@@กระทู้ล่อเป้า@@ ชีวิตการออม ตอนที่ 1

[chakkarin]

สวัสดี ครับ พ่อแม่พี่น้อง


คืออ่านของเขามาเยอะ ตั้งแต่ ปี 51 พอบังคับ login เลยรู้สึกว่าควรต้องแชร์ให้คนอื่นบ้าง


ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องส่วนตัวก่อนนะครับ พอให้พี่ๆเพื่อนๆ พอนึกภาพผมออก

ปัจจุบันผมเป็นมนุษย์เงินเดือนต่างจังหวัดคนหนึ่ง  อายุก็ประมาณ รุ่นๆ แฟนฉันตอนกลางๆ อะ คือไปดูหนังแล้วคิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ เลยครับ

มาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ไม่รวยแต่ก็ไม่จน ถูกสอนหลายๆเรื่องที่รู้สึกถูกบังคับเสมอๆ เช่น ห้ามกินขนมในตู้เย็น ถ้ากินข้าวไม่เสร็จและ ไม่ได้รับอนุญาต   ให้เขียนบันทึกกิจวัตร และค่าใช้จ่าย  นวดคุณแม่โดยมีเงินรางวัล 1-5 บาท ซื้อกระปุก พาไปออมเงินที่ธนาคารออมสิน พาเดินจากที่ทำงาน กลับบ้าน ประมาณ 3 กม.เศษ เป็นครั้งคราว ทั้งที่มีเงินค่ารถเมล์  และอีกหลายอย่างที่จำไม่ได้ แต่คิดแล้ว มันหล่อหลอมให้ผมถูกน้องๆ กล่าวหา(หรือเป็นจริงก็ไม่รู้) เรื่อยๆ ว่า ขี้เหนียว   แต่ข้อดีก็คือ อดทน  
มาคิดย้อนหลัง ก็คิดว่าเพราะ  ตอน น้องๆ คุณแม่เริ่มผ่อนคลายกฏ เพราะ ครอบครัวมีฐานะดีขึ้นบ้าง

เด็กๆอยู่กรุงเทพ
เริ่มลงทุนตั้งแต่ สมัย ประถม ด้วยการออมเงินฝากประจำจากเงินค่าขนม ถ้าจำไม่ผิดช่วงแรกๆได้ไปวันละ 2 บาท เป็นค่าขนมจริงๆ ไม่รวมค่าข้าว ค่าเดินทาง สมัยนั้น ไอติม แท่งละ 1 บาท รสโปรด คือ รสถั่วดำ ( ไม่รู้ตอนนั้นชอบไปได้ไงเนาะ  :oops:  :oops:  ) แล้วถ้าต้องใช้จ่ายอะไรเพิ่มเช่น ค่าสมุด หนังสือ เป็นต้น ก็ขอต่างหากได้ แต่สงสัยมากว่าสมัยนั้น ซื่อสัตย์มาก ไม่เคยแม้แต่จะคิด ว่าจะขอเอามาใช้เองแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่พ่อแม่ก็ไม่ได้เช็คละเอียดอะไรเลย  เก็บเข้าธ.ออมสินเมื่อกระปุกเต็ม ไม่ได้เอามาใช้เลย ตอนนั้นฝันเห็นตัวเลขในบัญชี สูงๆ  เก็บจนม.ปลาย ได้ 30000 กว่าบาท สมัยข้าวแกงจานละ 10-20 บาทได้ คุณแม่จำเป็นต้องใช้เงิน  ท่านบอกขอยืมใช้ก่อน รู้สึกเสียดาย แต่รู้สึกผิดถ้าไม่ให้ท่าน เลยปิดบัญชีมาให้ สุดท้ายไม่ได้คืน ตอนช่วงปีแรก มีเคืองท่าน แต่ หลายปีถัดมา ลืม คิดถึงมันแล้ว พอมาตอนนี้คิดย้อนไป ไม่รู้จะโกรธไปทำไม ถ้าเทียบกับสิ่งที่ท่านทำให้มา 30000 กว่าบาทเนี่ย ไม่เห็นฝุ่นเลย

ขอตัดตอน ไปทำงานก่อนนะครับ พิมพ์ช้า เดี๋ยวค่อยมาต่อตอน 2

[mprandy]

เด๋วนี้เรามีกระทู้ไดอารี่กันแล้วเหรอครับเนี่ย

[นพพร]

เข้ามารออ่านเหมือนกันครับ

[chakkarin]

ตอนที่ 2  เริ่มออม +เก็งกำไร+ วิกฤต โศกนาฎกรรม  1
พอเข้ามหาลัย ตจว.มาอยู่หอพัก ได้เงินเดือนละ 1500 บาท ไม่รวมค่าหอพัก ค่าเทอม ค่าพิเศษ ขอได้เป็นครั้งคราว อีกเช่นกัน ไม่เคยขอมาใช้ส่วนตัวซักครั้ง ( รู้สึกภูมิใจที่ซื่อสัตย์อะครับ) ก็ใช้เหลือเก็บมาเรื่อยๆ ฝากออมทรัพย์
จนปี 2-3 ได้มั้ง พ่อให้สลากออมสิน รู้สึก 3000บาท มั้ง เป็นของขวัญวันเกิด
ตอนนั้นเป็นเงินก้อนใหญ่สุดที่ได้เปล่าๆ แต่พ่อห้ามถอนก่อนครบ 3 ปี ไม่มีโชคอะไร ฝากได้รางวัล เลขท้าย 100-200 บาท ไม่รู้ 1-2 ครั้ง ตอนนั้นถ้าคิดฝากประจำจริงๆ ได้เงินมากกว่า
เลยเริ่มมาคิดเอง ขณะฝากออมทรัพย์อยู่ อ้าว เห็นฝาก 24 เดือน ปลอดภาษี ตอนนั้นไม่คิดอะไร เห็นว่า ดอกเยอะกว่าฝากประจำ และไม่เสีย 15 % ก็เอาเลย พอฝากจนครบ รู้สึกอยู่ ปี 4 ได้มั้ง ได้เงินมาก้อนหนึง ไม่รู้ทำอะไร เดินผ่านธ. กรุงเทพ เห็นกองทุนรวม สนใจ ไปถามรายละเอียด แล้วก็ไม่กล้าอยู่พักหนึ่ง ก็เริ่มซื้อ ทีละน้อย ตอนแรก ก็ลุ้น อ่านนสพ.ทุกวัน ว่าnav จะขึ้น ลง แล้วก็ซื้อๆ ขาย ๆ รายอาทิตย์ อย่างมากก็ถือเป็นเดือน กำไร บ้าง ขาดทุนบ้าง แต่กำไร มากกว่า จน พีคปี 39 หุ้นไป 1700 จุด ได้ใจ ซื้อ สุดๆ  :lol:  :lol: ประมาณ 1 แสน เศษ จากนั้นหุ้นก็เริมลง ยังปลอบใจ ตัวเอง ไม่ขาย ไม่ขาดทุน มีตก ก็ต้องมีขึ้น จนมันลงมาเรื่อยๆ ไม่กล้าขาย จนลง มาถึง 200 จุด
พอดี เรียน นาน 6 ปี ถึงจบ  เริ่มทำงาน ราวปี 41-42 ก็ ตัดขายซะงั้น ใช้เวลาทำใจอยู่หลายปี 55555  เอ้อ ไม่รู้อะไรดลใจ จำไม่ได้ เข้าใจว่า ถือมานานแล้ว กำลังจะไปทำงานที่กันดารแล้ว ซื้อขาย ก็ไม่สะดวก เริ่มต้นชีวิตใหม่  บลาๆๆๆๆๆ  ที่สำคัญ คิดไม่เป็น    
เอ้อ ก้อทนถือขาดทุนมาได้ตั้งนาน พอมันจะขึ้นก็รีบขายก่อนซะงั้น  ขาดทุน หลังหักกำไรไปแล้ว 70000 กว่าบาท   ตอนนั้นไม่กล้า บอกใคร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ที่บ้าน  ว่าลงทุนในกองทุนรวม เพราะ ตอนนั้นที่บ้าน เพื่อนๆ ไม่เคยมีใครพูดกันถึงหุ้น การลงทุนในกองทุนรวมเลย ตอนไปซื้อกองทุนรวม พนง. ธนาคาร หลายคน ยังบอกไม่รู้เรื่องต้องถามพนง.ชื่อนี้เท่านั้น  บางคน นึกว่าเรามาฝากเงินด้วยซ้ำ สงสัยตอนนั้นหน้าอ่อน อิอิ    
ตอนได้กำไร อยากตะโกนบอกให้เพื่อนๆ รู้ ว่า เราเก่งนะ หาเงินได้เอง แต่คนอื่นเค้าคุยเรื่อง เรียน สนุ๊ก ( พอดีช่วงนั้น ต๋อง กำลังมาแรง ) บอล  ละคร  เลยไม่กล้าคุย พอช่วงขาดทุน ไม่ต้องพูดถึง กำไรยังไม่กล้าเล่าเลย ขาดทุนจะกล้าได้ไง   เพิ่งมารู้ทีหลังซัก 2-3 ปี หลังนี้เองว่า มีคุณพ่อเดินร่วมทาง  แต่ต่างคนต่างเกร็ง..... กำไร กันโดยคุณพ่อ ท่านไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นเหมือนกัน แต่ท่านเก็งว่า ตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะได้ชัยชนะ แล้วท่านคิดเองว่า เศรษฐกิจจะดี  ท่านก็ซัดไป 1 ล้าน เสร็จแล้ว เคยคุยกัน ท่านบอกว่า ตอนนี้เหมือนเป็นเศษกระดาษเลย
ดีที่พ่อลูก คู่นี้เหมือนกันอยู่อย่าง คือ ไม่กู้มาเล่น  แต่คุณพ่อ อดทนกว่า ไม่ยอมขายจนปัจจุบัน แต่คุณลูก วัยรุ่นใจร้อน ทนไม่ไหว เลยโดนซะ 5555

[chakkarin]

ขอบคุณหมอแพรนดี้  ที่ย้ายกระทู้ มาห้องนี้ ครับ

ตอนแรกไม่รู้ กระทู้หายไปไหน อ้อ เลยได้รู้จักและมาอ่านเรื่องคนอื่นในห้องนี้ด้วย

ขอบคุณครับ

[Anti-Aircraft]

[quote="chakkarin"]ขอบคุณหมอแพรนดี้

[oatty]

ว่าแต่เป้าที่ล่อนี่ จะให้ชก หรือให้เตะ  :shock:

[Anti-Aircraft]

[quote="oatty"]ว่าแต่เป้าที่ล่อนี่ จะให้ชก หรือให้เตะ

[mprandy]

เอ่อ ... ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ

ผมไม่ได้เปนมด ผมไม่มีอำนาจในการย้าย ลบ ล็อค อะไรได้ในเวบนี้

อย่าเข้าใจผิดนะครับ

[Paul VI]

ทำไม คุณ จักรินทร์ จะต้องใช้ชื่อ กระทู้ล่อเป้า เพื่ออะไรครับ  :?:

[chakkarin]

ตอนที่ 3  วิกฤต  ครั้งที่ 2   subprime
ไม่เข็ด เริ่มซ่าอีกครั้ง ตอนปลายปี 43   คราวนี้เปลี่ยนเป็นกองทุน set ของไทยพาณิชย์ .ซื้อๆขายๆ เหมือนเดิม   แต่ถือยาว ขึ้นเป็นเดือน ..ช่างกล้าพูดเนอะ จนสิงหา 46  
คราวนี้ กำไร 370000 เพราะหุ้นขึ้น จากเงินต้น เท่าไหร่ไม่รู้ เพราะเติมเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเงินเก็บจากการทำงาน กับเงินที่เหลือจากการขาดทุน อย่างเดียว
คิดว่าตัวเองเก่ง.. เลยไปเปิดพอร์ต กับธนชาติ ก่อน ตามด้วย KGI เพราะกระจายความเสี่ยงกับ ที่ใหม่สะดวกกว่า
ตัวแรกที่ซื้อ ซ่ามาก kgi-w4 .89 บาท 50000 หุ้น ..จำได้เหตุผลไม่มีอะไร หุ้นหลักทรัพย์ vol. ปี 46 กำลังมา ต้องกำไรแน่ๆ
ซื้อหุ้นก็กำไรช้า ซื้อ w ดีกว่า
มาดูย้อนหลัง .คิดได้ไงเนี่ย ..เป็นตัวแรกจริงๆ เลย
แต่กำไรแฮะ ใน ประมาณเกือบเดือน ได้มา 10%
โอ้โห!!!      ฝันหวานเลย อย่างนี้ 1 ปี ไม่ได้ 100 % เหรอเนี่ย  
ก็เล่นหุ้นประมาณนี้มาตลอด จากนั้นความจริงเริ่มปรากฏว่า ตัวที่ถืออยู่ขาดทุนทั้งนั้นเลย  
วิธีถัดมาคือคิดว่า เป็นเพราะเราอยู่วงนอก ตามข่าวไม่ทัน ก็เริ่มอ่านนสพ. ข่าวหุ้นหรืออะไรทำนองเนี้ยเกือบทุกวัน  ผลเหรอครับ..
ปรากฏ ว่ายิ่งหนักข้อ  555555
เลย เริ่มเปลี่ยนวิธีคือ ดู pe  pb ดีสุด ก็ตั้งรอ แบบใจไม่กล้าอะ พอมันขึ้นซักพัก ก็กลัวไม่ได้ก็ซื้อตาม มันดันตกซะได้  
ก็ถือไป เพราะคิดว่าหุ้นดี ได้ปันผลบ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้ากำไรซัก 1- 20% ก็ขายแล้ว
day trade ก็ลองมาแล้ว  ( พูดเหมือนภูมิใจ หึหึ  ) ขาดทุนทั้งนั้น ยังดีลองไม่บ่อย เพราะต้องทำงาน เป็นหลัก
ยังยึดหลักเดิม limit profit unlimit loss คือขึ้นขาย ลงถือต่อ  ไม่ขายไม่ขาดทุน
กระจาย ถือหุ้น 30-40 ตัว..
เสียภาษีที ใบปันผลเป็นปึก อาย เกรงใจ เจ้าหน้าที่ภาษีเหมือนกันเวลาเครดิตที คือซื้อตัวละ 40000 บาทประมาณนั้น
อ้อ ปี 47 เริ่มอ่านหนังสือ ตีแตก ของดร. จนจบ
เห็นกราฟ ผลตอบแทน แล้วทึ่ง !!!     ทำได้ไงอะ
เล่มอื่นก็อ่านบ้าง  ด้านเทคนิคก็อ่าน เค้าอบรมเทคนิคก็เคยไป แต่เข้าไม่ครบ แต่จำเนื้อหาสาระ ไม่ได้
(คือคนมันเล่นหุ้น ไง มันเลยไม่เคยศึกษาจริงจัง )
ที่สำคัญกว่า คือตอนอ่านก็เห็นว่าดี แต่ไม่เคยเอามาใช้ซักที ทำให้ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยตัวเอง
แต่ดีหน่อย ที่ปี 49 เริ่มซื้อ ltf แต่เพราะเหตุผลแค่ทางภาษี เท่านั้น
แล้ว ปี 50 เริ่มซื้อ rmf ด้วยเหตุผลเดียวกัน
จนปี 51 วิกฤต ครั้งที่ 2 ไม่จำ เหมือนเดิม  .
จากกำไรสะสมหุ้น 5 ปี ประมาณ 730000 บาท  
ขายทิ้งไปเกือบหมดจากport ประมาณ เกือบ 4 ล้าน  จากทั้ง 2 ที่ ตอนเดือน ก.ค
เกือบ low พอดี ขาดทุนเฉพาะหุ้น ประมาณ 2.2 ล้าน บาท
เหลือไว้แต่ makro แต่ แค่ 500 หุ้น เพราะขาดทุน แต่เห็นว่าบริษัทยังดี และจ่ายปันผลเยอะ
ปี 50 มีความโง่ขั้นเทพอีกอย่างมาเยือน ด้วยความโลภ
เริ่มเก็งกำไร tfex  ด้วยความเชื่อ กำไรทั้งขาขึ้น ลง   คิดแต่ upside
. ลืม คิด  downside   ขาดทุนทั้งขึ้น ลงและค่าคอม เพราะ โลภ และ หลง
จนปี 53 ปัจจุบัน ขาดทุนอีก ประมาณ 1. 5ล้าน จาก เงินต้น ประมาณ 1.7 ล้าน
. ผมเชื่อว่า ผมติดอันดับ ขาดทุนจากtfex มากที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก
ไม่นับรวมคนที่กู้เขามาเล่นนะครับ  เป็นสถิติที่ น่าเศร้าใจจริงๆ

[chakkarin]

ขอโทษด้วยครับ หมอพอล วีไอ

คือ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นกระทู้ล่อเป้า จริงๆ ครับ

[Paul VI]

ขอโทษด้วยครับ หมอพอล วีไอ

คือ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นกระทู้ล่อเป้า จริงๆ ครับ

เปล่าครับ ผมเพียงอยากรู้น่ะครับ

อยากเปลี่ยนชื่อหรือเปล่าล่ะครับ จะเปลี่ยนให้ เห็นว่าที่เล่ามาเป็นความรู้ในการลงทุนที่อยากเล่าเรื่อง การพลาด เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆท่านอื่นน่ะครับ

[thaloengsak]

ขอโทษด้วยครับ หมอพอล วีไอ

คือ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นกระทู้ล่อเป้า จริงๆ ครับ

เปล่าครับ ผมเพียงอยากรู้น่ะครับ

อยากเปลี่ยนชื่อหรือเปล่าล่ะครับ จะเปลี่ยนให้ เห็นว่าที่เล่ามาเป็นความรู้ในการลงทุนที่อยากเล่าเรื่อง การพลาด เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆท่านอื่นน่ะครับ

เห็นด้วยครับถ้าจะให้พี่หมอเปลี่ยนชื่อ
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์ เป็นคติสอนใจ

[chakkarin]

ตอนที่ 4 อวสาน( คิดว่า) การเป็นนักเก็งกำไรสู่การเริ่มเป็นvi  ตอน 4 ( จบ )
ปลายปี 51 หลังขายหุ้นเกือบหมดแล้ว ยกเว้น ที่อยู่ใน ltf rmf .
เพราะขายไม่ได้ 5555  เซ็งกับหุ้น แต่ตอนนั้นยังระเริงกับ tfex อยู่ ..
เริ่มมาเห็นweb thaivi จากlink ของดร.
จากนั้นก็เริ่มเป็นอ่านบ้างเป็นครั้งคราว แต่ยังเกร็ง tfex อยู่ เลยนานๆ มาอ่านที
จนปี 51 ต้น ปี ไม่รู้ทำอีท่าไหน เมียจับได้ว่าเล่นหุ้น หรือเผลอบอกไปก็ไม่รู้
ตอนแรกเค้าก็ตกใจ และก็เตือนๆ แต่ไม่ถึงกับห้าม .
คือ เราแยกกระเป๋าเงินกัน และมีเงินกองกลางส่วนหนึ่งใช้ร่วมกัน
แต่ผมใช้เงินเก็บส่วนตัวเท่านั้นเล่นหุ้น
จนมากลางๆปี มั้ง เธอเริ่มสนใจเล่นด้วย
โดยให้ผมแนะนำข้อมูลและจังหวะบ้าง  และเธอตัดสินใจเลือกหุ้น ซื้อ ขายเองในส่วนเงินส่วนตัวของเธอ ด้วยเงิน 4-5 หมื่นได้
เธอคิดดีกว่าผมอีกครับ เลือกแต่หุ้น brand name แข็งๆ ทั้งนั้น
ท่านผู้อ่านคิดว่าผลจะเป็นไงครับ...........
55555     เตี้ยอุ้มค่อมไงครับ..........ทำได้อยู่หลายเดือน ก้อเจ๊งครับ ขาดทุน เธอจึงเลิก
ต่อมาอีก โอกาสเริ่มจาก เงินกองกลางที่เราฝากประจำครบdeal แล้ว ดบ.ต่อน้อยมากๆ  
ผมเลยเสนอให้เอามาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาเพื่อหวังกินปันผล ให้ผมตัดสินใจลงทุน
แล้วพอผลตอบแทนค่อนข้างดีคือ ประมาณ 10% ต่อปี บวก capital gain อีก นิดหน่อย
เธอจึงเห็นด้วยที่จะให้ผมลงในหุ้นด้วย
แต่ผมจะบอกเธอก่อนถึงเหตุผลที่จะซื้อ เลือกหุ้นนี้ หรือขาย
และบอกเธอว่าจะถือยาวเป็นส่วนใหญ่ เพราะเห็นว่า เราแทบไม่ได้เฝ้าราคากองทุนรวมเลย
.ก็กำไรได้ดีกว่า นั่งเฝ้าหุ้นที่ขาดทุนเสียอีก
ต้องบอกว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนของผมเลย
คือ เดิม ผมคิดว่าเงินผมเก็บคนเดียว เจ๊งคนเดียว
ยังไงก็เงินเย็นไม่เดือดร้อนใคร ไม่บอกใคร
ทั้งๆที่รู้ว่าควรเลือกหุ้นพื้นฐานดี ถือยาวๆ แต่ก็ทำไม่ได้
แต่พอใช้เงินกองกลาง  ความรับผิดชอบมันมาทันที
ซื้อทีต้องคิดนานขึ้น  จะขายทีก็ต้องคิดเหตุผลนาน จนบางทีในที่สุดไม่ขายดีกว่า
นอกจากนี้ ยังไม่กระจายหุ้นมาก ถือแค่ 6 ตัว  
.จน ปีที่ผ่านมาพอร์ตกองกลาง ขายแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
ซึ่งในที่สุดก็มีผลต่อ พอร์ต ของผมไปโดยปริยาย ทำให้ผมขายหุ้นยากขึ้น
แม้พอร์ตผม จะถือ 8-15  ตัว( ซ้ำกับพอร์ตกองกลาง 3 ตัว ) และซื้อขาย ถี่กว่า ก็ตาม  
ต้องขอขอบคุณ ท่านดร. ที่จุดประกาย ผู้ให้ผมลอกการบ้านทั้งหลายใน 100 คน 100 หุ้น  
และที่สำคัญที่สุด
ภรรยาผม ครับที่ทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม  หลังมีความรู้งูๆปลาๆ มานาน  
แต่ขอย้ำว่า แค่เริ่มเปลี่ยนครับ ยังต้องฝึกความอดทน อีกมาก  
เห็นกำไรทีอดขายไม่ค่อยได้ซักที
 นี่แหละหนา เค้าว่า  มีเมียดี เหมือนมีแม่ อิอิ
คือตอนนี้ ผมคิดว่า  ผมมี......
วินัยในการเก็บเงิน  ดีเยี่ยม ( เพราะพ่อแม่สอนมาดี ครับ)
วินัยในการเก็งกำไร  ห่วยแตก (ขออภัยถ้าไม่สุภาพ )
วินัยการลงทุน เริ่มเตาะแตะ
ผมเชื่อมาได้ซักปี หลังวิกฤต แล้วว่า............
สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุน คือ...... ใจ..... สำคัญกว่า ความรู้ จำนวนเงิน
หวังว่าวิกฤต ครั้งต่อไป ผมจะมีสติมากกว่านี้ครับ
สาธุๆๆๆๆๆ ........
แน่....... ออกแนวพึ่งพระ พึ่งเจ้า มากกว่าตัวเองอีกแล้ว อิอิ
ไม่น่าเชื่อว่า ผมจะมาไกลขนาดนี้ในเรื่องการเขียน
ตอนแรกผมคิดแค่ว่า อ่านเค้ามาเยอะ เอาเรื่องของเรามาแชร์บ้าง
คิดว่าจะแชร์ ชื่อหุ้นที่ผมซื้อ เวลา ราคา และเหตุผล ที่ซื้อ ขาย หุ้นที่ถืออยู่ปัจจุบัน
เพื่อต้องการคำติชม จากเพื่อนๆ พี่ๆ เซียนๆ ทั้งหลาย  
แต่ช้าแต่.........แต่อ่านกระทู้ คนอื่นที่เคยโพสต์ คล้ายๆกันนี้ เช่น  น้องเวย์ น้องคงคาม (ถ้าอ่านชื่อผิดก็ขออภัย )
แล้วสงสารน้องทั้ง 2 คน เพราะถูกบางท่านตีความว่ามีเจตนาแอบแฝง  
อ่านกระทู้ของน้องแล้ว คิดว่าน้องเหมือนผมตอนนั้นเลย
แต่น้องเวย์ เก่งกว่าผมตอนนั้นแบบไม่เห็นฝุ่น
ขณะเดียวกันก็เข้าใจ moderator เพราะเว็บเปิดกว้าง ใครมาอ่านก็ได้  ตีความอย่างไรก็ได้
อาจทำให้ท่านอื่นเข้าใจผิด เกิดความรู้สึกโลภเหมือนผมได้  
เลย ตั้งชื่อว่า   กระทู้ล่อเป้า .
ส่อเจตนาให้ชัดๆ  ให้มันรู้กันไปเลย
ถ้าจะถูกแบน หรือย้ายจะได้สะดวกสำหรับ มด
หรือสำหรับคนอ่าน จะได้ระวังตัวไว้ก่อน จะได้ไม่เข้ามาอ่าน
ส่วนคนที่ตัดสินใจอ่านถือว่า มีวิจารณญาณแล้ว.......... เพราะเราเตือนคุณแล้วนี่ฮะ
พอมาเริ่มเล่าเรื่องตัวเองก่อน จะโพสต์กระทู้ล่อเป้านี้ไปเรื่อยๆ
.......... ได้เรียนรู้ เกี่ยวกับชีวิตตนเองมากขึ้น เพราะต้องกลับไปรื้อบันทึกเก่าๆ
ขอบคุณเว็บนี้ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้จักตัวเองมากขึ้น
ไม่เขียนก็ไม่ค่อยได้คิด พยายามลืมๆ ช่วงเวลาที่เลวร้ายไป
หวังว่านิทานชีวิตจริง ฉบับนี้ของผมจะทำให้ทุกท่านดูไว้ว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
แล้วอย่าเลียนแบบ อย่าทำตามเลยครับ
ปล. ผมเลยเปลี่ยนใจไม่โพสต์ ชื่อหุ้นที่ผมถือและเหตุผล แล้วครับ จากการเรียนรู้ครั้งนี้
หากมีชื่อหุ้น หรือจำนวน ขอให้ท่านผู้อ่านอย่าเชื่อ หรือ ซื้อ หรือขายตาม โดยไม่ทำการบ้านนะครับ

จบจริงๆแล้ว  ภูมิใจตัวเอง ที่กล้าเล่า ประสบการณ์ล้มเหลว และเป็นบันทึกเรื่องการเงินเรื่องแรกของผม  
ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับการติดตามอ่านและ คำติชม ครับ

[chakkarin]

เรียนคุณโอ๊ตตี้ ครับ

จะชก หรือเตะ ก็แล้วแต่คุณ ครับ ผมจะได้จำ ไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก ครับ

[chakkarin]

ส่วนเรื่องเปลียนชื่อ
ตอนแรกก็อยากเปลี่ยนครับ เดี๋ยวไม่มีกล้ามาอ่านกระทู้นี้กัน แต่ตอนนี้คิดว่าคงไว้นะดีแล้วครับ จะได้เตือนใจตัวเองครับ

ขอบคุณหมอพอล ที่หวังดีครับ

[Paul VI]

ส่วนเรื่องเปลียนชื่อ
ตอนแรกก็อยากเปลี่ยนครับ เดี๋ยวไม่มีกล้ามาอ่านกระทู้นี้กัน แต่ตอนนี้คิดว่าคงไว้นะดีแล้วครับ จะได้เตือนใจตัวเองครับ

ขอบคุณหมอพอล ที่หวังดีครับ

ครับผม

[hsf]

:lol:ดีครับมาแชร์กัน ของผมก็ไม่คิดจะเล่าหรอกชีวิตตัวเอง แต่ต้องเล่าเพราะมีคนเอาไปลงในพันทิพ จนเป็นกระแสว่าพวก VI เป็น 14 หลัก 13 หลัก (เนื่องจากผมดันไปเขียนในblog ของ อ.นิเวศ ตอน กำเนิด VI) โดยลืมไปถึงผลกระทบเพราะนึกว่าคงไม่มีใครสนใจ comment กะว่าอาจารย์ได้อ่านเป็นหลัก

พอโดนคนถามในพันทิพเรื่องหาเงินมาอย่างไรผมเลย ชั่งใจพอสมควร เพราะเล่าไปก็อาจเกิดกระแสอีก ประกอบกับในพันทิพผมไม่มีlogin เลยมาเล่าในนี้เพราะคนที่ถามคงอ่านเจอในบทความของสุยอดเซียน VI เลยเดาเอาว่าคนที่ถามคงเล่นเว็บนี้ด้วย

คนที่เข้ามาว่าหรืออะไรผมก็ไม่ได้โกรธเพราะเตรียมใจไว้แล้ว ผมแค่รู้เพียงว่าผมเอาประสบการณ์ของคนอื่นมาเรียนรู้และปรับใช้กับชีวิต มาโดยตลอดการได้อ่านบทความเรื่องชีวิตของคนอื่น มันไม่ได้เสียหายแถมถ้าเหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดกับเรา เราจะได้เลือกทางที่ดีที่สุดได้ เลยเลือกที่จะแชร์ประสบการณ์ตัวเองเพื่อให้คนอื่นๆได้ศึกษา

[thaloengsak]

+3สำหรับhsf
+1สำหรับพี่chakkarin

[san]

เข้ามาช้า  แต่ก็ดีใจที่ได้อ่านครับ
ถ้าคิดถึงอดีตมาก  ก็เรียกว่าสูงอายุแล้วครับ
เพือนๆผมเรียกว่า คนแก่ครับ
555

[san]

ทุกคนมีข้อผิดพลาดทั้งนั้นครับ
เนอะ
แต่ถ้าเราเรียนรู้  เราผิดน้อยลง  ก็คือกำไรมากขึ้น
การลงทุนในหุ้น  ถ้าผิดน้อยลงเมื่อไร  กำไรมันมากขึ้นจริงๆครับ
พยายามอ่านมากขึ้น

เลยลองลงทุน 2 port

port 1  ของผม  
port 2  ของตัวเล็ก ลูกผมเองครับ   เล่นไปตาม  step  ตาม  บทความของ คุณลูกอีสาน  พอได้เค้าลาง  เล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน  เสี่ยงๆ ไม่เอา

เจตนาเปรียบเทียบกัน


สรุป  

port 1 เรื่อยๆ มาเรียงๆ  เพราะว่ามีทั้งถูกกับมีทั้งผิด  ขาดทุนมันมาลดกำไรที่ควรจะได้  อันนี้ซื้อเพราะว่านิสัยดั้งเดิม  hyper  อยู่ไม่สุข  ชอบเดาตลาด  ดูราคา  price  pattern มากไป

port 2 ดี....มันมีแต่กำไร  มีตัวขาดทุนน้อยมากๆ  ที่จะมาลดกำไรของมัน  ทำให้กำไร จะเป็นกอบเป็นกำ  พยายามจำกัดการเคลื่อนไหวของ port   ก่อนเข้าซื้อ หลังจากดูเรื่องกิจการ  เรื่อง บช  ก็จะดูเรื่อง กราฟ หน่อย  นานๆ ซื้อขายทีนึง

แต่  ทั้ง 2  port  ก็  ยังทิ้งนิสัย  คนชอบดูกราฟ ไม่ได้เลย  ยสเสพติดรึไงเนี่ย  555

เพียงแต่รู้ว่า  อย่าเชื่อกราฟมาก  เพราะว่าเราดูไม่เก่ง   กราฟบางตัว มันไวไป ไม่เหมาะ   มันคล้ายๆกับ gt200  ที่มันมีถูกบ้างมีผิดบ้าง  
ตอนหลังเลยเลือกดูแค่กราฟบางตัว  กับ บาง pattern  เท่านั้น  ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน trend  เน้นไปที่   macd   ,   divergence  
แต่ก่อนจะดูกราฟ  ต้องดูการเติบโตของธุรกิจจริงๆ  ว่าเป็นไง อันนั้นตาม  step  ของ  คุณลูกอีสาน   ต้องขอขอบคุณคุณลูกอีสานจริงๆ

กะลังสงสัยอยู่ว่า   จริงๆแล้ว  สรุป  อะไรได้  ไม่ได้ หว่า   เพราะว่า  เที่ยวนี้  ลิงซื้อหุ้นแล้วเก็บนะครับ  ลิงก็รวยครับ

win win เกม  ทุกคนหาตังใช้
ที่สำคัญ หาตังเลือกตั้งครับ
นึกถึง 3K  ที่เป็นคน  ที่ไม่ใช่หุ้นนะครับ

[san]

ปี 46  ลง 100  บาท ได้มา 100 บาท
คิดว่าแน่แล้วเรา  ชักเหลิง....
555

ลามไปเล่น วอ   ด้วย  สนุกใหญ่เลยครับ เพือ่นเอามั่ง พาเพื่อนที่ทำงาน ขาดทุนคนละ 2-3 แสน 555  ทุกวันนี้เพื่อนผมยังบ่นผมเรื่อง วอ อยู่เลย
555

ปี 47-50  ตลาดมันเอาคืนหมดเลย 100 บาท ที่กำไรมา
ปี 52  ได้กลับมา 30 บาท  ไม่มากเท่าไร เสียดายอยู่ เพราะว่าเอาเงินไปทำการค้าหมด

จำได้ตอนที่ ดร นิเวศน์  พูด  ปี52 ต้น ปี นะครับ  ออกทีวี    ตอนที่  SCC  100+-
ออกทีวี พร้อมกัน  กับนักวิเคราะห์ 3 หรือว่า 4 คน จำไม่ได้แล้วครับ

นักวิเคราะห์ทุกคนบอกอย่าพึ่งซื้อ       ดร.ท่านบอกว่าซื้อลูกเดียว ท่านอธิบายเหตุผลให้ฟังด้วย  ท่านบอกว่า อย่ามองแค่ปีหน้า ว่าจะฟื้นรึป่าว ให้มองไปที่ อีก 2 ปี จะฟื้นรึป่าว  ท่านว่าฟื้นแน่นอน  เดี๋ยวจะเก็บไม่ทัน  ต้องรีบเก็บตอนนี้ซะ

ท่านแม่นจริงๆ.. คำพูดของท่านมีความถูกต้องสูง  ความเสี่ยงต่ำ

[chakkarin]

ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆ จากคุณ สาน ครับ

มาช้า ยังดีกว่าไม่มาจริงๆ ครับ

คุณสานเก่งกว่าผมเยอะครับ

ผม มีแต่เติมทุนตลอด ปีที่เค้ากำไรเยอะๆ 46 ผม ยังเสมอตัว

ไม่นับปีทีเขาขาดทุนกัน ผม ป่นปี้ 555

[Gloleng]

ขอบคุนค่ะสำหรับประสบการที่มาแบ่งปัน