อินตะระเดีย.....นะนาย
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
อินตะระเดีย.....นะนาย
โพสต์ที่ 1
สมัยเด็กๆ...ปี๊นๆ...ผมชอบ...แปร๊นๆ...ดูหนังอินเดียมาก...แปร็บๆ...ทั้ง
ประเภท...ปู๊นๆ...นาร้ายนารายณ์...เอี๊ยดดด...ประเภทธรณีกรรแสง...อ๊าดดด...
และประเภทเต้นระบำ...บรึ้นๆ...พระเอกวิ่ง...ว้าว...ไล่นางเอก...อ้าววว...พอได้
ไปอินเดีย...เฮ้ๆๆ...ก็เลยเข้าใจว่า........เฮ้ยยย....
อ่านย่อหน้าข้างบนแล้วรู้สึกยังไงครับ ความรู้สึกคุณผู้อ่านเป็นยังไงตอน
อ่าน นั่นล่ะเป็นความรู้สึกที่จะเกิดขึ้น
เมื่อท่านเดินไปตามถนนในอินเดีย !!!
และบางเมืองอย่างเช่น “มุมไบ” ที่ผมไปมา นอกจาก เสียง กลิ่น รูป รส
ที่ประเดประดังเข้ามากระทบประสาทสัมผัสของเราแล้ว มันยังมาแบบนาน
แสนนานและต่อเนื่องอีกต่างหาก ช่วงที่ผมนั่งรถออกนอกเมืองมุมไบไปนั้น
เราจะได้พบได้ยินได้กลิ่นบรรยากาศอย่างว่าไปประมาณเกือบสามชั่วโมงตลอด
เส้นทาง เมืองอะไรทำไมจะกว้างใหญ่ ผู้คนมากมายปานนั้น
เรามาจากเมือง ๖๓ ล้านคน มาเจอประเทศ ๑๑๐๐ ล้านคน ก็ต้องเข้าใจ
เขาละครับ
และผมก็เข้าใจได้แบบทันทีทันใดว่าหนังอินเดียทำไมถึงมีอยู่ ๓ แบบ
เศร้าวิโยคโศรกซ้ำ เต้นระบำรำร่าย นาร้ายนารายณ์อวตาร
ก็ในชีวิตจริง ในชีวิตประจำวัน เขายังมีให้เห็นครบ
เรียกว่ามากันทั้ง นรก สวรรค์ และพระเจ้า ในที่ๆเดียวกัน
ลองนึกภาพต่อไปนี้ดูนะครับ
เรายืนอยู่หน้าโรงแรม ๔ ดาวหรูในอินเดีย มองเข้าไปในโรงแรมซึ่ง
หากจะเข้าต้องผ่านเครื่องเอ๊กซเรย์ เราจะเห็นคนอินเดียแต่งกายในชุดสูท
อาร์มานี่ ชุดส่าหรีผ้าไหมหรูระยิบ เข้าไปดินเนอร์ที่มีบริกรคอยเสิร์ฟตัก
ข้าวตักกับให้ทีละอย่างไปตามเซ็ตเมนู เวลาจะเปลี่ยนจากออร์เดิร์ฟไปเมน
คอร์สต้องมีอาหารคำน้อยมาคั่นเพื่อปรับลิ้นเปลี่ยนรส
ในที่ๆเดียวกัน หากเรามองไปบนฟุตบาท จะพบพ่อค้าข้าวแกงหาบเร่
กำลังบริการลูกค้า ด้วยการตักข้าวบัสมาติเม็ดป้อมๆแข็งๆใส่ในภาชนะ แล้ว
ตักน้ำแกงกะหรี่ราด คนๆๆ แล้วก็ส่งให้ลูกค้ากินด้วยความเอร็ดอร่อย
ยืนกินนะครับ เปิบด้วยมือและภาชนะที่ใส่ก็คือ กระดาษหนังสือพิมพ์ !
มองต่อไปอีกหน่อยเราจะเห็น ตึกเอย อพาร์ตเมนต์เอย คอนโดเอย
ความสูง ยี่สิบสามสิบชั้นนี่ถือเป็นเรื่องปกติ บ้านของมหาเศรษฐีระดับโลก
ของอินเดียคนนึง เป็นตึกสูงเกือบสามสิบชั้น เป็นที่อยู่สำหรับครอบครัวเดียว
โดยมีคนรับใช้คอยดูแล แค่ ๖๐๐ คน
ถัดจากบรรดาคอนโดยี่สิบชั้น เพื่อนบ้านก็คือชุมชนคนยากไร้ เรียก
ง่ายๆก็คือ สลัม ..........และขอประทานโทษ อยู่ติดรั้วเดียวกันเลย
คอนโดบางคอนโด คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งเดือนทั้งปี เพราะสิ่ง
อำนวยความสะดวกพรั่งพร้อม
ฟุตบาทบางถนน คุณก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งเดือนทั้งปีเหมือนกัน จะ
อาบน้ำ หลับนอน วิ่งเล่น ซักผ้า ถ่ายทุกข์ รับแขก ออกแขก อำนวยความสะดวก
ให้เช่นเดียวกัน
หรือจะเรื่องเอ็นเตอร์เทน อยากจะไปดูโชว์ อินตะระเดียจัดให้...นะนาย
(คำว่า “นาย”นี่เขาเรียกกันติดปากในอินเดีย เรียกเป็นภาษาปะกิตว่า “บอส” หรือ
มาดามบอส ) ที่เมืองนิวเดลลี มีสถานที่แสดงโชว์อลังการงานสร้าง ตอนที่ผม
ไปดูเป็นละครเพลง โอ้โห เต้นกันมันระเบิดเกือบสามชั่วโมง แถมมากันเพียบ
ทั้งกราฟฟิคคอมพิวเตอร์ แสงเลเซอร์ เหาะเหินเดินอากาศ อีนี่..เจ๋งจริงๆนะนาย
แต่ถ้าไม่มีตังค์เข้าไปดู ตามสี่แยกก็มี
เวลารถติดตามสี่แยก ที่เมืองไทยมีกล้วยแขก แต่ที่เมืองแขกมีโชว์
หนูน้อยมอมแมม ถ้าเรียนคงจะอยู่อนุบาล๒ จะมาตีลังกา โชว์กายกรรม
ตัวอ่อน มืออ่อน แบบมืออาชีพให้ดูกันจะจะ หรือถ้าเต็มชุดก็ต้องบนฟุตบาท
(อีกแล้ว) ซึ่งจะมากันทั้งครอบครัว พี่ชายตีกลอง น้องสาวคนกลางเดินบนเส้น
เชือกกลางอากาศ น้องสาวคนเล็กผู้ช่วย น้องชายคนสุดท้องอนุบาล๑ เขียนคิ้ว
เขียนหนวดเป็นอาบังคอยเต้นระบำออกแขก
เห็นมีลูกเยอะๆ คนเป็นพันล้านอย่างนี้ แต่กิจกรรมปล่อยกำเนิดก็มีให้
เห็นอยู่ทั่วไปอย่างเช่น งานแต่งงาน งานนี้ถือว่าเป็นงานสำคัญของหนุ่มสาวชาว
อินเดีย
เราๆท่านๆเข้าใจว่าที่อินเดียนั้นผู้หญิงต้องไปสู่ขอผู้ชาย นั่นก็จริงครับ
แต่จริงไม่หมด เพราะต้องต่อท้ายด้วยว่าเมื่อแต่งกันแล้ว ฝ่ายชายต้องเลี้ยงดูฝ่าย
หญิงและพ่อแม่ไปจนตลอดชีวิต......ฮ่า อันนี้สิจริงกว่า
ที่อินเดียจึงมีสถานที่รับจัดแต่งงานโดยเฉพาะอยู่มากมาย แต่ถ้าเป็นมหา
เศรษฐีก็บินมาแต่งงานที่เมืองไทย ซื้อตั๋วแจกญาติขนกันมาเฉลิมฉลอง
ถามว่าแล้วแขกตามฟุตบาทเขามีความรักเขาแต่งงานกันยังไง? ผมก็
ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เห็นตอนเขาจีบกันมีอยู่ ๒ ที่ แห่งแรกบนฟุตบาท
(อีกแล้วครับท่าน)ริมชายหาดที่มุมไบ จะมาเป็นแขกคู่ จะเห็นทั้งอินเดียนคิส
และเฟร้นช์คิส โรแมนติคจริงๆ...นะนายจ๋า
อีกแห่งเป็นริมทางด่วนยกระดับ!
ริมทางด่วน จริงๆนะครับ เดาเอาว่าเลือกที่นี่เพราะอากาศดี วิวสวย และมืด
แต่จีบสาวแบบนี้ต้องมีอุปกรณ์ครับ นั่นคือ มอเตอร์ไซค์!
ที่สี่แยกเราได้ดูกายกรรม ที่ริมทางด่วนเราจะได้เห็นวิธีพลิกแพลงใน
การนั่งมอเตอร์ไซค์ มีทั้งนั่งซ้อนกัน มีทั้งนั่งหันหน้าเข้าหากัน มีทั้งนั่งหันข้าง
คู่กัน และมีทั้งคนหนึ่งนั่งบนมอร์เตอร์ไซค์อีกคนนั่งบนราวทางด่วน
สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น ที่นี่ไม่มีนรก... มีแต่สวรรค์ของสองเรา
มาอินเดียแล้วก็เริ่มเข้าใจ เดินฟุตบาทแล้วก็เริ่มซึ้ง ว่า ทำไมเจ้าชาย
สิทธัตถะเมื่อเสด็จออกนอกวังแล้วถึงได้ปลงซึ่งภาวะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ชมฟุตบาทปาดสายตาไปโดยรอบ แล้วก็ได้เห็นธรรมคู่ ธรรมคู่
ที่ว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน แต่เราดันไปแยกว่าขวาตรงข้ามกับซ้าย
ไปแยกร้อนออกจากเย็น ไปแยกกลางวันจากกลางคืน ไปแยกสั้นออกจากยาว
ไปแยกการตายจากการเกิด ไปแยกว่ามีความเหมือนมีความต่าง ไปยึดสุขปฏิเสธทุกข์
ไปหลงดีใจไม่ยอมเสียใจ ไปแยกว่าเป็นนรก ว่าเป็นสวรรค์
การมองแบบแยกให้เป็นคู่ตรงกันข้ามล้วนนำความทุกข์มาให้เราทั้งสิ้น
พระพุทธองค์ทรงพยายามสอนให้เราเป็นอิสระที่ข้ามพ้นความคิดแยกขั้ว
ซึ่งนั่นก็คือการมองแบบ มัชฌิมาปฎิปทา หรือทางสายกลาง
ที่อินเดียนั้น ในสวรรค์มีนรก ในนรกมีสวรรค์........แค่มีเส้นกั้นบางๆ
.........นะนาย
ประเภท...ปู๊นๆ...นาร้ายนารายณ์...เอี๊ยดดด...ประเภทธรณีกรรแสง...อ๊าดดด...
และประเภทเต้นระบำ...บรึ้นๆ...พระเอกวิ่ง...ว้าว...ไล่นางเอก...อ้าววว...พอได้
ไปอินเดีย...เฮ้ๆๆ...ก็เลยเข้าใจว่า........เฮ้ยยย....
อ่านย่อหน้าข้างบนแล้วรู้สึกยังไงครับ ความรู้สึกคุณผู้อ่านเป็นยังไงตอน
อ่าน นั่นล่ะเป็นความรู้สึกที่จะเกิดขึ้น
เมื่อท่านเดินไปตามถนนในอินเดีย !!!
และบางเมืองอย่างเช่น “มุมไบ” ที่ผมไปมา นอกจาก เสียง กลิ่น รูป รส
ที่ประเดประดังเข้ามากระทบประสาทสัมผัสของเราแล้ว มันยังมาแบบนาน
แสนนานและต่อเนื่องอีกต่างหาก ช่วงที่ผมนั่งรถออกนอกเมืองมุมไบไปนั้น
เราจะได้พบได้ยินได้กลิ่นบรรยากาศอย่างว่าไปประมาณเกือบสามชั่วโมงตลอด
เส้นทาง เมืองอะไรทำไมจะกว้างใหญ่ ผู้คนมากมายปานนั้น
เรามาจากเมือง ๖๓ ล้านคน มาเจอประเทศ ๑๑๐๐ ล้านคน ก็ต้องเข้าใจ
เขาละครับ
และผมก็เข้าใจได้แบบทันทีทันใดว่าหนังอินเดียทำไมถึงมีอยู่ ๓ แบบ
เศร้าวิโยคโศรกซ้ำ เต้นระบำรำร่าย นาร้ายนารายณ์อวตาร
ก็ในชีวิตจริง ในชีวิตประจำวัน เขายังมีให้เห็นครบ
เรียกว่ามากันทั้ง นรก สวรรค์ และพระเจ้า ในที่ๆเดียวกัน
ลองนึกภาพต่อไปนี้ดูนะครับ
เรายืนอยู่หน้าโรงแรม ๔ ดาวหรูในอินเดีย มองเข้าไปในโรงแรมซึ่ง
หากจะเข้าต้องผ่านเครื่องเอ๊กซเรย์ เราจะเห็นคนอินเดียแต่งกายในชุดสูท
อาร์มานี่ ชุดส่าหรีผ้าไหมหรูระยิบ เข้าไปดินเนอร์ที่มีบริกรคอยเสิร์ฟตัก
ข้าวตักกับให้ทีละอย่างไปตามเซ็ตเมนู เวลาจะเปลี่ยนจากออร์เดิร์ฟไปเมน
คอร์สต้องมีอาหารคำน้อยมาคั่นเพื่อปรับลิ้นเปลี่ยนรส
ในที่ๆเดียวกัน หากเรามองไปบนฟุตบาท จะพบพ่อค้าข้าวแกงหาบเร่
กำลังบริการลูกค้า ด้วยการตักข้าวบัสมาติเม็ดป้อมๆแข็งๆใส่ในภาชนะ แล้ว
ตักน้ำแกงกะหรี่ราด คนๆๆ แล้วก็ส่งให้ลูกค้ากินด้วยความเอร็ดอร่อย
ยืนกินนะครับ เปิบด้วยมือและภาชนะที่ใส่ก็คือ กระดาษหนังสือพิมพ์ !
มองต่อไปอีกหน่อยเราจะเห็น ตึกเอย อพาร์ตเมนต์เอย คอนโดเอย
ความสูง ยี่สิบสามสิบชั้นนี่ถือเป็นเรื่องปกติ บ้านของมหาเศรษฐีระดับโลก
ของอินเดียคนนึง เป็นตึกสูงเกือบสามสิบชั้น เป็นที่อยู่สำหรับครอบครัวเดียว
โดยมีคนรับใช้คอยดูแล แค่ ๖๐๐ คน
ถัดจากบรรดาคอนโดยี่สิบชั้น เพื่อนบ้านก็คือชุมชนคนยากไร้ เรียก
ง่ายๆก็คือ สลัม ..........และขอประทานโทษ อยู่ติดรั้วเดียวกันเลย
คอนโดบางคอนโด คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งเดือนทั้งปี เพราะสิ่ง
อำนวยความสะดวกพรั่งพร้อม
ฟุตบาทบางถนน คุณก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งเดือนทั้งปีเหมือนกัน จะ
อาบน้ำ หลับนอน วิ่งเล่น ซักผ้า ถ่ายทุกข์ รับแขก ออกแขก อำนวยความสะดวก
ให้เช่นเดียวกัน
หรือจะเรื่องเอ็นเตอร์เทน อยากจะไปดูโชว์ อินตะระเดียจัดให้...นะนาย
(คำว่า “นาย”นี่เขาเรียกกันติดปากในอินเดีย เรียกเป็นภาษาปะกิตว่า “บอส” หรือ
มาดามบอส ) ที่เมืองนิวเดลลี มีสถานที่แสดงโชว์อลังการงานสร้าง ตอนที่ผม
ไปดูเป็นละครเพลง โอ้โห เต้นกันมันระเบิดเกือบสามชั่วโมง แถมมากันเพียบ
ทั้งกราฟฟิคคอมพิวเตอร์ แสงเลเซอร์ เหาะเหินเดินอากาศ อีนี่..เจ๋งจริงๆนะนาย
แต่ถ้าไม่มีตังค์เข้าไปดู ตามสี่แยกก็มี
เวลารถติดตามสี่แยก ที่เมืองไทยมีกล้วยแขก แต่ที่เมืองแขกมีโชว์
หนูน้อยมอมแมม ถ้าเรียนคงจะอยู่อนุบาล๒ จะมาตีลังกา โชว์กายกรรม
ตัวอ่อน มืออ่อน แบบมืออาชีพให้ดูกันจะจะ หรือถ้าเต็มชุดก็ต้องบนฟุตบาท
(อีกแล้ว) ซึ่งจะมากันทั้งครอบครัว พี่ชายตีกลอง น้องสาวคนกลางเดินบนเส้น
เชือกกลางอากาศ น้องสาวคนเล็กผู้ช่วย น้องชายคนสุดท้องอนุบาล๑ เขียนคิ้ว
เขียนหนวดเป็นอาบังคอยเต้นระบำออกแขก
เห็นมีลูกเยอะๆ คนเป็นพันล้านอย่างนี้ แต่กิจกรรมปล่อยกำเนิดก็มีให้
เห็นอยู่ทั่วไปอย่างเช่น งานแต่งงาน งานนี้ถือว่าเป็นงานสำคัญของหนุ่มสาวชาว
อินเดีย
เราๆท่านๆเข้าใจว่าที่อินเดียนั้นผู้หญิงต้องไปสู่ขอผู้ชาย นั่นก็จริงครับ
แต่จริงไม่หมด เพราะต้องต่อท้ายด้วยว่าเมื่อแต่งกันแล้ว ฝ่ายชายต้องเลี้ยงดูฝ่าย
หญิงและพ่อแม่ไปจนตลอดชีวิต......ฮ่า อันนี้สิจริงกว่า
ที่อินเดียจึงมีสถานที่รับจัดแต่งงานโดยเฉพาะอยู่มากมาย แต่ถ้าเป็นมหา
เศรษฐีก็บินมาแต่งงานที่เมืองไทย ซื้อตั๋วแจกญาติขนกันมาเฉลิมฉลอง
ถามว่าแล้วแขกตามฟุตบาทเขามีความรักเขาแต่งงานกันยังไง? ผมก็
ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เห็นตอนเขาจีบกันมีอยู่ ๒ ที่ แห่งแรกบนฟุตบาท
(อีกแล้วครับท่าน)ริมชายหาดที่มุมไบ จะมาเป็นแขกคู่ จะเห็นทั้งอินเดียนคิส
และเฟร้นช์คิส โรแมนติคจริงๆ...นะนายจ๋า
อีกแห่งเป็นริมทางด่วนยกระดับ!
ริมทางด่วน จริงๆนะครับ เดาเอาว่าเลือกที่นี่เพราะอากาศดี วิวสวย และมืด
แต่จีบสาวแบบนี้ต้องมีอุปกรณ์ครับ นั่นคือ มอเตอร์ไซค์!
ที่สี่แยกเราได้ดูกายกรรม ที่ริมทางด่วนเราจะได้เห็นวิธีพลิกแพลงใน
การนั่งมอเตอร์ไซค์ มีทั้งนั่งซ้อนกัน มีทั้งนั่งหันหน้าเข้าหากัน มีทั้งนั่งหันข้าง
คู่กัน และมีทั้งคนหนึ่งนั่งบนมอร์เตอร์ไซค์อีกคนนั่งบนราวทางด่วน
สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น ที่นี่ไม่มีนรก... มีแต่สวรรค์ของสองเรา
มาอินเดียแล้วก็เริ่มเข้าใจ เดินฟุตบาทแล้วก็เริ่มซึ้ง ว่า ทำไมเจ้าชาย
สิทธัตถะเมื่อเสด็จออกนอกวังแล้วถึงได้ปลงซึ่งภาวะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ชมฟุตบาทปาดสายตาไปโดยรอบ แล้วก็ได้เห็นธรรมคู่ ธรรมคู่
ที่ว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน แต่เราดันไปแยกว่าขวาตรงข้ามกับซ้าย
ไปแยกร้อนออกจากเย็น ไปแยกกลางวันจากกลางคืน ไปแยกสั้นออกจากยาว
ไปแยกการตายจากการเกิด ไปแยกว่ามีความเหมือนมีความต่าง ไปยึดสุขปฏิเสธทุกข์
ไปหลงดีใจไม่ยอมเสียใจ ไปแยกว่าเป็นนรก ว่าเป็นสวรรค์
การมองแบบแยกให้เป็นคู่ตรงกันข้ามล้วนนำความทุกข์มาให้เราทั้งสิ้น
พระพุทธองค์ทรงพยายามสอนให้เราเป็นอิสระที่ข้ามพ้นความคิดแยกขั้ว
ซึ่งนั่นก็คือการมองแบบ มัชฌิมาปฎิปทา หรือทางสายกลาง
ที่อินเดียนั้น ในสวรรค์มีนรก ในนรกมีสวรรค์........แค่มีเส้นกั้นบางๆ
.........นะนาย
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินตะระเดีย.....นะนาย
โพสต์ที่ 7
"นาน"นุ่มๆ ทานกับ แกง"มาซาร่า"ข้นๆMr. Boo เขียน: ปล. ผมชอบอาหารอินตะระเดียครับ
อันนี้.....เซ็คคั่น ทู นัน นะครับ..นาย
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินตะระเดีย.....นะนาย
โพสต์ที่ 8
เอ.....คำตอบน่าจะอยู่ที่ ซิกเนเจอร์ ของพี่เจ นะครับjverakul เขียน:1000
มีข้อสงสัยครับพี่สถาปนิก
แล้วเราจำทำอย่างไร ให้อยู่ตรงกลาง ละครับ![]()
ลองค้นๆดูละกัน
มันคงไม่อยู่ตรงกลางเป๊ะๆมั้ง

ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินตะระเดีย.....นะนาย
โพสต์ที่ 12
เพิ่งมีเวลา เข้ามาอ่าน
อีนี่เป็นบทความที่ดีมากนะ...นายจ๋า...

อีนี่เป็นบทความที่ดีมากนะ...นายจ๋า...



"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"