ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอเปิดกระทู้เกี่ยวกับ การทำแฟรนไชส์ 7-11 ทุกๆ อย่างครับไม่ว่าจะเป็น
- ข้อดี ข้อเสีย
- วิธี ขึ้นตอน
- ข่าว
- คำแนะนำจากผู้ที่ทำไปแล้ว
- ความคิดเห็นของทุกๆ คน
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มาศึกษา แฟรนไชส์ 7-11 กัน

Fc 7-11 เป็นอย่างไร???มีถามกันมามากจัง และผมเห็นคนที่มาตอบส่วนใหญ่ตอบแบบไม่รู้หรือตอบแบบผิดๆ ในฐานะคร่ำหวอดในเรื่องนี้จึงมาเล่าให้น้องๆฟัง...

ปัจจุบัน Fc 7-11 มี 2 แบบ คือ..Type B และ Type C.ครับ....

Type B ลงทุน 1,500,000 บาท แบบนี้ส่วนใหญ่จะให้เฉพาะ พนักงานระดับผจก.สาขา(เงินเดือนหมื่นต้นๆ) ที่ต้องการยกระดับเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งรายได้จะได้เฉลี่ย 20,000 บาท หรือหากขายดีมากๆก็ได้เพิ่มขึ้นจนถึง 3-40,000 บาท..จึงขอผ่านแบบนี้ไป....

Type C แบบนี้สำหรับบุคคลทั่วไป ลงทุน 2,700,000 บาท(รวมเงินประกัน 900,000 บาท ได้คืนเมื่อเลิก)เมื่อไม่นานแค่ 2,400,000 บาท และแบบนี้จะได้ส่วนแบ่ง 54% ของกำไรขั้นต้น(ประมาณ 23-25%) ยกตัวอย่าง...

ขายวันละ 40,000 บาท = 30*40,000= 1,2000,000 /เดือน

กำไรขั้นต้น 24 %=1,200,000*24/100=288,000 บาท

ได้ส่วนแบ่ง 54%=288,000*54/100= 155520 บาท....(1)

ค่าใช้จ่าย......
ค่าพนักงาน 9 คน(9*6000 ) = 54,000 บาท
ค่าไฟฟ้า = 40,000 บาท
ค่า โทรศัพท์ น้ำ อื่นๆ = 30,000 บาท

รวม =124,000 บาท.....(2)

หมายเหตุ รายจ่ายอาจจะมากกว่านี้ เช่น ขายดีก็มี พนง.มากกว่านี้ ค่าถุง ค่าตัดจ่าย และสินค้าสูญหาย ฯลฯ...แต่โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายสูงสุดไม่น่าเกิน 150,000 บาท/เดือน

แต่ นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่นๆ เช่น เคาเตอร์เซอร์วิส ค่าตั้งโชว์ต่างๆ ประมาณเดือนละ 10,000-20,000..คิดว่า 15,000 บาท.......(3)

รายได้ จริงๆจึง(1)+(3)-(2) = 155520+15,000-124,000 จะมีรายรับ = 46520 บาท/เดือน

ราย ได้นี้ยกมาจากยอดขายวันละ 40,000 บาท ที่เป็นยอดขายกลางๆ ที่มีลูกค้าเข้าประมาณวันละ 1000 คน...

ข้อเสียของร้าน 7-11 ที่พบมากคือ หากสาขามียอดขายเกินวันละ 70,000 บาท บริษัทก็ต้องเปิดสาขาเพิ่มในบริเวณใกล้เคียง เพราะ ..

1.บริเวณนั้น มีศักยภาพที่เปิดเพิ่มได้ ถ้าไม่เปิด คู่แข่งก็อาจจะมาเปิด
2.สาขาเดิม ที่มีอยู่จะบริการไม่ทัน...ลูกค้าจะเกิดความเบื่อหน่ายได้..

เมื่อ เดือนที่แล้วผมเจอ Fc คนหนึ่งแต่ก่อนทำร้าน 7-11 แถวหน้าราม ต่อมาบริษัทเปิดใกล้ๆก็เลยโกรธเลิกทำแต่ก็ให้บริษัทเช่าตึกทำต่อได้ค่าเช่า เดือนละ แสนกว่าบาท ปรากฏว่า ปัจจุบัน สาขานั้นขายวันละ ร่วมแสนบาท (ลองใช้สูตรเดิมข้างบนนะครับ) ตอนนี้ก็บอกว่า น่าจะทำต่อ...

การเปิด ร้าน 7-11 จึงขึ้นกับทำเล หากได้ทำเลที่ดีมีโอกาสที่จะมีรายได้เดือนกว่า 100,000 บาทโดยงานก็คือบริหารร้านแต่มีระบบช่วย แต่ถ้าทำเอง ต้องวิ่งไปหาซื้อสินค้ามาจัดเรียงมาจัดโชว์ มานั่งเก็บเงินเอง และสุดท้ายก็เป็นภาระผูกพันไปไหนไม่ได้...

ปัจจุบันการทำค้าปลีกไม่ ได้แค่ซื้อมาขายไปต้องมีระบบโลจิสติค ระบบคุมการรั่วไหล และบริการอื่นๆ ซึ่งจุดแข็งของ 7-11 คือ เคาเตอร์เซอร์วิส...
from http://piggyman007.blogspot.com/2010/02/7-11.html
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คนที่จะทำไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนครับ สามารถขอกู้ได้
ซีพี ออลล์ จับมือ 3 ธนาคารใหญ่ให้สินเชื่อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นฯ
หนุนผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง กระตุ้นตลาดค้าปลีก53 โตต่อเนื่อง  

บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย จับมือ 3 ธนาคารไทย ได้แก่ กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์ และนครหลวงไทย จัดบริการสินเชื่อพิเศษแก่ธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่น อีเลฟ-เว่น หนุนผู้ประกอบการรายย่อยของไทยเริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นคง ผลักดันตลาดค้าปลีก 2553 โตต่อเนื่อง เผยอีก 3 ปี เพิ่มสัดส่วนร้านแฟรนไชส์เป็น 59% ขณะที่ 3 ธนาคารมั่นใจ ช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2553) ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กับธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารนครหลวงไทย จัดบริการสินเชื่อพิเศษสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่น อีเลฟเว่น ณ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ถ.สีลม

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายจะขยายสาขาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคโดยใช้ระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการคนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยตั้งเป้าว่าในปี 2556 จะขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทยเป็น 7,000 สาขา และเพิ่มสัดส่วนสาขาของร้านแฟรนไชซี่เป็น 59% จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 5,300 สาขา แบ่งเป็นสาขาของร้านแฟรนไชซี่ 47% ล่าสุดจึงได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารไทยรายใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารนครหลวงไทย จัดบริการสินเชื่อพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการแฟรนไชส์เซเว่น อีเลฟเว่น สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่  
         ปัจจุบันประชาชนทั่วประเทศมีความต้องการบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีผู้สนใจจะลงทุนในธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น แต่อาจจะติดปัญหาเรื่องเงินทุน ความร่วมมือในครั้งนี้จึงช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและมั่นคง เพราะได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำของประเทศไทย อีกทั้งการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในครั้งนี้ยังช่วยเสริมฐานความแข็งแกร่งให้ตลาดค้าปลีกปี 2553 ขยายตัวอย่างคึกคักและช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย นายก่อศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำในการให้บริการและเงินทุนแก่เอสเอ็มอี โดยที่ผ่านมาได้ออกบริการสนับสนุนธุรกิจเริ่มต้นกสิกไทย (K-SME Start-up Solutions) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นกิจการทั้งด้านเงินทุนและองค์ความรู้  
         ดังนั้นการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการร้านค้าเซเว่น อีเลฟเว่น จะเป็นโอกาสให้ผู้สนใจธุรกิจค้าปลีกได้เริ่มต้นเป็นเจ้าของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อชั้นนำระดับโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในปัจุบัน เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากเป็นร้านค้าที่ได้รับความนิยม และมีรูปแบบการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐานจากบริษัท ซีพี ออลล์ ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุนด้านเงินทุนแก่นักธุรกิจที่สนใจจะเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนานถึง 10 ปี โดยผู้ขอกู้จะทราบผลการพิจารณาเบื้องต้นภายใน 3 วัน และได้รับเงินภายใน 7 วัน ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้ในปีแรกไว้ 300 ล้านบาท
                     
ขณะที่ นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในปี 2553 ธนาคารมีนโยบายปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็กเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างสอดคล้องกับสภาวะการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับซีพี ออลล์ ในการนำเสนอสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยได้เริ่มต้นธุรกิจของตนเอง และเติบโตเป็นรากฐานสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจจากทางเซเว่น อีเลฟเว่น และได้รับการสนับสนุนบริการทางการเงินที่ครบวงจรจากธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย

ด้าน นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีวิสัยทัศน์ในการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจโดยให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรและยั่งยืนบนพื้นฐานของความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างธนาคารกับลูกค้า ในโอกาสนี้ผู้ประกอบการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ขอรับสินเชื่อจากธนาคารจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการเงิน การตลาด ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจ
         นอกจากการสนับสนุนสินเชื่อในครั้งนี้แล้ว ในปีที่ผ่านมา ธนาคารยังจัดสินเชื่อเคหะนครหลวงไทยสำหรับผู้ประกอบการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ซื้อหรือรีไฟแนนซ์อาคารพาณิชย์ตลอดจนที่อยู่อาศัยทุกประเภท โดยจะได้รับสิทธิพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากธนาคาร อันเป็นการยืนยันให้เห็นถึงความพยายามในการให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรของธนาคาร
-----------------------------------------------------------------------

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณอรพินท์ ธัญญาพิทักษ์ (นุช)
สำนักสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บมจ.ซีพี ออลล์
โทร. 02-677-1868 โทรสาร 02-677-1862
จาก http://cpallnews.com/home/News-Detail-471/default.aspx[/quote]
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เว็บหลักครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/franching_main.php

เข้าไป pantip แล้วมีแต่คนพูดในทางลบนะครับ แต่ผมคิดว่าการทำอันนี้มันก็น่าจะมีข้อดีบ้าง ไม่งั้น คงไม่มีใครทำเป็นพันๆ สาขาหรอกครับ สัดส่วนคร่าวๆ ตอนนี้ระหว่าง franchise vs company อยู่ที่ประมาณ ครึ่งๆ
7-11 มี 5000 สาขา
แฟรนไชส์มีประมาณ 2500 สาขา
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 5

โพสต์

จับเข่าคุย 3 แฟรนไชส์ซี่เซเว่นอีเลฟเว่น



ถือเป็นโอกาสดีที่นิตยสารโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ เจ้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมกันถึง 3 ท่าน และที่สำคัญทั้ง 3 ท่านนี้เขายังเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็แยกย้ายกันไปทำงานในสายอาชีพที่ได้ร่ำเรียนมา แต่ในวันนี้ทุกท่าน ก้าวมาสู่การเป็นเจ้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หลังจากที่หนึ่งในเพื่อนนั้นมาเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแล้วประสบความสำเร็จ ส่งผลให้เพื่อนอีกสองคนเกิดแรงบันดาลใจและทำการศึกษาหาข้อมูลในการทำธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนตัดสินใจลงทุนเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเวลาต่อมา

ต้องขอแนะนำถึง ท่านแรกคือ คุณกาญจนา จันลาศรี หรือคุณกุ้ง ที่อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาในฐานะพรีเซนเตอร์ให้กับเซเว่นอีเลฟเว่นลงหนังสืออยู่หลายฉบับ คุณกุ้งประสบความสำเร็จในการเปิดธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น รวมแล้ว 4 สาขา

ท่านต่อมาคือคุณสุภัทรา มีสมโภชน์ หรือคุณน๊อต ปัจจุบันเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทั้งหมด 2 สาขา และอีกท่านคือคุณภัทรา ศรีทองอ่อน หรือคุณยีนส์ เจ้าของกิจการน้องใหม่ที่ปัจจุบันเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 1 สาขา
ประสบการณ์การเป็นเพื่อน และจุดเริ่มต้นในการเป็นเจ้าของ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
คุณกุ้ง : เมื่อก่อนเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์มินิมาร์ทแบรนด์อื่น แต่ธุรกิจก็ประสบปัญหาขาดทุน เพราะระบบการจัดการของแบรนด์นั้นไม่มีเลย จนวันหนึ่งได้มีโอกาสรับอดีตพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมาร่วมงาน เค้าสามารถแนะนำเกี่ยวกับระบบการทำงานภายในร้านให้เรารู้ จึงเกิดความคิดที่อยากจะทำธุรกิจที่มีระบบมาสนับสนุน และได้ตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจกับเซเว่นอีเลฟเว่น แต่ก็ศึกษาหาข้อมูลอยู่มากเพราะว่าเคยขาดทุนมาก่อน ก็มองว่าระบบเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นระบบที่ดีจึงตัดสินใจเลือกที่จะทำธุรกิจกับเซเว่นอีเลฟเว่น

คุณน๊อต : ก่อนหน้านี้น๊อตทำงานที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นข้าราชการ ก็เห็นคุณกุ้ง มาทำธุรกิจแล้วมีความมั่นคง มีโอกาสได้ถามเขา ซึ่งกุ้งบอกว่าทำธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่น เราก็ลองศึกษา เข้าอินเตอร์เน็ต ดูว่ามีใครโพสท์อะไรบ้าง คือเราเลือกที่จะศึกษาข้อมูลก่อน ศึกษาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ใช้เวลาในการตัดสินใจประมาณ 5-6 เดือน เนื่องจากพื้นฐานครอบครัวเป็นข้าราชการ ถ้าเราจะไปเสี่ยงลงทุนทำธุรกิจเราก็ต้องศึกษาเพราะว่าเราไม่มีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจมาก่อน เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เข้ามาอบรมตามหลักสูตรที่ทางเซเว่นอีเลฟเว่นกำหนด

คุณยีนส์ : หลังจากที่ยีนส์เรียนจบมาก็ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส พอทำไปสักช่วงหนึ่งก็รู้สึกว่าไม่อยากเดินทางและเป็นอาชีพที่ค่อนข้างเสี่ยง จากนั้นเปลี่ยนไปทำงานเป็น ผู้จัดการบริษัท อยู่หลายบริษัท แต่เราก็มีการคุยกับเพื่อนเราตลอด ตอนนั้นคุณกุ้งประสบความสำเร็จ เปิดหลายสาขาแล้ว เราเองก็ลังเลที่จะออกจากงาน ปรึกษาคุณน๊อตว่าถ้าออกมาจะคุ้มไหม การเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ก็มีซีพีออลล์เป็นบริษัทแม่ และเราไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ อีกอย่างเพื่อนเราสองคนเขาก็ประสบความสำเร็จ ประกอบกับที่เซเว่นอีเลฟเว่น เขามีบริการที่ลูกค้าเชื่อมั่น จุดนี้จึงทำให้ตัดสินใจออกจากงาน แล้วมาทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นค่ะ

การบริหารธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่น
คุณกุ้ง : ระบบแฟรนไชส์ของเซเว่นอีเลฟเว่น บริษัทแม่จะวางระบบการบริหารงานให้และจะมีทีมงาน ที่คอยดูแลตรวจสอบและให้คำปรึกษา จากจุดนี้เองทำให้เราเกิดความประทับใจ สิ่งที่จะเกิดกับเราก็คือ เราต้องบริหารการขาย บริหารสินค้า และบริหารคนในร้านของเรา และสิ่งสำคัญที่สุดคือลูกค้าต้องเป็นอันดับหนึ่ง ต้องดูแลลูกค้า ส่วนยอดขายแต่ละแห่งจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งทางเซเว่นอีเลฟเว่น จะมีร้านทำเลให้เราเลือก งานในร้าน กุ้งต้องทำให้เป็นก่อน เรียนรู้งานทุกอย่าง เพื่อที่เราจะได้สอนงานและทำเป็นแบบอย่างให้น้องๆได้ โทรศัพท์กุ้งจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง อย่างช่วงกลางคืนหากน้องติดขัดเรื่องอะไร น้องก็สามารถโทร.หาเราได้

ส่วนเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงนี้ สำหรับกุ้งมองว่า ยิ่งเศรษฐกิจตก เซเว่นอีเลฟเว่น ยิ่งขายดี และเซเว่นอีเลฟเว่น ก็มีการปรับกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจ
คุณน๊อต : น๊อตจะเน้นให้ความใกล้ชิดและเป็นกันเองกับน้องๆ ร้านที่เปิดอยู่ทั้งสองร้านจะอยู่ใกล้ น๊อตจะช่วยน้องๆทำงาน ทำทุกอย่าง กวาดร้าน จัดเรียงสินค้า ทำให้น้องๆเห็นว่าเราทำงานร่วมกับเขา ลูกน้องก็จะบริการลูกค้าด้วยใจ มีรอยยิ้มให้ ส่งผลต่อยอดขายในร้าน ส่วนกลยุทธ์การบริหารของเซเว่นอีเลฟเว่น ก็จะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อย่างโปรโมชั่นทางบริษัทแม่ จะเป็นคนจัดการให้อยู่แล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่นตลอดทุกเดือน ซึ่งแฟรนไชส์ซี่ไม่ต้องคิด เรามีหน้าที่ในการบริหารร้านให้เป็นไปตามระบบที่ทางบริษัทแม่กำหนดมา

ยีนส์เปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มา 1 ปีกับอีก 6 เดือน ยอมรับว่าไม่ผิดหวังกับที่ลาออกจากงานมาเลย ส่วนยอดขายของร้านยีนส์มองว่าตรงนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการตามระบบ เพราะทางบริษัทแม่มีการลองผิดลองถูกมาแล้ว และที่สำคัญต้องเข้าร้านทุกวัน การที่เราเข้าร้านทุกวัน เราจะทราบว่า ลูกค้าเราเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ร้านบ้าง ทำให้เราสามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการร้านเราได้คุณยีนส์ :

ปัจจัยในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
คุณกุ้ง : การเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จะสำเร็จในการทำธุรกิจได้นั้นเราต้องบริหารเอง ส่วนเรื่องแบรนด์ กุ้งมองว่าก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าการทำธุรกิจค้าปลีกต้องมีการสร้างแบรนด์และต้องมีการวางแผนระบบการทำโปรโมชั่นต่างๆให้กับร้าน มีการวางระบบมาตรฐานของสินค้าที่ดี ซึ่งทางบริษัทแม่เค้าได้มีการทำมาได้ดีอยู่แล้ว กุ้งเองก็ชอบเข้าเซเว่นอีเลฟเว่นมาตั้งแต่เด็กๆ และจะมีสินค้าหลักๆที่ชอบซื้อในร้านประจำก็คือไส้กรอกกับสเลอปี้ ซึ่งวันนี้เราภูมิใจกับการทำตรงนี้มากค่ะ
คุณน๊อต : เรื่อง เทคโนโลยี ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำร้านให้ประสบความสำเร็จ เพราะทางเซเว่นอีเลฟเว่น มี Call Center รับเรื่อง กรณีอุปกรณ์ใดมีปัญหาก็สามารถโทรไปที่ Call Center ได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้เซเว่นอีเลฟเว่น ยังมีระบบการส่งของแบบออนไลน์ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งสะดวกรวดเร็ว
คุณยีนส์ : สิ่งที่ยีนส์มองเป็นอันดับแรกคือ บริษัทแม่ต้องมั่นคงก่อน ถ้าบริษัทแม่ไม่มั่นคง ไม่มีศักยภาพ คนก็จะไม่เชื่อถือ อีกอย่างก็ต้องอาศัยแบรนด์ด้วย เพราะถ้าแบรนด์มั่นคง ความมั่นใจก็จะเกิด และลูกค้าก็จะเข้าร้านเราด้วยความมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่การันตีด้วยแบรนด์ของสินค้าที่ลูกค้าเชื่อมั่นอยู่แล้ว

ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์
คุณกุ้ง : ก่อนจะทำธุรกิจใดๆ กุ้งขอแนะนำให้ดูที่ระบบของบริษัทแม่ก่อนค่ะ ให้ดูว่าบริษัทแม่มีระบบสนับสนุนในทุกๆด้านให้กับเราหรือไม่ จากประสบการณ์ที่กุ้งเคยซื้อแฟรนไชส์ที่มีแบรนด์ แต่ขาดระบบสนับสนุน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ พอมีระบบและมีหน่วยงานสนับสนุน ทำให้เราได้เรียนรู้ปัญหาและรู้วิธีแก้ไข จนทำให้เราประสบความสำเร็จในปัจจุบันนี้ค่ะ และสำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ควรต้องลงมือมาบริหารร้านเอง เตรียมกำลัง เตรียมความพร้อมศึกษาข้อมูลและขั้นตอนการจะมาเป็นแฟรนไชส์ต้องทำอย่างไร
คุณน๊อต : ต้องถามใจตัวเองก่อนว่า ผู้ลงทุนชอบอะไร มีความชอบทางด้านไหน ชอบทำงานด้านบริการหรือไม่ และให้ศึกษาถึงว่าการลงทุนมีความเสี่ยงอย่างไร มีทีมงานคอยดูแลและให้การสนับสนุนมากแค่ไหน ครอบครัวเราเห็นด้วยหรือไม่ และมีเวลาในการที่จะมาดูแลกิจการตรงนี้พอรึเปล่า
คุณยีนส์ : เรื่องแบรนด์และความมั่นคงของบริษัทแม่เป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่คุณกุ้งและคุณน๊อตกล่าว แต่ที่สำคัญ ผู้ที่กำลังจะซื้อแฟรนไชส์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารงานระบบแฟรนไชส์และการสนับสนุนของบริษัทแม่ อย่าฟังแต่คนอื่นพูด ต้องหาข้อมูลหลายๆทางด้วยตัวเองก่อน
http://piggyman007.blogspot.com/2010/02/3.html
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เซเว่นอีเลฟเว่น(7-11) ธุรกิจแฟรนไชส์ของคนรักงานบริการ

ร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าปลีก ธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับสังคมไทยมานาน และเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่หลายคนอยากเป็นเจ้าของ แต่ด้วยรายละเอียดของธุรกิจที่มีมากมาย ทำให้คนที่ลงทุนเปิดร้านเองอาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ

แต่วันนี้ฝันของหลายๆ คนจะเป็นจริงได้ง่ายขึ้น เมื่อเซเว่นอีเลฟเว่น แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดได้เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนเลือกเป็นเจ้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยทางบริษัทแม่เตรียมทุกอย่างพร้อมให้ทั้งหมด ทั้งทำเล การฝึกอบรม ระบบการบริหารร้าน ฯลฯ

คุณณัฐพิชญ์ รัตนพาณิชย์ หนึ่งในแฟรนไชส์ซี่ที่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดเผยความรู้สึกหลังจากตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจว่า ก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจนี้ ดิฉันทำงานกับสถาบันการเงินมาก่อน ทำมาพักหนึ่งเกิดภาวะฟองสบู่แตก เลยเปลี่ยนมาทำงานบริษัทเอกชนอยู่ 5 ปี ตอนนั้นลูกสาวอายุ 3 ขวบ เราคิดว่าพอลูก 4 ขวบก็ต้องให้เข้าโรงเรียน เลยอยากมีกิจการอะไรสักอย่างหนึ่งที่เราดูแลกิจการนั้นได้โดยที่ไม่ต้องไปทำงานแบบตอกบัตรเข้างาน 8 โมง เลิกงาน 5 โมง เราอยากกำหนดวิถีชีวิตของเราเอง เลยคิดถึงธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้นมา ก่อนตัดสินใจลงทุนกับเซเว่นฯ ก็ศึกษาแฟรนไชส์อื่นอยู่หลายที่ จุดที่ทำให้ตัดสินใจคือ วันหนึ่งที่บริษัทปูนซิเมนท์ไทยที่สามีทำงานอยู่ เขาก็สัมมนาเรื่องการค้าปลีกแล้วมีการเชิญบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น มาร่วมพูดคุยในเรื่องการค้าปลีกว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ตอนแรกคิดว่า การเป็นเจ้าของร้านเซเว่นฯ ต้องมีเงิน 5 ล้านถึงจะทำได้ แต่สามีมาบอกว่าเซเว่นฯ เขามีนโยบายใหม่ที่เปิดโอกาสให้กับแฟรนไชส์ซี่ได้เข้ามาทำเพื่อจะได้ขยายธุรกิจให้มากขึ้น ดิฉันจึงโทรไปสอบถาม ปรากฏว่าใช้ทุนเพียง 5 แสน และอีก 1 ล้านบาทสำหรับค้ำประกัน เราก็คิดว่าน่าจะไหว และที่ตัดสินใจลงทุนอีกประการหนึ่งก็เป็นเพราะธุรกิจเซเว่นฯ เป็นธุรกิจที่มีชื่อเสียงมานาน เป็นธุรกิจค้าปลีกเกี่ยวกับอาหารการกิน สบู่ ผงซักฟอก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเราต้องกินต้องใช้ ดิฉันก็มองว่าธุรกิจร้านค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ไม่มีวันตาย

พอดิฉันตัดสินใจที่จะทำธุรกิจนี้ ขั้นแรกเราก็ต้องเข้าไปฟังการอบรมสัมมนา เป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 50 100 คนได้ บริษัทก็บอกคร่าวๆ ว่าการเป็นเจ้าของร้านเซเว่นฯ ต้องทำอะไรบ้าง หลังจากนั้นเขาจะโทรมาถามว่าเราทำได้ไหม เพราะมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน แล้วขั้นตอนต่อไปคือการเข้าไปคุยที่บริษัท เขาก็จะมีรายละเอียดมากกว่านั้นว่าเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าสนใจลงทุนก็ต้องมีการเซ็นสัญญามัดจำในการเข้าอบรม อบรมทั้งหมด 45 วัน ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ หลังจากนั้นก็จะมีการคุยกัน ถ้าคุณสามารถทำได้จริงและผ่านการอบรม เงินมัดจำก็จะหักเข้าไปอยู่ในเงินทุน และการลงทุนของดิฉันจะเป็นในรูปแบบของการโอนร้านที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งทางบริษัทจะเลือกร้านมาเสนอให้ว่าร้านไหนเหมาะสม ใกล้บ้าน ทำเลโอเค จากนั้นดิฉันก็จะตัดสินใจเลือกมา 1 ร้านค่ะ

สิ่งที่ดิฉันได้รับจากเซเว่นฯ คือ ได้รับการอบรมขั้นตอนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเราจะไม่มีความรู้ด้านการตลาดและค้าปลีก เราก็สามารถเข้ามาบริหารร้านเซเว่นฯ ได้ เพราะทางบริษัทเขาจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้เราตลอด บริษัทจะเข้ามาดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ในส่วนของพนักงาน เราสามารถส่งให้กับบริษัทอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และถ้ามีอุปกรณ์ร้านใหม่ๆ เข้ามาที่ร้าน ทางบริษัทก็จะมีการอบรมการใช้อุปกรณ์ใหม่เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการประชุมให้ความรู้กับแฟรนไชส์ซี่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาดในช่วงนั้นว่า เราควรจะเน้นเรื่องใด เช่น ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน ต้องเน้นเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เขาก็จะสอนให้ว่าจะมีวิธีสั่งของอย่างไรไม่ให้ขาด แล้วบริษัทก็จะทำการวางแผนการตลาดให้เราตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี เช่น เทศกาลสงกรานต์ ก็จะทำการจัดอุปกรณ์สงกรานต์มาให้ขาย ปิดเทอมเด็กจะเข้าร้านเยอะก็มีโปรโมชั่นอาหารหรือขนมที่เด็กๆ ชอบ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีและเป็นจุดเด่นของแฟรนไชส์เซเว่นฯ

ดิฉันอยากฝากถึงคนที่ต้องการเข้ามาในธุรกิจนี้ว่า ต้องเป็นคนที่รักในงานบริการจริงๆ ต้องเปิดใจให้กว้างพร้อมที่จะเปิดรับกับสิ่งใหม่ๆ เพราะเซเว่นจะมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในร้านตลอด และต้องพร้อมรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพราะร้านเปิด 24 ชั่วโมง

คุณอัมไพ วิญญาภาพ อีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ผันตัวเองมาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง มาเป็นเจ้าของร้านเซเว่นฯ กล่าวถึงธุรกิจนี้ว่า ดิฉันเป็นคนชอบค้าขาย ก็มองว่าจะทำธุรกิจอะไรดี คิดว่าการซื้อแฟรนไชส์น่าจะง่ายกว่าการเริ่มธุรกิจเอง อีกทั้งความเสี่ยงยังน้อยกว่าด้วย และที่เลือกลงทุนกับแฟรนไชส์เซเว่นฯ เพราะดูแล้วว่าเป็นธุรกิจที่จะไปได้ดี มีความมั่นคง โดยก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนก็ได้มีการศึกษาข้อมูลธุรกิจร้านสะดวกซื้ออื่นมาหลายตัว แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกเซเว่นอีเลฟเว่น เพราะเป็นธุรกิจที่แค่เปิดประตูร้านก็มีลูกค้ามาแล้ว เราไม่ต้องไปวิ่งขาย ไม่ต้องไปเสนอสินค้าให้ใคร เพียงแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็จะประสบความสำเร็จได้แล้ว และแฟรนไชส์เซเว่นฯ จะแตกต่างจากแฟรนไชส์อื่นๆ ที่ดิฉันเคยลงทุนมาก่อน เพราะแฟรนไชส์รายอื่นจะไม่ได้บริการใดๆ มากเท่าที่ควรและเราต้องทำตลาดเอง แต่แฟรนไชส์เซเว่นฯ จะทำตลาดให้ครบทุกอย่าง โดยบริษัทจะมีโปรโมชั่นส่งมาให้ตลอด

ส่วนรูปแบบแฟรนไชส์เซเว่นฯ ของดิฉัน คือ มีร้านเซเว่นฯ อยู่แล้ว แล้วดิฉันเข้ามารับโอนเป็นผู้บริหารร้าน โดยจ่ายเงินครั้งเดียวตอนเซ็นต์สัญญา เงินส่วนหนึ่งเป็นเงินค้ำประกัน ที่พอครบสัญญาทางบริษัทจะคืนเงินส่วนนี้ให้ สำหรับเรื่องจุดคุ้มทุนก็ขึ้นอยู่กับการบริหารของเราด้วยว่าเรามีความใส่ใจดูแลร้านมากน้อยแค่ไหน ถ้าดี คุณก็จะได้คืนทุนเร็ว แต่ถ้ามีลงเงินอย่างเดียวแล้วตัวเราไม่ได้เข้ามาบริหาร ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างสาขาอื่นๆ ได้ โดยร้านดิฉันใช้ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 4 ปี อย่างปีแรกจะยังไม่เห็นผลอะไร แต่พอปีที่ 2 3 ก็ดีขึ้น คือเราเริ่มจะรู้เทคนิค เริ่มรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะได้ยอดขาย ทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้าร้าน และตอนนี้ดิฉันก็เพิ่งเปิดสาขาที่ 2 ไปได้ประมาณ 2 เดือนเอง ในอนาคตก็อยากเปิดสาขาต่อๆ ไปค่ะ

คุณอัมไพได้ฝากถึงผู้ที่สนใจจะมาลงทุนในธุรกิจนี้ว่า แฟรนไชส์เซเว่นฯ เป็นงานที่ละเอียดอ่อนเพราะเป็นงานบริการ ถ้าเราไม่ใส่ใจก็ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราต้องพร้อมทั้งการเงิน เวลา ครอบครัว ถ้าพูดถึงครอบครัวนี่ก็สำคัญ เพราะร้านของเราเปิด 24 ชั่วโมง ครอบครัวต้องเข้าใจถึงสภาพการทำงาน และสุดท้ายคือความรักที่จะบริการ ลูกค้าต้องมาก่อนและต้องถูกเสมอ

สนใจร่วมธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นสามารถรับฟังข้อมูลจริงก่อนตัดสินใจได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ 0-2711-7800 ( 24 ช.ม. ) หรือที่ www.7eleven.co.th
http://piggyman007.blogspot.com/2010/02/7-11_14.html
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เซเว่นอีเลฟเว่น(7-11)
แฟรนไชส์ร้านค้าปลีกของคนไทย ธุรกิจอนาคตไกล



ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ธุรกิจร้านค้าปลีกที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีสาขาประมาณ 3,700 สาขา (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2549) เฉพาะในกรุงเทพมีกว่า 2,000 สาขา ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 รองจาก ญี่ปุ่น อเมริกา และไต้หวัน ตามลำดับ และยังมีการเตรียมขยายสาขาเพิ่มในปีนี้อีก 500 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คิดเป็นสัดส่วน 50-50% โดยเน้นการขยายสาขาในรูปแบบเเฟรนไชส์มากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเป็นเถ้าแก่ใหม่

ด้วยระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัย มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีสาขาตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงทุกชุมชน มีพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย มีสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกระดับ ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นจึงถือเป็นธุรกิจในฝันของใครหลายคน แต่ด้วยที่ผ่านมาผู้สนใจลงทุนยังมีความเข้าใจผิดบางประการว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องมีทำเลเองอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงไม่จำเป็น เพราะผู้ลงทุนสามารถโอนสิทธิ์การบริหารจากร้านที่เปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบันได้ และเนื่องจากที่ผ่านมาการเป็นแฟรนไชส์ซีของเซเว่นอีเลฟเว่นจะใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นทางบริษัทจึงได้ปรับแผนโดยการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเน้นสร้างความเข้าใจใหม่ว่าเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นแฟรนไชส์ที่ลงทุนไม่สูง

สำหรับการเงินลงทุนในการร่วมเป็นแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นจะอยู่ที่เพียง 1.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสดค้ำประกันจำนวน 1 ล้านบาท และ 5 แสนบาท เป็นค่าสิทธิแรกเข้า ค่าดำเนินการโอนร้าน และค่าดำเนินการอื่นๆ

นอกเหนือจากนี้แฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นยังมีการให้ความรู้ ฝึกอบรมเทคนิค และวิธีการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพของพนักงาน สำหรับการให้บริการที่ดียิ่งๆ ขึ้น โดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านค้าปลีกก็ไม่ต้องกังวล เพราะกว่า 70% ของแฟรนไชส์ซีทั้งหมดก็ไม่ใช่คนที่เคยทำธุรกิจหรือเคยมีประสบการณ์มาก่อนอีกทั้งบริษัทยังมีการได้ส่งเสริมเยาวชนไทยและลูกหลานโชว์ห่วยให้ได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ด้านธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในระดับปวช. และปวส. โดยผู้สนใจสามารถเข้าศึกษาเล่าเรียน ในโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท พร้อมการฝึกทำงานจริงมีรายได้เสริมไปด้วย ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะเปิดสอนในระดับปริญญาตรี อีกทั้งบริษัทยังได้ให้การสนับสนุนเรื่องหลักสูตรและเนื้อหาวิชาการค้าปลีกในระบบทวิภาคีแก่วิทยาลัยพาณิชยการและสถาบันอุดมศึกษาอีกหลายแห่ง ซึ่งผู้จบการศึกษาจะได้รับการบรรจุเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และบางคนก็ไปเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นของตัวเองโดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท

เรื่องการจัดส่งสินค้าที่มักเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการร้านค้าปลีก สำหรับเซเว่นอีเลฟเว่นจะมีรถมาส่งสินค้าให้ที่สาขา และยังมีระบบตรวจสอบเรื่องจำนวนสินค้า และเรื่องเงินอีกด้วย

เซเว่นอีเลฟเว่น แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อที่ไม่ควรมองข้ามในยุคนี้ อีกหนึ่งทางเลือกของผู้ลงทุน ที่ต้องการเติบโตเคียงข้างบริษัทค้าปลีกของคนไทย

ข้อมูลธุรกิจ
ประเภทธุรกิจ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น
เงินลงทุน 1.5 ล้านบาท
ส่วนที่ 1 ค่าสิทธิแรกเข้า 350,000 บาท
- ค่าดำเนินการโอนร้าน 100,000 บาท
- ค่าดำเนินการอื่นๆ 50,000 บาท
รวม 500,000 บาท

ส่วนที่ 2 - เงินสดค้ำประกัน 1,000,000 บาท
เงินสดค้ำประกัน 1,000,000 บาท
**ได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก (ตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ ณ วันที่ 1 มกราคมของทุกปี)
http://piggyman007.blogspot.com/2010/02/7-11_6587.html
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 8

โพสต์

แนวคิดนี้ ผมว่าโอมากมาก
เซเว่นฯแก้เกมร้านแฟรนไชส์ปิด ลุยเปิดเองก่อนให้แฟรนไชส์สวม

ซีพีออล์ปรับทิศ หันกลับมาลุยเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเองก่อนปล่อยแฟรนไชส์สวมต่อ หลังพบทำเลที่แฟรนไชส์หาเองไม่มีประสิทธิภาพ เปิดแล้วต้องปิดไปมาก ผนึก 3 แบงก์ยักษ์ให้สินเชื่อแฟรนไชส์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมขนสินค้าในแคตตาล็อกไปวางขายในร้านเซเว่นฯเพิ่มขึ้น

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวกเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่หาทำเลเปิดร้านเอง แต่เป็นทำเลที่ไม่ค่อยมีศักยภาพเท่าไรส่งผลต่อยอดขายไม่คุ้มค่า และไม่ประสบความสำเร็จจนต้องปิดสาขาไปจำนวนมากนั้น ทำให้บริษัทฯต้องหันกลับมาใช้นโยบายการขยายสาขาและลงทุนเองก่อนเพื่อให้สาขานั้นประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเปิดขายต่อให้กับผู้สนใจมาซื้อแฟรนไชส์ต่อไป เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมคุณภาพการบริการและการหาทำเลเปิดร้านที่มีประสิทธิภาพได้

ทั้งนี้บริษัทฯยังได้หาทางช่วยเหลือผู้สนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์แต่ไม่พร้อมเรื่องเงินทุนด้วย ล่าสุดได้ร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารนครหลวงไทย เพื่อร่วมกันปล่อยสินเชื่อพิเศษสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยคาดว่า จากการเปิดให้บริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำครั้งนี้จะส่งผลให้ สัดส่วนร้านเซเว่นฯที่เป็นแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50% จากปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 45% และคาดว่าในอีก3 ปีข้างหน้าสัดส่วนร้านแฟรนไชส์จะเพิ่มเป็น 58% ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯมีแผนในการลงทุนเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 400-500 สาขาทั่วประเทศ ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านๆมา

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กล่าวเสริมถึงการทำตลาดในส่วนของเซเว่นแคตตาล็อกด้วยว่า ปัจจุบันนี้มีสินค้าในเซเว่นแคตตาล็อคที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 30 กว่ารายการ ซึ่งในระยะยาวแล้วมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และยังเป็นการสร้างทางเลือกให้กับลูกค้าของเซเว่นฯ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 50%

สำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯนั้นจะเน้นไปที่กลุ่มสินค้า ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่น กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นฯเป็นกลุ่มล่าสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้นำเอากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเข้ามาวางจำหน่ายไปแล้วในบางสาขา

จากแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง การปรับเป็นร้านอิ่มสะดวก รวมทั้งการมีสินค้าและบริการที่ตอบสนองลูกค้าได้อย่างดี คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 110,000 ล้านบาท มีการเติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว ที่มีรายได้ประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับเดียวกับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกที่ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10-15%
http://piggyman007.blogspot.com/2010/02 ... st_14.html
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
DirB
Verified User
โพสต์: 64
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ไปค้นเจอมาครับ น่าสนใจตรงที่ว่า ไม่มีที่เป็นของตัวเองแล้วทางบริษัทจัดหาให้นี่แหละครับ เมื่อก่อนคิดว่าเรื่องที่เป็นภาระของเรา เลยไม่ได้สนใจเพราะผมไม่มีทำเลดีๆเป็นของตัวเอง
ความเห็นที่ 2
มี2แบบครับ
1.ลงทุน1500000 เป็นค่าแฟรนไชน์600000 อีก900000เป็นเงินประกัน เลิก/หรือหมดระยะเวลาจึงจะได้คืนครับ (สัญญา10ปี ได้ดอกเบี้ย บริษัทจะฝากประจำให้ที่ธ.กรุงเทพ) ผลตอบแทนเหมือนเป็นลูกจ้างได้ยืนพื้น20000บาท/เดือน(เราต้องทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน) ไม่ว่าขายได้มากเท่าไหร่ ก็ได้เพิ่มอีกนิดหน่อยเท่านั้น(หลักพันบาท)
2.ลงทุน2400000 เป็นค่าแฟรนไชน์1500000 อีก900000เป็นเงินประกัน เลิก/หรือหมดระยะเวลาจึงจะได้คืนครับ (สัญญา10ปี ได้ดอกเบี้ย บริษัทจะฝากประจำให้ที่ธ.กรุงเทพ) ผลตอบแทนรายได้หลังหักต้นทุนสินค้า เซเว่นเอา46% เราได้ที่เหลือ54% แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่เรา ทั้งน้ำ ไฟ โทรศัพท์ เงินเดือนลูกจ้าง ฯลฯ บริษัทจ่ายออกค่าเช่าสถานที่เท่านั้น ถ้าเป็นตึกของเรา เราก็จะได้ค่าเช่าครับ แบบนี้เราไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ผู้จัดการร้าน จะนั่งเฉยๆก็ได้ แต่ต้องเสียค่าจ้างผู้จัดการร้านเพิ่ม1คน

*****เซเว่นไม่เหมือนร้านค้าปลีกอื่นๆ(แฟมิลี่มาร์ท 108ช็อพ) คนมักเข้าใจว่าเรามีตึก มีทุน ก็ไปหาเซเว่น เอาของมาลง ของเป็นของเรา ที่จริงแล้วไม่มีอะไรเป็นของเราแม้แต่ชิ้นเดียว ทุกอย่างเป็นของบริษัท แบบที่1เหมือนเราซื้อสิทธิ์ไปเป็นลูกจ้าง10ปี แบบที่2เหมือนซื้อสัมปทานร้าน10ปี เคยถามคนที่ทำบอกกำไรมีแน่ มากน้อยอยู่ที่ความสามารถในการบริหาร พนักงานหาเองหรือไม่ต้องหาก็ได้ บริษัทจัดให้เลย อมรมให้เรียบร้อย แต่คอยจ่ายเงินเดือนแล้วกัน

*****ถ้าอยากทำมี2กรณี
1.เราไม่มีตึก ก็ไปเดินดูร้านได้เลยครับ ชอบร้านไหนก็ติดต่อบริษัท เอาเงินไปซื้อแฟรนไชน์ ก็เข้าไปบริหารร้านนั้นได้เลย รายได้ก็แบ่งกันตามที่บอก คิดกันวันต่อวัน แต่ร้านนั้นต้องไม่มีคนซื้อแฟรนไชน์ก่อนนะครับ(ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าของแทบทั้งหมด) อีกนิดถ้าร้านนั้นขายดีมากๆมาก่อนแล้ว(เช่นอยู่หน้าสถานศึกษาขนาดใหญ่)จะต้องเสียค่าทำเลเพิ่มอีก100000-200000 แล้วแต่บริษัทจะเรียกครับ
2.เรามีตึกอยู่แล้ว อยากทำที่ตึกเรา อันนี้ยุ่งหน่อย บริษัทต้องส่งทีมเข้ามาประเมินความเป็นไปได้(ก็ดูว่าแถวนั้นคนเยอะหรือเปล่า จะขายคุ้มมั๊ยนั่นแหละ) แล้วก็ลงทุนแบบ1หรือ2ก็ได้ แต่เราจะได้ค่าเช่าตึกครับ
From : noble [ 3 มิ.ย. 50 - 17:48:53 น. ]
smith_sanguan
Verified User
โพสต์: 3348
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 10

โพสต์

จริงๆ ไม่อยากเขียน

ไหนๆ ก็ไหน 7-11 คนที่ผมรู้จัก ทำแล้ว ขาดทุนมามากมาย ทำเล หรือ ไม่รู้ครับ เปิดแถวสาทร ผมไม่เคยเปิด ไม่คิดจะเปิด ลองทำดูครับ แล้วจะรู้เองครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
DirB
Verified User
โพสต์: 64
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณครับ ที่แนะนำ ผมก็เพียงกำลังสนใจศึกษาอยู่

ตอนนี้ก็หาอ่านข้อเสีย ของ7-11อยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีเวลาว่างศึกษาในรายละเอียดเลยครับ

ใครพอมีข้อมูลทั้งข้อดีและข้อเสีย ไงก็เอามาแบ่งๆกันอ่านนะครับ

:lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
Verified User
โพสต์: 1050
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ที่บ้านทำอยู่ แนะนำว่าอย่าเด็ดขาด
เอาเงินล้าน
มารับเงินเดือนลูกจ้าง ทำงานเป็นลูกจ้าง

เหมือนบริษัทเอาเงินเรามาเปิดร้านแล้ว
ก็จ้างคุณเป็นลูกจ้าง

ตอนนี้ให้เซเว่นเช่าต่อไปแล้ว
สรุป เซเว่นฉลาดมาก เอาเงินคุณมาเปิดสาขาของเขาเพิ่ม
แล้วก็จ่ายเสมือนดอกเบี้ย ไม่ต้องกู้มาเปิดสาขา
หากเจ๊ง ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะไม่ใช่เงินเขา
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
DirB
Verified User
โพสต์: 64
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 14

โพสต์

จริงๆ ไม่อยากเขียน

ไหนๆ ก็ไหน 7-11 คนที่ผมรู้จัก ทำแล้ว ขาดทุนมามากมาย ทำเล หรือ ไม่รู้ครับ เปิดแถวสาทร ผมไม่เคยเปิด ไม่คิดจะเปิด ลองทำดูครับ แล้วจะรู้เองครับ
ผมว่า cpall ก็หาทางช่วยอยู่นะครับ ไม่ว่าจะช่วยดูทำเล และข่าวนี้ ครับ

แนวคิดนี้ ผมว่าโอมากมาก

Quote:
เซเว่นฯแก้เกมร้านแฟรนไชส์ปิด ลุยเปิดเองก่อนให้แฟรนไชส์สวม

ซีพีออล์ปรับทิศ หันกลับมาลุยเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเองก่อนปล่อยแฟรนไชส์สวมต่อ หลังพบทำเลที่แฟรนไชส์หาเองไม่มีประสิทธิภาพ เปิดแล้วต้องปิดไปมาก ผนึก 3 แบงก์ยักษ์ให้สินเชื่อแฟรนไชส์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมขนสินค้าในแคตตาล็อกไปวางขายในร้านเซเว่นฯเพิ่มขึ้น

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวกเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่หาทำเลเปิดร้านเอง แต่เป็นทำเลที่ไม่ค่อยมีศักยภาพเท่าไรส่งผลต่อยอดขายไม่คุ้มค่า และไม่ประสบความสำเร็จจนต้องปิดสาขาไปจำนวนมากนั้น ทำให้บริษัทฯต้องหันกลับมาใช้นโยบายการขยายสาขาและลงทุนเองก่อนเพื่อให้สาขานั้นประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเปิดขายต่อให้กับผู้สนใจมาซื้อแฟรนไชส์ต่อไป เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมคุณภาพการบริการและการหาทำเลเปิดร้านที่มีประสิทธิภาพได้

ทั้งนี้บริษัทฯยังได้หาทางช่วยเหลือผู้สนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์แต่ไม่พร้อมเรื่องเงินทุนด้วย ล่าสุดได้ร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารนครหลวงไทย เพื่อร่วมกันปล่อยสินเชื่อพิเศษสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยคาดว่า จากการเปิดให้บริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำครั้งนี้จะส่งผลให้ สัดส่วนร้านเซเว่นฯที่เป็นแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50% จากปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 45% และคาดว่าในอีก3 ปีข้างหน้าสัดส่วนร้านแฟรนไชส์จะเพิ่มเป็น 58% ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯมีแผนในการลงทุนเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 400-500 สาขาทั่วประเทศ ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านๆมา

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กล่าวเสริมถึงการทำตลาดในส่วนของเซเว่นแคตตาล็อกด้วยว่า ปัจจุบันนี้มีสินค้าในเซเว่นแคตตาล็อคที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 30 กว่ารายการ ซึ่งในระยะยาวแล้วมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และยังเป็นการสร้างทางเลือกให้กับลูกค้าของเซเว่นฯ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่ำ 50%

สำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯนั้นจะเน้นไปที่กลุ่มสินค้า ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่น กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นำเข้ามาขายในร้านเซเว่นฯเป็นกลุ่มล่าสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้นำเอากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเข้ามาวางจำหน่ายไปแล้วในบางสาขา

จากแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง การปรับเป็นร้านอิ่มสะดวก รวมทั้งการมีสินค้าและบริการที่ตอบสนองลูกค้าได้อย่างดี คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 110,000 ล้านบาท มีการเติบโต 10-15% จากปีที่แล้ว ที่มีรายได้ประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับเดียวกับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกที่ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10-15%


http://piggyman007.blogspot.com/2010/02 ... st_14.html


ปล ผมไม่ได้ทำนะครับ แค่พูดตามข้อมูลที่มีอยู่ครับ
คือ ตอนนี้ผมเป้นมนุษย์เงินเดือนอยู่ กทม ผมอยากกลับไปทำงานที่ต่างจังหวัด แถวๆ บ้านเกิดครับ เลยเล็งๆ พวกธุรกิจ franchise ไว้ เผื่อได้ทำจริงครับ

ขอบคุณสำหรับทุก ทุกคำแนะนำครับ

25 - 28 กพ 53 นี้ มีงานมหกรรมแฟรนไชส? ที่เมื่องทองธานีครับ เผื่อมีคนสนใจ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 15

โพสต์

3 ปัจจัยการเสียเปรียบเมื่อซื้อแฟรนไชส์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2548 09:02 น.


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ข้อคิด 3 ปัจจัยการเสียเปรียบเมื่อซื้อแฟรนไชส์เพื่อให้ผู้แฟรนไชซีใช้ในการพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ ดังต่อไปนี้

1.ต้องสูญเสียอิสระภาพในการดำเนินธุรกิจ เพราะแนวคิดของการทำแฟรนไชส์คือการดำเนินธุรกิจตามวิธีที่ได้รับการพัฒนาจากแฟรนไชซอร์ การดำเนินธุรกิจตามรูปแบบที่กำหนดไว้เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องรับรองความสำเร็จของแฟรนไชซี ดังนั้นแฟรนไชซีจึงไม่มีอิสรภาพเต็มที่ต่อการตัดสินใจ

ด้วยเหตุที่แฟรนไชซีเป็นเจ้าของกิจการ และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง การปฏิบัติงานและตัดสินใจหลายๆ เรื่อง จึงเป็นความรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ด้วยจุดนี้ที่ทำให้ผลเสียในด้านการสูญเสียการควบคุมโดยตรงเกิดขึ้นได้มาก หากระบบต่างๆ ของแฟรนไชส์ไม่ดีพอ หรือยากต่อการปฏิบัติ เพราะหากแฟรนไชซีไม่สามารถปฎิบัติได้อย่างที่แฟรนไชซอร์ทำแล้วละก็ตามธรรมชาติผู้รับผิดชอบก็ต้องหาหนทางอื่นที่จะทำ เนื่องจากต้องรับผิดชอบทำให้การทำงานเกิดการเบี่ยงเบนออกจากมาตรฐานต่างๆ ได้

ดังนั้น การพัฒนาธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดข้อจำกัดต่างๆ ในการปฎิบัติงานให้แก่บุคคลที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจให้สามารถปฏิบัติตามได้โดยง่าย และมีความสำเร็จ ในทุกๆ แง่มุมของธุรกิจ เช่น ควรขายสินค้าอะไรที่ราคาเท่าใด หรือเมื่อไหร่ที่จะเสนอขายสินค้าลดราคาและอื่นๆ นอกจากนี้แฟรนไชซียังไม่สามารถตัดสินใจกระทำการใดๆ เพียงลำพังที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณะของแฟรนไชส์ หรือของแฟรนไชซีอื่นๆ

2.ไม่มีหลักประกันความสำเร็จ ถึงแม้จะมีโอกาสสูงในการประสบความสำเร็จจากการซื้อแฟรนไชส์แต่อาจกล่าวได้ว่าไม่มีหลักประกันที่แน่นอนในเรื่องนี้ เนื่องจากความเสี่ยงทางธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้โดยปกติ นอกจากนี้ อาจพบว่าแฟรนไชซีอาจประสบความล้มเหลวด้วยสาเหตุเงินทุนที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ขาดวิสัยทัศน์หรือทำเลที่ตั้งแหล่งระบายสินค้าไม่เหมาะสม สาเหตุของความล้มเหลวที่แฟรนไชซีไม่สามารถปฏิบัติตามระบบของแฟรนไชซอร์ได้ อย่างไรก็ดีสาเหตุของความล้มเหลวแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือสาเหตุจากตัวแฟรนไชซีเองและสาเหตุจากระบบแฟรนไชซอร์

ในด้านตัวของแฟรนไชซีนั้นโดยทั่วไปก็มักจะพบว่าคุณสมบัติของแฟรนไชซีที่ถูกเลือกเข้ามาเพื่อประกอบธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ มีความสามารถไม่ตรงหรือไม่มากพอ หรืออีกทางหนึ่งอาจได้รับการอบรมจากแฟรนไชซอร์ไม่ดีพอด้วยก็อาจเป็นได้ ซึ่งหากสาเหตุของการล้มเหลวเป็นไปในแนวนี้ทางแก้ก็สามารถทำได้ด้วยการให้การอบรม และระบบการสนับสนุนที่ใกล้ชิดซึ่งหากแฟรนไชซียังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแผนของการดำเนินธุรกิจได้ ความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลงจึงต้องเกิดขึ้น

ในด้านของระบบแฟรนไชส์โดยทั่วไปมักมาจากระบบการดำเนินธุรกิจที่เดิมแฟรนไชซอร์ให้มานั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างง่าย ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากระบบนั้นต้องการคุณสมบัติพิเศษมากเกินไปหรือไม่ได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบที่ง่ายขึ้น แต่ยังคงขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากเกินไป ดังนั้น การแก้ไขจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาระบบการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงการอบรมใหม่ ซึ่งหากการเปลี่ยนแปลงทำได้ยาก แน่นอนความสำเร็จของระบบแฟรนไชส์นั้นๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น

3.ค่าใช้จ่ายสูง แฟรนไชซีจำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเพื่อการได้มาซื้อสิทธิในการประกอบกิจการ นอกจากนี้แฟรนไชซียังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น เงินลงทุนเพื่อตกแต่งร้านค้าและค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นประจำสำหรับบริการสนับสนุนที่ได้รับจากแฟรนไชซอร์เมื่อรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะพบว่าคิดเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้นเงินจำนวนนี้จะคุ้มค่าต่อการลงทุนก็ต่อเมื่อแฟรนไชซีได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ดีนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญาที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายใดๆ
from http://www.richdadthai.com/rdtboard/viewtopic.php?t=202
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
smith_sanguan
Verified User
โพสต์: 3348
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ของหายประจำครับ พนักงานเปลี่ยนกระจาย มีปัญหาอีกหลายอย่างครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก มันก็เป็นเช่นนั้นแล
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 17

โพสต์

วันนี้ผมขอนำเสนอข้อมูลแฟรนไชน์ เซเว่น อีเลฟเว่นที่ได้ไปฟังมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันเผื่อมีใครสนใจบ้างครับ

แนวคิด "แฟรนไชส์กับธุรกิจค้าปลีก"

องค์ประกอบของธุรกิจนี้คือ
1. Franchisor เจ้าของ franchise
2. Franchisee ผู้ร่วมลงทุนหรือซื้อ franchise จาก franchisor
3. Franchise fee เงินแรกเข้าแลกกับระยะเวลา การใช้แฟรนไชส์ (เอาคืนไม่ได้)
4. Royalty fee franchisor เรียกเก็บรายเดือน เป็นค่าใช้จ่ายของระบบ เช่น ระบบ POS, Account
Advertising fee Franchisor เรียกเก็บเป็นรายปี


ประเภทของ Franchise

1. Product and tradename franchsing => ขาย sub area license
2. Business format franchising => ขายรูปแบบธุรกิจ
3. Conversion franchising => franchisor ลงทุนให้โดยที่ franchisee ร่วมลงทุนบ้างเล็กน้อย

คำแนะนำในการเลือก franchise

1. ธุรกิจมีชื่อเสียง
2. มีระบบวิธีในการดำเนินธุรกิจ
3. ได้รับคำแนะนำ ส่งเสริมการพัฒนาดำเนินธุรกิจที่ดี

ผู้ที่เหมาะสมกับธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์
1. มีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจนั้น / มีใจรัก
2. เป็นผู้ที่พร้อมที่จะเรียนรู้ ในธุรกิจที่จะดำเนินการ / พร้อมเรียนรู้ know how จาก 7-11 หรือจาก franchisor (45 วันเต็มก่อนเปิดร้าน)
3. เป็นผู้ที่มีความพร้อมเรื่องเวลาและเงินลงทุน / ต้องการเวลาในการบริหารแบบ full time หรือไม่น้อยกว่า 70-80% เวลาทำการของ 7-11
4. เป็นผู้ที่สามารถลงมือปฏิบัติงานด้วยตนเองตามกฏเกณฑ์ และนโยบายของ franchisor
5. เป็นผู้ที่ครอบครัวให้ความเห็นชอบและสนับสนุนให้เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจด้วยตนเอง

Key success factor ของ 7-11

1. สะดวก -เน้นทำเลเป็นหลัก/มองลูกค้าขาประจำเป็นหลัก ประมาณว่า "ขาจำนำขาจร"
2. รวดเร็ว -มาจากตัวบุคลากรเป็นหลัก และเรื่องของอุปกรณ์ เช่น ระบบ POS หรือ CRM มาใช้
3. เป็นกันเอง - สร้างความเป็นกันเองให้แตกต่างจากร้านโชว์ห่วย
4. มีชื่อเสียง
5. การฝึกอบรม / 7-11 อบรมพนักงานให้ฟรี
6. ระบบข้อมูลข่าวสาร
7. มีโฆษณาและการส่งเสริมการขาย
8. สินค้าประเภทอาหาร / สร้างกำไร
9. การบริหารสินค้า ด้วยการวิเคราะห์ด้วย POS,CRM

การลงทุนเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
แฟรนไชส์ Type B (ระยะเวลา 6 ปี)

ส่วนที่ 1
- ค่าสิทธิแรกเข้า 350,000 บาท
- ค่าดำเนินการโอนร้าน 100,000 บาท
- ค่าดำเนินการอื่น ๆ 50,000 บาท

รวม 500,000 บาท

ส่วนที่ 2
- เงินสดค้ำประกัน 1,000,000 บาท
ได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ย ตามอัตราเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ณ วันที่ 1 มกราคม ทุกปี

รวม 1,500,000 บาท

รายได้และผลตอบแทน

1. จากผลการดำเนินงานร้าน
1.1 ผลตอบแทนจากการบริหารร้าน
10,000 จาก ค่าบริหารร้าน
10,000 กรณีที่บริหารค่าใช้จ่ายได้ตามเป้าหมาย
1.2 ผลตอบแทนจากกำไรส่วนเพิ่ม
กรณี Gross profit สูงกว่าเป้าหมาย
เริ่มจาก 20% ที่ 5,000 บาทและเพิ่มทุก ๆ 1% ทุก ๆ 5,000 บาทที่เพิ่มขึ้น

2. รายได้อื่นๆ เช่น ดอกเบี้ยเงินประกัน ฯลฯ

แฟรนไชส์ Type C (ระยะเวลา 10 ปี)

ส่วนที่ 1
- ค่าสิทธิแรกเข้า 500,000 บาท
- ค่าสิทธิในการบริหารร้าน 900,000 บาท
- ค่าดำเนินการอื่น ๆ 100,000 บาท

รวม 1,500,000 บาท

ส่วนที่ 2
- เงินสดค้ำประกัน 900,000 บาท
ได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ย ตามอัตราเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ณ วันที่ 1 มกราคม ทุกปี

รวม 2,400,000 บาท

รายได้และผลตอบแทน

{ยอดขายสินค้า - ต้นทุนสินค้า = กำไรขั้นต้น (Gross profit)}

7-11 46%
franchisee 54%

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ หากต้องการทราบก็สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
คิดว่าพอจะมีอยู่บ้าง เพราะบางส่วนก็ไม่ได้เขียนไว้ครับ
from http://www.richdadthai.com/rdtboard/vie ... 2c727d7729
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
bobo
Verified User
โพสต์: 21
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมว่า น่าจะมีใครคิดเปิดร้านขนาบเซเว่น
ขายสิ่งที่เซเว่นไม่มี แต่น่าจะมีคนซื้อ
เกาะไปทุกแห่งหน ทำตัวเป็นเหาฉลาม ก็น่าจะดีนะ

เคยเห็นอยู่ที่นึง
พี่แกเล่นเปิดซุ้มล้อมเซเว่น ดักหน้าหลังข้าง 3 ซุ้ม
เรียกว่า ก่อนเดินถึงเซเว่น ต้องผ่านซุ้มนี่ก่อน
ส่วนใหญ่จะขายขนมที่เซเว่นไม่มีขาย แล้วก็พวกน้ำต่างๆ
มันก็ขายพอได้เหมือนกันนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ผมว่า กระทู้ ที่ดีนะครับ อาจจะย้ายไปห้อง Alternative Investment ก็ดี นะครับ จะได้ เป็นทางเลือกของ พวกเราๆ อีกทางหนึ่ง ในการลงทุน
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 20

โพสต์

CPALLปีนี้แสนล้านเป้าหมายสูง27บ.
:ดึง3แบงก์ปล่อยกู้แฟรนไชซี่-3ปีสาขาเพิ่ม7,000แห่ง

CPALL ปีนี้ยอดขายกว่าแสนล้านบาทเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาทจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง  ปีนี้ทุ่มงบ 4 พันล้านบาท เล็งผุดเพิ่ม 400-500 สาขา เป้าปี 56 ครบ 7 พันสาขา ล่าสุดดึง 3 แบงก์ใหญ่ กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์-นครหลวงไทย ขยายสัดส่วนแฟรนไชซี่เป็น 50% ในปีนี้ โบรกเชียร์ซื้อราคาเป้าหมาย 27.75 บาทอัพไซด์15%

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) หรือ CPALL กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-15% หรืออยู่ระดับประมาณ 110,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 90,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของยอดขายจะมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจค้าปลีกที่มีการเติบโตจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่นครบ 7,000 สาขา ภายในปี 56 ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสาขาประมาณ 5,300 สาขา ปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 400-500 สาขา จากงบลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท

"ปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขา  400-500  สาขาต่อปี โดยช่วงเดือนม.ค. ที่ผ่านมา บริษัทมีการขยายสาขาได้เพิ่ม 30-40 สาขาโดยอัตราการขยายสาขาเฉลี่ยประมาณ 3 วัน สามารถเปิดสาขาใหม่ได้ 4-5 สาขา"นายก่อศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าปลีกมีการเติบโต โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าเข้าใช้บริการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้ง 5,300 สาขา ประมาณ 6 ล้านคนต่อวัน หรือ 1,200 คนต่อสาขาต่อวัน

นอกจากนี้บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคาร  3  แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย  ธนาคารไทยพาณิชย์  และธนาคารนครหลวงไทย  เพื่อจัดบริการสินเชื่อพิเศษสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่น  อีเลฟเว่น ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสาขาร้านแฟรนไชซี่เป็น 50% จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 40%

โดยธนาคารกสิกรไทย  สนับสนุนวงเงินกู้สูงสุด 2.5 ล้านบาท อนุมัติเร็วภายใน 3 วัน ดอกเบี้ยต่ำเลือกผ่อนได้นานสูงสุด 10 ปีและไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์สนับสนุนวงเงินกู้สูงสุด กรณี Type B/Type พนักงาน 1 ล้านบาทต่อร้านระยะผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี และกรณี Type C ให้วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อร้านระยะเวลาผ่อนสูงสุด 8 ปี

สำหรับธนาคารนครหลวงไทยให้บริการสินเชื่อพิเศษวงเงินไม่เกิน 70% ของเงินลงทุนทั้งหมด  แต่ไม่เกินจำนวนที่กำหนดมาตรฐานไว้ตามขนาดของร้าน สูงสุด 3.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 MLR ลบ 2% ต่อปี ปีที่ 2 MLR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 3 MLR ลบ 1% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา


"ร้านเซเว่น  อีเลฟเว่น  ไม่ใช่คู่แข่งของร้านโชห่วย เนื่องจากราคาสินค้าในร้านเซเว่น  อีเลฟเว่น ผู้ผลิตจะเป็นกำหนดราคาขาย ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่าร้านโชห่วย ทั้งนี้ การเปิดแฟรนไชส์จะต้องมีการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติประกอบด้วย ความขยัน มีเวลา ใจรัก ส่วนพื้นที่ร้านที่ต้องการเปิด จะต้องเป็นแหล่งชุมชนและเป็นที่ต้องการของลูกค้า เป็นต้น"

ด้านการปัญหาทางการเมือง ไม่ใช้ปัญหา เพราะธุรกิจค้าปลีก เป็นสิ่งที่จำเป็นทำให้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทมีความพร้อมที่จะขยายตลาดในต่างประเทศซึ่งที่จีน ยังมีความน่าสนใจ แต่ทั้งนี้ต้องรอทางรัฐบาลจีนแบ่งเขตมณฑลให้ชัดเจนก่อน

บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด(มหาชน) ระบุว่า CPALL อยู่ช่วงเริ่มต้นของการเติบโตของสินค้าประเภท food services เนื่องจากประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาด และเป็นปัจจัยผลักดันยอดขายสาขาเดิมและอัตรากำไรของบริษัทจึงปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม(SSS) มาอยู่ที่ 7%, 5% สำหรับปี 53-54 และ 4% สำหรับปี 55 เป็นต้นไปและสมมติให้อัตรากำไรของสินค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นราว 30-40bp ต่อปี จนถึงปี 58 ทำให้ประมาณการกำไรในช่วง 10 ปีข้างหน้า ปรับขึ้นราว 22% ต่อปี และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นราว 15% มาอยู่ที่ 30 บาทต่อหุ้น จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"

บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPALL มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิที่ดี และงบดุลมีความแข็งแกร่ง จึงแนะนำซื้อราคาตามพื้นฐาน 27.75 บาท อิงอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ(P/E)ปี 53 เท่ากับ 20 เท่า มีอัพไซด์ 15% ส่วนอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 52-53 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เท่ากับ 4% และ4.7% ตามลำดับ จึงจัดให้ CPALL เป็น Top Pick ในหมวดหลักทรัพย์พาณิชย์

โดย  CPALL มีแนวโน้มธุรกิจอนาคตสดใส จากปัจจัยการเปิดขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจากสินค้าประเภทอาหาร ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงมากยิ่งขึ้น  คาดว่าจำนวนสาขาของบริษัทจะมียอดสะสมสูงเป็น 7,000 แห่งในปี 57 หากบริษัทขยายสาขาใหม่ปีละ 400-450 แห่ง

ทั้งนี้ ศักยภาพการเติบโตของบริษัทใน 2 ปีข้างหน้ามีเป้าหมายของสัดส่วนอาหารดังกล่าวเพิ่มเป็น 80-85% ของรายได้รวมภายใน 3 ปี เทียบกับปัจจุบันที่ 73% แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิ (ไม่นับรายการพิเศษ) เทียบกับปีก่อนเป็นไปอย่างดี คือ ปี 52 เป็น72% ปี 53 เป็น 18% และปี 54 เป็น 12%

----------------------------
วันที่ 04 ก.พ. 2553 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 16ช.ม. 30นาที

http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... etail.aspx?
cid=36254
ถ้ากู้ KBANK นี่ แทบไม่ต้องมีเงินลงทุนเองเลย กู้เอา 100%

ผมโทรไปถาม 7-11 แล้วได้ข้อมูลคร่าวๆ ดังนี้
type C
รายได้ 100 %
franchisee --> 54 %
7-11 ---> 46 %

โดย franchisee รับผิดชอบค่าจ้างพนักงานเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายต่่างๆ
7-11 รับผิดชอบค่าเช่าสถานที่ ค่าโลจิสติก ค่าโฆษณา

เงินลงทุน 2.63 ล้านบาท ต่อ 10 ปี
ถ้าหมดสัญญาจะมีการพิจารณาใหม่
- เงินลงทุน 1.73 ล้าน
- เงินคำประกัน 9 แสน จะได้รับคืน เมื่อเลิกทำ

เขาบอกถ้าอยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ ให้ไปฟังสัมนากับยริษัทเอาครับ ซึ่งผมจะไปวันที่ 5 มีนานี้
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เปิดตำนานแฟรนไชส์เซเว่นฯ สาขาแรกในไทย

http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews. ... 0000129064
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ผมสงสัยอย่างคับ

คนซื้อแฟนไชน์   ต้องจัดตั้งบริษัทเองขึ้นมาลองรับ
โดยถือหุ้นในสัดส่วน100%  ใช่ไหมคับ  
ถ้าทำแล้วต้องการเปลี่ยนเป็นเช่า  ก็ต้องโอนหุ้นบริษัททั้งหมดคืนใ้ห้
บริษัทแม่  หรือไงคับ งง
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ผมสงสัยอย่างคับ

คนซื้อแฟนไชน์   ต้องจัดตั้งบริษัทเองขึ้นมาลองรับ
โดยถือหุ้นในสัดส่วน100%  ใช่ไหมคับ  
ถ้าทำแล้วต้องการเปลี่ยนเป็นเช่า  ก็ต้องโอนหุ้นบริษัททั้งหมดคืนใ้ห้
บริษัทแม่  หรือไงคับ งง
คนซื้อแฟรนไชส์ จ่ายเงินค่าแฟรนไชส์ตาม type ที่เลือก
type B 1.5 ล้าน ได้สิทธิ์ 6 ปี
type C 2.63 ล้าน ได้สิทธิ์ 10 ปี

เมื่อหมดสัญญาก็ต่อใหม่ครับ

ถ้าทำแล้วอยากเลิก ก็เลิกได้ครับ แต่ไม่ได้เงินคืน ไม่ได้มีหุ้นอะไรเลย
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ขนาดบ้านผม
ที่อำเภอตะกั่วป่า
จังหวัดพังงา
ในระยะสองกิโลเมตร
ยังมีเซเว่นถึงสามแห่งแล้ว
ที่บ้านที่กรุงเทพ
เข้าไปในซอยเสือใหญ่
สามเซเว่นอยู่ห่างกันไม่ถึงสี่ร้อยเมตร
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
shin_jung49
Verified User
โพสต์: 70
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 25

โพสต์

คุณ piggyman ไปสัมมนาเมื่อวันที่ 5 มึ.ค แล้วเป็นงัยบ้าง ช่วยแชร์ให้ฟังบ้างนะครับ พอดีกำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ออ ได้ข้อมูลเหมือนที่โพสต์ไปก่อนข้างต้นครับ แต่ขอเพิ่มเติมหน่อยนึง
ที่ผมไปฟังเขาแค่ intro ให้เฉยๆ ครับ ใครสนใจทำจริงๆ ต้องส่งใบสมัครไปให้ เขาจะพูดแบบเชิงลึกให้เป็นรายบุคคลไป และมีการอบรม มีไรให้ด้วย

- มี 2 แบบ คือ B กับ C, B ลงทุน 1.5 ล้าน, C ลงทุน 2.67 ล้านบาท
- มีเงินกูให้จำนวนมากจากแบงก์
- แบบ B จะเป็น เราทำงานให้ 7-11 ได้เงินเดือนละ 2 หมื่่น แล้วทาง 7-11 เขาจะเอาสถิติ ค่าใช้จ่าย รายรับ รายได้ต่างๆ มาเป็นเกณฑ์ให้เราครับ เราต้องบริหารร้านให้ได้อย่างน้อยตามเป้า ถ้าทำได้มากกว่าจะมีโบนัสให้เพิ่ม(สามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเกณฑ์ หรือ ขายของได้มากกว่า) โบนัสจะเพิ่มขึ้นตามขั้นบันได แต่ถ้าทำได้น้อยกว่าเป้าก็โดนหักครับ (หักตามขั้นบันไดเหมือนกัน) สรุปคือ มีเงินให้เดือนละสองหมื่น ทำได้เกินเป้าก็บวกไป ทำได้ต่ำกว่าเป้าก็ติดลบ total อาจได้ 1 หมื่น หรือ 3-4 หมื่นก็เป็นไปได้ ขึ้นกับการบริหารของเรา
แบบ B มีอายุสัญญา 6 ปี

- แบบ C จะเอารายได้จากการขายมาแบ่งกัน โดย 7-11 ได้ 46% เราได้ 54% ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเราจ่ายเอง  7-11 ช่วยเรื่องโลจิสติก
แบบนี้สามารถ take over ได้ ถ้าสมมติเห็น 7-11 หน้าบ้านขายดีและยังไม่มีใครไป take over ก็ไปเทคได้เลย แต่จะต้องจ่ายค่า premium ให้ 7-11 (ค่าเสียโอกาสของ 7-11) ซึ่งราคาไม่แน่นอนขึ้นกับแต่ละสาขา มีตั้งแต่ 0 บาท ยันล้านบาท
แบบ C มีอายุสัญญา 10 ปี

ได้ข้อมูลมาประมาณนี้ครับ ลองชั่งน้ำหนักดู  :lol:
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
maiaowna
Verified User
โพสต์: 668
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 27

โพสต์

เปิด 7-11 นี่นรกชัดๆครับ

คนถือหุ้นรวย  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
luckyman
Verified User
โพสต์: 2153
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 28

โพสต์

เปิด 7-11 นี่นรกชัดๆครับ

คนถือหุ้นรวย  
ผมว่ามันแล้วแต่คนเราจะคิดนะครับ แต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน คนเปิดแล้วรวยก็มี เปิดแล้วซวยก็มีครับ

แต่ผมว่า ถ้าเป็นลูกจ้าง 7-11 นี่ ถ้าได้ผันตัวเองเป็นเจ้าของร้าน ผมว่าไม่เลวนะครับ

แต่ถ้าใครมีเงินเยอะๆ สักสิบล้านอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทำดีกว่าครับ ถือหุ้นปันผล 10% ก็ได้เงินมาใช้แล้วปีละล้าน หรือ ใครเป็นลูกจ้างเงินเดือนสูงๆ ห้า หก หมื่นบาท ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูว่าคุ้มไหม เพราะทำ 7-11 โอกาสได้ห้า หก หมื่นนี่ยากอยู่ ยกเว้นแต่ทำหลายๆ สาขา
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่อง แฟรนไชส์ 7-11

โพสต์ที่ 29

โพสต์

มองกว้างๆ  มองไกลๆครับ
แล้วจะได้
มองแคบๆ  คิดเองเออเอง
ก็ต้องระวังมากหน่อยนะครับ
โพสต์โพสต์