ธรรมะ ธรรมชาติ

[RONNAPUM]

ศาสนา กับการเมือง ห้ามพูดในวงเพื่อน แตกกันมาเยอะแล้ว
ผมก็หวั่นๆใจอยู่เหมือนกันนะเวลาคุยกับพี่น้องในเวบก็เหมือนกันได้ยินแว่วๆบ่อยๆว่า
พี่ป้อมกลายคนเป็นชอบเทศน์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่...ท่าทางน่าเบื่อ
ทำให้ร่ำๆว่าจะหยุดๆเหมือนกัน

พระอาจารย์พูดสอนเสมอว่า เรื่องศาสนาพูดได้กับคนที่ควรพูด
ด้วยเท่านั้นนะอย่าไปบังคับอยู่ไปยัดเหยียดเรื่องศาสนากับคน
ที่ไม่เห็นด้วยหรือยอมรับ  :)  ผมช่วงปฏิบัติแรกๆมีปัญหามากเลยครับ
เห็น ได้ยิน อะไรรู้สึกหงุดหงิดมากเลยครับ เดี่ยวนี้ก็ยังเป็นแต่น้องลง
มากเพระเข้าใจสภาวะธรรมมากขึ้น  

น้องเต้ยRonnapumทำให้ผมรู้จักไปฟังธรรมกับท่าน
อ.สุรวัฒน์ที่บ้านอารีย์ ทุกวันนี้ยังเป็นที่หลบร้อนของผม
ไปนั่งอ่านหนังสือธรรม ฟังธรรม

อือ ฮือ .... มีประโยชน์กับเขาด้วยเรา  :D  
ว่าแต่ตรงไหนหรือครับพี่พอใจ  :D
ว่าแต่ก็ต้องขอบคุณพี่พอใจด้วยเหมือนกันที่ช่วยเหลือ
และแนะนำทั้งทางตรงและทางอ้อมม

น้องสายลับก็เคยเข้ามาคุึย
ความจริงเท่าที่คนชอบอ่านอย่างผมตามๆที่น้องเขาโพสมา
ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาครับ
แต่เคยมีครั้งนึงที่โพสเรื่องนี้แล้วมีการกระทบกระทั่งกันขึ้นมา
ตั้งแต่นั้นน้องเขาก็พยายามไม่โพสเรื่องนี้ต่อ
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

เห็นด้วยอย่างสูงครับพี่สายลับนั้น ฝึกปฏิบัติด้านนี้ได้ไปไกลแน่ๆ
พี่เขาตอบสนทนาเรื่อง ศาสนา ได้ดีมาก ไม่ว่าที่ตอบในกระทู้
ต่างๆที่ผมถาม หรือกระทู้อื่นๆ พี่แกตอบได้เนียนนนน มากกก  :D

พี่ MO101 ได้มีโอกาศเจอตอนงานจิ๊บเบียร์ล่าสุด
หน้าพี่แก สว่างใส มากเลย สงสัยต้องมีไรดีๆแน่เลย
มาถ่ายทอดให้น้องๆฟังบ้างซิครับพี่

[nano]

เมื่อวานหลังที่มีปัญหาการโพสต์ข้อความ    อดคิดไม่ได้ว่ามีเนื้อหาอะไรบางอย่างที่ครูบาอาจารย์ไม่ต้องการให้สื่อออกมาหรือเปล่า    หลังจากผมปิดเครื่องคอมแล้ว    เมื่อเดินลงไปชั้นล่างเพื่อจะอาบน้ำนอน    ในใจก็ผุดขึ้นมาสี่คำครับ   " ให้ดูตัวเอง "

[wiras]

เรื่องลบเดี๋ยวผมจัดการให้ตามประสงค์

ขอบคุณครับเฮียที่เป็นธุระให้

ผมเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อท่านตั้งแต่ ปี41,42 เริ่มต้นก็ทางnet ก่อนตอน
นั้นผมฝึกแนวอื่นอยู่ก่อนแล้วก็ได้email ไปสอบถามท่านๆก็ให้คำแนะนำมา
และำก็ได้ติดตามอ่านคำสอนของท่านทางwebboard แม้จะรู้ว่าท่านไปสอน
ประจำอยู่ที่ศาลาลุงชินทุกวันอาทิตย์ที่3ซึ่งเป็นวันที่หลวงปู่เหรียญท่านไป
เทศน์แต่ก็ยังไม่ได้ไปพบท่านจนกระทั่งปลายปี43ก่อนที่ท่านจะออกบวชใน
ปี44 ผมก็ได้ไปเรียนจากท่านที่องค์การโทรศัพท์ฯ 2 ครั้งๆที่2ได้พาน้องชาย
ไปด้วย ในปี 44ก็ได้พบท่านอีก 2ครั้งที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่นฯ ท่านยังได้ให้
cd คำสอนของท่านมาอีกหนึ่งแผ่น หลังจากท่านออกบวชแล้วก็ไม่ได้ไป
กราบท่านอีกเลย ได้แต่ติดตามความเคลื่อนไหวของท่านทางnet ฟังคำสอน
ของท่านทางcd และปฏิบัติตามเรื่อยมา คำสอนของท่านในระยะหลังนี้เฉียบ
คมและเข้าใจไ้ด้ง่ายขึ้นมาก ทำให้มีผู้ที่ตื่นขึ้นมาได้เป็นจำนวนมาก ผู้ที่ได้มี
โอกาสได้ฟังธรรมจากท่านนับว่ามีบุญบารมีพอสมควรเลยครับ

[miracle]

พักนี้เป็นอะไรไม่รู้
มันมีลางสังหรณ์มาบอกก่อนเสมอเลยว่ามีเรื่อง
นั้นคือ ตากระตุก ข้างซ้ายและขวา มาบอกก่อน
แต่ไม่ยอมบอกว่า มีเรื่องอะไรที่ไหน
เรียกได้ว่า omen จริงๆล่ะเนี่ย

แบบนี้แก้ไขอย่างไงล่ะพี่ๆๆ

[ศิษย์เซียน007]

[quote="f.escape"][quote="ศิษย์เซียน007"]สำหรับท่านที่อาศัยอยู่แถวสุขุมวิทและมีความสนใจในการทำสมาธิครับ ที่วัดธรรมมงคล(อยู่แถวต้นซอยสุขุมวิท101ครับ)

[ศิษย์เซียน007]

เรียนคุณพี่พอใจว่าข้าน้อยยังถึงสามสิบเลย โปรดอย่าข้าน้อยว่าพี่เลยขอรับข้าน้อยมิกล้าๆ  :lol: ผมชื่นชมลามะหนุ่มจากรายการเรื่องจริงผ่านจอครับทั้งตอนที่ท่านเทศน์และให้พร(ท่านต้องยกมือให้พรประมาณวันละแสนครั้งโดยไม่ได้พักเลยน่าทึ่งจริงๆครับ  )

ปัญหาคุณพี่มิ ต้องขออนุญาติเรียนเชิญคุณพี่สายลับมาช่วยชี้แนะแล้วครับ

[oatty]

เจ้าโอ๊ตใหญ่หัวหยิกที่ชอบหนีไปเที่ยวลาว

อันนี้ ขอท้วงท่านประธานหน่อย บอกรูปผิด ที่หยิกน่ะ ผม ขอรับ ม่ายช่ายหัว..
ส่วนหัว นั้น ช่าง...มัน  :P  :P

[miracle]

มันเป็นเรื่องแปลกน่าครับ
ตัวเองก็งงว่า มันมี sense ที่รับรู้เรื่องพวกนี้ประจำเลย
เหมือน สัญญาณเตือนภัยก่อนภัยมาถึงให้รับมือกับปัญหาที่กำลังมา
แต่สัญญาณที่บอกคือ ไม่บอกอะไรเลยว่า กำลังเกิดปัญหาที่ไหน อย่างไง
บอกว่า มันกำลังมาแค่นั้น ทำให้บ้างครั้งไปบอกคนรอบข้างก็ทำให้พวกเขาขวัญเสีย (หลายครั้งแล้วครับที่บอก เมื่อผมบอกเสร็จแล้ว ก็มีปัญหาตามหลังมาประจำเลย แต่ก็แก้ไขได้ บ้างครั้งก็เกือบแก้ไขไม่ได้ก็มี แต่สุดท้ายก็รอด เหมือนหนังสือการ์ตูนเรื่อง ต้องรอด เขียนเมื่อปี 2518 )

[ฟังหมดแต่เชื่อตัวเอง]

ตอนซัพพราหมณ์
ตอนนั้นตาข้างไหนกระตุกครับ
สังเกตุไว้ให้ดี
ถ้าแม่นเกิน8ใน10ครั้ง
ช่วยโพสบอกล่วงหน้าด้วย
รับรองจะพาไปเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ

[ศิษย์เซียน007]

เมื่อคุณพี่มิพูดถึงเรื่อง sense แล้ว

ผมเลยนึกบางอย่างที่หมอดูลายมือชื่อดังเคยบอกไว้ว่า" คนที่จะทำอาชีพนักลงทุนได้ดีสันมือจะโค้ง"ไม่รู้ว่าจะจริงไหม  :)

[Eyore]

ทำไมข้อมูลในฮาร์ดดิสถึงไม่มีน้ำหนัก

อ่านแล้วก็คิดไปว่า
0 กับ 1 เทียบกับ อารมณ์ปรมัตถ์
File ต่างๆ เทียบกับ อารมณ์บัญญัติ
Neo มองเห็น 0 กับ 1 จึงได้ชื่อว่า The One

กำลังเพ้อก็รู้ว่ากำลังเพ้อ  :lol:

[noooon010]

สัญญาณเตือนภัยก่อนภัยมาถึงให้รับมือกับปัญหาที่กำลังมา
แต่สัญญาณที่บอกคือ ไม่บอกอะไรเลยว่า กำลังเกิดปัญหาที่ไหน อย่างไง
บอกว่า มันกำลังมาแค่นั้น ทำให้บ้างครั้งไปบอกคนรอบข้างก็ทำให้พวกเขาขวัญเสีย (หลายครั้งแล้วครับที่บอก เมื่อผมบอกเสร็จแล้ว ก็มีปัญหาตามหลังมาประจำเลย แต่ก็แก้ไขได้ บางครั้งก็เกือบแก้ไขไม่ได้ก็มี แต่สุดท้ายก็รอด เหมือนหนังสือการ์ตูนเรื่อง ต้องรอด เขียนเมื่อปี 2518 )

คุณ miracle ชอบอ่านการ์ตูนด้วยหรือครับเนี่ย เหมือนผมเลย

ถ้าเป็นผมนะครับ
ถ้าเกิดว่า เราเหมือนจะทราบว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น (โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ไม่ดี)

ผมจำ ใจเย็น และควบคุมอารมณ์ให้ได้มากที่สุดครับ
แล้วค่อยๆแก้ไขเมื่อสิ่งนั้นๆมาถึง

เพราะบางครั้ง สิ่งที่เราคาดคิดก็อาจไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้นี่ครับ
แต่ถ้าเรากังวลมากๆ บางครั้งจิตใจก็ทำให้ส่งผลถึงร่างกายเหมือนกันนะครับ

ดูข่าวคนดังขับรถชนคนเมื่อปีก่อนๆสิครับ
กลัว และกังวลมากจน หายใจเร็ว ...(hyperventilate)

แต่ถ้าทุกครั้งที่คุณ miracle เกิดสะกิดใจ แล้วมันตรงเสมอๆ

ผมว่า เตรียมมาใบ้หุ้นได้แล้วครับ  :lol:  :lol:

ปล. พึ่งเห็นว่า ศิษย์เอกท่าน osho มาพำนักอยู่ที่กระทู้นี้นั่นเอง  :D

[miracle]

[quote="ศิษย์เซียน007"]เมื่อคุณพี่มิพูดถึงเรื่อง sense แล้ว

ผมเลยนึกบางอย่างที่หมอดูลายมือชื่อดังเคยบอกไว้ว่า" คนที่จะทำอาชีพนักลงทุนได้ดีสันมือจะโค้ง"ไม่รู้ว่าจะจริงไหม

[ศิษย์เซียน007]

ลองแบมือแล้วดูที่สันมือว่าโค้งๆไหม ถ้าโค้งออกมาก็โอครับเพราะสันมือบางคนจะตรงเลยไม่โค้งอ่ะครับ  :) ขำๆนะผมฟังมาจากอ.มดครับ

ปล. สันมือของปู่บัฟอาจจะโค้งมากๆก็ได้ครับ  :lol:

[por_jai]

โค้งแบบไหนล่ะท่าน บอกด้วย

by the way
ผมไม่ใช่หมอดูน่าครับ
พอดีผมเห็นอาการแล้ว มันฟ้องมาแปลกๆ ก็เดาไปตามอาการก็เท่านั้นเอง

สันโค้งไม่โค้ง ผมก็ไม่ทราบ
เพราะ by the way
ผมก็กลัวเป็นคนสันเขาอยู่น่าครับ
รู้แต่ว่าถ้ามี2คำนี้
รับรองby the way เป็นพี่มิตัวจริงแท้แน่ๆ น่าครับ

[Eyore]

พักนี้เป็นอะไรไม่รู้
มันมีลางสังหรณ์มาบอกก่อนเสมอเลยว่ามีเรื่อง

แบบนี้แก้ไขอย่างไงล่ะพี่ๆๆ

ถ้าตอบตาม pattern นะ
ต้องบอกว่า

ไม่ต้องแก้ ครับ

เมื่อมี sense ขึ้นมา
อย่าไปมองนอกตัว ไม่ว่าจะคนอื่น หรือมองหาว่าเรื่องอะไร
ให้มองกลับมาที่ใจตัวเอง
รู้สึกไม่สบายใจ ให้รู้ว่าไม่สบายใจ
เริ่มวิตกกังวล ให้รู้ว่าจิตกำลังเริ่มปรุงแต่ง
คิดว่าจะเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ให้รู้ว่าเผลอไปคิดแล้ว
รู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นที่ใจเราอย่างซื่อตรง และเป็นกลาง
ถ้าเห็นอย่างเป็นกลางอย่างแท้จริงแล้ว
ใจจะเป็นกลางต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากนั้นค่อยไปพิจารณาสิ่งต่างๆ โดยไม่มี bias
ว่าเราแก้ไขป้องกันอะไรได้หรือไม่
ถ้าแก้ได้ ก็แก้ไป
ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะมันเป็นสิ่งที่แก้ไขป้องกันไม่ได้
ครับพี่มิ

ท่านพี่อื่นๆว่าไงครับ

[miracle]

พี่Eyore มาแบบหินยาน ที่ดูจิตเฝ้ามองจิตว่ามันทำอะไรอยู่
ซึ่งหากเป็นพวกคนทั่วไปที่ไม่ใช่วิตักจริตเห็นเป็นแน่
แต่หากเป็นวิตักจริต อันนี้มันน่วมมาพื้นฐานของจิตอยู่แล้ว
คือ จิตโดนความคิดครอบงำทั้งวินาที สิ่งเดียวที่เอาอยู่คือ บังคับให้มันเฝ้าดูลมหายใจเข้าออกเท่านั้น
เพราะวิตักจริตมันฟุ้งซ่านทั้งวัน เหมือน เอาเหรียญบาทที่จมในหม้อที่กำลังต้มน้ำอยู่ คนที่มองเหรียญก็มองเห็นน้ำที่กำลังพวยพุ่งอยู่ ไม่เห็นเหรียญที่นอนก้นอยู่ในหม้อว่าเป็นเหรียญอะไร

ถ้าทำกันจริงแล้ว ก็มีวิธีคือ ต้องปล่อยวางลางสังหรณ์นั้น คือ สักจะอยู่ สักจะเห็น สักจะได้ยิน เดี๋ยวมันก็รู้เองว่าอะไร กังวลไปไย ก็ปล่อยวางไปซัก ทำสิ่งที่ทำตอนนั้นให้ดีที่สุดก่อนก็แล้วกัน

มีอีกวิธี (อันนี้เป็นคนที่ไม่กลัวอะไรเลย) คือ คิดกลับว่า ทำไมลางสังหรณ์เกิดแบบนี้แล้ว ไม่ต้องรับมือมันหรอก แต่ต้องฝึกคิดว่า กำลังมีสิ่งท้าทายใหม่ๆให้เราได้กล้าแข็งขึ้น

อันนี้ผมต่อยอดจาก พื้นฐานของตัวเองและความคิดของพี่ Eyore น่ะครับ
พอดีผมรู้ตัวว่าพื้นฐานของผมเป็นจริตไหนใน 6 จริตที่พระพุทธองค์สอนมา
แต่ผมก็ไม่เชื่อว่าวิธีที่พระพุทธองค์ตรัสไว้แก้ไขพื้นฐานของผมได้
ต่อเมื่อมันได้ลองเท่านั้นครับ มันถึงรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่

ปล ถ้าใครสนใจเรื่องจริต ก็ไปหาหนังสือ จริต 6 ศาสตร์แห่งการอ่านใจคนมาอ่านได้น่ะครับ เล่มนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ขาดไปสำหรับคนบ้างคนในที่นี้ครับ

ส่งท้าย แต่ละคนมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน
เช่นผมที่ชอบมีลางสังหรณ์แบบตากระตุกก่อนมีเรื่องเสมอ เป็นต้น
แต่คนอื่นอาจจะมีเรื่องอื่นก็เป็นไปได้ อย่างเช่นคุณแม่ของผม (เอาคนใกล้ตัวมาเล่า) ท่านชอบฝันมาก และแกรู้สึกได้เกี่ยวกับความตาย เพราะถ้าแกเล่าว่าได้ยินเสียงสุนัขเห่า ก็คือแถวบ้านจะมีคนตาย หรือฝันเห็นคนที่รู้จักมาทักทายในฝันและบอกทำนายว่าไปเที่ยว แบบนี้อีกไม่นาน บ้านของผมได้รับข่าวสารเรื่องคนเสียชีวิต ประมาณนี้ครับ
ท่านเคยเล่าว่า ตอนแต่งงานใหม่ ท่านฝันเห็นคนจากไหนไม่รู้เดินมาทักทายท่านที่หัวเตียงนอน แต่ท่านก็จำหน้าคนเหล่านั้นได้ พอลุกจากเตียงขึ้นมาถามพี่ป้าน้าอา ทุกคนบอกว่า คุณแม่เล่ารายละเอียดคนเหล่านั้นได้ไง เพราะคนเหล่านั้นคือญาติท่านที่เสียชีวิตมานานแล้ว
อันนี้เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเรื่อง sense ครับ

[miracle]

เดี๋ยวกลายเป็นกระทู้หนังผีไปได้
จากกระทู้ธรรมะ

[Eyore]

โห ท่านพี่มิ
รู้อยู่แล้วมาหลอกถาม

เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนซะงั้นเรา

[miracle]

โห ท่านพี่มิ
รู้อยู่แล้วมาหลอกถาม

เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนซะงั้นเรา

คุณเข้าใจผิดครับ
พอดีอ่านแล้ว ปิ้งขึ้นมาได้ครับ
ผมต้องขุดความทรงจำขึ้นจากก้นบึ้งของความคิดเลยว่า
มันมีทางไหนที่เป็นทางออกในกรณีของผมหรือไม่

พอดีมันคุณโพสมาแป๊บ ก็คิดออกเลย
เนี่ยคือสิ่งที่บอกว่า ถ้าหากเราคิดเรื่องอะไรเรื่องหนึ่ง ให้มีคิดกันสุดไปเลย
เดี๋ยวมันก็ต้องมีทางออก แต่คุณคิดให้มันสุดแล้วหรือยัง

พอดีผมอ่านเยอะมากอยู่แล้ว ตามพื้นฐานจริตของตัวเอง สิ่งนี้คือจุดแข็ง แต่จุดอ่อนคือ ไม่ได้ลิงค์เอาความรู้ทั้งหมดมาจัดระบบให้ระเบียบ มันกระจัดกระจายเหมือนเมืองที่โดนพายุพัดผ่าน ก็เท่านั้นครับ

และอีกอย่างหนึ่ง ผมอ่านหลักของเซนมาพอควรเลย ต้องใช้หลักของเซนมาตีกับหินมหายานได้ ทำให้บ้างครั้ง มองตรงข้ามได้ จิตก็สูงขึ้นจากที่ต่ำติดดิน ก็แค่นั้นล่ะครับ

สุดท้ายก็สูงสุดคืนสู่สามัญ

[Eyore]

อ้าวเหรอ เข้าใจผิด

งั้นขอโม้ต่อละกัน  555

หลวงพ่อท่านว่า จริต 6 นั้นแบ่งไว้ทำสมถะครับ
สมถะนั้นมันแก้อาการได้เป็นคราวๆ
เหมือนหินทับหญ้า พอยกออก ก็ขึ้นใหม่
เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ถ้าวิปััสนาจะไม่มีคำถามแบบนี้ครับ

พี่มิฟัง CD หลวงพ่อยังครับ
ติดต่อพี่ป้อมได้ มีเป็น set เลย
หรือ download เอาก็ได้ครับ

[miracle]

อย่างนั้นเชียวหรือ

[por_jai]

ไม่รู้ใครเป็นเหมือนผมหรือเปล่า
     ผมอ่านพี่มิโพสไม่ค่อยเข้าใจ
     เวลาคุยโทรศัพท์กับเจอตัว
     กลับคุยกันรู้เรื่องมากกว่า

[miracle]

[quote="por_jai"] ไม่รู้ใครเป็นเหมือนผมหรือเปล่า

[RONNAPUM]

มันเป็นเรื่องแปลกน่าครับ
ตัวเองก็งงว่า มันมี sense ที่รับรู้เรื่องพวกนี้ประจำเลย
เหมือน สัญญาณเตือนภัยก่อนภัยมาถึงให้รับมือกับปัญหาที่กำลังมา
แต่สัญญาณที่บอกคือ ไม่บอกอะไรเลยว่า กำลังเกิดปัญหาที่ไหน อย่างไง
บอกว่า มันกำลังมาแค่นั้น ทำให้บ้างครั้งไปบอกคนรอบข้างก็ทำให้พวกเขาขวัญเสีย (หลายครั้งแล้วครับที่บอก เมื่อผมบอกเสร็จแล้ว ก็มีปัญหาตามหลังมาประจำเลย แต่ก็แก้ไขได้ บ้างครั้งก็เกือบแก้ไขไม่ได้ก็มี แต่สุดท้ายก็รอด เหมือนหนังสือการ์ตูนเรื่อง ต้องรอด เขียนเมื่อปี 2518 )

ถ้าในทางธรรมแล้ว ท่านมิ คือเป็นคนที่มีจิตฟุ้งซ้าน จิตชอบคิด
ชอบวิเคราะห์ เมื่อจิตคิด วิเคราะห์แล้วเราชอบ จิตก็เลยจำสภาวะนั้นไว้
ที่ชอบใว้(ในทางธรรมก็บอกว่าหลง ไปกับสิ่งที่ชอบหรือเกิดครับ)
เมื่อหลง ก็เลยปรุงแต่งเรื่องที่คิดหรือนึกขึ้นมา
และที่มันมาบ่อยๆมันก็เป็นธรรมดาของจิตที่ชอบคิด เกิดแล้วก็ดับครับ
จริงๆท่านมิลองจำหรือรู้สภาวะด้านที่ผิดบ้างซิครับ ว่ามันมาพอกันไหมครับ  :D

ปล... sense ด้านผิดอาจจะพอด้านถูกก็ได้นะครับ เพียงแต่เราไม่ได้
ยึดติดหรือหลงไปกับมัน เพราะว่าเราไม่ชอบอีกทั้งธรรมชาติของเรา
ก็ชอบแต่หลงแต่ด้านดีๆ เพื่อที่จะวิ่งเข้าหา คำว่าความสุข  :D

[RONNAPUM]

คุณเข้าใจผิดครับ
พอดีอ่านแล้ว ปิ้งขึ้นมาได้ครับ
ผมต้องขุดความทรงจำขึ้นจากก้นบึ้งของความคิดเลยว่า
มันมีทางไหนที่เป็นทางออกในกรณีของผมหรือไม่

รู้ลงปัจุบัน

พอดีมันคุณโพสมาแป๊บ ก็คิดออกเลย
เนี่ยคือสิ่งที่บอกว่า ถ้าหากเราคิดเรื่องอะไรเรื่องหนึ่ง ให้มีคิดกันสุดไปเลย
เดี๋ยวมันก็ต้องมีทางออก แต่คุณคิดให้มันสุดแล้วหรือยัง

คิดเล่นๆ ทำเล่นๆ

พอดีผมอ่านเยอะมากอยู่แล้ว ตามพื้นฐานจริตของตัวเอง สิ่งนี้คือจุดแข็ง แต่จุดอ่อนคือ ไม่ได้ลิงค์เอาความรู้ทั้งหมดมาจัดระบบให้ระเบียบ มันกระจัดกระจายเหมือนเมืองที่โดนพายุพัดผ่าน ก็เท่านั้นครับ

ฟุ้งซ้าน

และอีกอย่างหนึ่ง ผมอ่านหลักของเซนมาพอควรเลย ต้องใช้หลักของเซนมาตีกับหินมหายานได้ ทำให้บ้างครั้ง มองตรงข้ามได้ จิตก็สูงขึ้นจากที่ต่ำติดดิน ก็แค่นั้นล่ะครับ

วางซะ

[miracle]

ขอบคุณข้อความของพี่ RONNAPUM

ในทางความคิดคือ อิทัปปัจจยตา  

ตัวที่จับตัวนี้ได้คือ มหาสติปัฏฐาน 4 หรือ ตัว อานาปานสติ

จบลงด้วย ใบไม้หยิบมือเดียว อีกแล้ว

[Eyore]

ผมว่า พี่มิ

จิตมันติดคิด

คือเป็นคนชอบคิด ยิ่งคิดยิ่งมัน

รึเปล่าครับ

[RONNAPUM]

[quote="miracle"]ขอบคุณข้อความของพี่ RONNAPUM

ในทางความคิดคือ อิทัปปัจจยตา

[miracle]

ผมว่า พี่มิ

จิตมันติดคิด

คือเป็นคนชอบคิด ยิ่งคิดยิ่งมัน

รึเปล่าครับ

แสดงว่าพี่ Eyore ยังไม่เคยเจอ ความคิดด้านลบแบบ ลอร์ดเวนเดอร์ ใน starwar
ถ้าคิดด้านลบ ทำให้เกิดการทำลายตัวเอง เกิดขึ้น
และยิ่งย้ำคิดย้ำทำ ก็ น้องๆ คนบ้า หรือ เป็นมากหน่อยก็ อยู่โรงพยาบาลศรีธัญญา ก็เท่านั้น

กลับมาสู่ธรรมะ ตามหลักกาลามสูตร บอกไว้ว่า ห้ามเชื่อความคิดของตัวเอง
อันนี้ คือ สิ่งที่ lock ไว้ครับ เพราะ ความคิดของคุณอาจจะผิดก็ได้
หรือ คิดไปแล้ว ใช้ประโยชน์ไม่ได้ หรือ คิดไปเปลืองสมองทำลายล้างตัวเอง หรือ คิดไปเพื่อทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชีทั้งมวล

ความคิดมันเชื่อไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ปรุงแต่ง
ตามที่พี่ RONNAPUM พิจารณาความคิดของผมเป็นชิ้นๆ
นั้นล่ะ คือ เกิด ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง ดับไป