มั่งคั่งด้วยหุ้น ลงทุนอย่างมีคุณค่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1651
พี่มุขจัดเลี้ยงกันเถอะค้าบบบ555
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1652
เริ่มเพราะ พรบ มันต้องงี้สิ!!ZhaoYunVI เขียน:ขอสมัครเข้าชมรมหมอVI ด้วยครับท่าน
แพทย์ มช รุ่นปี 36 (cmu36)
จบ FMED แต่ทำงานแผนก Er
รพ.ใน กรุงเทพ แต่เป็นคนต่างจังหวัด
เริ่มลงทุน แบบ VI ได้ สี่ เดือนแล้วครับ
เริ่ม เพราะว่า พรบ
ตอนนี้ก็ค่อย อ่าน เรียนรู้ไปนะครับ
ขอบคุณครับ
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1654
หาทางหนีทีไล่ไว้ครับ
นับวันสังคมจะบีบคั้นเรามากขึ้นเรื่อยๆ
นับวันสังคมจะบีบคั้นเรามากขึ้นเรื่อยๆ
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1657
Paul VI เขียน:ได้คร้าบ ขอเวลาแป๊บนึง ช่วงนี้งานเข้าหลายอย่างneo_potato_Th เขียน:พี่มุขจัดเลี้ยงกันเถอะค้าบบบ555
รอผมกลับมาก่อนนะฮ้าฟฟฟฟ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1660
ได้ครับstemcell เขียน:จัดเมื่อไหร่ ขอแจมด้วยครับ
่ว่าแต่หมอ stemcell ตอนนี้ มีความรู้ เรื่องหุ้น หรือ อ่านจากหนังสืออะไร จะมาแชร์มั้ัยครับ อยากได้ความรู้เพิ่มครับ หมอ VI ท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ เอาความรู้มาแชร์กัน
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1661
พอดี มีอาจารย์ด้านกฎหมายที่เคารพ ที่เป็นที่ปรึกษาที่โรงพยาบาลPaul VI เขียน: แต่กระแส เรื่อง พรบ. นี่ก็ทำเอาหลายคน มาบ่นให้พี่ฟัง แล้วก็ท้อๆ เซ็งๆ หลายคน แล้วนะ หมอนิว
เวลาพูดคุยเรื่อง กฎหมาย ท่านจะอธิบายถึงการบังคับใช้กฎหมาย พรบ. หรือวิธีการพิจารณาจริงๆของศาล
ซึ่งมักจะไม่ได้ เป็นอย่างที่เราๆ ห่วงกันอยู่จริงๆ
ผมเลยค่อนข้างสบายใจมั้งครับ แหะๆ
อย่างไรก็ตาม เห็นใจพี่น้องแพทย์ที่ทำงานหนัก ตรวจคนไข้ วันละหลายร้อยคนจริงๆครับ
- ksnk
- Verified User
- โพสต์: 414
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1664
นี่เลยครับในไทย VI มรคนที่เปิดเผยตัวว่าเป็นหมอ สักกี่คนแล้วครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 5%E0%B8%9E
-
- Verified User
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1665
ขอบคุณครับท่านประธานPaulVI
ได้ไปcompanyvisit
ihlเป็นครั้งแรกได้พบหมอreiterแต่ไม่ได้คุยกับอย่างเป็นทางการ
ก็พยายามศึกษาอ่านหนังสือให้มาก
ประสบการณ์ยังน้อยครับท่านประธาน
เน้นอ่านอย่างเดียวไปก่อนครับท่าน
ได้ไปcompanyvisit
ihlเป็นครั้งแรกได้พบหมอreiterแต่ไม่ได้คุยกับอย่างเป็นทางการ
ก็พยายามศึกษาอ่านหนังสือให้มาก
ประสบการณ์ยังน้อยครับท่านประธาน
เน้นอ่านอย่างเดียวไปก่อนครับท่าน
...High Understand, High Return...
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1666
ZhaoYunVI เขียน:ขอบคุณครับท่านประธานPaulVI
ได้ไปcompanyvisit
ihlเป็นครั้งแรกได้พบหมอreiterแต่ไม่ได้คุยกับอย่างเป็นทางการ
ก็พยายามศึกษาอ่านหนังสือให้มาก
ประสบการณ์ยังน้อยครับท่านประธาน
เน้นอ่านอย่างเดียวไปก่อนครับท่าน
มาสารภาพว่าจำพี่หมอ ZhaoYunVI ไม่ได้
เดี๋ยวถ้ามีงานมีตติ้งของหมอๆเรา ผมจะถือโอกาสเข้าไปคารวะพี่นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1667
เป็นเรื่องธรรมดาครับท่าน reiter
ผมเองเพิ่งเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกที่พบเพื่อนนักลงทุน
จำได้กว่า หมอ reiter นั่งกับพี่sai และพี่ ib
แต่ติดตามการลงทุนของหมอ reiter ว่าลงทุนแนว Jonh Neff
ผมเองพยายามอ่านทุกแนวที่หาซื้อให้ในตลาดตอนนี้ครับผม
ผมเองเพิ่งเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกที่พบเพื่อนนักลงทุน
จำได้กว่า หมอ reiter นั่งกับพี่sai และพี่ ib
แต่ติดตามการลงทุนของหมอ reiter ว่าลงทุนแนว Jonh Neff
ผมเองพยายามอ่านทุกแนวที่หาซื้อให้ในตลาดตอนนี้ครับผม
...High Understand, High Return...
-
- Verified User
- โพสต์: 666
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1668
ว่าแต่หมอ stemcell ตอนนี้ มีความรู้ เรื่องหุ้น หรือ อ่านจากหนังสืออะไร จะมาแชร์มั้ัยครับ อยากได้ความรู้เพิ่มครับ หมอ VI ท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ เอาความรู้มาแชร์กัน
ผมมีความรู้น้อยครับ ส่วนใหญ่ใช้วิธีแอบดูตามห้องต่างๆครับ ต้องให้ผู้รู้ใน web นี้แนะนำมากกว่าครับ
ผมมีความรู้น้อยครับ ส่วนใหญ่ใช้วิธีแอบดูตามห้องต่างๆครับ ต้องให้ผู้รู้ใน web นี้แนะนำมากกว่าครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1670
เผย8อาชีพเงินเดือนเกินแสน
19 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16:18 น. |เปิดอ่าน 1,463 | ความคิดเห็น 7
โดย......วิทยา ปะระมะ
นักเรียนนักศึกษายุคปัจจุบันคงปวดหัวพอสมควรว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตจากระดับมัธยมศึกษาขึ้นสู่อุดมศึกษาจะเลือกเรียนสาขาไหน คณะอะไรถึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
บ้างก็มองที่เรื่องรายได้และโอกาสรุ่งโรจน์ในอนาคต บ้างมองเรื่องความชอบและความถนัดส่วนตัว เช่น ในอดีตค่านิยมวัยรุ่นจะเรียนครู ต่อมาก็กลายเป็นหมอและวิศวกร ขณะที่ปัจจุบันเด็กอาจจะอยากเป็น AF เป็นเดอะสตาร์?
มีข้อมูลที่น่าสนใจในตลาดแรงงานปัจจุบันเกี่ยวกับตัวเลขอาชีพที่ติดอันดับทำเงินสูงสุด 20 อันดับแรกของประเทศไทย ในจำนวนนี้มี 8 อาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือน และน่าจะเป็นประโยชน์แก่น้องๆนักศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจวางทางเดินอาชีพในอนาคต
นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงที่สุดปี 2552 พบว่าผู้บริหารในระดับผู้จัดการในธุรกิจต่างๆเป็นอาชีพเฉลี่ยต่อเดือนสูงติดลำดับต้นๆของประเทศ ขณะที่อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะมีอาชีพนักบิน วิศวกร ผู้พิพากษา สถาปนิก นักคณิตศาสตร์และแพทย์ติดอันดับ 20 อาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดด้วย
สำหรับอาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือนมี 8 อาชีพประกอบด้วย 1.อาชีพนักบิน 2.41 แสนบาท 2.วิศวกรเหมืองแร่และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท 3.ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท 4.กรรมการและผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท5.ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท
6. อาชีพสถาปนิกรายได้ 1.17 แสนบาท 7.ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และ 8.วิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท
เป็นที่น่าสังเกตว่าอาชีพผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นอาชีพที่มีรายได้สูงกว่ากรรมการและผู้บริหารระดับสูง และจำนวนก็มีน้อยกว่าคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณามีประมาณ 3,700 คน ส่วนกรรมการและผู้บริหารระดับสูงมีถึง 1.6 หมื่นคน
สำหรับอาชีพที่มีรายได้ในช่วง 6 หมื่น-1 แสนบาทมี 12 อาชีพ ในจำนวนนี้อาชีพผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีระดับรายได้สูงที่สุดในบรรดาอาชีพระดับผู้จัดการด้วยกัน และพบว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์มีรายได้สูงกว่าแพทย์
โดยผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีรายได้ 8.5 หมื่นบาท นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท แพทย์ 6.9 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ 6.6 หมื่นบาท
ผู้จัดการทั่วไปด้านการผลิต 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการเกษตร 6.3 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการก่อสร้าง 6.2 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไป 6.2 หมื่นบาท และข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท
....แต่ไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องเลือกอาชีพที่ตัวเองรักและภูมิใจในเกียรติของตนเท่านั้นเป็นพอ....
เอามาให้ดูเล่นๆ :lovl:
19 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16:18 น. |เปิดอ่าน 1,463 | ความคิดเห็น 7
โดย......วิทยา ปะระมะ
นักเรียนนักศึกษายุคปัจจุบันคงปวดหัวพอสมควรว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตจากระดับมัธยมศึกษาขึ้นสู่อุดมศึกษาจะเลือกเรียนสาขาไหน คณะอะไรถึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
บ้างก็มองที่เรื่องรายได้และโอกาสรุ่งโรจน์ในอนาคต บ้างมองเรื่องความชอบและความถนัดส่วนตัว เช่น ในอดีตค่านิยมวัยรุ่นจะเรียนครู ต่อมาก็กลายเป็นหมอและวิศวกร ขณะที่ปัจจุบันเด็กอาจจะอยากเป็น AF เป็นเดอะสตาร์?
มีข้อมูลที่น่าสนใจในตลาดแรงงานปัจจุบันเกี่ยวกับตัวเลขอาชีพที่ติดอันดับทำเงินสูงสุด 20 อันดับแรกของประเทศไทย ในจำนวนนี้มี 8 อาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือน และน่าจะเป็นประโยชน์แก่น้องๆนักศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจวางทางเดินอาชีพในอนาคต
นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงที่สุดปี 2552 พบว่าผู้บริหารในระดับผู้จัดการในธุรกิจต่างๆเป็นอาชีพเฉลี่ยต่อเดือนสูงติดลำดับต้นๆของประเทศ ขณะที่อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะมีอาชีพนักบิน วิศวกร ผู้พิพากษา สถาปนิก นักคณิตศาสตร์และแพทย์ติดอันดับ 20 อาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดด้วย
สำหรับอาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือนมี 8 อาชีพประกอบด้วย 1.อาชีพนักบิน 2.41 แสนบาท 2.วิศวกรเหมืองแร่และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท 3.ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท 4.กรรมการและผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท5.ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท
6. อาชีพสถาปนิกรายได้ 1.17 แสนบาท 7.ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และ 8.วิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท
เป็นที่น่าสังเกตว่าอาชีพผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นอาชีพที่มีรายได้สูงกว่ากรรมการและผู้บริหารระดับสูง และจำนวนก็มีน้อยกว่าคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณามีประมาณ 3,700 คน ส่วนกรรมการและผู้บริหารระดับสูงมีถึง 1.6 หมื่นคน
สำหรับอาชีพที่มีรายได้ในช่วง 6 หมื่น-1 แสนบาทมี 12 อาชีพ ในจำนวนนี้อาชีพผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีระดับรายได้สูงที่สุดในบรรดาอาชีพระดับผู้จัดการด้วยกัน และพบว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์มีรายได้สูงกว่าแพทย์
โดยผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีรายได้ 8.5 หมื่นบาท นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท แพทย์ 6.9 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ 6.6 หมื่นบาท
ผู้จัดการทั่วไปด้านการผลิต 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการเกษตร 6.3 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการก่อสร้าง 6.2 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไป 6.2 หมื่นบาท และข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท
....แต่ไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องเลือกอาชีพที่ตัวเองรักและภูมิใจในเกียรติของตนเท่านั้นเป็นพอ....
เอามาให้ดูเล่นๆ :lovl:
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1672
อ่านโพลอาชีพทำเงินแสน แล้วน่าหัวร่อ :lol:
3 ปีก่อนคนจบ pure science ภาคอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ จบวิศวะเฉพาะทางมากๆอย่างผม (วิชาเรียนก้ใกล้เคียงกับข้อที่ 2 มากๆ) หางานทำยากมาก เรื่องเงินเดือนไม่ต้องคิดถึงเลย เอาให้ได้ทำงานก่อนเหอะ
ยังไงก็ขอบคุณครับ ที่ทำให้รู้ว่า demand-supply มันเปลี่ยนเร็วขนาดนี้
3 ปีก่อนคนจบ pure science ภาคอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ จบวิศวะเฉพาะทางมากๆอย่างผม (วิชาเรียนก้ใกล้เคียงกับข้อที่ 2 มากๆ) หางานทำยากมาก เรื่องเงินเดือนไม่ต้องคิดถึงเลย เอาให้ได้ทำงานก่อนเหอะ
ยังไงก็ขอบคุณครับ ที่ทำให้รู้ว่า demand-supply มันเปลี่ยนเร็วขนาดนี้
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1673
งั้นถาม บิ้ก แล้วกัน ขอความรู้หน่อยVoldtrest เขียน:อ่านโพลอาชีพทำเงินแสน แล้วน่าหัวร่อ :lol:
3 ปีก่อนคนจบ pure science ภาคอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ จบวิศวะเฉพาะทางมากๆอย่างผม (วิชาเรียนก้ใกล้เคียงกับข้อที่ 2 มากๆ) หางานทำยากมาก เรื่องเงินเดือนไม่ต้องคิดถึงเลย เอาให้ได้ทำงานก่อนเหอะ
ยังไงก็ขอบคุณครับ ที่ทำให้รู้ว่า demand-supply มันเปลี่ยนเร็วขนาดนี้
ทำไม วิศวกรเหมืองแร่ และนักโลหการ ทำไมรายได้สูงมาก แล้วเค้าทำอะไร
นักบินรายได้สูง แต่ความรับผิดชอบ และการตัดสินใจ ก็ต้องสูงเหมืือนกันนะ
อีกอย่างที่ไปสำรวจ นี่เป็น ช่วงอายุไหน จบใหม่ หรือเปล่า
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1674
วันนี้ไปประชุม กับโรงเรียนลูกมา พอดีลูกได้ทุนเรียนดี
สิ่งหนึ่งที่ค้นพบ
1.เด็กสมัยนี้ มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก สมัยก่อน ผมว่า เพิ่มอย่างน่าใจหายพอสมควร
2.พ่อแม่ สมัยนี้ก็มีความวิตก มากกว่า สมัยก่อนเยอะเช่นกัน
แต่.. ของผม รู้สึกว่า ไม่ว่าจะอาชีพอะไรในอนาคต ที่เค้าจะเลือก และจะเป็น ผมว่า ยังไง ภาษาอังกฤษ ก็เป็นพื้นฐาน ที่สำคัญมากๆ
เหนือกว่านั้น รู้สึกว่า หมดห่วงว่า เค้าคงไม่ลำบากมาก เพราะ เราจะถ่ายทอด การใช้ชีวิตและ การลงทุนจากเงินที่จะได้รับมาในอนาคตด้วย แนวความคิดแบบ VI (วกเข้าเรื่อง VI จนได้ ... )
จำได้ว่า หมอเอ๋ ณ สมุย ก็เคยมีแนวคิดเรื่อง การสอนลูก ด้วยแนว VI
ขอเชิญมาแจมหน่อยครัีบ
สิ่งหนึ่งที่ค้นพบ
1.เด็กสมัยนี้ มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก สมัยก่อน ผมว่า เพิ่มอย่างน่าใจหายพอสมควร
2.พ่อแม่ สมัยนี้ก็มีความวิตก มากกว่า สมัยก่อนเยอะเช่นกัน
แต่.. ของผม รู้สึกว่า ไม่ว่าจะอาชีพอะไรในอนาคต ที่เค้าจะเลือก และจะเป็น ผมว่า ยังไง ภาษาอังกฤษ ก็เป็นพื้นฐาน ที่สำคัญมากๆ
เหนือกว่านั้น รู้สึกว่า หมดห่วงว่า เค้าคงไม่ลำบากมาก เพราะ เราจะถ่ายทอด การใช้ชีวิตและ การลงทุนจากเงินที่จะได้รับมาในอนาคตด้วย แนวความคิดแบบ VI (วกเข้าเรื่อง VI จนได้ ... )
จำได้ว่า หมอเอ๋ ณ สมุย ก็เคยมีแนวคิดเรื่อง การสอนลูก ด้วยแนว VI
ขอเชิญมาแจมหน่อยครัีบ
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1675
สวัสดีครับ หมอมุข ลูกๆเรียนชั้นไหนกันแล้วครับ ของผมคนโตอยู่ม.1
ตอนนี้ลูกผมเขาก็รู้นะครับว่าพ่อเขาทำอะไรอยู่เป็นหลักแทนการตรวจไข้แบบเดิม ผมเองก็พยายามถ่ายทอดมุมมองของธุรกิจที่อยู่รอบตัวมาอธิบายเป็นการลงทุนให้เขาฟังนะครับ ก็คงปลูกฝังให้เขาเห็นผลดีของการลงทุน ส่วนเรื่องการศึกษาพื้นฐาน ผมเองไม่ได้ซีเรียสมาก เรียนทางด้านใดก็ได้ที่เขาชอบ เพียงแต่จะหัดให้มีนิสัยรักการอ่านไว้ก่อน ตู้หนังสือที่บ้านผมเลยมีหนังสือเพียบทั้งของผมและลูกสาว เมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อม ผมคงให้ลูกของผมเป็นนักลงทุนเต็มตัว โดยยึดแนวทางลงทุนเน้นคุณค่า ตัวผมเองคงต้องเป็นพี่เลี้ยงไปจนแน่ใจว่าเขาสามารถเอาตัวรอดปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ยั่งยืนได้
ตอนนี้ลูกผมเขาก็รู้นะครับว่าพ่อเขาทำอะไรอยู่เป็นหลักแทนการตรวจไข้แบบเดิม ผมเองก็พยายามถ่ายทอดมุมมองของธุรกิจที่อยู่รอบตัวมาอธิบายเป็นการลงทุนให้เขาฟังนะครับ ก็คงปลูกฝังให้เขาเห็นผลดีของการลงทุน ส่วนเรื่องการศึกษาพื้นฐาน ผมเองไม่ได้ซีเรียสมาก เรียนทางด้านใดก็ได้ที่เขาชอบ เพียงแต่จะหัดให้มีนิสัยรักการอ่านไว้ก่อน ตู้หนังสือที่บ้านผมเลยมีหนังสือเพียบทั้งของผมและลูกสาว เมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อม ผมคงให้ลูกของผมเป็นนักลงทุนเต็มตัว โดยยึดแนวทางลงทุนเน้นคุณค่า ตัวผมเองคงต้องเป็นพี่เลี้ยงไปจนแน่ใจว่าเขาสามารถเอาตัวรอดปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ยั่งยืนได้
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1676
ว่าจะถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหมอหลายคราแล้ว ว่า
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1677
ตัวความรู้เฉพาะทาง เขาสอนให้รู้ตั้งแต่ ชนิดของวัสดุที่เอามาใช้งานในทางวิศวกรรม คุณสมบัติของแต่ละอย่างเป็นยังไง จะผลิตออกมายังไง เงื่อนไขของการเอาไปใช้งานPaul VI เขียน:ทำไม นักโลหการ ทำไมรายได้สูงมาก แล้วเค้าทำอะไร
อย่างเหมาะสม และวินิจฉัยความเสียหายของตัววัสดุในงานให้ออกว่า ยังป้องกัน ซ่อมแซมได้ หรือหมดสภาพต้องเปลี่ยนแล้ว ประมาณนี้ครับ
คนที่จะมีรายได้สูงจากบทบาทนี้ ในเมืองไทยภาพรวมยังเป็นได้แค่ ฐานการผลิต :lol: ต้องทำงานในโรงงานเท่านั้น เพราะงานในหน่วยงานวิจัยไม่ได้มีงบประมาณพอที่จะจ่ายงามได้ขนาดนั้น เว้นเสียแต่ว่าเป็นงานที่ร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติ หรือไม่ก็หน่วยงานต่างประเทศที่มีนโยบายให้ทุนวิจัยต่อเนื่องตลอดอายุโครงการร่วมวิจัย และที่สำคัญต้องเป็น โครงการที่ใหญ่มาก มีอายุโครงการที่กินเวลาหลายปีครับ ไปตะเกียกตะกายหาที่ต่างประเทศเอา
ในอุตสาหกรรมผลิตวัสดุของเมืองไทย ผมยังไม่เห็นคนที่มีรายได้สูงๆๆจากบทบาทนักโลหการเพียวๆนะ และคิดว่าไม่ใช่หน้าที่หลักที่ทำเงินให้เค้าด้วย เท่าที่สัมผัสมาจากการไปเยี่ยมชมโรงงาน สมัยเรียนและก็ตอนทำงาน บทบาทที่ได้เงินมากสุด คือ MD ที่เป็นบอสใหญ่ (ไม่ได้รู้เรื่องเฉพาะทางมากอย่างที่คิดกัน แต่ใช้หลักบริหารองค์กรหากินเป็นหลัก) ส่วนผู้จัดการโรงงาน ไม่ได้ทำเงินมากขนาดนั้น (มีความรู้เฉพาะทางไว้วินิจฉัยปัญหาทั้งสายกระบวนการผลิต แล้วแก้ปัญหาให้สายการผลิตเดินหน้าต่อไปได้)
ปล. 2 คำถามหลังมีคำตอบในนั้นอยู่แล้ว ผมขอผ่านนะ เพราะผมก็บ่นของผมเฉยๆ ไม่ได้ตั้งคำถามอะไรครับ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1678
ยินดีต้อนรับครับ จริงๆเราก็เจอกันมานานแล้วนะครับkeeti เขียน:สมัครสมาชิกด้วยครับ
แล้วตอนนี้ ทำงานอยู่ที่ไหนแล้วครับ
คุณหมอเป็น cardiomed ผมจำได้
เป็นหมอที่ผมต้องขอฝากตัวตอนแก่ๆ แต่ผมพยายามจะไม่เป็น กินสลัดผัก omega3 ทุกวันอยู่ แฮ่ๆ... :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1679
dot ดำๆ ที่แปะบนหัว post ของกระทู้นี้หมายความว่ายังไงครับ
เห็นทั้งบนกระทู้ที่มี post ใหม่ กับ กระทู้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว
เห็นทั้งบนกระทู้ที่มี post ใหม่ กับ กระทู้ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 666
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ชมรมหมอ VI
โพสต์ที่ 1680
ว่าจะถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหมอหลายคราแล้ว ว่า
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
ว่าจะถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหมอหลายคราแล้ว ว่า
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
ส่วนตัวผมไม่เคยคิดจะเลิกทำ practice ครับ หวังว่าจะทำงานไปเรื่อยๆจนกว่าจะขี้เกียจ การลงทุนนั้นใช้เวลาน้อยมาก ( ยกเว้นตอนเฝ้าหน้าจอ แต่ก็แค่ดูไม่ได้ซื้อขาย ) ถ้าออกมาลงทุนอย่างเดียวกลัวว่าจะว่างไป ผมว่าบริหารเวลา กับ บริหารการทำงานดีกว่าครับ ทำให้ได้ว่าอยากเที่ยวก็ได้เที่ยว อยากกินอะไรก็กินได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ ตอนนี้พอร์ทผมโตเยอะแต่กินอยู่เหมือนเดิม ก็เลยรู้สึกเฉยๆว่าจะโตกว่านี้ 100 เท่า ก็ใช้เหมือนเดิม ลูกๆถ้าโตจบมหาลัยก็ให้หาตังค์ใช้กันเอง แต่คงประคองห่างๆ( แต่เตรียมเงินให้พอจบมหาลัยแล้ว ลูก 3 คนอนุบาลอยู่)
ยิ่งมี research ว่าถ้าเกษียณ มีโอกาส major depression , อัลไซเมอร์ , ชีวิตเหี่ยวเฉาง่าย คงทำแพทย์ไปเรื่อย แก้เซ้ง
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
ว่าจะถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหมอหลายคราแล้ว ว่า
คิดจะเลิกทำ practice มาเป็นนักลงทุนเต็มตัวกันหรือเปล่าครับ ถ้า ok คิดว่าควรจะมีพอร์ตลงทุนเท่าไหร่กันครับถึงจะถอยออกมาเต็มตัวได้
ผมเองตอนนี้ก็ใกล้แล้วครับคิดว่าภายในปีสองปีนี้คงเลิกทำคลินิกครับ รู้สึกมันไม่ท้าทายเหมือนการได้มาเฟ้นหาหุ้นลงทุนครับ
ส่วนตัวผมไม่เคยคิดจะเลิกทำ practice ครับ หวังว่าจะทำงานไปเรื่อยๆจนกว่าจะขี้เกียจ การลงทุนนั้นใช้เวลาน้อยมาก ( ยกเว้นตอนเฝ้าหน้าจอ แต่ก็แค่ดูไม่ได้ซื้อขาย ) ถ้าออกมาลงทุนอย่างเดียวกลัวว่าจะว่างไป ผมว่าบริหารเวลา กับ บริหารการทำงานดีกว่าครับ ทำให้ได้ว่าอยากเที่ยวก็ได้เที่ยว อยากกินอะไรก็กินได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ ตอนนี้พอร์ทผมโตเยอะแต่กินอยู่เหมือนเดิม ก็เลยรู้สึกเฉยๆว่าจะโตกว่านี้ 100 เท่า ก็ใช้เหมือนเดิม ลูกๆถ้าโตจบมหาลัยก็ให้หาตังค์ใช้กันเอง แต่คงประคองห่างๆ( แต่เตรียมเงินให้พอจบมหาลัยแล้ว ลูก 3 คนอนุบาลอยู่)
ยิ่งมี research ว่าถ้าเกษียณ มีโอกาส major depression , อัลไซเมอร์ , ชีวิตเหี่ยวเฉาง่าย คงทำแพทย์ไปเรื่อย แก้เซ้ง