เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 1
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม TTW-CPALL-CKทีเด็ด
เปิดโผ 9 หุ้นปันผลเยี่ยมTTW-CPALL-CKทีเด็ด
ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน มีโอกาสทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 380 จุด หรือมากกว่านั้นแนะลงทุนหุ้นGRAMMY,TTW,CPALL,ADVANCE,BANPU,KSL,EGCO,CPN และ CK เหตุปันผลสูง 6-9%การเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้ ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวสูง กำไรโตต่อเนื่อง แม้ช่วงเศรษฐกิจชะลอ เตือนแมงเม่าอย่ากระโดดเล่น"กลุ่มแบงก์"ช่วงนี้
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวในงานสัมมนา"งัดหุ้นเด่นสู่พิษเศรษฐกิจปี52และลั่นระฆังก่อนขุดทองฟิวเจอร์ส"จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)และหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสดัชนีจะลดลงสู่จุดต่ำสุด 380 จุดได้อีกครั้ง และมีโอกาสลดลงไปมากกว่านั้นได้อีกเนื่องจากตลาดยังมีความผันผวน จากปัญหาต่างๆ เช่น หนี้ของแต่ละประเทศยังเพิ่มสูงขึ้น อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น การจ้างงานยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ ที่ตลาดจะปรับตัวลดลงไปอีก
สำหรับคำแนะนำการลงทุนช่วงไตรมาส 1/52 นี้ แนะให้ลงทุนหุ้นที่มีปันผลสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง กำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ได้ลดลงมากเช่น บมจ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่(GRAMMY)เนื่องจากมีเงินปันผลสูง ธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้อีก ,บมจ.น้ำประปาไทย(TTW) คาดว่าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้าและบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ปันผลก็ดีขึ้นมามาก กำไรโตขึ้นทุกปี
รวมทั้งบมจ.แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANCE) เนื่องจากมีเงินปันผลสูงถึง 9% แต่ราคายังต่ำเกินไปให้ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 64 บาทต่อหุ้น และเป็นหุ้นที่จะได้รับอานิสสงค์จากการนำ 3G เข้ามาใช้ คาดว่าจะเป็นไตรมาส3/52 ราคาถูก สภาพคล่องสูงโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนหากมีการขยายงาน
ส่วนการลงทุนไตรมาส 2/52 จะอยู่บนสมมุติฐานว่าอัตราเงินเฟ้อ จะกลับมาอีกครั้ง ราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นไปได้อีกครั้งปีหลังนี้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้น บมจ.บ้านปู(BANPU) ที่มีความน่าสนใจอยู่ จากประมาณการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่คาดว่าเติบโตขึ้น 40% เงินปันผลที่ 8-9% และบมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL) เนื่องจากพลังงานทดแทนยังมีความน่าสนใจอยู่ แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาก็ตาม
"ใครไม่อยากเสี่ยงหรือลุ้นมาก ก็ควรลงทุนหุ้นพื้นฐานไว้ เนื่องจากในตอนนี้ต้องมองเรื่องการปันผลไว้ก่อน อีกทั้งฐานะทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม"นายกวี กล่าว
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า ถ้าจะให้เลือกว่าจะลงทุนหุ้นตัวไหนดีในช่วงนี้ กลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มการบริโภค เนื่องจากเศรษฐกิจละเลวร้ายอย่างไร แต่คนยังต้องกินต้องใช้ซึ่งควรเลือกหุ้นที่มีเงินปันผลสูง บริษัทต้องไม่มีหนี้ แม้กำไรจะน้อย แต่ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง อีกทั้งต้องมีการปรับพอร์ตของตัวเองให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจด้วย
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุนเช่น บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูงอยู่ที่ 7% และเชื่อว่าอนาคตมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากมีเงินสดจำนวนมาก P/E หุ้นต่ำแค่ 6 เท่า และราคายังมีอัพไซด์อยู่เล็กน้อย รายได้ผันผวนต่ำ แม้กำไรไม่โต แต่ก็ลดลงไม่มาก
โดยบมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY) มองว่าบริษัทที่มีหนี้สินน้อย ปันผลดี อีกทั้ง มีการลงทุนทางด้านเคเบิล จึงทำให้เป็นหุ้นที่น่าสนใจอีกตัว,บมจ.บ้านปู(BANPU)เนื่องจากธุรกิจถ่านหินยังไปได้ดี แม้ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นพลังงานทางเลือกของน้ำมันในอนาคตวอลุ่มสูงเทรดได้ เป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตมาก ขณะที่ตลาดติดลบอัพไซด์36%
รวมทั้งบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) น่าลงทุนอยู่และมีอัตราการเติบโตที่ดี มีการขยายสาขาใหม่ การบริโภคของประชาชนยังมีมาก แต่จุดอ่อน คือ เป็นบริษัทที่ใช้เงินลงทุนบ่อย เนื่องจากมีการสร้างและขยายกิจการอยู่ตลอดเวลา ยังมีความเสี่ยงต่ำและยังลงทุนได้ และบมจ.ช.การช่าง(CK)ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจมาก เนื่องจากได้รับอานิสสงค์จากการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานต่าง นอกจากรถไฟฟ้าแล้วยังมีในส่วนของชลประทานด้วย ซึ่งหุ้นในกลุ่มรับเหมาก็ยังน่าสนใจ และเก็งกำไรได้ดี
"ปีนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะดี โดยปัจจัยหลักมี 3 ข้อ อย่างแรกเรามีรัฐบาลแล้ว โครงการต่างๆคงจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สอง คือ ราคาวัตถุดิบก็ได้ปรับลดลงแล้ว งานประมูลก็เดินหน้าไปแล้ว เพราะฉะนั้นมองว่ารับเหมาก่อสร้างจะมีทิศทางที่สดใสขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ถือว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มแรก ๆ ของตลาดที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากโครงสร้างกำไรของตลาดหลักทรัพย์แบ่งออกเป็น พลังงาน 42% ธนาคารพาณิชย์ 26% สื่อสาร 7% วัสดุก่อสร้าง 7% อสังหาริมทรัพย์ 5% อิเล็กทรอนิกส์ 2% สินค้าเกษตรและอื่น ๆ 12% คาดว่ายังไม่เห็นภาพที่พลังงานจะมีสัดส่วนมากเช่นนี้จนกว่าไตรมาส2/52 ที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าผลประกอบการในครึ่งปีแรกอาจจะไม่ได้ตามเป้า
ทั้งนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่จะเพิ่มขึ้น จากการปล่อยกู้ให้กับภาคการส่งออก ซึ่งภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่สามารถส่งออกได้ ในไตรมาส 4/51 จะเห็นได้ว่าธนาคารเริ่มส่งสัญญาณว่า NPL ขยับเพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารต้องตั้งสำรองมากขึ้น ประกอบกับกฎเกณฑ์จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีความเข้มงวดมากขึ้นยิ่งทำให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
"แบงก์ไทยยังแข็งแรงอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ถึงขนาดไม่ปล่อยสินเชื่อเหมือนแบงก์ในต่างประเทศ เพียงแต่ NPL มีแนวโน้มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าแบงก์จะรับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจ คาดว่ายังไม่ฟื้นตัวในระยะนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาหุ้นทั่วโลกตกลงไปกว่า 50% สถานการณ์เปลี่ยนไปจากอดีตมาก ต้องจับตาดูว่าจะฟื้นเมื่อไหร่ ถ้าฟื้นเร็วหุ้นก็จะกลับมาดีขึ้นการลงทุนในหุ้นต้องดูจีดีพีและผลประกอบการ ที่ผ่านมาผลประกอบการแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งสถาบันการเงินสหรัฐไม่สามารถที่จะปล่อยสินเชื่อได้
"เศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ เมื่อมีเงินทุนที่เพียงพอ เพราะทุกวันนี้รัฐอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปเปล่าประโยชน์ เพราะแบงก์ยังกอดเงินสดอยู่ ถ้าเป็นอย่างนี้ตลาดหุ้นก็จะฟื้นตัวยาก ตลาดหุ้นก็จะผันผวนต่อไปปีนี้ทุกคนจะกลัวความเสี่ยงเราจะได้เห็นวอลุ่มค่อนข้างต่ำอย่างนี้อยู่ต่อไป"นายสุกิจ กล่าว
ด้านนายกวี กล่าวว่า กลุ่มธนาคารถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ส่งออกทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ มียอดสั่งซื้อหายไป ซึ่งปัจจุบันที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้นั้นเกิดจากยอดการสั่งซื้อเก่า ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายเป็น NPL ทันที นอกจากนั้นยังรวมไปถึงกลุ่มอัญมณี ชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็ก เนื่องจากปีนี้บริษัทโตโยต้าประกาศว่ายอดผลิตรถยนต์จะลดลงไปประมาณ 20% กลุ่มส่งออกเฟอร์นิเจอร์และกลุ่มสิ่งทอที่มีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้มีปัญหาในขณะนี้แต่รู้ว่าจะมีปัญหาในอนาคตนั้น ได้ออกมาดึงเงินกู้เพื่อทำโครงการต่าง ๆ จากธนาคารแล้วนำไปฝากไว้กับธนาคารก่อนที่จะมีการนำไปขยายโครงการจริง เนื่องจากกลัวว่าธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้ หรือลดวงเงินการปล่อยกู้ เนื่องจากธุรกิจอาจจะมีปัญหาโดยเห็นได้จากปี 51 สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 15% แต่เศรษฐกิจกลับเติบโตแค่ 3% เท่านั้น
"NPL คือคนที่ไม่จ่ายหนี้ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปแต่ปัจจุบันกลับพบว่าตัวเลขหนี้ที่ไม่จ่ายตั้งแต่1-3เดือน เพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัว สิ่งที่เราไม่เห็นว่าแบงก์มีหนี้NPLเยอะเนื่องจากมีการหลบไว้ หรือไม่ก็มีการปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ไม่โผล่เป็น NPL โผล่แน่นอนหรือมีการขายหนี้เสียออกไป ตั้งสำรองก็เพิ่มมากขึ้น จึงมองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ยังไม่เหมาะที่จะซื้อในช่วงนี้ ถ้าให้เลือกขอเป็นคนที่3ดีกว่า ให้คนที่ 1และ 2 เข้าไปเจ็บตัวก่อน ถ้ายังอย่างเสี่ยงก็ค่อยเข้าไปเป็นคนที่ 3 ก็ได้"นายกวีกล่าว
------------------------------
วันที่ 02 ก.พ. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 22นาที
GRAMMY Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 7.38 1.75
TTW Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 14.30 2.02
CPALL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.03 4.83
BANPU Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 6.43 1.55
KSL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 10.91 1.11
EGCO Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.03 0.82
CPN Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 12.80 2.04
CK Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.54 1.12
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=23400
เปิดโผ 9 หุ้นปันผลเยี่ยมTTW-CPALL-CKทีเด็ด
ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน มีโอกาสทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 380 จุด หรือมากกว่านั้นแนะลงทุนหุ้นGRAMMY,TTW,CPALL,ADVANCE,BANPU,KSL,EGCO,CPN และ CK เหตุปันผลสูง 6-9%การเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้ ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวสูง กำไรโตต่อเนื่อง แม้ช่วงเศรษฐกิจชะลอ เตือนแมงเม่าอย่ากระโดดเล่น"กลุ่มแบงก์"ช่วงนี้
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวในงานสัมมนา"งัดหุ้นเด่นสู่พิษเศรษฐกิจปี52และลั่นระฆังก่อนขุดทองฟิวเจอร์ส"จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)และหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสดัชนีจะลดลงสู่จุดต่ำสุด 380 จุดได้อีกครั้ง และมีโอกาสลดลงไปมากกว่านั้นได้อีกเนื่องจากตลาดยังมีความผันผวน จากปัญหาต่างๆ เช่น หนี้ของแต่ละประเทศยังเพิ่มสูงขึ้น อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น การจ้างงานยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ ที่ตลาดจะปรับตัวลดลงไปอีก
สำหรับคำแนะนำการลงทุนช่วงไตรมาส 1/52 นี้ แนะให้ลงทุนหุ้นที่มีปันผลสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง กำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ได้ลดลงมากเช่น บมจ.จีเอ็มเอ็มแกรมมี่(GRAMMY)เนื่องจากมีเงินปันผลสูง ธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้อีก ,บมจ.น้ำประปาไทย(TTW) คาดว่าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นในปีนี้และปีหน้าและบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ปันผลก็ดีขึ้นมามาก กำไรโตขึ้นทุกปี
รวมทั้งบมจ.แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANCE) เนื่องจากมีเงินปันผลสูงถึง 9% แต่ราคายังต่ำเกินไปให้ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 64 บาทต่อหุ้น และเป็นหุ้นที่จะได้รับอานิสสงค์จากการนำ 3G เข้ามาใช้ คาดว่าจะเป็นไตรมาส3/52 ราคาถูก สภาพคล่องสูงโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนหากมีการขยายงาน
ส่วนการลงทุนไตรมาส 2/52 จะอยู่บนสมมุติฐานว่าอัตราเงินเฟ้อ จะกลับมาอีกครั้ง ราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นไปได้อีกครั้งปีหลังนี้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้น บมจ.บ้านปู(BANPU) ที่มีความน่าสนใจอยู่ จากประมาณการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่คาดว่าเติบโตขึ้น 40% เงินปันผลที่ 8-9% และบมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL) เนื่องจากพลังงานทดแทนยังมีความน่าสนใจอยู่ แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาก็ตาม
"ใครไม่อยากเสี่ยงหรือลุ้นมาก ก็ควรลงทุนหุ้นพื้นฐานไว้ เนื่องจากในตอนนี้ต้องมองเรื่องการปันผลไว้ก่อน อีกทั้งฐานะทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม"นายกวี กล่าว
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า ถ้าจะให้เลือกว่าจะลงทุนหุ้นตัวไหนดีในช่วงนี้ กลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มการบริโภค เนื่องจากเศรษฐกิจละเลวร้ายอย่างไร แต่คนยังต้องกินต้องใช้ซึ่งควรเลือกหุ้นที่มีเงินปันผลสูง บริษัทต้องไม่มีหนี้ แม้กำไรจะน้อย แต่ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง อีกทั้งต้องมีการปรับพอร์ตของตัวเองให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจด้วย
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุนเช่น บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูงอยู่ที่ 7% และเชื่อว่าอนาคตมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากมีเงินสดจำนวนมาก P/E หุ้นต่ำแค่ 6 เท่า และราคายังมีอัพไซด์อยู่เล็กน้อย รายได้ผันผวนต่ำ แม้กำไรไม่โต แต่ก็ลดลงไม่มาก
โดยบมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY) มองว่าบริษัทที่มีหนี้สินน้อย ปันผลดี อีกทั้ง มีการลงทุนทางด้านเคเบิล จึงทำให้เป็นหุ้นที่น่าสนใจอีกตัว,บมจ.บ้านปู(BANPU)เนื่องจากธุรกิจถ่านหินยังไปได้ดี แม้ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นพลังงานทางเลือกของน้ำมันในอนาคตวอลุ่มสูงเทรดได้ เป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตมาก ขณะที่ตลาดติดลบอัพไซด์36%
รวมทั้งบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) น่าลงทุนอยู่และมีอัตราการเติบโตที่ดี มีการขยายสาขาใหม่ การบริโภคของประชาชนยังมีมาก แต่จุดอ่อน คือ เป็นบริษัทที่ใช้เงินลงทุนบ่อย เนื่องจากมีการสร้างและขยายกิจการอยู่ตลอดเวลา ยังมีความเสี่ยงต่ำและยังลงทุนได้ และบมจ.ช.การช่าง(CK)ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจมาก เนื่องจากได้รับอานิสสงค์จากการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานต่าง นอกจากรถไฟฟ้าแล้วยังมีในส่วนของชลประทานด้วย ซึ่งหุ้นในกลุ่มรับเหมาก็ยังน่าสนใจ และเก็งกำไรได้ดี
"ปีนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะดี โดยปัจจัยหลักมี 3 ข้อ อย่างแรกเรามีรัฐบาลแล้ว โครงการต่างๆคงจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สอง คือ ราคาวัตถุดิบก็ได้ปรับลดลงแล้ว งานประมูลก็เดินหน้าไปแล้ว เพราะฉะนั้นมองว่ารับเหมาก่อสร้างจะมีทิศทางที่สดใสขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ถือว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มแรก ๆ ของตลาดที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากโครงสร้างกำไรของตลาดหลักทรัพย์แบ่งออกเป็น พลังงาน 42% ธนาคารพาณิชย์ 26% สื่อสาร 7% วัสดุก่อสร้าง 7% อสังหาริมทรัพย์ 5% อิเล็กทรอนิกส์ 2% สินค้าเกษตรและอื่น ๆ 12% คาดว่ายังไม่เห็นภาพที่พลังงานจะมีสัดส่วนมากเช่นนี้จนกว่าไตรมาส2/52 ที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าผลประกอบการในครึ่งปีแรกอาจจะไม่ได้ตามเป้า
ทั้งนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่จะเพิ่มขึ้น จากการปล่อยกู้ให้กับภาคการส่งออก ซึ่งภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่สามารถส่งออกได้ ในไตรมาส 4/51 จะเห็นได้ว่าธนาคารเริ่มส่งสัญญาณว่า NPL ขยับเพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารต้องตั้งสำรองมากขึ้น ประกอบกับกฎเกณฑ์จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีความเข้มงวดมากขึ้นยิ่งทำให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
"แบงก์ไทยยังแข็งแรงอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ถึงขนาดไม่ปล่อยสินเชื่อเหมือนแบงก์ในต่างประเทศ เพียงแต่ NPL มีแนวโน้มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าแบงก์จะรับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจ คาดว่ายังไม่ฟื้นตัวในระยะนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาหุ้นทั่วโลกตกลงไปกว่า 50% สถานการณ์เปลี่ยนไปจากอดีตมาก ต้องจับตาดูว่าจะฟื้นเมื่อไหร่ ถ้าฟื้นเร็วหุ้นก็จะกลับมาดีขึ้นการลงทุนในหุ้นต้องดูจีดีพีและผลประกอบการ ที่ผ่านมาผลประกอบการแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งสถาบันการเงินสหรัฐไม่สามารถที่จะปล่อยสินเชื่อได้
"เศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ เมื่อมีเงินทุนที่เพียงพอ เพราะทุกวันนี้รัฐอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปเปล่าประโยชน์ เพราะแบงก์ยังกอดเงินสดอยู่ ถ้าเป็นอย่างนี้ตลาดหุ้นก็จะฟื้นตัวยาก ตลาดหุ้นก็จะผันผวนต่อไปปีนี้ทุกคนจะกลัวความเสี่ยงเราจะได้เห็นวอลุ่มค่อนข้างต่ำอย่างนี้อยู่ต่อไป"นายสุกิจ กล่าว
ด้านนายกวี กล่าวว่า กลุ่มธนาคารถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ส่งออกทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ มียอดสั่งซื้อหายไป ซึ่งปัจจุบันที่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้นั้นเกิดจากยอดการสั่งซื้อเก่า ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายเป็น NPL ทันที นอกจากนั้นยังรวมไปถึงกลุ่มอัญมณี ชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็ก เนื่องจากปีนี้บริษัทโตโยต้าประกาศว่ายอดผลิตรถยนต์จะลดลงไปประมาณ 20% กลุ่มส่งออกเฟอร์นิเจอร์และกลุ่มสิ่งทอที่มีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้มีปัญหาในขณะนี้แต่รู้ว่าจะมีปัญหาในอนาคตนั้น ได้ออกมาดึงเงินกู้เพื่อทำโครงการต่าง ๆ จากธนาคารแล้วนำไปฝากไว้กับธนาคารก่อนที่จะมีการนำไปขยายโครงการจริง เนื่องจากกลัวว่าธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้ หรือลดวงเงินการปล่อยกู้ เนื่องจากธุรกิจอาจจะมีปัญหาโดยเห็นได้จากปี 51 สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 15% แต่เศรษฐกิจกลับเติบโตแค่ 3% เท่านั้น
"NPL คือคนที่ไม่จ่ายหนี้ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปแต่ปัจจุบันกลับพบว่าตัวเลขหนี้ที่ไม่จ่ายตั้งแต่1-3เดือน เพิ่มสูงขึ้นจนน่ากลัว สิ่งที่เราไม่เห็นว่าแบงก์มีหนี้NPLเยอะเนื่องจากมีการหลบไว้ หรือไม่ก็มีการปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ไม่โผล่เป็น NPL โผล่แน่นอนหรือมีการขายหนี้เสียออกไป ตั้งสำรองก็เพิ่มมากขึ้น จึงมองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ยังไม่เหมาะที่จะซื้อในช่วงนี้ ถ้าให้เลือกขอเป็นคนที่3ดีกว่า ให้คนที่ 1และ 2 เข้าไปเจ็บตัวก่อน ถ้ายังอย่างเสี่ยงก็ค่อยเข้าไปเป็นคนที่ 3 ก็ได้"นายกวีกล่าว
------------------------------
วันที่ 02 ก.พ. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 22นาที
GRAMMY Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 7.38 1.75
TTW Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 14.30 2.02
CPALL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.03 4.83
BANPU Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 6.43 1.55
KSL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 10.91 1.11
EGCO Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.03 0.82
CPN Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 12.80 2.04
CK Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.54 1.12
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=23400
-
- Verified User
- โพสต์: 226
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 2
ksl เนี่ยนะปันผลเยอะ - -
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 5
ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน มีโอกาสทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 380 จุด หรือมากกว่านั้นแนะลงทุนหุ้นGRAMMY,TTW,CPALL,ADVANCE,BANPU,KSL,EGCO,CPN และ CK เหตุปันผลสูง 6-9%การเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้
CK,CPN ไม่มีหนี้เหรอ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 6
ผมให้อย่างมาก ไม่เกิน 4% อะchatchai เขียน:CPALL จ่ายปันผลเท่าไรครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 9
นักวิเคราะห์ ทำไปได้


When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 11
oops! :shock: !naris เขียน:อาหารจานเด็ดวันนี้ "ยำสาหร่ายเขียว"
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 12
ผมว่าย้ายกระทู้นี้ไปห้องนั่งเล่นก็ยังได้นะครับ 
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดโผ 9 หุ้น ปันผลเยี่ยม
โพสต์ที่ 13
หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นปันผลเยี่ยมถ้าSETอยู่แถว700-800จุดครับ :8)
ที่ดัชนีระดับนี้ผมเจอบางบริษัทให้เงินปันผลขั้นต่ำประมาณ10%ผมถือเป็นเกณฑ์มาตรของดัชนีระดับนี้ครับ
ที่ดัชนีระดับนี้ผมเจอบางบริษัทให้เงินปันผลขั้นต่ำประมาณ10%ผมถือเป็นเกณฑ์มาตรของดัชนีระดับนี้ครับ