แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความฝัน
- Skyforever
- Verified User
- โพสต์: 1203
- ผู้ติดตาม: 0
แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความฝัน
โพสต์ที่ 1
คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเริ่มที่การตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนใดที่ไม่มีเป้าหมายชีวิต
ถ้าคุณมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน คุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จและก็มีโอกาสจะล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายในชีวิตแล้ว คุณจะไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลย
เป้าหมายที่ผมพูดถึงไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง แต่เป้าหมายในชีวิตควรจะเป็นสิ่งที่เราจะมีความสุข การตั้งเป้าหมายในชีวิตนั้นอาจจะเป็นการทำประโยชน์ให้สังคม การได้ทำสิ่งที่รัก การได้ท่องเที่ยวทั่วโลก หรืออื่นๆ สำหรับผมแล้ว เป้าหมายในชีวิตคือการได้ทำให้คนรอบข้างมีความสุข การได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมสูงสุด และการได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้มากที่สุด นี่ล่ะเป้าหมายของผม
ผมมีความใฝ่ฝันหนึ่งที่อยากจะทำมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จนถึงตอนนี้ก็ยังมีความฝันเช่นนี้อยู่ ความใฝ่ฝันที่ว่าก็คือ การได้ตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม อาจจะเป็นเด็ก คนชรา ผู้พิการ หรือคนยากจน ทุกๆครั้งที่ผมเห็นเด็กด้อยโอกาส เห็นภาพข่าวคนยากจนค้นแค้น คนที่ลำบากในสังคม ทำให้ผมนึกถึงย้อนไปถึงตัวเองตอนเด็กๆ ชีวิตวัยเด็กผมนั้นยากจน อยู่อย่างลำบาก ใส่เสื้อผ้าแบบเก่าๆขาดๆ รองเท้าไม่ใส่ มอมแมม ไม่มีเงินซื้อขนมกิน
ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น และผมก็เชื่ออย่างไม่สงสัยเลยว่าพระองค์จะนำผมไปสู่เป้าหมายในชีวิตของผมได้
แน่นอนเงินไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตผม แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ความฝันและเป้าหมายของผมเป็นจริง เงินเป็นทางผ่านไปสู่เป้าหมาย เงินนั้นจำเป็น หากผมตั้งมูลนิธิแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาช่วยเหลือคนอื่นจำนวนมากๆ การลงแรงลงมือช่วยเหลือด้วยตัวเราเองก็ช่วยทำให้สังคมดีได้ แต่คงจะไม่มากพอ ผมบอกกับตัวเองว่าถ้ามีองค์กร มีมูลนิธิก็คงจะดี และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องมาวางแผนชีวิต และกำหนดหลักไมล์ชีวิตเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
ผมมาลองคิดดูว่าจะตั้งมูลนิธิควรจะมีเงินอย่างน้อยสักเท่าไหร่ดี ผมกะตัวเลขอย่างคนไม่มีประสบการณ์ว่าคงจะต้องมีอย่างน้อยสัก 100 ล้านบาท หลักไมล์ย่อยๆของผมจึงถูกกำหนดด้วยปริมาณเงินที่ผมจะต้องมีให้ได้ในแต่ละปีๆ ในต้นปี 2552 ผมเริ่มต้นสร้างตารางวางแผนเป้าหมายเงินที่จะมีในแต่ละปีตามตารางข้างล่าง โดยตอนนั้นผมมีเงินไม่ถึงแสนบาท หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้มาอย่างหนัก ทำให้ผมเข้าใจถึงพลังของดอกเบี้ยทบต้น ผมคิดว่าถ้าผมนำเงินมาลงทุนในหุ้นอย่างมีความรู้ และไม่ใช้อารมณ์ ผมน่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 15% ต่อปี แต่ผมก็อยากพยายามให้ได้มากกว่านั้น ผมจึงตั้งเป้าหมายเงินในแต่ละปีด้วยผลตอบแทนที่ 18% ต่อปี และเมื่อรวมกับเงินเดือน เงินโบนัสที่จะมาเติมในแต่ละปีแล้ว ผมก็สามารถมาคำนวณวางแผนว่าผมจะมีเงินเท่าไรในแต่ละปี
ผมจำได้ดีในวันที่ผมมีเงิน 1 ล้านบาทแรกในชีวิต วันนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าผมก้าวมาได้อีกขึ้นหนึ่งแล้วที่จะทำให้ผมไปสู่เป้าหมายในชีวิตของผม ผมเชื่อว่าเงิน 1 ล้านบาทแรกนั้นเป็นเงินก้อนที่หามาได้ยากที่สุด เมื่อเรารู้วิธีหาเงินมาได้ 1 ล้านแรก เงินล้านต่อๆมาก็จะตามมา ซึ่งผมก็เคยโพสต์เล่าประสบการณ์ 1 ล้านบาทแรกของผมมาแล้วเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2010 ที่ผ่านมาตามลิงค์ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=42375
จนถึงวันนี้ เดือนกันยายน2554 ผมมีเงินเลยเป้าหมายในปีนี้ไปมากแล้ว มากจนเลยไปถึงเป้าหมายในปี 2557 แต่นี่ก็ยังคงเป็นแค่เพียงการเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวไกลของผมเท่านั้น ในอนาคตเป็นไปได้ว่าบางปีอาจจะมีผลตอบแทนติดลบก็ได้ ดังนั้นผมจึงยังคงยึดแผนการชีวิตนี้ต่อไป ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 18% ต่อปี ซึ่งจากแผนผมน่าจะออกจากงานประจำไปทำงานที่ไม่หวังรายได้ ได้ในปี 2568 เมื่อผมอายุ 46 ปี และจากการคำนวณผมน่าจะมีเงินถึง 100 ล้านบาทและตั้งมูลนิธิได้ภายในปี 2578 เมื่อผมมีอายุประมาณ 56 ปี
สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการไปสู่เป้าหมายแล้ว การใช้ชีวิตระหว่างการเดินทางก็ต้องมีความสุข คนที่จะประสบความสำเร็จได้เพราะถึงแม้เขาจะมองไปที่เป้าหมาย แต่เขาเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีความสุขมากกว่า เป็นที่น่าแปลกมากที่ผมได้ยินเรื่องราวการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์มา ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางขึ้นไป ในคนกลุ่มนี้มีอดีตทหารที่แข็งแรงคนหนึ่ง เขาเดินทางไปพร้อมๆกับนักบวชแก่ๆอีกหลายคน อดีตทหารคนนี้มีความมุ่งมั่นที่จะพิชิตยอดเขามาก และพยายามปีนเขา เดินทางไปให้ถึงยอด แต่เมื่อเดินทางไปได้เพียงครึ่งทางปรากฏว่าอดีตทหารคนนี้กลับไปต่อไม่ไหว และยอมแพ้ในที่สุด
แต่นักบวชแก่ๆเหล่านั้นกลับสามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะนักบวชเหล่านี้มีความสุขในทุกๆย่างก้าวของการเดินทาง เขาชื่นชมธรรมชาติ เขาไม่รีบร้อนปีนเขา เพลิดเพลินกับสิ่งต่างๆรอบตัว และนั่นทำให้เขาไปถึงจุดหมายปลายทางได้
แต่ความสุขของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ซึ่งความสุขของผมไม่ได้อยู่ที่การกินของแพงๆ ไม่ได้อยู่ที่การใช้ของแพงๆ ผมไม่มีรถยนต์ ใช้มือถือราคาไม่ถึงพันบาท แต่ผมก็มีความสุข เพราะความสุขของผมคือการใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายธรรมดาๆ และทำให้คนรอบข้างมีความสุข
ถ้าคุณมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน คุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จและก็มีโอกาสจะล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายในชีวิตแล้ว คุณจะไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลย
เป้าหมายที่ผมพูดถึงไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง แต่เป้าหมายในชีวิตควรจะเป็นสิ่งที่เราจะมีความสุข การตั้งเป้าหมายในชีวิตนั้นอาจจะเป็นการทำประโยชน์ให้สังคม การได้ทำสิ่งที่รัก การได้ท่องเที่ยวทั่วโลก หรืออื่นๆ สำหรับผมแล้ว เป้าหมายในชีวิตคือการได้ทำให้คนรอบข้างมีความสุข การได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมสูงสุด และการได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้มากที่สุด นี่ล่ะเป้าหมายของผม
ผมมีความใฝ่ฝันหนึ่งที่อยากจะทำมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จนถึงตอนนี้ก็ยังมีความฝันเช่นนี้อยู่ ความใฝ่ฝันที่ว่าก็คือ การได้ตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม อาจจะเป็นเด็ก คนชรา ผู้พิการ หรือคนยากจน ทุกๆครั้งที่ผมเห็นเด็กด้อยโอกาส เห็นภาพข่าวคนยากจนค้นแค้น คนที่ลำบากในสังคม ทำให้ผมนึกถึงย้อนไปถึงตัวเองตอนเด็กๆ ชีวิตวัยเด็กผมนั้นยากจน อยู่อย่างลำบาก ใส่เสื้อผ้าแบบเก่าๆขาดๆ รองเท้าไม่ใส่ มอมแมม ไม่มีเงินซื้อขนมกิน
ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น และผมก็เชื่ออย่างไม่สงสัยเลยว่าพระองค์จะนำผมไปสู่เป้าหมายในชีวิตของผมได้
แน่นอนเงินไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตผม แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ความฝันและเป้าหมายของผมเป็นจริง เงินเป็นทางผ่านไปสู่เป้าหมาย เงินนั้นจำเป็น หากผมตั้งมูลนิธิแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาช่วยเหลือคนอื่นจำนวนมากๆ การลงแรงลงมือช่วยเหลือด้วยตัวเราเองก็ช่วยทำให้สังคมดีได้ แต่คงจะไม่มากพอ ผมบอกกับตัวเองว่าถ้ามีองค์กร มีมูลนิธิก็คงจะดี และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องมาวางแผนชีวิต และกำหนดหลักไมล์ชีวิตเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
ผมมาลองคิดดูว่าจะตั้งมูลนิธิควรจะมีเงินอย่างน้อยสักเท่าไหร่ดี ผมกะตัวเลขอย่างคนไม่มีประสบการณ์ว่าคงจะต้องมีอย่างน้อยสัก 100 ล้านบาท หลักไมล์ย่อยๆของผมจึงถูกกำหนดด้วยปริมาณเงินที่ผมจะต้องมีให้ได้ในแต่ละปีๆ ในต้นปี 2552 ผมเริ่มต้นสร้างตารางวางแผนเป้าหมายเงินที่จะมีในแต่ละปีตามตารางข้างล่าง โดยตอนนั้นผมมีเงินไม่ถึงแสนบาท หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้มาอย่างหนัก ทำให้ผมเข้าใจถึงพลังของดอกเบี้ยทบต้น ผมคิดว่าถ้าผมนำเงินมาลงทุนในหุ้นอย่างมีความรู้ และไม่ใช้อารมณ์ ผมน่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 15% ต่อปี แต่ผมก็อยากพยายามให้ได้มากกว่านั้น ผมจึงตั้งเป้าหมายเงินในแต่ละปีด้วยผลตอบแทนที่ 18% ต่อปี และเมื่อรวมกับเงินเดือน เงินโบนัสที่จะมาเติมในแต่ละปีแล้ว ผมก็สามารถมาคำนวณวางแผนว่าผมจะมีเงินเท่าไรในแต่ละปี
ผมจำได้ดีในวันที่ผมมีเงิน 1 ล้านบาทแรกในชีวิต วันนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าผมก้าวมาได้อีกขึ้นหนึ่งแล้วที่จะทำให้ผมไปสู่เป้าหมายในชีวิตของผม ผมเชื่อว่าเงิน 1 ล้านบาทแรกนั้นเป็นเงินก้อนที่หามาได้ยากที่สุด เมื่อเรารู้วิธีหาเงินมาได้ 1 ล้านแรก เงินล้านต่อๆมาก็จะตามมา ซึ่งผมก็เคยโพสต์เล่าประสบการณ์ 1 ล้านบาทแรกของผมมาแล้วเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2010 ที่ผ่านมาตามลิงค์ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=42375
จนถึงวันนี้ เดือนกันยายน2554 ผมมีเงินเลยเป้าหมายในปีนี้ไปมากแล้ว มากจนเลยไปถึงเป้าหมายในปี 2557 แต่นี่ก็ยังคงเป็นแค่เพียงการเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวไกลของผมเท่านั้น ในอนาคตเป็นไปได้ว่าบางปีอาจจะมีผลตอบแทนติดลบก็ได้ ดังนั้นผมจึงยังคงยึดแผนการชีวิตนี้ต่อไป ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 18% ต่อปี ซึ่งจากแผนผมน่าจะออกจากงานประจำไปทำงานที่ไม่หวังรายได้ ได้ในปี 2568 เมื่อผมอายุ 46 ปี และจากการคำนวณผมน่าจะมีเงินถึง 100 ล้านบาทและตั้งมูลนิธิได้ภายในปี 2578 เมื่อผมมีอายุประมาณ 56 ปี
สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการไปสู่เป้าหมายแล้ว การใช้ชีวิตระหว่างการเดินทางก็ต้องมีความสุข คนที่จะประสบความสำเร็จได้เพราะถึงแม้เขาจะมองไปที่เป้าหมาย แต่เขาเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีความสุขมากกว่า เป็นที่น่าแปลกมากที่ผมได้ยินเรื่องราวการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์มา ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางขึ้นไป ในคนกลุ่มนี้มีอดีตทหารที่แข็งแรงคนหนึ่ง เขาเดินทางไปพร้อมๆกับนักบวชแก่ๆอีกหลายคน อดีตทหารคนนี้มีความมุ่งมั่นที่จะพิชิตยอดเขามาก และพยายามปีนเขา เดินทางไปให้ถึงยอด แต่เมื่อเดินทางไปได้เพียงครึ่งทางปรากฏว่าอดีตทหารคนนี้กลับไปต่อไม่ไหว และยอมแพ้ในที่สุด
แต่นักบวชแก่ๆเหล่านั้นกลับสามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะนักบวชเหล่านี้มีความสุขในทุกๆย่างก้าวของการเดินทาง เขาชื่นชมธรรมชาติ เขาไม่รีบร้อนปีนเขา เพลิดเพลินกับสิ่งต่างๆรอบตัว และนั่นทำให้เขาไปถึงจุดหมายปลายทางได้
แต่ความสุขของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ซึ่งความสุขของผมไม่ได้อยู่ที่การกินของแพงๆ ไม่ได้อยู่ที่การใช้ของแพงๆ ผมไม่มีรถยนต์ ใช้มือถือราคาไม่ถึงพันบาท แต่ผมก็มีความสุข เพราะความสุขของผมคือการใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายธรรมดาๆ และทำให้คนรอบข้างมีความสุข
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 3
อนุโมทนาด้วยนะครับ อ่านแล้วก็รู้สึกยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ระหว่างทางไปจนถึงตั้งมูลนิธิ ผมก็ขอเอาใจช่วยคุณ SkyForever ด้วยนะครับ ให้มีความอดทนไม่ย้อท้อไปสู่เป้าหมายในอนาคต ผมเชื่อว่าคงจะมีคนคิดแบบคุณ SkyForever อยู่จำนวนไม่น้อย และมีมูลนิธิมีองค์กรที่ทำงานพวกนี้อยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นระหว่างทาง ตอนที่เรายังมีกำลังวังชา ยังไม่แก่มาก การที่จะไปร่วมแรงไปร่วมทำงานกับองค์กรเหล่านี้ก็น่าจะช่วยส่งเสริมให้คุณ SkyForever ได้ทำสิ่งที่เกี่ยวข้อง เป็นประโยชน์ และเป็นประสบการณ์เพื่อใช้ตั้งมูลนิธิในฝันของคุณ SkyForever ได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต เพราะ ได้ทำครบถ้วนแล้วทั้งมดงาน ระดับบริหาร และเป็นผู้ก่อตั้ง
ระหว่างทางไปจนถึงตั้งมูลนิธิ ผมก็ขอเอาใจช่วยคุณ SkyForever ด้วยนะครับ ให้มีความอดทนไม่ย้อท้อไปสู่เป้าหมายในอนาคต ผมเชื่อว่าคงจะมีคนคิดแบบคุณ SkyForever อยู่จำนวนไม่น้อย และมีมูลนิธิมีองค์กรที่ทำงานพวกนี้อยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นระหว่างทาง ตอนที่เรายังมีกำลังวังชา ยังไม่แก่มาก การที่จะไปร่วมแรงไปร่วมทำงานกับองค์กรเหล่านี้ก็น่าจะช่วยส่งเสริมให้คุณ SkyForever ได้ทำสิ่งที่เกี่ยวข้อง เป็นประโยชน์ และเป็นประสบการณ์เพื่อใช้ตั้งมูลนิธิในฝันของคุณ SkyForever ได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต เพราะ ได้ทำครบถ้วนแล้วทั้งมดงาน ระดับบริหาร และเป็นผู้ก่อตั้ง
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 4
น่านับถือ ๆ
ขอรับไว้เป็นแบบอย่างที่ดีนะครับ
ขอรับไว้เป็นแบบอย่างที่ดีนะครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 240
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 5
ขอแชร์ไอเดียนะครับ
ผมก็คิดจะทำงานในลักษณะมูลนิธิ
หรือไม่ก็ สร้างพอร์ตโฟลิโอแยกออกมาใหม่
โดยทำการลงทุนเพื่อนำผลตอบแทนที่ได้
เพื่อการสาธารณะกุศลเหมือนกัน
แต่ถ้าแปลงร่างเป็นมูลนิธิเลย น่าจะประหยัดภาษีกว่า
แต่ผมไม่คิดว่าเราต้องมีเงินถึง 100 ล้าน ก็อาจจะเริ่มได้แล้ว
แค่มีสัก 20 ล้านบาท
ก็เริ่มมีอิสระภาพทางการเงินอย่างเต็มที่
พอมีสัก 30 ล้าน ก็แยกเอาเงิน 10 ล้านมาทำได้เลย
เพราะผมเองก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราอะไร
เงินแค่ 20 ล้าน ก็อยู่ได้สบายๆ แล้ว
ผมก็คิดจะทำงานในลักษณะมูลนิธิ
หรือไม่ก็ สร้างพอร์ตโฟลิโอแยกออกมาใหม่
โดยทำการลงทุนเพื่อนำผลตอบแทนที่ได้
เพื่อการสาธารณะกุศลเหมือนกัน
แต่ถ้าแปลงร่างเป็นมูลนิธิเลย น่าจะประหยัดภาษีกว่า
แต่ผมไม่คิดว่าเราต้องมีเงินถึง 100 ล้าน ก็อาจจะเริ่มได้แล้ว
แค่มีสัก 20 ล้านบาท
ก็เริ่มมีอิสระภาพทางการเงินอย่างเต็มที่
พอมีสัก 30 ล้าน ก็แยกเอาเงิน 10 ล้านมาทำได้เลย
เพราะผมเองก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราอะไร
เงินแค่ 20 ล้าน ก็อยู่ได้สบายๆ แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 6
ดีครับ ขอให้ ได้เกินเป้าหมายไปหลาย สิบเท่าเลยนะครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 7
จินตนาการ
ความหวัง
ความตั้งใจ
โอกาส
มีแรงส่ง น้ำใจ ความมีโชค จังหว่ะเหมาะๆ
เหมือนคนกำลังว่ายน้ำ
ต้องเผชิญ อุปสรรคมากมายระหว่างการเดินทาง
พายุ คลื่นลม อันโหดร้าย
แต่ละคนมีจุดหมายปลายทาง
บางคนมุ่งสู่ฝั่ง
บางคนมุ่งสู่เกาะ
ระหว่างทางก็มีจมน้ำหายไปบ้าง และน่าจะมีบางคนประสพความสำเร็จ
ตามจินตนาการ
สุดท้าย....มีผู้คนมากมายที่สูญหายไปกับกาลเวลา
ความหวัง
ความตั้งใจ
โอกาส
มีแรงส่ง น้ำใจ ความมีโชค จังหว่ะเหมาะๆ
เหมือนคนกำลังว่ายน้ำ
ต้องเผชิญ อุปสรรคมากมายระหว่างการเดินทาง
พายุ คลื่นลม อันโหดร้าย
แต่ละคนมีจุดหมายปลายทาง
บางคนมุ่งสู่ฝั่ง
บางคนมุ่งสู่เกาะ
ระหว่างทางก็มีจมน้ำหายไปบ้าง และน่าจะมีบางคนประสพความสำเร็จ
ตามจินตนาการ
สุดท้าย....มีผู้คนมากมายที่สูญหายไปกับกาลเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 66
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 8
ระหว่างทางก่อนถึงการตั้งมูลนิธิ ผมว่า ควรทำบุญ บริจาคทานอย่างสม่ำเสมอด้วยครับ
- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 9
ผมเชื่อว่าคุณSkyforever จะไปถึงเป้าหมายในแต่ละขั้นได้แน่ๆ ครับ
ความเชื่อในแนวทางที่ถูกต้อง ความมุ่งมั่นตั้งใจ และ "ใจที่คิดจะให้" จะนำพาความสำเร็จมามอบเป็นรางวัล
ผมก็กำลังเดินตามฝันของผมเหมือนกัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับที่คุณ Skyforever ตั้งใจไว้
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราเข้าใจและเป็นนายของมัน เงินจะทำให้เราได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นอีกหลายคนในสังคมที่ยังขาดอยู่
ความเชื่อในแนวทางที่ถูกต้อง ความมุ่งมั่นตั้งใจ และ "ใจที่คิดจะให้" จะนำพาความสำเร็จมามอบเป็นรางวัล
ผมก็กำลังเดินตามฝันของผมเหมือนกัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับที่คุณ Skyforever ตั้งใจไว้
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราเข้าใจและเป็นนายของมัน เงินจะทำให้เราได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นอีกหลายคนในสังคมที่ยังขาดอยู่
- simpleBE
- Verified User
- โพสต์: 2333
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 10
การจัดตั้งมูลนิธิไม่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 100 ล้านหรอกครับ
แต่แน่นอนว่ายิ่งมีจำนวนเงินเยอะยิ่งช่วยเหลือได้มากกว่า
เอาข้อมูลการจดทะเบียนมูลนิธิมาให้อ่านสำหรับวางแผนในขั้นต่อไปครับ
http://www.phrae.go.th/dopaphrae/page13.htm
...มูลนิธิได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศล สาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (บ.ป.พ.มาตรา 110)
แนวทางในการปฏิบัติงานหรือดำเนินงาน
ต้องมีบุคคล หรือคณะบุคคลตกลงยกทรัพย์สินของตนเองให้เป็นกองทุนมูลนิธิ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเป็นกองทุน ในการขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ถ้ามีทรัพย์สินอย่างอื่น จะต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอย่างอื่นแล้ว ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) แต่ถ้าหากมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการสังคมสงเคราะห์ส่งเสริมการศึกษา การกีฬา ศาสนา สาธารณภัย และเพื่อบำบัดรักษา ค้นคว้าป้องกันผู้ป่วยจากยาเสพติด เอดส์ หรือมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยหน่วยงานของรัฐก็ให้ได้รับการผ่อนผันให้มีทรัพย์สินเป็นกองทุนมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้ามีทรัพย์สินอย่างอื่นจะต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอย่างอื่นแล้ว ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ....
แต่แน่นอนว่ายิ่งมีจำนวนเงินเยอะยิ่งช่วยเหลือได้มากกว่า
เอาข้อมูลการจดทะเบียนมูลนิธิมาให้อ่านสำหรับวางแผนในขั้นต่อไปครับ
http://www.phrae.go.th/dopaphrae/page13.htm
...มูลนิธิได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศล สาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (บ.ป.พ.มาตรา 110)
แนวทางในการปฏิบัติงานหรือดำเนินงาน
ต้องมีบุคคล หรือคณะบุคคลตกลงยกทรัพย์สินของตนเองให้เป็นกองทุนมูลนิธิ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเป็นกองทุน ในการขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ถ้ามีทรัพย์สินอย่างอื่น จะต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอย่างอื่นแล้ว ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) แต่ถ้าหากมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการสังคมสงเคราะห์ส่งเสริมการศึกษา การกีฬา ศาสนา สาธารณภัย และเพื่อบำบัดรักษา ค้นคว้าป้องกันผู้ป่วยจากยาเสพติด เอดส์ หรือมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยหน่วยงานของรัฐก็ให้ได้รับการผ่อนผันให้มีทรัพย์สินเป็นกองทุนมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้ามีทรัพย์สินอย่างอื่นจะต้องมีเงินสดไม่น้อยกว่า 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอย่างอื่นแล้ว ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ....
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 12
ขอชื่นชมน้อง skyforever ด้วยคนครับ
มีความมุ่งมั่นเป็นเยี่ยม และ ขอแสดงความยินดีกับผลงาน ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย
ขอแชร์ เรื่องการทำปประโยชน์สู่สังคมหน่อยนะครับ
ผมว่าอย่ารอให้เรา มีเท่านั้น เท่านี้ก่อน ค่อยทำเลยนะครับ
อนาคต มันไม่เที่ยง อยากให้ทำเมื่อเรามีโอกาสได้ทำในปัจจุบันเลย
หากเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้นทำให้เราไม่ได้ทำ มันจะกลายเป็นทุกข์แทน
ลองศึกษาดูครับว่า ขณะที่เรามีพอร์ตเล็กๆอยู่นี้ เริ่มต้นวางแผนการสร้างมูลนิธิได้อย่างไร
ผมไม่มีความรู้หรอกนะ แต่ ผมว่าต้องมีทาง ที่เราจะสร้างพอร์ต และ สร้างมูลนิธิ ของเราไปพร้อมๆกันได้ครับ
ผมก็เริ่มการให้กลับสู่สังคมรอบข้างผมบ้างแล้วครับ ตามปัญญา และความสามารถ ที่ทำได้
ขอให้ ความดี อยู่คู่กับ คนดีตลอดไปครับ
มีความมุ่งมั่นเป็นเยี่ยม และ ขอแสดงความยินดีกับผลงาน ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย
ขอแชร์ เรื่องการทำปประโยชน์สู่สังคมหน่อยนะครับ
ผมว่าอย่ารอให้เรา มีเท่านั้น เท่านี้ก่อน ค่อยทำเลยนะครับ
อนาคต มันไม่เที่ยง อยากให้ทำเมื่อเรามีโอกาสได้ทำในปัจจุบันเลย
หากเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้นทำให้เราไม่ได้ทำ มันจะกลายเป็นทุกข์แทน
ลองศึกษาดูครับว่า ขณะที่เรามีพอร์ตเล็กๆอยู่นี้ เริ่มต้นวางแผนการสร้างมูลนิธิได้อย่างไร
ผมไม่มีความรู้หรอกนะ แต่ ผมว่าต้องมีทาง ที่เราจะสร้างพอร์ต และ สร้างมูลนิธิ ของเราไปพร้อมๆกันได้ครับ
ผมก็เริ่มการให้กลับสู่สังคมรอบข้างผมบ้างแล้วครับ ตามปัญญา และความสามารถ ที่ทำได้
ขอให้ ความดี อยู่คู่กับ คนดีตลอดไปครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Skyforever
- Verified User
- โพสต์: 1203
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกความเห็นนะครับ ผมจะนำมาเติมเต็มแผนการชีวิตของผมให้ดีขึ้นนะครับ ซึ่งก่อนจะถึงวันที่ผมตั้งมูลนิธิได้ ผมก็คงหาโอกาสไปทำงานในองค์กร หรือมูลนิธิอื่นๆไปด้วยเพื่อเรียนรู้ และหาประสบการณ์ และระหว่างทางก็แบ่งเงินส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือมูลนิธิ หรือองค์กรอื่นๆไปด้วยน่ะครับ ไม่ได้รอจนถึง 100 ล้านแล้วค่อยเริ่มต้นหรอกครับ
ที่ผ่านๆมาคงจะมีหลายๆคนฝันคล้ายๆผม แต่คนจำนวนมากคงจะล้มเลิก หรือล้มเหลวไประหว่างทาง ถึงผมจะรู้ว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ในวันนี้ วันที่ผมยังมีพลัง มีแรงบันดาลใจ ผมจะยังคงฝันและมีความหวังต่อไป และจะไปถึงจุดหมายให้ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
ที่ผ่านๆมาคงจะมีหลายๆคนฝันคล้ายๆผม แต่คนจำนวนมากคงจะล้มเลิก หรือล้มเหลวไประหว่างทาง ถึงผมจะรู้ว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ในวันนี้ วันที่ผมยังมีพลัง มีแรงบันดาลใจ ผมจะยังคงฝันและมีความหวังต่อไป และจะไปถึงจุดหมายให้ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 15
มีหลายคนก็คิดแบบนี้ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
สักวันหวังว่าพวกเราจะได้ร่วมมือกันทำความฝันนะครับ
สักวันหวังว่าพวกเราจะได้ร่วมมือกันทำความฝันนะครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 522
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 16
ขอให้ตั้งใจทำจริงๆ และอย่าประมาทคับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่อะไรง่ายๆนะคับ อย่าคิดอะไรเป็นเส้นตรง
ที่ผ่านมาตลาดเป็นกระทิง หุ้นเกือบทั้งตลาดขึ้นหมด
แต่ยามหมีมาล่ะ เราแน่ใจได้อย่างไร ว่าจะไม่ขาดทุน
คุณรู้ คุณอ่านเยอะ คนอื่นก็รู้ อ่านเยอะเหมือนกัน
ผมเชื่อว่ามีคนรู้ และอ่านเยอะกว่าคุณอีกมากมาย
อย่าคิดอะไรง่ายๆ และเข้าข้างตัวเองจนเกินไป
ทางที่ดีกว่าควรทำงานไปเรื่อยๆดีกว่าคับจนกว่าจะเกษียณ
ช่วงเวลาหลังเกษียณ ด้วยการรักษาสุขภาพ และ
ความก้าวหน้าทางการแพทย์ คงยังทำให้ชีวิตหลังเกษียณ
แข็งแรง และทำอะไรให้สังคมได้อีกมากมายคับ
ตลาดหุ้นไม่ใช่อะไรง่ายๆนะคับ อย่าคิดอะไรเป็นเส้นตรง
ที่ผ่านมาตลาดเป็นกระทิง หุ้นเกือบทั้งตลาดขึ้นหมด
แต่ยามหมีมาล่ะ เราแน่ใจได้อย่างไร ว่าจะไม่ขาดทุน
คุณรู้ คุณอ่านเยอะ คนอื่นก็รู้ อ่านเยอะเหมือนกัน
ผมเชื่อว่ามีคนรู้ และอ่านเยอะกว่าคุณอีกมากมาย
อย่าคิดอะไรง่ายๆ และเข้าข้างตัวเองจนเกินไป
ทางที่ดีกว่าควรทำงานไปเรื่อยๆดีกว่าคับจนกว่าจะเกษียณ
ช่วงเวลาหลังเกษียณ ด้วยการรักษาสุขภาพ และ
ความก้าวหน้าทางการแพทย์ คงยังทำให้ชีวิตหลังเกษียณ
แข็งแรง และทำอะไรให้สังคมได้อีกมากมายคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 20
คุณ Skyforever ทำตารางออกมาคล้ายๆผมเลย แต่ทำละเอียดกว่าผมอีกนะ
เป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ ผมเองก็ฝันอยากมีมูลนิธิเช่นเดียวกัน
เป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ ผมเองก็ฝันอยากมีมูลนิธิเช่นเดียวกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 311
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 21
ผมเองก็เคยเขียนลักษณะนี้เมื่อหลายปีก่อน ผมเองไม่ได้ล้มเลิก แต่ความที่ไม่ได้ตามเป้าปีที่วางไว้3-4 ปีก็เลยเซ็ง
ผมอยากให้คำแนะนำว่า เราไม่ควรวางเป้าต่อปี แต่เราควรวางเป้าสุดท้ายไปเลยภายในกี่ปีก็ว่าไป อย่ากำหนดว่าปีนี้จะได้เท่านั้นเท่านี้
ผมอยากให้คำแนะนำว่า เราไม่ควรวางเป้าต่อปี แต่เราควรวางเป้าสุดท้ายไปเลยภายในกี่ปีก็ว่าไป อย่ากำหนดว่าปีนี้จะได้เท่านั้นเท่านี้
-
- Verified User
- โพสต์: 151
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 22
ขอให้ประสบความสำเร็จครับ ส่วนตัวผมชอบบริจาคหนังสือธรรมะ เพราะคิดว่าถ้าเราทำให้คนธรรมดาหรือคนที่ชั่วเปลี่ยนมาเป็นคนดีได้ เมื่อเขาได้ไปทำความดีอะไรก็แล้วแต่หลังจากนั้นผมก็น่าจะได้อานิสงค์ด้วยในฐานะที่เป็นคนโน้มน้าวให้เขาเป็นคนดี เท่ากับว่าหลังจากนั้นผมก็จะได้ปันผลบุญมาฟรีๆไปตลอดโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
- The Kop 71
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 271
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 23
ยินดีด้วยจากใจจริงครับที่คุณ Skyforever ตื่นรู้ ตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่
ผมขอแชร์ด้วยครับ ความคิดจิตอาสา...ดีครับ แต่ลงมือทำเลยจะดีกว่าครับ การเดินไปด้วยทำไปด้วย จะได้ทั้งประสบการณ์และผลที่ได้ทำแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้แต่เราก็ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไปได้ตั้งมากมาย
ส่วนตัวผมเอง มีรายได้พอดีกับรายจ่าย (ต้องคำนวณรายปี ถ้ารายเดือนจะไม่ค่อยพอ) เพิ่งมาสนใจแนวทาง VI ก็ปีนี้เอง เป้าหมายทางการเงินคงอีกยาวไกล (เริ่มต้นประมาณสี่แสนบาทเอง)
ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
ผมทำงานให้หมู่บ้านที่เราอยู่ เพราะเราอยากอยู่ในหมู่บ้านที่น่าอยู่ ช่วยเหลือกันและกัน
ผมเข้าไปช่วยงานที่โรงเรียนลูก เพราะผมคิดว่าถ้าเราอยากส่งลูกไปเรียนที่โน่นที่นั้นเพราะโรงเรียนเค้าดีอย่างนั้น ทำไมเราไม่ทำที่ที่เราอยู่ให้ดี ให้เราพอใจ หรือให้คนอื่นมองโรงเรียนเราเหมือนกับที่เรามองแต่คนอื่น
ผมทำงานอาสาเพราะผมทำแล้วมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ ผมไม่ได้ใช้เงินเลยครับ ผมใช้เพียงอย่างเดียวคือ...เวลา
ผลที่ผมได้รับสิ่งแรกเลยคือ กัลยาณมิตร รู้จักและเข้าใจ คน และคนที่เป็น กัลยาณมิตร เค้าก็ไม่มองที่ฐานะการเงิน บางคนที่ผมทำงานด้วยสถานะเค้าต่างจากผมมาก แต่ผมไม่รู้สึกแตกต่างเพราะมีความตั้งใจทำด้วยจิตอาสาเหมือนกัน
บางเวลาที่มีคนมาพูดว่าไม่ทำงาน(หาเงิน)บ้างหรือ ผมก็แอบคิดตามเหมือนกัน แต่ถ้ามองจากความสุขเป็นหลัก คนที่หาเงินมากมายเพื่ออะไรกัน ไม่ใช่เพื่อนำมาหาความสุขใส่ตัวไม่ใช่หรือ แล้วผมทำวันนี้ สุขวันนี้ ครอบครัวทุกคนมีความสุขดี แล้วจะหาเงินไปมากมายทำอะไรกัน
ผมว่าการสร้างสมดุลในชีวิตสำคัญกว่า สำหรับผมแล้วพยายามหาสมดุลอยู่ครับ ณ ปัจจุบัน
1. ครอบครัว 50%
2. การลงทุนแบบ VI 20%
3. งานที่โรงเรียนลูก 20% (สร้างความแข็งแรงให้กับ โรงเรียนวิถีพุทธปัญญา คุณครูวิถีพุทธให้ไม่ด้อยไปกว่าแนววิถีคริสเตียน)
4. งานที่บริษัท 10% (ไม่รู้จะถูกหุ้นส่วนเชิญออกเมื่อไรเพราะทำแต่งานไม่ค่อยได้เงิน..นี่เป็นสิ่งที่คาใจผมอยู่ว่าสิ่งที่ทำเดินมาถูกทางหรือเปล่า)
ผมว่าถ้าคุณ Skyforever มีความตั้งใจอยู่แล้วไม่ต้องรอทุน เพราะทุกคนมีเวลาเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะแบ่งให้กับอะไร เท่าไร แล้วสุขไหม
ผมได้แง่คิดจากหลักธรรมง่ายๆ คือ อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องแบกอดีต ไม่ต้องแบกอนาคต แค่นี้ชีวิตเราก็เบา
ผมขอแชร์ด้วยครับ ความคิดจิตอาสา...ดีครับ แต่ลงมือทำเลยจะดีกว่าครับ การเดินไปด้วยทำไปด้วย จะได้ทั้งประสบการณ์และผลที่ได้ทำแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้แต่เราก็ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไปได้ตั้งมากมาย
ส่วนตัวผมเอง มีรายได้พอดีกับรายจ่าย (ต้องคำนวณรายปี ถ้ารายเดือนจะไม่ค่อยพอ) เพิ่งมาสนใจแนวทาง VI ก็ปีนี้เอง เป้าหมายทางการเงินคงอีกยาวไกล (เริ่มต้นประมาณสี่แสนบาทเอง)
ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
ผมทำงานให้หมู่บ้านที่เราอยู่ เพราะเราอยากอยู่ในหมู่บ้านที่น่าอยู่ ช่วยเหลือกันและกัน
ผมเข้าไปช่วยงานที่โรงเรียนลูก เพราะผมคิดว่าถ้าเราอยากส่งลูกไปเรียนที่โน่นที่นั้นเพราะโรงเรียนเค้าดีอย่างนั้น ทำไมเราไม่ทำที่ที่เราอยู่ให้ดี ให้เราพอใจ หรือให้คนอื่นมองโรงเรียนเราเหมือนกับที่เรามองแต่คนอื่น
ผมทำงานอาสาเพราะผมทำแล้วมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ ผมไม่ได้ใช้เงินเลยครับ ผมใช้เพียงอย่างเดียวคือ...เวลา
ผลที่ผมได้รับสิ่งแรกเลยคือ กัลยาณมิตร รู้จักและเข้าใจ คน และคนที่เป็น กัลยาณมิตร เค้าก็ไม่มองที่ฐานะการเงิน บางคนที่ผมทำงานด้วยสถานะเค้าต่างจากผมมาก แต่ผมไม่รู้สึกแตกต่างเพราะมีความตั้งใจทำด้วยจิตอาสาเหมือนกัน
บางเวลาที่มีคนมาพูดว่าไม่ทำงาน(หาเงิน)บ้างหรือ ผมก็แอบคิดตามเหมือนกัน แต่ถ้ามองจากความสุขเป็นหลัก คนที่หาเงินมากมายเพื่ออะไรกัน ไม่ใช่เพื่อนำมาหาความสุขใส่ตัวไม่ใช่หรือ แล้วผมทำวันนี้ สุขวันนี้ ครอบครัวทุกคนมีความสุขดี แล้วจะหาเงินไปมากมายทำอะไรกัน
ผมว่าการสร้างสมดุลในชีวิตสำคัญกว่า สำหรับผมแล้วพยายามหาสมดุลอยู่ครับ ณ ปัจจุบัน
1. ครอบครัว 50%
2. การลงทุนแบบ VI 20%
3. งานที่โรงเรียนลูก 20% (สร้างความแข็งแรงให้กับ โรงเรียนวิถีพุทธปัญญา คุณครูวิถีพุทธให้ไม่ด้อยไปกว่าแนววิถีคริสเตียน)
4. งานที่บริษัท 10% (ไม่รู้จะถูกหุ้นส่วนเชิญออกเมื่อไรเพราะทำแต่งานไม่ค่อยได้เงิน..นี่เป็นสิ่งที่คาใจผมอยู่ว่าสิ่งที่ทำเดินมาถูกทางหรือเปล่า)
ผมว่าถ้าคุณ Skyforever มีความตั้งใจอยู่แล้วไม่ต้องรอทุน เพราะทุกคนมีเวลาเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะแบ่งให้กับอะไร เท่าไร แล้วสุขไหม
ผมได้แง่คิดจากหลักธรรมง่ายๆ คือ อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องแบกอดีต ไม่ต้องแบกอนาคต แค่นี้ชีวิตเราก็เบา
เพราะสังคม..ประเมินค่า..ที่จนรวย
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 25
ขอให้ประสบความสําเร็จดังหวังครับ.
-
- Verified User
- โพสต์: 569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แผนการชีวิตของผม แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่ความ
โพสต์ที่ 27
ผมคิดว่าหลาย ๆ คนในเว็บนี้ก็คงคิดจะตั้งมูลนิธิขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ในสังคม
หรืออย่างน้อยก็ปันเงินบางส่วนที่มีเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ
หากเราคิดเองทำเองคนเดียวคงจะไปถึงเป้าหมายได้ยากและกินเวลา
ทำไมเราไม่ร่วมมือกันจัดตั้งมูลนิธิของเราขึ้นมาเองล่ะครับ
หรืออย่างน้อยก็ปันเงินบางส่วนที่มีเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ
หากเราคิดเองทำเองคนเดียวคงจะไปถึงเป้าหมายได้ยากและกินเวลา
ทำไมเราไม่ร่วมมือกันจัดตั้งมูลนิธิของเราขึ้นมาเองล่ะครับ
เราจะพอเพียง แค่เราเพียงพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ
เราจะมีพอ แม้เราพอมี
เราจะดีพอ แค่เราพอดี
เราจะพอใจ แค่ใจเราพอ