ถ้าผมเป็น รมว.คลังจริงๆ นะ.... จะประชุมผู้เกี่ยวข้องอย่างด่วน เลขาฯกลต., ผจก.ตลาดหลักทรัพย์, นายกฯ สมาคม บลจ., เลขา กบข. และ สปส. รวมไปถึง นายกฯ บ.ประกันชีวิต
จากนั้นก็กำหนดมาเลย 2 ข้อ
1. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย เพิ่มจากระดับ 7% โดยเฉลี่ยตอนนี้ เป็นไม่ต่ำกว่า 10% ณ กลางปีนี้ และ 15% ณ ปลายปีนี้
รวมไปถึงกำหนดตัวเลข 20% ณ ปลายปีหน้า 2554 ด้วย
สำหรับ กองทุนบำนาญทุกประเภท สปส. กบข. กสล. และ ประกันชีวิต ซึ่งมีมูลค่าเงินกองทุนรวมกัน 2.5 ล้านล้านบาท....
จะส่งผลให้มีเงินเข้าตลาดหุ้นหลายแสนล้านบาท
อาจมีเสียงบ่นอยู่บ้าง แต่เรื่องนี้เป็นการช่วยเงินในหุ้นของ ผู้ประกันตน และ ขรก. ที่อยู่ใน สปส. และ กบข. ราว 4 หมื่นล้านทั้ง 2 กองทุน ไม่ให้เสื่อมค่าลงไป... แถมน่าจะเพิ่มขึ้นได้ด้วยซ้ำ
และ ใน ตปท. สัดส่วนนี้อยู่ระดับ 50% ขึ้นไปอยู่แล้ว ดังนั้น การยกระดับเพดานหุ้นมาเป็น 20% ก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนักครับ
2. จัดตั้งกองทุนหุ้นเล็ก เลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่ไม่อยู่ใน SET50 เพื่อรักษาสมดุลตลาดหุ้นให้ตัวเล็กซึ่ง P/E 5-6 เท่า ปรับระดับมาที่ 10 เท่าได้ ขณะที่ตัวใหญ่ๆ P/E 18-20 เท่าก็ปรับมาเหลือแค่ 12-15 เท่า ประมาณนั้น
โดย บลจ.ที่จัดตั้งกองทุนพวกนี้ซึ่งปกติประชาชนจะสนใจไม่มากนัก แต่ทุกกองทุนจะได้รับเงินทุนสนับสนุนเพื่อบริหาร จาก ตลาดหลักทรัพย์ กบข. และ สปส. ฝ่ายละ 100 ล้านบาท รวมเป็น 300 ล้านบาท เพื่อลงขันช่วยสร้างสมดุลตลาดหุ้น และ ช่วยยันราคาหุ้นในตลาดฯ
ดังนั้น ขนาดของกองทุนจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะทำให้คุ้มทุนต่อการบริหารสินทรัพย์ของ บลจ.ได้
ด้วย 2 กระบวนท่าง่ายๆ ใน 18 กระบวนท่า เศรษฐษศาสตร์ไท้เก๊ก ก็น่าจะที่จะทำให้ตลาดหุ้นไม่เซไปง่ายๆ แล้ว
อาจทำให้คนที่ short TFEX (ซึ่งอาจรวมผมด้วย ??) ถึงกับหนาวได้เหมือนกันนะครับ สำหรับกลยุทธ์แบบนี้.....
