วิชา ชีวะ ฟิลสิท เคมี

[hot]

ทำไมถึงถูกเอามาเป็นวิชาบังคับ  


ผมรู้สึกว่าเรียนรู้ได้  แต่ได้ใช้น้อยในชีวิตประจำวันหรือเปล่าคับ

[MO101]

ใช้เยอะมากครับ
เพียงแต่เราไม่ค่อยยอมใช้มันเอง
เช่น ในน้ำยาล้างจาน จะมีสารที่ใช้ในการล้างจานอยู่ สารเดียวกันย่อมมีประสิทธิภาพเท่ากัน บางยี่ห้อ บอกเข้มข้น(3%) บางยี่ห้อข้นจนต้องผสมน้ำ 8 ส่วน มันก็ไม่มีความเข้มข้นมากกว่า 8 เท่าแต่อย่างใด เคมีชัดๆ
ฟิสิกส์ จะทำให้ท่านไม่หลงเชื่อหมอดู หรือมายากล
ชีวะ เวลาป่วยท่านจะรู้เรื่องชีวะ หรือลูกท่าน กรุปเลือดไม่เหมือนท่านจะเป็นลูกเราจริงหรือไม่?

[hot]

เพียงแต่เราไม่ค่อยยอมใช้มันเอง

นั่นซิคับ  เราเรียนรู้มาแต่อาชีพ ที่ทำส่วนใหญ่ไม่ได้นำ
มาใช้ ท้ายสุด ก็ลืม ไปว่าเคยเรียนรู้  

ผมรู้สึกว่าไม่น่าเป็นวิชาบังคับ  เอาเสียเลย

น่าจะเป็นวิชาเลือกเรียนมากกว่า

วิชาที่ควร เป็นวิชาบังคับ
น่าจะเกี่ยวกับอาชีพในชีวิตความเป็นอยู่

[kornjackrit]

เห็นด้วยกับคุณ MO101 ครับ


ผมคิด วิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ
ในระดับมัธยมต้นและประถม
ควรจะเป็นวิชาบังคับ
เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆเข้าใจ
ชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นเหตุเป็นผล
เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในอนาคตต่อไป

แต่ในระดับ ม.ปลาย
ผมเห็นด้วยกับคุณ hot ว่าไม่ควรจะเป็นวิชาบังคับ
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการเลือกสายการเรียน
เช่น สาย วิทย์-คณิต , ศิลป์-คำนวณ , ศิลป์-ภาษา
ซึ่งจะมีการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ
สายการเรียนที่เลือก เพื่อจะสามารถนำเอาความรู้
ไปใช้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
ซึ่งสาย วิทย์-คณิต จะมีการเรียน วิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ
เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานในเรียนต่อ เพื่อประกอบ
อาชีพ แพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ

อย่างไรก็ตามนักเ้รียนที่ไม่ได้เลือกเรียน สาย วิทย์-คณิต
ก้ยังคงต้องเรียนวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะอยู่ดี
เพียงแต่อาจจะเรียนในระดับเบื้องต้น ซึ่งผมคิดว่า
ในเมื่อเราเลือกสายอื่นที่ไม่ใช่สาย วิทย์-คณิต มาแล้ว
และเราก็เคยเรียนวิชาเหล่านี้ในระดับมัธยมต้น
และประถม วิชาที่เราควรจะเรียนน่าจะเป็นวิชา
ซึ่งเราต้องนำไปใช้ในการเรียนต่อและประกอบอาชีพ
ในสาขวิชาของเรามากกว่า เช่น หลักบัญชีเบื้องต้น
หลักกฎหมาย แต่วิชาเหล่านี้กลับกลายเป็นวิชาเลือก
ไม่ใช้วิชาบังคับ

[Reminiscence of 3 Dogs]

เพราะตลาดแรงงานประเทศไทยช่วงที่ผ่านมาเพื่อการรองรับการขยายโครงสร้างพื้นฐาน
และการจ้างงานจากต่างชาติในลักษณะรับจ้างผลิตในโรงงาน
ทำให้วิชาทางด้านวิทยาศาสตร์โดนเน้น (ในความคิดเห็นผม)มากจนเกินไป
จนคนที่ไม่ได้มีความถนัดทางด้านการเรียนพวกนี้โดนบังคับไปในตัว
ให้ละทิ้งความถนัดตามกรรมพันธุ์เพื่อมาเรียนวิชาพวกนี้
และไม่ใช่คนทุกคนจะสามารถเรียนได้ดี พอเรียนได้ไม่ดีก็พยายามลืมๆ
สุดท้ายก็โดนทิ้งไม่ได้นำมาใช้ในชิวิตจริง

หันมาดูประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย
ก็มีกลุ่มคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่เลือกเรียนวิชาทางสายพวกนี้
ซึ่งส่วนใหญ่ที่เลือกก็มีความพร้อม ความถนัดและสนใจที่จะเรียนวิชาพวกนี้อยู่แล้ว
ทำให้บุคลากรที่ได้มีคุณภาพถึงระดับพัฒนา innovation ชนิดใหม่ๆขึ้นมาได้
เรื่องพวกนี้ไม่ได้จำเป็นต้องเน้นผลิตจำนวนคนมากๆ
แต่เน้นพัฒนาหัวกะทิที่มีศักยภาพเพียงหยิบมือมากกว่า

[Dualshock]

คงจะเรียนให้รู้เท่านั้นแหล่ะครับ เพราะน้อยคนที่จะได้นำไปใช้ในชีวิตจริง

[นักดูดาว]

ความรู้น้อย ม.ปลายก็ไม่ได้เรียน ...... เข้ามาดูเฉยเฉย

[Glaxo]

เรียนไว้ปูพื้นดีแล้วครับ เพราะเค้าไม่รู้ว่าอนาคตเราจะไปประกอบอาชีพอะไร

[san]

เคยมีผู้ร่วมงานเป็นช่างเทคนิค  จากฝรั่งเศส  เมื่อปี 2530-2532    สิ่งที่แปลกใจมากๆ คือว่า  เขาเรียนมาโดยไม่ได้จบปริญญาตรี   แต่พื้นฐานทางด้าน  ฟิสิกส์  กลศาสตร์  ของเขาแข็งมาก  แน่นมาก  ทั้งๆที่เขาเองตอนนั้นก็แค่วัยรุ่นคนนึง    พอเราอายุ 23-24  มีความแปลกใจ  เลยถามเขา  เขาบอกทำไมถามแบบนี้  ของเขานั้นเป็นวิชาพื้นๆ เอง  ทุกคนเรียนกัน  งานที่พวกผมทำกันกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติคนนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับกลาศาสตร์เลย ซักนิดเดียว  เพียงแต่ผมคุยกับเพื่อน  แต่เขาสามารถเข้ามาแจมกับเราได้

เรียนเถิดครับ  เมื่อพื้นแน่น  ถ้าต้องการไปต่อ  จะไปต่อได้ง่ายนะครับ

ผมเรียนอินทิเกรด  ดิฟ    แต่ตอนทำงานได้ใช้น้อยมาก  ใช้  excel  อย่างเดียว    นอกนั้นสูตรต่างๆ   แทบไม่ได้ใช้เลย  ไม่เป็นไร  เราอาจจะสามารถเอามาประยุกต์อะไรได้มากครับ

ผมยกมือทางด้านให้เรียนครับ

วิทยาศาสตร์คือธรรมชาติครับ
สามารถ  พิสูจน์ซ้ำได้

เรียนมากๆเข้า  เรื่องผีสางเลยไม่กลัว
เรียนมากๆเข้า  อาจจะไม่กลัวตาย  เพราะว่า เดี๋ยวโลกก็แตกดับไปเอง  อิอิอิ

[สวนหย่อม]

ในอีกแง่นึง ก็เป็นการฝึกให้มีความอดทนในการอ่านหนังสือ
และให้สมองคิดและเรียนรู้อย่างเป็นระบบด้วยนะครับ

วิชาพวกนี้ ยกระดับความรู้ จำแนกความรู้ ความคิด จินตนาการ
ของนักเรียนม.ต้นมาอีกหลายเลเวลเลยเมื่อได้เรียนตอนม.ปลาย

[hot]

อย่างวิชาชีวะ ผมว่าเป็นวิชาที่ต้องท่องเอามากมาก

มากกว่า  การเข้าใจ

[Hughes]

เรียนไปดีแล้วครับ

วิทยาศาสตร์เบื้องต้นนี่ทำให้คนเข้าใจสภาพแวดล้อมมากขึ้น ไม่ถูกหลอกง่าย (กว่านี้)  :lol:

[naris]

[quote="hot"]อย่างวิชาชีวะ ผมว่าเป็นวิชาที่ต้องท่องเอามากมาก

มากกว่า

[kornjackrit]

หันมาดูประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย
ก็มีกลุ่มคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่เลือกเรียนวิชาทางสายพวกนี้
ซึ่งส่วนใหญ่ที่เลือกก็มีความพร้อม ความถนัดและสนใจที่จะเรียนวิชาพวกนี้อยู่แล้ว
ทำให้บุคลากรที่ได้มีคุณภาพถึงระดับพัฒนา innovation ชนิดใหม่ๆขึ้นมาได้
เรื่องพวกนี้ไม่ได้จำเป็นต้องเน้นผลิตจำนวนคนมากๆ
แต่เน้นพัฒนาหัวกะทิที่มีศักยภาพเพียงหยิบมือมากกว่า

ให้ 2 ตัวครับ
เห็นด้่วยอย่างยิ่ง
 

[Sumotin]

ผมว่าเป็นวิชาที่จำเป็นมากๆ ทั้ง 3 วิชาครับสอนให้รู้ถึงธรรมชาติ ทำให้โลกมี innovation ใหม่ๆมากมาย เป็นพื้นฐานของวิชาประยุกต์ขั้นสูงอีกเยอะ  

ข้อที่ไม่ดีก็คือ คนสอนไม่ได้ เข้าใจจริงๆ อ่านแต่จากตำราครับ นี่คือที่ผมคิดนะครับ เพราะจริงๆ วิชาพวกนี้ ต้องใช้ความสนใจและจินตนาการที่สูง มากทีเดียว  

[naris]

ช่วงนี้ผมติว วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ เตรียมสอบเข้า สาธิต มข.
ได้ตัวอย่างข้อสอบปี47-48มาสองปี มีแต่ข้อสอบ ต้องมาเฉลยเอาเอง

มาเจอคณิตศาสตร์ที่น่าจะไปออกเอาเด็กม.ปลายมากกว่านะครับ
ลองดูข้อสอบนะครับ

บ.แห่งหนึ่งมีพนักงานผลัดที่หนึงน้อยกว่า4/5ของผลัดที่สอง30คน ถ้าย้ายพนักงานจากผลัดที่สองมาผลัดที่หนึ่ง10คน จะทำให้พนักงานในผลัดที่หนึ่งเป็น3/4ของผลัดที่สอง จงหาว่าจำนวนพนักงานผลัดที่สองมีมากกว่าผลัดที่หนึ่งกี่คน

ลองทำดูนะเพื่อนๆ :lol:

[icque]

ผลัดที่ 1 มี 290 คน ผลัดที่สองมี 400 คน ผลัดที่2 มีมากกว่า 110 คน

[icque]

อืม...ของผมไม่ได้หักออกแฮะ ตรงส่วนที่ย้าย

[Reminiscence of 3 Dogs]

ข้อนั้นเป็นโจทย์สมการของ ม.1สมัยที่ผมเรียนครับพี่นริศ

บ.แห่งหนึ่งมีพนักงานผลัดที่หนึงน้อยกว่า4/5ของผลัดที่สอง30คน ถ้าย้ายพนักงานจากผลัดที่สองมาผลัดที่หนึ่ง10คน จะทำให้พนักงานในผลัดที่หนึ่งเป็น3/4ของผลัดที่สอง จงหาว่าจำนวนพนักงานผลัดที่สองมีมากกว่าผลัดที่หนึ่งกี่คน

พนักงานผลัด1 X
พนักงานผลัด2 Y

X = 0.8Y-30              สมการ1
X+10= 0.75(Y-10)    สมการ2

แทนค่า  X=0.8Y-30 ในสมการ2 ได้

(0.8Y-30)+10 = 0.75(Y-10)
0.8Y-20=0.75Y-7.50
0.05Y= 12.50
Y= 12.5/0.05= 1250/5= 250 คน
ได้ X= 0.8(250)+30 = 230 คน

Y-X=20   ตอบ 20คน   ครับ

[Reminiscence of 3 Dogs]

ตกม้าตายตอนท้าย
แก้ครับ

***X= 0.8(250)-30 = 170 ***   ของเดิมพิมพ์ผิดเป็นบวก

ส่วนต่างคือ Y-X= 250-170 = 80
ต่างกัน 80 คนครับ  

[naris]

80คน ถูกครับ  :D

แต่ผมว่ามันโหดไปหน่อยสำหรับเด็กป.6 สอบเข้าม.1 เท่านั้นเองครับ :lol:

[ก้อนหิน]

จำไม่ได้แล้วแฮะ ว่า ป 6 เรียนสมการแล้วหรือยัง หรือว่ายังไม่ได้เรียน สมการ สองตัวแปรหว่า


ผมไม่ค่อยเข้าใจ ข้อสอบเข้า เค้าถึงชอบ เอาเกินหลักสูตรมาให้สอบก็ไม่รู้

[naris]

น้องส้ม ห้าสิบตางค์
พี่กล้วย แพงกว่าสองเท่าจ่ะ.

[สวนหย่อม]

ครึกครื้นจังครับ  :D

[naris]

รบกวนชาววิศวะด้วย ผมลืมสูตรแล้ว

ที่แห่งหนึ่งต้มน้ำเดือดที่อุหภูมิ 97องศา ที่แห่งนี้สูงจากระดับน้ำทะเลเท่าใด

เอาสูตรง่ายๆให้เด็ก ป.6 นะครับ :lol:

[ก้อนหิน]

สูตรพวกนี้มันต้องจำกันเหรอครับ ทำไมมันไม่เหลือในความทรงจำเอาเสียเลย แหะแหะ เข้าใจว่าปกติ โจทย์มันจะต้องบอกมา มันบอกไรก็ว่าตามนั้นครับ


รอคนมีสูตรเหมือนกันครับ

[Boring Stock Lover]

รบกวนชาววิศวะด้วย ผมลืมสูตรแล้ว

ที่แห่งหนึ่งต้มน้ำเดือดที่อุหภูมิ 97องศา ที่แห่งนี้สูงจากระดับน้ำทะเลเท่าใด

เอาสูตรง่ายๆให้เด็ก ป.6 นะครับ :lol:

เด็กรุ่นใหม่ อาจตอบว่า ก็เปิด GPS หาเส้นรุ้งเส้นแวง ได้แล้ว ก็หาในเนตว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน และมีความสูงเท่าไหร่

ข้อสอบเข้าม.1 นี่ยากเกินไปนะ ไม่รู้ว่าถามยากขนาดนี้ซะกี่เปอร์เซ็นต์

ถ้าเยอะมากระดับหนึ่ง ผมว่าโรงเรียนนี้อาจไม่ต้องหาครูเก่งมาสอบ เพราะเด็กและพ่อแม่เก่งอยู่แล้ว

เหมือนขายอาหารทะเล แค่ของสด ก็ปิ้งต้มย่าง อาหารก็อร่อยอยู่ดี

 :P  :P

[naris]

[quote="ba_2l"]-ความสูงเปลี่ยนไป 11 เมตรความดันเปลี่ยนไป 1 mmhg(มิลลิเมตรปรอท)
-จุดเดือดของน้ำเปลี่ยนแปลงไป 1 องศาเซลเซียส เมื่อความดันอากาศเปลี่ยนแปลงไป 27 มิลลิเมตรของปรอท

ขอสูตรด้วยคน

[moonkiss]

ผมว่าเด็กๆที่ควรเน้นจริงๆคือ
ภาษาอังกฤษ +- ภาษาที่ 3
กับเน้นเรื่อง EQ ครับ
เพราะผมพบว่าในชีวิตจริงใคร social ดีๆ ภาษาเยี่ยมๆรุ่งครับ โตมาใครมานั่งถามตารางธาตุ ให้ไล่ kreb cycle รึคำนวณแตกแรง กันมั่งเหรอครับ ถ้ามันเป็นวิชาเฉพาะของอาชีพนั้นๆ ไปเรียนเฉพาะเอาดีกว่า
สงสารเด็กๆ ขนาดผมอยู่ตจว. แต่รร.กวดวิชาเต็มเมือง ล่าสุดอาทิตย์ก่อนเข้าเมืองพวกรร.กวดวิชาแฟรนไชส์มาหมดแล้ว อ.อุ๊ apply อ.ปิง etc... จะอะไรขนาดนั้นเนียะ