คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 1
1. ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่คุณได้พยายามสุดๆในการทำอะไรซักอย่าง
2. สำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร
3.ล้มเหลวแล้วพยายามต่อจนสำเร็จ หรือ สำเร็จ ด้วยแรงบันดาลใจอะไร
ขอบคุณครับ
ปล. กำลังต้องการแรงบันดาลใจอย่างแรงครับ
2. สำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร
3.ล้มเหลวแล้วพยายามต่อจนสำเร็จ หรือ สำเร็จ ด้วยแรงบันดาลใจอะไร
ขอบคุณครับ
ปล. กำลังต้องการแรงบันดาลใจอย่างแรงครับ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 2
ส่วนตัว ผมเชื่อว่า คนเราจะมีแรงใจฝ่าฟันอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาได้ก็ต่อเมื่อเขาคนนั้นมีความปรารถนาอันแรงกล้าหรือมีไฟปรารถนาที่ลุกโชน เราต้องอยากเป็น อยากทำ อยากได้ สิ่งนั้นๆมากเพียงพอ มากพอที่เหตุการณ์อันเป็นปฏิปักษ์หรือปัจจัยเชิงลบที่เกิดขึ้นไม่สามารถส่งผลทำให้จิตใจของเราแกว่งไกวตามไปได้ บางครั้งในการทำอะไร หากเราไปมุ่งเน้นและกังวลกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากเกินไป มันก็อาจจะบั่นทอนพลังใจของเราได้ ทางที่ดีกว่าน่าจะเป็นการพุ่งความสนใจไปที่กระบวนการหรือสิ่งที่เราจะต้องทำในแต่ละขณะเพื่อนำเราไปสู่เป้าหมาย เพราะสุดท้ายแล้ว ชะตากรรมในส่วนที่เราควบคุมได้จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราลงมือทำในแต่ละวัน คิดแล้วทำ ทำแล้วคิดทบทวน ทบทวนแล้วปรับเปลี่ยนแนวทางหากจำเป็น และทั้งหมดต้องห่อหุ้มด้วยทัศนคติในเชิงบวก อย่าหมกหมุ่นอยู่กับอดีตที่ผ่านมาแล้วและเราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วมากจนเกินไป ( เรียนรู้จากมันแล้วก็เลิกคิดถึงมัน ) และอย่ากังวลกับอนาคตอันห่างไกลมากจนเกินไป
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 3
เข้าแพทย์จุฬา ครับ พยายามเรียนเต็มที่ จนเพื่อนๆเห็นใจ
พยายามอย่างที่สุดแล้วครับ เกือบรีไทครับ เพราะถ้าเทอมหน้าไม่ได้เกรดเฉลี่ย 2.00 ก็รีไทม์
สุดท้ายมานั่งคิดว่า เราอยากเรียน ทุกคนก็อยากให้เราเรียน ถ้าเรียนไม่จบ เราก็สูญเปล่า
แต่เนื่องจากเราไม่เก่งชีวะ ตอนสอบเอนทรานก็อ่านไม่จบ ตอนเข้ามาเรียน ปี 1 แค่ผ่ากบ ตัดเกรดกับวิดยา ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะได้ A เราก็ได้ D
ทุกวิชาที่เกี่ยวข้องกับการท่อง ได้ D ถ้าเก่งหน่อยก็ได้ C ไม่เคยได้ A เลย
ก็เลยไปปรึกษา นายแพทย์ปรีดา ทัศนประดิษฐ์ ภายหลังท่านขึ้นเป็นคณะบดีคณะแพทย์ครับ
ท่านก็ช่วยครับ ช่วยให้ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์การแพทย์
ก็ขอขอบคุณท่านครับ ที่ได้รับปริญญามา
ถามว่าภาคภูมิใจหรือไม่ ก็ภาคภูมิใจครับ ที่ได้รับปริญญาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพูดเตือนสติเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย ว่าวันรับปริญญาวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นที่จะเรียนรู้ชีวิตจริง และต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต
แต่ก็เสียดาย เพราะถ้าผมจบ ผมก็จะเป็นหมอที่ดีมากๆเลย
แต่ไม่จบก็ดีเหมือนกัน เพราะเวลาเรียนแล้วทำไม จำอะไรไม่ได้เลย
แปลกมาก
ทุกวันนี้เวลาป่วยก็ไปหาหมอนะ ไม่เคยรักษาตัวเอง
ล่าสุดไปงานศพอาเจ๊กแถวบ้าน เรื่องที่แปลกคือมีพระมานั่งรับสวดด้วย คือปกติเจอแต่พระสวด ไม่เคยเจอ พระอีก 2 รูป มานั่งประนมมือรับการสวดด้วย
ทราบภายหลังว่าอาเจ็กทำบุญเยอะมาก และสนิทกับพระอาจารย์
ผมก็บอกพี่ชายว่า อืม ไม่เคยเจอเลย พระมานั่งยกมือไหว้ รับการสวด ในงานศพแบบนี้
พี่ชายบอกว่ามี มรึงจำไม่ได้ ก็กูบวชไง แล้วก็มานั่งรับไหว้แบบนี้เหมือนกัน
อิอิ อืม ทำไมผมจำไม่ได้เลย memory มันหายไปไหน
พยายามอย่างที่สุดแล้วครับ เกือบรีไทครับ เพราะถ้าเทอมหน้าไม่ได้เกรดเฉลี่ย 2.00 ก็รีไทม์
สุดท้ายมานั่งคิดว่า เราอยากเรียน ทุกคนก็อยากให้เราเรียน ถ้าเรียนไม่จบ เราก็สูญเปล่า
แต่เนื่องจากเราไม่เก่งชีวะ ตอนสอบเอนทรานก็อ่านไม่จบ ตอนเข้ามาเรียน ปี 1 แค่ผ่ากบ ตัดเกรดกับวิดยา ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะได้ A เราก็ได้ D
ทุกวิชาที่เกี่ยวข้องกับการท่อง ได้ D ถ้าเก่งหน่อยก็ได้ C ไม่เคยได้ A เลย
ก็เลยไปปรึกษา นายแพทย์ปรีดา ทัศนประดิษฐ์ ภายหลังท่านขึ้นเป็นคณะบดีคณะแพทย์ครับ
ท่านก็ช่วยครับ ช่วยให้ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์การแพทย์
ก็ขอขอบคุณท่านครับ ที่ได้รับปริญญามา
ถามว่าภาคภูมิใจหรือไม่ ก็ภาคภูมิใจครับ ที่ได้รับปริญญาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพูดเตือนสติเหล่าบัณฑิตทั้งหลาย ว่าวันรับปริญญาวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นที่จะเรียนรู้ชีวิตจริง และต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต
แต่ก็เสียดาย เพราะถ้าผมจบ ผมก็จะเป็นหมอที่ดีมากๆเลย
แต่ไม่จบก็ดีเหมือนกัน เพราะเวลาเรียนแล้วทำไม จำอะไรไม่ได้เลย
แปลกมาก
ทุกวันนี้เวลาป่วยก็ไปหาหมอนะ ไม่เคยรักษาตัวเอง
ล่าสุดไปงานศพอาเจ๊กแถวบ้าน เรื่องที่แปลกคือมีพระมานั่งรับสวดด้วย คือปกติเจอแต่พระสวด ไม่เคยเจอ พระอีก 2 รูป มานั่งประนมมือรับการสวดด้วย
ทราบภายหลังว่าอาเจ็กทำบุญเยอะมาก และสนิทกับพระอาจารย์
ผมก็บอกพี่ชายว่า อืม ไม่เคยเจอเลย พระมานั่งยกมือไหว้ รับการสวด ในงานศพแบบนี้
พี่ชายบอกว่ามี มรึงจำไม่ได้ ก็กูบวชไง แล้วก็มานั่งรับไหว้แบบนี้เหมือนกัน
อิอิ อืม ทำไมผมจำไม่ได้เลย memory มันหายไปไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 4
โอ้ว ขอบคุณ เฮีย WEB มาก เห็นจะจริงตามนั้น เพ่งที่ผลลัพธ์ซึ่งอยู่ไกลเกินไป ทำให้ว้าวุ่นท้อแท้ ไม่มีการวางแผน ต้องสร้างแรงบันดาลใจใหม่ให้ได้
เฮียเจ๋ง ก็เจ๋งสมชื่อผ่านไรมาเยอะมาก
มีเรื่องอีกมากมายที่เราไม่รู้
เฮียเจ๋ง ก็เจ๋งสมชื่อผ่านไรมาเยอะมาก
มีเรื่องอีกมากมายที่เราไม่รู้
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 5
1)พยายามวิ่ง21กม.ขึ้นเขาใหญ่ครับ
แชมป์ในรุ่นเขาใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
ผมใช้เวลาไป2ชั่วโมงครึ่งครับ
2)น้องกั๊มถามว่าสำเร็จหรือล้มเหลว
ก็ดูเวลาที่ทำได้ก็น่าจะตอบได้นะครับ
3)ก็มาถึงข้อที่สามที่ถามเรื่องแรงบันดาลใจ
ก็วิ่งรักษาโรคภูมิเเพ้น่ะครับ
ฮ่าๆๆ หายไปเยอะเลยครับ
หลับสบาย ระบบหายใจดีขึ้นมั่กๆ
ไม่ต้องไปหาหมอกินยาเยอะๆจนมึนไปหมด ตะหาก...
แชมป์ในรุ่นเขาใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
ผมใช้เวลาไป2ชั่วโมงครึ่งครับ
2)น้องกั๊มถามว่าสำเร็จหรือล้มเหลว
ก็ดูเวลาที่ทำได้ก็น่าจะตอบได้นะครับ
3)ก็มาถึงข้อที่สามที่ถามเรื่องแรงบันดาลใจ
ก็วิ่งรักษาโรคภูมิเเพ้น่ะครับ
ฮ่าๆๆ หายไปเยอะเลยครับ
หลับสบาย ระบบหายใจดีขึ้นมั่กๆ
ไม่ต้องไปหาหมอกินยาเยอะๆจนมึนไปหมด ตะหาก...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 140
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 7
ผมได้รับแรงบันดาลใจจากเหล้า!!!ครับ
ตอนนี้ขับรถจะไปปิ่นเกล้าจะมีป้ายโฆษณาของblack label ถ้ายังพอจำกันได้จะมีเป็นสโลแกนต่างๆ ป้ายนั้นเขียนว่า
"ไม่มีใครที่ล้มเหลว มีแต่คนล้มเลิกต่างหาก"...
ตอนนี้ขับรถจะไปปิ่นเกล้าจะมีป้ายโฆษณาของblack label ถ้ายังพอจำกันได้จะมีเป็นสโลแกนต่างๆ ป้ายนั้นเขียนว่า
"ไม่มีใครที่ล้มเหลว มีแต่คนล้มเลิกต่างหาก"...
คนบางแค... แคร์บางคน...
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณมากๆสำหรับทุกความคิดเห็นและทุกกำลังใจครับ
ผมเคยอ่านหนังสือ ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน ที่รวมจดหมายคุณวินทร์เลียววารินทร์ ตอบคุณ ปราบดา หยุ่น มีตอนนึงประทับใจมาก บอกว่า โอปร้าวินฟรีย์ ผู้หญิงผิวดำที่ทรงอิทธิพลและร่ำรวยมากของ อเมริกา เธอมีแนวคิดที่ว่า เธออยู่เพื่ออะไร เธอบอกว่า เธออยู่เพื่อ
"เติมเต็มศักยภาพที่เหลืออยู่"
ผมอ่านแล้วทึ่งมาก แต่ที่ผมโพสต์กระทู้นี้เพื่อ
1. ผมรู้สึกว่า ตัวเองมีศักยภาพและโอกาส อีกมาก ที่จะทำสิ่งที่ดีขึ้น สำหรับทั้งตัวเองและคนอื่น
แต่ผมพบว่า ผมค่อนข้างล้มเหลว กับการสร้างแรงปรารถนาอย่างแรงกล้า จึงอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆในเวปที่ผ่านเหตุการณ์ความพยายามสุดๆ ต่างๆ และการสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไร
2. อยากให้กระทู้นี้ สร้างแรงบันดาลใจ แก่เพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกับผมได้อ่าน และพัฒนาตัวเอง
3. ผมไม่แน่ใจเรื่อง ความพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ หรือ มันจะเป็นความเกียจคร้านของคนเฉื่อยชา
ปล.1 หรืออาหารใจ(สิ่งแวดล้อมที่พบ หนังสือที่อ่าน ของที่ทำให้คิด) ผมเป็นพิษทำให้ใจผมแย่
ปล2. ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเอง เป็นหมาอ้วนที่ย่ำแย่ ไม่ใช่เป็นเสือหิว เหมือนเมื่อครั้งเรียนจบมาใหม่ๆ
ขอบคุณอีกครั้ง
ผมเคยอ่านหนังสือ ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน ที่รวมจดหมายคุณวินทร์เลียววารินทร์ ตอบคุณ ปราบดา หยุ่น มีตอนนึงประทับใจมาก บอกว่า โอปร้าวินฟรีย์ ผู้หญิงผิวดำที่ทรงอิทธิพลและร่ำรวยมากของ อเมริกา เธอมีแนวคิดที่ว่า เธออยู่เพื่ออะไร เธอบอกว่า เธออยู่เพื่อ
"เติมเต็มศักยภาพที่เหลืออยู่"
ผมอ่านแล้วทึ่งมาก แต่ที่ผมโพสต์กระทู้นี้เพื่อ
1. ผมรู้สึกว่า ตัวเองมีศักยภาพและโอกาส อีกมาก ที่จะทำสิ่งที่ดีขึ้น สำหรับทั้งตัวเองและคนอื่น
แต่ผมพบว่า ผมค่อนข้างล้มเหลว กับการสร้างแรงปรารถนาอย่างแรงกล้า จึงอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆในเวปที่ผ่านเหตุการณ์ความพยายามสุดๆ ต่างๆ และการสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไร
2. อยากให้กระทู้นี้ สร้างแรงบันดาลใจ แก่เพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกับผมได้อ่าน และพัฒนาตัวเอง
3. ผมไม่แน่ใจเรื่อง ความพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ หรือ มันจะเป็นความเกียจคร้านของคนเฉื่อยชา
ปล.1 หรืออาหารใจ(สิ่งแวดล้อมที่พบ หนังสือที่อ่าน ของที่ทำให้คิด) ผมเป็นพิษทำให้ใจผมแย่
ปล2. ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเอง เป็นหมาอ้วนที่ย่ำแย่ ไม่ใช่เป็นเสือหิว เหมือนเมื่อครั้งเรียนจบมาใหม่ๆ
ขอบคุณอีกครั้ง
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 314
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 12
ผู้พันแซนเดอร์ เสนอขายสูตรไก่สำเร็จในการเสนอครั้งที่ 1009 ครับ
เรื่องที่ผมพยายามมากสุดคงเป็น ขอ copy paste นะครับ
4.หลังจากจักรยาน ทำให้ผมคิดได้ว่าผมไม่เหมาะที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับราชการในขณะนั้น ผมเลยไปทำเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ข้างนอกธรรมศาสตร์(ที่จริงผมเคยเสนอจะทำในธรรมศาสตร์ แต่ไม่สำเร็จ) ซึ่งตอนแรกเจอทำเลดีแถวคลองรังสิต 6 เทียวไปเทียวมาคุยกันจนสนิทกับเจ้าของที่ให้เช่า แต่ก็ต้องรอเป็นเดือนๆให้เขาต่อเติมพื้นที่ให้เสร็จ สุดท้ายตอนเสร็จก็โดนคนอื่นตัดหน้าไป ทำให้ต้องหาทำเลใหม่โดยที่ไม่มีที่สำรองอยู่เลย ตอนนั้นค่อนข้างเครียดเหมือนกัน เพราะ เงินก็กู้แล้ว ของบางอย่างก็สั่งแล้ว รู้สึกเหมือนเราจมน้ำอยู่ พยายามจะว่ายไปหาแสงสว่างที่เห็น แล้วอยู่ๆแสงนั้นก็มืดไป แต่สุดท้ายผมก็ได้ที่ใหม่จนได้ด้วยความพยายามและความเชื่อ เรื่องนี้ทำให้ผมให้ความสำคัญกับการทำสัญญาครับ
:lol:
เรื่องที่ผมพยายามมากสุดคงเป็น ขอ copy paste นะครับ
4.หลังจากจักรยาน ทำให้ผมคิดได้ว่าผมไม่เหมาะที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับราชการในขณะนั้น ผมเลยไปทำเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ข้างนอกธรรมศาสตร์(ที่จริงผมเคยเสนอจะทำในธรรมศาสตร์ แต่ไม่สำเร็จ) ซึ่งตอนแรกเจอทำเลดีแถวคลองรังสิต 6 เทียวไปเทียวมาคุยกันจนสนิทกับเจ้าของที่ให้เช่า แต่ก็ต้องรอเป็นเดือนๆให้เขาต่อเติมพื้นที่ให้เสร็จ สุดท้ายตอนเสร็จก็โดนคนอื่นตัดหน้าไป ทำให้ต้องหาทำเลใหม่โดยที่ไม่มีที่สำรองอยู่เลย ตอนนั้นค่อนข้างเครียดเหมือนกัน เพราะ เงินก็กู้แล้ว ของบางอย่างก็สั่งแล้ว รู้สึกเหมือนเราจมน้ำอยู่ พยายามจะว่ายไปหาแสงสว่างที่เห็น แล้วอยู่ๆแสงนั้นก็มืดไป แต่สุดท้ายผมก็ได้ที่ใหม่จนได้ด้วยความพยายามและความเชื่อ เรื่องนี้ทำให้ผมให้ความสำคัญกับการทำสัญญาครับ
:lol:
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 13
ขอแจมครับ
น้องกั๊มบอกว่า
ผมก็มีประสบการณ์มาแจมครับ
ผมเคยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงพยาบาลให้มีคุณภาพสูงๆ ผมก็ชวนเจ้าหน้าที่ทำ ทุกคนก็พยายามสุดความสามารถ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ เมื่อไม่สำเร็จก็ต้องเคี่ยวเข็ญอีกทั้งแรงกายและแรงใจ เหนื่อยล้ากันถ้วนหน้า ปรากฏว่า สำเร็จจนได้ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือมันไม่ยั่งยืน มันสำเร็จแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่าที่ยังมีแรงใจแรงกายที่จะฮึดต่อ
ผมค้นพบว่า วิธีอะไรก็ตามที่ต้องใช้คนที่มีความสามารถมากๆถึงจะสำเร็จ หรือต้องการคนที่เสียสละสูงมากๆถึงจะสำเร็จ วิธีเหล่านี้ไม่ค่อยดี เพราะผลของมันไม่ค่อยยั่งยืนแม้มันจะสำเร็จลงได้
ผมจะต้องเปลี่ยนวิธี ผมต้องหาให้ได้ว่าวิธีไหน ที่แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องเสียสละมากก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ถ้าหาวิธีที่ว่าได้ โอกาสที่งานจะประสบผลสำเร็จจะมีอยู่สูง โดยที่เป้าหมายยังคงมีมาตรฐานสูงเหมือนเดิม ไม่ได้ลดมาตรฐานแต่อย่างไร และผลงานจะยั่งยืนกว่าด้วย
ดังนั้นผมจึงพยายามไม่แก้ปัญหาโดยการเพิ่มแรงกายและแรงใจ
แรงกายและแรงใจสู้แรงสติปัญญาไม่ได้ เล่าปี่รบชนะเพราะมีขงเบ้งด้วยไม่ใช่เพราะมีทหารแข็งแรงไม่กลัวตายอย่างเดียว
และดังนั้นที่น้องกั๊มจะมองหาแรงบันดาลใจ ก็อย่าลืมมองหายุทธวิธีด้วยนะครับ
น้องกั๊มบอกว่า
ผมตีความเอาว่าน้องกั้มกำลังมุมานะทำอะไรสักอย่างที่ต้องใช้ความพยายามสูงมาก และอาจจะยังไม่สำเร็จหรือมีโอกาสสูงที่จะไม่สำเร็จ ถึงต้องการแรงบันดาลใจปล. กำลังต้องการแรงบันดาลใจอย่างแรงครับ
ผมก็มีประสบการณ์มาแจมครับ
ผมเคยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงพยาบาลให้มีคุณภาพสูงๆ ผมก็ชวนเจ้าหน้าที่ทำ ทุกคนก็พยายามสุดความสามารถ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ เมื่อไม่สำเร็จก็ต้องเคี่ยวเข็ญอีกทั้งแรงกายและแรงใจ เหนื่อยล้ากันถ้วนหน้า ปรากฏว่า สำเร็จจนได้ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือมันไม่ยั่งยืน มันสำเร็จแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่าที่ยังมีแรงใจแรงกายที่จะฮึดต่อ
ผมค้นพบว่า วิธีอะไรก็ตามที่ต้องใช้คนที่มีความสามารถมากๆถึงจะสำเร็จ หรือต้องการคนที่เสียสละสูงมากๆถึงจะสำเร็จ วิธีเหล่านี้ไม่ค่อยดี เพราะผลของมันไม่ค่อยยั่งยืนแม้มันจะสำเร็จลงได้
ผมจะต้องเปลี่ยนวิธี ผมต้องหาให้ได้ว่าวิธีไหน ที่แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องเสียสละมากก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ถ้าหาวิธีที่ว่าได้ โอกาสที่งานจะประสบผลสำเร็จจะมีอยู่สูง โดยที่เป้าหมายยังคงมีมาตรฐานสูงเหมือนเดิม ไม่ได้ลดมาตรฐานแต่อย่างไร และผลงานจะยั่งยืนกว่าด้วย
ดังนั้นผมจึงพยายามไม่แก้ปัญหาโดยการเพิ่มแรงกายและแรงใจ
แรงกายและแรงใจสู้แรงสติปัญญาไม่ได้ เล่าปี่รบชนะเพราะมีขงเบ้งด้วยไม่ใช่เพราะมีทหารแข็งแรงไม่กลัวตายอย่างเดียว
และดังนั้นที่น้องกั๊มจะมองหาแรงบันดาลใจ ก็อย่าลืมมองหายุทธวิธีด้วยนะครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- Shimafuguro
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 14
1. ที่ผมจำได้สิ่งที่ผมพยายามที่สุดก็คงเป็นเรื่องการสอบ Entrance ครับปกติผมไม่ค่อยอ่านหนังสือนะครับ แต่สำหรับครั้งนั้นผมอ่านจนแม่ต้องมาบอกให้ผมนอนได้แล้ว เพราะกลัวจะไม่สบายครับ
2. ประสบความสำเร็จครับ ได้เข้าวิศวฯ จุฬา สมใจแม่ครับ
3. อย่างเดียวที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการสอบก็คือ แม่ของผมครับ
หลังจากนั้นจนเรียนจบผมยังจำไม่ได้เลยว่าผมเคยทำอะไรจริงจังอีกหรือเปล่า นี่ก็ปาเข้าไป 6-7 ปีแล้วครับ 5555....
2. ประสบความสำเร็จครับ ได้เข้าวิศวฯ จุฬา สมใจแม่ครับ
3. อย่างเดียวที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการสอบก็คือ แม่ของผมครับ
หลังจากนั้นจนเรียนจบผมยังจำไม่ได้เลยว่าผมเคยทำอะไรจริงจังอีกหรือเปล่า นี่ก็ปาเข้าไป 6-7 ปีแล้วครับ 5555....
อย่าถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม แต่จงถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 15
เรื่องของเรื่องคือ ภาวะหยุดนิ่งที่ฟอเรสเจออยู่ใช่ปะ
มันเหมือนกับเราน่าจะทำอะไรบางอย่าง ที่สำคัญ ที่ทำให้เรารู้สึกอะไรบางอย่าง คล้ายๆความภาคภูมิใจ หรือเป็นสัญญลักษณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้คนที่เรารัก นับถือ เขารู้สึกอาจจะไม่ต้องถึงขั้นภาคภูมิใจ แต่อาจจะอึ้ง และทึ่ง ว่าทำได้ไง หรือแม้แต่อึ้งและทึ่งว่า มันจะไปทำบ้าแบบนั้นไปทำไม
.......................................................................................
พี่ไม่รู้นะว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า
แต่พี่เสนอว่า ความสุขอื่นเหนือความสงบไม่มี
และการพอใจในจุดที่เราอยู่ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด
บางครั้ง คนรวยที่กำลังจะฆ่าตัวตาย เหลือบมองเห็นขอทาน แล้วดันไปคิดว่า เป็นขอทานนี่ก็ดีเหมือนกัน
รูปแบบหลากหลายของชีวิตจริงๆแล้ว สำหรับพี่ไม่มีอะไรเลย
พี่เป็นลูกคนเล็ก เด็กๆไม่มีเงิน เคยวิ่งขายเรียงเบอร์ เคยปลอกสายไฟ เคยแบกหิน
อืม พอโตขึ้นก็อยากเข้าวัดสุทธิ อยากเข้าเตรียม
ตอนไปขายเรียงเบอร์เรียนอยู่วัดสุทธิ เจ้าของโรงพิมพ์ก็ถามว่าเรียนที่ไหนเราก็ตอบว่าวัดสุทธิ เขาก็หัวเราะแล้วบอกว่า ไม่เชื่อหรอก
เราก็บอกในใจว่า เอ เรากำลังจะเข้าเตรียมอุดมนะ
ตอนอยู่วัดสุทธิเงินเราไม่มี เราก็ต้องโบกรถ ไปเที่ยวพัทยา
พอปิดเทอม 1 เดือน ก็ไปห่อปลากระป่อง ได้เงินมา 910 บาท จ่ายค่าเทอม 310 ค่าเสื้อกางเกง สองชุด 300 แล้ว อีก 300 เอาไปเที่ยว
ที่เล่าให้ฟังไม่มาบอกว่า ชีวิตพี่ผ่านอะไรมาเยอะ
แต่เล่าให้ฟังเพื่อจะบอกว่า ถ้ามันไม่ผิดศิลธรรม กฎหมาย และความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่
เมื่อจำกัดความสูญเสียแล้ว คือ ทำแล้วเสียก็ไม่มีใครเดือดร้อน
ถ้าอยากทำก็ทำได้เลย อย่าไปขอความเห็นใคร และห้ามบอกใคร จนกว่าการกระทำนั้นๆจะบรรลุจุดที่เราอยากทำ
เช่น เราอยากเรียนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องเสียเงิน
เอทำไงดี
ก็ไปสมัครเป็นบริกรในโรงแรม
เอ แล้วถ้าคนจำได้
อืม ใส่หนวดซิ แล้วก็ไปทำ ซัก 3 - 6 เดือน แบบ part time เป็นต้น
ระหว่างนี้ ไม่ต้องไปบอกใคร อยากทำไรก็ทำ
มันสนุกนะ อย่างตอนเรียนหมอ พี่แอบไปเรียน AUA เพราะอยู่ใกล้ๆจุฬา
พี่เรียนของพี่อยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนหมอคนไหนไปเรียน เพราะพี่ไม่ได้บอกใคร และก็ไม่มีใครถาม และพี่ก็ไม่ได้ชวนใคร
สุดท้าย ยังนึกเสียดายสาวๆพานิชย์ ตั้งหลายๆๆๆคนเลยเน้อ
......................................................................................
สำหรับบางคน คือ การเติมเต็มให้กับชีวิต
สำหรับพี่นะตอนนี้ ความสุขอื่นเหนือความสงบไม่มี
มันเหมือนกับเราน่าจะทำอะไรบางอย่าง ที่สำคัญ ที่ทำให้เรารู้สึกอะไรบางอย่าง คล้ายๆความภาคภูมิใจ หรือเป็นสัญญลักษณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้คนที่เรารัก นับถือ เขารู้สึกอาจจะไม่ต้องถึงขั้นภาคภูมิใจ แต่อาจจะอึ้ง และทึ่ง ว่าทำได้ไง หรือแม้แต่อึ้งและทึ่งว่า มันจะไปทำบ้าแบบนั้นไปทำไม
.......................................................................................
พี่ไม่รู้นะว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า
แต่พี่เสนอว่า ความสุขอื่นเหนือความสงบไม่มี
และการพอใจในจุดที่เราอยู่ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด
บางครั้ง คนรวยที่กำลังจะฆ่าตัวตาย เหลือบมองเห็นขอทาน แล้วดันไปคิดว่า เป็นขอทานนี่ก็ดีเหมือนกัน
รูปแบบหลากหลายของชีวิตจริงๆแล้ว สำหรับพี่ไม่มีอะไรเลย
พี่เป็นลูกคนเล็ก เด็กๆไม่มีเงิน เคยวิ่งขายเรียงเบอร์ เคยปลอกสายไฟ เคยแบกหิน
อืม พอโตขึ้นก็อยากเข้าวัดสุทธิ อยากเข้าเตรียม
ตอนไปขายเรียงเบอร์เรียนอยู่วัดสุทธิ เจ้าของโรงพิมพ์ก็ถามว่าเรียนที่ไหนเราก็ตอบว่าวัดสุทธิ เขาก็หัวเราะแล้วบอกว่า ไม่เชื่อหรอก
เราก็บอกในใจว่า เอ เรากำลังจะเข้าเตรียมอุดมนะ
ตอนอยู่วัดสุทธิเงินเราไม่มี เราก็ต้องโบกรถ ไปเที่ยวพัทยา
พอปิดเทอม 1 เดือน ก็ไปห่อปลากระป่อง ได้เงินมา 910 บาท จ่ายค่าเทอม 310 ค่าเสื้อกางเกง สองชุด 300 แล้ว อีก 300 เอาไปเที่ยว
ที่เล่าให้ฟังไม่มาบอกว่า ชีวิตพี่ผ่านอะไรมาเยอะ
แต่เล่าให้ฟังเพื่อจะบอกว่า ถ้ามันไม่ผิดศิลธรรม กฎหมาย และความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่
เมื่อจำกัดความสูญเสียแล้ว คือ ทำแล้วเสียก็ไม่มีใครเดือดร้อน
ถ้าอยากทำก็ทำได้เลย อย่าไปขอความเห็นใคร และห้ามบอกใคร จนกว่าการกระทำนั้นๆจะบรรลุจุดที่เราอยากทำ
เช่น เราอยากเรียนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องเสียเงิน
เอทำไงดี
ก็ไปสมัครเป็นบริกรในโรงแรม
เอ แล้วถ้าคนจำได้
อืม ใส่หนวดซิ แล้วก็ไปทำ ซัก 3 - 6 เดือน แบบ part time เป็นต้น
ระหว่างนี้ ไม่ต้องไปบอกใคร อยากทำไรก็ทำ
มันสนุกนะ อย่างตอนเรียนหมอ พี่แอบไปเรียน AUA เพราะอยู่ใกล้ๆจุฬา
พี่เรียนของพี่อยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนหมอคนไหนไปเรียน เพราะพี่ไม่ได้บอกใคร และก็ไม่มีใครถาม และพี่ก็ไม่ได้ชวนใคร
สุดท้าย ยังนึกเสียดายสาวๆพานิชย์ ตั้งหลายๆๆๆคนเลยเน้อ
......................................................................................
สำหรับบางคน คือ การเติมเต็มให้กับชีวิต
สำหรับพี่นะตอนนี้ ความสุขอื่นเหนือความสงบไม่มี
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 16
มีcase studyจากที่บ้านเลย
เนื่องจากที่บ้าน เป็นครอบครัวคนจีน
ซึ่งญาติทางด้านพ่อนั้นเป็นผู้หญิงทั้งหมดไม่ได้แต่งงาน มีห้าคน
กฏของคนจีนคือ ให้ลูกชายคนโตเลี้ยงดูทั้งครอบครัว
ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ช่วงปี 2528-2529 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กิจการของพ่อไม่ดี ประสบกับปัญหา (พ่อและแม่มีลูกสามคน ผู้ชายสองหญิงหนึ่ง เราเป็นคนสุดท้อง) ช่วงนั้นไม่มีเงินให้ค่าเช่าบ้านค่าน้ำค่าไฟฟ้า ไปขอเงินจากป้าทั้งห้าคน ไม่มีใครให้ยืมเลย
พอดีกิจการขนส่งมาเช่าบ้านเราไว้ของ ก็ได้พอจะมีพอจะกิน ลูกๆๆก็ออกมาเรียนโรงเรียนรัฐบาล(ตอนนี้เราเข้าป.1 โรงเรียนวัดเลยอ่ะ พี่สาวเข้าม.1โรงเรียนรัฐเมื่อกัน พี่ชายเรียนปวช และออกมาทำงานครึ่งวัน ช่วยเหลือพ่ออีกทางหนึ่ง โดนที่ไม่ขอเงินพ่อมาใช้ตั้งนานแล้ว)
จากช่วงนั้นบ้านก็เริ่มจะดีขึ้น กิจการของพ่อก็เปลี่ยนมาเป็นการให้เช่าร่มในตลาดนัด แถวบ้านในวันเสาร์และอาทิตย์ ทำให้ฐานะทางบ้านดีขึ้นเรื่อยๆๆ
จนถึงช่วงวิกฤติเศรษฐกิจบ้านเราก็ไม่ได้ผลกระทบ แถมยังทำให้บ้านเรารู้ว่า ความเหนื่อยยากที่เมื่อก่อนทำนั้น เห็นผลวันนี้ คือบ้านเราเก็บแต่เงินสด และมีเงินฝากในธนาคารพอที่จะดูแลตัวเองได้ ไม่มีหนี้สิน ลูกๆๆ สามารถเรียนหนังสือได้ คุณพ่อมีเงินส่งให้ลูกๆๆจบได้
ตัวพี่สาวจบ ปวส ของโรงเรียน เซนต์เทเรซา ป.ตรีบริหาร ภาคภาษาอังกฤษ ม.กรุงเทพ (เอาวุฒิ ม.6ที่เทียบได้ไปเรียน) ซึ่งค่าเทมอตอนนี้แพงมากๆๆ ทั้งสองที่เลยเราก็จบ ป.ตรี วิทยาศาสตร์ มธ ได้
นี้ละชีวิตจริงของคนที่เคยล้มมากก่อน
เราถึงได้บอกไง บอกที่สินธรประจำว่า
ตอนนี้คนเราสะกดคำว่า "ประหยัด" ไม่เป็น
ถ้าคนเรามันประหยัด มีน้อยใช้งาน มีมากก็เก็บไว้ยามฉุกเฉิน จะไม่มีทางจนได้เลย
ยึดหลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้ดีที่สุดล่ะกัน
เนื่องจากที่บ้าน เป็นครอบครัวคนจีน
ซึ่งญาติทางด้านพ่อนั้นเป็นผู้หญิงทั้งหมดไม่ได้แต่งงาน มีห้าคน
กฏของคนจีนคือ ให้ลูกชายคนโตเลี้ยงดูทั้งครอบครัว
ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ช่วงปี 2528-2529 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กิจการของพ่อไม่ดี ประสบกับปัญหา (พ่อและแม่มีลูกสามคน ผู้ชายสองหญิงหนึ่ง เราเป็นคนสุดท้อง) ช่วงนั้นไม่มีเงินให้ค่าเช่าบ้านค่าน้ำค่าไฟฟ้า ไปขอเงินจากป้าทั้งห้าคน ไม่มีใครให้ยืมเลย
พอดีกิจการขนส่งมาเช่าบ้านเราไว้ของ ก็ได้พอจะมีพอจะกิน ลูกๆๆก็ออกมาเรียนโรงเรียนรัฐบาล(ตอนนี้เราเข้าป.1 โรงเรียนวัดเลยอ่ะ พี่สาวเข้าม.1โรงเรียนรัฐเมื่อกัน พี่ชายเรียนปวช และออกมาทำงานครึ่งวัน ช่วยเหลือพ่ออีกทางหนึ่ง โดนที่ไม่ขอเงินพ่อมาใช้ตั้งนานแล้ว)
จากช่วงนั้นบ้านก็เริ่มจะดีขึ้น กิจการของพ่อก็เปลี่ยนมาเป็นการให้เช่าร่มในตลาดนัด แถวบ้านในวันเสาร์และอาทิตย์ ทำให้ฐานะทางบ้านดีขึ้นเรื่อยๆๆ
จนถึงช่วงวิกฤติเศรษฐกิจบ้านเราก็ไม่ได้ผลกระทบ แถมยังทำให้บ้านเรารู้ว่า ความเหนื่อยยากที่เมื่อก่อนทำนั้น เห็นผลวันนี้ คือบ้านเราเก็บแต่เงินสด และมีเงินฝากในธนาคารพอที่จะดูแลตัวเองได้ ไม่มีหนี้สิน ลูกๆๆ สามารถเรียนหนังสือได้ คุณพ่อมีเงินส่งให้ลูกๆๆจบได้
ตัวพี่สาวจบ ปวส ของโรงเรียน เซนต์เทเรซา ป.ตรีบริหาร ภาคภาษาอังกฤษ ม.กรุงเทพ (เอาวุฒิ ม.6ที่เทียบได้ไปเรียน) ซึ่งค่าเทมอตอนนี้แพงมากๆๆ ทั้งสองที่เลยเราก็จบ ป.ตรี วิทยาศาสตร์ มธ ได้
นี้ละชีวิตจริงของคนที่เคยล้มมากก่อน
เราถึงได้บอกไง บอกที่สินธรประจำว่า
ตอนนี้คนเราสะกดคำว่า "ประหยัด" ไม่เป็น
ถ้าคนเรามันประหยัด มีน้อยใช้งาน มีมากก็เก็บไว้ยามฉุกเฉิน จะไม่มีทางจนได้เลย
ยึดหลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไว้ดีที่สุดล่ะกัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 17
ถ้าจะพูดถึงความลำบากในชีวิตแล้วละก็
อืม นึกถึง ตอนยืนดูบ้านไฟไหม้ หลังจากคุณพ่อเสียและฝังเสร็จ 7 วัน ไหว้หัวหมูครั้งแรก คุณพ่ออายุเพียง 40-42 จำไม่ได้ ตอนนั้นผมอยู่ ป.1 วัดราชสิงขร
ผู้ใหญ่แถวบ้านแนะนำว่าไม่ต้องไว้ทุกข์แล้ว ให้ทุกข์โศรกไปกับไฟเลย
ก่อนหน้านั้น ทางบ้านต้องขัดสนแน่นอน ทำให้ทั้งบ้าน ต้องย้ายโรงเรียนจากเอกชน มารัฐบาล ด้วยความไม่รู้ หรืออะไรก็ตาม เพราะผมไม่เคยถามแม่เลย
คือผมย้ายจากป.1 มาเข้าป.1 อิอิ กลายเป็นเด็กโข่ง
หลังจากเสาหลักจากไป แล้วแถมบ้านไฟไหม้อีกต่างหาก
ด้วยความที่แม่เป็นคนแข็งแกร่งหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะต้องแบกภาระ ลูกอีก 7 คน ผมก็เป็นคนเล็กเหมือนกัน
ท่านก็ทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ
ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ มาจากเมืองจีนครับ เป็นต่างด้าวทั้งคู่
เท่าที่จำได้ ก็ต้องยกให้มูลนิธิปอเต็กตึ้งครับ เพราะข้าวเย็นวันที่เกิดไฟใหม้ ผ้าห่ม ตลอดจนจานชาม ทั้งหมดก็เป็นของปอเต็กตึ้งทั้งนั้น
เรื่องเงินเก็บหรือบ้านไม่ต้องพูดถึง
อิอิ อาศัยเพื่อนพ่ออยู่เลย เป็นร้านตัดผม อัดเข้าไปเลย อีก 8 ชีวิต
แต่เรื่องที่แปลกมาก คือคุณแม่แข็งแกร่งเหลือเกิน
ผมไม่เคยเห็นท่านร้องไห้ และการที่ลูกๆมีสารพัดอาชีพ บรรยายไม่หมด เพราะทำทุกอย่างละครับ ที่ทำให้ได้เงิน
คืองี้ครับ คุณแม่ไม่เคยมีสายตาประมาณว่า น่าสงสารหรือน่าเห็นใจ หรือว่าเรามันจน
คุณแม่เคยเป็นเถ้าแก่เนี้ยร้านทอง มาเจอแบบนี้ ท่านก็อยู่ได้นะ อยู่กับลูกๆ แบบไม่ค่อยจะมีเวลาสอน ท่านก็ทำงานไป และวางไม้เรียวไว้ หากไม่ทำการบ้านก็โดนตี แต่ท่านไม่เคยสอนหรอก เพราะท่านไม่เคยเรียนหนังสือ
ท่านก็คงภาคภูมิใจ ที่ลูกๆรุ่นหลังๆ จบ 4 ปริญญา ธรรมศาสตร 2 มหิดล 1 จุฬา 1
แต่รุ่นแรกๆก็ไม่ได้เรียน
เรื่องการที่ผู้ใหญ่มีความเข็มแข็ง สำคัญต่อเด็กๆมากครับ เพราะทำให้เห็นเลยว่า ถึงเราจะจน แต่เราก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่า เราต้อยต่ำ
บ่อยครั้งที่ผมไปวิ่งเล่นบ้านเพื่อนเตรียมอุดม แถวสุขุมวิทอย่างสนุกสนาน แต่ทำไม ผมถึงรักบ้านผมมาก และไม่เคยรู้สึกอิจฉาเพื่อนๆเลย
เพราะได้มาจากคุณแม่ครับ
ทุกวันนี้ถึงเล่นหุ้นไม่เก่ง แต่ผมก็ไม่เคยอิจฉาริษยา เพื่อนๆเลย
เราก็อยากเก่งเหมือนกัน อิอิ
อ้อ พูดถึงเรื่องการประหยัดนี่ เด็กๆไม่มีมาม่ากินนะ บางวันต้องกินข้าวคุกน้ำปลา แต่เราเด็กอะ เราไม่รู้เรื่อง และที่สำคัญเราเป็นเด็กวัด เราได้กินข้าวและขนมที่วัดด้วย ว่างๆก็ไปนอนวัด วิ่งเล่นกันสนุก เพราะชอบโดนเพื่อนๆอำเรื่องผีหลอก ประมาณนั้นครับ
ด้วยภูมิคุ้มกันสมัยวัยเด็ก
พอโตขึ้น ผมจบและแต่งงานครั้งแรก หลังจากปลูกรักกันมา 2 ปี
หลังแต่งงาน 3 เดือน ภรรยาคนแรก จมน้ำตาย ในสระว่ายน้ำ ในโรงแรมหรูหรา แถวระยอง
การที่เราเรียนหมอไม่จบ แล้ววิ่งมาเป่าปากภรรยา และเห็นภรรยาค่อยๆตาย
อืม น่าจะไปทำมิวสิควีดีโอนะ
นี่แหละครับชีวิตจริง
อืม นึกถึง ตอนยืนดูบ้านไฟไหม้ หลังจากคุณพ่อเสียและฝังเสร็จ 7 วัน ไหว้หัวหมูครั้งแรก คุณพ่ออายุเพียง 40-42 จำไม่ได้ ตอนนั้นผมอยู่ ป.1 วัดราชสิงขร
ผู้ใหญ่แถวบ้านแนะนำว่าไม่ต้องไว้ทุกข์แล้ว ให้ทุกข์โศรกไปกับไฟเลย
ก่อนหน้านั้น ทางบ้านต้องขัดสนแน่นอน ทำให้ทั้งบ้าน ต้องย้ายโรงเรียนจากเอกชน มารัฐบาล ด้วยความไม่รู้ หรืออะไรก็ตาม เพราะผมไม่เคยถามแม่เลย
คือผมย้ายจากป.1 มาเข้าป.1 อิอิ กลายเป็นเด็กโข่ง
หลังจากเสาหลักจากไป แล้วแถมบ้านไฟไหม้อีกต่างหาก
ด้วยความที่แม่เป็นคนแข็งแกร่งหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะต้องแบกภาระ ลูกอีก 7 คน ผมก็เป็นคนเล็กเหมือนกัน
ท่านก็ทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ
ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ มาจากเมืองจีนครับ เป็นต่างด้าวทั้งคู่
เท่าที่จำได้ ก็ต้องยกให้มูลนิธิปอเต็กตึ้งครับ เพราะข้าวเย็นวันที่เกิดไฟใหม้ ผ้าห่ม ตลอดจนจานชาม ทั้งหมดก็เป็นของปอเต็กตึ้งทั้งนั้น
เรื่องเงินเก็บหรือบ้านไม่ต้องพูดถึง
อิอิ อาศัยเพื่อนพ่ออยู่เลย เป็นร้านตัดผม อัดเข้าไปเลย อีก 8 ชีวิต
แต่เรื่องที่แปลกมาก คือคุณแม่แข็งแกร่งเหลือเกิน
ผมไม่เคยเห็นท่านร้องไห้ และการที่ลูกๆมีสารพัดอาชีพ บรรยายไม่หมด เพราะทำทุกอย่างละครับ ที่ทำให้ได้เงิน
คืองี้ครับ คุณแม่ไม่เคยมีสายตาประมาณว่า น่าสงสารหรือน่าเห็นใจ หรือว่าเรามันจน
คุณแม่เคยเป็นเถ้าแก่เนี้ยร้านทอง มาเจอแบบนี้ ท่านก็อยู่ได้นะ อยู่กับลูกๆ แบบไม่ค่อยจะมีเวลาสอน ท่านก็ทำงานไป และวางไม้เรียวไว้ หากไม่ทำการบ้านก็โดนตี แต่ท่านไม่เคยสอนหรอก เพราะท่านไม่เคยเรียนหนังสือ
ท่านก็คงภาคภูมิใจ ที่ลูกๆรุ่นหลังๆ จบ 4 ปริญญา ธรรมศาสตร 2 มหิดล 1 จุฬา 1
แต่รุ่นแรกๆก็ไม่ได้เรียน
เรื่องการที่ผู้ใหญ่มีความเข็มแข็ง สำคัญต่อเด็กๆมากครับ เพราะทำให้เห็นเลยว่า ถึงเราจะจน แต่เราก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่า เราต้อยต่ำ
บ่อยครั้งที่ผมไปวิ่งเล่นบ้านเพื่อนเตรียมอุดม แถวสุขุมวิทอย่างสนุกสนาน แต่ทำไม ผมถึงรักบ้านผมมาก และไม่เคยรู้สึกอิจฉาเพื่อนๆเลย
เพราะได้มาจากคุณแม่ครับ
ทุกวันนี้ถึงเล่นหุ้นไม่เก่ง แต่ผมก็ไม่เคยอิจฉาริษยา เพื่อนๆเลย
เราก็อยากเก่งเหมือนกัน อิอิ
อ้อ พูดถึงเรื่องการประหยัดนี่ เด็กๆไม่มีมาม่ากินนะ บางวันต้องกินข้าวคุกน้ำปลา แต่เราเด็กอะ เราไม่รู้เรื่อง และที่สำคัญเราเป็นเด็กวัด เราได้กินข้าวและขนมที่วัดด้วย ว่างๆก็ไปนอนวัด วิ่งเล่นกันสนุก เพราะชอบโดนเพื่อนๆอำเรื่องผีหลอก ประมาณนั้นครับ
ด้วยภูมิคุ้มกันสมัยวัยเด็ก
พอโตขึ้น ผมจบและแต่งงานครั้งแรก หลังจากปลูกรักกันมา 2 ปี
หลังแต่งงาน 3 เดือน ภรรยาคนแรก จมน้ำตาย ในสระว่ายน้ำ ในโรงแรมหรูหรา แถวระยอง
การที่เราเรียนหมอไม่จบ แล้ววิ่งมาเป่าปากภรรยา และเห็นภรรยาค่อยๆตาย
อืม น่าจะไปทำมิวสิควีดีโอนะ
นี่แหละครับชีวิตจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 18
อ่านทั้งสองท่านแล้วโอ้โห ยิ่งกว่าในละครน้ำเน่าซะอีก
ขอแสดงความนับถือทั้งสองท่านจากใจจริง
สถานการณ์ขนาดนั้นยังผ่านมาได้ ผมคิดว่าต่อไปเจออะไรจะท้อใจ ก็คงไม่ง่าย
ชีวิตคนอื่นยังต้องเรียนรู้อีกมาก ชีวิตเราเองยิ่งต้องค้นหา
สิ่งที่เจอหรือได้รับ ล้วนแล้วแต่มาจากผลบุญกรรมที่ได้ทำสะสมไว้
ยอดเยี่ยมมากครับทุกท่าน ขอบคุณอีกครั้ง
ขอแสดงความนับถือทั้งสองท่านจากใจจริง
สถานการณ์ขนาดนั้นยังผ่านมาได้ ผมคิดว่าต่อไปเจออะไรจะท้อใจ ก็คงไม่ง่าย
ชีวิตคนอื่นยังต้องเรียนรู้อีกมาก ชีวิตเราเองยิ่งต้องค้นหา
สิ่งที่เจอหรือได้รับ ล้วนแล้วแต่มาจากผลบุญกรรมที่ได้ทำสะสมไว้
ยอดเยี่ยมมากครับทุกท่าน ขอบคุณอีกครั้ง
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- Tao Investor
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 19
"ผู้ยิ่งใหญ่ล้วนต้องผ่านประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก่อน "
อ.ของจิมมี่ หมัดเหล็กพูดกับจิมมี่
"คนเรามีข้าวกินสามมื้อ นอนหลับ ก็ พอมีแรงก้าวต่อไป"
อาจบางที เล่าจื้อ กล่าวไว้
"ความเหนื่อยสะสมไม่ได้ แต่ความสำเร็จสะสมได้" นิรนาม
"เรื่องเศร้าในโลกนี้มีมากพอแล้ว ข้าพเจ้าพอใจที่จะฟังเรื่องที่ บันเทิงใจ ยิ่งมีความสุขยิ่งดี "
ชอลิ้วเฮียงพูดกับ1ใน4สาวงาม บนเรือน้อย
อาจบางทีชีวิตเหมือนจริงยิ่งกว่าละครน้ำเน่า
ถ้านำเรื่องจริงในโลกนี้มาเล่า น้ำอาจท่วมโลก
เวลาเราดีใจมากเกินไป
เวลาเราเสียใจมากเกินไป
ขอให้นึกถึงประโยคนี้
"แล้วสิ่งนี้ ก็ จะผ่านพ้นไป"
อ.ของจิมมี่ หมัดเหล็กพูดกับจิมมี่
"คนเรามีข้าวกินสามมื้อ นอนหลับ ก็ พอมีแรงก้าวต่อไป"
อาจบางที เล่าจื้อ กล่าวไว้
"ความเหนื่อยสะสมไม่ได้ แต่ความสำเร็จสะสมได้" นิรนาม
"เรื่องเศร้าในโลกนี้มีมากพอแล้ว ข้าพเจ้าพอใจที่จะฟังเรื่องที่ บันเทิงใจ ยิ่งมีความสุขยิ่งดี "
ชอลิ้วเฮียงพูดกับ1ใน4สาวงาม บนเรือน้อย
อาจบางทีชีวิตเหมือนจริงยิ่งกว่าละครน้ำเน่า
ถ้านำเรื่องจริงในโลกนี้มาเล่า น้ำอาจท่วมโลก
เวลาเราดีใจมากเกินไป
เวลาเราเสียใจมากเกินไป
ขอให้นึกถึงประโยคนี้
"แล้วสิ่งนี้ ก็ จะผ่านพ้นไป"
Inmagination is more importan than knowledge
- Shimafuguro
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 21
ผมอ่านเรื่องของพี่เจ๋งแล้วใจหายวาบเลยครับ พี่คงต้องเข้มแข็งมากเลยนะครับกว่าจะผ่านตรงนั้นมาได้...
อย่าถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม แต่จงถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
- Shimafuguro
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 22
ผมขอถามเพิ่มจากพี่ๆ หน่อยละกันครับว่า เราจะหาจุดหมายใจชีวิตได้อย่างไร ตอนนี้ผมยอมรับว่าผมเคว้งมา 6-7 ปีตั้งแต่เรียนจบครับ ได้แต่ทำงานที่ตัวเองคิดว่าชอบ (แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วชอบหรือคิดว่าชอบเพราะเป็นงานที่ถนัดและได้เรียนมา)
ยกตัวอย่างสมัยเด็กๆ เราเรียน ป.1 เราก็รู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคือสอบให้ผ่านเพื่อปีหน้าจะได้ขึ้นไปเรียน ป.2 แต่ชีวิตในตอนนี้มันไม่มีจุดหมายอ่ะครับ คือทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร อยากทำอะไรต่อ หาจุดหมายไม่เจอจริงๆ ครับ
ไม่ทราบว่าพี่ๆ มีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตอย่างไร และหาจุดหมายในชีวิตให้กับตนเองอย่างไรครับ ช่วยกันแชร์วความคิดเห็นหน่อยครับ
ยกตัวอย่างสมัยเด็กๆ เราเรียน ป.1 เราก็รู้ว่าสิ่งที่เราต้องทำคือสอบให้ผ่านเพื่อปีหน้าจะได้ขึ้นไปเรียน ป.2 แต่ชีวิตในตอนนี้มันไม่มีจุดหมายอ่ะครับ คือทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร อยากทำอะไรต่อ หาจุดหมายไม่เจอจริงๆ ครับ
ไม่ทราบว่าพี่ๆ มีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตอย่างไร และหาจุดหมายในชีวิตให้กับตนเองอย่างไรครับ ช่วยกันแชร์วความคิดเห็นหน่อยครับ
อย่าถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม แต่จงถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
- pinklady
- Verified User
- โพสต์: 778
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 23
พี่เจ๋งคะ อ่านเรื่องของพี่เจ๋งแล้ว รู้สึกได้เลยว่า สิ่งที่ตัวเองเคยคิดว่าล้มเหลวนั้น เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากเอามาเทียบกับพี่เจ๋ง
พี่เจ๋งแกร่งมากค่ะ ที่ผ่านเรื่องต่างๆเหล่านี้มาได้
มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
พี่เจ๋งแกร่งมากค่ะ ที่ผ่านเรื่องต่างๆเหล่านี้มาได้
มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 24
อิอิ น้อง shimagufuro และน้อง pinklady ครับ เฮียคลายเครียดพูดไว้ถูกครับ
: คนพันคนปัญหาพันเรื่อง :
พี่เชื่อว่า มีคนที่มีปัญหา หนัก หนัก หนัก กว่านี้ เยอะครับ
เช่น ตอนสมัยเรียนแพทย์
มีเด็กคนหนึง ผู้หญิง อายุซัก 5 - 6 ขวบ มาเดินตามหาแม่ คือคุณแม่เขาอายุยังน้อย 20 กว่า ไม่ถึง 30 โดนสามีฟันหลัง เป็นอัมพาต ครึ่งตัว
พี่เองก็เพิ่ง ทำแผลกดทับให้ ซึ่งใหญ่มาก ตรงก้น โดยต้องขูดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก มันใหญ่มาก และน่ากลัว
แต่เจ้าตัวปลงแล้วนะ เพราะท่อนร่างไม่รู้สึกอะไรเลย
เมื่อลูกสาวเดินมาหา พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยอุ่มลูกสาว ขึ้นไปนั่งข้างๆแม่
ลูกกับแม่ก็คุยกัน เราก็ยืน นิ่งๆ ฟังไปด้วย
เมื่อพี่เดินออกมา เราก็นึก เอ แล้วลูกสาวยังเด็กขนาดนี้จะติดเชื้อจากแม่หรือเปล่า เชื้อในโรงพยาบาลมักจะดื้อยาซะด้วย
แต่ในขณะเดียวกันก็นึกถึง คนเป็นแม่ที่กำลังจะตาย ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้เลย เพราะเป็นอัมพาต จากการถูกสามีฟันหลัง
ถ้าให้เธอได้มีโอกาสได้คุยกับลูกบ้าง อืม ไม่คิดต่อละ แล้วก็เดินไปอ่านหนังสือต่อ
: คนพันคนปัญหาพันเรื่อง :
พี่เชื่อว่า มีคนที่มีปัญหา หนัก หนัก หนัก กว่านี้ เยอะครับ
เช่น ตอนสมัยเรียนแพทย์
มีเด็กคนหนึง ผู้หญิง อายุซัก 5 - 6 ขวบ มาเดินตามหาแม่ คือคุณแม่เขาอายุยังน้อย 20 กว่า ไม่ถึง 30 โดนสามีฟันหลัง เป็นอัมพาต ครึ่งตัว
พี่เองก็เพิ่ง ทำแผลกดทับให้ ซึ่งใหญ่มาก ตรงก้น โดยต้องขูดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก มันใหญ่มาก และน่ากลัว
แต่เจ้าตัวปลงแล้วนะ เพราะท่อนร่างไม่รู้สึกอะไรเลย
เมื่อลูกสาวเดินมาหา พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยอุ่มลูกสาว ขึ้นไปนั่งข้างๆแม่
ลูกกับแม่ก็คุยกัน เราก็ยืน นิ่งๆ ฟังไปด้วย
เมื่อพี่เดินออกมา เราก็นึก เอ แล้วลูกสาวยังเด็กขนาดนี้จะติดเชื้อจากแม่หรือเปล่า เชื้อในโรงพยาบาลมักจะดื้อยาซะด้วย
แต่ในขณะเดียวกันก็นึกถึง คนเป็นแม่ที่กำลังจะตาย ไม่สามารถช่วยอะไรตัวเองได้เลย เพราะเป็นอัมพาต จากการถูกสามีฟันหลัง
ถ้าให้เธอได้มีโอกาสได้คุยกับลูกบ้าง อืม ไม่คิดต่อละ แล้วก็เดินไปอ่านหนังสือต่อ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 25
โค้ด: เลือกทั้งหมด
แต่ชีวิตในตอนนี้มันไม่มีจุดหมายอ่ะครับ คือทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร อยากทำอะไรต่อ หาจุดหมายไม่เจอจริงๆ ครับ
ไม่ทราบว่าพี่ๆ มีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตอย่างไร และหาจุดหมายในชีวิตให้กับตนเองอย่างไรครับ ช่วยกันแชร์วความคิดเห็นหน่อยครับ
เห็นเขาบอกๆกันว่า
1. ลองคิดว่า เราตายแล้วในวันนี้ เรากำลังจะตาย เราเหลือเวลา 1 วันในชีวิต เราอยากทำอะไร
2. อีกวิธี อันนี้พี่ว่าดีนะ เขาให้หางานอดิเรกทำ เขาบอกว่า งานอดิเรกที่เราทำเพราะใจรักที่อยากจะทำ ไม่ได้เงินก็ทำ สามารถนำเราไปสู่งานที่เรารัก
3. วิธีที่สามนี้ คือ ให้รู้ทุกขสัจจะ
ทุกขสัจจะ
1. ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายก็เป็นทุกข์
2. ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์
3. ความพลัดพราจากสิ่งที่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
4. ความผิดหวัง ไม่รับในสิ่งที่ต้องการ ก็เป็นทุกข์
เรื่องที่เราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร ทำให้เราอึดอัด คับข้องใจ เซ็ง อยากรู้ว่า เราต้องการอะไรจริงๆ ทำได้หรือไม่ได้อีกเรื่อง ทำไมนะ คนนั้น อยากรวย คนนี้อยากไปปีนเขา คนโน่นอยากไปดำน้ำ อีกคนอยากเล่นไพ่ อีกคนชอบสังคมสงเคราะห์ แต่เราไม่รู้ว่าเราชอบอะไร ในเมื่อไม่รู้ ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าจะขวนขวาย หรือไม่ขวนขวายไปทำไม
บางคนอยากเที่ยวสวิส ก็เก็บเงิน แต่เราไม่รู้ว่าเราอยากขนาดนั้นหรือเปล่า คือเก็บก็เก็บได้ แต่จะให้เก็บขนาดอด เพื่อให้ได้มา เราก็ไม่ถึงขั้นนั้นใช่ปะ
เรื่องนี้พี่ว่า ให้ยอมรับความเป็นจริงว่า การที่ตกอยู่ในช่วงที่ไม่รู้ เราจะเอาไงดีกับชีวิต เพราะมันก็เป็นเรื่องที่ทุกคน ก็เคยอยู่ในสภาพนี้มาแล้วทั้งนั้น
และหลายๆคน ก็ต้องทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว เช่นกรรมกร หรือ แม่บ้าน ไม่สามารถเลือกอะไรได้มากนัก ในขณะที่ลูกเศรษฐี ที่เกิดมาคนเดียว ต้องรับมรดก ต้องรับกิจการจากคุณพ่อ คุณแม่ เป็นความหวังของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเป็นลูกชายคนเดียว โดยที่การแบกรับกิจการเป็นพันล้านหมื่นล้านแบบนั้น บางครั้ง ความต้องการของตัวเอง ก็ทำได้ยาก เพราะเวลาไม่มี
เมื่อยอมรับแล้ว ก็ทำใจให้สงบ เดี๋ยวจังหวะชีวิตมันมา เราก็จะรู้เองว่า เออนี่แหละใช่เลย
เตรียมพร้อมให้ดี เดี๋ยวจังหวะชีวิตก็มาเอง ระหว่างนี้เราก็เหลือเวลาที่จะทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ ( หนุกๆ ) ตอนจังหวะชีวิตมา เราได้เจองานที่เราชอบมากๆ เราก็จะไม่มีเวลาเหลือมาทำอะไรต่างๆเหมือนในตอนนี้นะ เพราะเรามัวแต่เมามันส์กับงานที่เราชอบ
หากณ.เวลานี้ใจเราสงบระงับ และไม่เป็นทุกข์ กับการคิดถึงอะไรที่เราอยากจะเป็นมากเกินไป ( มันเป็นเรื่องอนาคต )
ถึงแม้ไม่ได้ชอบ แต่ก็ทำงานได้ดี ถึงขั้นดีมาก การที่ใจสงบระงับ ไม่ทุกข์ ผลคือ เวลาโอกาสใหม่ๆเข้ามา จะทำให้เรามองเห็นได้ง่ายมาก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 27
เออ เล่าเล่นๆให้น้อง pinlady shimafuguro miracle ฟังต่ออีนิดเดียว พอให้ซึ้งๆ
หลังจากที่ภรรยาจมน้ำตาย พี่ ก็กลับมาจากโรงพยาบาลระยอง ก็เข้าพักที่ห้อง ในโรงแรม ซึ่งแน่นอน ยังมีชุดของเธออยู่ ตอนนั้น พี่เพิ่งจบได้ 2 ปีเอง อายุก็ประมาณ 27 มั๊ง
จำได้ว่า พอถึงเวลาอาหารเย็น อืม ใช่หรือเปล่า เพราะมันก็ดึกแล้ว
พี่ก็โทรไปสั่งอาหาร แต่พี่สั่งมาสองจานนะ ของพี่จาน และของวิญญานภรรยาพี่อีกจาน
นั่งกินไป แล้วก็บอกให้เธอกินไปด้วย นั่งคุยกับเธอ
( โชคดีนะ ที่เธอยังไม่ให้มาเห็น )
หลังจากที่ภรรยาจมน้ำตาย พี่ ก็กลับมาจากโรงพยาบาลระยอง ก็เข้าพักที่ห้อง ในโรงแรม ซึ่งแน่นอน ยังมีชุดของเธออยู่ ตอนนั้น พี่เพิ่งจบได้ 2 ปีเอง อายุก็ประมาณ 27 มั๊ง
จำได้ว่า พอถึงเวลาอาหารเย็น อืม ใช่หรือเปล่า เพราะมันก็ดึกแล้ว
พี่ก็โทรไปสั่งอาหาร แต่พี่สั่งมาสองจานนะ ของพี่จาน และของวิญญานภรรยาพี่อีกจาน
นั่งกินไป แล้วก็บอกให้เธอกินไปด้วย นั่งคุยกับเธอ
( โชคดีนะ ที่เธอยังไม่ให้มาเห็น )
- Shimafuguro
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 29
ผมอ่านแล้วแทบแย่เลยครับพี่ ผมคิดว่าผมพอเข้าใจความรู้สึกครับ
ตอนผมเรียนปี 4 ช่วงปิดเทอม แม่ผมเสียที่โรงบาลจุฬาฯครับ (พ่อเสียตั้งแต่อายุ 14 ครับ) ท่านเป็นมะเร็ง ตอนที่ไปรักษาแรกๆ ที่รู้ว่าเป็นโรค หมอที่โรงบาลเรียกผมไปคุย บอกว่าแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้ทำใจ ผมเข้าไปนั้งร้องไห้ในห้องน้ำโรงพยาบาล อยู่พักใหญ่เลยครับ ผมก็ไม่เคยบอกท่านว่าท่านเป็นอะไร จะมีที่รู้ก็พี่สาวผมกะน้าเท่านั้นที่รู้ มันทรมารมากครับที่เห็นคนที่เรารักที่สุดค่อยๆ จากไป
หลังจากแม่เสีย ผมรู้สึกว่าโลกของผมมันว่างเปล่ามาก เหมือนอยู่คนเดียวในโลกจริงๆ ครับ
หลังจากนั้นมีอยู่วันนึงหลังจากเปิดเทอม 2 ผมก็นั่งรถเมล์ผ่านหน้าโรงบาลจุฬาฯ อีก ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่หยุดเลยครับ ทั้งๆ ที่นั่งอยู่บนรถเมล์ ร้องจะกระทั้งถึงแถวถนนเดโช ลงรถเดินกลับบ้านถึงได้หยุด กลับไปเล่าให้ญาติๆ ฟังเค๊าก็ปลอบกันใหญ่
ในครั้งนั้นทำให้เรียนรู้ว่า การสูญเสียคนที่รักผมว่าเป็นเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิตแล้วครับ
ตอนผมเรียนปี 4 ช่วงปิดเทอม แม่ผมเสียที่โรงบาลจุฬาฯครับ (พ่อเสียตั้งแต่อายุ 14 ครับ) ท่านเป็นมะเร็ง ตอนที่ไปรักษาแรกๆ ที่รู้ว่าเป็นโรค หมอที่โรงบาลเรียกผมไปคุย บอกว่าแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้ทำใจ ผมเข้าไปนั้งร้องไห้ในห้องน้ำโรงพยาบาล อยู่พักใหญ่เลยครับ ผมก็ไม่เคยบอกท่านว่าท่านเป็นอะไร จะมีที่รู้ก็พี่สาวผมกะน้าเท่านั้นที่รู้ มันทรมารมากครับที่เห็นคนที่เรารักที่สุดค่อยๆ จากไป
หลังจากแม่เสีย ผมรู้สึกว่าโลกของผมมันว่างเปล่ามาก เหมือนอยู่คนเดียวในโลกจริงๆ ครับ
หลังจากนั้นมีอยู่วันนึงหลังจากเปิดเทอม 2 ผมก็นั่งรถเมล์ผ่านหน้าโรงบาลจุฬาฯ อีก ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่หยุดเลยครับ ทั้งๆ ที่นั่งอยู่บนรถเมล์ ร้องจะกระทั้งถึงแถวถนนเดโช ลงรถเดินกลับบ้านถึงได้หยุด กลับไปเล่าให้ญาติๆ ฟังเค๊าก็ปลอบกันใหญ่
ในครั้งนั้นทำให้เรียนรู้ว่า การสูญเสียคนที่รักผมว่าเป็นเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิตแล้วครับ
อย่าถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม แต่จงถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
คุณเคยพยายามสุดๆแค่ไหน สำเร็จหรือล้มเหลว?
โพสต์ที่ 30
ครับ การสูญเสียคนที่เรารักเป็นเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิต
มีเพื่อนเตรียมคนนึงครับ ชื่อ อ๋อ อ๋อ มีคุณพ่อเป็นหมอศิริราช มีที่ดินเยอะ คุณแม่ดูแล กิจการปั๊มน้ำมันแถวพระราม 4
วันงานศพภรรยาพี่ อ๋อ ก็มาครับ แล้ว ก็ต้องรีบไป อีกงานศพ
อืม ผ่านไม่นานครับ เลาด้าแอร์ตก อ๋อ ก็ต้องจากไป แต่ไม่ได้ไปคนเดียวครับ
นึกไม่ถึงนะครับ ว่าจะมี่งานศพอะไร ที่มีโรงศพเรียงรายกันมากขนาดนี้ครับ
มีทั้งหมด 13 โรง นามสกุลเดียวกัน
จำได้ว่า มีอยู่ครอบครัวหนึ่งครับ คุณพ่อ คุณแม่ มีลูก 3 คน
คุณพ่อ คุณแม่ และลูกอีก 2 คน ตายหมดในเครื่องบิน
ลูกคนที่เหลือครับ กำลังศึกษาต่ออยู่เมกา
ลูกคนนี้ก็บินกลับมา พี่ก็นั่งมองอยู่ เห็นเพื่อนๆกำลังปลอบโยน
แต่เขานิ่งครับ เป็นผู้ชาย คงกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท นิ่ง และก็นิ่ง
พี่นึกออกเลยครับ ว่าเขาจะต้องใช้ความกล้ามากเลย ที่จะเดินเข้าไปในบ้าน ที่ครั้งหนึ่ง มีพ่อ แม่ พี่ และน้อง แต่ตอนนี้ เขาอยู่คนเดียวในโลกจริงๆเลยครับ
ลองคิดดูซิ ว่าเขาจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้อย่างไร
ทางการแพทย์ ทางจิตวิทยา บอกว่า ถ้ารับไม่ได้จริงๆ เขาจะลืมช่วงนี้ไป ลืมไปเลย
แต่พี่ไม่ใช้วิธีนั้นครับ พี่ใช้วิธี จำครับ จำ และยอมรับความจริง
มีเพื่อนเตรียมคนนึงครับ ชื่อ อ๋อ อ๋อ มีคุณพ่อเป็นหมอศิริราช มีที่ดินเยอะ คุณแม่ดูแล กิจการปั๊มน้ำมันแถวพระราม 4
วันงานศพภรรยาพี่ อ๋อ ก็มาครับ แล้ว ก็ต้องรีบไป อีกงานศพ
อืม ผ่านไม่นานครับ เลาด้าแอร์ตก อ๋อ ก็ต้องจากไป แต่ไม่ได้ไปคนเดียวครับ
นึกไม่ถึงนะครับ ว่าจะมี่งานศพอะไร ที่มีโรงศพเรียงรายกันมากขนาดนี้ครับ
มีทั้งหมด 13 โรง นามสกุลเดียวกัน
จำได้ว่า มีอยู่ครอบครัวหนึ่งครับ คุณพ่อ คุณแม่ มีลูก 3 คน
คุณพ่อ คุณแม่ และลูกอีก 2 คน ตายหมดในเครื่องบิน
ลูกคนที่เหลือครับ กำลังศึกษาต่ออยู่เมกา
ลูกคนนี้ก็บินกลับมา พี่ก็นั่งมองอยู่ เห็นเพื่อนๆกำลังปลอบโยน
แต่เขานิ่งครับ เป็นผู้ชาย คงกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท นิ่ง และก็นิ่ง
พี่นึกออกเลยครับ ว่าเขาจะต้องใช้ความกล้ามากเลย ที่จะเดินเข้าไปในบ้าน ที่ครั้งหนึ่ง มีพ่อ แม่ พี่ และน้อง แต่ตอนนี้ เขาอยู่คนเดียวในโลกจริงๆเลยครับ
ลองคิดดูซิ ว่าเขาจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้อย่างไร
ทางการแพทย์ ทางจิตวิทยา บอกว่า ถ้ารับไม่ได้จริงๆ เขาจะลืมช่วงนี้ไป ลืมไปเลย
แต่พี่ไม่ใช้วิธีนั้นครับ พี่ใช้วิธี จำครับ จำ และยอมรับความจริง