กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 1
ขอบ่นหน่อยครับ ใครเป็นอย่างงี้บ้าง
คือ โดยส่วนตัว ผมเป็นคนที่สนใจและรู้สึกชอบด้านการลงทุนอยู่แล้ว ตอนแรกก็ลงทุนคนเดียว รู้อยู่คนเดียวทำอยู่คนเดียว ก็อยากหาเพื่อน ชวนเพื่อนๆที่สนิทกันมาลงทุนในหุ้น ก็คิดแต่ว่า เป็นการช่วยเพื่อนด้วย ชวนเพื่อนในทางที่ดีเพราะหากลงทุนถูกวิธีมันทำให้เงินงอกเงยได้ จะได้รวยไปด้วยกัน
แต่พอคุยเรื่องเงินๆทองๆ หรือเรื่องการลงทุนให้เหล่าเพื่อนสนิทฟังแล้ว รู้สึกเสียบรรยากาศทุกที บางครั้ง เพื่อนๆก็ไม่สนใจฟัง บางครั้งความคิดก็ต่างกัน รู้สึกแย่เกือบทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้
กลายเป็นว่า เพื่อนสนิทผมบางคนที่สนิทแต่เด็ก หลังๆนี่ไม่ค่อยโทรหาหรือไปไหนกับผมเลย คงเพราะเจอผมทีไร ผมพูดแต่เรื่องการลงทุน พูดแต่เรื่องวิชาการ เรื่องไอเดียธุรกิจ เศรษฐกิจโน่นนี่..... ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่เมื่อพบเจอไปไหนมาไหน จะแบ่งปันกันแต่ความสนุกทะเล้นทะลึ่งตึงตังเฮฮา
หรือว่า ผมควรจะอยู่นิ่งๆ ทำตัวสนุกสนาน ไม่ควรพูดเรื่องซีเรียสเมื่ออยู่กับเพื่อนๆ รอจนกว่าเค้าจะถามเอง หรือเค้าต้องการคำแนะนำด้านเงินทองเอง จึงควรพูด ใช่มั้ยครับ???
ผมว่า ผมรู้สึกพอแล้วกับการเสียบรรยากาศกับเพื่อนๆ จากนี้ไปผมจะพูดเรื่องนี้แต่กับเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน(ซึ่งแทบไม่มี) บางครั้งเราคิดว่าเราอยากแบ่งปันสิ่งดีๆให้เพื่อนๆ แต่หลายๆคนเค้าไม่รับ ก็ไม่รู้จะดึงดันไปทำไม เผลอๆจะกลายเป็นเสียเพื่อนไปซะงั้น
สำหรับผม จากนี้ไป อยู่กับเพื่อนๆ คุยเรื่องสนุกๆทะเล้นๆเหมือนเดิมดีแล้ว อย่าไปชวนคุยเรื่องซีเรียสให้หม่นหมองเลย
คือ โดยส่วนตัว ผมเป็นคนที่สนใจและรู้สึกชอบด้านการลงทุนอยู่แล้ว ตอนแรกก็ลงทุนคนเดียว รู้อยู่คนเดียวทำอยู่คนเดียว ก็อยากหาเพื่อน ชวนเพื่อนๆที่สนิทกันมาลงทุนในหุ้น ก็คิดแต่ว่า เป็นการช่วยเพื่อนด้วย ชวนเพื่อนในทางที่ดีเพราะหากลงทุนถูกวิธีมันทำให้เงินงอกเงยได้ จะได้รวยไปด้วยกัน
แต่พอคุยเรื่องเงินๆทองๆ หรือเรื่องการลงทุนให้เหล่าเพื่อนสนิทฟังแล้ว รู้สึกเสียบรรยากาศทุกที บางครั้ง เพื่อนๆก็ไม่สนใจฟัง บางครั้งความคิดก็ต่างกัน รู้สึกแย่เกือบทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้
กลายเป็นว่า เพื่อนสนิทผมบางคนที่สนิทแต่เด็ก หลังๆนี่ไม่ค่อยโทรหาหรือไปไหนกับผมเลย คงเพราะเจอผมทีไร ผมพูดแต่เรื่องการลงทุน พูดแต่เรื่องวิชาการ เรื่องไอเดียธุรกิจ เศรษฐกิจโน่นนี่..... ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่เมื่อพบเจอไปไหนมาไหน จะแบ่งปันกันแต่ความสนุกทะเล้นทะลึ่งตึงตังเฮฮา
หรือว่า ผมควรจะอยู่นิ่งๆ ทำตัวสนุกสนาน ไม่ควรพูดเรื่องซีเรียสเมื่ออยู่กับเพื่อนๆ รอจนกว่าเค้าจะถามเอง หรือเค้าต้องการคำแนะนำด้านเงินทองเอง จึงควรพูด ใช่มั้ยครับ???
ผมว่า ผมรู้สึกพอแล้วกับการเสียบรรยากาศกับเพื่อนๆ จากนี้ไปผมจะพูดเรื่องนี้แต่กับเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน(ซึ่งแทบไม่มี) บางครั้งเราคิดว่าเราอยากแบ่งปันสิ่งดีๆให้เพื่อนๆ แต่หลายๆคนเค้าไม่รับ ก็ไม่รู้จะดึงดันไปทำไม เผลอๆจะกลายเป็นเสียเพื่อนไปซะงั้น
สำหรับผม จากนี้ไป อยู่กับเพื่อนๆ คุยเรื่องสนุกๆทะเล้นๆเหมือนเดิมดีแล้ว อย่าไปชวนคุยเรื่องซีเรียสให้หม่นหมองเลย
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 2
คุยเรื่อง เงิน ๆ ทอง ๆ ก็เหมือนกับ คุยเรื่อง การเมือง ครับ
ถ้าทัศนะตรงกัน ก็คุยกันถูกคอ
ถ้าทัศนะไม่ตรงกัน จากเพื่อน จะพาลกลายเป็น เกลียดชังกัน ไปเลยครับ
มนุษย์เรา มักจะชอบฟัง หรือ สนทนา ในสิ่งที่สนใจครับ
การเป็น นักสนทนาที่ดี ไม่ได้หมายความว่า พูดเก่ง แต่ต้องรู้จักจับจังหวะว่า เรื่องที่พูดคุยกันอยู่นั้น เป็นที่สนใจหรือไม่
ถ้าหากไม่สนใจ ก็เปลี่ยนเรื่อง
สิ่งสำคัญก็คือ อย่าพยายามไปยัดเยียดความสนใจของเรา ให้กับ ผู้ร่วมสนทนา เพราะจะทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด และตัวเราก็รู้สึกไม่ดีตามไปด้วยครับ
ถ้าทัศนะตรงกัน ก็คุยกันถูกคอ
ถ้าทัศนะไม่ตรงกัน จากเพื่อน จะพาลกลายเป็น เกลียดชังกัน ไปเลยครับ
มนุษย์เรา มักจะชอบฟัง หรือ สนทนา ในสิ่งที่สนใจครับ
การเป็น นักสนทนาที่ดี ไม่ได้หมายความว่า พูดเก่ง แต่ต้องรู้จักจับจังหวะว่า เรื่องที่พูดคุยกันอยู่นั้น เป็นที่สนใจหรือไม่
ถ้าหากไม่สนใจ ก็เปลี่ยนเรื่อง
สิ่งสำคัญก็คือ อย่าพยายามไปยัดเยียดความสนใจของเรา ให้กับ ผู้ร่วมสนทนา เพราะจะทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด และตัวเราก็รู้สึกไม่ดีตามไปด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 3
สมัยนี้ยังดีนะครับที่มีเพื่อนนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ มีเวบให้พูดคุยกัน รวมทั้งมีการจัดสัมมนาบ่อยครั้ง
แต่เราก็ควรที่จะสนใจเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากการลงทุนด้วยนะครับ
แต่เราก็ควรที่จะสนใจเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากการลงทุนด้วยนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 4
จริงครับ เพราะถึงจะเป็นเพื่อนกัน สนิทกันเท่าไรก็ตาม แต่ความสนใจหรือความชอบก็แตกต่างกัน ยัดเยียดความชอบของเราให้คนอื่นนี่ ถึงแม้เราจะมองว่า มันเป็นสิ่งที่ดี หรือหวังดีขนาดไหนก็ตาม ก็จะทำให้สัมพันธ์หม่นหมองเปล่าๆtigerroad197 เขียน:คุยเรื่อง เงิน ๆ ทอง ๆ ก็เหมือนกับ คุยเรื่อง การเมือง ครับ
ถ้าทัศนะตรงกัน ก็คุยกันถูกคอ
ถ้าทัศนะไม่ตรงกัน จากเพื่อน จะพาลกลายเป็น เกลียดชังกัน ไปเลยครับ
มนุษย์เรา มักจะชอบฟัง หรือ สนทนา ในสิ่งที่สนใจครับ
การเป็น นักสนทนาที่ดี ไม่ได้หมายความว่า พูดเก่ง แต่ต้องรู้จักจับจังหวะว่า เรื่องที่พูดคุยกันอยู่นั้น เป็นที่สนใจหรือไม่
ถ้าหากไม่สนใจ ก็เปลี่ยนเรื่อง
สิ่งสำคัญก็คือ อย่าพยายามไปยัดเยียดความสนใจของเรา ให้กับ ผู้ร่วมสนทนา เพราะจะทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด และตัวเราก็รู้สึกไม่ดีตามไปด้วยครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 5
จริงๆผมมีความสนใจ ความชอบ หรืองานอดิเรกหลายอย่างเลยครับ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เล่นบอลและก็เล่นกล้าม แต่สิ่งเหล่านี้เพื่อนๆผมก็ชอบ ผมก็เลยมีเพื่อนคอเดียวกันเยอะแยะอยู่แล้ว สิ่งที่ขาดอย่างเดียวที่ผมชอบแต่เพื่อนๆไม่สนใจมาร่วมอุดมการณ์คือการลงทุนนี่แหละ ทำให้ผมอยากชวนเพื่อนมาร่วมอุดมการณ์กันเลยพยายามคุยเรื่องนี้ แต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่บอกchatchai เขียน:สมัยนี้ยังดีนะครับที่มีเพื่อนนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ มีเวบให้พูดคุยกัน รวมทั้งมีการจัดสัมมนาบ่อยครั้ง
แต่เราก็ควรที่จะสนใจเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากการลงทุนด้วยนะครับ
แต่จะว่าไป ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าจะคุยเรื่องลงทุน ถึงผมจะชวนเหล่าแก๊งเพื่อนสนิทมาไม่ได้ ผมก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ในthaiviแห่งนี้แล้ว อย่างที่พี่บอกครับ คุยในเวบ หรือตอนไปสัมนาmeetingต่างๆก็ได้.... ผมคงไม่ไปเซ้าซี้เพื่อนในแก๊งแล้วล่ะ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 6
เพื่อนของผมเอง มีไม่กี่คนที่สนใจการลงทุนอย่างจริงจังครับsakkaphan เขียน:จริงๆผมมีความสนใจ ความชอบ หรืองานอดิเรกหลายอย่างเลยครับ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เล่นบอลและก็เล่นกล้าม แต่สิ่งเหล่านี้เพื่อนๆผมก็ชอบ ผมก็เลยมีเพื่อนคอเดียวกันเยอะแยะอยู่แล้ว สิ่งที่ขาดอย่างเดียวที่ผมชอบแต่เพื่อนๆไม่สนใจมาร่วมอุดมการณ์คือการลงทุนนี่แหละ ทำให้ผมอยากชวนเพื่อนมาร่วมอุดมการณ์กันเลยพยายามคุยเรื่องนี้ แต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่บอกchatchai เขียน:สมัยนี้ยังดีนะครับที่มีเพื่อนนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ มีเวบให้พูดคุยกัน รวมทั้งมีการจัดสัมมนาบ่อยครั้ง
แต่เราก็ควรที่จะสนใจเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากการลงทุนด้วยนะครับ
แต่จะว่าไป ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าจะคุยเรื่องลงทุน ถึงผมจะชวนเหล่าแก๊งเพื่อนสนิทมาไม่ได้ ผมก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ในthaiviแห่งนี้แล้ว อย่างที่พี่บอกครับ คุยในเวบ หรือตอนไปสัมนาmeetingต่างๆก็ได้.... ผมคงไม่ไปเซ้าซี้เพื่อนในแก๊งแล้วล่ะ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 7
อืม... ปกติผมก็ไม่คุยเรื่องหุ้น เศรษฐกิจ การเมือง ศาสนา กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันนะครับ
คือ ผมรู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวผม แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวเพื่อนผมรึเปล่า ดังนั้นถ้ามันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องคุยก็คุยในระดับที่เหมาะสม โดยสังเกตปฏิกิริยาของคนที่ฟังให้มาก ไม่กล้าคุยเยอะ กลัวตัวเองไหลไปกับอารมณ์ ความชอบ ความหมกหมุ่น ต้องพยายามดึงกลับมาอยู่ที่บทสนทนาที่เหมาะสมกับบรรยากาศ ไม่ลงลึกจนเกินไป เพราะ ธรรมชาติของตัวผมจะเป็นคนที่ลงลึกเกินไปจนทำให้คนฟังอาจจะไม่สบายใจได้
ความเห็นผมนี่ฟังหูไว้หูนะครับ หลังๆ ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่ 555
คือ ผมรู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวผม แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวเพื่อนผมรึเปล่า ดังนั้นถ้ามันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องคุยก็คุยในระดับที่เหมาะสม โดยสังเกตปฏิกิริยาของคนที่ฟังให้มาก ไม่กล้าคุยเยอะ กลัวตัวเองไหลไปกับอารมณ์ ความชอบ ความหมกหมุ่น ต้องพยายามดึงกลับมาอยู่ที่บทสนทนาที่เหมาะสมกับบรรยากาศ ไม่ลงลึกจนเกินไป เพราะ ธรรมชาติของตัวผมจะเป็นคนที่ลงลึกเกินไปจนทำให้คนฟังอาจจะไม่สบายใจได้
ความเห็นผมนี่ฟังหูไว้หูนะครับ หลังๆ ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่ 555
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 9
picatos เขียน:อืม... ปกติผมก็ไม่คุยเรื่องหุ้น เศรษฐกิจ การเมือง ศาสนา กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันนะครับ
คือ ผมรู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวผม แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวเพื่อนผมรึเปล่า ดังนั้นถ้ามันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องคุยก็คุยในระดับที่เหมาะสม โดยสังเกตปฏิกิริยาของคนที่ฟังให้มาก ไม่กล้าคุยเยอะ กลัวตัวเองไหลไปกับอารมณ์ ความชอบ ความหมกหมุ่น ต้องพยายามดึงกลับมาอยู่ที่บทสนทนาที่เหมาะสมกับบรรยากาศ ไม่ลงลึกจนเกินไป เพราะ ธรรมชาติของตัวผมจะเป็นคนที่ลงลึกเกินไปจนทำให้คนฟังอาจจะไม่สบายใจได้
ความเห็นผมนี่ฟังหูไว้หูนะครับ หลังๆ ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่ 555
เข้าใจความรู้สึกเลยครับ ผมก็เคยเป็นครับเวลาพูดแบบวิเคราะห์เจาะลึกในบางเรื่อง รู้สึกได้เลยว่าคนฟังจะเริ่มไม่สนใจ เค้าคงกำลังคิดในหัวว่าพูดอะไรวะเนี่ย......คือบางครั้งเราสนุกที่ได้วิเคราะห์ไปเรื่อยแต่คนฟังไม่สนุกด้วยนี่สิ ฮ่าๆๆๆ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 10
โอ้ คุณ zephyr ดีจัง แต่ตอนนี้ผมล้มเลิกความคิดที่จะชวนเพื่อนๆแล้วล่ะเพราะรู้แล้วว่าเพื่อนผมคนละstyleกัน แต่อยากรู้ว่าคุณzephyrชวนเพื่อนยังไงเหรอครับถึงได้ชวนมาเป็นคอเดียวกันหมดได้
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 915
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 11
จริงๆก็ไม่ได้ชวนหรอกครับ แต่เพราะว่ารุ่นๆผมก็อายุเยอะพอควรแล้วมั้งครับ ก็เลยคุยกันแต่เรื่องธุรกิจและการลงทุนsakkaphan เขียน:โอ้ คุณ zephyr ดีจัง แต่ตอนนี้ผมล้มเลิกความคิดที่จะชวนเพื่อนๆแล้วล่ะเพราะรู้แล้วว่าเพื่อนผมคนละstyleกัน แต่อยากรู้ว่าคุณzephyrชวนเพื่อนยังไงเหรอครับถึงได้ชวนมาเป็นคอเดียวกันหมดได้
เพื่อนผมบางคนก็เป็นสมาชิกบอร์ดนี้เหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมายครับ แถมยังรู้จักสมาชิกรุ่นใหญ่ๆด้วย เพราะเค้าไปงานจิบเบียร์ตั้งแต่รุ่นแรกๆ แต่ผมไม่ได้ไป 555
อีกคนนึงก็ศึกษาด้านเทคนิคจริงๆจังๆ เคย debate กับผมมาก่อนเรื่อง fundamental กับ technic ด้วย แต่ว่าตอนนี้มันก็ต้องดูงบด้วยเหมือนกันครับ เก่งมาก เทรดจากรวยเป็นรวยมากเลย มีเกือบ 10 หลักแล้ว เริ่มจาก 7 หลักเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เล่นทั้งหุ้น ทอง commodities forex เอาหมด แต่ตอนนี้กลับมาเล่นแค่หุ้นกับทองเป็นหลัก คือชีวิตตอนนี้เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญไปแล้ว
เพื่อนอีกคนเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ชีวิตน่าอิจฉามาก คือทำงานไปอย่างนั้นแหละ รายได้ส่วนใหญ่มาจากการ trade forex กับทอง เก่งมากเหมือนกัน
ว่างๆก็นัดเจอกัน นั่งกิน แล้วก็คุยกัน หลักๆก็มีแต่เรื่องสาวๆกับการลงทุนแหละครับ ผมเองตะหากที่ยังต้องทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลาว่างไป
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 12
เพื่อนผมหลายคน ก็เหมือนกัน คือ จะสนใจเรื่องหุ้น
ต่อเมื่อ ได้ข่าวว่า "จ้าวจะลากไปไหน" "ซื้อได้ไหม"
ทั้งๆที่ผมเรียกเพื่อนมาสอนการลงทุนให้ก็แบบนี้
หรือไม่ก็ ห่างหายไปนาน โทรมาถามว่า ได้ข่าวว่าเล่นหุ้น
พอผมบอกว่า เอาสิ อยากให้สอนก็โทรมา ก็เงียบเลย
คือจะบอกว่า การจะให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน มาหัดลงทุนนั้น
ยากมากกว่า เข็นครกขึ้นเอเวอเรสต์อีกครับ
เมื่อก่อน ผมก็เป็นเหมือนน้อง sakkaphan เนี่ยแหละครับ
ชอบ art แบบ อ่าน a day , bio scope และ อ่านแนวคิดของนักปรัชญาต่างๆ
รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆมากมาย
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว หากเลือกจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
เราไม่สามารถ เลือกมันทุกอย่างได้ จำเป็นต้อง scope และเจาะลึก
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแนวไหนก็ตาม ครับ
ส่วนที่พี่ฉัตรกับ ตี่ พูดนั้น เรื่องจริงครับ คือ ชีวิตคือการลงทุน แต่
ไม่ใช่ว่า มีแต่การลงทุนในแง่ตัวเงินอย่างเดียว ชีวิตมีอะไรอีกมากมายครับ
ผมเห็นคนรวยๆ หลายคน ป่วยขึ้นมา แม้แต่คนที่ว่าสนิทๆยังไม่ค่อยไปเยี่ยม
ผมเห็นคนรวยๆ พอเปลี่ยน สถานะ ในด้านสังคม ก็แย่ลงไปอีก
ดังนั้น หากเราลงทุนถึงจุดนึง ก็ค่อยผ่อนคลายกับชีวิตบ้างก็ดีครับ
ผมเห็นพี่ๆหลายคน พอถึงจุดนึง เข้าสู่ ธรรมะกันเพียบเลยครับ
เพราะสงสัย พอถึงจุดนึง คงมานั่งถาม เหมือน ตี่ว่า
" ณ.บัดนาว วันนี้กำลังทำอะไรกันแน่อยู๋ "
คือ จะบอกว่า ในชีวิตการลงทุน ล้วน เป็นเช่นดังหนังสือ เรื่อง the secret เลยครับ
คือ ทุกอย่างๆ มีแรงดึงดูด ให้คนที่คิดเหมือนกัน เข้ามาหากัน
เมื่อก่อน ตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ ผมซื้อหนังสือ ดร.นิเวศน์ ยังเคยนึกเลยว่า
"สาธุ ชาตินี้ ขอให้ได้นั่งคุยกับเซียนคนนี้บ้างเหอะ"
ในชีวิตการลงทุนนั้น เซียนที่ผมรู้จักแต่ละคน ไม่มีนิสัย ถือตัว
ทุกคน พร้อมจะชี้แนะคนที่สนใจที่จะเรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ
เอาเป็นว่า อย่าไปคิดมาเรื่อง ปั้นเพื่อนเป็นดาวเลยครับ
ผมว่า สนใจในการปั้นตัวเองให้เป็นดาวดีกว่าครับ กว่าจะรู้ตัวอีกที
เราก็อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆนักลงทุนแนวเดียวกันไปนานแล้ว...
ต่อเมื่อ ได้ข่าวว่า "จ้าวจะลากไปไหน" "ซื้อได้ไหม"
ทั้งๆที่ผมเรียกเพื่อนมาสอนการลงทุนให้ก็แบบนี้
หรือไม่ก็ ห่างหายไปนาน โทรมาถามว่า ได้ข่าวว่าเล่นหุ้น
พอผมบอกว่า เอาสิ อยากให้สอนก็โทรมา ก็เงียบเลย
คือจะบอกว่า การจะให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน มาหัดลงทุนนั้น
ยากมากกว่า เข็นครกขึ้นเอเวอเรสต์อีกครับ
เมื่อก่อน ผมก็เป็นเหมือนน้อง sakkaphan เนี่ยแหละครับ
ชอบ art แบบ อ่าน a day , bio scope และ อ่านแนวคิดของนักปรัชญาต่างๆ
รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆมากมาย
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว หากเลือกจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
เราไม่สามารถ เลือกมันทุกอย่างได้ จำเป็นต้อง scope และเจาะลึก
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแนวไหนก็ตาม ครับ
ส่วนที่พี่ฉัตรกับ ตี่ พูดนั้น เรื่องจริงครับ คือ ชีวิตคือการลงทุน แต่
ไม่ใช่ว่า มีแต่การลงทุนในแง่ตัวเงินอย่างเดียว ชีวิตมีอะไรอีกมากมายครับ
ผมเห็นคนรวยๆ หลายคน ป่วยขึ้นมา แม้แต่คนที่ว่าสนิทๆยังไม่ค่อยไปเยี่ยม
ผมเห็นคนรวยๆ พอเปลี่ยน สถานะ ในด้านสังคม ก็แย่ลงไปอีก
ดังนั้น หากเราลงทุนถึงจุดนึง ก็ค่อยผ่อนคลายกับชีวิตบ้างก็ดีครับ
ผมเห็นพี่ๆหลายคน พอถึงจุดนึง เข้าสู่ ธรรมะกันเพียบเลยครับ
เพราะสงสัย พอถึงจุดนึง คงมานั่งถาม เหมือน ตี่ว่า
" ณ.บัดนาว วันนี้กำลังทำอะไรกันแน่อยู๋ "
คือ จะบอกว่า ในชีวิตการลงทุน ล้วน เป็นเช่นดังหนังสือ เรื่อง the secret เลยครับ
คือ ทุกอย่างๆ มีแรงดึงดูด ให้คนที่คิดเหมือนกัน เข้ามาหากัน
เมื่อก่อน ตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ ผมซื้อหนังสือ ดร.นิเวศน์ ยังเคยนึกเลยว่า
"สาธุ ชาตินี้ ขอให้ได้นั่งคุยกับเซียนคนนี้บ้างเหอะ"
ในชีวิตการลงทุนนั้น เซียนที่ผมรู้จักแต่ละคน ไม่มีนิสัย ถือตัว
ทุกคน พร้อมจะชี้แนะคนที่สนใจที่จะเรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ
เอาเป็นว่า อย่าไปคิดมาเรื่อง ปั้นเพื่อนเป็นดาวเลยครับ
ผมว่า สนใจในการปั้นตัวเองให้เป็นดาวดีกว่าครับ กว่าจะรู้ตัวอีกที
เราก็อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆนักลงทุนแนวเดียวกันไปนานแล้ว...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 13
ชอบประโยคนี้มากๆ เป็นเรื่องจริงทีเดียวครับ คนใกล้ตัวผมก็มี ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องเงินทอง แต่มีแต่คนเหม็นขี้หน้า ไม่ค่อยมีเพื่อน เหตุผล ผมคิดว่ามันเป็นเพราะ... ผมขอใช้คำพูดแบบนี้ "เค้าเอานิสัยที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จในเรื่องเงินทอง(เช่นความเขี้ยว ความตระหนี่เป็นต้น) มาใช้กับการเข้าสังคมด้วย" ก็คือไม่รู้จักแยกแยะนั่นเองcrazyrisk เขียน:
ผมเห็นคนรวยๆ หลายคน ป่วยขึ้นมา แม้แต่คนที่ว่าสนิทๆยังไม่ค่อยไปเยี่ยม
ผมเห็นคนรวยๆ พอเปลี่ยน สถานะ ในด้านสังคม ก็แย่ลงไปอีก
ดังนั้น หากเราลงทุนถึงจุดนึง ก็ค่อยผ่อนคลายกับชีวิตบ้างก็ดีครับ
ผมเห็นพี่ๆหลายคน พอถึงจุดนึง เข้าสู่ ธรรมะกันเพียบเลยครับ
เพราะสงสัย พอถึงจุดนึง คงมานั่งถาม เหมือน ตี่ว่า
" ณ.บัดนาว วันนี้กำลังทำอะไรกันแน่อยู๋ "
ผมก็คงมีช่วงนึงที่ไม่ค่อยรู้จักแยกแยะเหมือนกัน แต่ช่วงหลังนี่รู้ตัวแล้ว แล้วก็ตระหนักได้แล้วว่าต่อไปควรทำเช่นไร เพราะอย่างที่พี่บอกแหละครับ ชีวิตมีเรื่องสำคัญอื่นๆอีกเยอะ "เพื่อน"ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตผมเหมือนกัน ผมไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไปเพียงเพราะผมเอานิสัยด้านการลงทุนไปใช้ในการเข้าหาเพื่อนๆด้วย
....พูดถึงเรื่องเพื่อนแล้ว....ชักอยากตั้งกระทู้บ่น2 ฮ่าๆๆๆๆ เคยจะตั้งกระทู้นานแล้วครับเพราะเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้อะไรบางอย่าง.....แต่ลืมตั้งไป เดี๋ยวว่างๆจะมาตั้งกระทู้บ่นอีก ฮ่าๆๆๆ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 14
สำหรับผม หลังๆมานี้คนรอบข้างเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น
อาจจะเป็นเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ โดยไม่มีบาดแผลให้ใครเห็น (แอบปิดไว้)
ความคิดเดิมๆของคนรอบข้างเลยเปลี่ยนไป
ขนาดพ่อแม่ยังบอกว่า หวยอย่าซื้อเลย ซื้อหุ้นอย่างเดียวเลยลูก 555
ถ้าเทียบกับเมื่อ 7-8 ปีมานั้น พ่อแม่ค่อนข้างห่วง เพราะติดภาพลบในทีวี
เวลาเจอวิกฤต มักเจอคนที่คิดสั้นบ่อยครั้งเมื่อประสบความล้มเหลว ความรัก
ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ไม่มีวันเปลี่ยนจริงๆครับ
แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เป็นบทพิสูจน์ชั้นเยี่ยมให้ท่านได้เห็น ว่าการลงทุน
อย่างถูกทาง ก็สามารถเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ
แม้ตอนนี้จะยังไม่ถึงเป้าหมายแต่อย่างน้อยก็ทำให้คนรอบข้างได้เห็นว่า ความมุ่งมั่น
ของเราที่ทำไปนั้น ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอยอีกต่อไป
อาจจะเป็นเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ โดยไม่มีบาดแผลให้ใครเห็น (แอบปิดไว้)
ความคิดเดิมๆของคนรอบข้างเลยเปลี่ยนไป
ขนาดพ่อแม่ยังบอกว่า หวยอย่าซื้อเลย ซื้อหุ้นอย่างเดียวเลยลูก 555
ถ้าเทียบกับเมื่อ 7-8 ปีมานั้น พ่อแม่ค่อนข้างห่วง เพราะติดภาพลบในทีวี
เวลาเจอวิกฤต มักเจอคนที่คิดสั้นบ่อยครั้งเมื่อประสบความล้มเหลว ความรัก
ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ไม่มีวันเปลี่ยนจริงๆครับ
แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เป็นบทพิสูจน์ชั้นเยี่ยมให้ท่านได้เห็น ว่าการลงทุน
อย่างถูกทาง ก็สามารถเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ
แม้ตอนนี้จะยังไม่ถึงเป้าหมายแต่อย่างน้อยก็ทำให้คนรอบข้างได้เห็นว่า ความมุ่งมั่น
ของเราที่ทำไปนั้น ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอยอีกต่อไป
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 15
ผมเพิ่งไปทานข้าวกับเพื่อนๆ สมัยเรียน ปตรี มาครับ ก็คุยสัพเพเหระ ใครทำอะไรที่ไหน
พอถามผม ผมบอกว่า ก็ทำกิจการที่บ้านและเป็นนักลงทุนแล้วก็จบ ไม่มีถามต่อว่าลงทุนอะไร ยังไง
นั่นแปลว่า ตลาดยังไม่พีค เอ้ยย ไม่ใช่ เรื่องการลงทุน ยังไม่ได้อยู่ในความคิดของเพื่อนผมกลุ่มนั้น ณ ช่วงอายุนี้ (32-33 ปี)
เพื่อนผู้ชายมีไม่กี่คนที่คิดวางรากฐานชีวิตไว้ ส่วนเพื่อนผู้หญิงยังเฮฮาไปเรื่อย บางคนยังเที่ยว hang out เกือบทุกคืนอยู่
อาจเป็นเพราะเพื่อนๆ ที่่ยังเที่ยวกลางคืนค่อนข้างบ่อยเกินกว่าที่จะเป็นการพักผ่อนคลายเครียดนั้นมีฐานะทางบ้านค่อนข้างดีถึงดีมาก จึงไม่ได้ดิ้นรนอะไรก็เป็นได้
ผมก็ไม่ได้คุยเรื่องหนักๆ ในเวลานั้น เพราะคนเรามีสังคมกับเพื่อนๆ หลายกลุ่ม เราก็คุยในหัวข้อเรื่องที่เหมาะสมกับกลุ่มนั้นๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ปล.เป็นกลุ่มตัวอย่างเล็กๆ เพียงสิบกว่าคน คงไม่ได้บ่งบอกอะไรได้มากนัก
พอถามผม ผมบอกว่า ก็ทำกิจการที่บ้านและเป็นนักลงทุนแล้วก็จบ ไม่มีถามต่อว่าลงทุนอะไร ยังไง
นั่นแปลว่า ตลาดยังไม่พีค เอ้ยย ไม่ใช่ เรื่องการลงทุน ยังไม่ได้อยู่ในความคิดของเพื่อนผมกลุ่มนั้น ณ ช่วงอายุนี้ (32-33 ปี)
เพื่อนผู้ชายมีไม่กี่คนที่คิดวางรากฐานชีวิตไว้ ส่วนเพื่อนผู้หญิงยังเฮฮาไปเรื่อย บางคนยังเที่ยว hang out เกือบทุกคืนอยู่
อาจเป็นเพราะเพื่อนๆ ที่่ยังเที่ยวกลางคืนค่อนข้างบ่อยเกินกว่าที่จะเป็นการพักผ่อนคลายเครียดนั้นมีฐานะทางบ้านค่อนข้างดีถึงดีมาก จึงไม่ได้ดิ้นรนอะไรก็เป็นได้
ผมก็ไม่ได้คุยเรื่องหนักๆ ในเวลานั้น เพราะคนเรามีสังคมกับเพื่อนๆ หลายกลุ่ม เราก็คุยในหัวข้อเรื่องที่เหมาะสมกับกลุ่มนั้นๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ปล.เป็นกลุ่มตัวอย่างเล็กๆ เพียงสิบกว่าคน คงไม่ได้บ่งบอกอะไรได้มากนัก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 16
ฟังแล้วก็นึกถึงอาของเพื่อนผมคนนึง เพื่อนผมบอกว่า เที่ยวเล่นตลอด แบมือขอตังแม่จนอายุ 40
แล้วผมว่า ในไทยนี่ มีคนแบบนี้ไม่นอ้ยเลย
คงเป็นเพราะ ลักษณะแนวทางการดำเนินชีวิต มั้งครับ
เด็กไทยแบมือขอตังจนอายุ20กว่า จบปริญญาตรี บางทีก็ต่อปริญญาโทเอกเลย
แต่ที่ผมเคยได้ยิน อย่างอเมริกานี่ พอเข้าช่วงวัยรุ่น อายุ13upนี่ก็ออกมาใช้ชีวิตอยู่เองแล้ว
ทำให้ต้องดูแลตัวเอง หากินเอง เลยไม่ค่อยมีคนแบบนี้เท่าไร
....บ้านผมก็มีคนแบบนี้อยู่ คนนึงเป็นแบบนี้เพราะความจำเป็น อีกคนน้องผม อายุ21แต่ยังไม่เริ่มเรียน ปตรี เที่ยวเล่นไปวันๆ ดูท่าทางอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะแบมือขอไปอีกหลายปี เหอๆๆ
แล้วผมว่า ในไทยนี่ มีคนแบบนี้ไม่นอ้ยเลย
คงเป็นเพราะ ลักษณะแนวทางการดำเนินชีวิต มั้งครับ
เด็กไทยแบมือขอตังจนอายุ20กว่า จบปริญญาตรี บางทีก็ต่อปริญญาโทเอกเลย
แต่ที่ผมเคยได้ยิน อย่างอเมริกานี่ พอเข้าช่วงวัยรุ่น อายุ13upนี่ก็ออกมาใช้ชีวิตอยู่เองแล้ว
ทำให้ต้องดูแลตัวเอง หากินเอง เลยไม่ค่อยมีคนแบบนี้เท่าไร
....บ้านผมก็มีคนแบบนี้อยู่ คนนึงเป็นแบบนี้เพราะความจำเป็น อีกคนน้องผม อายุ21แต่ยังไม่เริ่มเรียน ปตรี เที่ยวเล่นไปวันๆ ดูท่าทางอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะแบมือขอไปอีกหลายปี เหอๆๆ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 18
pongo เขียน:
เพื่อนผู้ชายมีไม่กี่คนที่คิดวางรากฐานชีวิตไว้ ส่วนเพื่อนผู้หญิงยังเฮฮาไปเรื่อย บางคนยังเที่ยว hang out เกือบทุกคืนอยู่
พอจะบอก status เพื่อน หน่อยได้ไหมครับ พง
ว่า 1 มีฐานะอยู่แล้ว
2 white collar
ซึ่งผมยังคงงงๆ ว่า หากอายุประมาณนี้ ยังติดนิสัย hang out เรื่อยๆ น่ากลัวเอามากๆเลยครับ
เมื่อก่อน ผมก็เที่ยวกลางคืนนะครับ แบบว่า พระไม่มาบิณฑบาต ไม่เลิก
แต่ตั้งแต่มารู้จักโลกแห่งการลงทุน อยู่ๆก็แพ้เหล้าขึ้นมาซะงั้น...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 19
วิธีแก้ไขครับ หาแฟนที่ชอบลงทุนครับ 555....
ผมโชคดีมากครับ เพราะแต่แรกไม่สนเรื่องลงทุนเลย แบบว่าไม่เข้าใจเลยทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยทบต้น จำพวกนี้
จนพบแฟนด้วยความบังเอิญ เป็นเด็ก Finance รักการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ เธอแทบไม่เคยมีเงินใน Saving แต่สงสัยเพราะสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมีเงินด้วยครับ
พอปรับโหมดเข้ากันได้ ผมก็เลยเหมือนกับโชคดีสุดๆ เพราะมีคนช่วย Guide ให้ทุกอย่าง ตอนนี้มีความสุขมากครับ เพราะงานหลักก็ชอบเหมือนกัน งานรองคือการลงทุนก็ชอบเหมือนกันอีก แนะนำเป็นอย่างมากครับ
ผมโชคดีมากครับ เพราะแต่แรกไม่สนเรื่องลงทุนเลย แบบว่าไม่เข้าใจเลยทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยทบต้น จำพวกนี้
จนพบแฟนด้วยความบังเอิญ เป็นเด็ก Finance รักการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ เธอแทบไม่เคยมีเงินใน Saving แต่สงสัยเพราะสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมีเงินด้วยครับ
พอปรับโหมดเข้ากันได้ ผมก็เลยเหมือนกับโชคดีสุดๆ เพราะมีคนช่วย Guide ให้ทุกอย่าง ตอนนี้มีความสุขมากครับ เพราะงานหลักก็ชอบเหมือนกัน งานรองคือการลงทุนก็ชอบเหมือนกันอีก แนะนำเป็นอย่างมากครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 20
มีแฟนครับ แต่ไม่รู้เรื่องลงทุน แต่พอจะฟังผมบ่นได้บ้าง 5555555555xavi เขียน:วิธีแก้ไขครับ หาแฟนที่ชอบลงทุนครับ 555....
ผมโชคดีมากครับ เพราะแต่แรกไม่สนเรื่องลงทุนเลย แบบว่าไม่เข้าใจเลยทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยทบต้น จำพวกนี้
จนพบแฟนด้วยความบังเอิญ เป็นเด็ก Finance รักการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจ เธอแทบไม่เคยมีเงินใน Saving แต่สงสัยเพราะสมัยก่อนก็ไม่ค่อยมีเงินด้วยครับ
พอปรับโหมดเข้ากันได้ ผมก็เลยเหมือนกับโชคดีสุดๆ เพราะมีคนช่วย Guide ให้ทุกอย่าง ตอนนี้มีความสุขมากครับ เพราะงานหลักก็ชอบเหมือนกัน งานรองคือการลงทุนก็ชอบเหมือนกันอีก แนะนำเป็นอย่างมากครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 21
เพื่อน ญ ที่ผมเจอแล้วยัง hang out บ่อยๆ เกือบทุกคืนนั้น ฐานะทางบ้านดีมากครับ จบโท จากอังกฤษ ตอนนี้ก็ทำงาน Office แหละครับ ก็คงทำไปแบบหาประสบการณ์แหละครับ เพราะอนาคตก็คงกลับไปรับช่วงต่อธุรกิจทางบ้าน ซึ่งผมก็จำไม่ได้แน่ว่าที่บ้านประกอบธุรกิจอะไร เพราะไม่ได้สนิทมากcrazyrisk เขียน:pongo เขียน:
เพื่อนผู้ชายมีไม่กี่คนที่คิดวางรากฐานชีวิตไว้ ส่วนเพื่อนผู้หญิงยังเฮฮาไปเรื่อย บางคนยังเที่ยว hang out เกือบทุกคืนอยู่
พอจะบอก status เพื่อน หน่อยได้ไหมครับ พง
ว่า 1 มีฐานะอยู่แล้ว
2 white collar
ซึ่งผมยังคงงงๆ ว่า หากอายุประมาณนี้ ยังติดนิสัย hang out เรื่อยๆ น่ากลัวเอามากๆเลยครับ
เมื่อก่อน ผมก็เที่ยวกลางคืนนะครับ แบบว่า พระไม่มาบิณฑบาต ไม่เลิก
แต่ตั้งแต่มารู้จักโลกแห่งการลงทุน อยู่ๆก็แพ้เหล้าขึ้นมาซะงั้น...
มีเพื่อนผู้ชายอีกคนนึงครับ ตอนเรียน ปี 1 นี่เที่ยว RCA ทุกคืนเลยครับ พอจบมาทำงานใหม่ๆ ก็เที่ยวบ้าง มากน้อยตามโอกาส
ตอนนี้ทำงาน Office และทำ MLM ควบคู่ไปด้วย เรียกว่าประสบความสำเร็จในระดับสูง รายรับเดือนนึงหลักแสน
ที่แปลกคือหลังๆ มานี่ เลิกเที่ยวกลางคืนไปแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน มีเงินซื้อ E-coupe ขับ เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่เวลาคุยกับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่เรียน ปตรี มาด้วยกัน ไม่เคยคะยั้นคะยอไปฟังแผนธุรกิจ MLM เลย ถือว่าเป็นข้อดี จะได้ไม่เสียเพื่อน
ส่วนตัวผมนั้น ปกติก็เป็นคนไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ตอนเรียน ปตรี ดื่มบ้างเวลาไปสังสรรค์ เที่ยวกลางคืนบ้างตามเพื่อนๆ ไป
พอจบมาทำงาน แทบไม่ได้เที่ยวกลางคืนเลย แอลกอฮอล์ยังดื่มบ้าง ตามช่วงเวลากินข้าวกับเพื่อนๆ นานๆ ที
พอเข้าสู่โลกการลงทุน เลิกเที่ยวกลางคืนแบบ ดิ้นๆ แด็นซ์ๆ ตามผับเด็ดขาดไปแล้ว แอลกอฮอล์เลิกเด็ดขาด กินข้าวกับเพื่อนๆ ก็ดื่นน้ำปล่าว น้ำอัดลมเท่านั้น
ตอนนี้ก็หันมายกเวท เลือกประเภทอาหารที่ไม่ทำลายสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว
สุขภาพร่างกายนั้น มีเงินล้นฟ้า ก็ซื้อไม่ได้ เพื่อนๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 22
pongo เขียน:
ตอนนี้ก็หันมายกเวท เลือกประเภทอาหารที่ไม่ทำลายสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว
สุขภาพร่างกายนั้น มีเงินล้นฟ้า ก็ซื้อไม่ได้ เพื่อนๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
เห็นด้วย อย่างแร๊วง...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 23
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่งcrazyrisk เขียน:pongo เขียน:
ตอนนี้ก็หันมายกเวท เลือกประเภทอาหารที่ไม่ทำลายสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว
สุขภาพร่างกายนั้น มีเงินล้นฟ้า ก็ซื้อไม่ได้ เพื่อนๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
เห็นด้วย อย่างแร๊วง...
ว่าแต่ว่าทำไมหมอเคลงทุนแล้วถึงเลิกเหล้าอ่ะ? งง... มันมีความเกี่ยวข้องกันยังไงเหรอ?
ของผม หยุดดื่มตอนเลิกบุหรี่ แต่พอเลิกบุหรี่สำเร็จก็ยังมีกินอยู่บ้าง กินเสพรสชาติบ้าง เสพอารมณ์บ้าง ไม่ได้กินเอาเป็นเอาตายเหมือนเมื่อก่อน... สงสัยยังไม่เห็นแจ้งถึงทุกข์ภัยของการกินเหล้า ศีลข้อ 5 ถึงไม่สมบูรณ์สักที
อยากเลิกขาดได้เหมือนกัน แต่หาแรงบันดาลใจได้ไม่มากพอ มีอะไรจะช่วยแนะนำไหมครับ?
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 24
picatos เขียน:
ว่าแต่ว่าทำไมหมอเคลงทุนแล้วถึงเลิกเหล้าอ่ะ? งง... มันมีความเกี่ยวข้องกันยังไงเหรอ?
เดี๋ยว ต้องเคลียร์ก่อนนะครับ ผมไม่ได้ติดเหล้านะครับ ทำยังกะ ผมต้องไปอดที่ถ้ำกระบอกแน่ะ..
จริงๆ สำหรับผม ผมไม่ชอบตอนเมาอยู่แล้ว เพราะว่า เมาแล้ว พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
และก็เกลียดเวลาอ้วกที่สุด แต่ที่ต้องกินเพราะ เวลาเข้าสังคม มันต้องกินครับ
แต่พอเปลี่ยนสังคมใหม่ เขาไม่กินเหล้ากัน เราก็เลยไม่ได้กิน
ไปๆมาๆ ก็หยุดกิน ไปโดยปริยาย
ส่วนบุหรี่ ผมก็เคยสูบ เพราะเข้ากลุ่ม เด็กๆ มันต้องสูบบ้างไรบ้าง
แต่พอสูบไปสูบมา เด็กมันเอาไปนินทาว่า สูบไม่เห็นเป็นเลย
แกล้งสูบนี่หว่า ... แบบ ต้องเข้าปอด ลึกๆ แล้ว ค่อยๆ ผ่อนออกมา..
ผมคิดไปคิดมา สูบแล้วทำร้ายตัวเอง นี่ เรายังต้องฝึกอีกเหรอเนี่ย..
พอหยุดสูบไปสักพัก ในที่สุด ก็จะเริ่มเหม็นควัน ไปโดยปริยายอีกเช่นกัน
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1657
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 25
เหมือนผมเลย เลิกเหล้าก็เพราะการลงทุนนี่แหละ
พอผมได้ศึกษาเรื่องลงทุนแล้ว เวลากินเหล้าทีไร
วันต่อมาก็จะรู้สึกเสียดายตังค์ทุกที
ก็เลยเลิกดื่มเหล้าไปเลย
พอผมได้ศึกษาเรื่องลงทุนแล้ว เวลากินเหล้าทีไร
วันต่อมาก็จะรู้สึกเสียดายตังค์ทุกที
ก็เลยเลิกดื่มเหล้าไปเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 26
ผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบบุหรี่และเหล้า ถ้าเบียร์ยังพอโอเค แต่เวลานัดเจอเพื่อนๆเดี๋ยวนี้ก็มีแต่ไปนั่งดื่มกัน ผมก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง บางครั้งไปแล้วก็ไปนั่งคุยเฉยๆไม่ได้ดื่ม รู้สึกเซ็ง และก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่พอโตๆกันแล้วนัดเจอกันซักทีต้องไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์?? ไปทำอย่างอื่นไม่ได้รึไง
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 27
ผมสังเกตว่าสังคมนักลงทุน โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ ขยันๆ หน่อยมักจะไม่กินเหล้า ซึ่งก็สอดคล้องกับในทางโลกและทางธรรม เพราะ การดื่มสุราทำลายสมอง และผลของการผิดศีลข้อ 5 ทำให้เกิดมาโง่ ไม่ฉลาด ซึ่งผลบุญของการรักษาศีลข้อ 5 ในทางกลับกันจะทำให้ปัญญาดี ดังนี้นในทางกลับกันผมจึงไม่ค่อยแปลกใจที่จะเห็นนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกินเหล้า
แต่ผมแปลกใจตัวเองมากๆ ว่าทำไมตัวเองถึงไม่สามารถรักษาศีลข้อ 5 ให้บริสุทธิ์ได้ ทั้งๆ ที่ตื่นมาปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมอยู่เนื่องๆ ไม่รู้ว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองยังไง ถึงจะเลิกเหล้าได้ขาดจริงๆ ไอ้อารมณ์ประมาณแบบเพื่อนๆ นักลงทุนคนอื่นนี่ คงจะไม่เกิดกับผมมั้ง ผมคงจะไม่ได้ทำมาแบบนี้ คงต้องหาแรงบันดาลใจต่อไป
แต่ผมแปลกใจตัวเองมากๆ ว่าทำไมตัวเองถึงไม่สามารถรักษาศีลข้อ 5 ให้บริสุทธิ์ได้ ทั้งๆ ที่ตื่นมาปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมอยู่เนื่องๆ ไม่รู้ว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองยังไง ถึงจะเลิกเหล้าได้ขาดจริงๆ ไอ้อารมณ์ประมาณแบบเพื่อนๆ นักลงทุนคนอื่นนี่ คงจะไม่เกิดกับผมมั้ง ผมคงจะไม่ได้ทำมาแบบนี้ คงต้องหาแรงบันดาลใจต่อไป
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 28
พี่ picatose ครับpicatos เขียน:ผมสังเกตว่าสังคมนักลงทุน โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ ขยันๆ หน่อยมักจะไม่กินเหล้า ซึ่งก็สอดคล้องกับในทางโลกและทางธรรม เพราะ การดื่มสุราทำลายสมอง และผลของการผิดศีลข้อ 5 ทำให้เกิดมาโง่ ไม่ฉลาด ซึ่งผลบุญของการรักษาศีลข้อ 5 ในทางกลับกันจะทำให้ปัญญาดี ดังนี้นในทางกลับกันผมจึงไม่ค่อยแปลกใจที่จะเห็นนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกินเหล้า
แต่ผมแปลกใจตัวเองมากๆ ว่าทำไมตัวเองถึงไม่สามารถรักษาศีลข้อ 5 ให้บริสุทธิ์ได้ ทั้งๆ ที่ตื่นมาปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมอยู่เนื่องๆ ไม่รู้ว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองยังไง ถึงจะเลิกเหล้าได้ขาดจริงๆ ไอ้อารมณ์ประมาณแบบเพื่อนๆ นักลงทุนคนอื่นนี่ คงจะไม่เกิดกับผมมั้ง ผมคงจะไม่ได้ทำมาแบบนี้ คงต้องหาแรงบันดาลใจต่อไป
เมื่อก่อนผมก็เป็นนักดื่มตัวยงเหมือนกันครับ
แต่เมื่อ4-5ปีที่ผ่านมามีเหตุให้ผมเลิกดื่มเกือบเด็ดขาด คือผมโดนจับเป่าแอลกอฮอล์ครับ
ผมไปนอนในคุก1คืน รุ่งขึ้นไปขึ้นศาลโดยปรับไป 8 พัน
หลังจากวันนั้นผมเลยรู้สึกไม่อยากดื่มอีกเลยครับ
พี่ลองดูครับ เผื่อเลิกได้แบบผม ฮ่า...
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทู้บ่น : เรื่องของการคุยเรื่องเงินทองๆกับเพื่อนฝูง
โพสต์ที่ 30
ถ้าเล่าได้ช่วยเล่าให้ฟังทีครับ ประสบการณ์ตอนนอนคุก ขังรวมกับคนอื่นหรือเปล่า แล้วนั่งเฉยๆหรือคุยกันครับ นอนหลับมั้ยครับ ...saichon เขียน:เมื่อก่อนผมก็เป็นนักดื่มตัวยงเหมือนกันครับ
แต่เมื่อ4-5ปีที่ผ่านมามีเหตุให้ผมเลิกดื่มเกือบเด็ดขาด คือผมโดนจับเป่าแอลกอฮอล์ครับ
ผมไปนอนในคุก1คืน รุ่งขึ้นไปขึ้นศาลโดยปรับไป 8 พัน
หลังจากวันนั้นผมเลยรู้สึกไม่อยากดื่มอีกเลยครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น