เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
- pond77
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 451
พี่กบ
สนามก่อนถึงกุ้งเต้นชื่อว่า J press football arena นะคับรู้สึก ก่อนถึง หมู่บ้านปอนด์พอดีเลย(หลังกลับรถใต้สะพานนะถ้ามาทางสะพานสาธรที่ครั้งก่อนพี่กบไปส่งที่บ้านนะคับ) ข้างๆก็เปน narai pizzeria สุดยอดดดด
พรุ่งนี้อยู่ทีมแชมป์ก็ได้คับ จะไปไม่ไปยิงกล่องดวงใจแชมป์อีก 555...
:lol:
สนามก่อนถึงกุ้งเต้นชื่อว่า J press football arena นะคับรู้สึก ก่อนถึง หมู่บ้านปอนด์พอดีเลย(หลังกลับรถใต้สะพานนะถ้ามาทางสะพานสาธรที่ครั้งก่อนพี่กบไปส่งที่บ้านนะคับ) ข้างๆก็เปน narai pizzeria สุดยอดดดด
พรุ่งนี้อยู่ทีมแชมป์ก็ได้คับ จะไปไม่ไปยิงกล่องดวงใจแชมป์อีก 555...
:lol:
What goes around, comes around..
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 452
10 แข้งซื้อตัวยอดแย่เมืองผู้ดี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2551 14:16 น.
บรรดาทีมในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วเรื่องการซื้อนักเตะที่มีราคาแพงเกินฝีเท้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี เพิ่งเจียดเงินกระชากดาวรุ่งอย่าง “โจ” ดาวยิงชาวบราซิเลียนมาด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านปอนด์ หรือราว 1,200 ล้านบาท ด้าน โบลตัน ที่เพิ่งรอดตกชั้นมาหมาดๆ ก็กล้าทุ่ม 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท กับนักเตะชื่อไม่คุ้นอย่าง โยฮาน เอลแมนเดอร์ ศูนย์หน้าชาวสวีดิช
10 อันดับการย้ายทีมยอดแย่ด้านล่างจากการจัดของ เดอะ ซัน เป็นหนึ่งในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ ที่เขียนไว้เป็นบทเรียนว่า “ปริมาณ” (ค่าตัว) ไม่ได้การันตี “คุณภาพ” เสมอไป
10.โฮเซ อันโตนิโอ เรเยส (อาร์เซนอล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
ทันทีที่ เรเยส เหยียบแผ่นดินผู้ดี บรรดาสื่อท้องถิ่นต่างอยากได้คำตอบจากปากของ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่า “หมอนี่คือใคร?” ตลอดการใช้ชีวิตในถิ่น ไฮบิวรี ดาวรุ่งจากแดนกระทิงเล่นได้แบบสามวันดีสี่วันไข้ ตลอดจนไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวเตะระดับซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร โดยเก็บสถิติยิงไปเพียง 16 ลูก จาก 69 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซบีญา
9. ฌิบลิว ซิสเซ (ลิเวอร์พูล, 17 ล้านปอนด์หรือราว 1,139 ล้านบาท)
“หงส์แดง” ตัดสินใจซื้อกองหน้าเคราแพะ โดยดูจากฟอร์มการถล่มประตูเป็นดาวซัลโวลีก เอง กับต้นสังกัด โอแซร์ แต่ ซิสเซ ที่แฟนบอล “เดอะ คอป” หวังให้เป็น นิว ร็อบบี ฟาวเลอร์ หรือ นิว ไมเคิล โอเวน กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเขียงผ่าตัดมากกว่าบนฟลอหญ้า ตลอดจนถูก ราฟา เบนิเตซ จับเล่นตำแหน่งปีกขวาบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 49 นัดในถิ่นแอนฟิลด์
8. ดาร์เรน เบนท์ (สเปอร์ส, 17 ล้านปอนด์ หรือราว 1,139 ล้านบาท)
นับตั้งแต่ย้ายจาก ชาร์ลตัน มาร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ ทำได้เพียง 6 ประตูจาก 27 นัดที่ลงเล่น เบนท์ เป็นนักเตะเกรดบีที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก เนื่องจากทัพ สเปอร์ส มี ร็อบบี คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นคู่หัวหอกอยู่แล้ว
7. อาเดรียน มูตู (เชลซี, 16 ล้านปอนด์หรือราว 1,072 ล้านบาท)
สตาร์ทีมชาติโรมาเนีย ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ โรมัน อบราโมวิช ทุ่มซื้อมาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่แฟน “สิงห์บลูส์” ดูเหมือนจะจดจำชื่อของ มูตู ในฐานะนักเตะที่ถูกขับออกจากทีมด้วยข้อหาใช้สารเสพติดโคเคน มากกว่า ลีลาการทำ 6 ประตู ตลอด 27 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ปาร์มา ในลีกอิตาลี
6. สตีฟ มาร์กเลย์ (ฟูแลม, 11.5 ล้านปอนด์ หรือราว 770 ล้านบาท)
ฉายา “เจ้าสัวน้อย” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เมื่อในยุคหนึ่ง โมฮัมหมัด อัลฟาเยด เจ้าของทีม ฟูแลม ใช้เงินอย่างมือเติบ โดยหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดง คือ การซื้อ มาร์กเลย์ มาจาก โอลิมปิก ลียง เป็นสถิติสโมสร แต่กลับโชว์ผลงานยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 54 นัดเท่านั้น
5.เซอร์เก เรบรอฟ (สเปอร์ส, 11 ล้านปอนด์)
ใครจะคิดว่าสองคู่หูที่ถือเป็นคีย์แมนของ ไดนาโม เคียฟ ในช่วงรุ่งเรืองยุค 90 จะมาล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าบนแผ่นดินผู้ดีเหมือนกัน มีแฟนไก่มากมายไปรอต้อนรับ สตาร์จากยูเครนที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในวันเปิดตัว แต่กลับผิดหวังกันไปตามๆ กันเมื่อดูจากสถิติยิง 10 ประตูจาก 59 เกมของ เรบรอฟ
4.คริส ซัตตัน (เชลซี, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
หากตอนนี้ เชลซี จะเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษสักรายลองคิดดูว่ามันจะเป็นจำนวนเงินมหาศาลเท่าใด เช่นเดียวกับเมื่อ 10 ปี่ที่แล้ว ซัตตัน ถือเป็นอาวุธหนักในแดนหน้าของ แบล็กเบิร์น แต่กลับมาล้มเหลวกับการเล่นในลอนดอน หลังยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้นจาก 28 นัดในเกมลีก
3.เอล ฮัดจิ ดิยุฟ (ลิเวอร์พูล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
แม้ตอนนี้ ดิยุฟ จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมระดับกลางอย่าง โบลตัน แต่เหล่า “เดอะ ค็อป” ก็ไม่เคยเสียดายที่เสียนักเตะจอมดีเดือดคนนี้ไป หลังทำได้เพียง 3 ลูกจาก 55 เกม โดยตัดสินใจซื้อหลังเห็น ดิยุฟ โชว์ฟอร์มเทฟให้กับทีมชาติเซเนกัล ในศึกฟุตบอลโลก 2002
2.อัลเบิร์ต ลูเก (นิวคาสเซิล, 10 ล้านปอนด์หรือราว 670 ล้านบาท)
ชื่อของ ชอง อแล็ง บูมซง, สเตฟาน กีวาร์ส และมาร์เซลินโญ ต่างอยู่ในข่ายการซื้อตัวยอดแย่ของทีม “สาลิกาดง” แต่ ลูเก ที่อยู่ร่วมทัพ “ทูน” ได้เพียงซีซั่นเดียว ก็เฉือนเข้าวินด้วยผลงานยิงไปลูกเดียวจาก 21 นัดที่ลงเล่นนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลา คอรุญญา
1.อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี, 30 ล้านปอนด์หรือราว 2,010 ล้านบาท)
“เชว่า” ไม่เคยแสดงให้ชนชาวอังกฤษเห็นภาพได้เลยว่า เขาเป็นดาวซัลโวของทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน ได้อย่างไร เชฟเชนโก ดูเชื่องช้าไม่ปราดเปรียวเหมือนก่อน โดยถือสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ แต่กลับยิง 9 ลูกจาก 49 เกม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2551 14:16 น.
บรรดาทีมในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วเรื่องการซื้อนักเตะที่มีราคาแพงเกินฝีเท้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี เพิ่งเจียดเงินกระชากดาวรุ่งอย่าง “โจ” ดาวยิงชาวบราซิเลียนมาด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านปอนด์ หรือราว 1,200 ล้านบาท ด้าน โบลตัน ที่เพิ่งรอดตกชั้นมาหมาดๆ ก็กล้าทุ่ม 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท กับนักเตะชื่อไม่คุ้นอย่าง โยฮาน เอลแมนเดอร์ ศูนย์หน้าชาวสวีดิช
10 อันดับการย้ายทีมยอดแย่ด้านล่างจากการจัดของ เดอะ ซัน เป็นหนึ่งในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ ที่เขียนไว้เป็นบทเรียนว่า “ปริมาณ” (ค่าตัว) ไม่ได้การันตี “คุณภาพ” เสมอไป
10.โฮเซ อันโตนิโอ เรเยส (อาร์เซนอล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
ทันทีที่ เรเยส เหยียบแผ่นดินผู้ดี บรรดาสื่อท้องถิ่นต่างอยากได้คำตอบจากปากของ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่า “หมอนี่คือใคร?” ตลอดการใช้ชีวิตในถิ่น ไฮบิวรี ดาวรุ่งจากแดนกระทิงเล่นได้แบบสามวันดีสี่วันไข้ ตลอดจนไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวเตะระดับซูเปอร์สตาร์ได้อย่างไร โดยเก็บสถิติยิงไปเพียง 16 ลูก จาก 69 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เซบีญา
9. ฌิบลิว ซิสเซ (ลิเวอร์พูล, 17 ล้านปอนด์หรือราว 1,139 ล้านบาท)
“หงส์แดง” ตัดสินใจซื้อกองหน้าเคราแพะ โดยดูจากฟอร์มการถล่มประตูเป็นดาวซัลโวลีก เอง กับต้นสังกัด โอแซร์ แต่ ซิสเซ ที่แฟนบอล “เดอะ คอป” หวังให้เป็น นิว ร็อบบี ฟาวเลอร์ หรือ นิว ไมเคิล โอเวน กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเขียงผ่าตัดมากกว่าบนฟลอหญ้า ตลอดจนถูก ราฟา เบนิเตซ จับเล่นตำแหน่งปีกขวาบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 49 นัดในถิ่นแอนฟิลด์
8. ดาร์เรน เบนท์ (สเปอร์ส, 17 ล้านปอนด์ หรือราว 1,139 ล้านบาท)
นับตั้งแต่ย้ายจาก ชาร์ลตัน มาร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ ทำได้เพียง 6 ประตูจาก 27 นัดที่ลงเล่น เบนท์ เป็นนักเตะเกรดบีที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก เนื่องจากทัพ สเปอร์ส มี ร็อบบี คีน และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นคู่หัวหอกอยู่แล้ว
7. อาเดรียน มูตู (เชลซี, 16 ล้านปอนด์หรือราว 1,072 ล้านบาท)
สตาร์ทีมชาติโรมาเนีย ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ โรมัน อบราโมวิช ทุ่มซื้อมาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่แฟน “สิงห์บลูส์” ดูเหมือนจะจดจำชื่อของ มูตู ในฐานะนักเตะที่ถูกขับออกจากทีมด้วยข้อหาใช้สารเสพติดโคเคน มากกว่า ลีลาการทำ 6 ประตู ตลอด 27 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ปาร์มา ในลีกอิตาลี
6. สตีฟ มาร์กเลย์ (ฟูแลม, 11.5 ล้านปอนด์ หรือราว 770 ล้านบาท)
ฉายา “เจ้าสัวน้อย” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เมื่อในยุคหนึ่ง โมฮัมหมัด อัลฟาเยด เจ้าของทีม ฟูแลม ใช้เงินอย่างมือเติบ โดยหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดง คือ การซื้อ มาร์กเลย์ มาจาก โอลิมปิก ลียง เป็นสถิติสโมสร แต่กลับโชว์ผลงานยิงได้เพียง 11 ลูกจาก 54 นัดเท่านั้น
5.เซอร์เก เรบรอฟ (สเปอร์ส, 11 ล้านปอนด์)
ใครจะคิดว่าสองคู่หูที่ถือเป็นคีย์แมนของ ไดนาโม เคียฟ ในช่วงรุ่งเรืองยุค 90 จะมาล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าบนแผ่นดินผู้ดีเหมือนกัน มีแฟนไก่มากมายไปรอต้อนรับ สตาร์จากยูเครนที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในวันเปิดตัว แต่กลับผิดหวังกันไปตามๆ กันเมื่อดูจากสถิติยิง 10 ประตูจาก 59 เกมของ เรบรอฟ
4.คริส ซัตตัน (เชลซี, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
หากตอนนี้ เชลซี จะเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษสักรายลองคิดดูว่ามันจะเป็นจำนวนเงินมหาศาลเท่าใด เช่นเดียวกับเมื่อ 10 ปี่ที่แล้ว ซัตตัน ถือเป็นอาวุธหนักในแดนหน้าของ แบล็กเบิร์น แต่กลับมาล้มเหลวกับการเล่นในลอนดอน หลังยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้นจาก 28 นัดในเกมลีก
3.เอล ฮัดจิ ดิยุฟ (ลิเวอร์พูล, 10 ล้านปอนด์ หรือราว 670 ล้านบาท)
แม้ตอนนี้ ดิยุฟ จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมระดับกลางอย่าง โบลตัน แต่เหล่า “เดอะ ค็อป” ก็ไม่เคยเสียดายที่เสียนักเตะจอมดีเดือดคนนี้ไป หลังทำได้เพียง 3 ลูกจาก 55 เกม โดยตัดสินใจซื้อหลังเห็น ดิยุฟ โชว์ฟอร์มเทฟให้กับทีมชาติเซเนกัล ในศึกฟุตบอลโลก 2002
2.อัลเบิร์ต ลูเก (นิวคาสเซิล, 10 ล้านปอนด์หรือราว 670 ล้านบาท)
ชื่อของ ชอง อแล็ง บูมซง, สเตฟาน กีวาร์ส และมาร์เซลินโญ ต่างอยู่ในข่ายการซื้อตัวยอดแย่ของทีม “สาลิกาดง” แต่ ลูเก ที่อยู่ร่วมทัพ “ทูน” ได้เพียงซีซั่นเดียว ก็เฉือนเข้าวินด้วยผลงานยิงไปลูกเดียวจาก 21 นัดที่ลงเล่นนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลา คอรุญญา
1.อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี, 30 ล้านปอนด์หรือราว 2,010 ล้านบาท)
“เชว่า” ไม่เคยแสดงให้ชนชาวอังกฤษเห็นภาพได้เลยว่า เขาเป็นดาวซัลโวของทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน ได้อย่างไร เชฟเชนโก ดูเชื่องช้าไม่ปราดเปรียวเหมือนก่อน โดยถือสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ แต่กลับยิง 9 ลูกจาก 49 เกม
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- pond77
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 453
ข่าวที่พี่หมอเคลง 555 ยืนยันเลยคับว่า นักเตะแมนยูเก่งทุกคน (ส่วนใหญ่) นอกจาก Juan Sebastian Veron กับ Kleberson เนี่ยแหละ
Update update
1. kermit
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. lucifer
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
Update update
1. kermit
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. lucifer
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
What goes around, comes around..
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1841
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 458
ขอมั่วห้องหน่อยนะ นักบอลลล ทั้งหลาย
Beckham's US move: One year on
By Matthew Price
BBC News
America loves its celebrities, and it loves its winners.
David Beckham is both, and they clearly love him too.
In the year since he first played for LA Galaxy after a multi-million dollar deal, the one-man marketing machine has helped fuel record attendances and record sales of merchandise across a country where soccer (aka "football") is hardly a sporting passion.
When the New York Red Bulls hosted LA Galaxy this weekend, the obligatory group of young female fans was screaming for Beckham.
They'd painted B-E-C-K-S onto their midriffs.
"It's so surreal to see him. He's right here in front of us! He smiled at us!"
This match was clearly testing their allegiance.
"David Beckham was one of the reasons we wanted to come to this game," one woman admitted, as children swarmed around in "Beckham, 23" shirts.
"David Beckham brings class to the game in America. He whips the ball in the mixer," another fan added.
Along with whipping in the mixer - whatever that may be - there's no doubt that Beckham has raised the profile of the game in this country.
Most of the fans at the game wouldn't have come if he hadn't been playing.
'More experimenting'
Is it, though, Beckham's football or his celebrity that's attracting them?
"I don't care as long as they're here and as long as they're watching the game," Beckham said at a pre-match press conference.
"Whether it's because of my celebrity or whether they just want to see a soccer game, it's so important that people turn out and enjoy the game."
In fact, if you ask the bosses of Major League Soccer in the US the same question, it's clear that the celebrity aspect was the driving force behind bringing him here in the first place.
"David is to Major League Soccer in many ways what Michael Jordan was to the NBA [basketball] or Wayne Gretsky was to the NHL [hockey]," says Don Garber, the commissioner of Major League Soccer.
"When they go on the road the attendances are far higher and that's a good thing because more people are experimenting with soccer in America.
"As long as a percentage of them stay with us and become bigger fans, that's a good thing."
He and his wife "Posh" now get the kind of attention in the US gossip magazines that they might well rather not have.
Coast to coast, he sprawls across billboards in his underpants, or his sunglasses.
He even - with a wry smile - steals pens off autograph hunters in one television ad.
It is exactly what the money-men who signed the deal wanted.
To what end though? Few here believe that soccer could ever attempt to rival the big three: American football, basketball, and baseball.
'Going well'
"Our goal is not to beat the NFL or beat the NBA - our goal is to be a respected sport," says Mr Garber.
He argues they have the fan base already.
Five million people in America, he says, watched the European Football Championships this year.
"There is no doubt in our mind that we will be a major, major league in the United States at some point," Mr Garber adds.
As for David Beckham, he says football here is growing, "but it's going to take time".
"It's a long term plan.
"It's going well, and that's obviously what this game needs in this country. The hype's there, we've got to keep it going."
Hype, though, may not be enough.
Besides a few exceptions, the quality of play is pretty low.
Standing in a sweltering Giants stadium, watching the Red Bulls and Galaxy scratch a 2-2 draw, felt a little like watching second division football back in England.
Don't just take my word for it.
One of Beckham's reported successes was the role he played in attracting the former Dutch international Ruud Gullit to sign up as manager of LA Galaxy this season.
As Gullit told journalists just after the game, "a lot of players still need to work on their own game, and that means they can't think for the team, so you have to start at the beginning.
"For me it doesn't go quickly enough."
How often do you hear a manager of a supposedly major club say he's basically starting from scratch?
Story from BBC NEWS:
http://news.bbc.co.uk/go/pr/fr/-/2/hi/a ... 517248.stm
Published: 2008/07/21 12:40:20 GMT
© BBC MMVIII
Beckham's US move: One year on
By Matthew Price
BBC News
America loves its celebrities, and it loves its winners.
David Beckham is both, and they clearly love him too.
In the year since he first played for LA Galaxy after a multi-million dollar deal, the one-man marketing machine has helped fuel record attendances and record sales of merchandise across a country where soccer (aka "football") is hardly a sporting passion.
When the New York Red Bulls hosted LA Galaxy this weekend, the obligatory group of young female fans was screaming for Beckham.
They'd painted B-E-C-K-S onto their midriffs.
"It's so surreal to see him. He's right here in front of us! He smiled at us!"
They were not, though, Galaxy fans - but New York Red Bull supporters.He whips the ball in the mixer
US fan
This match was clearly testing their allegiance.
"David Beckham was one of the reasons we wanted to come to this game," one woman admitted, as children swarmed around in "Beckham, 23" shirts.
"David Beckham brings class to the game in America. He whips the ball in the mixer," another fan added.
Along with whipping in the mixer - whatever that may be - there's no doubt that Beckham has raised the profile of the game in this country.
Most of the fans at the game wouldn't have come if he hadn't been playing.
'More experimenting'
Is it, though, Beckham's football or his celebrity that's attracting them?
"I don't care as long as they're here and as long as they're watching the game," Beckham said at a pre-match press conference.
"Whether it's because of my celebrity or whether they just want to see a soccer game, it's so important that people turn out and enjoy the game."
In fact, if you ask the bosses of Major League Soccer in the US the same question, it's clear that the celebrity aspect was the driving force behind bringing him here in the first place.
"David is to Major League Soccer in many ways what Michael Jordan was to the NBA [basketball] or Wayne Gretsky was to the NHL [hockey]," says Don Garber, the commissioner of Major League Soccer.
"When they go on the road the attendances are far higher and that's a good thing because more people are experimenting with soccer in America.
"As long as a percentage of them stay with us and become bigger fans, that's a good thing."
Certainly the last year has made Beckham even more of a star in the States.The hype's there, we've got to keep it going
David Beckham
He and his wife "Posh" now get the kind of attention in the US gossip magazines that they might well rather not have.
Coast to coast, he sprawls across billboards in his underpants, or his sunglasses.
He even - with a wry smile - steals pens off autograph hunters in one television ad.
It is exactly what the money-men who signed the deal wanted.
To what end though? Few here believe that soccer could ever attempt to rival the big three: American football, basketball, and baseball.
'Going well'
"Our goal is not to beat the NFL or beat the NBA - our goal is to be a respected sport," says Mr Garber.
He argues they have the fan base already.
Five million people in America, he says, watched the European Football Championships this year.
"There is no doubt in our mind that we will be a major, major league in the United States at some point," Mr Garber adds.
As for David Beckham, he says football here is growing, "but it's going to take time".
"It's a long term plan.
"It's going well, and that's obviously what this game needs in this country. The hype's there, we've got to keep it going."
Hype, though, may not be enough.
Besides a few exceptions, the quality of play is pretty low.
Standing in a sweltering Giants stadium, watching the Red Bulls and Galaxy scratch a 2-2 draw, felt a little like watching second division football back in England.
Don't just take my word for it.
One of Beckham's reported successes was the role he played in attracting the former Dutch international Ruud Gullit to sign up as manager of LA Galaxy this season.
As Gullit told journalists just after the game, "a lot of players still need to work on their own game, and that means they can't think for the team, so you have to start at the beginning.
"For me it doesn't go quickly enough."
How often do you hear a manager of a supposedly major club say he's basically starting from scratch?
Story from BBC NEWS:
http://news.bbc.co.uk/go/pr/fr/-/2/hi/a ... 517248.stm
Published: 2008/07/21 12:40:20 GMT
© BBC MMVIII
Rabbit VS. Turtle
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
ไปเตะด้วยคับ
โพสต์ที่ 459
1. kermit
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. lucifer
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
21. จ๊อบ เพื่อน พี่วา
22. โจ้ เพื่อนจ๊อบ เพื่อนพี่วาอีกที
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. lucifer
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
21. จ๊อบ เพื่อน พี่วา
22. โจ้ เพื่อนจ๊อบ เพื่อนพี่วาอีกที
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1841
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 464
ผมว่า ใช้ทางด่วนนั่นแหละแต่ให้เลยไปลงทางออก สาธุประดิษฐ์ ลงทางราบต่อไปนิดเคียว เจอสี่แยกไฟแดงแล้วให้เลี้ยวซ้ายถนนสาธุฯไปสักหน่อยหาซอยที่ว่า ซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือโค เขียน:ผมขึ้นทางด่วนมาจากดินแดงครับ สงสัยต้องลงพระราม 3
พอเลยแบงค์กรุงศรี ( สำนักงงานใหญ่ใช่ไหมครับ ) แล้วกลับรถ
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน ถนนที่ว่านี่แหละครับ ถนนอะไรเอ่ย
ตามนี้ถูกเปล่าครับ
พี่บอลเจ้าถิ่นช่วย confirm หน่อย เพราะผมก็ไม่เคยไป
Rabbit VS. Turtle
-
- Verified User
- โพสต์: 25
- ผู้ติดตาม: 0
มาลงชื่อครับ
โพสต์ที่ 465
ไปด้วยครับ แต่อาจจะถึงช้าหน่อย
I like more study more invesment.
-
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 466
UPDATE!! ทั้งหมด 23 คนครับ :D
1. kermit
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. โค
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
21. จ๊อบ เพื่อน พี่วา
22. โจ้ เพื่อนจ๊อบ เพื่อนพี่วาอีกที
23. keng_intrend
1. kermit
2. ba_2l
3. crazyrisk
4. pond77
5. Mr.Boo
6. lucifer
7. โอ@
8. akrapong
9. champoo
10. m_act_z
11. Jua
12. rote
13. terati20
14. sattaya
15. mawin
16. โค
17. mongkol1
18. mongkol2
19. คิง
20. ต่อ ญาติปอนด์
21. จ๊อบ เพื่อน พี่วา
22. โจ้ เพื่อนจ๊อบ เพื่อนพี่วาอีกที
23. keng_intrend
- pond77
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 472
วันนี้มันส์มากคับ บวกเหนื่อยด้วย เล่นหลายเกมติด แม้ว่าฝนจะตก แต่ก็สนุกดีคับ ชิวดีๆ อาทิตย์หน้าวันพฤหัสถ้าทางจะไปเป็นคู่กองหน้ากับหมอเคไม่ได้นะคับ มีภารกิจไป JET วันเกิดเพื่อนครบ 20 :P
What goes around, comes around..
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 473
[quote="pond77"]วันนี้มันส์มากคับ บวกเหนื่อยด้วย เล่นหลายเกมติด แม้ว่าฝนจะตก แต่ก็สนุกดีคับ ชิวดีๆ อาทิตย์หน้าวันพฤหัสถ้าทางจะไปเป็นคู่กองหน้ากับหมอเคไม่ได้นะคับ มีภารกิจไป JET วันเกิดเพื่อนครบ 20
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 475
zen เขียน:
น้องปอน ไปเจตจะ ย... เหรอ คับ
พี่จะไปตรงข้าม ร้านเจต น่ะคับ
ไปไหม
ร้าน sherbet เหรอ.. zen ไม่ไหวนา....
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
เตะบอลกันไหมคับพี่น้อง+++
โพสต์ที่ 480
เมื่อวานเตะบอลสนุกครับ เพราะเปลี่ยนสนามรึป่าว..เลยเปลี่ยนบรรยากาศไปด้วย :P
เพื่อนๆคนอื่นมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างครับ :D
สนาม Wembley Yannawa Futsal มีฝนตกแรงในตอนแรกด้วยเหมือนในอังกฤษเลย
สนามทำพอใช้ได้ ยกเว้นตอนฝนตก คนสร้างคงลืมคำนวณลมเวลาฝนตก จึงทำให้ผู้เล่นทุกคนช่วงแรกตัวเปียกก่อนเตะไปตามๆกัน
สงสัยต้องซื้อรองเท้าสตั๊ดใหม่ เพราะสนามใหม่ป่าวนิ หญ้าคมเกิน รองเท้าของผมพังเลย :shock:
ถึงพี่กบ เสื้อสีเหลืองของพี่อยู่กับผม 2 ตัวน่ะครับ
ถ้าครั้งหน้าเตะวันพฤหัส ผมอาจจะไปไม่ได้น่ะครับ
แต่ยังไงจะฝากเสื้อไปกับ lucifer(ตึ้) หรือ m_act_z(แมค) น่ะครับ
เพื่อนๆคนอื่นมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างครับ :D
สนาม Wembley Yannawa Futsal มีฝนตกแรงในตอนแรกด้วยเหมือนในอังกฤษเลย
สนามทำพอใช้ได้ ยกเว้นตอนฝนตก คนสร้างคงลืมคำนวณลมเวลาฝนตก จึงทำให้ผู้เล่นทุกคนช่วงแรกตัวเปียกก่อนเตะไปตามๆกัน
สงสัยต้องซื้อรองเท้าสตั๊ดใหม่ เพราะสนามใหม่ป่าวนิ หญ้าคมเกิน รองเท้าของผมพังเลย :shock:
ถึงพี่กบ เสื้อสีเหลืองของพี่อยู่กับผม 2 ตัวน่ะครับ
ถ้าครั้งหน้าเตะวันพฤหัส ผมอาจจะไปไม่ได้น่ะครับ
แต่ยังไงจะฝากเสื้อไปกับ lucifer(ตึ้) หรือ m_act_z(แมค) น่ะครับ