บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 331

โพสต์

nanoVI
สงสัยว่าปลาหมึกพอลอยากเป็น "ซาซิมิ" เลือกข้างสเปนซะงั้น
ดำ
อีกไม่กี่วันหมอฝนอาจได้รู้ว่า บอลคาดเดายากกว่าหุ้นซะอีก  
BABY TERMITE
ถ้าใช้กฎเดียวกัน คือให้รู้ผลใน 90 นาที ยากพอกันครับ  


เจ้าปลาหมึกพอลแม่นจริงๆ ฮ่าๆ  :lol:
เยอรมันเจอกองกลางสเปนเจ๋งๆแบบนี้  เล่นไม่ออกเลยแฮะ  
สเปนแนวการเล่นแพรวพราวจริงๆ   ยากกว่าเดาหุ้นอีกนะคะ ^^"
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 332

โพสต์

[quote="Fon^^"]เยอรมันเจอกองกลางสเปนเจ๋งๆแบบนี้
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 333

โพสต์

กลับเข้าสู่เรื่องหุ้นต่อนะคะ  
หลังจากฟุตบอลโลกเยอรมันไปซะละ ^^"

อาจารย์ mprandy กับพี่ VI Wannabe คุยกันเรื่องค้าปลีกค่ะ

ขอเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะคะ  :D

ฝนคิดว่าผลการดำเนินงานธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง ขึ้นกับ 2 ส่วนหลักที่สำคัญ
1 อัตรากำไรจากการดำเนินงาน
2 อัตราการหมุนเวียนสินค้า หรือ อาจจะใช้อัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์

ซึ่งทั้ง 2 ส่วนมีผลต่อกำไรรวมของบริษัท  
ขึ้นอยู่กับลักษณะสินค้าและกลยุทธของบริษัทค่ะ
เช่น
บริษัท A ใช้กลยุทธโดยการขายสินค้าให้ได้อัตรากำไรสูง  แต่อาจจะมีผลทำให้การหมุนเวียนสินค้าต่ำ
บริษัท B ขายของถูกกว่า  แต่อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือเร็วกว่า
กำไรรวมของบริษัท A และ B อาจจะไม่ต่างกันมากนักค่ะ

ดังนั้นการมอง NPM% อย่างเดียวในการประเมิณผลประกอบการธุรกิจค้าปลีกทำให้ภาพคลาดเคลื่อนได้ค่ะ

ทางปฏิบัติในการเปรียบเทียบอุตสาหกรรมค้าปลีก/ค้าส่ง
ฝนนิยมดูจาก 2 อย่างคือ
1. ROA%  เพราะโดยตัว ROA% จะทำให้เรามองได้ครอบคลุมทั้ง 2 ส่วน คือ
ROA% = Operating Profit margin * Total Assets turnover
2.  EBITDA margin และ Inventory Turnover ค่ะ
โดยการใช้ EBITDA เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายการตัดค่าเสื่อมต่างกันค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 334

โพสต์

ต่อเรื่องค้าปลีก
ยกตัวอย่างเช่น
รูปภาพ
Makro และ IT จะใช้กลยุทธในการบริหารสินทรัพย์มากกว่า  และการหมุนเวียนสินค้าคงคลังค่ะ  
BigC และ Hmpro จะได้เปรียบในแง่อัตรากำไรสูงกว่า
แต่อัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์ด้อยกว่าค่ะ

ส่วน CPALL เจ้าแห่งค้าปลีก
(ปล.ไม่มีหุ้น ฮ่าๆ หุ้นดีมักไม่มีเรา หุ้นเรามักไม่ค่อยดี  :lol: )
รูปภาพ
ในอดีตเค้าพยายามใช้สินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์ และอัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือเร็วมาก
ปัจจุบันกลยุทธหลักคือการเพิ่มอัตรากำไรต่อยอดขายมากขึ้น  โดยหันมาเน้นสินค้าบริโภคมากขึ้น
(ตัวเลขที่แสดงตัดธุรกิจที่จีนออกหมดแล้วนะคะ ^^ )

เวลาฝนเดินเข้า Cpall
พนักงาน " สวัสดีค่ะ จะรับใส้กรอกหรืออาหารทานเพิ่มรึเปล่าคะ  ขอบคุณค่ะ"
"หิวเมื่อใหร่ก็แวะมา 7/11 " ร้องเพลงตามไปด้วยจะได้เห็นภาพค่ะ ^^

ROA% ของ Cpall จึงสูงขึ้นมากมาย จากเดิมที่ใช้ประโยชน์สินทรัพย์คุ้มค่าอยู่แล้ว และเพิ่มกลยุทธการขายสินค้าที่อัตรากำไรสูงๆด้วย
ท่านเจ้าสัวจะรวยไปถึงใหนๆๆ  :twisted:
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 335

โพสต์

แต่พี่ว่านะ ฝน ถ้าเป็น ค้าปลีก พี่ว่า เราดู inventory turnover

จะเป็นตัวที่สำคัญ มากกว่า หรือเปล่า  :?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 336

โพสต์

VI Wannabe
ผมมาลองคิดต่อดูนะครับ
จริงๆเรื่อง Sales Growth ของ ค้าปลีกกับ EoS นี่ มันขึ้นอยู่กับ ว่าเราพูด ถึง Same Store Sales (SSS) หรือ Total Sales หรือเปล่าครับ ?
ถ้าบอกว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ SSS ไม่ เพิ่ม อย่างนี้ยอดขายที่เพิ่มน่าจะเกิดจากการเพิ่มสาขาซึ่งแปลว่า ไม่เกิด EoS  
แต่ถ้า SSS เพิ่ม ส่งผลให้ TSS เพิ่ม อย่างนี้น่าจะเกิด EoS หรือเปล่าครับ
จริงๆเหมือนดูแค่ SSS ก็บอกได้ว่า EoS กำลังดีขึ้นหรือแย่ลงเลยหรือเปล่าครับเนี่ย ?
mprandy
ตัวชี้วัดกำไรของค้าปลีก จึงดูที่ SSSG เป็นหลัก
รองลงมาคือการขยายสาขา ถ้าอย่างแรกได้เยอะ ๆ กำไรจะเด้งแรง .. มันคล้าย ๆ EoS แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
อาจารย์ mprandy แนะนำการดู SSSG และ การขยายสาขา
การดู SSSG คือการเพิ่มขึ้นของยอดขายต่อสาขา เป็นการเพิ่มอัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์
ส่วนการขยายสาขา เป็นการทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
มีผลในแง่ช่องทางการขายทำให้การหมุนเวียนสินค้าดีขึ้นค่ะ

เวลาอ่านข่าวจะได้ประติดประต่อภาพให้ชัดขึ้นค่ะ  :D
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 337

โพสต์

Paul VI
แต่พี่ว่านะ ฝน ถ้าเป็น ค้าปลีก พี่ว่า เราดู inventory turnover

จะเป็นตัวที่สำคัญ มากกว่า หรือเปล่า


เห็นด้วยกับ พี่หมอมุข นะคะ
ปกติฝนใช้ EBITDA margin กับ Inventory turnover
เพราะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการตั้งค่าเสื่อมและดูการหมุนเวียนสินค้าเน้นๆเลย

แต่ถ้าวันร้ายคืนร้าย ฝนขี้เกียจ หรือหุ้นตามห่างๆมากๆๆๆๆๆๆ
อาจจะพลิกๆดู
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 338

โพสต์

ปล.อัตราการหมุนเวียนสินค้า

ฝนหมายถึงอัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือค่ะ (inventory turnover)
คิดเร็วไปหน่อย พิมพ์ไม่หมดตามความคิด  

ขอโทษทีนะคะ ^^"
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
m_mummie
Verified User
โพสต์: 218
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 339

โพสต์

ขออนุญาตถามนะคะ เห็นคุยเรื่องค้าปลีกอยู่พอดี คือสงสัยตัว makro ที่มี npm อยู่ประมาณ 2% นิดๆ ดูย้อนหลังไป เคยอ่านเจอว่า npm ที่ดีน่าจะอยู่ที่
4-7% จะสามารถป้องกันการเข้ามาของคู่แข่ง และบริษัทเองก็สามารถแข่งกับ
บริษัทอื่นๆในอุตฯเดียวกันได้ แต่ตัว makro เค้าไม่มีคู่แข่งโดยตรง แล้วจะถือ
ว่า npm ที่ได้น้อยไปไหมคะ
--->I Will Survive Yeah....Yeah....<---
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 340

โพสต์

หมอฝนขยันจริง ๆ .. ผมยอมรับว่าไม่ได้ดูลึกซึ้งขนาดที่หมอฝนแจกแจงเลย

ถือเปนความรู้ใหม่สำหรับผมนะ :D

มีข้อสงสัย (และสังเกต) อยู่นิดนึง (ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า) ตรงที่หุ้นค้าปลีกแต่ละตัวมีลักษณะการประกอบธุรกิจต่างกันมาก (คล้ายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บ้านเรา) การเทียบกิจการต่อกิจการในแต่ละ parameter อาจไม่ได้สะท้อนคุณภาพของกิจการได้ดีเท่าที่ควร แต่จะเทียบ YoY ของกิจการตัวเดิมได้ดี ว่า business model มีการปรับปรุงและจะมีความสามารถในการทำกำไรในอนาคตเป็นอย่างไร
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
VI Wannabe
Verified User
โพสต์: 1013
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 341

โพสต์

:bow: ขอบคุณทั้ง หมอฝน หมอ mpranday ครับ ได้ความรู้เพิ่มตรึม  :D
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"

"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
ภาพประจำตัวสมาชิก
nanoVI
Verified User
โพสต์: 487
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 342

โพสต์

:D  :D กระทู้สาระดีดี  ที่หาได้ยากในปัจจุบัน :bow:  :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
Verified User
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 343

โพสต์

น่าจะมีคนจ้าง คุณหมอฝนไปเป็นผู้จัดการกองทุน นะครับ

ผมว่า พี่หมอฝน(อายุน่าจะไล่ๆ พี่สาวที่เป็นหมอเหมือนกัน) เก่งกว่าพวกผู้จัดการกองทุนหลายๆคนอีก

กองทุนรวม  "หมอฝน Strategy"  :lol:

ถ้ามี ผมคงไปจองคนแรกเลย (ขอเป็นLTF ด้วยนะครับ พอดีหากองทุนถูกใจย๊ากยาก เหอๆ)
กุหลาบงามหลังฝน
Verified User
โพสต์: 1598
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 344

โพสต์

mprandy เขียน:หมอฝนขยันจริง ๆ .. ผมยอมรับว่าไม่ได้ดูลึกซึ้งขนาดที่หมอฝนแจกแจงเลย

ถือเปนความรู้ใหม่สำหรับผมนะ :D

มีข้อสงสัย (และสังเกต) อยู่นิดนึง (ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า) ตรงที่หุ้นค้าปลีกแต่ละตัวมีลักษณะการประกอบธุรกิจต่างกันมาก (คล้ายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บ้านเรา) การเทียบกิจการต่อกิจการในแต่ละ parameter อาจไม่ได้สะท้อนคุณภาพของกิจการได้ดีเท่าที่ควร แต่จะเทียบ YoY ของกิจการตัวเดิมได้ดี ว่า business model มีการปรับปรุงและจะมีความสามารถในการทำกำไรในอนาคตเป็นอย่างไร
ขอโทษนะครับที่แทรก เพอดีเห็นเริ่มสนุกเลยอยากร่วมแลกเปลี่ยน

เรื่องเปรียบเทียบระหว่างบริษัท ผมคิดว่าเปรียบเทียบได้นะครับ แต่อาจจะไม่ 100 %

อย่างเช่น makro บอกว่าตัวเองเน้นขายส่ง แสดงว่า TO ต้องสู้กว่า BIGC เพราะธรรมชาติถ้าขายส่งแล้ว ขายได้ช้ากำไรก็จะน้อย

ตรงข้าม bigc เน้นขายลูกค้าทั่วไป NPM ก็น่าจะมากกว่า Makro เพราะถ้าขายได้ช้าแล้วกำไรน้อยคง  :cry:

หรืออย่าง CPAll ที่บอกว่าตัวเองเน้นรายย่อย (ผมก็ว่าเขาขายแพงนะ) แต่ทำไม GPM ไม่ได้สูงอย่างที่คิด

ลองช่วยกันแลกเปลี่ยนกันดู
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ake3004
Verified User
โพสต์: 502
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 345

โพสต์

100 million come to you in this life for sure.

from reading it, I feel like P IH style loey kab :D
One up on SET
ภาพประจำตัวสมาชิก
BABY TERMITE
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 346

โพสต์

กุหลาบงามหลังฝน เขียน:
ขอโทษนะครับที่แทรก เพอดีเห็นเริ่มสนุกเลยอยากร่วมแลกเปลี่ยน

เรื่องเปรียบเทียบระหว่างบริษัท ผมคิดว่าเปรียบเทียบได้นะครับ แต่อาจจะไม่ 100 %

อย่างเช่น makro บอกว่าตัวเองเน้นขายส่ง แสดงว่า TO ต้องสู้กว่า BIGC เพราะธรรมชาติถ้าขายส่งแล้ว ขายได้ช้ากำไรก็จะน้อย

ตรงข้าม bigc เน้นขายลูกค้าทั่วไป NPM ก็น่าจะมากกว่า Makro เพราะถ้าขายได้ช้าแล้วกำไรน้อยคง
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
Verified User
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 347

โพสต์

เรื่องที่ CPALL มีการเปิดสาขาใกล้ๆสาขาเดิม เพื่อยอดเข้าเป้านั้น เหมือนเคยได้ยินผู้บริหารเคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็น
กลยุทธหมากล้อม

ของเค้านะครับ เพื่อแย่งชิงทำเล ตีกันคู่แข่ง(เหมือนเล่นหมากล้อม)
ที่ไหนชัยภูมิดี เค้าชิงพื้นที่ก่อนเลย เพื่อกันคู่แข่งมาเปิด อาจจะเสียลูกค้าจากสาขาเดิมบ้าง แต่ก็ดีกว่า เสียลูกค้าให้คู่แข่ง  :8)

แต่เรื่องแย่งชิงทำเล ถึงยังไงก็ต้องมีจุดอิ่มตัว เหมือนมีหมากเต็มกระดานแล้ว
ถึงตอนนั้น ก็ปล่อยให้ยอดขายต่อร้านของเดิมโตไปตามธรรมชาติ ในขณะที่คู่แข่งก็ไม่สามารถแย่งชิงพื้นที่นั้นๆได้

ส่วนที่เป็นแฟรนไช เหมือนเค้ามี option บางอย่าง(แต่โหด) เค้าบอกว่า ถ้ายอดถึงเป้า
เค้าจะให้ทางเลือกคุณว่า
1. เปิดสาขา(แฟรนไช)ใกล้บริเวณนั้นของคุณเอง เพิ่มอีกสาขา (ส่วนใหญ่จะไม่เลือกครับ เพราะไม่มีตัง)
2. ถ้าคุณไม่เปิด เราจะไปเปิดเอง
nutbasara
Verified User
โพสต์: 17
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 348

โพสต์

ขอบคุณค่ะพี่ฝน
                    หนูขอลอก Lecture ไปศึกษาก่อนน่ะค่ะ    :oops:
I Love " thaivi.org"
ขอบคุณสำหรับทุกทุกข้อมูลนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
TP2007
Verified User
โพสต์: 78
ผู้ติดตาม: 0

รวมชื่นชมครับ

โพสต์ที่ 349

โพสต์

พึ่งสมัครเป็นสมาชิก ขอร่วมชื่นชมครับ เก่งมากครับ
Luck is what happens when preparation meets opportunity._____Chorafas(1990)
cheawcharn
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 350

โพสต์

กำลังแกะรอยเซียนอยู่ครับ
ตอนนี้ลองนำ CVP analysis , BEP , EoS และ SSSG มาใช้กับหุ้นขายเพชร
เพราะมีการขายปลีกถึงผู้บริโภคและมีการขยายสาขาซึ่งมากกว่าคู่แข่งมาก
ทำให้คล้ายกับกลุ่มค้าปลีกแต่สินค้ามีราคาต่อชิ้นสูงกว่าและเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับฝีมือการออกแบบว่าจะถูกใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหรือไม่
อยากให้หมอฝนชี้แนะแนวทางการวิเคราะห์ว่าควรให้น้ำหนักไปด้านใดบ้าง
เช่น ต้อง Inventory turnover เป็นสำคัญลำดับแรกใช่หรือไม่ และลำดับต่อไปควรดูอะไรบ้างครับ
jmb2511
Verified User
โพสต์: 239
ผู้ติดตาม: 0

ขอถาม

โพสต์ที่ 351

โพสต์

สวสัดีครับคุณหมอฝน ก่อนอื่นขอชมก่อนเลยนะครับว่าคุณหมอฝนเก่งมาก ผมไดัติดตามและเข้าใจว่าคุณหมอจะเชี่ยวชาญหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมาก ช่วยวิเคราะห์หุ้นกลุ่มนี้ว่าน่าลงทุนมากน้อยแค่ไหนได้ไหมครับเกรงใจจริงๆผมมีkh
อยู๋ลอกพี่โจ(ลูกอิสาน)มาครับพี่เค้าบอกว่าดีก็ต้องดีใช่ไหมครับ และถ้าเทียบกับโรงพยาบาลอื่นๆในกลู่มเช่นbgh,bh. khราคาแถวๆนี้แพงไหมครับมีโอกาสเห็นkhกําไรดีขึ้นมากไหมครับในอนาคต ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ :D
porpiangrich
Verified User
โพสต์: 370
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 352

โพสต์

ขอคารวะ ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BABY TERMITE
Verified User
โพสต์: 368
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอถาม

โพสต์ที่ 353

โพสต์

jmb2511 เขียน:สวสัดีครับคุณหมอฝน ก่อนอื่นขอชมก่อนเลยนะครับว่าคุณหมอฝนเก่งมาก ผมไดัติดตามและเข้าใจว่าคุณหมอจะเชี่ยวชาญหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมาก ช่วยวิเคราะห์หุ้นกลุ่มนี้ว่าน่าลงทุนมากน้อยแค่ไหนได้ไหมครับเกรงใจจริงๆผมมีkh
อยู๋ลอกพี่โจ(ลูกอิสาน)มาครับพี่เค้าบอกว่าดีก็ต้องดีใช่ไหมครับ และถ้าเทียบกับโรงพยาบาลอื่นๆในกลู่มเช่นbgh,bh. khราคาแถวๆนี้แพงไหมครับมีโอกาสเห็นkhกําไรดีขึ้นมากไหมครับในอนาคต ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ :D
ขออณุญาติหมอฝนนะครับ ขอไม่ออกความเห็นเรื่องโรงพยาบาลนะครับ แต่อยากจะเสนอตรงจุดที่บอกว่า "พี่เค้าบอกว่าดีก็ต้องดี" ผมไม่เห็นด้วยตรงแนวคิดตรงนี้นะครับ และผมก็เชื่อว่าคุณโจก็ไม่น่าจะเห็นด้วยกับประโยคนี้ อยากให้ลองมองและตัดสินใจด้วยตัวเองน่าจะดีกว่านะครับ
ความเห็นของคนอื่นควรใช้เป็นข้อมูลนึงในการประกอบการตัดสินใจหรือควรจะใช้เป็นทางลัดในการกรองหุ้นมากกว่าที่จะเอามาเป็นคำตอบสุดท้ายนะครับ
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 354

โพสต์

ชวนคุยเรื่องค้าปลีก  ภาคต่อนะคะ

พี่ m_mummie , cheawcharn , กุหลาบงามหลังฝน , พี่หมี และอ. mprandy ถกเรื่องค้าปลีก

เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมองด้วยคนค่ะ

หลักของการดำเนินธุรกิจค้าปลีก ฝนมองว่าจุดสำคัญคือ EBITDA margin , Inventory turnover และ Total Assets turnover
ปกติฝนใช้ 3 หลักเพราะ
1 EBITDA margin
EBITDA กำไรก่อนภาษีดอกเบี้ยและค่าเสื่อมค่าตัดจำหน่าย
โดยต้องเป็นกำไรจากการดำเนินงานหลักธุรกิจ
ฝนเลือกใช้ EBITDA margin เพราะเป็นกำไรจากการดำเนินงานที่ลดความคลาดเคลื่อนจากนโยบายตัดค่าเสื่อม อัตราภาษีและดอกเบี้ย

ถ้าฝนจะให้ภาพคลาดเคลื่อนน้อยลงและสะท้อนการดำเนินงานหลักจริงๆ
อาจจะใช้ กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สิน ในงบกระแสเงินสดค่ะ
ตรงนี้จะมองกำไรจากการดำเนินงานก่อน working capital ที่เป็นเกณฑ์เงินสดชัดขึ้น (กำไรหรือจะสู้เงินสด ^^  )

2 Inventory turnover
อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ เป็นจำนวนรอบต่อรอบปีหรือไตรมาส

3 Total Assets turnover
อัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์ จุดประสงค์เพื่อมองกลยุทธในการใช้สินทรัพย์และอัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์ค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 355

โพสต์

คราวนี้เราได้จุดในการประเมินธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง

ฝนก็มาดูว่าแต่ละบริษัทใช้กลยุทธหรือจุดแข็งของตัวเองเป็นยังไงค่ะ
แยกเป็น
1 ธุรกิจค้าส่ง  ยกตัวอย่างเช่น Makro Synex
ดังนั้นธุรกิจค้าส่งความสำคัญหลักคือการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory turnover) ค่ะ
ดังนั้นจุดเด่นในการแข่งขันของธุรกิจด้านค้าส่งคือ ศูนย์กระจายสินค้า เพื่อเพิ่ม Inventory Turnover ค่ะ
เราจึงเห็นธุรกิจค้าส่ง EBITDA margin จะค่อนข้างต่ำ เนื่องจากหลักการดำเนินงานของธุรกิจค้าส่งไม่ได้เน้นไปในการเพิ่มอัตรากำไร
เนื่องจากไม่ได้ขายสินค้าให้ end user ค่ะ ^^

2 ธุรกิจค้าปลีก อันนี้อาจจะต้องแบ่งลักษณะสินค้า
2.1- สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้ากลุ่มนี้ค่อนข้างมีความเป็นโภคภัณฑ์ ใช้แล้วหมดไปและต้องใช้ซ้ำ
กลุ่มนี้เช่น BIGC Tesco Carfour Cpall
กลุ่มนี้ EBITDA margin จะสูงกว่าค้าส่งนิดหน่อยเพราะขายให้ End User  :D

พวกนี้นอกจากต้องเน้นที่อัตรากำไรแล้ว ก็ต้องมีอัตราการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือด้วยค่ะ

2.2- สินค้าเฉพาะ
กลุ่มนี้ก็แบ่งได้อีกเป็น
กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็คทรอนิคส์ สินค้าตกแต่งบ้าน
สินค้ากลุ่มนี้มีความเฉพาะมากขึ้น แต่ยังมีอัตราการใช้ซ้ำซึ่งไม่มากนัก
กลุ่มนี้ควรจะมี EBITDA margin สูงพอควร คือถ้าทำได้ต่ำกว่าค้าส่งก็ควรพิจารณาแล้วนะคะ  :twisted:

กลุ่มเครื่องประดับเพชรเม็ดงาม ( ได้ข่าวว่า CFO สวย  :ep:  )
กลุ่มนี้ถูกจัดเป็นกลุ่มค้าปลีกเช่นกัน แต่เนื่องจากอัตราการใช้ซ้ำ หรือ การใช้แล้วหมดไปต่ำ(นอกจากว่าจะแต่งงานบ่อยๆ ฮ่าๆ  :lol: )
กลุ่มนี้ต้องมีกลยุทธในการเพิ่มอัตรากำไร และ การขยายสาขา เป็นหลักค่ะ
การมอง Inventory Turnover อาจจะมีผลดีบ้างแต่มุมมองฝนคงไม่ใช่ประเด็นหลักของกลุ่มนี้นักค่ะ

ส่วนสุดท้าย Total Assets Turnover
เป็นจุดที่ฝนใช้มองกลยุทธในการขายค่ะ
เช่นหากมี Total Assets Turnover สูง อาจจะพอบอกได้ว่าบริษัทมีกลยุทธในการเพิ่มยอดขายต่อสาขา
หรือเป็นการขยายสาขาโดยการเช่า ทำให้ Fixed Assets ไม่มากค่ะ
อันนี้มีจุดเด่นจุดด้อยในการใช้แต่ละกลยุทธค่ะ

พิมพ์เยอะๆชักสับสนเอง ^^
พี่ๆท่านใดเห็นอย่างไรแลกเปลี่ยนได้เลยนะคะ
อันนี้ฝนคิดเองเออเองค่ะ ฮ่าๆ  ผิดถูกอย่างไรชี้แนะได้เลยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 356

โพสต์

ฝนลองเอาข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันนะคะ ^^

รูปภาพ
(กรอบสี่เหลี่ยมไม่ได้เน้นอะไรนะคะ แต่ลืมเอาออกเฉยๆค่ะ ^^" )
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 357

โพสต์

m_mummie
ขออนุญาตถามนะคะ เห็นคุยเรื่องค้าปลีกอยู่พอดี คือสงสัยตัว makro ที่มี npm อยู่ประมาณ 2% นิดๆ ดูย้อนหลังไป เคยอ่านเจอว่า npm ที่ดีน่าจะอยู่ที่
4-7% จะสามารถป้องกันการเข้ามาของคู่แข่ง และบริษัทเองก็สามารถแข่งกับ
บริษัทอื่นๆในอุตฯเดียวกันได้ แต่ตัว makro เค้าไม่มีคู่แข่งโดยตรง แล้วจะถือ
ว่า npm ที่ได้น้อยไปไหมคะ


ฝนมองว่า NPM% อาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าใหร่เพราะหักค่าเสื่อมต่างกันหน่อยและอาจจะมีจุดอื่นด้วยค่ะ ^^

ส่วนการเข้าป้องกันการเข้ามาของคู่แข่งอาจจะมีอย่างอื่นนอกจาก NPM% ประกอบด้วยค่ะ
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 358

โพสต์

leaderinshadow  
เรื่องที่ CPALL มีการเปิดสาขาใกล้ๆสาขาเดิม เพื่อยอดเข้าเป้านั้น เหมือนเคยได้ยินผู้บริหารเคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็น กลยุทธหมากล้อม

ของเค้านะครับ เพื่อแย่งชิงทำเล ตีกันคู่แข่ง(เหมือนเล่นหมากล้อม)
ที่ไหนชัยภูมิดี เค้าชิงพื้นที่ก่อนเลย เพื่อกันคู่แข่งมาเปิด อาจจะเสียลูกค้าจากสาขาเดิมบ้าง แต่ก็ดีกว่า เสียลูกค้าให้คู่แข่ง  

แต่เรื่องแย่งชิงทำเล ถึงยังไงก็ต้องมีจุดอิ่มตัว เหมือนมีหมากเต็มกระดานแล้ว
ถึงตอนนั้น ก็ปล่อยให้ยอดขายต่อร้านของเดิมโตไปตามธรรมชาติ ในขณะที่คู่แข่งก็ไม่สามารถแย่งชิงพื้นที่นั้นๆได้

ส่วนที่เป็นแฟรนไช เหมือนเค้ามี option บางอย่าง(แต่โหด) เค้าบอกว่า ถ้ายอดถึงเป้า
เค้าจะให้ทางเลือกคุณว่า
1. เปิดสาขา(แฟรนไช)ใกล้บริเวณนั้นของคุณเอง เพิ่มอีกสาขา (ส่วนใหญ่จะไม่เลือกครับ เพราะไม่มีตัง)
2. ถ้าคุณไม่เปิด เราจะไปเปิดเอง

เห็นด้วยมากมายค่ะ  เพราะ Cpall เค้าจะดูรายได้ต่อบิล และ อัตราการหมุนเวียนลูกค้า  

หากรายได้ต่อบิลสูงขึ้นและลูกค้ามากขึ้น Cpall ก็จะบอกว่าคุณดูแลลูกค้าอาจจะไม่ใหว ตกลงจะเปิดเองหรือว่าจะให้เราเปิดคะ แฮ่ๆ ^^"
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 359

โพสต์

เข้ามาคารวะพี่กุหลาบ
พี่เค้าเก่งมากมายนะคะ ถ้ามีอะไรฝนตอบไม่ได้
พี่เค้าจะมาตอบให้เองค่ะ โยนไม้ต่อ  :nm:
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fon^^
Verified User
โพสต์: 604
ผู้ติดตาม: 0

บริหารชีวิตและลงทุนอย่างหมอ FON ^^

โพสต์ที่ 360

โพสต์

ake3004
100 million come to you in this life for sure.
from reading it, I feel like P IH style loey kab


สวัสดีค่ะพี่ ake3004   ฝนยังห่างชั้นกับพี่ IH ค่ะ จริงๆก็เล่าเท่าที่รู้ค่ะ
ที่ไม่รู้มากมายนัก อย่างเช่นอสังหายาขม  :oops:  

อยากได้ 100MB เหมือนกันค่ะ  แต่ฝนเดินทางเป็นหอยทากฝึกเดิน ยังไงค่อยๆเดินต่อไปค่ะ เพี้ยง  ^^"
ผิดหนึ่งพึงจดไว้.....ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง.....ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก.....เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า.....หกซ้ำ อภัยไฉน