....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 1
..อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป..
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 43814.html
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 43814.html
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
..[Fwd: Re: โดนใจใครหลายคน]
Sat, 29 Oct 2005 00:20:44 +0700 (ICT)
เรื่องของไส้เดือน
เจ้าขาว ไส้เดือนน้อย คอยแหงนมองดอกไม้นานมา ในใจก็คิดว่า ดอกไม้ช่างงดงาม
เจ้าดอกไม้ เจ้าก็ชื่นชม ที่ผีเสื้อ มาดอมดมทุกวัน
ไม่เคย ไม่เคยมองลงพื้นดิน ไม่รู้ ว่ามีใครอีกคนที่คอยรัก
ยังจำได้ดีตอนที่เจ้าดอกไม้เล็กอยู่ ไม่มีแรงอ่อนล้า เจียนตาย
เจ้าหนอน กัดกินทั้งใบ และทั้งหัวใจ ของเธอ
มีไส้เดือนคอยมาพรวนดินเสมอ ดูแลทุกวัน ดอกไม้ไม่เคยรู้
เมื่อคราวเจ้าหนอนมันกลับมา เป็นผีเสื้อโก้หรู
ดูเธอพอใจ แต่ไส้เดือนเจ็บช้ำ
เธอรู้รึเปล่า เมื่อเธอเฉามันก็ไป
เธอรู้รึเปล่า เมื่อเธอเฉาไป ใครกันที่ห่วงเธอและไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร
จะร่วงโรย หรือว่า แห้งเหี่ยว
ไม่เคยรังเกียจเธอ ไส้เดือนนี้รักเดียว
จะอยู่กับเธอ.....................จนเป็นดินด้วยกัน
***ซึ้งมากเลยอ่ะ ในแง่ของความรักที่ไม่ต้องหวังผลตอบแทน
คอยเป็นกำลังใจและดูแลเอาใจใส่หัวใจของคนที่เรารัก...
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 43814.html
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 43814.html
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
..[Fwd: Re: โดนใจใครหลายคน]
Sat, 29 Oct 2005 00:20:44 +0700 (ICT)
เรื่องของไส้เดือน
เจ้าขาว ไส้เดือนน้อย คอยแหงนมองดอกไม้นานมา ในใจก็คิดว่า ดอกไม้ช่างงดงาม
เจ้าดอกไม้ เจ้าก็ชื่นชม ที่ผีเสื้อ มาดอมดมทุกวัน
ไม่เคย ไม่เคยมองลงพื้นดิน ไม่รู้ ว่ามีใครอีกคนที่คอยรัก
ยังจำได้ดีตอนที่เจ้าดอกไม้เล็กอยู่ ไม่มีแรงอ่อนล้า เจียนตาย
เจ้าหนอน กัดกินทั้งใบ และทั้งหัวใจ ของเธอ
มีไส้เดือนคอยมาพรวนดินเสมอ ดูแลทุกวัน ดอกไม้ไม่เคยรู้
เมื่อคราวเจ้าหนอนมันกลับมา เป็นผีเสื้อโก้หรู
ดูเธอพอใจ แต่ไส้เดือนเจ็บช้ำ
เธอรู้รึเปล่า เมื่อเธอเฉามันก็ไป
เธอรู้รึเปล่า เมื่อเธอเฉาไป ใครกันที่ห่วงเธอและไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร
จะร่วงโรย หรือว่า แห้งเหี่ยว
ไม่เคยรังเกียจเธอ ไส้เดือนนี้รักเดียว
จะอยู่กับเธอ.....................จนเป็นดินด้วยกัน
***ซึ้งมากเลยอ่ะ ในแง่ของความรักที่ไม่ต้องหวังผลตอบแทน
คอยเป็นกำลังใจและดูแลเอาใจใส่หัวใจของคนที่เรารัก...
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 2
FW: "วันหนึ่งที่พ่อต้องปล่อยหนูไป"
Date: Fri, 14 Oct 2005 02:54:34 -0800
น่ารักมากเลยค่ะ
เรื่องดีๆ ที่น่าอ่าน "วันหนึ่งที่พ่อต้องปล่อยหนูไป"
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าถ้าหนูก้มเอาหน้าผากแตะพื้น
แปลว่าช้อนเมื้อกี้เป็นช้อนสุดท้าย แล้วหนูจะไม่หม่ำอีกเด็ดขาด
ไม่ว่าพ่อจะมาไม้ไหนก็ตาม
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ตอนนี้พจนานุกรมหนูมี 3 คำนี้
มี้อาว แปลว่า ไม่เอา ...
จิ แปลว่า ฉี่ (ซึ่งบางครั้งพ่อก็ต้องเดาเอาว่า จะฉี่ หรือ
ฉี่ไปแล้วจงไปตามเช็ดด้วย)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เย็นวันที่พ่อกลับเร็วนั้นมีความหมายกับหนูแค่ไหน
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า หนูกินไม่เลือกเหมือนพ่อนั่นแหละ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่ารัดจุกหนูกลางหัว
เพราะเวลาหนูคันหัวหนูจะเกาจนมันหลุด ให้รัดค่อนมาทางหน้าผาก
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูมาเกาะขาแล้วชี้ไปที่ไหน แปลว่า
สิ่งนั้นมันทำให้หนูเจ็บหรือไม่ชอบใจ (ซึ่งบางทีหนูก็เกาะขาแม่แล้วชี้มาที่พ่อ)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูยังไม่หลับ อย่าหวังว่าใครในบ้านจะได้หลับ
(อย่างเป็นสุข)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าการจัดบ้านให้เป็นระเบียบนั้นเป็นการเสียเวลาและพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เมื่อหนูตื่นมากลางดึกถ้าพ่อตบก้นหนูเบา ๆ
แล้วหนูยังไม่หลับต่อ
แปลว่าหนูหิวน้ำจงเอาขวดน้ำมาใส่ปากหนูซะดีๆ ไม่งั้นพ่อไม่ได้หลับต่อแน่ ๆ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าราคาของผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่มีความสัมพันธ์ต่อจำนวนครั้งที่หนูจะตื่นมากลางดึก
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่าลืมปล่อยหนูเล่นน้ำนานเกิน 10 นาที
เพราะหนูจะเป็นหวัด แล้วคนที่เดือดร้อนก็พ่อนั้นแหละ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าถ้าหนูนอนไม่หลับให้เอามือหนูมาแปะไว้ที่หน้าพ่อแล้วหนูจะหลับได้ง่ายขึ้น
(แต่ตอนตื่นมักจะกลายเป็นเท้าหนูเวียนมาอยู่บนหน้าพ่อแทนอยู่ร่ำไป)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ....
แล้ววันหนึ่งที่ ....
ความรักของพ่อ ... ถูกมองว่าน้อยกว่าความรักผู้ชายอีกคนหนึ่ง
คำพร่ำเตือนสอนสั่งของพ่อ ...เสียงดังน้อยกว่าคำออดอ้อนของผู้ชายคนนั้น
ความห่วงใยของพ่อ ...มีค่าน้อยกว่าที่จะปฏิเสธคำขอผู้ชายคนนั้น
อ้อมกอดของพ่อ ...ดูเหมือนจะอบอุ่นน้อยไปกว่าอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น
พ่อหวังแค่เพียงว่า....ผู้ชายคนนั้นจะรักและทนุถนอมหนูได้เพียงครึ่งที่พ่อรักหนู..
Date: Fri, 14 Oct 2005 02:54:34 -0800
น่ารักมากเลยค่ะ
เรื่องดีๆ ที่น่าอ่าน "วันหนึ่งที่พ่อต้องปล่อยหนูไป"
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าถ้าหนูก้มเอาหน้าผากแตะพื้น
แปลว่าช้อนเมื้อกี้เป็นช้อนสุดท้าย แล้วหนูจะไม่หม่ำอีกเด็ดขาด
ไม่ว่าพ่อจะมาไม้ไหนก็ตาม
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ตอนนี้พจนานุกรมหนูมี 3 คำนี้
มี้อาว แปลว่า ไม่เอา ...
จิ แปลว่า ฉี่ (ซึ่งบางครั้งพ่อก็ต้องเดาเอาว่า จะฉี่ หรือ
ฉี่ไปแล้วจงไปตามเช็ดด้วย)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เย็นวันที่พ่อกลับเร็วนั้นมีความหมายกับหนูแค่ไหน
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า หนูกินไม่เลือกเหมือนพ่อนั่นแหละ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่ารัดจุกหนูกลางหัว
เพราะเวลาหนูคันหัวหนูจะเกาจนมันหลุด ให้รัดค่อนมาทางหน้าผาก
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูมาเกาะขาแล้วชี้ไปที่ไหน แปลว่า
สิ่งนั้นมันทำให้หนูเจ็บหรือไม่ชอบใจ (ซึ่งบางทีหนูก็เกาะขาแม่แล้วชี้มาที่พ่อ)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูยังไม่หลับ อย่าหวังว่าใครในบ้านจะได้หลับ
(อย่างเป็นสุข)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าการจัดบ้านให้เป็นระเบียบนั้นเป็นการเสียเวลาและพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เมื่อหนูตื่นมากลางดึกถ้าพ่อตบก้นหนูเบา ๆ
แล้วหนูยังไม่หลับต่อ
แปลว่าหนูหิวน้ำจงเอาขวดน้ำมาใส่ปากหนูซะดีๆ ไม่งั้นพ่อไม่ได้หลับต่อแน่ ๆ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าราคาของผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่มีความสัมพันธ์ต่อจำนวนครั้งที่หนูจะตื่นมากลางดึก
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่าลืมปล่อยหนูเล่นน้ำนานเกิน 10 นาที
เพราะหนูจะเป็นหวัด แล้วคนที่เดือดร้อนก็พ่อนั้นแหละ
หนูสอนให้พ่อรู้ว่าถ้าหนูนอนไม่หลับให้เอามือหนูมาแปะไว้ที่หน้าพ่อแล้วหนูจะหลับได้ง่ายขึ้น
(แต่ตอนตื่นมักจะกลายเป็นเท้าหนูเวียนมาอยู่บนหน้าพ่อแทนอยู่ร่ำไป)
หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ....
แล้ววันหนึ่งที่ ....
ความรักของพ่อ ... ถูกมองว่าน้อยกว่าความรักผู้ชายอีกคนหนึ่ง
คำพร่ำเตือนสอนสั่งของพ่อ ...เสียงดังน้อยกว่าคำออดอ้อนของผู้ชายคนนั้น
ความห่วงใยของพ่อ ...มีค่าน้อยกว่าที่จะปฏิเสธคำขอผู้ชายคนนั้น
อ้อมกอดของพ่อ ...ดูเหมือนจะอบอุ่นน้อยไปกว่าอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น
พ่อหวังแค่เพียงว่า....ผู้ชายคนนั้นจะรักและทนุถนอมหนูได้เพียงครึ่งที่พ่อรักหนู..
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 3
วันเกิดบอกนิสัยและเนื้อคู่
ผู้ชายที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนมาดขรึม ท่าทางสุขุมนุ่มลึก
ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะไม่ชอบผู้หญิงที่เปรี้ยวเกิน ไป แต่ก็ไม่เฉื่อยแฉะเกินไปด้วย เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ชอบผู้หญิง รูปร่างสันทัด ความรักที่เจอมักจะเป็นแบบรักแรกพบ ประเภทส่งสายตาปิ๊งกันมากกว่า เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวัน จันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวัน อาทิตย์ เป็นคนที่มีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว
และใจร้อน เนื้อคู่จะเป็นคนรูปร่างใหญ่หรือไม่ก็สันทัด
ผิวค่อนข้างจะคล้ำ หรือ ไม่ก็ดำแดงมากกว่าเหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพุธ
ผู้ชายที่เกิดวัน จันทร์ เป็นคนอ่อนน้อม ช่างวิตกกังวล แต่ชอบ การต่อสู้แข่งขัน ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะเจ้าชู้
แล้วก็ ช่างเลือก เขาจะชอบ ผู้หญิงที่รูปร่างสันทัด สัดส่วนดี ผิวขาว เอาใจเก่ง
เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันเสาร์
ผู้หญิงที่เกิดวัน จันทร์ เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ก็อ่อนหวานได้เหมือ กัน มีนิสัยร่าเริง รักสนุก มักเลือกผู้ชายที่รูปร่างกำยำเป็นสุภาพบุรุษ ที่สำคัญต้องเอาใจเก่งด้วย เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน พุธ วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวันอังคาร มักชอบพูดจาขวานผ่าซาก และดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เป็นคนโรแมนติก ทีเดียว
จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานนิ่มนวล ผิว ไท่ขาวหรือดำจนเกินไป แต่ถ้าผิวดำแดงจะถูกใจ เป็นพิเศษ ส่วนรูปร่างน่ะไม่สำคัญ เหมาะกับ ผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร เป็นคนรอบ รู้ ช่างเจรจา แต่จะเป็นคนดื้อรั้น ไม่ค่อยจะยอมใคร เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน จันทร์ วันศุกร์
ผู้ชายที่เกิดวันพุธ เป็นคนช่างคิด ใจกว้าง รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น น่ารัก ทีเดียว ชอบผู้หญิงที่อ่อนหวาน แต่งตัวนำสมัย มักจะปิ๊งเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนที่ทำงาน แรกๆอาจไม่ถูกชะตาแต่ต่อไปก็ยิ่งซึ้งน้ำใจมากขึ้นเอง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพุธ
ผู้หญิงที่วันพุธ เป็น คนที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และมีเสน่ห์ดึงดูดใจ มาก จะชอบผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่และผิวสอง สีหรือผิวดำแดง เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันศุกร์ วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี ชอบเป็นผู้นำ ช่างพูด จริง ใจ ชอบผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบ ร้อย ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศเลออะไรนัก แต่ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชอบผู้หญิงผิวขาว โดยเฉพาะรูปร่างอวบๆ
จะถูกใจมาก เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี เป็นคน ถือตัว บางทีอาจดูเหมือนหยิ่ง แต่ก็ชอบช่วย เหลือคนอื่น มักจะมองผู้ชายที่สุภาพ นุ่มนวล มีความ รู้ มีเกียรติ แต่ถ้าเพื่อนๆที่ออกจะ โลๆ ละก็ไม่ถูกใจเธอแน่เหมาะกับผู้ชายที่เกิด วันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวัน ศุกร์ เป็นคนฉลาด พูดจามีเสน่ห์ แต่อารมณ์มุทะลุ โกรธง่ายแต่หายเร็ว ชอบผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ช่างพูดจนเกินไปและต้องใจเย็นทนอารมณ์แปรปวนเขา ได้
เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวัน อังคาร วันเสาร์
ผู้หญิงที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนพูดจา อ่อนหวานรักสวยรักงาม พูดจาตรงไปตรงมาดี มี นิสัยน่ารัก คือชอบช่วยเหลือคนอื่น มักชอบ ผู้ชายที่มาดขรึม และสุภาพ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน อังคาร วันพฤหัสบดี วันอาทิตย์
ผู้ชายที่เกิดวัน เสาร์ เป็นคนเด็ดเดี่ยว หูเบา เชื่อคนง่าย ชอบผู้หญิงรูปร่างสเลนเดอร์ สูงโปร่ง ผิวขาว มีเสน่ห์ที่ดวงตา และการพูดจา เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วัน พฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ จะเป็นคนหัว รั้นซักหน่อย จึงไม่ค่อยแคร์ใครๆ มักจะปิ๊งแบบฉับพลัน มากกว่ามองกันเป็นชาติ จะชอบคนที่ค่อนข้างผิวขาวมากกว่าผิว ดำ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน พฤหัสบดี
ขอขอบคุณเรื่องจากทางบ้านจาก คุณนันท์นภัส เลิศมณีทวีทรัพย์
ผู้ชายที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนมาดขรึม ท่าทางสุขุมนุ่มลึก
ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะไม่ชอบผู้หญิงที่เปรี้ยวเกิน ไป แต่ก็ไม่เฉื่อยแฉะเกินไปด้วย เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ชอบผู้หญิง รูปร่างสันทัด ความรักที่เจอมักจะเป็นแบบรักแรกพบ ประเภทส่งสายตาปิ๊งกันมากกว่า เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวัน จันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวัน อาทิตย์ เป็นคนที่มีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว
และใจร้อน เนื้อคู่จะเป็นคนรูปร่างใหญ่หรือไม่ก็สันทัด
ผิวค่อนข้างจะคล้ำ หรือ ไม่ก็ดำแดงมากกว่าเหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพุธ
ผู้ชายที่เกิดวัน จันทร์ เป็นคนอ่อนน้อม ช่างวิตกกังวล แต่ชอบ การต่อสู้แข่งขัน ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะเจ้าชู้
แล้วก็ ช่างเลือก เขาจะชอบ ผู้หญิงที่รูปร่างสันทัด สัดส่วนดี ผิวขาว เอาใจเก่ง
เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันเสาร์
ผู้หญิงที่เกิดวัน จันทร์ เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ก็อ่อนหวานได้เหมือ กัน มีนิสัยร่าเริง รักสนุก มักเลือกผู้ชายที่รูปร่างกำยำเป็นสุภาพบุรุษ ที่สำคัญต้องเอาใจเก่งด้วย เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน พุธ วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวันอังคาร มักชอบพูดจาขวานผ่าซาก และดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เป็นคนโรแมนติก ทีเดียว
จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานนิ่มนวล ผิว ไท่ขาวหรือดำจนเกินไป แต่ถ้าผิวดำแดงจะถูกใจ เป็นพิเศษ ส่วนรูปร่างน่ะไม่สำคัญ เหมาะกับ ผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร เป็นคนรอบ รู้ ช่างเจรจา แต่จะเป็นคนดื้อรั้น ไม่ค่อยจะยอมใคร เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน จันทร์ วันศุกร์
ผู้ชายที่เกิดวันพุธ เป็นคนช่างคิด ใจกว้าง รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น น่ารัก ทีเดียว ชอบผู้หญิงที่อ่อนหวาน แต่งตัวนำสมัย มักจะปิ๊งเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนที่ทำงาน แรกๆอาจไม่ถูกชะตาแต่ต่อไปก็ยิ่งซึ้งน้ำใจมากขึ้นเอง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพุธ
ผู้หญิงที่วันพุธ เป็น คนที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และมีเสน่ห์ดึงดูดใจ มาก จะชอบผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่และผิวสอง สีหรือผิวดำแดง เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันศุกร์ วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี ชอบเป็นผู้นำ ช่างพูด จริง ใจ ชอบผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบ ร้อย ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศเลออะไรนัก แต่ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชอบผู้หญิงผิวขาว โดยเฉพาะรูปร่างอวบๆ
จะถูกใจมาก เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี เป็นคน ถือตัว บางทีอาจดูเหมือนหยิ่ง แต่ก็ชอบช่วย เหลือคนอื่น มักจะมองผู้ชายที่สุภาพ นุ่มนวล มีความ รู้ มีเกียรติ แต่ถ้าเพื่อนๆที่ออกจะ โลๆ ละก็ไม่ถูกใจเธอแน่เหมาะกับผู้ชายที่เกิด วันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์
ผู้ชายที่เกิดวัน ศุกร์ เป็นคนฉลาด พูดจามีเสน่ห์ แต่อารมณ์มุทะลุ โกรธง่ายแต่หายเร็ว ชอบผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ช่างพูดจนเกินไปและต้องใจเย็นทนอารมณ์แปรปวนเขา ได้
เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวัน อังคาร วันเสาร์
ผู้หญิงที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนพูดจา อ่อนหวานรักสวยรักงาม พูดจาตรงไปตรงมาดี มี นิสัยน่ารัก คือชอบช่วยเหลือคนอื่น มักชอบ ผู้ชายที่มาดขรึม และสุภาพ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน อังคาร วันพฤหัสบดี วันอาทิตย์
ผู้ชายที่เกิดวัน เสาร์ เป็นคนเด็ดเดี่ยว หูเบา เชื่อคนง่าย ชอบผู้หญิงรูปร่างสเลนเดอร์ สูงโปร่ง ผิวขาว มีเสน่ห์ที่ดวงตา และการพูดจา เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วัน พฤหัสบดี วันศุกร์
ผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ จะเป็นคนหัว รั้นซักหน่อย จึงไม่ค่อยแคร์ใครๆ มักจะปิ๊งแบบฉับพลัน มากกว่ามองกันเป็นชาติ จะชอบคนที่ค่อนข้างผิวขาวมากกว่าผิว ดำ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวัน พฤหัสบดี
ขอขอบคุณเรื่องจากทางบ้านจาก คุณนันท์นภัส เลิศมณีทวีทรัพย์
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 4
FW: ระลึกชาติ สำหรับ คนเกิด ปี 2514 ถึง 2525..
Date: Thu, 27 Oct 2005 02:21:36 -0800
สำหรับ คนเกิด ปี 2514 ถึง 2525
ใครเกิดก่อนก็อ่านได้นะ --อ่านแล้วก็อดแอบยิ้มตามไม่ได้
1.คุณเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เล่น มอญซ่อนผ้า กระโดดยาง
รีรีข้าวสาร เป่ากบ ฯลฯ โดยไม่ต้องไปหาดูตามงานวัด หรือ
งานแสดงศิลปะวัฒนธรรม
2.คุณเกิดมาร้องเพลงขอมอบดอกไม้ในสวนได้ทันในยุคที่พี่แจ้ นกแล นิธิทัศน์ ยังดังและเมื่อโตขึ้น
คุณก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะฟังดีทูบี
3.คุณได้เห็นคาราบาวยุคก่อนประวัติศ่าสตร์ เฟื่องฟูและเสื่อมถอย
4.คุณได้เห็น ก็อต จักรพันธ์ (คนเดียวกับเจ้าชายลูกทุ่ง) ยังร้องเพลงสตริงวัยรุ่น
และคณะวงดนตรีชื่อดังอย่าง แอ๊ด เทวดา
5.คุณเกิดมาทันพอดีในยุคที่รองเท้าและถุงเท้านักเรียนแลกซื้อของเล่น
(หลอกเด็ก) และหลังจากหมดยุคคุณมันก็ไม่ทำมาหลอกเด็กอีกเลย
6.คุณโชคดีที่เกิดมาทันในยุคที่เมืองไทย มีดาราเด็กชื่อดังอย่าง น้องตูมตาม
เพราะสามารถนำมาเปรียบเทียบกับความน่ารักของน้องพลับตอนนี้ได้
7.คุณโตมาพร้อมกับโงกุน ดราก้อนบอล มันออกฉายทีวีครั้งแรกปี25292538 หนังสือการ์ตูนอัพเดท
ทุกสัปดาห์มีพิมพ์ทุกสำนักไม่มีการดองเพราะยังไม่มีลิขสิทธ์ อ่านแล้วไปดูช่อง9อีกยังมันส์
ถามเด็กผู้ชายยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักพลังคลื่นเต่า
กินเวลา10กว่าปีถึงจะจบ (แต่เด็กรุ่นใหม่ใช้เวลาอ่านแค่วันเดียว)
8.สุดยอดแห่งการ์ตูนก็มีในยุคนี้ เช่น เซ็นต์เซย่า เจ็ทแมน จีบัน เกียบัน ชาลีบัน ซึบาสะ
นายมดแดง อุลตร้าแมนเซเลอร์มูน รันม่า1/2 ฯลฯ
มันก็เข้ามาฉายตอนเราอยู่อนุบาล-ประถมแล้วพอขึ้นชั้นมัธยมมันก็ค่อยๆหายไป
9.คุณเกิดมาทันพอดี กับช่วงเกมกด วีดีโอเกม คอนตร้ามาริโอ
พอโตขึ้น ก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะเล่น play station และทามาก๊อดจิ
ขึ้นๆลงๆซ้ายขวาเอบี ซีเลค สตารท์ สูตรสามสิบตัวเลยคอนทร้า
มาริโอ่ก็เก็บเห็ดอย่างเดี่ยว ส่วนPlay Stationก็วินนิ่งเลย
10.ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น คุณก็โตมาพร้อมกับอาร์เอสยุคที่นักร้องอายุไล่เลี่ยกับคุณ ออกเทปกันให้ควั่ก
และคุณยังได้เห็นตำนานร็อค หรั่ง หินเหล็กไฟ เสือ อิทธิ ไฮร็อค ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา
หลังการเข้ามาของเต๋า ทัช บอยเก๊าท์
แก๊งใจง่าย หลังจากนั้นก็เป็นยุคทองของอาร์เอส โดยแท้จริง
แต่นั่นมันอดีต ยุคนี้เขาห้ามเอาของเกี่ยวกับอาร์เอสเข้าบ้าน
11.หนังไทยก็ทำมาตามวัยของคุณ แล้วมันก็มีเยอะจริงๆ
อนึ่งคิดถึงฯ น้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ ปีหนึ่งเพื่อนกัน
กระโปรงบานขาสั้น โลกทั้งใบ เด็กเสเพล
พอคุณโตเข้าหน่อยก็มีหนังอย่าง
โอเนกาทีฟ จักรยานสีแดง แล้วที่ทำมา โดนใจคนยุคนี้จริงๆ
อย่างหนังระลึกชาติ แฟนฉัน
12.คุณได้ซึมซับอารมณ์
และบรรยากาศของการเข้าฉายครั้งแรก ของสุดยอดหนังตื่นตา
ตื่นใจในยุคนั้นอย่าง terminater2 Jurassic park speed-เร็วกว่านรก(ภาคหลังอย่าได้พูด)
13.รองเท้าแตะในตำนานอย่าง Scholl (สกอลล์)
ก็มาฮิตที่สุดในยุคคุณนี่แหละใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง
(ร้อยละ 70 ของเด็กวัยรุ่นในยุคนั้นโดนขโมยแต๊บมาแล้ว)
14.คุณเกิดมาทัน ได้ดูลิเวอร์พูลยุคล่าอาณานิคมยุค80และตกเป็นเมืองขึ้นยุค90 จนถึงปัจจุบัน
15.ตอนมัธยมสิ่งที่ทำให้คุณบ้าบาสเกตบอลเพราะชิคาโก้บูล ร็อตแมน โอนีล พิพเพน จอร์แดน
และการ์ตูนแสลมดังค์ไม่ได้บ้าเพราะอยากโชว์สาว
16. มีหมากฝรั่งบุหรี่ด้วย อิอิ กินแล้วโดนดุประจำ
17. เรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
18. ดูดาวพระศุกร์ .. สายโลหิต เวอร์ชั่น ศรราม
สุวนันท์
19. 10ปีที่แล้วเจ้าขุนทองเป็นย! ังไง
10ปีให้หลังเจ้าขุนทองก็ยังอยู่ มันไม่แก่ขึ้นเลย*****
20. คุณได้เห็นยุคที่นักฟุตบอลไทยยังเป็น Dream Team
จนปัจจุบันกลายเป็น ฝันค้าง
21. 3 หนุ่ม 3 มุม --กบ แท่ง มอส
22.packlink, 1145 ใช้ส่งข้อความ เป็นไรที่ วัยรุ่น hit
hot มากค่ะ
23.ยุคเฟื่องฟูสุดขีด ของ วง Micro อารมณ์ "ขอมือ ขวา
หน่อยคร๊าบ"
24.มุข นายก ชวน ยัง เล่นได้เสมอ "เอ่อ ผมคิดว่า....
ในกรณีนี้ เรายังไม่ควรรีบด่วน......ตัดสินใจ ควรจา... ยืดวาระ ในการพิณาาาาา........ ออกไป ซัก 10 ชาติก่อน "
25.แผ่นซีดี ยังราคา 250 บาท... ทั้ง Grammy และ RS
26.เจ้าพ่อ เซี่ยงไฮ้.... ฉายแล้วฉายอีก.. ไม่รู้ ทำไม
เจ้าพ่อ มันออกลูกดก เหลือเกิน... ดนตรีเปิดตัว มาพร้อมกับ ท่า เดิน
อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อม ชุดสูท สวมหมวก...เท่จริงๆ...
Date: Thu, 27 Oct 2005 02:21:36 -0800
สำหรับ คนเกิด ปี 2514 ถึง 2525
ใครเกิดก่อนก็อ่านได้นะ --อ่านแล้วก็อดแอบยิ้มตามไม่ได้
1.คุณเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เล่น มอญซ่อนผ้า กระโดดยาง
รีรีข้าวสาร เป่ากบ ฯลฯ โดยไม่ต้องไปหาดูตามงานวัด หรือ
งานแสดงศิลปะวัฒนธรรม
2.คุณเกิดมาร้องเพลงขอมอบดอกไม้ในสวนได้ทันในยุคที่พี่แจ้ นกแล นิธิทัศน์ ยังดังและเมื่อโตขึ้น
คุณก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะฟังดีทูบี
3.คุณได้เห็นคาราบาวยุคก่อนประวัติศ่าสตร์ เฟื่องฟูและเสื่อมถอย
4.คุณได้เห็น ก็อต จักรพันธ์ (คนเดียวกับเจ้าชายลูกทุ่ง) ยังร้องเพลงสตริงวัยรุ่น
และคณะวงดนตรีชื่อดังอย่าง แอ๊ด เทวดา
5.คุณเกิดมาทันพอดีในยุคที่รองเท้าและถุงเท้านักเรียนแลกซื้อของเล่น
(หลอกเด็ก) และหลังจากหมดยุคคุณมันก็ไม่ทำมาหลอกเด็กอีกเลย
6.คุณโชคดีที่เกิดมาทันในยุคที่เมืองไทย มีดาราเด็กชื่อดังอย่าง น้องตูมตาม
เพราะสามารถนำมาเปรียบเทียบกับความน่ารักของน้องพลับตอนนี้ได้
7.คุณโตมาพร้อมกับโงกุน ดราก้อนบอล มันออกฉายทีวีครั้งแรกปี25292538 หนังสือการ์ตูนอัพเดท
ทุกสัปดาห์มีพิมพ์ทุกสำนักไม่มีการดองเพราะยังไม่มีลิขสิทธ์ อ่านแล้วไปดูช่อง9อีกยังมันส์
ถามเด็กผู้ชายยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักพลังคลื่นเต่า
กินเวลา10กว่าปีถึงจะจบ (แต่เด็กรุ่นใหม่ใช้เวลาอ่านแค่วันเดียว)
8.สุดยอดแห่งการ์ตูนก็มีในยุคนี้ เช่น เซ็นต์เซย่า เจ็ทแมน จีบัน เกียบัน ชาลีบัน ซึบาสะ
นายมดแดง อุลตร้าแมนเซเลอร์มูน รันม่า1/2 ฯลฯ
มันก็เข้ามาฉายตอนเราอยู่อนุบาล-ประถมแล้วพอขึ้นชั้นมัธยมมันก็ค่อยๆหายไป
9.คุณเกิดมาทันพอดี กับช่วงเกมกด วีดีโอเกม คอนตร้ามาริโอ
พอโตขึ้น ก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะเล่น play station และทามาก๊อดจิ
ขึ้นๆลงๆซ้ายขวาเอบี ซีเลค สตารท์ สูตรสามสิบตัวเลยคอนทร้า
มาริโอ่ก็เก็บเห็ดอย่างเดี่ยว ส่วนPlay Stationก็วินนิ่งเลย
10.ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น คุณก็โตมาพร้อมกับอาร์เอสยุคที่นักร้องอายุไล่เลี่ยกับคุณ ออกเทปกันให้ควั่ก
และคุณยังได้เห็นตำนานร็อค หรั่ง หินเหล็กไฟ เสือ อิทธิ ไฮร็อค ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา
หลังการเข้ามาของเต๋า ทัช บอยเก๊าท์
แก๊งใจง่าย หลังจากนั้นก็เป็นยุคทองของอาร์เอส โดยแท้จริง
แต่นั่นมันอดีต ยุคนี้เขาห้ามเอาของเกี่ยวกับอาร์เอสเข้าบ้าน
11.หนังไทยก็ทำมาตามวัยของคุณ แล้วมันก็มีเยอะจริงๆ
อนึ่งคิดถึงฯ น้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ ปีหนึ่งเพื่อนกัน
กระโปรงบานขาสั้น โลกทั้งใบ เด็กเสเพล
พอคุณโตเข้าหน่อยก็มีหนังอย่าง
โอเนกาทีฟ จักรยานสีแดง แล้วที่ทำมา โดนใจคนยุคนี้จริงๆ
อย่างหนังระลึกชาติ แฟนฉัน
12.คุณได้ซึมซับอารมณ์
และบรรยากาศของการเข้าฉายครั้งแรก ของสุดยอดหนังตื่นตา
ตื่นใจในยุคนั้นอย่าง terminater2 Jurassic park speed-เร็วกว่านรก(ภาคหลังอย่าได้พูด)
13.รองเท้าแตะในตำนานอย่าง Scholl (สกอลล์)
ก็มาฮิตที่สุดในยุคคุณนี่แหละใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง
(ร้อยละ 70 ของเด็กวัยรุ่นในยุคนั้นโดนขโมยแต๊บมาแล้ว)
14.คุณเกิดมาทัน ได้ดูลิเวอร์พูลยุคล่าอาณานิคมยุค80และตกเป็นเมืองขึ้นยุค90 จนถึงปัจจุบัน
15.ตอนมัธยมสิ่งที่ทำให้คุณบ้าบาสเกตบอลเพราะชิคาโก้บูล ร็อตแมน โอนีล พิพเพน จอร์แดน
และการ์ตูนแสลมดังค์ไม่ได้บ้าเพราะอยากโชว์สาว
16. มีหมากฝรั่งบุหรี่ด้วย อิอิ กินแล้วโดนดุประจำ
17. เรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
18. ดูดาวพระศุกร์ .. สายโลหิต เวอร์ชั่น ศรราม
สุวนันท์
19. 10ปีที่แล้วเจ้าขุนทองเป็นย! ังไง
10ปีให้หลังเจ้าขุนทองก็ยังอยู่ มันไม่แก่ขึ้นเลย*****
20. คุณได้เห็นยุคที่นักฟุตบอลไทยยังเป็น Dream Team
จนปัจจุบันกลายเป็น ฝันค้าง
21. 3 หนุ่ม 3 มุม --กบ แท่ง มอส
22.packlink, 1145 ใช้ส่งข้อความ เป็นไรที่ วัยรุ่น hit
hot มากค่ะ
23.ยุคเฟื่องฟูสุดขีด ของ วง Micro อารมณ์ "ขอมือ ขวา
หน่อยคร๊าบ"
24.มุข นายก ชวน ยัง เล่นได้เสมอ "เอ่อ ผมคิดว่า....
ในกรณีนี้ เรายังไม่ควรรีบด่วน......ตัดสินใจ ควรจา... ยืดวาระ ในการพิณาาาาา........ ออกไป ซัก 10 ชาติก่อน "
25.แผ่นซีดี ยังราคา 250 บาท... ทั้ง Grammy และ RS
26.เจ้าพ่อ เซี่ยงไฮ้.... ฉายแล้วฉายอีก.. ไม่รู้ ทำไม
เจ้าพ่อ มันออกลูกดก เหลือเกิน... ดนตรีเปิดตัว มาพร้อมกับ ท่า เดิน
อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อม ชุดสูท สวมหมวก...เท่จริงๆ...
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 5
27.หนังจีน... เล่นไพ่ โคตรสารพัด เทคนิค ในการโกง...
คนตัดคน ภาค 1 2 3 พระเอกต้องโง่ก่อน แล้วมาเก่งสุดๆ... ได้อาจารย์
ที่เก่งกว่า ตัวโกง.. แต่ถูกโกง แล้วมาถ่ายทอดฝีมือ โคตรเซียน ให้ลูกศิษย์
28.หนังจีนทุกเรื่อง มีประโยคฮิต "ใครฆ่าท่านพ่อ ..ท่านแม่..อาจารย์" "แก้แค้น 10 ปีไม่สาย"
"บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ" -ข้าน้อยมีตา หามีแววไม่..
-ข้าน้อย สมควรตาย.. ก่อนตาย เพื่อนพระเอก พระเอก หรือนางเอก
จะต้อง... โอ้ว.. (หายใจไม่ออก) ใกล้ตายเต็มทน แต่ยัง
ยืดเยื้อไปได้อีกหลายซีน... -ยุคนั้น... บูมมาก สำหรับ
"ดาบมังกรหยก"
"ศรราม เล่นเรื่อง "เหินฟ้า" ตะวันชิงพลบ , เบิร์ด ยัง โฆษณา
ฟิล์มโกดัก โหว่ โว โว เย๊...... (ท่อนหลัง เข้าใจว่า เป็น ภาษา อารบิกฟังไม่รู้เรื่อง)
29.ทำบัตรประชาชน มีออกใบเหลือง อีกสามเดือน มารับ....รูปที่ได้ มาติดบัตร... แมร่ง..ใช่ผม เหรอวะ
30.ไม่มีรายการ "ถึงลูก ถึงคน" เจอแต่ "มาตามนัด"
"ฝันที่เป็นจริง" ตาวิเศษ เห็นนะ ฯลฯ
31.เขาทราย ดิ..... เก่งที่สุด..ดูต่อยมวยทีไรชนะทุกที...
32. เราได้ดูมังกรหยกทุกภาคทุกเวอร์ชั่นทั้งจอแก้วและจอเงิน
33. เราได้กินไอติมแท่งตราจรวดแถวบ้าน
นอกจากนั้นยังได้กินไอติมถั่วดำ เผือก ตราหมีแฟนด้าด้วย
34. เราได้เรียนรู้พร้อมกับมานี มานะ ปิติ วีระ เพชรชูใจ จันทร ฯลฯ เจ้าแก่ สีเทา ด้วย
35. เราได้ดูอิคคิวซังตั้งแต่เด็! กยันโต
ทำไรต้องนั่งมาทิ ใช้หมองก่อนปิ๊ง
36. เราทันอ่านศรีธนนท์ชัยกับความเจ้าเล่ห์แกมโกงของเขา
37. เราได้ดูหนังจักรๆวงศ์ๆทั้งช่อง ๓ จ. ถึงศ. และช่อง
7 ส./อ. ขวานฟ้าหน้าดำ หอยสังข์ แก้วหน้าม้า สุดยอด
38. เราได้ดูขวัญ เรียม บ้านทรายทอง แหวนทองเหลือง มนต์รักอสุร ผยอง ฯลฯ ที่ทำซ้ำไปซ้ำมา
39. เราเล่นgame boysตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนปัจจุบันอันเล็ก
ใครอ่านจนจบแล้วตรงมากกว่า 20 ข้อ แก่จัง
ถ้าเกิดหลังช่วงพ.ศ.เหล่านี้ แต่ถ้าตรงมากกว่า 20 ข้อ ก็แสดงว่าแก่เหมือนกันนะ 5555
อ่านซ้ำไป ซ้ามา ไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ยังได้รับความนิยม อยู่เสมอ...
คนตัดคน ภาค 1 2 3 พระเอกต้องโง่ก่อน แล้วมาเก่งสุดๆ... ได้อาจารย์
ที่เก่งกว่า ตัวโกง.. แต่ถูกโกง แล้วมาถ่ายทอดฝีมือ โคตรเซียน ให้ลูกศิษย์
28.หนังจีนทุกเรื่อง มีประโยคฮิต "ใครฆ่าท่านพ่อ ..ท่านแม่..อาจารย์" "แก้แค้น 10 ปีไม่สาย"
"บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ" -ข้าน้อยมีตา หามีแววไม่..
-ข้าน้อย สมควรตาย.. ก่อนตาย เพื่อนพระเอก พระเอก หรือนางเอก
จะต้อง... โอ้ว.. (หายใจไม่ออก) ใกล้ตายเต็มทน แต่ยัง
ยืดเยื้อไปได้อีกหลายซีน... -ยุคนั้น... บูมมาก สำหรับ
"ดาบมังกรหยก"
"ศรราม เล่นเรื่อง "เหินฟ้า" ตะวันชิงพลบ , เบิร์ด ยัง โฆษณา
ฟิล์มโกดัก โหว่ โว โว เย๊...... (ท่อนหลัง เข้าใจว่า เป็น ภาษา อารบิกฟังไม่รู้เรื่อง)
29.ทำบัตรประชาชน มีออกใบเหลือง อีกสามเดือน มารับ....รูปที่ได้ มาติดบัตร... แมร่ง..ใช่ผม เหรอวะ
30.ไม่มีรายการ "ถึงลูก ถึงคน" เจอแต่ "มาตามนัด"
"ฝันที่เป็นจริง" ตาวิเศษ เห็นนะ ฯลฯ
31.เขาทราย ดิ..... เก่งที่สุด..ดูต่อยมวยทีไรชนะทุกที...
32. เราได้ดูมังกรหยกทุกภาคทุกเวอร์ชั่นทั้งจอแก้วและจอเงิน
33. เราได้กินไอติมแท่งตราจรวดแถวบ้าน
นอกจากนั้นยังได้กินไอติมถั่วดำ เผือก ตราหมีแฟนด้าด้วย
34. เราได้เรียนรู้พร้อมกับมานี มานะ ปิติ วีระ เพชรชูใจ จันทร ฯลฯ เจ้าแก่ สีเทา ด้วย
35. เราได้ดูอิคคิวซังตั้งแต่เด็! กยันโต
ทำไรต้องนั่งมาทิ ใช้หมองก่อนปิ๊ง
36. เราทันอ่านศรีธนนท์ชัยกับความเจ้าเล่ห์แกมโกงของเขา
37. เราได้ดูหนังจักรๆวงศ์ๆทั้งช่อง ๓ จ. ถึงศ. และช่อง
7 ส./อ. ขวานฟ้าหน้าดำ หอยสังข์ แก้วหน้าม้า สุดยอด
38. เราได้ดูขวัญ เรียม บ้านทรายทอง แหวนทองเหลือง มนต์รักอสุร ผยอง ฯลฯ ที่ทำซ้ำไปซ้ำมา
39. เราเล่นgame boysตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนปัจจุบันอันเล็ก
ใครอ่านจนจบแล้วตรงมากกว่า 20 ข้อ แก่จัง
ถ้าเกิดหลังช่วงพ.ศ.เหล่านี้ แต่ถ้าตรงมากกว่า 20 ข้อ ก็แสดงว่าแก่เหมือนกันนะ 5555
อ่านซ้ำไป ซ้ามา ไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ยังได้รับความนิยม อยู่เสมอ...
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 6
วิธีการเมื่อมือถือหาย ให้คนขโมยใช้ไม่ได้ และขายไม่ได้
Subject: FW: วิธีการเมื่อมือถือหาย ให้คนขโมยใช้ไม่ได้ และขายไม่ได้
วิธีการเมื่อมือถือหายให้คนขโมยใช้ไม่ได้และขายไม่ ได้
มือถือแต่ละเครื่องจะมี S/N (Serial Number)
ของตัวเองเหมือนกับเลขประจำตัวประชาชน
ถ้า ต้องการทราบว่าเป็น เบอร์อะไร ให้กด *#06# เเล้วจะมี รหัส 15
หลักขึ้นมาให้เห็น เราควรจะบันทึกไว้
และถ้า มือถือเกิดการสูญหายไปก็ให้โทรไปบอก Service Provider แจ้งหมายเลข 15
หลักนั้น เพื่อที่จะ Block การใช้โทรศัพท์
ซึ่ง จะทำให้โทรศัพท์ที่หายไปหรือถูกขโมยไปไม่สามารถใช้ได้ถึงแม้จะ
เปลี่ยน Sim Card จะส่งผลให้การขโมยโทรศัพท์มือถือไป
ขายลดลงในที่สุด
ช่วย copy แล้ว Forward Mail ไปให้ หลายๆ คนได้ทราบด้วย(แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ก็ดีใช้ได้ทั่ว
โลก)
เครื่องทุกเครื่องของมือถือเหมือนกัน
ซึ่งอัน นี้ไม่เกี่ยวกับระบบของค่ายไหนทั้งนั้น
Subject: FW: วิธีการเมื่อมือถือหาย ให้คนขโมยใช้ไม่ได้ และขายไม่ได้
วิธีการเมื่อมือถือหายให้คนขโมยใช้ไม่ได้และขายไม่ ได้
มือถือแต่ละเครื่องจะมี S/N (Serial Number)
ของตัวเองเหมือนกับเลขประจำตัวประชาชน
ถ้า ต้องการทราบว่าเป็น เบอร์อะไร ให้กด *#06# เเล้วจะมี รหัส 15
หลักขึ้นมาให้เห็น เราควรจะบันทึกไว้
และถ้า มือถือเกิดการสูญหายไปก็ให้โทรไปบอก Service Provider แจ้งหมายเลข 15
หลักนั้น เพื่อที่จะ Block การใช้โทรศัพท์
ซึ่ง จะทำให้โทรศัพท์ที่หายไปหรือถูกขโมยไปไม่สามารถใช้ได้ถึงแม้จะ
เปลี่ยน Sim Card จะส่งผลให้การขโมยโทรศัพท์มือถือไป
ขายลดลงในที่สุด
ช่วย copy แล้ว Forward Mail ไปให้ หลายๆ คนได้ทราบด้วย(แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ก็ดีใช้ได้ทั่ว
โลก)
เครื่องทุกเครื่องของมือถือเหมือนกัน
ซึ่งอัน นี้ไม่เกี่ยวกับระบบของค่ายไหนทั้งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 7
FW: ไมโครเวฟ-ตัวการก่อมะเร็ง
Date: Thu, 27 Oct 2005 02:18:13 -0800
ลองคิดดูว่า ทำไม เตาไมโครเวฟ จึงมีโทษ
และหากมีโทษ...ทำไมรัฐบาลจึงไม่ห้ามการวางขายในตลาด
และมีการเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง อาจอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้
กล่าวคือ หากคุณวางกบตัวหนึ่งลงในกระทะที่กำลังตั้งไฟร้อนๆ กบจะกระโดดหนีออกจากกระทะทันที
แต่ถ้าใช้เทียนไขค่อยๆ ลนกระทะใบนั้น ให้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตอนเริ่มต้นกบจะยังไม่รู้สึกถึงความร้อน
แต่พอเริ่มรู้สึกและอยากกระโดดหนี ขาก็จะโดนละลายติดกับกระทะ จนหนีไม่พ้น
ปัจจุบันเตาไมโครเวฟ ก็เหมือนเทียนไขเล่มนั้น คนที่ใช้ก็เหมือนกบตัวนั้น
กว่าจะรู้ตัวว่า ถูกละลายติดหนับ ก็อาจสิบ หรือยี่สิบปี ผ่านไปแล้ว
แต่จะช้าหรือเร็ว ต้องถูกยึดติดขาไว้แน่...
ในการให้เลือดของโรงพยาบาล ต้องเอาเลือดที่นำออกจากตู้เย็น
ไปอุ่นให้ร้อนเสียก่อน ก่อนที่จะฉีดให้คนไข้
เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลา ใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น
ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที
จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวดในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล
ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่นั้นมา
บนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า
ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด
ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้ มีรายงานมากมายที่ทำในประเทศรัสเซีย เยอรมนี
และสวิตเซอร์แลนด์ แต่มีน้อยมากที่ทำในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการวิจัยในสหรัฐส่วนใหญ่
จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า มิฉะนั้นจะไม่ค่อยมีคนทำตาม
รายงานในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมองลดลง สมองเสื่อม
ทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว
ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง
และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ ในผัก เปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย
ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป
และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง
การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ
จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็ง เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถูกทำลาย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร
ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรับประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม ขาดพลัง
ทางที่ดี...หากเป็นไปได้ ใช้ให้น้อยที่สุด...
Date: Thu, 27 Oct 2005 02:18:13 -0800
ลองคิดดูว่า ทำไม เตาไมโครเวฟ จึงมีโทษ
และหากมีโทษ...ทำไมรัฐบาลจึงไม่ห้ามการวางขายในตลาด
และมีการเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง อาจอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้
กล่าวคือ หากคุณวางกบตัวหนึ่งลงในกระทะที่กำลังตั้งไฟร้อนๆ กบจะกระโดดหนีออกจากกระทะทันที
แต่ถ้าใช้เทียนไขค่อยๆ ลนกระทะใบนั้น ให้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตอนเริ่มต้นกบจะยังไม่รู้สึกถึงความร้อน
แต่พอเริ่มรู้สึกและอยากกระโดดหนี ขาก็จะโดนละลายติดกับกระทะ จนหนีไม่พ้น
ปัจจุบันเตาไมโครเวฟ ก็เหมือนเทียนไขเล่มนั้น คนที่ใช้ก็เหมือนกบตัวนั้น
กว่าจะรู้ตัวว่า ถูกละลายติดหนับ ก็อาจสิบ หรือยี่สิบปี ผ่านไปแล้ว
แต่จะช้าหรือเร็ว ต้องถูกยึดติดขาไว้แน่...
ในการให้เลือดของโรงพยาบาล ต้องเอาเลือดที่นำออกจากตู้เย็น
ไปอุ่นให้ร้อนเสียก่อน ก่อนที่จะฉีดให้คนไข้
เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลา ใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น
ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที
จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวดในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล
ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่นั้นมา
บนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า
ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด
ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้ มีรายงานมากมายที่ทำในประเทศรัสเซีย เยอรมนี
และสวิตเซอร์แลนด์ แต่มีน้อยมากที่ทำในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการวิจัยในสหรัฐส่วนใหญ่
จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า มิฉะนั้นจะไม่ค่อยมีคนทำตาม
รายงานในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมองลดลง สมองเสื่อม
ทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว
ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง
และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ ในผัก เปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย
ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป
และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง
การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ
จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็ง เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถูกทำลาย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร
ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรับประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม ขาดพลัง
ทางที่ดี...หากเป็นไปได้ ใช้ให้น้อยที่สุด...
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....อ่านแล้ว...ขอให้มนตรานี้อยู่กับคุณตลอดไป......
โพสต์ที่ 8
FW: เงินออมประกันสังคม ไม่สนใจไม่ได้แล้ว
Date: Thu, 27 Oct 2005 01:48:53 -0800
Subject: เงินออมประกันสังคม ไม่สนใจไม่ได้แล้ว
Date: Thu, 27 Oct
>>2005 16:27:37 +0700
>>
>>http://www.komchadluek.net/news/2005/10 ... 44791.html
>><http://www.komchadluek.net/news/2005/10 ... 44791.html>
>>
>>
>>
>>เงินออมประกันสังคม ไม่สนใจไม่ได้แล้ว
>>
>>ถ้าใครยังไม่ได้ลงทะเบียนให้เข้าไปลงทะเบียนก่อน
>>เพื่อจะได้เช็คผลประโยชน์ของเราได้ ซึ่งทุกคนไม่ควรมองข้าม
>>เพราะทุกเดือนบริษัทจะหักเงิน 5% จากฐานเงินเดือน เฉลี่ยคิดที่
>>15,000.- เงินเดือนขั้นสูงสุดขนาดไหน ก็ต้องจ่ายสูงสุดอยู่ที่ 750 บาท
>>
>>จากจำนวนเงินที่หักแต่ละเดือน 5%=750 บาท แยกเป็น 1.5%=225 บาท
>>ประกันเจ็บป่วย ตาย 0.5%=75 บาท ประกันการว่างงาน และ 3%=450 บาท
>>ประกันชราภาพ
>>
>>เงินประกันชราภาพ 1 ปีจะได้ 5,400.-บาท
>>ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการออมเงิน 1 ปี จะได้เงินสบทบอีก 100%
>>จากนายจ้าง บวกดอกเบี้ยจากประกันสังคม ปี 45=4.2% และปี 46=6.5%
>>สรุปแล้วได้ผลประโยชน์ 106.5% คือประมาณ 11,502 บาท
>>
>>อยากจะเตือนว่า อย่าเห็นเป็นเงินเล็กน้อย แล้วลืมขอคืนเมื่อเกษียณอายุ
>>ท่านจะได้คืนเงินจำนวนนี้เมื่ออายุครบ 55 ปี หรือถ้า 55
>>ปีแล้วยังทำงาน ก็จะได้เมื่อเลิกส่งเงินประกันสังคม
>>
>>ที่สำคัญคือ ต้องขอคืนภายใน 1 ปี หลังจากเกษียณเท่านั้น
>>ห้ามเกินแม้แต่ 1 วัน มิฉะนั้นจะถูกยกเข้ากองทุนไปเลย
>>ไม่สามารถฟ้องอุทธรณ์ได้
>>
>>การขอคืน ถ้าท่านส่งเงินสมทบน้อยกว่า 15 ปี จะได้เป็นเงินบำเหน็จ คือ
>>ได้เป็นก้อนไปเลย แต่ถ้าส่งเงินมากกว่า 15 ปี จะได้เป็นบำนาญ 15%
>>บวกอีกร้อยละหนึ่งต่อระยะเวลาจ่ายเพิ่ม 1 ปี เช่น ส่งเงินสมทบ 20 ปี
>>ได้ 20% ของ 15,000.-บาท เท่ากับ 3,000 บาท ต่อเดือน
>>
>>อย่ามองข้าม เงินออมในประกันสังคม เชียวน่ะ
>>
>>นงลักษณ์
>>
>>ตอบ
>>
>>เจ้าหน้าที่ฝ่ายประโยชน์ทดแทน สำนักงานประกันสังคม บอกว่า
>>ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเรื่องจริง
>>แต่การขอรับเงินสงเคราะห์ชราภาพ เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2541
>>เป็นต้นมา
>>
>>ถ้าผู้ประกันตนส่งเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี
>>จะได้รับเงินสงเคราะห์เป็น "บำเน็จชราภาพ" แต่ถ้าส่งเงินสมทบครบ 15 ปี
>>จึงจะได้รับเป็น "เงินบำนาญ"
>>
>>ผู้ประกันที่ส่งเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเน็จชราภาพ
>>เฉพาะในส่วนผู้สมทบที่ส่งเข้าเท่านั้น
>>
>>ถ้าผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน
>>จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพในส่วนที่ตัวเองส่งเข้ามา
>>บวกกับเงินที่นายจ้างส่งสมทบ
>>บวกกับดอกเบี้ยที่สำนักงานประกันสังคมได้ในปีนั้นๆ แล้วประกาศให้ทราบ
>>
>>ส่วน เงินบำนาญ ปัจจุบันยังไม่มีใครได้รับ
>>เพราะอายุของประกันสังคมยังไม่ถึง 15 ปี แต่มีหลักเกณฑ์ในการรับเงิน
>>คือ ผู้ประกันตนจะได้รับเงิน 15% ของค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้าย
>>แต่เฉลี่ยอยู่ที่ฐานเงินเดือน 15,000-ถ้าส่งเงินสมทบมากมากว่า 15 ปี
>>จะได้รับเพิ่มอีกร้อยละ 1% ในทุก 1 ปี
>>
>>ไม่สนใจ ไม่ได้แล้ว
>>
>>ลุงแจ่ม
Date: Thu, 27 Oct 2005 01:48:53 -0800
Subject: เงินออมประกันสังคม ไม่สนใจไม่ได้แล้ว
Date: Thu, 27 Oct
>>2005 16:27:37 +0700
>>
>>http://www.komchadluek.net/news/2005/10 ... 44791.html
>><http://www.komchadluek.net/news/2005/10 ... 44791.html>
>>
>>
>>
>>เงินออมประกันสังคม ไม่สนใจไม่ได้แล้ว
>>
>>ถ้าใครยังไม่ได้ลงทะเบียนให้เข้าไปลงทะเบียนก่อน
>>เพื่อจะได้เช็คผลประโยชน์ของเราได้ ซึ่งทุกคนไม่ควรมองข้าม
>>เพราะทุกเดือนบริษัทจะหักเงิน 5% จากฐานเงินเดือน เฉลี่ยคิดที่
>>15,000.- เงินเดือนขั้นสูงสุดขนาดไหน ก็ต้องจ่ายสูงสุดอยู่ที่ 750 บาท
>>
>>จากจำนวนเงินที่หักแต่ละเดือน 5%=750 บาท แยกเป็น 1.5%=225 บาท
>>ประกันเจ็บป่วย ตาย 0.5%=75 บาท ประกันการว่างงาน และ 3%=450 บาท
>>ประกันชราภาพ
>>
>>เงินประกันชราภาพ 1 ปีจะได้ 5,400.-บาท
>>ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการออมเงิน 1 ปี จะได้เงินสบทบอีก 100%
>>จากนายจ้าง บวกดอกเบี้ยจากประกันสังคม ปี 45=4.2% และปี 46=6.5%
>>สรุปแล้วได้ผลประโยชน์ 106.5% คือประมาณ 11,502 บาท
>>
>>อยากจะเตือนว่า อย่าเห็นเป็นเงินเล็กน้อย แล้วลืมขอคืนเมื่อเกษียณอายุ
>>ท่านจะได้คืนเงินจำนวนนี้เมื่ออายุครบ 55 ปี หรือถ้า 55
>>ปีแล้วยังทำงาน ก็จะได้เมื่อเลิกส่งเงินประกันสังคม
>>
>>ที่สำคัญคือ ต้องขอคืนภายใน 1 ปี หลังจากเกษียณเท่านั้น
>>ห้ามเกินแม้แต่ 1 วัน มิฉะนั้นจะถูกยกเข้ากองทุนไปเลย
>>ไม่สามารถฟ้องอุทธรณ์ได้
>>
>>การขอคืน ถ้าท่านส่งเงินสมทบน้อยกว่า 15 ปี จะได้เป็นเงินบำเหน็จ คือ
>>ได้เป็นก้อนไปเลย แต่ถ้าส่งเงินมากกว่า 15 ปี จะได้เป็นบำนาญ 15%
>>บวกอีกร้อยละหนึ่งต่อระยะเวลาจ่ายเพิ่ม 1 ปี เช่น ส่งเงินสมทบ 20 ปี
>>ได้ 20% ของ 15,000.-บาท เท่ากับ 3,000 บาท ต่อเดือน
>>
>>อย่ามองข้าม เงินออมในประกันสังคม เชียวน่ะ
>>
>>นงลักษณ์
>>
>>ตอบ
>>
>>เจ้าหน้าที่ฝ่ายประโยชน์ทดแทน สำนักงานประกันสังคม บอกว่า
>>ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเรื่องจริง
>>แต่การขอรับเงินสงเคราะห์ชราภาพ เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2541
>>เป็นต้นมา
>>
>>ถ้าผู้ประกันตนส่งเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี
>>จะได้รับเงินสงเคราะห์เป็น "บำเน็จชราภาพ" แต่ถ้าส่งเงินสมทบครบ 15 ปี
>>จึงจะได้รับเป็น "เงินบำนาญ"
>>
>>ผู้ประกันที่ส่งเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเน็จชราภาพ
>>เฉพาะในส่วนผู้สมทบที่ส่งเข้าเท่านั้น
>>
>>ถ้าผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน
>>จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพในส่วนที่ตัวเองส่งเข้ามา
>>บวกกับเงินที่นายจ้างส่งสมทบ
>>บวกกับดอกเบี้ยที่สำนักงานประกันสังคมได้ในปีนั้นๆ แล้วประกาศให้ทราบ
>>
>>ส่วน เงินบำนาญ ปัจจุบันยังไม่มีใครได้รับ
>>เพราะอายุของประกันสังคมยังไม่ถึง 15 ปี แต่มีหลักเกณฑ์ในการรับเงิน
>>คือ ผู้ประกันตนจะได้รับเงิน 15% ของค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้าย
>>แต่เฉลี่ยอยู่ที่ฐานเงินเดือน 15,000-ถ้าส่งเงินสมทบมากมากว่า 15 ปี
>>จะได้รับเพิ่มอีกร้อยละ 1% ในทุก 1 ปี
>>
>>ไม่สนใจ ไม่ได้แล้ว
>>
>>ลุงแจ่ม