ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
โพสต์ที่ 1
คือ ศาลมีคำสั่งห้าม วิพากวิจารณ์ออกตามสื่อต่างๆ แต่ผู้ที่ถูกสั่งห้ามได้ทำการฝ่าฝืน ไม่ทำตามคำสั่งศาล
แบบนี้ถือว่า กบฎ ต่อประเทศชาติไหมครับ
แบบนี้ถือว่า กบฎ ต่อประเทศชาติไหมครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
โพสต์ที่ 2
ใจเย็นๆ ครับ ยังไม่ถึงขนาดนั้น... :lol:
ห้ามวิจารณ์เฉพาะเงื่อนไขที่ศาลกำหนด... (เรื่องอื่นยังวิจารณ์ต่อได้ครับ)
ขัดคำสั่ง...ก็ขอศาลให้ออกหมายจับเขามาขัง....
อย่าเล่นกันนอกกติกากันนะครับ ไม่ว่าฝ่ายใด.... มันอันตราย
ห้ามวิจารณ์เฉพาะเงื่อนไขที่ศาลกำหนด... (เรื่องอื่นยังวิจารณ์ต่อได้ครับ)
ขัดคำสั่ง...ก็ขอศาลให้ออกหมายจับเขามาขัง....
อย่าเล่นกันนอกกติกากันนะครับ ไม่ว่าฝ่ายใด.... มันอันตราย
"อันชัยชนะนั้น ย่อมรู้ล่วงหน้าได้
แต่ไม่อาจจะทำให้เกิดขึ้นเอง
ตามอำเภอใจของเราได้"
แต่ไม่อาจจะทำให้เกิดขึ้นเอง
ตามอำเภอใจของเราได้"
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
โพสต์ที่ 3
ผมหมายถึง เรื่องที่ศาลได้สั่งห้ามครับ (จะไม่วิจารณ์เรื่องอื่นๆ) แต่ยังละเมิดคำสั่งศาล
จะให้เรียกว่าอะไรครับ ใครที่ไม่เคารพอำนาจศาล ไม่สมควรอยู่ในประเทศไทย ไม่สมควรเป็นคนไทยอีกต่อไป
หากต้นสน ทำตามคำสั่งศาล แล้วหันไปสู้ขบวนการยุติธรรม ผมคนหนึ่งจะตบมือให้
จะให้เรียกว่าอะไรครับ ใครที่ไม่เคารพอำนาจศาล ไม่สมควรอยู่ในประเทศไทย ไม่สมควรเป็นคนไทยอีกต่อไป
หากต้นสน ทำตามคำสั่งศาล แล้วหันไปสู้ขบวนการยุติธรรม ผมคนหนึ่งจะตบมือให้
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
โพสต์ที่ 4
สนธิ ลั่นร้องศาลปกครอง สู้อำนาจอยุติธรรม-รัฐบาลปีศาจ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2548 11:43 น.
สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งนสพ.ผู้จัดการแถลงข่าว
สนธิ แถลงโต้อำนาจรัฐอยุติธรรม ระบุ รัฐบาลปีศาจในเสื้อคลุมประชาธิปไตย จวก ทักษิณ เป็นผู้นำตระบัดสัตย์! พูดอย่างทำอย่าง ยืนยันศาลสั่งห้ามพูดเฉพาะเรื่องวิ่งเต้นสัมปทานดาวเทียม ส่วนประเด็นอื่นยังไม่ห้าม ปลุกสื่อทุกแขนงลุกขึ้นสู้อำนาจคุกคาม ลั่นเตรียมร้องศาลปกครองขอความเป็นธรรม
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แถลงข่าวภายหลังการหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะ ที่บ้านพระอาทิตย์ว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจทุกทางสกัดช่องทางการรับรู้ข่าวสารอีกแง่มุมหนึ่งของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบีบบังคับเคเบิลทีวีท้องถิ่นไม่ให้เผยแพร่สัญญาณจาก ASTV ซึ่งต้องรอให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงว่าทำผิดกฎหมายอย่างไร แล้วจะแถลงชี้แจงตอบโต้แย้งให้เห็นว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง รวมทั้งกรณีที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ส่งหนังสือเวียนไปยังผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นก็จะออกความเห็นในเรื่องนี้ภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวว่า ในเบื้องต้นถือว่าเป็นการปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารที่ประชาชนควรได้รับในอีกแง่มุมหนึ่ง
ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวอีกว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหายอีก 1 พันล้านบาท และยื่นขออำนาจศาลขอไต่สวนฉุกเฉินห้ามไม่ให้พาดพิงนายกรัฐมนตรีนั้น เท่าที่ทราบมีการขออำนาจศาลห้ามไม่ให้พูดพาดพิงเฉพาะเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวไปวิ่งเต้นขอสัมปทานดาวเทียม ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ห้าม นอกจากนี้ยังมีการห้ามเฉพาะการจำหน่ายซีดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวที่มีการฟ้องร้อง ดังนั้นถือว่ายังสามารถพูดในเรื่องอื่นๆ ได้
ผมอยากจะถามในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดในการรายการนายกฯ พบสื่อว่า จะไม่ขออำนาจศาลเพื่อไต่ส่วนฉุกเฉินคุ้มครองครองชั่วคราว มาวันนี้เป็นการพิสูจน์สัจวาจา หรือเคยลั่นวาจาเอาไว้ ผมไม่กล้าบอกว่าท่านโกหก หรือตระบัดสัตย์ แต่ขอเตือนว่าการเป็นนายกฯต้องรักษาคำพูด เหมือนกับคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่เคยให้ไว้กับประชาชนก็ต้องทำตามนั้น อย่าหลอกลวง นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า กรณีบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้รับคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์ผู้จัดการนั้นถือเป็นเรื่องที่นานาอารยประเทศเขาไม่ทำกัน นอกจากประเทศที่เป็นเผด็จการเท่านั้น
เรื่องนี้ในวงการสื่อสารมวลชนนานาชาติ และชาวต่างชาติตกใจกันมาก เพราะไม่นึกว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เคยพูดเสมอว่าจะให้เสรีภาพกับสื่อตลอดมาจะกล้าทำเช่นนี้ ผมยืนยันว่าเว็บไซต์ผู้จัดการไม่ใช่เว็บไซต์ลามก หรือเว็บไซต์ก่อการร้าย แต่เป็นเว็บแห่งปัญญา ผมไม่นึกว่ารัฐบาลชุดนี้ใส่เสื้อประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้เป็นปีศาจเผด็จการ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการผู้นี้ระบุ และว่าต่อไปถ้าสื่อยอมแพ้ก็ไม่สามารถทำงานได้ ประชาชนก็จะไม่มีเสรีภาพ มีแต่ประชาชนของไทยลักไทยเท่านั้น
นายสนธิ ยังกล่าวว่า ในชีวิตเคยเสียใจมากที่สุด 3 ครั้งคือ 2 ครั้งแรกเมื่อตอนที่พ่อและแม่เสียชีวิต และครั้งที่ 3 คือครั้งนี้ ที่สิทธิเสรีภาพและสังคมถูกปิดกั้นโดยเกิดขึ้นในยุคที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ถือว่าดีที่สุด และว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมักเคยพูดเสมอว่าจะให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งองค์ความรู้ สังคมแห่งปัญญา แต่การจะเป็นสังคมในลักษณะดังกล่าวนั้นได้ต้องมีความหลากหลายทางความคิด แต่เวลานี้มันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กสท.ใช้เหตุผลอะไรในการสั่งปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ นายสนธิ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ส่วนจะมีการร้องเรียนต่อศาลปกครองหรือไม่นั้น ตนก็ต้องต่อสู้ต่อไปในทางสันติวิธีภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตามคงจะไปร้องศาลปกครองแน่ ต้องขอรอดูหนังสือจากทาง กสท ก่อน หากส่งมาวันนี้ก็จะไปยื่นต่อศาลปกครองอย่างช้าในวันจันทร์ (21 พ.ย.)
สมมติว่าศาลเห็นด้วยกับผม แล้วผมชนะในที่สุด ผมคงต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก กสท อย่างแน่นอนที่สุดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นายสนธิ กล่าว และว่ากรณีของเคเบิลทีวีนั้น เคเบิลเป็นผู้เสียหาย คือผู้ชมในแต่ละจังหวัดสามารถรวมตัวกันและร้องต่อศาลปกครองได้ ว่าอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 39 และ 40 ส่วนของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรก็จะยังมีต่อไป แต่จะหยุดในวันที่ 2 ธ.ค.48 เพราะจะมีการสวนสนาม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคไทยรักไทย เตรียมจะออกสัญจรโดยจะนำเจ้าหนี้ของนายสนธิมาเปิดโปง นายสนธิ กล่าวว่า มีปัญญาทำได้แค่นี้ก็ทำไป ตนไม่สนใจ ตนอยากให้จัดม็อบมาสัญจร คำถามที่เคยถาม เป็นคำถามที่ ส.ส.ไทยรักไทยต้องตอบประชาชนด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกันถ้าเขาจัดสัญจรก็อาจจะมีประชาชนไปถามคำถามที่ตนเคยถาม เขาจะได้ตอบแทนนายกฯเสียที ก็ให้เขาจัดไปเถอะ เขามีตั้ง 19 ล้านเสียงไม่ใช่หรือ เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า เขาก็ทำอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ตนก็เหมือนโดนยิงด้วยเอ็ม 16ไปเรียบร้อยแล้ว จะเอามีดมาเสียบอีกกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคุ้มค่าในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ตรงไหน นายสนธิ กล่าวว่า ต้องถามตัวคุณเองว่าวันข้างหน้าในการต่อสู้ของตนทำให้พวกคุณมีสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร อย่าให้ตนตอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะเป็นผู้นำม็อบ นายสนธิ กล่าวว่า คำว่าผู้นำม็อบหมายความว่า ถ้าปิดกั้นตนในฐานะสื่อแล้วก็ต้องเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตนเองแล้วโดยวิธีสันติ โดยจะใช้หลักอหิงสา และทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เคยคิดจะไปจ้างใครวางระเบิดออฟฟิศผู้จัดการ การปาระเบิดวัดป่าบ้านตาด หรือว่าจ้างคนมาก่อกวนการชุมนุม ไม่เคยคิด
มีคนถามผมว่าจะสู้ไปทำไม ผมตอบว่าผมมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ผมทำ และผมก็ใช้อิทธิบาท 4 เข้ามาในการทำ คือรักในสิ่งที่ผมทำ ผมมีความเพียรตั้งใจที่จะทำ ผมตั้งสมาธิแน่วแน่ในสิ่งที่ผมทำ เพราะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำนั้นถูก และวางแผนจัดการไว้ดี แล้วสุดท้ายผมก็ใช้หลักอัตตาหิ อัตโนนาโถ คือผมทำไปด้วยตัวผมเอง และผลก็เกิดขึ้นจากการซึ่งมีคนเข้าร่วมกระบวนการกับผมด้วยที่ผมไม่ได้ไปเรียกร้อง ไม่ต้องไปเอา 30 บาทรักษาทุกโรค ตั้งกองทุนหมู่บ้านให้เขา แต่เขาเห็นว่าสิ่งที่ผมทำให้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะได้ด้วย กำลังใจและจิตใจจากคนเป็นล้านล้านคนที่มอบมาให้ผมเนี่ย ผมถึงว่ามีค่ามากกว่าเงินทอง และเป็นกำลังใจให้ผมเดินหน้าต่อไปโดยไม่ท้อถอย เพราะผมเชื่อในสิ่งที่ผมทำ ผมเอาธรรมนำหน้า นายสนธิ กล่าว
ส่วนกรณีที่ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย ออกมาท้าทำโพลในเขตทหารว่ามีการสนับสนุนนายสนธิมากน้อยแค่ไหน นายสนธิ กล่าวว่า ขอบคุณ ร.อ.รชฏ ขอบอก ร.อ.รชฏในฐานะที่เป็น ส.ส.ไทยรักไทยใน กทม.ว่าควรใช้เวลาไปดูแลประชาชนใน กทม.ให้มากกว่าใช้เวลามาปกป้องเจ้านายของตัวเอง อย่าลืมว่าที่เขาเข้ามาได้ก็เพราะประชาชนเลือกเข้ามา
ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ เพราะผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะผมทำในแนวอหิงสา แนวสันติวิธี และทำภายใต้กฎหมาย ถึงแม้จะโดนข่มขู่โดนกลั่นแกล้งโดนอำนาจรัฐ ผมเป็นคนคนเดียว ต่อสู้คนเดียว แต่เขามีทั้งตำรวจ ทหาร และอำนาจรัฐ เขาโทรศัพท์ไปสั่ง กสท ปิดเว็บผม โทร.ไปสั่งให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไปบอกเคเบิลท้องถิ่นไม่ให้รับสัญญาณ ASTV แล้วก็บอกให้นายวิษณุหาความชอบธรรมทางกฎหมายมาปกป้องเขา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่นายวิษณุทำเก่งที่สุด ใช่ไหม เขามีเงินมีทอง เขามีอำนาจ จะส่งนักเลงหัวไม้ที่ไหนมากลั่นแกล้งผมก็ได้ ผมถามกลับว่าพวกคุณไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือ นายสนธิ กล่าว และว่าอย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ขอความคุ้มครอง เพราะจะขอใครล่ะ ขอตำรวจ ตำรวจก็เป็นของเขา แล้วผมก็ไม่มีวันท้อด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่าจะลามมาถึงการปิดหนังสือพิมพ์ผู้จัดการด้วยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ถึงเวลาค่อยว่ากัน แต่ถ้ามีจริงก็ไม่ประหลาดใจ สมัยก่อนเคยมองว่ารัฐบาลนี้มีศีลธรรม พอมีอะไรเกิดขึ้นก็จะมองว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่น่าเป็นไปได้ แต่การณ์กลับไปแล้ว แท้ที่จริงรัฐบาลนี้ก็เป็นปีศาจตนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ประหลาดใจทั้งสิ้น
.........................................................................................................
เห็นด้วยกับคุณสนธิครับ ฟ้องศาลปกครอง แก้กลับไปเลย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2548 11:43 น.
สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งนสพ.ผู้จัดการแถลงข่าว
สนธิ แถลงโต้อำนาจรัฐอยุติธรรม ระบุ รัฐบาลปีศาจในเสื้อคลุมประชาธิปไตย จวก ทักษิณ เป็นผู้นำตระบัดสัตย์! พูดอย่างทำอย่าง ยืนยันศาลสั่งห้ามพูดเฉพาะเรื่องวิ่งเต้นสัมปทานดาวเทียม ส่วนประเด็นอื่นยังไม่ห้าม ปลุกสื่อทุกแขนงลุกขึ้นสู้อำนาจคุกคาม ลั่นเตรียมร้องศาลปกครองขอความเป็นธรรม
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แถลงข่าวภายหลังการหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะ ที่บ้านพระอาทิตย์ว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจทุกทางสกัดช่องทางการรับรู้ข่าวสารอีกแง่มุมหนึ่งของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบีบบังคับเคเบิลทีวีท้องถิ่นไม่ให้เผยแพร่สัญญาณจาก ASTV ซึ่งต้องรอให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงว่าทำผิดกฎหมายอย่างไร แล้วจะแถลงชี้แจงตอบโต้แย้งให้เห็นว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง รวมทั้งกรณีที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ส่งหนังสือเวียนไปยังผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นก็จะออกความเห็นในเรื่องนี้ภายหลัง
อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวว่า ในเบื้องต้นถือว่าเป็นการปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารที่ประชาชนควรได้รับในอีกแง่มุมหนึ่ง
ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวอีกว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหายอีก 1 พันล้านบาท และยื่นขออำนาจศาลขอไต่สวนฉุกเฉินห้ามไม่ให้พาดพิงนายกรัฐมนตรีนั้น เท่าที่ทราบมีการขออำนาจศาลห้ามไม่ให้พูดพาดพิงเฉพาะเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวไปวิ่งเต้นขอสัมปทานดาวเทียม ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ห้าม นอกจากนี้ยังมีการห้ามเฉพาะการจำหน่ายซีดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวที่มีการฟ้องร้อง ดังนั้นถือว่ายังสามารถพูดในเรื่องอื่นๆ ได้
ผมอยากจะถามในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดในการรายการนายกฯ พบสื่อว่า จะไม่ขออำนาจศาลเพื่อไต่ส่วนฉุกเฉินคุ้มครองครองชั่วคราว มาวันนี้เป็นการพิสูจน์สัจวาจา หรือเคยลั่นวาจาเอาไว้ ผมไม่กล้าบอกว่าท่านโกหก หรือตระบัดสัตย์ แต่ขอเตือนว่าการเป็นนายกฯต้องรักษาคำพูด เหมือนกับคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่เคยให้ไว้กับประชาชนก็ต้องทำตามนั้น อย่าหลอกลวง นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า กรณีบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้รับคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์ผู้จัดการนั้นถือเป็นเรื่องที่นานาอารยประเทศเขาไม่ทำกัน นอกจากประเทศที่เป็นเผด็จการเท่านั้น
เรื่องนี้ในวงการสื่อสารมวลชนนานาชาติ และชาวต่างชาติตกใจกันมาก เพราะไม่นึกว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เคยพูดเสมอว่าจะให้เสรีภาพกับสื่อตลอดมาจะกล้าทำเช่นนี้ ผมยืนยันว่าเว็บไซต์ผู้จัดการไม่ใช่เว็บไซต์ลามก หรือเว็บไซต์ก่อการร้าย แต่เป็นเว็บแห่งปัญญา ผมไม่นึกว่ารัฐบาลชุดนี้ใส่เสื้อประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้เป็นปีศาจเผด็จการ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการผู้นี้ระบุ และว่าต่อไปถ้าสื่อยอมแพ้ก็ไม่สามารถทำงานได้ ประชาชนก็จะไม่มีเสรีภาพ มีแต่ประชาชนของไทยลักไทยเท่านั้น
นายสนธิ ยังกล่าวว่า ในชีวิตเคยเสียใจมากที่สุด 3 ครั้งคือ 2 ครั้งแรกเมื่อตอนที่พ่อและแม่เสียชีวิต และครั้งที่ 3 คือครั้งนี้ ที่สิทธิเสรีภาพและสังคมถูกปิดกั้นโดยเกิดขึ้นในยุคที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ถือว่าดีที่สุด และว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมักเคยพูดเสมอว่าจะให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งองค์ความรู้ สังคมแห่งปัญญา แต่การจะเป็นสังคมในลักษณะดังกล่าวนั้นได้ต้องมีความหลากหลายทางความคิด แต่เวลานี้มันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กสท.ใช้เหตุผลอะไรในการสั่งปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ นายสนธิ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ส่วนจะมีการร้องเรียนต่อศาลปกครองหรือไม่นั้น ตนก็ต้องต่อสู้ต่อไปในทางสันติวิธีภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตามคงจะไปร้องศาลปกครองแน่ ต้องขอรอดูหนังสือจากทาง กสท ก่อน หากส่งมาวันนี้ก็จะไปยื่นต่อศาลปกครองอย่างช้าในวันจันทร์ (21 พ.ย.)
สมมติว่าศาลเห็นด้วยกับผม แล้วผมชนะในที่สุด ผมคงต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก กสท อย่างแน่นอนที่สุดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นายสนธิ กล่าว และว่ากรณีของเคเบิลทีวีนั้น เคเบิลเป็นผู้เสียหาย คือผู้ชมในแต่ละจังหวัดสามารถรวมตัวกันและร้องต่อศาลปกครองได้ ว่าอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 39 และ 40 ส่วนของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรก็จะยังมีต่อไป แต่จะหยุดในวันที่ 2 ธ.ค.48 เพราะจะมีการสวนสนาม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคไทยรักไทย เตรียมจะออกสัญจรโดยจะนำเจ้าหนี้ของนายสนธิมาเปิดโปง นายสนธิ กล่าวว่า มีปัญญาทำได้แค่นี้ก็ทำไป ตนไม่สนใจ ตนอยากให้จัดม็อบมาสัญจร คำถามที่เคยถาม เป็นคำถามที่ ส.ส.ไทยรักไทยต้องตอบประชาชนด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกันถ้าเขาจัดสัญจรก็อาจจะมีประชาชนไปถามคำถามที่ตนเคยถาม เขาจะได้ตอบแทนนายกฯเสียที ก็ให้เขาจัดไปเถอะ เขามีตั้ง 19 ล้านเสียงไม่ใช่หรือ เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า เขาก็ทำอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ตนก็เหมือนโดนยิงด้วยเอ็ม 16ไปเรียบร้อยแล้ว จะเอามีดมาเสียบอีกกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคุ้มค่าในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ตรงไหน นายสนธิ กล่าวว่า ต้องถามตัวคุณเองว่าวันข้างหน้าในการต่อสู้ของตนทำให้พวกคุณมีสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร อย่าให้ตนตอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะเป็นผู้นำม็อบ นายสนธิ กล่าวว่า คำว่าผู้นำม็อบหมายความว่า ถ้าปิดกั้นตนในฐานะสื่อแล้วก็ต้องเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตนเองแล้วโดยวิธีสันติ โดยจะใช้หลักอหิงสา และทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เคยคิดจะไปจ้างใครวางระเบิดออฟฟิศผู้จัดการ การปาระเบิดวัดป่าบ้านตาด หรือว่าจ้างคนมาก่อกวนการชุมนุม ไม่เคยคิด
มีคนถามผมว่าจะสู้ไปทำไม ผมตอบว่าผมมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ผมทำ และผมก็ใช้อิทธิบาท 4 เข้ามาในการทำ คือรักในสิ่งที่ผมทำ ผมมีความเพียรตั้งใจที่จะทำ ผมตั้งสมาธิแน่วแน่ในสิ่งที่ผมทำ เพราะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำนั้นถูก และวางแผนจัดการไว้ดี แล้วสุดท้ายผมก็ใช้หลักอัตตาหิ อัตโนนาโถ คือผมทำไปด้วยตัวผมเอง และผลก็เกิดขึ้นจากการซึ่งมีคนเข้าร่วมกระบวนการกับผมด้วยที่ผมไม่ได้ไปเรียกร้อง ไม่ต้องไปเอา 30 บาทรักษาทุกโรค ตั้งกองทุนหมู่บ้านให้เขา แต่เขาเห็นว่าสิ่งที่ผมทำให้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะได้ด้วย กำลังใจและจิตใจจากคนเป็นล้านล้านคนที่มอบมาให้ผมเนี่ย ผมถึงว่ามีค่ามากกว่าเงินทอง และเป็นกำลังใจให้ผมเดินหน้าต่อไปโดยไม่ท้อถอย เพราะผมเชื่อในสิ่งที่ผมทำ ผมเอาธรรมนำหน้า นายสนธิ กล่าว
ส่วนกรณีที่ ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย ออกมาท้าทำโพลในเขตทหารว่ามีการสนับสนุนนายสนธิมากน้อยแค่ไหน นายสนธิ กล่าวว่า ขอบคุณ ร.อ.รชฏ ขอบอก ร.อ.รชฏในฐานะที่เป็น ส.ส.ไทยรักไทยใน กทม.ว่าควรใช้เวลาไปดูแลประชาชนใน กทม.ให้มากกว่าใช้เวลามาปกป้องเจ้านายของตัวเอง อย่าลืมว่าที่เขาเข้ามาได้ก็เพราะประชาชนเลือกเข้ามา
ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ เพราะผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะผมทำในแนวอหิงสา แนวสันติวิธี และทำภายใต้กฎหมาย ถึงแม้จะโดนข่มขู่โดนกลั่นแกล้งโดนอำนาจรัฐ ผมเป็นคนคนเดียว ต่อสู้คนเดียว แต่เขามีทั้งตำรวจ ทหาร และอำนาจรัฐ เขาโทรศัพท์ไปสั่ง กสท ปิดเว็บผม โทร.ไปสั่งให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไปบอกเคเบิลท้องถิ่นไม่ให้รับสัญญาณ ASTV แล้วก็บอกให้นายวิษณุหาความชอบธรรมทางกฎหมายมาปกป้องเขา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่นายวิษณุทำเก่งที่สุด ใช่ไหม เขามีเงินมีทอง เขามีอำนาจ จะส่งนักเลงหัวไม้ที่ไหนมากลั่นแกล้งผมก็ได้ ผมถามกลับว่าพวกคุณไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือ นายสนธิ กล่าว และว่าอย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ขอความคุ้มครอง เพราะจะขอใครล่ะ ขอตำรวจ ตำรวจก็เป็นของเขา แล้วผมก็ไม่มีวันท้อด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่าจะลามมาถึงการปิดหนังสือพิมพ์ผู้จัดการด้วยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ถึงเวลาค่อยว่ากัน แต่ถ้ามีจริงก็ไม่ประหลาดใจ สมัยก่อนเคยมองว่ารัฐบาลนี้มีศีลธรรม พอมีอะไรเกิดขึ้นก็จะมองว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่น่าเป็นไปได้ แต่การณ์กลับไปแล้ว แท้ที่จริงรัฐบาลนี้ก็เป็นปีศาจตนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ประหลาดใจทั้งสิ้น
.........................................................................................................
เห็นด้วยกับคุณสนธิครับ ฟ้องศาลปกครอง แก้กลับไปเลย
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
ศาลมีคำสั่งห้ามวิพากวิจารณ์ แต่ถ้ายังละเมิดคำสั่งศาลอีก...
โพสต์ที่ 5
ปุ้ม"แจงรัฐไม่สั่งปิด เว็บไซต์ของผู้จัดการ
คมชัดลึก วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548
"สุรนันทน์"ยืนยันรัฐบาลไม่ได้สั่งปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ อ้างมีคนร้องเรียนปลุกระดมโดยใช้เบื้องสูงเป็นเครื่องมือทางการเมืองจึงต้องตรวจสอบชี้หากไม่เหมาะสมต้องดำเนินการตามกฎหมาย โต้แทนนายกฯใช้วัดพระแก้วทำบุญประเทศถูกต้องตามประเพณี
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปิดเวปไซต์" ผู้จัดการออนไลน์ "ว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการให้ปิดเวปไซต์ แต่เรื่องดังกล่าวมีการร้องเรียนกันอยู่ เนื่องจากมีการนำสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองและวิพากวิจารณ์ทางการเมือง ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และบริษัท กสท.จำกัด (มหาชน)กำลังตรวจสอบอยู่ เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม เพราะมีเนื้อหากระทบต่อสถาบันเบื้องสูง
อย่างไรก็ตามหลักการของรัฐบาลคือจะไม่เข้าไปแทรกแซงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นักการเมือง ที่ผ่านทางสื่อ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเล่นกันตามกติกา วิจารณ์ด้วยเหตุผลก็ไม่มีปัญหา รัฐบาลจะไม่ปิดกั้นแต่กรณีที่มีเนื้อหากระทบต่อสถาบันเบื้องสูง ต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ถ้าพบว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสมจริงรัฐก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามอบให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ไปพบกับผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวี ให้ช่วยพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาที่นำมาออกอากาศด้วย ซึ่งถ้าขอร้องกันแล้วไม่หยุดและพบว่ามีความไม่เหมาะสมจริง ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ ขณะเดียวกันก็ทราบว่า เรื่องดังกล่าวมีการฟ้องร้องอยู่ในหลายคดีในศาล วันนี้อยากขอร้องว่า ถ้าเล่นกันตามกระบวนการกฎหมาย รัฐบาลก็พร้อมชี้แจง
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนข้อสงสัยถึงความไม่เหมาะสมที่รัฐบาลจัดพิธีทำบุญประเทศในอุโบสถวัดพระแก้วนั้น รัฐบาลมีความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามขบนธรรมเนียมประเพณี กติกาประชาธิปไตยตลอด ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ควรดำเนินการตามกติกาด้วย ไม่ใช่มาปลุกระดมแล้วใช้สถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วปลุกระดม ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งนี้สื่อมีสิทธิวิจารณ์รัฐบาลได้ แต่จิตสำนึกในความเป็นคนไทย และรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นจิตสำนึกที่อยู่ในใจทุกคนอยู่แล้วที่สามารถใช้วิจารณญาณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลพร้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใส่เกล้าหรือ ไม่ นายสุรนันทน์ตอบว่า รัฐบาลพร้อมรับพระราชดำรัสมาใส่เกล้า และนำมาปฏิบัติทุกประการ
เมื่อถามว่า ส.ส.ทรท.จะจัดสัญจรรายสัปดาห์เพื่อชี้แจงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ออกมาโจมตีรัฐบาล นายสุรนันทน์ตอบว่า เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค คิดว่าเมื่อมีผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ ก็มีผู้ที่สามารถไปชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ซึ่งอาจจะเป็นมุมมองส่วนตัวของส.ส.
ต่อข้อถามที่ว่า จะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันหรือไม่ นายสุรนันทน์ตอบว่า ถ้าทุกคนเล่นตามกติกา จะไม่เกิดการเผชิญหน้าอยากขอร้องฝ่ายที่วิจารณ์รัฐบาล และฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลว่า การแสดงความเห็นต่าง ๆ ควรให้อยู่ในกรอบกติกา ถ้าบอกว่าไม่ให้คนอื่นไปปลุกระดม เราก็ไม่ควรไปปลุกระดมด้วย ถ้าวันนี้ทุกคนเล่นตามกระดานรัฐธรรมนูญที่ประชาชนสร้างขึ้นมาแล้ว จะมาไม่พอใจ ใช้วิธีลงใต้ดิน หรือล้มกระดานก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลถูกมองว่า ไม่ยอมรับการตรวจสอบ นายสุรนันทน์กล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจว่า รัฐบาลยอมรับฟังความคิดเห็นตลอดทุกวันนี้ประชาชนก็ตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ แม้กระทั่งรายการวิทยุอ.ส.ม.ท.ก็ใช้สิทธิวิจารณ์รัฐบาลเต็มที่
คมชัดลึก วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548
"สุรนันทน์"ยืนยันรัฐบาลไม่ได้สั่งปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ อ้างมีคนร้องเรียนปลุกระดมโดยใช้เบื้องสูงเป็นเครื่องมือทางการเมืองจึงต้องตรวจสอบชี้หากไม่เหมาะสมต้องดำเนินการตามกฎหมาย โต้แทนนายกฯใช้วัดพระแก้วทำบุญประเทศถูกต้องตามประเพณี
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปิดเวปไซต์" ผู้จัดการออนไลน์ "ว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการให้ปิดเวปไซต์ แต่เรื่องดังกล่าวมีการร้องเรียนกันอยู่ เนื่องจากมีการนำสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองและวิพากวิจารณ์ทางการเมือง ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และบริษัท กสท.จำกัด (มหาชน)กำลังตรวจสอบอยู่ เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม เพราะมีเนื้อหากระทบต่อสถาบันเบื้องสูง
อย่างไรก็ตามหลักการของรัฐบาลคือจะไม่เข้าไปแทรกแซงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นักการเมือง ที่ผ่านทางสื่อ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเล่นกันตามกติกา วิจารณ์ด้วยเหตุผลก็ไม่มีปัญหา รัฐบาลจะไม่ปิดกั้นแต่กรณีที่มีเนื้อหากระทบต่อสถาบันเบื้องสูง ต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ถ้าพบว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสมจริงรัฐก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามอบให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ไปพบกับผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวี ให้ช่วยพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาที่นำมาออกอากาศด้วย ซึ่งถ้าขอร้องกันแล้วไม่หยุดและพบว่ามีความไม่เหมาะสมจริง ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ ขณะเดียวกันก็ทราบว่า เรื่องดังกล่าวมีการฟ้องร้องอยู่ในหลายคดีในศาล วันนี้อยากขอร้องว่า ถ้าเล่นกันตามกระบวนการกฎหมาย รัฐบาลก็พร้อมชี้แจง
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนข้อสงสัยถึงความไม่เหมาะสมที่รัฐบาลจัดพิธีทำบุญประเทศในอุโบสถวัดพระแก้วนั้น รัฐบาลมีความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามขบนธรรมเนียมประเพณี กติกาประชาธิปไตยตลอด ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ควรดำเนินการตามกติกาด้วย ไม่ใช่มาปลุกระดมแล้วใช้สถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วปลุกระดม ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งนี้สื่อมีสิทธิวิจารณ์รัฐบาลได้ แต่จิตสำนึกในความเป็นคนไทย และรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นจิตสำนึกที่อยู่ในใจทุกคนอยู่แล้วที่สามารถใช้วิจารณญาณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลพร้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใส่เกล้าหรือ ไม่ นายสุรนันทน์ตอบว่า รัฐบาลพร้อมรับพระราชดำรัสมาใส่เกล้า และนำมาปฏิบัติทุกประการ
เมื่อถามว่า ส.ส.ทรท.จะจัดสัญจรรายสัปดาห์เพื่อชี้แจงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ออกมาโจมตีรัฐบาล นายสุรนันทน์ตอบว่า เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค คิดว่าเมื่อมีผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ ก็มีผู้ที่สามารถไปชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ซึ่งอาจจะเป็นมุมมองส่วนตัวของส.ส.
ต่อข้อถามที่ว่า จะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันหรือไม่ นายสุรนันทน์ตอบว่า ถ้าทุกคนเล่นตามกติกา จะไม่เกิดการเผชิญหน้าอยากขอร้องฝ่ายที่วิจารณ์รัฐบาล และฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลว่า การแสดงความเห็นต่าง ๆ ควรให้อยู่ในกรอบกติกา ถ้าบอกว่าไม่ให้คนอื่นไปปลุกระดม เราก็ไม่ควรไปปลุกระดมด้วย ถ้าวันนี้ทุกคนเล่นตามกระดานรัฐธรรมนูญที่ประชาชนสร้างขึ้นมาแล้ว จะมาไม่พอใจ ใช้วิธีลงใต้ดิน หรือล้มกระดานก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลถูกมองว่า ไม่ยอมรับการตรวจสอบ นายสุรนันทน์กล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจว่า รัฐบาลยอมรับฟังความคิดเห็นตลอดทุกวันนี้ประชาชนก็ตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ แม้กระทั่งรายการวิทยุอ.ส.ม.ท.ก็ใช้สิทธิวิจารณ์รัฐบาลเต็มที่
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน