....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 1
FW: ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ
Date: Tue, 27 Sep 2005 06:25:49 +0000
ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ
"อันความเชื่อในครั้งบรรพกาล ของคนรุ่นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ถือปฏิบัติมาเพื่อเสริมมงคลและโชคลาถให้แก่ชีวิต"
ขออนุญาตินำมาเล่าสู้กันฟังในวันว่างค่ะ "เล็บ" เป็นสิ่งที่ต่อจากกระดูก
โดยงอกแทรกออกมาจากเนื้อและหนังของเรา นับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนเรา
การจะตัดทิ้งหรือตัดออก ย่อมมีผลกระทบต่อเราโดยตรง หากเราตัดเล็บในวันไม่ดี
บ่อยๆครั้งเข้า อาจทำให้ชีวิตเรามีเรื่องเกิดขึ้น
ซึ่งบางครั้งเรามักไม่เคยสังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ทั้งด้านดีและไม่ดี
ดังนั้นเวลาจะตัดเล็บ ควรจะดูวันที่ควรจะตัดสักหน่อย อย่างน้อยๆ
ไม่ได้ทำให้เราเสียเงินหรือเสียเวลาอะไรมากมาย
เป็นการเดินตามผู้ใหญ่ไม่มีโทษอะไร ท่านว่าไว้:
ควรตัดเล็บวันอาทิตย์
- ท่านว่าจะทำให้มีโชคดี
ได้โชคลาภอย่างนึกไม่ถึงและมีเรื่องดีๆมาถึงตนเอง
ควรตัดเล็บวันจันทร์
- ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้
นับเป็นเรื่องดีจะได้ลาภใหญ่เกิดขึ้นกับตนเอง
ห้ามตัดเล็บวันอังคาร
- คนโบราณมักจะห้ามตัดเล็บในวันอังคาร์
(เพราะถือว่าเป็นวันดุ) ดังนั้นหากใครตัดเล็บในวันนี้จะทำให้หมดราศี
และอาจต้องมี เรื่องให้เสียทรัพย์สินเงินทอง
ควรตัดเล็บวันพุธ
- หากใครตัดเล็บในวันนี้จะเป็นมงคลแก่ตน ในด้านคุ้มครอง-ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกรายได้
ห้ามตัดเล็บวันพฤหัสฯ
- โบราณว่าวันนี้เป็นวันครู ท่านห้ามตัดเล็บ
ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้
จะได้รับความเดือดร้อนมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาเป็นอุปสรรค
ควรตัดเล็บวันศุกร์
- ผู้ตัดเล็บในวันนี้ ตำราว่าจะได้ลาภ มีมงคล อุดมสมบูรณ์
ห้ามตัดเล็บวันเสาร์
- ใครก็ตามที่ตัดเล็บในวันนี้
จะส่งผลด้านสุขภาพ ล้มป่วยไม่ สบาย เป็นโรคภัยต่างๆ
ห้ามตัดเล็บวันพระ
- คนที่ตัดเล็บวันนี้
มักจะอายุสั้น ล้มป่วยไม่สบายง่าย
และมีเรื่อง เดือดร้อน มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ
โดยสรุป วันที่ดีและเหมาะในการตัดเล็บคือ - อาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์
ส่วนวันอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยง
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 69936.html
Date: Tue, 27 Sep 2005 06:25:49 +0000
ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ
"อันความเชื่อในครั้งบรรพกาล ของคนรุ่นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ถือปฏิบัติมาเพื่อเสริมมงคลและโชคลาถให้แก่ชีวิต"
ขออนุญาตินำมาเล่าสู้กันฟังในวันว่างค่ะ "เล็บ" เป็นสิ่งที่ต่อจากกระดูก
โดยงอกแทรกออกมาจากเนื้อและหนังของเรา นับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนเรา
การจะตัดทิ้งหรือตัดออก ย่อมมีผลกระทบต่อเราโดยตรง หากเราตัดเล็บในวันไม่ดี
บ่อยๆครั้งเข้า อาจทำให้ชีวิตเรามีเรื่องเกิดขึ้น
ซึ่งบางครั้งเรามักไม่เคยสังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ทั้งด้านดีและไม่ดี
ดังนั้นเวลาจะตัดเล็บ ควรจะดูวันที่ควรจะตัดสักหน่อย อย่างน้อยๆ
ไม่ได้ทำให้เราเสียเงินหรือเสียเวลาอะไรมากมาย
เป็นการเดินตามผู้ใหญ่ไม่มีโทษอะไร ท่านว่าไว้:
ควรตัดเล็บวันอาทิตย์
- ท่านว่าจะทำให้มีโชคดี
ได้โชคลาภอย่างนึกไม่ถึงและมีเรื่องดีๆมาถึงตนเอง
ควรตัดเล็บวันจันทร์
- ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้
นับเป็นเรื่องดีจะได้ลาภใหญ่เกิดขึ้นกับตนเอง
ห้ามตัดเล็บวันอังคาร
- คนโบราณมักจะห้ามตัดเล็บในวันอังคาร์
(เพราะถือว่าเป็นวันดุ) ดังนั้นหากใครตัดเล็บในวันนี้จะทำให้หมดราศี
และอาจต้องมี เรื่องให้เสียทรัพย์สินเงินทอง
ควรตัดเล็บวันพุธ
- หากใครตัดเล็บในวันนี้จะเป็นมงคลแก่ตน ในด้านคุ้มครอง-ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกรายได้
ห้ามตัดเล็บวันพฤหัสฯ
- โบราณว่าวันนี้เป็นวันครู ท่านห้ามตัดเล็บ
ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้
จะได้รับความเดือดร้อนมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาเป็นอุปสรรค
ควรตัดเล็บวันศุกร์
- ผู้ตัดเล็บในวันนี้ ตำราว่าจะได้ลาภ มีมงคล อุดมสมบูรณ์
ห้ามตัดเล็บวันเสาร์
- ใครก็ตามที่ตัดเล็บในวันนี้
จะส่งผลด้านสุขภาพ ล้มป่วยไม่ สบาย เป็นโรคภัยต่างๆ
ห้ามตัดเล็บวันพระ
- คนที่ตัดเล็บวันนี้
มักจะอายุสั้น ล้มป่วยไม่สบายง่าย
และมีเรื่อง เดือดร้อน มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ
โดยสรุป วันที่ดีและเหมาะในการตัดเล็บคือ - อาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์
ส่วนวันอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยง
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 69936.html
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 2
เหอ?
ผมเคยเจอว่าห้ามตัดเล็บวันพุธกลางคืนน่ะครับ
ก็ว่ากันไป
อันนี้ น่าสนใจครับ ตัดเล็บยังไงในผู้ป่วยเบาหวาน 8)
http://www.gotoknow.org/archive/2005/09 ... 6/15/e3987
ผมเคยเจอว่าห้ามตัดเล็บวันพุธกลางคืนน่ะครับ
ก็ว่ากันไป

อันนี้ น่าสนใจครับ ตัดเล็บยังไงในผู้ป่วยเบาหวาน 8)
http://www.gotoknow.org/archive/2005/09 ... 6/15/e3987
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 3
FW: ริบบิ้นสีฟ้า (อ่านด้วยน้า) 
Date: Wed, 28 Sep 2005 13:59:02 +0000
ริบบิ้นสีฟ้า มีความรู้สึกดีๆมาให้
ริบบิ้นสีฟ้า
ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์คตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูลชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอน
ด้วยการบอกเขาเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้าง
เธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคน แรกสุดเธอบอกแต่ละคน
ว่า...พวกเขามีคุณค่าเพียงใด ทั้งต่อตัวครูและต่อเพื่อนร่วมห้อง
จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทองเป็นของขวัญให้
ข้อความบนริบบิ้น มีว่า... "ฉันเป็นคนมีคุณค่า"
จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่า การแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่นส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชน
เธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้นให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้
และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไป จากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผล
และ ดูว่าใครยกย่องใครบ้าง แล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์
นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆ
เพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคต แล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ต
จากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า....
"เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียนเกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ
ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง แล้วให้ริบบิ้นเขา
ส่วนอีกเส้นก็ให้เขาไว้สำหรับมอบให้คนต่อไป เพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป
แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง"
ต่อมาในวันเดียวกัน ผู้บริหารท่านนี้เเข้าพบเจ้านายเขา
ซึ่งเป็นคนที่ใครๆ รู้กันดีว่าเกรี้ยวกราด อารมณ์ร้าย เขานั่งลงคุยกับเจ้านาย
บอกเจ้านายว่า... ลึกๆ เขายกย่องชื่นชมเจ้านายว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ
ดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่ง
เขาถามเจ้านายว่าจะยินดีรับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชม
และอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่
เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้ เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอก บริเวณเหนือหัวใจ
เมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านาย
เขาบอกเจ้านายว่า...ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ
ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้นเส้นสุดท้ายนี้ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคน
พ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรกกำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่
เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่ในวงกว้างออกไป
แล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆ ยังไงบ้าง
ค่ำวันนั้น ชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่
เขา...เรียกลูกชายให้นั่งลง แล้วกล่าวว่า วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อ
ตอนอยู่ห้องทำงาน ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อ
แล้วให้...ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัจริยะเรื่องความมีหัวคิดสร้างสรรค์
ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะ
แล้ว..เขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่า ติดให้บนปกเสื้อนอก..ตรงหัวใจนี่
แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมาอีกเส้น ให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อ...
ระหว่างที่พ่อ ขับรถกลับบ้าน ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดี
แล้วพ่อก็นึกถึงแก พ่ออยากชื่นชมแกนะ วันๆ พ่อทำงานยุ่งเหยิงมาก
พอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไร บางทียังอาละวาดอีก
เรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดี เรื่องทำห้องนอนรก แต่ยังไงไม่รู้สิ
วันนี้พ่อกลับ..อยากนั่งลงตรงนี้กับแก อยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหน
นอกจาก..แม่แกแล้ว ก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ
แกเป็นเด็กที่..ยอดเยี่ยมเลยแหละ แล้วพ่อก็รักแกนะ...
เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้น... แล้วก็สะอื้น...เขาไม่อาจหยุดร้องไห้
ร่างสั่นเทาไปทั้งตัว เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา
"พ่อครับ ..เมื่อตอนเย็น ผมอยู่บนห้อง นั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่เพื่ออธิบายว่า
ทำไมผมถึงฆ่าตัวตาย แล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตาย
คืนนี้ตอนพ่อหลับ ผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลย จดหมายอยู่บนห้องครับ
แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ"
พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้อง พบจดหมายข้อความสะเทือนใจ
บรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าถึงพ่อกับแม่
ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงาน..อย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เขาเลิกเป็นคนขี้โมโห แต่จะพยายามทำทุกวิถีทาง
เพื่อให้พนักงานใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้าง
ส่วน...ชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆ ต่อมาอีก
หลายคน เรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคต แล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้น
ว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขา
ส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือ เราต่างเป็นคนที่มีคุณค่า...ด้วยกันทั้งนั้น
คุณไม่จำเป็นต้องส่งเมล์ฉบับนี้ต่อให้ใครแม้แต่คนเดียว..อย่าว่าแต่สองคน
หรือสองร้อยคนเลย สำหรับฉัน(ผู้เขียนเรื่องนี้) คุณอาจจะลบเมล์ฉบับนี้ทิ้ง
แล้วไปเปิดดูเมล์ฉบับต่อไป แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่มีความหมายกับคุณมาก
ฉันขอสนับสนุนให้คุณส่งข้อความนี้ ไปให้เขาหรือเธอผู้นั้น เพื่อให้เขาได้รับรู้
ความรู้สึกของคุณ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า...การให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ มีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคน
ส่งเรื่องนี้ไปยังคนทุกคนที่คุณเห็นว่ามีความหมายต่อคุณมีความสำคัญต่อคุณ
หรืออาจส่งไปให้คนหนึ่ง..สอง..หรือสามคนที่มีความหมายต่อคุณมากที่สุด
หรือคุณอาจจะแค่ยิ้ม ที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญ ไม่งั้น
คุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก
จำไว้นะ ฉันให้ริบบิ้นสีฟ้าแก่คุณแล้ว....
สวัสดีค่ะ คุณหมอ

Date: Wed, 28 Sep 2005 13:59:02 +0000
ริบบิ้นสีฟ้า มีความรู้สึกดีๆมาให้
ริบบิ้นสีฟ้า
ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์คตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูลชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอน
ด้วยการบอกเขาเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้าง
เธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคน แรกสุดเธอบอกแต่ละคน
ว่า...พวกเขามีคุณค่าเพียงใด ทั้งต่อตัวครูและต่อเพื่อนร่วมห้อง
จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทองเป็นของขวัญให้
ข้อความบนริบบิ้น มีว่า... "ฉันเป็นคนมีคุณค่า"
จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่า การแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่นส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชน
เธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้นให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้
และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไป จากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผล
และ ดูว่าใครยกย่องใครบ้าง แล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์
นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆ
เพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคต แล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ต
จากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า....
"เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียนเกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ
ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง แล้วให้ริบบิ้นเขา
ส่วนอีกเส้นก็ให้เขาไว้สำหรับมอบให้คนต่อไป เพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป
แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง"
ต่อมาในวันเดียวกัน ผู้บริหารท่านนี้เเข้าพบเจ้านายเขา
ซึ่งเป็นคนที่ใครๆ รู้กันดีว่าเกรี้ยวกราด อารมณ์ร้าย เขานั่งลงคุยกับเจ้านาย
บอกเจ้านายว่า... ลึกๆ เขายกย่องชื่นชมเจ้านายว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ
ดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่ง
เขาถามเจ้านายว่าจะยินดีรับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชม
และอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่
เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้ เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอก บริเวณเหนือหัวใจ
เมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านาย
เขาบอกเจ้านายว่า...ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ
ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้นเส้นสุดท้ายนี้ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคน
พ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรกกำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่
เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่ในวงกว้างออกไป
แล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆ ยังไงบ้าง
ค่ำวันนั้น ชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่
เขา...เรียกลูกชายให้นั่งลง แล้วกล่าวว่า วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อ
ตอนอยู่ห้องทำงาน ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อ
แล้วให้...ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัจริยะเรื่องความมีหัวคิดสร้างสรรค์
ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะ
แล้ว..เขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่า ติดให้บนปกเสื้อนอก..ตรงหัวใจนี่
แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมาอีกเส้น ให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อ...
ระหว่างที่พ่อ ขับรถกลับบ้าน ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดี
แล้วพ่อก็นึกถึงแก พ่ออยากชื่นชมแกนะ วันๆ พ่อทำงานยุ่งเหยิงมาก
พอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไร บางทียังอาละวาดอีก
เรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดี เรื่องทำห้องนอนรก แต่ยังไงไม่รู้สิ
วันนี้พ่อกลับ..อยากนั่งลงตรงนี้กับแก อยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหน
นอกจาก..แม่แกแล้ว ก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ
แกเป็นเด็กที่..ยอดเยี่ยมเลยแหละ แล้วพ่อก็รักแกนะ...
เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้น... แล้วก็สะอื้น...เขาไม่อาจหยุดร้องไห้
ร่างสั่นเทาไปทั้งตัว เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา
"พ่อครับ ..เมื่อตอนเย็น ผมอยู่บนห้อง นั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่เพื่ออธิบายว่า
ทำไมผมถึงฆ่าตัวตาย แล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตาย
คืนนี้ตอนพ่อหลับ ผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลย จดหมายอยู่บนห้องครับ
แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ"
พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้อง พบจดหมายข้อความสะเทือนใจ
บรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าถึงพ่อกับแม่
ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงาน..อย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เขาเลิกเป็นคนขี้โมโห แต่จะพยายามทำทุกวิถีทาง
เพื่อให้พนักงานใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้าง
ส่วน...ชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆ ต่อมาอีก
หลายคน เรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคต แล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้น
ว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขา
ส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือ เราต่างเป็นคนที่มีคุณค่า...ด้วยกันทั้งนั้น
คุณไม่จำเป็นต้องส่งเมล์ฉบับนี้ต่อให้ใครแม้แต่คนเดียว..อย่าว่าแต่สองคน
หรือสองร้อยคนเลย สำหรับฉัน(ผู้เขียนเรื่องนี้) คุณอาจจะลบเมล์ฉบับนี้ทิ้ง
แล้วไปเปิดดูเมล์ฉบับต่อไป แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่มีความหมายกับคุณมาก
ฉันขอสนับสนุนให้คุณส่งข้อความนี้ ไปให้เขาหรือเธอผู้นั้น เพื่อให้เขาได้รับรู้
ความรู้สึกของคุณ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า...การให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ มีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคน
ส่งเรื่องนี้ไปยังคนทุกคนที่คุณเห็นว่ามีความหมายต่อคุณมีความสำคัญต่อคุณ
หรืออาจส่งไปให้คนหนึ่ง..สอง..หรือสามคนที่มีความหมายต่อคุณมากที่สุด
หรือคุณอาจจะแค่ยิ้ม ที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญ ไม่งั้น
คุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก
จำไว้นะ ฉันให้ริบบิ้นสีฟ้าแก่คุณแล้ว....
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 4
FW: I HAVE AND YOU DON'T
Inbox
สามี ภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปีกำลังนั่งรถไปงานเลี้ยงด้วยกัน
โดยภรรยาเป็นคนขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แล้วจู่ๆ สามีก็เอ่ยน้ำเสียงอย่างเย็นชาว่า
" เราแต่งงานกันมายี่สิบปีแล้ว ที่ผ่านมาคุณดีกับผมก็จริง
แต่ตอนนี้ผมพบคู่ชีวิตคนใหม่แล้ว เธอคือเลขาฯ คนสวยของผมเอง"
ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามีพูดต่อว่า
"ผมต้องการหย่ากับคุณโดยเร็วที่สุด
ตลอดชีวิตการแต่งงานผมทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
ส่วนคุณทำแต่งานบ้านเท่านั้น
ดังนั้นหุ้นบริษัทกับบ้านหลังใหญ่ควรเป็นกรรมสิทธ์ของผม"
ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่งโมง
"ส่วนเงินในธนาคารห้าสิบล้าน ผมจะเจียดให้คุณไปทำทุนสักห้าแสน
นอกจากนี้คุณยังอยากได้อะไรอีกไหม" ??????
"ไม่ต้องหรอกค่ะ สิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุดฉันมีแล้ว แต่คุณไม่มี"
ภรรยาตอบเสียงเย็นชาเช่นกัน พลางกดคันเร่งเร็วขึ้นเป็น 120กิโลเมตรต่อชั่วโมง
"อะไรล่ะที่คุณมี แต่ผมไม่มี" ???????
"ถุงลมนิรภัย"
Inbox
สามี ภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปีกำลังนั่งรถไปงานเลี้ยงด้วยกัน
โดยภรรยาเป็นคนขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แล้วจู่ๆ สามีก็เอ่ยน้ำเสียงอย่างเย็นชาว่า
" เราแต่งงานกันมายี่สิบปีแล้ว ที่ผ่านมาคุณดีกับผมก็จริง
แต่ตอนนี้ผมพบคู่ชีวิตคนใหม่แล้ว เธอคือเลขาฯ คนสวยของผมเอง"
ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามีพูดต่อว่า
"ผมต้องการหย่ากับคุณโดยเร็วที่สุด
ตลอดชีวิตการแต่งงานผมทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
ส่วนคุณทำแต่งานบ้านเท่านั้น
ดังนั้นหุ้นบริษัทกับบ้านหลังใหญ่ควรเป็นกรรมสิทธ์ของผม"
ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่งโมง
"ส่วนเงินในธนาคารห้าสิบล้าน ผมจะเจียดให้คุณไปทำทุนสักห้าแสน
นอกจากนี้คุณยังอยากได้อะไรอีกไหม" ??????
"ไม่ต้องหรอกค่ะ สิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุดฉันมีแล้ว แต่คุณไม่มี"
ภรรยาตอบเสียงเย็นชาเช่นกัน พลางกดคันเร่งเร็วขึ้นเป็น 120กิโลเมตรต่อชั่วโมง
"อะไรล่ะที่คุณมี แต่ผมไม่มี" ???????
"ถุงลมนิรภัย"
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 5
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้
(นะโม 3 จบ) สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม
พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ
คนเราเกิดมาหลายภพชาติ ต่างมีเจ้ากรรมนายเวรต่างกัน การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง"
(ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อเพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป)
(นะโม 3 จบ) สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม
พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ
คนเราเกิดมาหลายภพชาติ ต่างมีเจ้ากรรมนายเวรต่างกัน การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง"
(ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อเพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป)
-
- Verified User
- โพสต์: 891
- ผู้ติดตาม: 0
....ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชคลาภ....
โพสต์ที่ 6
เตือนสติ!!
ระวังอันตรายจากการชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในรถ
อาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับรถคุณได้
ประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้า
ของคืนวันที่ 19 สิงหาคม 2548 ที่ผ่านมากับรถของพนักงานรักษา
ความปลอดภัย ของโรงไฟฟ้าซึ่งได้เดินทางจากบ้านมารับเปลี่ยนกะ
เวลาเที่ยงคืน เผอิญว่าขณะนั้นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่แบตเตอรี่อ่อน
ก็เลยชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ในรถโดยปิดประตูรถไว้ และจอดรถห่างจากจุดที่ปฏิบัติงาน
ซึ่งเป็นป้อมรักษาความปลอดภัยชั่วคราว ไม่เกิน 5 เมตร เหตุการณ์ ที่ไม่คาดว่าจะเกิดก็เกิด เมื่อประมาณ เวลา
05.30 น.
ได้เกิดกลุ่มควันและเพลิงไหม้ขึ้น เริ่มจากบริเวณด้านในตัวรถ ตามมาด้วย ห้องเครื่อง
ก่อนที่จะลุกลามสู่ภายนอกตัวรถ ดัง
ภาพที่ปรากฎ
ระวังอันตรายจากการชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ในรถ
อาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับรถคุณได้
ประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้า
ของคืนวันที่ 19 สิงหาคม 2548 ที่ผ่านมากับรถของพนักงานรักษา
ความปลอดภัย ของโรงไฟฟ้าซึ่งได้เดินทางจากบ้านมารับเปลี่ยนกะ
เวลาเที่ยงคืน เผอิญว่าขณะนั้นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่แบตเตอรี่อ่อน
ก็เลยชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ในรถโดยปิดประตูรถไว้ และจอดรถห่างจากจุดที่ปฏิบัติงาน
ซึ่งเป็นป้อมรักษาความปลอดภัยชั่วคราว ไม่เกิน 5 เมตร เหตุการณ์ ที่ไม่คาดว่าจะเกิดก็เกิด เมื่อประมาณ เวลา
05.30 น.
ได้เกิดกลุ่มควันและเพลิงไหม้ขึ้น เริ่มจากบริเวณด้านในตัวรถ ตามมาด้วย ห้องเครื่อง
ก่อนที่จะลุกลามสู่ภายนอกตัวรถ ดัง
ภาพที่ปรากฎ