มั่งคั่งด้วยหุ้น ลงทุนอย่างมีคุณค่า
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2704
โห น่ากลัว ระวังตรวจคนไข้ถูกๆผิดๆนะครับ ยิ่งตอนหุ้นตกจะยิ่งไม่มีสมาธิไปกันใหญ่suwicharn เขียน:ผมเพิ่งหัดลงทุนไม่นานคับ
อยากรู้จังว่า พี่ๆ เอาเวลาไหนมาซื้อขายกันครับ
ของผมส่งคำสั่งเช้า แล้วก็ราวน์ ตรวจ OPD มาดูเที่ยง
แต่ใจมันอยากดูตลอดเวลาเลยสิ ^^"
เพิ่งเริ่มต้นน่ะครับ ยังรู้สึกใจไม่ค่อยนิ่ง
อยากขอคำชี้แนะ
ถ้าจะลงทุนแนวVIจริงๆ อย่าไปสนใจราคาหุ้นรายวันมาก
เลือกตัวดีๆถูกๆแล้วใจเราจะนิ่งเอง (คือผมเตือนตัวเองด้วยแหละครับ)
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2705
ครับผม
จะไม่ให้เรื่องการลงทุนมามีผลกับงานแน่นอนครับ ^^
แต่จะว่าไป การลงทุนเนี่ย ผมว่า การเริ่มก้าวแรกนี่สำคัญเลย ผมเคยคิดจะลงทุนในตลาดหุ้นมาสองสามปีตั้งแต่เรียนจบ แต่ก็ไม่ได้ทำ ผ่านช่วงแฮมเบอร์เกอร์ ที่ราคาลงไปมาก ก็ยังไม่ได้ลงมา รู้ตัวครับว่า ถ้าไม่เริ่มก้าวแรก ไม่หาประสบการณ์คงจะไม่ได้อะไร เลยมาเริ่มต้นไม่นานนี้ครับ
จะไม่ให้เรื่องการลงทุนมามีผลกับงานแน่นอนครับ ^^
แต่จะว่าไป การลงทุนเนี่ย ผมว่า การเริ่มก้าวแรกนี่สำคัญเลย ผมเคยคิดจะลงทุนในตลาดหุ้นมาสองสามปีตั้งแต่เรียนจบ แต่ก็ไม่ได้ทำ ผ่านช่วงแฮมเบอร์เกอร์ ที่ราคาลงไปมาก ก็ยังไม่ได้ลงมา รู้ตัวครับว่า ถ้าไม่เริ่มก้าวแรก ไม่หาประสบการณ์คงจะไม่ได้อะไร เลยมาเริ่มต้นไม่นานนี้ครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2706
เอา Link เชื่อมโยงสัมภาษณ์หมอ ผ่าน moneytalk มาให้ หมอ suwicharn ครับ
หมอพงษ์ศักดิ์ เจ้าของพงษ์ศักดิ์คลินิก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45606
หมอ crazyrisk
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45774
หมอ Paul VI
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=46186
ส่วนหมอสามัญชน รออีกแป๊บนึง ผมจะรวบรวมมาให้
หมอพงษ์ศักดิ์ เจ้าของพงษ์ศักดิ์คลินิก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45606
หมอ crazyrisk
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45774
หมอ Paul VI
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=46186
ส่วนหมอสามัญชน รออีกแป๊บนึง ผมจะรวบรวมมาให้
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2707
ขอบคุณมากๆ เลยครับ ^^Paul VI เขียน:เอา Link เชื่อมโยงสัมภาษณ์หมอ ผ่าน moneytalk มาให้ หมอ suwicharn ครับ
หมอพงษ์ศักดิ์ เจ้าของพงษ์ศักดิ์คลินิก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45606
หมอ crazyrisk
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=45774
หมอ Paul VI
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=34&t=46186
ส่วนหมอสามัญชน รออีกแป๊บนึง ผมจะรวบรวมมาให้
-
- Verified User
- โพสต์: 224
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2708
สวัสดีครับคุณหมอ ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับ
กับคำแนะนำเรื่องการเรียนครั้งก่อน รบกวนขอความรู้
หน่อยนะครับ คุณหมอพอจะทราบวิธีวัดมูลค่าด้วย
EV/EBITDA รึเปล่าครับ ผมไปอ่านในคลังกระทู้คุณค่าแล้วสน
ใจแต่มันไม่ละเอียดพอสำหรับมือใหม่ครับ ขอบคุณครับ
กับคำแนะนำเรื่องการเรียนครั้งก่อน รบกวนขอความรู้
หน่อยนะครับ คุณหมอพอจะทราบวิธีวัดมูลค่าด้วย
EV/EBITDA รึเปล่าครับ ผมไปอ่านในคลังกระทู้คุณค่าแล้วสน
ใจแต่มันไม่ละเอียดพอสำหรับมือใหม่ครับ ขอบคุณครับ
อนัตตตา แปลว่า ไม่มีอัตตา ไม่มีตัวตน มิใช่ อัตตา มิใช่ตัวตน
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2709
^
^
เย็นๆจะมาอธิบายให้ฟังนะครับน้อง END
^
เย็นๆจะมาอธิบายให้ฟังนะครับน้อง END
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2710
เรื่องความรู้ให้หมอแป๊ะแล้วกัน
มาต่อนำเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง ดีกว่า
ของผม ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานี ยูมาเต๋ย Yau Ma Tei ผ่าน มงก๊ก MongKok แล้วก้ยาวไป 7 สถานี ไปลงที่ ไล่กิง lai King
แล้วก็ไปข้ามต่ออีกสายที่จะไป แอร์พอร์ตได้
มาต่อนำเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง ดีกว่า
ของผม ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานี ยูมาเต๋ย Yau Ma Tei ผ่าน มงก๊ก MongKok แล้วก้ยาวไป 7 สถานี ไปลงที่ ไล่กิง lai King
แล้วก็ไปข้ามต่ออีกสายที่จะไป แอร์พอร์ตได้
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2715
EV / EBITDA เป็นอัตราส่วนที่ใช้บอกเราว่า หากเราคิดจะไปเทค โอเวอร์กิจการนั้น ต้องใช้เวลากี่ปี กว่าที่เราจะได้"เงินสด" ที่เราซื้อกิจการไปคืนมา
สมมติว่า เราอยากจะเทคโอเวอร์ บริษัท A มาเป็นของเราแต่ผู้เดียว
บริษัท A มี market cap 10000M มีหนี้ 2000M มีเงินสดในบริษัท 1000M - -> สมมติว่าเราจะขอเงินแม่ไปเทคบริษัท A เราต้องขอเงินแม่เท่าไรเพื่อจะเทคบริษัทนี้มาเป็นของเรา"คนเดียว"
คำตอบคืออย่างแรกเราต้องใช้เงินเพื่อซื้อหุ้นบริษัททั้งหมดมาก่อน ( ใช้ 10000M เท่ากับมาร์เกตแคป )
จากนั้นเราก็ต้องคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัท ( เพราะเราอยากจะให้สินทรัพย์ของบริษัททั้งหมด เป็นของเราคนเดียว ) ซึ่งเท่ากับ 2000M
หลังจากบริษัทเป็นของเราแต่ผู้เดียวแล้ว เราจะมีกรรมสิทธิ์ในเงินสด 1000M ของบริษัท ซึ่งเราจะสามารถเอาเงินสด 1000M นี้ไปคืนแม่ได้
นั่นแปลว่า จริงๆแล้วเราต้องขอเงินแม่มา 10000M + 2000M - 1000M = 11000M เพื่อจะได้บริษัทนี้มาเป็นของเรา"คนเดียว"
ซึ่งไอ้ค่า market cap + หนี้ของบริษัท - Cash ของบริษัท นี่ล่ะคับที่เราเรียกกันว่า EV ( Enterprise Value )
ส่วน EBITDA คือกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย ตัว EBITDA นี้ จะเป็นตัวที่บ่งบอกเราว่า บริษัทผลิตเงินสดเข้ามาได้ปีละเท่าไร
ถ้าเราจับเอา EV มาหารด้วย EBITDA เราก็จะทราบว่า เงินที่เราจะใช้ซื้อกิจการนั้นมีมูลค่าเป็นกี่เท่าของเงินสดที่บริษัทจะผลิตได้แต่ละปี ซึ่งก็คือระยะเวลาว่ากี่ปี กว่าที่เราจะได้"เงินสด" ที่เราซื้อกิจการไปคืนมา
สมมติว่า เราอยากจะเทคโอเวอร์ บริษัท A มาเป็นของเราแต่ผู้เดียว
บริษัท A มี market cap 10000M มีหนี้ 2000M มีเงินสดในบริษัท 1000M - -> สมมติว่าเราจะขอเงินแม่ไปเทคบริษัท A เราต้องขอเงินแม่เท่าไรเพื่อจะเทคบริษัทนี้มาเป็นของเรา"คนเดียว"
คำตอบคืออย่างแรกเราต้องใช้เงินเพื่อซื้อหุ้นบริษัททั้งหมดมาก่อน ( ใช้ 10000M เท่ากับมาร์เกตแคป )
จากนั้นเราก็ต้องคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัท ( เพราะเราอยากจะให้สินทรัพย์ของบริษัททั้งหมด เป็นของเราคนเดียว ) ซึ่งเท่ากับ 2000M
หลังจากบริษัทเป็นของเราแต่ผู้เดียวแล้ว เราจะมีกรรมสิทธิ์ในเงินสด 1000M ของบริษัท ซึ่งเราจะสามารถเอาเงินสด 1000M นี้ไปคืนแม่ได้
นั่นแปลว่า จริงๆแล้วเราต้องขอเงินแม่มา 10000M + 2000M - 1000M = 11000M เพื่อจะได้บริษัทนี้มาเป็นของเรา"คนเดียว"
ซึ่งไอ้ค่า market cap + หนี้ของบริษัท - Cash ของบริษัท นี่ล่ะคับที่เราเรียกกันว่า EV ( Enterprise Value )
ส่วน EBITDA คือกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย ตัว EBITDA นี้ จะเป็นตัวที่บ่งบอกเราว่า บริษัทผลิตเงินสดเข้ามาได้ปีละเท่าไร
ถ้าเราจับเอา EV มาหารด้วย EBITDA เราก็จะทราบว่า เงินที่เราจะใช้ซื้อกิจการนั้นมีมูลค่าเป็นกี่เท่าของเงินสดที่บริษัทจะผลิตได้แต่ละปี ซึ่งก็คือระยะเวลาว่ากี่ปี กว่าที่เราจะได้"เงินสด" ที่เราซื้อกิจการไปคืนมา
-
- Verified User
- โพสต์: 224
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2716
ขอบคุณ คุณหมอครับ เดียวลองศึกษาเชิงลึกดูอีกที เพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่าreiter เขียน:EV / EBITDA เป็นอัตราส่วนที่ใช้บอกเราว่า หากเราคิดจะไปเทค โอเวอร์กิจการนั้น ต้องใช้เวลากี่ปี กว่าที่เราจะได้"เงินสด" ที่เราซื้อกิจการไปคืนมา...................
มีวิธีการวัดมูลค่าด้วยวิธีนี้ด้วย สำหรับคุณหมอแล้วการวัดมูลค่ามีกี่วิธีครับ
แล้วมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร ขอบคุณครับ
อนัตตตา แปลว่า ไม่มีอัตตา ไม่มีตัวตน มิใช่ อัตตา มิใช่ตัวตน
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2717
หลักๆก็ใช้ PE ครับ
ยกเว้นหุ้นบางประเภทที่จะใช้วิธีอื่น อ่านในบลอกผมเรื่อง ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับ PE ratio ได้ครับ
ยกเว้นหุ้นบางประเภทที่จะใช้วิธีอื่น อ่านในบลอกผมเรื่อง ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับ PE ratio ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2718
ขอบคุณพี่หมอ reiter ด้วยครับ เข้าใจเรื่อง EV/EBITDA กระจ่างขึ้นเยอะ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2723
ตอนนี้ พอได้ความคิดเรื่องการบริหารการลงทุนบ้างครับPaul VI เขียน:ไม่ทราบตอนนี้ หมอพอได้ไอเดียในการบริหารเวลา + ใจในการลงทุนแบบ value หรือยังครับsuwicharn เขียน:ตามมาเก็บความรู้
ขอบคุณมากๆ เหมือนกันครับผม
นอกจากเรื่องเลือกซื้อหุ้นแล้ว ยังพยายามอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น
จะได้มีเรื่องมาสอบถามพี่ๆ ทุกท่านครับ
ขอบคุณมากนะครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2725
อ่านกระทู้พันทิพ ความในใจหมอที่มีคำสั่งให้ไปช่วย เป็นแพทย์ประจำศูนย?อพยพ
เป็นกำลังใจให้นะครับ และขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 94085.html
เป็นกำลังใจให้นะครับ และขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 94085.html
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2727
พระราชพิธีเสกสมรส กระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษ
Posted on Friday, April 29, 2011
นายอดิศัย ธรรมคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร บอกว่า พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน จะส่งผลดีถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในอังกฤษ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ของขวัญ-ของชำร่วยที่ระลึก
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ของอังกฤษ ต่างเฝ้าจับตาดูรายได้ภาคบริการซึ่งมีสัดส่วน 75% ของจีดีพีในไตรมาส 1/54 ว่าจะเป็นเช่นไร หากออกมาติดลบกว่าปี 2553 ที่อยู่ในระดับ 1.3% อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษหดตัว แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็คาดหวังว่าพระราชพิธีเสกสมรสครั้งนี้ จะส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดปีนี้ให้ดีขึ้น
ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลอังกฤษนั้น ยังคงเดินหน้าปรับลดหนี้สาธารณะ ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 20% จาก 17.5 % การดูแลเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 2% อัตราดอกเบี้ยทรงตัวที่ 0.5 % และยังคงนโยบายรับซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน 200,000 ล้านปอนด์ ตามมาตรการ QE ไว้ตามเดิมในปี 2554-2555 รวมถึงนโยบายปฏิรูปการเงินการธนาคารเพื่อสอดส่องดูแลความเสี่ยงในระบบและมีอำนาจแก้ไขก่อนปัญหาจะลุกลาม
นายอดิศัย ยังบอกถึงลู่ทางการส่งออกสินค้าไทยไปอังกฤษ และสหภาพยุโรป ว่า ยังมีโอกาสอีกมากโดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นประโยชน์ด้านสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีลักษณะเป็นสินค้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงตลาดยังให้ความสำคัญกับหีบห่อที่ออกแบบทันสมัย ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สีอ่อน อิงธรรมชาติ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx
Posted on Friday, April 29, 2011
นายอดิศัย ธรรมคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร บอกว่า พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน จะส่งผลดีถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในอังกฤษ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ของขวัญ-ของชำร่วยที่ระลึก
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ของอังกฤษ ต่างเฝ้าจับตาดูรายได้ภาคบริการซึ่งมีสัดส่วน 75% ของจีดีพีในไตรมาส 1/54 ว่าจะเป็นเช่นไร หากออกมาติดลบกว่าปี 2553 ที่อยู่ในระดับ 1.3% อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษหดตัว แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็คาดหวังว่าพระราชพิธีเสกสมรสครั้งนี้ จะส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดปีนี้ให้ดีขึ้น
ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลอังกฤษนั้น ยังคงเดินหน้าปรับลดหนี้สาธารณะ ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 20% จาก 17.5 % การดูแลเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 2% อัตราดอกเบี้ยทรงตัวที่ 0.5 % และยังคงนโยบายรับซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน 200,000 ล้านปอนด์ ตามมาตรการ QE ไว้ตามเดิมในปี 2554-2555 รวมถึงนโยบายปฏิรูปการเงินการธนาคารเพื่อสอดส่องดูแลความเสี่ยงในระบบและมีอำนาจแก้ไขก่อนปัญหาจะลุกลาม
นายอดิศัย ยังบอกถึงลู่ทางการส่งออกสินค้าไทยไปอังกฤษ และสหภาพยุโรป ว่า ยังมีโอกาสอีกมากโดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นประโยชน์ด้านสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีลักษณะเป็นสินค้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงตลาดยังให้ความสำคัญกับหีบห่อที่ออกแบบทันสมัย ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สีอ่อน อิงธรรมชาติ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx
- sorn adis
- Verified User
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2729
มันก็คือ payback period ของการลงทุนในธุรกิจสินะreiter เขียน:
ถ้าเราจับเอา EV มาหารด้วย EBITDA เราก็จะทราบว่า เงินที่เราจะใช้ซื้อกิจการนั้นมีมูลค่าเป็นกี่เท่าของเงินสดที่บริษัทจะผลิตได้แต่ละปี ซึ่งก็คือระยะเวลาว่ากี่ปี กว่าที่เราจะได้"เงินสด" ที่เราซื้อกิจการไปคืนมา
คุณหมอแป๊ะใช้ ratio นี้ในการลงทุนด้วยหรือไม่
พอจะแนะนำว่าเหมาะกับหุ้นกลุ่มไหน และ ratio ควรเป็นเท่าไรครับ
ขอบคุณครับ
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
BuVaPiCaMos
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 2730
ผมใช้กับธุรกิจที่มีค่าเสื่อมเยอะๆครับ เพราะหุ้นกลุ่มนี้การดูที่ earning จะค่อนข้างหลอกตา เพราะโดนค่าเสื่อมกินไปซะหมด ทำให้ cash flow ดีกว่า earning ค่อนข้างมาก
การใช้ EBITDA แทน E จะลดปัญหาเรื่องค่าเสื่อมมาหลอกตาได้
EV / EBITDA ที่น้อยกว่า 6 -8 น่าจะพอเรียกได้ว่าถูกครับ
การใช้ EBITDA แทน E จะลดปัญหาเรื่องค่าเสื่อมมาหลอกตาได้
EV / EBITDA ที่น้อยกว่า 6 -8 น่าจะพอเรียกได้ว่าถูกครับ