ทำไงดีตกงานมา 2 ปีแล้ว จบการเงิน

[dinnn]

จบการเงินที่ ม. ราม ด้วยเกรด 3.11  เรียน 3.5 ปี แต่ ไป สัมภาษณ์งานที่ไหน เขาก็ไม่รับ สักที รู้ ว่าตัวเองเป็นคน ไม่มีความมั่นใจเลย และบุคลิก ก็ ดูไม่ดีเอาซะเลยและ อีก อย่าง ผมอายุเยอะ แล้ว ด้วย 26 ปี ครับ จึงเป็นสาเหตุบริษัท ต่างๆ ไม่รับ คงงั้น555  
ทีแรก ว่าจะไปสมัครงาน เซเว่น แต่ก็ คิด ว่าคงทำไม่ไหว เพราะตัวเองยืนนานๆ ไม่ได้ เพราะเจ็บเท้าเรื้อรัง  ตอนนี้ก็ไม่รู้ จะทำยัง ไง    
 ใครมี งานให้ผมทำบ้างคราบ   ถ้าเป็น งาน แบบ ผู้ ช่วยก็ ได้ เงินเดือน 4-6 พัน ก็ได้ อยากได้ ความรู้ มากกว่าคราบ   ยัง ไงก็ 0890725800 เอก ครับ

[dinnn]

อ้อ ลืมบอกไป ว่า ไม่เคย ทำงานที่ไหน มาก่อน เลย คราบ

[BHT]

เล่าหน่อยครับว่าสมัครงานที่ไหน ยังงัยบ้าง

การไม่ได้งานสองปีนี่ผมว่าน้อยคนมากๆนะที่เป็นแบบนี้

[krisy]

งานการเงินอาจหาลำบากหน่อยมั้ง ช่วงนี้ แต่ถ้าคาดเงินเดือนไม่สูงเนี่ย ไม่น่าหายากนะคะ

เราว่าสิ่งที่คุณต้องทำก่อน คือทำตัวให้ผู้จ้างเห็น

เราไม่แน่ใจว่า ที่ผ่านมาคุณหางานผ่านทางไหน เพราะสมัยนี้เค้าผ่าน head hunter กัน walk-in อย่าไปหวังค่ะ ไม่มีเรียกเลย คุณเอา resume ไปลงใน net บ้างหรือเปล่า เราลงไว้แค่ 3 website เองแต่ก็มีงานส่งมาให้ดูทุกวัน

วันก่อนมี job fair คุณได้ไปหรือเปล่าคะ เราไปมาค่ะ ทิ้ง resume ไว้ทุกจ้าว ตอนนี้ก็ไปทิ้งใบสมัครไว้ที่ head hunter 5 ที่แล้วพร้อมสัมภาษณ์รอบแรกไปแล้ว ไม่นับที่ส่ง resume ทาง e-mail และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อีกหลายที่ เหนื่อยมากเพราะตอบคำถามเดิมซ้ำเป็นสิบ แต่ก็ต้องทำ

นอกจากนี้ เรายังเข้าไปค้น internet เอาตัวอย่างคำถามคำตอบที่มักเจอในการสัมภาษณ์เป็นร้อยๆข้อมาอ่าน พร้อมทำ mind map คำตอบของคำถามยอดฮิตไว้ด้วย เรายังแต่ง script สำหรับพูดภาษาอังกฤษไว้อีกด้วยนะคะ

สองวันก่อนก็ลงทุนไปสอบ toeic เองเลย 1200 บาท เพื่อประกอบ resume คุ้มมากเพราะ head hunter ตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนสอบเราเข้าไปหาตัวอย่างข้อสอบจาก internet มานั่งทำ ทำไปเยอะพอควร

ทำขนาดนี้แล้วเรายังไม่ได้งานเลยค่ะ เพราะฉนั้น ห้ามท้อนะคะ ถ้าคุณเรียนจบมาและคิดว่ามีคุณค่าเกิน 6 พันก็อย่าหวังแค่นั้น แต่ให้ทำทุกอย่างเท่าที่คิดออก

ปล. เรายังให้เพื่อนๆช่วยหาให้ด้วยค่ะ มี connection ไว้ก็ต้องหัดใช้

โชคดีนะคะ

[beammy]

เพิ่ม value ตัวเองให้ได้ครับ

ผมเชื่อว่าพี่คงหาวิธีได้แน่นอน  :8)  ...

[bankniti]

[quote="beammy"]เพิ่ม value ตัวเองให้ได้ครับ

ผมเชื่อว่าพี่คงหาวิธีได้แน่นอน

[Jeng]

แนวความคิดอะไรที่ทำให้ตกงานหละ

เป็นเพราะเรียนจบตรีหรือไม่

ผมแนะนำว่า ห้ามตกงานครับ

ทำอะไรก็ได้

เช่น ขับแท๊กซี่

สมัยก่อนมีรุ่นพี่คนนึง รู้สึกตอนปี 2540 แกโดนไล่ออก แล้วแกก็ไปขับแท๊กซี่ ตอนนี้ก็มีแท๊กซี่ 100-200 คัน

แกจบเตรียมอุดม และจบเกษตรศาสตร์ ครับ

เพราะฉะนั้น หากตกงานไปนานๆ แสดงว่า เป็นคนไม่สู้ครับ

ต้องปรับปรุงตัวใหม่ โดยหนักเอาเบาสู้ ทำๆไปก่อนครับ

[Akajon]

คุณเจ๋งอยู่แถวไหนครับ รุ่นพี่ที่ทำแท็กซี่ อยู่แถวรองเมืองรึเปล่า น่าจะรู้จักกันครับ

อู่ที่มี 100+ คันนี่ มีไม่มากครับ

[beammy]

สีสถาบันก้อมีส่วนครับ

พวกที่เอาแต่ จุฬา มธ เกษตร มหิดล เอแบค ก้อเยอะนะ

ฉะนั้น หากพี่มีคุณวุฒิ และวัยวุฒิ เท่ากันกับพวกที่ผมกล่าวมา
พี่ควรหาอะไรที่มันเหนือกว่าพวกนั้น ประกอบ Resume ไว้ ครับ
เพราะพวกที่มองแค่สีสถาบัน พอเห็นรามคำแหง กับราชภัฎ ก้อเก็บไว้ก่อน ยกเว้นไม่มีตัวเลือกอื่นจริงๆ

เพื่อนผมทำงาน head hunter ครับ มันเป็นแบบนี้จริงๆ

ผมแนะนำตามที่พี่ Krisy บอกครับ ฟิตภาษาอังกฤษแล้วไปสอบ TOEIC ให้ได้เกิน 550 คะแนน (ไม่ยากครับ ถ้าฝึกอย่างจริงจัง)

ส่วนของผมเพิ่มเติมครับ ผมแนะนำให้ไปสัมมนาฟรีตามที่ต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ซึ่งควรเป็นหลักสูตรที่สามารถพัฒนาตัวเองเชิงกลยุทธ์ เพื่อนำไปใช้ในงานได้ทันที แล้วนำไปกรอกใน Resume ตัวเองในส่วนของ Extra Curriculum / Special Seminar Attendance

ขอให้โชคดีครับ แวะมาบอกกันมั่งถ้าได้งานแล้วนะครับ  :8)  ...

[Hughes]

ตอนผมจบใหม่ๆที่ต่างประเทศก็หางานไม่ค่อยได้ครับ

คือเผอิญพ่อให้รีบไปเรียนโทบริหารธุรกิจน่ะครับแต่จริงๆผมขี้เกียจเรียนมากแล้วเพราะเรียนวิศวะมานี่นานมากแล้วก็เลี่ยนสุดๆอยากจะพักไปหางานหนุกๆทำมั่งแต่ก็จำใจพอดีไปเจอโรงเรียนทดลอง entrepreneurship แห่งหนึ่งก็เลยสนใจไปลองเรียนดูเพราะสอบ GMAT แล้วค่อนข้างดี
ก็ไปเป็นลูกศิษย์ของ นักธุรกิจนำมันที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในอเมริกาซึ่งตอนนี้เป็น billionaire มีอาจารย์อีกคนเป็น CEO ของบริษัทของ buffet ด้วยอิๆ แต่ผมขี้เกียจอ่ะครับบวกกับเซ็งๆชีวิต   สุดท้ายเลย drop out ออกมา

เอาล่ะสิครับไม่ได้ทำงานมาหนึ่งปีจะบอก drop out มาก็ดูไม่ดีไปสมัครงานมันก็ไม่มีใครรับ วิชาวิศวะกรรมที่เรียนมาก็คืนอาจารย์ไปเกือบหมดแล้ว จะทำไงดี พ่อแม่ตอนนั้นก็ผิดหวังในตัวเรามากครับก็เลยไม่อยากจะกลับบ้านต้องโชว์ก่อนว่าอยู่ด้วยตัวเองได้

ช่วงที่ผมไม่มีงานผมก็สมัครงานไปเรื่อยๆแล้วก็ไปทำงานกับพวก TEMP agency เป็นงานแบบจ้างพิเศษนะครับไม่ใช่พนักงานถาวร เริ่มแรกก็ไปทำงานร้านอุปกรณ์ทำสวนครับยกของออกจากรถบันทุกสินค้า ระหว่างนั้นก็หางานไปด้วย
แต่ใจจริงอยากเป็น real estate tycoon ครับ ฮ่าๆๆๆ ก็พอดีมีเพื่อนแนะนำให้รู็จัก นายหน้าขายบ้านคนหนึ่งที่กำลังหาผู้ช่วย

ผมก็ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเขาอยู่พักนึงครับเขาเป็น Top 1% sales ของวงการนี้รายได้ต่อปีก็เยอะค่อนข้างมากครับ
ช่วงนี้นี่ผมก็ได้เห็นวิธีการขายของเขาครับเขาก็ให้ผมช่วยแทบจะทุกอย่างเอากระดาษโฆษณาไปติดหน้าบ้านคนโดนหมาวิ่งไล่กัดก็เคยครับ
แต่ธุรกิจนี้ KSF คือต้องรู้จักคนให้มากที่สุดครับแต่ผมแทบจะไม่รู้จักใครเลยในเมืองนี้เลยตัดสินใจหางานอื่นเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจอสังหา
ใจจริงแล้วชอบงานขายนี่มากครับแต่ผมยังไม่มี KSF ที่จะอยู่ด้วยตัวเองได้บวกกับตลาดบ้านตอนนั้นพึ่งจะเริ่มซบเซา (คิดๆดูแล้วผมอยู่ตรงจุดเริ่มของ subprime crisis เลยนะเนี่ย อิๆๆๆ)

พอดีมี Temp agency โทรมาบอกว่ามีงานเกี่ยวกับ computer ครับที่บริษัทวิศวะกรรมก่อสร้างแห่งหนึ่งกำลังหาคนอยู่เป็นงานเกี่ยวกับ Autocad ครับ (ตอนเรียนผมไม่เคยใช้ครับ software นี้ ผมก็ออกตังไปเรียนเข้าคอร์ส certification เอง) พอทำๆไปก็รู้จักคนในบริษัทครับก็เริ่มสร้าง connection
พอทำได้ซักพัก engineering manager ของบริษัทก็แนะนำให้ผมไปติดต่อเพื่อนในวงการของเขาครับซึ่งทำงานตรงกับสายงานของผมมากกว่า บริษัทที่ไป temp เป็นบริษัท design build ทั้งดีไซน์ทั้งสร้าง ระบบแอร์อาคาร แต่บริษัทที่เขาแนะนำไปจะทำงาน design ด้านระบบไฟฟ้าอาคารด้วย

เสร็จพอสมัครไปเขาก็รับครับ  เงินก็โอเคพอไหวแต่ไม่เยอะมาก
แต่ทำๆไปแล้วไม่ค่อยชอบงานน่ะครับ เป็นวิศวกรในธุรกิจก่อสร้างนี่จะโดนดองอยู่ประมาณ 5 ปีครับกว่าจะรุ่ง (ต้องทำงาน  5 ปีแล้วต้องสอบเต็มไปหมดจนได้ Certification เป็น P.E.)ดูธุรกิจแล้วก็เป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยดีครับกำไรตำ และต้องสอบวัดเกณอยู่บ่อยๆ ผมไม่ชอบพวกสอบๆพวกนี้อ่ะครับนี่อุดส่าห์หนีโรงเรียนมาแล้วยังต้องมาท่องสอบอีกเบื่อมาก

ช่วงนั้นผมก็พยายามสังเกตุ component ต่างๆของวงการ commercial real estate นี้ มีพวก บริหารดูแลอาคาร, พวก contractor, พวกเจ้าของตึก, architect, วิศวะกรด้าน ระบบความปลอดภัย, นายหน้าขายตึกขายพื้นที่, พวกปล่อยเงินกู้ พยายามดูว่าถ้าจะเริ่มธุรกิจจะไปทำตรงไหนดี

ช่วงนั้นค่อนข้างตกตำน่ะครับทำงานไม่ค่อยมีความสุข เสร็จแล้วเลยตัดสินใจกลับมาบ้านเราดีกว่าเพราะอยู่เองก็อยู่ได้แล้วแต่กลับมาสบายกว่ากันเยอะ ตอนนี้ก็ทำงานเกี่ยวกับ real estate ครับแต่ว่างานตอนนี้เป็นงานในด้านการขายได้เจอคนมากมายดีกว่าเดิมเยอะได้รู็จักเจ้าของธุรกิจหลายท่านมาก

อนาคตไม่รู้จะเป็นไงแต่ขอให้น้องอย่าท้อแท้ครับ

พี่แนะนำว่าให้ไปสมัครงานอะไรก็ได้ในบริษัทที่น้องชอบเป็นคนถ่ายเอกสารก็ได้ ระหว่างทีทำงานก็สมัครงานไปด้วยแล้วก็สร้าง connection สักพักคงได้งานที่เราอยากทำแหละครับ

หวังว่าคงช่วย inspire อะไรได้บ้างนะครับ

[ShexShy]

ขอ share บ้างครับ

พี่ชาย ผม retire มา 2 รอบแล้ว วิศวะ นี้ล่ะครับ
ตอน retire รอบสองนี้ แก จิตใจย่ำแย่มาก  พยายามดันทุรังจะเรียนให้ได้ เพราะ สัญญากับแม่ไว้ตอน retire ครั้งแรกไว้ว่า จะไม่ให้พลาดอีก

แต่ผมก็ขอร้องแกให้ทำงานก่อน แล้วค่อยทำไปเรียนไปก้ได้

สุดท้าย แกก็ได้งาน เป็นลูกน้องช่าง โดยอาศัยวุฒิ ปวช. นี้ล่ะ ทำงานไปก่อน

ทำไปทำมา ด้วยการที่แกหัวดีอยู่บ้าง ทำให้มีผลการประเมินการทำงานค่อนข้างดี ก็ค่อย ๆ ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมา จนตอนนี้ก้เป็นฝ่าย เทคนิค และ กำลังเรียนใหม่ ด้วย
ซึ่งถ้าเรียนจบ ก็จะจบปริญญาตรี พร้อมได้ประสบการณ์ทำงานไปด้วย  เท่านี้ก็ไม่ขี้เหร่แล้วครับ

ก็อยากจะบอกว่า ... หางานอะไรทำก็ได้ไปก่อนครับ เพื่อหาประสบการ หาสังคม เช่น ตัวขายประกัน หรือ แม้กระทั่งพนักงงานขายตรง พวก AMWAY GIFFARINE  เพราะพวกนี้มักจะมีการสัมนา เพิ่มศักยภาพให้เราอยู่เสมอ และ สร้าง connection ได้ด้วยครับ

งานพวกนี้เราอาจจะยอมรับได้ยาก แต่เริ่มต้นทำได้ง่ายครับ

ระหว่างทำ ก็หางานไปเรื่อย ๆ และ สร้าง connection ไปพร้อมกันครับ จะได้สร้างโอกาสให้ตัวเอง

[ปรัชญา]

อย่าเครียดครับ  คงยังใช้ความพยายามยังไม่พอ

[Little Boy]

ใช้คอมพิวเตอร์ได้มั้ย โปรแกรมอะไรบ้าง?
มั่นใจตัวเองแค่ไหน ถ้าต้องเป็นคนคุมโปรเจคงาน?
จำเป็นมั้ยว่าจะต้องทำงานสายการเงินเท่านั้น?
Part-Time สนใจไหม?
ลองส่งประวัติ แนะนำตัวคร่าวๆ มาให้ผมที่ phakdee_th@hotmail. com แล้วผมอาจจะเรียกมาคุยครับ

ปล. ไม่ใช่ขายตรงครับ ผมทำธุรกิจออแกไนซ์

[BHT]

ใช้คอมพิวเตอร์ได้มั้ย โปรแกรมอะไรบ้าง?
มั่นใจตัวเองแค่ไหน ถ้าต้องเป็นคนคุมโปรเจคงาน?
จำเป็นมั้ยว่าจะต้องทำงานสายการเงินเท่านั้น?
Part-Time สนใจไหม?
ลองส่งประวัติ แนะนำตัวคร่าวๆ มาให้ผมที่ phakdee_th@hotmail. com แล้วผมอาจจะเรียกมาคุยครับ

ปล. ไม่ใช่ขายตรงครับ ผมทำธุรกิจออแกไนซ์

สนใจมั้งได้มัยครับเนี่ย

[MindTrick]

จบการเงินที่ ม. ราม ด้วยเกรด 3.11  เรียน 3.5 ปี แต่ ไป สัมภาษณ์งานที่ไหน เขาก็ไม่รับ สักที รู้ ว่าตัวเองเป็นคน ไม่มีความมั่นใจเลย และบุคลิก ก็ ดูไม่ดีเอาซะเลยและ อีก อย่าง ผมอายุเยอะ แล้ว ด้วย 26 ปี ครับ จึงเป็นสาเหตุบริษัท ต่างๆ ไม่รับ คงงั้น555  
ทีแรก ว่าจะไปสมัครงาน เซเว่นแต่ก็ คิด ว่าคงทำไม่ไหว เพราะตัวเองยืนนานๆ ไม่ได้ เพราะเจ็บเท้าเรื้อรัง  ตอนนี้ก็ไม่รู้ จะทำยัง ไง    
 ใครมี งานให้ผมทำบ้างคราบ   ถ้าเป็น งาน แบบ ผู้ ช่วยก็ ได้ เงินเดือน 4-6 พัน ก็ได้ อยากได้ ความรู้ มากกว่าคราบ   ยัง ไงก็ 0890725800 เอก ครับ

แล้วตอนนี้หรือก่อนนี้ ทำอะไรเพื่อเลี้ยงชีพอยู่ หรอครับ

ลองมองตนเองครับ...
เราอาจพลาดตรงที่ ความคิดในสมองมักเจอคำว่า "แต่" นี่แหละครับ

[njTAO]

101 Smart Questions to Ask on Your Job Interview, Ron Fry

10 Insider Secrets to a Winning Job Search, Todd Bermount

101 Ways to Power Up Your Job Search, J. Thomas Brick, et al.

3 เล่มนี้อ่านได้ครับ เล่มแรกเป็นการมองหาตีนงู หรือนมไก่ ก็สุดแท้แต่ สองเล่มหลังเป็นการเพิ่มวิทยายุทธครับ

อาจจะมีหนังสืออื่นดีกว่านีั้อีกนะครับ แต่ความรู้ผมแค่หางอึ่งมีเท่านี้หล่ะครับ

ขอให้โชคดีนะครับ

[kornjackrit]

ในฐานะที่ผมกำลังจะเลือกเรียนการเงินตอนปี 2

เลยมาเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ได้งานเร็วๆนะครับ

 :8)  :8)  :8)

[Jeng]

คุณเจ๋งอยู่แถวไหนครับ รุ่นพี่ที่ทำแท็กซี่ อยู่แถวรองเมืองรึเปล่า น่าจะรู้จักกันครับ

อู่ที่มี 100+ คันนี่ มีไม่มากครับ

ผมอยู่แถมรามคำแหงครับ คุณ wazzu ส่วนรุ่นพี่ที่ว่า อยู่แถว นวมินทร์ ครับ

[dinnn]

ขอบคุณมากคราบตอนนี้กะว่าจะไปทำงานที่เซเว่น แถวรามอ่ะ คราบ คิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างนึงอ่าคราบ

[Jeng]

ขอบคุณมากคราบตอนนี้กะว่าจะไปทำงานที่เซเว่น แถวรามอ่ะ คราบ คิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างนึงอ่าคราบ

ดีแล้วครับ อย่าคิดว่าไปทำงาน คิดซะว่าไปฝึกความอดทน และทนอด ละกัน

เป็นพื้นฐานที่ดีนะ

[Jeng]

ดีแล้วครับ อย่าคิดว่าไปทำงาน คิดซะว่าไปฝึกความอดทน และทนอด ละกัน

เป็นพื้นฐานที่ดีนะ

แต่อย่า หน่อมแน้ม อยู่ได้ ไม่ถึง 6 เดือนหละ เดี่ยวอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน 30 วัน ก็ลาออกซะงั้น

[จอม]

ผมไม่รู้จะแนะนำอะไรดี

ผมเข้าใจครับ ช่วงเวลาตกงานนี่สิ่งที่หายไปไม่ใช่แค่รายได้
สิ่งที่สำคัญที่หายไป คือความมั่นใจ
ซึ่งอันหลังนี่ผมให้ค่ามันมากกว่าตัวเงินมหาศาล

ผมจบจากมหาลัยที่พอมีชื่อ ตกงานประมาณ 6 เดือน
ของผมแค่6 เดือนเท่านั้น มันผลาญพลังผมจนแทบกลายเป็นคนไร้ความสามารถ นอนซังกะตายอยู่ ไม่รุ้จะเอาไงกะตัวเองดี

อยู่ดีๆมีบริษัทโทรมาเรียกตัวไปสัมภาษณ์
คุณรู้ไหม พอสัมภาษณ์เสร็จ วันรุ่งขึ้นเค้านัดไปคุยกับ MD
คุยกับ MD เค้า ok ให้ไปคุยกับการเงิน เรื่องเงินเดือน

พี่ HR บอกว่าคุยดีๆนะ ที่นี่เคี่ยว

ผมเดินเข้าไปบอกการเงินสั้นๆว่า
"ขอหมื่นเดียวครับ นาทีนี้ผมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ไม่อยากได้เงินครับ"


ทำไปเถอะครับ งานอะไรก้ได้
ดึงความมั่นใจและศักยภาพของเราออกมาให้ได้ก่อน
จากนั้นทุกอย่างจะตามมาเอง

[Coca-Cola]

ผมก็เคยเจอภาวะเช่นนี้ครับ เคยหางานถึง 9 เดือนทีเดียว บางครั้งสัมภาษณ์เสร็จ รู้ว่าไม่ได้บางอารมณ์ซังกะตาย และเวลาเดินช้าเหลือเกิน...  บางอารมณ์หนาวยะเยือกเข้ากระดูกทีเดียว  ไม่อาจเป็นกำลังใจได้ เพราะก็รู้ว่า ณ ช่วงเวลานี้ไร้ความหมาย แต่คงพอแนะนำได้ว่า ให้หางานที่พอจะทำได้ไปก่อน ละเป้าหมายบ้าง หากเพราะเป้าหมายนั้น ผ่านช่วงพิสูจน์แล้ว ว่าแสนไกล งานอะไรก็ได้ ที่จะทำให้เรารู้สึกคืนคุณค่าของตัวเราเอง สำคัญมาก  
ถ้าเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ผมคิดว่า งานที่เกี่ยวกับบริการ น่าจะช่วยปรับปรุงตัวเราได้ และควรเป็นงานที่ทำกันเป็นทีม เพราะทีมจะช่วยแก้ไขตัวเรา (ถ้าเจอทีมที่ดีนะครับ) เช่นทำงานร้าน เชสเตอร์กิล พิซซ่าฮัท เซเว่น แมคโดนัล อะไรประมาณนี้

สู้ต่อไปครับ..  :D  :D

[Glaxo]

ทำๆไปเถอะครับเจ็บขาก็ต้องทน แม่ผม 70 จะผ่าเข่าต้นปีหน้าแล้ว ทุกวันนี้ยังยืนขายของอยู่เลยบอกให้เลิกก็ไม่ยอม บอกว่าอยู่บ้านเฉยๆกลัวเป็นโรคซึมเศร้า

[krisy]

ได้งานก็ดีแล้วค่ะ เราสัมภาษณ์จนเจ็บคอเลย วันนี้ก็ปาเข้าไป 3 ชั่วโมง ตอนนี้จำไม่ได้ว่าคุยไปกี่ที่

ช่วงนี้มีอะไรรับก็ทำไปก่อนนะคะ งานหายาก เราก็จวนจะ final แล้วค่ะ ใช้เวลาเกือบเดือน สัมภาษณ์ไป 3 รอบ ร่วมๆ 7 ชั่วโมง
ได้งานสมัยนี้ สัมภาษณ์กันเคี่ยวมากๆ เงินเดือนให้มาเท่าไหร่ใช้งานเราอย่างคุ้มเลยค่ะ แต่ก็ดีกว่าตกงาน

พยายามเข้านะคะ

[BHT]

เค้าว่าเสดกิจจะแย่แล้วตกงานเพียบ ได้งานแล้วก็ทำไปก่อน

หางานที่ดีกว่า เงินดีกว่าก็ย้าย หรือไม่ก็อดทนสะสมเงินไปเริ่มกิจการของตัวเองและลงทุนหุ้นจะได้สบายเร็วๆ

[นิดา]

อยากแนะนำธุรกิจเครือข่ายค่ะ สิ่งที่มีค่าที่สุดในธุรกิจนี้คือการได้พัฒนาตัวเอง  ไม่ว่าด้านการสร้างสายสัมพันธ์ การนำเสนอ  การบริหาร  การทำงานเป็นทีม   ซึ่งมีต้นทุนต่ำที่สุด  ต่อไปคุณสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการ บริหารงานของตัวเองได้  และที่สำคัญได้ตังค์ โดยเราเป็นคนกำหนดรายได้ด้วยตัวเอง   และมีเวลามานั่งศึกษาการลงทุนได้ด้วย(ทำมา 7 ปีแล้วค่ะ)