แคนโต้ของข้าพเจ้า

[Eyore]

1.
สีแดง สีเขียว
กระพริบ
ปวดศีรษะ


2.
เสียงฝนดังเปาะแปะ
รอบตัวมีแต่ความมืด
หนาว


3.
จดจ่อ
มองหาโอกาส
หนูตัวที่หนึ่ง


4.
หนู
ถูกหมีตะปบ
ตาย

5.    
บางคนตื่นเต้น
บางคนตื่นกลัว
ข้าพเจ้า เฝ้ามอง

[กูรูขอบสนาม]

น้ำใส
หมู่หินเบื้องล่างดูเหมือนจะเคลื่อนไหว
น้ำใส    :roll:  

กบกระโดดลงสระ
คลื่นกระเพื่อม
นาฬิกาหยุดเดิน  

ฟ้าร้องครืน
ปรอยฝน
แมลงออกเต้นระบำ  :roll:


มืดมน
ตะเกียงริบหรี่
ฉันนั่งเป็นเพื่อนกับกลางคืน  :roll:

[กล้วยไม้ขาว]

แคนโต้นี่เป็นกลอนเหรอครับ

เล่นยังไงช่วยสอนหน่อยครับ

[Juninho]

1. โอกาส
   ไขว่ขว้า
    เดินหน้า

2.. ความฝันบางคนต่างกัน
   บางคนกำลังตามฝัน
   บางคนปล่อยให้เป็นความฝัน

3. ชีวิต
   รับใช้
  ประชาชน
     
4. แก่งแย่ง ชิงดี เห็นแก่ตัว
   สส
   เบื่อ

5. จน รวย
   ความฝัน สำเร็จ ล้มเหลว
   ตลาดหุ้น

[Juninho]

6. ประเทศไทย ประเทศเดียวในโลก
   
    รัฐมนตรีที่แต่งตั้งไม่ได้มาจากความรู้ความสามารถ
   
    ประชาชนได้แต่มอง

7. รัฐมนตรีสาธารณสุข
   
    เมลามีน คือ อะไร
   
    ผมตกใจ รัฐมนตรีไทย

8. ระบบ ไม่ดี เป็นอย่างนี้
   
   มากี่สิบรัฐบาล

    ประเทศไทย เจริญ

[กูรูขอบสนาม]

แคนโต้นี่เป็นกลอนเหรอครับ

เล่นยังไงช่วยสอนหน่อยครับ

ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไปค้นจากวิกี้ได้คำอธิบายดังนี้

แคนโต้ เป็นร้อยกรองร่วมสมัยของไทยประเภทหนึ่ง
เป็นกลอนเปล่าไม่มีสัมผัส มี ๓ บาท บาทละ ๑ วรรค
ในแต่ละวรรคไม่กำหนดจำนวนพยางค์
ลักษณะเด่นของแคนโต้คือใช้คำน้อย
แต่ให้ความหมายลึกซึ้ง
คล้ายโคลงไฮกุของญี่ปุ่น

ลองดูอีกสักหนึ่งตีความ จาก ThaiCanto.com

แคนโต้ คือ บทกวีประเภทหนึ่ง
มีลักษณะเป็นกลอนเปล่า 3 บรรทัด
แคนโต้เป็นเพียงบทกวีที่ประกอบไปด้วยกลุ่มถ้อยคำสั้นๆ
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เมื่อกลุ่มคำเหล่านี้
ถูกจัดเรียงเป็นสามบรรทัดแล้ว
กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
เมื่อได้อ่านแคนโต้ของใครผู้ใดก็ตาม
เป็นความยาวต่อเนื่องจำนวนมาก
คุณจะกลายเป็นผู้ล่วงล้ำ เข้าไปรับรู้ถึงอารมณ์
และห้วงความคิดคำนึงของชีวิตใครผู้หนึ่ง
ในลักษณะปะติดปะต่อ
และในยามที่คุณเผชิญหน้ากับถ้อยคำสั้นๆเหล่านั้น
คุณจะได้พบกับความหมายบางอย่าง
ผ่านความอ่อนไหว จากชีวิตเล็กๆบนโลกนี้

แม้จะเรียบง่าย สั้นกระชับ
แต่ต้องมีคุณค่าทางวรรณศิลป์
ไม่ใช่จับอะไรก็ได้มาแปะใส่
แต่ละคำต้องการผ่านการกรอง เจียระไน
แล้วค่อยบรรจงถ่ายทอดทัศนะ
เมื่อเราเห็นภาพ คนอื่นก็จะเห็นตาม

แคนโต้ ไม่เคร่งครัดหรือยิ่งใหญ่ล้ำลึกสัจธรรมเท่า กลอนไฮกุ
กวีรุ่นเก่าปฎิเสธแคนโต้ เพราะมันง่ายเกินไป  :roll:
ชีวิตควรจะมีอะไรที่มันยากๆหน่อย

ถ้าอยากจะเพิ่มความยากและรอยหยักมากขึ้น
ลองหาอ่านเล่มนี้ ไม่ทราบมี E Book หรือเปล่า

[MO101]

ขอลองดูหน่อย

ไม้แบด
ต่อยมวย
ในชาเขียว

ผู้ถูกว่า
ไม่มีอะไร
จอตู้

[Eyore]

ตัวอย่างครับ
จาก blog ของคุณ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
http://blogazine.prachatai.com/user/thanorm/post/1288

Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ บทกวี ของ ชามกลางคืน
ส่งมาเมื่อ 18 ก.ย. 2008 - 00:00:00.  หมวด: ชีวิต  ป้าย: แคนโต้, canto, ชามกลางคืน



1.

ของแท้

ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์

แต่ผมไม่ใช่


2.

ได้มาก็เสียไป

สิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับเราชั่วคราว

ผิดกับความอ่อนแอ


3.

ความงามหนึ่ง

ชื่อการพลัดหลง

น่าประทับใจจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียว


4.

แดดส่องโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน

ตำลึงเลื้อยพันขาเก้าอี้ขึ้นไปงอกงาม

กาน้ำชาฝุ่นเกาะอยู่ในห้องครัวเงียบ


5.

กลิ่นชาใบเตย

ขยายตัวอวลอุ่น

จอกหนึ่งว่าง...จอกหนึ่งพร่อง


บทกวีสั้นๆสามบรรทัด กำกับด้วยหมายเลข 1 2 3 4 5 ตามลำดับ ที่ผมหยิบยกมานำเสนอให้คุณอ่านข้างบนนี้ เป็นบทกวีที่ผมคัดมาจากหน้าแรกๆ ของหนังสือรวมบทกวีที่ชื่อว่า “Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ” ของผู้ใช้นามปากกาว่า ชามกลางคืน ที่รวบรวมงานเขียนในรูปแบบนี้ของเขาเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้ ตามจำนวนหมายเลขถึง 133 บท


ครับ พวกเขาเรียกบทกวีที่เขียนในรูปแบบนี้ของพวกเขาว่า Canto นั่นคือ แต่ละบทที่จะเป็น Canto นั้น มักจะใช้ถ้อยคำสั้นๆ สื่อสารความรู้สึกประทับใจในฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกประทับใจที่เกิดจากการคิด หรือจากสิ่งกระทบภายนอกที่พวกเขาได้สัมผัส แล้วนำพลังแห่งความรู้สึกประทับใจนั้นๆ สื่อออกมาเป็นถ้อยคำสั้นๆ สามบรรทัดจบ เท่าที่เขารู้สึกประทับใจในทันทีทันใด



การ เขียนงานวรรณกรรมด้วยวิธีการแบบนี้ จึงมีลักษณะเด่นชัดอยู่ในตัวของมันเองอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือ ไม่ว่าเราจะหยิบออกมาอ่านเมื่อไหร่ ก็จะแลดูสดใหม่อยู่เสมอ และอีกประการหนึ่ง ที่ผมมองเห็นว่าเป็นเสน่ห์อย่างยิ่งของ Canto ไม่ว่าจะเป็น Canto ของ ชามกลางคืน หรือของใครๆ แม้กระทั่งของ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ที่เป็นต้นแบบของลัทธิ Canto นั่นคือ พื้นที่ว่างทางความคิด ที่เขาเหลือไว้ให้เราคิดและจินตนาการต่อโดยอิสระอย่างเหลือเฟือ


คุณ อาจจะสงสัยว่าพื้นที่ว่างตรงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ แต่ทำได้ยากก็คือ เกิดจากการลดละตัวตนความเป็นคน – อยากอวดฉลาด ชอบอธิบายและชอบสั่งสอนของคนเขียนไม่ให้มีอยู่ใน Canto นั่นเอง นี่แหละ คือพื้นที่ว่างอันเหลือเฟือที่ Canto เหลือไว้เราเข้าไปมีส่วนร่วมโดยอิสระ


โครงสร้างของ Canto จึง มีทั้งสัดส่วนที่มองเห็นและมองไม่เห็น เช่นเดียวกับภูเขาน้ำแข็งลูกมหึมาที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำมหาสมุทร ที่โผล่ส่วนยอดออกมาให้เราเห็นเพียงนิดเดียว เมื่อเทียบกับสัดส่วนทั้งหมดที่จมอยู่ใต้น้ำ Canto ก็เป็นเช่นนั้น ถ้อยคำสั้นๆ ของพวกเขา คือ ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ และพื้นที่ว่างทางความคิด...ที่พวกเขาเหลือไว้ให้เราคิดและจินตนาการ คือสัดส่วนอันมหึมาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ...


ถ้าคุณอ่าน Canto บทใดบทหนึ่ง แล้วทำให้คุณสะดุดหยุดคิดอะไรบางอย่าง...นิ่งและนาน นั่นแหละ คุณกำลังพาตัวเองเขาไปอยู่ในพื้นที่ว่างของ Canto บทนั้น และบางที...คุณอาจจะพบคำตอบของชีวิตบางคำตอบที่คุณแสวงหามาจนชั่วชีวิตบนพื้นที่ว่างของ Canto บทนั้น โดยไม่คาดฝัน นี่คือคุณค่าความหมายและความงามของ Canto เท่าที่ผมได้สัมผัส


ชาม กลางคืน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นนามปากกาของชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรี จำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเขาเรียนจบปริญญาตรีอะไรสักอย่าง...มาจาก ม.รามคำแหง และจากการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว สมัยที่เขาขึ้นมาทำงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 2-3 ปี ก่อน ในฐานะของคนเขียนหนังสือ นอกจากเขาจะเขียนบทกวีในลักษณะนี้แล้ว เขายังเป็นคนเขียนสารคดีที่ชอบขุดค้นหารายละเอียดจากข้อเท็จจริงอย่างถึง แก่น และเป็นนักสัมภาษณ์บุคคล ที่มีดวงตามองเห็นคุณค่าความสำคัญของคนธรรมดาสามัญ - ที่เรามักจะมองไม่เห็น โดยบุคลิกส่วนตัว เขาเป็นคนเปิดเผย จิตใจดี และมีอารมณ์ขันอยู่เป็นเนืองนิตย์


ปัจจุบัน เขาโยกย้ายไปตั้งหลักใหม่อยู่ที่หาดใหญ่ เป็นคนขายผักปลอดสารพิษอยู่ในตลาด ม.ปัตตานี เป็นคนทำหนังสือ ควน ป่า นา เล รายสะดวก ร่วมกับเพื่อนฝูงที่หาดใหญ่ และเป็นพระเอกหนังสั้นเกี่ยวกับธรรมชาติแวดล้อมที่กำกับโดย อาจารย์คำรณ คุณดิลก ที่ผมได้ดูแล้วชอบมากๆ โดยเฉพาะบทบาทอันอบอุ่นของเขาที่มีต่อเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ที่เขาพยายามปลูกฝังจิตสำนึกให้จักรัก และรู้ถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่แวดล้อมบ้านเกิด


ครับ ถ้าคุณสนใจอยากอ่าน Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ ของ ชามกลางคืน โทร.ไปติดต่อถามรายละเอียดและหาซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์ ควน ป่า นา เล 081-543-4004 และ 089-478-3136



ก่อนจากกัน ผมขอมอบ Canto หมายเลข 128 ที่ผมชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้ของเขาให้คุณ เผื่อคุณจะได้เข้าไปในที่ว่างของ Canto บทนี้ และบรรลุสัจธรรมอะไรบางอย่างที่น่ารักของชีวิต ดังนี้


128.

ข้าเพิ่งรู้

สุราชั้นต่ำรสทราม

ช่างให้รสหวานล้ำ ยามเปลี่ยวใจ.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


**ภาพประกอบโดย เยาวชนรักษ์เหมืองฝาย

[กล้วยไม้ขาว]

ลองมั่งครับ

1
ฝันงดงามยาวไกล
อดีตสั่งสม
ลงมือ

2
เพลงไพเราะ
เครื่องเสียงล้ำเลิศ
ดาวน์โหลด

3
ความสุขไขว่ขว้าหามา
ความคิดระดมเพื่อสร้าง
ค้นพบอยู่ข้างใน

[MarginofSafety]

1.
ต้มยำกุ้ง...เปรี้ยวเผ็ด
แฮมเบอร์เกอร์...จั๊งฟู้ด
ทุนนิยมสุดโต่ง หอมหวาน


2.
ยามวิกาล...ไม่อยากหลับ
ยามเช้า...ไม่อยากตื่น
Matrix


3
ไฟสลัว...มุมโปรด เพลงโปรด
หลับตาพริ้ม
อิสระ...ล่องลอย

[Eyore]

6.
ก้าวเท้าฉับฉับฉับ
รู้ตัวอีกที
ถึงที่ทำงาน

7.
ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง
ทำไม CPN ขึ้นเร็วจัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา

[crazyrisk]

เอาบ้างครับ

1.
ทักษิณจำลอง-สนธิ
สนฺธิจำลอง-ทักษิณ
สนธิทักษิณ-จำลอง

2.
ลงแรกเจ็บหนักขายทิ้ง
นึกได้ช็อตกำไรดีกว่า
รีบาวtfexเจ็บตัว

3.
แค้นเอาคืน
เงินหาย
แค้นไม่หาย

4.
ความรู้ใช่ว่าไม่มี
ขาดแต่
ความดีสั่งสม

5.
เงินหาย
มลายบัดดล
แค้นยังอกอุ่น

6.
รอบแรกตามดาว
รอบสองสีดาน่าดู
รอบสามตามใครกันดี

7.
วัฏฏะมาเยือนอีกแล้ว
heroเปลี่ยนหน้า
ไม่ซ้ำ

8
แม้นเก่ง
แม้นกล้า
ใยแพ้ สังขาร

9
เหตุใด
หมกมุ่น
เก็บแค้นไว้ใย

[Hughes]

หุ้นตกเยอะ
รีบซื้อ
ติดดอย  :lol:

หุ้นตกอีก
ซื้อต่อ
เงินหมด  :lol:

เงินได้มา
หุ้นขึ้น
อดซื้อ  :oops:

[Eyore]

8.
ก้าวเท้าฉับฉับฉับ
ฉับพลัน
รูปเคลื่อนไหว

[กล้วยไม้ขาว]

10
สับสนงงงวย
พินิจเป้าหมายอีกครา
ผลั้งเผลอผิดไป

[nir]

สดับทุกสรรพเสียง
แยกแยะ
ฟังหัวใจตัวเอง

----------
-------------
----------

สับสน
ทว่า
เข้าใจ

------------------------------------------------------
อาจไม่ถูกฉันทลักษณ์ หรือไม่ลุ่มลึก แต่อยากเขียนบ้างคือว่าตอนนี้เป็นไมเกรนอยู่จนนอนไม่หลับ(เกี่ยวมั๊ยเนี่ย)

[mineknight]

1.
คุณค่า
เมื่อวาน
วันนี้

2.
เขียวหรือแดง
สูงหรือต่ำ
ได้หรือเสีย

3.
เดินหนึ่งก้าว
ถอยหนึ่งก้าว
ฉันหลงทาง

[pak]

1.
ภาพที่ชินตา
มองดู
เข้าใจ

2.
มีอยู่ ได้มา จากไป
ความสุขคืออะไร
...ค้นหา

3.
ลุ่มหลง เบื่อหน่าย
ปล่อยวาง ว่างเปล่า
...กระซิบเบาๆอยู่ภายในหัวใจ

[chowbe76]

1.เมื่อจนอยากรวย
เมื่อรวยอยากรวยกว่า
เมื่อไรจะรวย

2.ห้องค้าเปิดแอร์
หนาวจนมือสั่น
เม็ดเหงื่อเต็มหน้าผาก

[Eyore]

9.
ร้อน ฝน หนาว ร้อน ฝน หนาว
ความฝัน
ยังอยู่ที่เดิม

[por_jai]

2.ห้องค้าเปิดแอร์
หนาวจนมือสั่น
เม็ดเหงื่อเต็มหน้าผาก

ริเป็นเดย์เทรดหรือครับหมวด

[chowbe76]

2.ห้องค้าเปิดแอร์
หนาวจนมือสั่น
เม็ดเหงื่อเต็มหน้าผาก

ริเป็นเดย์เทรดหรือครับหมวด

กลอนพาไปครับพี่ป้อม
ว่าแต่ พี่หายไปนาน น๊าน นาน นะ

[sorn adis]

แรงขายกระหน่ำ ให้ซื้อ

ถือไว้ แม้แกว่งไกว

ให้ขาย ตามมูลค่าจริง

[chowbe76]

คิดถึงน้องพัด
พี่เกียรติมาขอ
จบกัน

[humdrum]

ผมไม่เคยอ่านโพสนี้
นี่ครั้งแรกครับ
อ่านแล้วคิดถึงซูโมาตู้
คิดถึงเพลงของเฉลียง
อ่านอีกหลายรอบของท่านอียอ
นี่เป็นการมองแต่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นโดยไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยว
แค่สังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ประสาทสัมผัสของคน
โดยแยกตัวเองออกมามองตัวเอง
ทางตาก็เยอะหน่อย ใจก็เยอะ
ทางหู จมูก ปาก ยังไม่มี
เล่นด้วยคน

เสียงหมาร้อง
หมามีกลิ่น
กินเนื้อหมา

พอเอาอารมณ์ความคิดเข้าไปใส่
มันก็เลยมีเรื่องเยอะวุ่นวายไม่จบสิ้น
แค่ตัวอย่าง ขออภัยครับ

คนเขียนเป็นหมา
คนอ่านเป็นควาย
ควายโกรธแล้ว

[humdrum]

คุณโน๊ต อุดม และตลกหลายท่านเก่งเรื่องมองทุกอย่างตามความเป็นจริงอย่างนี้
การตีความให้ความหมายสิ่งต่างๆ แตกต่างจากคนอื่น
พวกเขาแยกอารมณ์ตัวเองออกจากการมองสิ่งต่างๆ ได้
พวกเราก็ทำได้

ขี่สีเหลือง มีผักปน
ขี่เละเป็นน้ำ เหมือนโจ๊ก
ขี่มีกลิ่น กลิ่นเหมือนขี่

[humdrum]

เซียนโลกหลายท่านเก่งเรื่องพวกนี้มาก
โสกราติสโดนตัดสินกินยาพิษ ก่อนตายก็ให้คนบันทึกว่าเขาพูดอะไรบ้าง
เขาอธิบายว่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้างเวลากลืนยาพิษ
แสบลิ้น ท้องเริ่มมีอาการไม่ปกติ ตอนนี้เริ่มหายใจไม่ออก
คนที่ใกล้ตาย แต่กลับสามารถแยกอารมณ์กลัวตายออกจากตัวเองได้
และสังเกตสิ่งต่างๆ เหมือนอย่างที่วิทยาศาสตร์ทำการทดลอง

เหมือนนิวตัน นั่งควักตาตัวเองเป้นชั่วโมง
แล้วบันทึกว่า เบ้าตาเป้นอย่างไรบ้าง
โดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ผมยกตัวอย่าง

ยุงกัดขา
เจ็บที่ขา
ไม่ได้เจ็บที่เรา

อดข้าว
ท้องหิวข้าว
เราไม่หิว

กลัวตาย
ตายอยู่ไหน
ตายอยู๋ที่ตัวเรา

[chowbe76]

ลบเจ็ดสิบ
คนบ่นเต็มเฟซ
ยังไม่สับสวิตช์....

มือใหม่กลัวตาย
คนเคยกินแฮมเบอร์เกอร์
ยังอิ่มอยู่