ไป ก็ไม่รู้ใครใส่กระเป๋าไปไหน แต่ว่าประชาชนไม่ได้ ฉะนั้นที่ได้ทำโครงการประหยัดไป 1 ปี ที่ไปดูเห็นประจักษ์ว่า น้ำมันไหลออกมาจากเขื่อน ไม่ใช่พูดหรอก น้ำจริงๆ มันลงมาเต็มเขื่อน แทนที่จะเป็น 38 ล้านลูกบากศ์เมตร มันเป็น 40 กว่าล้านที่ลง ทำให้น้ำลงมาเก็บและล้นมาได้ และน้ำได้ใช้ เวลาแล่นรถไปข้างล่างก็เห็น ก็ทำนาได้ นาเนี่ย มีประโยชน์ เพราะว่าข้าวก็ไม่เสีย ข้าวได้ใช้ และถ้าจะเอาข้าวไปส่งนอก เราก็ได้เงิน หรือได้ของไปแลกเปลี่ยนได้ ฉะนั้นโครงการร้อยล้านนี้ทำดี และช่างชลประทานก็มีความรู้พอที่จะทำ อันนี้ไม่ต้องอาศัยช่างจากต่างประเทศ ช่างในเมืองไทยนี่เอง แล้วก็ใช้เครื่องมือในเมืองไทยนี้ได้ ก็เลยรู้สึกว่า ปีนี้ที่ได้เห็นการขยายโครงการกุยบุรี นี้ได้ผลจริงๆ ได้ไปดู ก็ดีใจ พอใจ ฉะนั้นต้องเล่าให้ฟังว่า ที่ได้ไปดูโครงการชลประทานที่กุยบุรี ที่หมู่บ้านยางชุม เป็นโครงการที่ใช้งานได้ ไม่ใช่ที่ยางชุมเท่านั้น ข้างๆ ก็มีการสร้างเขื่อนที่จะกักน้ำได้ผลดี ยังต้องทำอีกมาก

แต่เวลาพูดกับสมาคมนี้ ก็พูดถึงชลประทานก็ได้ผลดี แต่ค่อยๆ ทำ เพราะว่าไม่ใช่ว่ามีเงินเท่านั้นเอง เงินมันมีไม่พอ แต่ว่าที่ที่จะทำ มันไม่มี แล้วจะทำต้องศึกษาให้ดี "โอ่ ! พระเจ้าอยู่หัวบอกให้ทำ นั่นๆ" เสร็จแล้วไม่มีหลักวิชาที่ดีก็อาจจะเสียก็ได้ แต่การที่จะทำต้องพยายามหาที่ที่จะทำ แล้วใช้ความรู้ที่ถูกต้อง โครงการอย่างอื่นก็มีที่จะทำ ไม่ใช่เฉพาะชลประทาน แต่ว่าโดยที่เราเป็นผู้ที่เขาเรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ชลประทานก็กล้าบอกว่าควรจะทำ

นี่รู้สึกคล้ายๆ จะง่วงๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ชักมืด มืดเร็ว ง่วงเดี๋ยวไปนอนได้ รู้สึกว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอขอบใจที่ท่านมาให้พร ให้พรนี่ดี เพราะว่าถ้าไม่ให้พรก็ไม่รู้ว่าทำอะไร ไม่รู้ว่าเราทำอะไร ถ้ามาให้พรเราก็มีกำลังจะทำ ทำงานต่างๆ และต้องให้พรกับทุกฝ่าย ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ก็ให้กำลังใจ ทำอะไรก็ทำ ทำได้ดี แต่วันนี้ไม่พูดว่าให้ทำอะไร ทะเลาะกันไม่เอา ไม่ให้ทะเลาะ ให้ทำอะไรที่ดูจะดี แล้วคิดให้ อย่าเกินอย่าเลยเถิด แต่ว่าถ้าแต่ละคนทำงานให้เหมาะสม บ้านเมืองจะไปได้ ถึงว่าจะต้องให้พรให้บ้านเมืองไปได้ ให้แต่ละคนไปได้ ไม่ใช่หัวชนฝาจะทำอะไรๆ

ขอให้แต่ละคนมีความสำเร็จพอสมควร เศรษฐกิจพอเพียง คือถ้าไม่พอเพียงไปไม่ได้ แต่ถ้าพอเพียงสามารถนำพาประเทศไปได้ดี ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในความสำเร็จพอเพียง และเพื่อให้บ้านเมืองบรรลุความสำเร็จที่แท้จริง ไม่รู้คนที่รับพรก็รับไป คนที่ไม่รับพรก็คิดในใจ ขอบใจ ที่ท่านทั้งหลายที่มาให้พร เรารับพรของท่าน


http://www.norsorpor.com/cgi-bin/goto.pl?url=
http://www.komchadluek.net/news/2005/12 ... 64720.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2548


Nation Group GO
ค้นหาข่าวย้อนหลัง

คำกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวฯของนายกฯ

คำกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้กราบบังคมทูล ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๖.๐๐ น. ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยประชาชนทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ รู้สึกปีติยินดีเป็นล้นพ้นที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ความปีติยินดีนี้ยิ่งทวีคูณ เมื่อมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ปวงข้าพระพุทธเจ้าเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และรับพระราชทานพระราชดำรัส อันจะเป็นศุภสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลชัย คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมสืบไปชั่วกาลนาน

นับแต่วันที่ ๑ มกราคม ที่ผ่านมา บรรดาพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาทั้งหลายที่นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เริ่มเฉลิมข้อความไว้ในพระราชปรารภว่า “เป็นปีที่หกสิบในรัชกาลปัจจุบัน” ความข้อนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทางราชการจึงได้ประกาศให้พุทธศักราช ๒๕๔๘ เป็นปีเริ่มต้นแห่ง การเฉลิมฉลองวาระที่ทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติเป็นปีที่ ๖๐ ซึ่งจะมีต่อเนื่องไปจนสิ้นปี ๒๕๔๙ โดยมีศูนย์รวมอยู่ที่การประกอบพิธีต่าง ๆ ในเดือนมิถุนายนศกหน้า อันจะบรรจบครบ ๖๐ ปีแห่งรัชกาลโดยบริบูรณ์ บรรดาชาวไทยต่างถือเอาวโรกาสนี้เป็นศุภมงคลดิถีอันเกรียงไกร ซึ่งจะเกริกก้องอัศจรรย์บรรลือไกลไปในนานาประเทศ ด้วยเหตุอันแซ่ซ้องสดุดีว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติยาวนานยิ่งกว่าพระราชาธิบดีพระองค์ใดในประเทศทั้งปวง ณ สมัยปัจจุบัน โดยได้ทรงประกอบการรัชดาภิเษกสมโภช ครบ ๒๕ ปี และกาญจนาภิเษกสมโภชครบ ๕๐ ปีแห่งการเสด็จผ่านพิภพแล้ว พสกนิกรชาวไทยที่มีโอกาสได้พบเห็นการสมโภชวโรกาสดังกล่าวจนถึงบัดนี้ จะเป็นคำรบที่สามนั้น ต้องถือว่าเป็นบุญตัวและสิริมงคลแก่ตนยิ่งนัก ทั้งนี้ รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีทั้งหลายในสากลประเทศด้วยแล้ว เพื่อเชิญเสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมงานมหาสโมสรสันนิบาต ในปี ๒๕๔๙ นี้

ความยืนยงแห่งรัชกาล มิใช่เป็นความยาวนานแห่งกาลเวลาแต่ประการเดียว หากแต่ยังเกี่ยวด้วยสายสัมพันธ์อันร้อยรัดไว้ด้วยความจงรักภักดีในหัวใจของชาวไทยทุกรูปทุกนาม และสนองตอบด้วยความเมตตาอาทร ความเสียสละ ที่ทรงมีต่อ พสกนิกรทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นชาวป่าชาวเขาที่ยากแค้นลำเค็ญ ชาวบ้านที่ขาดแหล่งน้ำขาดที่ดินทำกิน ชาวกรุงที่ประสบปัญหาจราจร ตำรวจทหารที่ลาดตระเวนอยู่ตามชายแดน หรืออยู่ในบังเกอร์หลบภัย นักศึกษาใดที่เรียนดี ควรได้ไปศึกษาวิทยาการชั้นสูงในต่างประเทศ ก็ได้ทรงตั้งทุนอานันทมหิดลพระราชทานมาแล้วหลายรุ่น เมื่อปรากฏว่าเยาวชนไทยขาดความรู้ในเชิงลึก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญผู้รู้ มาเรียบเรียงสารานุกรมไทยฉบับเยาวชนเผยแพร่ และโปรดให้จัดระบบการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมพระราชทานไปทั่วทุกถิ่น ทรงอนุเคราะห์ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ตั้งแต่ภัยแล้งในภาคกลาง น้ำท่วมภาคอีสาน จนถึงวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก และธรณีพิบัติภัยที่ภาคใต้ ได้พระราชทานแนวทางการสร้างฝายแม้ว การทำฝนหลวง การจัดระบบชลประทาน ตั้งแต่แก้มลิง จนถึงอ่างเก็บน้ำและเขื่อน ตามความจำเป็นในแต่ละภูมิประเทศ ตลอดจนการแปลงบ่อพรุให้เป็นบึงและนาข้าว ที่บัดนี้ออกรวงเหลืองอร่าม ทรงห่วงใยเยาวชนของชาติ นับแต่เรื่องการใช้ภาษาไทย การออกกำลังกาย ปัญหาอบายมุข มลพิษทางเสียง บุหรี่ จนกระทั่งถึงยาเสพติด ทรงอนุเคราะห์ผู้ป่วยวัณโรค โรคเรื้อน โรคเอดส์ นอกจากนั้น พระมหากรุณายังแผ่กว้างไกลไปจนถึงสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วย พิการ ควรได้รับการบำบัดรักษา กระทั่งถึงช้างป่าที่พลัดถิ่นหลงฝูงอีกด้วย

ยามใดที่ประเทศชาติมีปัญหา ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ และปัญญาแก่ผู้เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เมื่อประมาณห้าสิบปีที่ล่วงมา ได้เคยพระราชทานแนวพระราชดำริให้รัฐจัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงทางด้านพัฒนบริหารศาสตร์ขึ้น ตั้งแต่สมัยที่คนไทยยังไม่รู้จักศาสตร์สาขานี้ จนกระทั่งตั้งขึ้นสำเร็จในบัดนี้ คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สี่สิบปีก่อนได้ทรงริเริ่มการจัดรายการบรรเลงดนตรีการกุศลทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเป็นครั้งแรก โดยทรงดนตรีร่วมกับข้าราชบริพาร เพื่อรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ จนสามารถตั้งเป็นมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ สามสิบปีที่แล้วได้ทรงริเริ่มการปฏิรูปที่ดิน ด้วยการพระราชทานที่ดินอันเป็นพระราชทรัพย์ในพื้นที่ภาคกลาง ให้นำมาปฏิรูปช่วยชาวนา เมื่อไม่กี่ปีมานี้ได้พระราชทานแนวพระราชดำริให้ขยายถนนเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า และสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้า รวมทั้งสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ จนสามารถแก้ปัญหาการจราจรได้อย่างดี เร็ว ๆ นี้ยังทรงแนะนำให้รัฐ จัดสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้นสามแห่งในจังหวัดเพชรบุรี รับสั่งว่า “ถ้าสร้างได้น้ำจะไม่ท่วมเพชรบุรี” ซึ่งก็เป็นความจริงในบัดนี้ อีกทั้งโปรดให้ขยายขอบอ่างเก็บน้ำยางชุม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำ เมื่อประเทศมีปัญหาเรื่อง พลังงาน ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องพลังงานทดแทน โดยทรงทดลองและทรงนำมาตรการประหยัดพลังงานมาใช้ด้วยพระองค์เอง ในด้านการพัฒนาวิถีชีวิตได้พระราชทานหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ เช่น เมื่อคราวพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ทรงขอให้คนไทยมีคุณธรรมสี่ประการ โดยทรงเน้นการอดทน อดกลั้น และอดออม เมื่อสังคมเริ่มมีความแปลกแยกแตกต่างกัน ได้ทรงเตือนให้ฟังการติติง และพึงโต้เถียงกันก็แต่เรื่องที่เป็นสาระ ตลอดจนถึงการรู้รักสามัคคียามที่สังคมเริ่มขาดความเอื้ออาทร ได้รับสั่งเมื่อคราวเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบว่า ขอให้คนไทยมีไมตรีจิตต่อกัน และเมื่อสังคมท้อแท้เพราะถดถอยทางเศรษฐกิจ ได้พระราชทานหลักชัยแห่งชีวิตว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นทางสายกลางนำมาใช้ได้กับ ทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ยังไม่นับงานศิลปะที่พระราชทานอีกอเนกอนันต์ เพื่อยังความสดชื่นรื่นรมย์แก่ชาวไทย เช่นเพลงปลุกใจและบทเพลงอันไพเราะ ที่บัดนี้วงดนตรีในนานาประเทศต่างนำไปขับขานบรรเลง อีกทั้งบทพระราชนิพนธ์อันงดงามด้วยคติธรรม และรสแห่งภาษาที่ชาวไทยทุกคนควรอ่าน กระทั่งถึงภาพวาด ภาพถ่าย และงานปั้นฝีพระหัตถ์นับไม่ถ้วน ทรงรักษาศีล บำเพ็ญภาวนา และปฏิบัติสมาธิแผ่พระราชกุศลไปยังพสกนิกรทั่วหน้า ข้าพระพุทธเจ้ามั่นใจว่ามาถึงวันนี้ ไม่มีชาวไทยคนใด ไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด และไม่ว่าจะพำนักอยู่ ณ ถิ่นใดบนผืนแผ่นดินนี้ ที่ยังไม่เคยได้รับละอองธุลีแห่งพระมหากรุณาธิคุณ อันแผ่พระราชทานไปถึง ซึ่งอาจมากบ้างน้อยบ้างตามอัตภาพไม่โดยตรงก็โดยอ้อม

ทุกครั้งที่พระเถระออกพระนามถวายพระพร จะต่อท้ายด้วยคำว่า “ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ” ซึ่งไพเราะกินใจนัก เพราะพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นก็ดี พระเมตตาคุณอันไพศาลก็ดี และพระปัญญาคุณอันกว้างไกลก็ดี ล้วนแต่บริสุทธิ์ประเสริฐทั้งพระกาย พระวาจา และพระราชหฤทัย ด้วยไม่ทรงหวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ดังที่ทรงสอนให้ปิดทอง หลังพระและให้ความสำคัญกับการทำตามหน้าที่ด้วยความถูกต้อง เป็นธรรม ยิ่งกว่าการอ้างอำนาจ ได้ตรัสอยู่เสมอดุจที่สมเด็จพระบรมราชชนนีเคยตรัสว่า ถ้าทำดี คิดดี พูดดี แล้วจะดีเอง นอกจากนั้น ไม่ทรงท้อถอยคอยหวังแต่ผลสำเร็จจากการงานใด ดังที่ทรงสอนให้ชาวไทยมีความฝันอันสูงสุด และมีความเพียรอันบริสุทธิ์ จึงควรที่พสกนิกรทุกคนจะก้าวเดินตามรอยพระยุคลบาท

ในปีนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างปลื้มปีติยินดียิ่งนัก ด้วยได้ประจักษ์แก่ตาว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยดี แต่พสกนิกรก็อดแสดงความห่วงใยด้วยความจงรักภักดีไม่ได้ว่ายังทรงงานอย่างหนัก ดังที่ในรอบปีที่ผ่านมา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจลงพระปรมาภิไธยในร่างกฎหมาย ที่นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจำนวนมากอยู่เป็นนิจ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษและฎีการ้องทุกข์เป็นปกติ ทรงสดับรายงานกิจการบ้านเมืองโดยสม่ำเสมอ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล และทรงรับอาคันตุกะผู้มาขอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นประจำ ทั้งยังพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าเป็นอาจิณ นับว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่ทรงปฏิบัติตามกฎหมายและจารีตของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด แต่ด้วยพระราชหฤทัยที่เที่ยงธรรม โดยไม่เคยทรงอ้างถึงพระราชอำนาจใด ๆ ให้เป็นที่คร้ามเกรง หนทางหนึ่งที่ชาวไทยน่าจะสนองพระมหากรุณาธิคุณได้อย่างดีในยามนี้ คือการสมัครสมานสามัคคี คิดดี พูดดี ทำดี ช่วยกันสร้างความสงบร่มเย็นและสันติสุขด้วยทางสายกลางแก่ชาติบ้านเมือง เพื่อให้การแปรพระราชฐานไปประทับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวลหัวหินเป็นการไกลจากความกังวลในพระราชหฤทัยอย่างแท้จริง และเป็นการแสดงออกถึงสัจจวาจา นอกเหนือจากการสวมใส่สายรัดข้อมือว่า “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” ได้อีกสถานหนึ่ง

ด้วยเดชะอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิ์ และมหิทธิฤทธิ์แห่งเทพยดาอารักษ์ทั่วจักรวาล ด้วยบุญญาภินิหารแห่งพระสยามเทวาธิราช คุ้มครองพระเศวตฉัตร และสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ด้วยอำนาจแห่งพระราชกุศลที่ได้ทรงบำเพ็ญปฏิบัติ ดุจพระโพธิสัตว์สะสมทศบารมี โปรดประชุมบันดาลอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อีกทั้งพระบรมราชจักรีวงศ์ให้ทรงสมบูรณ์พูนสุขด้วยจตุรพิธพร พระเกียรติยศจงแผ่ขจรไปทั่วทิศานุทิศ พระราชปรารถนาให้พสกนิกรสามัคคีร่มเย็น จงเป็นผลสัมฤทธิ์ หมู่ปัจจามิตรที่หวังประทุษร้ายต่อพระบรมเดชานุภาพ จงพ่ายแพ้แก่ทศพิธราชธรรมจรรยา และพระราชสัมมาปฏิบัติ ขอทรงสถิตเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมชาวไทย ให้พ้นจากทุกข์ร้อนและภัยพาล ขอทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจให้บังเกิดความสมานฉันท์ แกล้วกล้า อีกทั้งขอทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดินดุจธวัชฉัตรธงนำหน้า ขับเคลื่อนสยามรัฐสีมาอาณาจักร ให้สามารถปกปักรักษาอิสราธิปไตยแห่งพระราชอาณาเขต และพัฒนาประเทศไปสู่ความรุ่งโรจน์ อย่างยั่งยืนทุกสถานตราบกาลนิรันดร์ เทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ฑีฆายุโก โหตุ มหาราชา



______เนื่องใน วโรกาส มหามงคล
ศิริเสริม เฉลิมชนมพรรษา
พระฉัตรแก้ว ปกครองรัฐ ขัตติยา
ปวงประชา ทั่วแดนไทย ได้ร่มเย็น


เศรษฐกิจ พอเพียง พระราชดำริ
พระผู้ผลิ ทรงประทับ ดับทุกข์เข็ญ
ทศพิธ ราชธรรม ทรงบำเพ็ญ
ธ ผู้เป็นแสงเรืองรอง ส่องอำไพ


ธ เอกองค์ พระภัทรมหาราช
วโรกาส ราชสมภพ สบสมัย
ปวงประชาก้มกราบพระบาททั้งชาติไทย
น้อมถวายพระพรชัย ไชโยฯ


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า ชาว  thaivi.com  ร้อยกรองถวาย
วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

วโรกาสทรงครองราชย์สมบัติครบ ๖๐ ปี
พระชนมายุครบ๗๘พระพรรษา
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เป็นการตีความประโยค "The King can do no wrong" ที่ลึกซึ้งมากครับ

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ForrestGump
Verified User
โพสต์: 1435
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
ภาพประจำตัวสมาชิก
moo
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
Onokung
Verified User
โพสต์: 1250
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ลอกเอามาจาก MThai ครับ



ทรงงานเวลาประชวร

นำบทความนี้มาให้อ่านกันเพื่อให้เห็นถึงพระราชปณิธานในการทรงงาน

*************************************************************

ผมไม่ทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวเริ่มทรงพระประชวรในวันใดแน่ แต่ที่ผิดสังเกตก็คือ ในวันจันทร์ที่ 20 มค. 2518 นั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จพร้อมด้วยทูลกระหม่อมน้อยและทูลกระหม่อมเล็กจากเชียงใหม่ไปจังหวัดน่านเพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและเจ้าหน้าที่ พระเจ้าอยู่หัวมิได้เสด็จด้วย ที่ผิดสังเกตก็เพราะสถานการณ์ที่จังหวัดน่านกำลังวิกฤต การต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กำลังดำเนินอยู่ เจ้าหน้าที่และราษฎรได้รับบาดเจ็บและตายเป็นจำนวนมาก ในสถานการณ์อย่างนั้นพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จฯเสมอ....................

และในที่สุดก็เป็นที่ทราบกันว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร.....................

และเมื่อค่ำวันหนึ่งผมเห็นคุณหมอ(ผู้หญิง)คนหนึ่งเดินร้องไห้ลงมาจากพระตำหนัก ผมก็รู้ว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้กำลังทรงพระประชวรเฉยๆ แต่ทรงพระประชวรหนัก
บรรยากาศในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ตอนนั้นเงียบและซึมเศร้า ทุกคนหน้าตาหมองคล้ำ คราวนี้สมเด็จฯก็ทรงงดพระราชกรณียกิจและไม่เสด็จไปไหนเลยด้วย พระราชกรณียกิจสำคัญๆทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้แทนพระองค์ปฏิบัติแทน.....................

ผมเองตั้งใจว่าหากพระเจ้าอยู่หัวทรงหายพระประชวรก็จะกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตลาอุปสมบทเพื่อถวายพระราชกุศลด้วย
ครั้นแล้วเราก็ได้ข่าวดี พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการดีขึ้น พระไข้ลด แต่ยังทรงอ่อนเพลีย คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาจึงขอพระราชทานให้ทรงงดพระราชกรณียกิจเป็นเวลา30วัน............

วันนั้นผมรู้ว่ามีเหตุผิดปกติอย่างหนึ่ง เพราะสถานีวิทยุของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนเขต5 ที่ค่ายดารารัศมี อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานีแม่ข่ายของตำรวจตระเวนชายแดนในภาคเหนือเรียกเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจเครื่องหนึ่งอยู่เป็นระยะๆโดยไม่ได้รับตอบ
ประมาณ10นาฬิกา ผมจึงได้ยินเสียงแหบห้าวสั่นเครือของใครคนหนึ่งเรียกสถานีวิทยุค่ายดารารัศมี และแจ้งว่าเฮลิคอปเตอร์เครื่องที่ค่ายดารารัศมีเรียกมาตั้งแต่เช้านั้นขณะนี้ได้ลงไปจอดอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผมฟังยังไม่ทันจะจบประโยคก็จำได้ว่า ที่ผมกำลังได้ยินอยู่นั้นเป็นพระสุรเสียงของพระเจ้าอยู่หัว
ผมรู้สึกตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ยินพระสุรเสียงมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่ทรงพระประชวร แต่แล้วความตื้นตันก็กลายเป็นความรู้สึกขัดใจอย่างแรง ขัดใจเพราะเห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงพักผ่อนพระวรกายตามคำแนะนำของแพทย์ แต่กลับทรงลุกขึ้นมาทรงงานด้วยการทรงฟังและถึงกับรับสั่งทางวิทยุ
ผมนึกอะไรไม่ออก นึกได้แต่ว่าจะต้องกราบบังคมทูลประท้วง ครั้นแล้วผมก็ลงนั่งเขียนจดหมายถึงฝ่าละอองธุลีพระบาททันที........................
ในจดหมายหรือฎีกาฉบับนั้นผมกราบบังคมทูลรำพันไปว่าคงไม่ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทว่าทรงพระประชวรครั้งนี้คนไทยทั้งประเทศเป็นทุกข์เพียงใด ทุกคนสวดมนต์อ้อนวอนขอให้หายพระประชวร.............................
ผมคงจะระบายอารมณ์ลงไปในจดหมายหรือฎีกาฉบับนั้นอีกเป็นอันมาก ในตอนท้ายผมกราบบังคมทูลอ้อนวอนขอให้ทรงงดพระราชกรณียกิจตามที่แพทย์ขอพระราชทานไว้ และหากมีความจำเป็นที่จะต้องรับสั่งกับผู้ใดก็ไม่จำเป็นจะต้องทรงฝืนพระวรกายลุกขึ้นรับสั่งทางวิทยุ พระราชทานเป็นพระราชหัตถเลขาลงมาก็ได้..................

ผมไม่หวังว่าพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระปฏิกิริยาอย่างใด เพราะฉะนั้นในวันรุ่งขึ้นเมื่อทูลกระหม่อมน้อยทรงเชิญบันทึกพระราชกระแสตอบจดหมายหรือฎีกาที่ผมถวายขึ้นไปมาพระราชทานให้ผม ผมจึงตกใจแทบสิ้นสติ......................

..........บันทึกพระราชกระแสนั้นตอบจดหมายหรือฎีกาที่ผมทูลเกล้าฯถวายเป็นข้อๆ
ข้อแรกนั้นผมเข้าใจว่าคงจะทรงตอบที่ผมกราบบังคมทูลขอให้พระราชทานเป็นพระราชหัตถเลขาแทน ทรงตอบว่า
* ถ้าเป็นพระราชหัตถเลขา เขียนหยุกหยิก เมื่อยมือ ยิ่งช้า จึงต้องพูด

ส่วนที่ผมรำพันไปในจดหมายว่าจะตายแทนพระเจ้าอยู่หัวได้นั้น มีพระราชกระแสว่า
* จะตายแทนใคร? ใครจะตาย? เราเหนียว เราไม่ตาย ถ้าเราไม่ตาย เราก็ต้องการใช้ จะไปหาความสุขส่วนตัวอุปสมบทไม่ได้
* ถ้าเราตาย อนุญาตให้บวชหน้าไฟ ถวายพระราชกุศล(แต่เราไม่ตาย)

บันทึกพระราชกระแสที่ตอบมาเป็นข้อๆนั้นยังมีข้ออื่นอีก ซึ่งจะขอเชิญมาลงไว้ที่นี้ เพราะทุกข้อสะท้อนพระราชอัธยาศัย ทำให้เห็นน้ำพระทัยและวิธีทรงงานของพระเจ้าอยู่หัวชัดเจน
* ถ้าให้ทำอะไรก็ต้องมีคำสั่ง ให้ทำตามคำสั่ง ไม่อย่างนั้นสะตึ จะทำอะไรคนเดียวไม่ได้ ต้องทำเป็นteamwork(ทำมานานแล้ว)
* เคยบอกไว้ว่างานประจำต้องทำอยู่แล้ว ถึงไม่บอกให้ทำก็ต้องทำ ไม่ต้องให้สั่งซ้ำอีก จะประชวรหรือไม่ก็ต้องทำตามนโยบายที่สั่งไว้แต่ต้น ห้ามทรยศและห้ามโง่ด้วย
* เห็นด้วยว่าทุกคนต้องเห็นแก่ตัว ถ้าเห็นแก่ตัวโดยแท้ โดยบริสุทธิ์ใจ ประเทศชาติก็จะรอด(ห้ามมีอคติ)
ข้อสุดท้ายเข้าใจว่าเป็นพระราชวิจารณ์ที่ทรงมีต่อจดหมายหรือฎีกาที่ผมทูลเกล้าถวายไป เพราะมีข้อความว่า
* แบบฟอร์มveryเชย

*****************************************

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร / รอยพระยุคลบาท
1.ถูกหรือแพง
2.มั่นคงหรือชั่วครู่
3.ขยายตัวหรือหดตัว
รูปภาพ
mey
Verified User
โพสต์: 359
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 9

โพสต์

** ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานด้วยเทอญ**
thaistock2005
Verified User
โพสต์: 424
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 10

โพสต์

**** ขอทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน *****
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 11

โพสต์

พระบรมราโชวาทของพระองค์ท่าน ช่วยให้เราเข้าใจขึ้นไปอีกระดับและต้องอ่านทวนหลายๆรอบเพื่อทำความเข้าใจต่อไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เพิ่งกลับจากวัดมเหยงศณ์ มีผู้ปฎิบัติธรรม ประมาณ 1000-1200 คน โดยประมาณ หลวงพ่อเกษม เขมรังสี เจ้าอาวาส บอกให้ทุกคนนั่งสมาธิ ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แล้วส่งใจร่วมกันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อ ของพวกเราปวงชนชาวไทย

ก่อนที่จะมีการนั่งสมาธิ ได้มีการฉายชีวประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยครับ

อืม ผมรู้สึกดีๆมากๆเลย และโชคดี เพราะโดยปกติวัดไม่มีโทรทัศน์ แต่ปีนี้มีผู้บริจาคโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ของ SONY นักปฎิบัติธรรมทั้งหลาย จึงได้ดูการถ่ายทอด และร่วมจุดเทียน อย่างพร้อมเพรียงกัน

อย่างไรก็ตามตอนจุดพลุนี่ซิ เสียงนี้เหมือนของจริงมากๆ เนื่องจากที่วัดมีลำโพง boss หรืออะไรนี่ ฝังดินไว้เป็นจุดๆ ทั่วทั้งวัด โห ระบบเสียงนี่ สมจริงเหลือเกิน

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 13

โพสต์

สาธุ

อนุโมทนากับ  คุณเจ๋งด้วยครับ

:pray:  :pray:  :pray:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

พ่อของแผ่นดิน

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เชิญชวนติดตราสัญลักษณ์
 เฉลิมฉลองครองศิริราชสมบัติครบ๖๐ปี
ตลอดปี๒๕๔๙

รูปภาพ


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... 55&group=6
ล็อคหัวข้อ