Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 1
ผมไม่ได้หมายถึงว่าทุกคนไม่รูจัก แต่มีบางมิติที่เรามองเห็นในขณะทำความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้ แต่คนอื่นอาจมองไม่เห็น
ผมต้องขอยกประโยคของเรื่องราวจากกาลิเลโอ คีนี ที่ว่า
ช่วงแรกกาลิเลโอ คีนิ ใช้เวลาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองสยามในมิติที่ช่วยให้ได้เห็น ได้รู้จัก และเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการออกแบบภาพจิตรกรรมประดับสถาปัตยกรรมชิ้นเดียวของกาลิเลโอ คีนิในสยาม เป็นงานศิลป์ชิ้นเอกที่สร้างสรรค์เต็มกำลัง
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=33957
ก่อนเขาวาดรูป เขายังต้องศึกษาความเป็นไทยก่อน นั้นเป้นศิลปิน เขาทำความเข้าใจก่อนที่เขาจะวาด ไม่ใช่นึกอะไรก็อยากวาด ไม่ใช่ใครบอกอะไรมา เชื่ออะไรตะพฤตตะพือแล้วก็วาดไป เขาคิดก่อนเสมอ
ใครจะไปต้อเติมเป้น
PE....ที่เรายังไม่รู้จัก
PB.....ที่เราไม่รูจัก
ROE....ที่เราไม่รูจัก
WG....ที่เรายังไม่รูจัก
TNH......ที่เรายังไม่รูจัก
ก็แล้วแต่ความประสงค์ของแต่ละท่าน
---------------------
เรื่องนี้เห็นเป็นความจริง เพราะทนต่อการพิสูจน์ โดยใช้หลักกาลามสูตร 10 อย่าง ที่ควรมี จึงมาเล่าต่อกันฟัง อย่าเชื่องมงายในสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน แนะนำให้ไปหาทางพิสูจน์ของท่านเองครับ
------------------
1. Benjamin Graham นั้น คนอเมริกันออกเสียงว่า "แกรม" ไม่ใช่แกรแฮม
---------------------------
2. "อัตรส่วนทางการเงิน" กับ "ตัวโน๊ต" เหมือนกันตรงไหน
อันแรกเป็นภาษาของบัญชี อันสองเป็นภาษาดนตรี
ข้าพเจ้าคยได้ยิน อ.มังกเอร์พูดหลายครั้งหลายคราว่า การลงทุนเน้นคุณค่านั้น เป็นศิลปมากกว่าเป็นวิทยาศาสตร์
ข้าพเจ้าเล่นดนตรี ดนตรีเป้นศิลป ที่ว่าอย่างนั้นเพราะดนตรีเป็นเรื่องธรรมชาติ แล้วดนตรีมันมีดีกรีเยอะ เป้นมากกว่าที่เราคิด พอเราไปคิดไอ้ตรงที่มากกว่าที่เราไปไม่ถึง แต่กระโดดไปคิด ไปยืนตรงนั้นที่เราไม่เคยไป เราก้เลยไปเห้น ไปเห็นว่าวิชาวีไอนี่เหมือนฝาแฝดของดนตรี
ทั้งดนตรีและวีไอนี่ เป็นทั้งศิลปที่เป้นวิทยาศาสตรืในตัวได้เลย อย่างการภาพวาดของกาลิเลอิ นี่ ยังไงก็ไม่มีทางเป็นวิทยาศาสตร์ หรืออาจเป้นไปได้ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีก็เป็นไปได้ แต่คนตรีนั้นเป้นได้ เพราะมันมีทฤษฎีกำกับทุกเรื่อง
มันมีความถูกต้องของตัวโน๊ต เพี้ยนหน่อยก็บอกได้ เลยมีการเขียนกำกับตัวโน๊ต เล่นกีครั้งใครก้อ่านตัวโน๊ตไป จากแค่เสียงที่มาจากธรรมชาติ แต่มีคนจับวิทยาศาสตรืเข้าไปใส่ในศิลปได้
อย่างดนตรี กดตัวโน๊ตแล้ว บอกได้ว่า คู่ประสานมันต้องเป้นคู่สาม คู่ห้า เป็นทฤษฏีได้หมดเลย แล้ว อัตราส่วนก็เหมือนกัน จับตัวนี้ไปประกบตัวนี้ จับกระแสเงินสดไปประกบยอดขาย พอจับคู่แล้ว มันมีทฤษฏีประกบอธิบายไว้หมดเลย มีศาสตร์เข้ามากำกับได้
สำหรับข้าพเจ้า เสียงดนตรีอยู่ตามมุมบ้านตลอด ข้าพเจ้าผ่อนคลายที่ได้ฟัง การลงทุนเน้นคุณค่าก็เช่นเดียวกัน มีความหมายมากว่าการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงย เพราะข้าพเจ้าเลิกงานล้างจาน ถูบ้านเมือ่ไหร่ ข้าพเจ้าก็จะคิดเรื่อง wisdom ต่างๆ คิดคนเดียว คิดกับเพื่อน ๆกลายเป้นว่า ชีวิตเรากับการลงทุนเป้นมากกว่าที่คิด มันเป้นความสุขเหมือนฟังดนตรี
และพอทำไปด้วยความสุขแล้ว เราก็เข้าไปอยู่ในบทบาทของการสร้างสรรคืด้วย ทำไปทำมาเราก็เลยกลายเป้นว่าเราไปเข้าใจวีไอมากกว่าเพือ่นๆ อยู่หนึ่งสเตป แต่ที่เป้นอย่างนั้น้ เพราะเรามองว่าเขาเป้นศิลป
วีไอมันมีความหมายว่า relax ครับ
ผมต้องขอยกประโยคของเรื่องราวจากกาลิเลโอ คีนี ที่ว่า
ช่วงแรกกาลิเลโอ คีนิ ใช้เวลาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองสยามในมิติที่ช่วยให้ได้เห็น ได้รู้จัก และเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการออกแบบภาพจิตรกรรมประดับสถาปัตยกรรมชิ้นเดียวของกาลิเลโอ คีนิในสยาม เป็นงานศิลป์ชิ้นเอกที่สร้างสรรค์เต็มกำลัง
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=33957
ก่อนเขาวาดรูป เขายังต้องศึกษาความเป็นไทยก่อน นั้นเป้นศิลปิน เขาทำความเข้าใจก่อนที่เขาจะวาด ไม่ใช่นึกอะไรก็อยากวาด ไม่ใช่ใครบอกอะไรมา เชื่ออะไรตะพฤตตะพือแล้วก็วาดไป เขาคิดก่อนเสมอ
ใครจะไปต้อเติมเป้น
PE....ที่เรายังไม่รู้จัก
PB.....ที่เราไม่รูจัก
ROE....ที่เราไม่รูจัก
WG....ที่เรายังไม่รูจัก
TNH......ที่เรายังไม่รูจัก
ก็แล้วแต่ความประสงค์ของแต่ละท่าน
---------------------
เรื่องนี้เห็นเป็นความจริง เพราะทนต่อการพิสูจน์ โดยใช้หลักกาลามสูตร 10 อย่าง ที่ควรมี จึงมาเล่าต่อกันฟัง อย่าเชื่องมงายในสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน แนะนำให้ไปหาทางพิสูจน์ของท่านเองครับ
------------------
1. Benjamin Graham นั้น คนอเมริกันออกเสียงว่า "แกรม" ไม่ใช่แกรแฮม
---------------------------
2. "อัตรส่วนทางการเงิน" กับ "ตัวโน๊ต" เหมือนกันตรงไหน
อันแรกเป็นภาษาของบัญชี อันสองเป็นภาษาดนตรี
ข้าพเจ้าคยได้ยิน อ.มังกเอร์พูดหลายครั้งหลายคราว่า การลงทุนเน้นคุณค่านั้น เป็นศิลปมากกว่าเป็นวิทยาศาสตร์
ข้าพเจ้าเล่นดนตรี ดนตรีเป้นศิลป ที่ว่าอย่างนั้นเพราะดนตรีเป็นเรื่องธรรมชาติ แล้วดนตรีมันมีดีกรีเยอะ เป้นมากกว่าที่เราคิด พอเราไปคิดไอ้ตรงที่มากกว่าที่เราไปไม่ถึง แต่กระโดดไปคิด ไปยืนตรงนั้นที่เราไม่เคยไป เราก้เลยไปเห้น ไปเห็นว่าวิชาวีไอนี่เหมือนฝาแฝดของดนตรี
ทั้งดนตรีและวีไอนี่ เป็นทั้งศิลปที่เป้นวิทยาศาสตรืในตัวได้เลย อย่างการภาพวาดของกาลิเลอิ นี่ ยังไงก็ไม่มีทางเป็นวิทยาศาสตร์ หรืออาจเป้นไปได้ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีก็เป็นไปได้ แต่คนตรีนั้นเป้นได้ เพราะมันมีทฤษฎีกำกับทุกเรื่อง
มันมีความถูกต้องของตัวโน๊ต เพี้ยนหน่อยก็บอกได้ เลยมีการเขียนกำกับตัวโน๊ต เล่นกีครั้งใครก้อ่านตัวโน๊ตไป จากแค่เสียงที่มาจากธรรมชาติ แต่มีคนจับวิทยาศาสตรืเข้าไปใส่ในศิลปได้
อย่างดนตรี กดตัวโน๊ตแล้ว บอกได้ว่า คู่ประสานมันต้องเป้นคู่สาม คู่ห้า เป็นทฤษฏีได้หมดเลย แล้ว อัตราส่วนก็เหมือนกัน จับตัวนี้ไปประกบตัวนี้ จับกระแสเงินสดไปประกบยอดขาย พอจับคู่แล้ว มันมีทฤษฏีประกบอธิบายไว้หมดเลย มีศาสตร์เข้ามากำกับได้
สำหรับข้าพเจ้า เสียงดนตรีอยู่ตามมุมบ้านตลอด ข้าพเจ้าผ่อนคลายที่ได้ฟัง การลงทุนเน้นคุณค่าก็เช่นเดียวกัน มีความหมายมากว่าการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงย เพราะข้าพเจ้าเลิกงานล้างจาน ถูบ้านเมือ่ไหร่ ข้าพเจ้าก็จะคิดเรื่อง wisdom ต่างๆ คิดคนเดียว คิดกับเพื่อน ๆกลายเป้นว่า ชีวิตเรากับการลงทุนเป้นมากกว่าที่คิด มันเป้นความสุขเหมือนฟังดนตรี
และพอทำไปด้วยความสุขแล้ว เราก็เข้าไปอยู่ในบทบาทของการสร้างสรรคืด้วย ทำไปทำมาเราก็เลยกลายเป้นว่าเราไปเข้าใจวีไอมากกว่าเพือ่นๆ อยู่หนึ่งสเตป แต่ที่เป้นอย่างนั้น้ เพราะเรามองว่าเขาเป้นศิลป
วีไอมันมีความหมายว่า relax ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 2
3. ทำไม Buffett มีความรูสึกดี ๆ กับเวลาตลาดหุ้น Crash หนัก ๆ เสมอ?
ย้อนไปวันที่ 30 พ.ย. 1929 ก่อนวันเกิดของ Buffett วันที่ 30 ส.ค.1930 วันนั้นเป้นวันที่สำคัญต่อชาวโลกวีไออย่างมากครับ ถ้าตลาดหุ้นไม่ตก เราจะไม่มีคนที่ชื่อ Warren Buffett ในวันนี้ ย้อนกลับไปวันที่ 30 พ.ย 1929 พ่อของเขาทำงานเป็น stock broker และไม่ไปทำงานในวันนั้น ตลาดหุ้น Crash อย่างหนัก พ่อของเขาตัดสินใจอยู่บ้านตลอดทั้งวัน ยุคนั้นไม่มีทีวีครับ และจะเหลือกิจกรรมให้ทำนอกจาก.....ปั้ม ปั้ม ป้าม
จะมีสีกกี่คนที่รู้วันปฎิสนธิของตัวเองครับ
------------------------------
ย้อนไปวันที่ 30 พ.ย. 1929 ก่อนวันเกิดของ Buffett วันที่ 30 ส.ค.1930 วันนั้นเป้นวันที่สำคัญต่อชาวโลกวีไออย่างมากครับ ถ้าตลาดหุ้นไม่ตก เราจะไม่มีคนที่ชื่อ Warren Buffett ในวันนี้ ย้อนกลับไปวันที่ 30 พ.ย 1929 พ่อของเขาทำงานเป็น stock broker และไม่ไปทำงานในวันนั้น ตลาดหุ้น Crash อย่างหนัก พ่อของเขาตัดสินใจอยู่บ้านตลอดทั้งวัน ยุคนั้นไม่มีทีวีครับ และจะเหลือกิจกรรมให้ทำนอกจาก.....ปั้ม ปั้ม ป้าม
จะมีสีกกี่คนที่รู้วันปฎิสนธิของตัวเองครับ
------------------------------
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 3
[quote=".^O-O^"]3.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 6
4 . ความแน่อน
ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมอายุ 11 ปี กระผมเรียนอยู่ชุ้น ป.4 ที่โรงเรียนบ้านแก้งวิทยา จังหวัด สะแก้ว กระผมทำงานเล้กน้อย ๆให้คุณครูแผนกบัญชี ในสหหรณ์โรงเรียน บางครั้งผมได้รับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทางการสื้อสาร จริงๆ แล้วก็คือ พนักงานรับโทรศัพท์นั่นละครับ ขณะนี้ผมมีความฝันจะศึกษาวิชาการลงทุนเน้นคุณค่า แต่ไม่เคยผ่านการศึกษาที่แท้จริงในโรงเรียนมาก่อนเลย หลังจากเลิกเรียนแล้ว กรัผมได้ใช้เวลาว่างในการศึกษาวิชาการลงทุน..และได้ค้นพบทางใหม่ให้กับตัวเอง กระผมได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับ ทฤษฎีเรื่องการวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเองเป็นพิเศษและได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่า อัศจรรย์ อย่างมาก แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้
เด็กชายปื๊ด นามสกุลต้มตุ๋น
ผมยังไม่เคยกระโดดแบบนี้มาก่อนเลย ความดีใจทำให้ผมกล้าขึ้น พยุงผมไว้ให้ล้ม เวลาที่เราอายุมากขึ้น ใจเราจะแข็งแรงขึ้น ไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ ใจเราไม่แข็งแรงเท่านี้ เราอาจพลาดได้ แต่ตอนอายุมาก เวลาพลาดอะไรเราจะเจ็บมาก และถ้าเราเจ็บ มันจะใช้เวลานานกว่าตอนหนุ่มๆ กว่าที่มันจะหาย
ผมไม่แนะนำ กลค.เป้นที่พักพิงเสียทีเดียว แต่มันเป็นโลกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โลกที่มีความชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล เป็นโลกที่มีคำตอบที่แน่นอน ถ้าหากมีอะไรมันแน่อนละก็ กลค คือสิ่งนั้น มันเป้นความแน่นอนที่แน่นอนที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถนำไปใช้ในทางที่ดี ก็สามารถนำไปใช้ในทางไม่ดีเหมือนกัน
*** 7 ก.ย 50 ทุกอย่างในโลกล้วนมีสองด้าน แม่แต่บางคนยังมีสองบุคคลิก บางคนมากกว่าสอง บางทีเราคบกันเพราะชอบเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่าเหมือนกัน แต่รู้จักแบบผิวเผิน ให้นึกเสมอว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ที่แน่นอนคือเรื่องที่คุยกัน ไม่ใช่คนที่คุยด้วย อย่าไปเข้าใจผิด
ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมอายุ 11 ปี กระผมเรียนอยู่ชุ้น ป.4 ที่โรงเรียนบ้านแก้งวิทยา จังหวัด สะแก้ว กระผมทำงานเล้กน้อย ๆให้คุณครูแผนกบัญชี ในสหหรณ์โรงเรียน บางครั้งผมได้รับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทางการสื้อสาร จริงๆ แล้วก็คือ พนักงานรับโทรศัพท์นั่นละครับ ขณะนี้ผมมีความฝันจะศึกษาวิชาการลงทุนเน้นคุณค่า แต่ไม่เคยผ่านการศึกษาที่แท้จริงในโรงเรียนมาก่อนเลย หลังจากเลิกเรียนแล้ว กรัผมได้ใช้เวลาว่างในการศึกษาวิชาการลงทุน..และได้ค้นพบทางใหม่ให้กับตัวเอง กระผมได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับ ทฤษฎีเรื่องการวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเองเป็นพิเศษและได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่า อัศจรรย์ อย่างมาก แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้
เด็กชายปื๊ด นามสกุลต้มตุ๋น
ผมยังไม่เคยกระโดดแบบนี้มาก่อนเลย ความดีใจทำให้ผมกล้าขึ้น พยุงผมไว้ให้ล้ม เวลาที่เราอายุมากขึ้น ใจเราจะแข็งแรงขึ้น ไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ ใจเราไม่แข็งแรงเท่านี้ เราอาจพลาดได้ แต่ตอนอายุมาก เวลาพลาดอะไรเราจะเจ็บมาก และถ้าเราเจ็บ มันจะใช้เวลานานกว่าตอนหนุ่มๆ กว่าที่มันจะหาย
ผมไม่แนะนำ กลค.เป้นที่พักพิงเสียทีเดียว แต่มันเป็นโลกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โลกที่มีความชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล เป็นโลกที่มีคำตอบที่แน่นอน ถ้าหากมีอะไรมันแน่อนละก็ กลค คือสิ่งนั้น มันเป้นความแน่นอนที่แน่นอนที่สุด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถนำไปใช้ในทางที่ดี ก็สามารถนำไปใช้ในทางไม่ดีเหมือนกัน
*** 7 ก.ย 50 ทุกอย่างในโลกล้วนมีสองด้าน แม่แต่บางคนยังมีสองบุคคลิก บางคนมากกว่าสอง บางทีเราคบกันเพราะชอบเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่าเหมือนกัน แต่รู้จักแบบผิวเผิน ให้นึกเสมอว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ที่แน่นอนคือเรื่องที่คุยกัน ไม่ใช่คนที่คุยด้วย อย่าไปเข้าใจผิด
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 7
5 . เขามีอายุกี่ปี
ชายผู้นี่ได้ให้หกส่วนของชีวิตเขาเปิดบริษัทมหาชน เมื่อบวกชีวิตเขาเข้าไปอีกสิบสองส่วน เขาได้ปกคลุมบริษัทด้วยดอกที่ไร้ใบ เขาได้จุดแสงสว่างแห่งชีวิตคู่ให้ตัวเองเมื่อผ่านไปอีกเจ็ดส่วนของชีวิต และหลังจากแต่งงานได้ 5 ปี เขาได้บุตรชาย น่าเสียดาย เด็กชายที่คลอดหลังกำหนดได้ถูกชะตากรรมพลัดพรากชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้ครึ่งหนึ่งของบิดา หลังจากปลอบใจตัวเองด้วยรายงานประจำปีแห่งตัวเลขเป้นเวลาสี่ปี เขาจึงได้สิ้นชีวิตลง
เขามีอายุกี่ปี ??
ชายผู้นี่ได้ให้หกส่วนของชีวิตเขาเปิดบริษัทมหาชน เมื่อบวกชีวิตเขาเข้าไปอีกสิบสองส่วน เขาได้ปกคลุมบริษัทด้วยดอกที่ไร้ใบ เขาได้จุดแสงสว่างแห่งชีวิตคู่ให้ตัวเองเมื่อผ่านไปอีกเจ็ดส่วนของชีวิต และหลังจากแต่งงานได้ 5 ปี เขาได้บุตรชาย น่าเสียดาย เด็กชายที่คลอดหลังกำหนดได้ถูกชะตากรรมพลัดพรากชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้ครึ่งหนึ่งของบิดา หลังจากปลอบใจตัวเองด้วยรายงานประจำปีแห่งตัวเลขเป้นเวลาสี่ปี เขาจึงได้สิ้นชีวิตลง
เขามีอายุกี่ปี ??
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 8
6. สัมผัส
ผมเคยรู้สัมผัสผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านชอบเขียนหนังสือถึงความรักและชีวิต ท่านเป็นคนเจ้าสำอาง อารมณ์ของท่านตัดด้วยคาเฟอีนและที่ขาดไม่ได้ที่จะเพิ่มความสง่างามให้แก่ท่านในขั้นสุดท้ายคือซิกาจากคิวบา หลังจากคาบซิกานี้แล้วท่านพร้อมจะปะทะกับความไม่ถูกต้องของเซียนปั่นหุ้นที่ท่านเจอ
ท่านมีพรสวรรค์ในการสรุปลักษณะของคนด้วยประโยคกระทัดรัดสั้น ๆ ครั้งหนึ่งท่านบอกว่า เซียนปั่นหุ้นส่วนใหญ่มีความลึกลับโดดเด่นกว่าความสามารถทางการลงทุน
มีความเป็นอัฉริยะหนึ่งในสิบ อีกเก้าในสิบนั้นคือเรื่องเท็จทั้งนั้น
ผมเคยรู้สัมผัสผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านชอบเขียนหนังสือถึงความรักและชีวิต ท่านเป็นคนเจ้าสำอาง อารมณ์ของท่านตัดด้วยคาเฟอีนและที่ขาดไม่ได้ที่จะเพิ่มความสง่างามให้แก่ท่านในขั้นสุดท้ายคือซิกาจากคิวบา หลังจากคาบซิกานี้แล้วท่านพร้อมจะปะทะกับความไม่ถูกต้องของเซียนปั่นหุ้นที่ท่านเจอ
ท่านมีพรสวรรค์ในการสรุปลักษณะของคนด้วยประโยคกระทัดรัดสั้น ๆ ครั้งหนึ่งท่านบอกว่า เซียนปั่นหุ้นส่วนใหญ่มีความลึกลับโดดเด่นกว่าความสามารถทางการลงทุน
มีความเป็นอัฉริยะหนึ่งในสิบ อีกเก้าในสิบนั้นคือเรื่องเท็จทั้งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 9
7. คำทำนาย
อารยธธรรมของมนุษย์ชาติจะถูกทำลายด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่จะมีใครพิสูจน์ได้ว่าทฤษฎีการลงทุนแบบ value investing เป็นวิธีที่ผิด
นาย แมลงสาบ
***เขียนวันที่ 20 ต.ค 50 ฝนตกหนักมาก น้ำท่วมหน้าบ้านสูงถึงเข่า แมลงสาบเต็มไปหมด มันว่ายน้ำกันเก่งจริง ๆ ว่ายกันเป้นร้อยกว่าตัว เกาะกันเป็นแพ มันลีบตัวผ่านประตูมุ้งลวดเข้ามาได้ บางตัวก็บินขึ้นไปเกาะบนโคมไฟ ผมคิดว่าสงครามโลกจะเกิดแล้วหรือนี่
อารยธธรรมของมนุษย์ชาติจะถูกทำลายด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่จะมีใครพิสูจน์ได้ว่าทฤษฎีการลงทุนแบบ value investing เป็นวิธีที่ผิด
นาย แมลงสาบ
***เขียนวันที่ 20 ต.ค 50 ฝนตกหนักมาก น้ำท่วมหน้าบ้านสูงถึงเข่า แมลงสาบเต็มไปหมด มันว่ายน้ำกันเก่งจริง ๆ ว่ายกันเป้นร้อยกว่าตัว เกาะกันเป็นแพ มันลีบตัวผ่านประตูมุ้งลวดเข้ามาได้ บางตัวก็บินขึ้นไปเกาะบนโคมไฟ ผมคิดว่าสงครามโลกจะเกิดแล้วหรือนี่
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 10
8. หมกตัว
สนปื๊ดหมกหมุ่นกับมันเป้นเวลา 8 ปี ตั้งแต่เวลาทีเขาตื่นจนกระทั่งผมเข้านอน สนปื๊ดหมกตัวอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในห้องใต้หลังคาที่บ้านพร้อมกับลงทุนในตลาดไปด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าทฤษฎี ของ grahamn นั้นใช้ได้จริง สนปื๊ดอ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ value investing
แต่ในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มปะติดปะต่อเป้นร่างขึ้นมา เขาเล่าประสบการณ์นั้นโยเปรียนเปรยว่า มันเหมือนกับเราเข้าไปในปราสาทมืดๆ แล้วเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง เดินสะเปะสะปะชนนั้นชนนี่เป้นเดือน ๆหรือเป้นปี ๆ ในที่สุดเราเริ่มรุ้ว่าในห้องมีอะไรบ้าง มีโต๊ะอยู่ตรงไหน มีมีดวางอยู่ตรงไหน แล้วเราจะก้าวไปอีกขึ้น โดยเริ่มหาสวิตไฟ กด สิตแล้วไฟสว่างขึ้น จากนั้นเราก็ไปสำรวจห้องอื่นๆ ต่อและทำอย่างเดียวกันอีก
การเดินทางของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
ปี 2008 ปราสาททั้งหลังก็สว่างขึ้น
*** 16 พ.ค. 50 วันนั้นทุกคนไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมด ผมอยู่บ้านคนเดียว ไฟดับตอน 1 ทุ่ม ไมมีไฟฉาย เทียนไม่รู้อยู่ไหน เดินสำรวจทั่วบ้านเพื่อหาเทียน นาทีนั้นทำให้คิดได้ การลงทุนก็เหมือนกันเราคลำทางมาตลอดหลายปี
สนปื๊ดหมกหมุ่นกับมันเป้นเวลา 8 ปี ตั้งแต่เวลาทีเขาตื่นจนกระทั่งผมเข้านอน สนปื๊ดหมกตัวอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในห้องใต้หลังคาที่บ้านพร้อมกับลงทุนในตลาดไปด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าทฤษฎี ของ grahamn นั้นใช้ได้จริง สนปื๊ดอ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ value investing
แต่ในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มปะติดปะต่อเป้นร่างขึ้นมา เขาเล่าประสบการณ์นั้นโยเปรียนเปรยว่า มันเหมือนกับเราเข้าไปในปราสาทมืดๆ แล้วเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง เดินสะเปะสะปะชนนั้นชนนี่เป้นเดือน ๆหรือเป้นปี ๆ ในที่สุดเราเริ่มรุ้ว่าในห้องมีอะไรบ้าง มีโต๊ะอยู่ตรงไหน มีมีดวางอยู่ตรงไหน แล้วเราจะก้าวไปอีกขึ้น โดยเริ่มหาสวิตไฟ กด สิตแล้วไฟสว่างขึ้น จากนั้นเราก็ไปสำรวจห้องอื่นๆ ต่อและทำอย่างเดียวกันอีก
การเดินทางของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
ปี 2008 ปราสาททั้งหลังก็สว่างขึ้น
*** 16 พ.ค. 50 วันนั้นทุกคนไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมด ผมอยู่บ้านคนเดียว ไฟดับตอน 1 ทุ่ม ไมมีไฟฉาย เทียนไม่รู้อยู่ไหน เดินสำรวจทั่วบ้านเพื่อหาเทียน นาทีนั้นทำให้คิดได้ การลงทุนก็เหมือนกันเราคลำทางมาตลอดหลายปี
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 11
9. พาสสปอร์ตขาเดียว ถ้าผมมีโอกาสถาม graham ผมจะถามว่า
ที่ท่านบอกว่า ทุกเช้าที่ท่านตื่นมา ท่านหวังว่าจะทำอะไรโง่ ๆ บ้าง ท่านหมายความว่าอย่างไร ?
แต่เอาไว้ก่อนก็ได้ เพราะตอนที่ผมไปเจอท่านจริง ๆ ผมคงได้ไปในที่ที่ไม่ต้องใช้พาสสปอร์ตขากลับก่อน เพราะมันจะไมมีขากลับอีก
ที่ท่านบอกว่า ทุกเช้าที่ท่านตื่นมา ท่านหวังว่าจะทำอะไรโง่ ๆ บ้าง ท่านหมายความว่าอย่างไร ?
แต่เอาไว้ก่อนก็ได้ เพราะตอนที่ผมไปเจอท่านจริง ๆ ผมคงได้ไปในที่ที่ไม่ต้องใช้พาสสปอร์ตขากลับก่อน เพราะมันจะไมมีขากลับอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 12
10. สมณเพศ
สามีอ่านแต่ annual reports
ปวดหัวกับการหามูลค่าของหุ้น
เขาเห็นเด็กๆ ดังนั้นเขาจึงวางมือจากตัวเลข
และหันเข้าสู่สมณเพศ
****วันที่ 28 ก.ย 50 ผมนั่งอ่านรายการการประชุมบริษัทหนึ่งตั้งแต่เช้าถึงเย็น โดยกินข้าวเมื้อเดียวตอน 10 โมง พอ 4 โมงเย็นลูกกลับบ้าน เลยนึกได้ นี่เรายังไม่กินข้างเที่ยง เลยกลับไปใช้ชีวิตปกติ
สามีอ่านแต่ annual reports
ปวดหัวกับการหามูลค่าของหุ้น
เขาเห็นเด็กๆ ดังนั้นเขาจึงวางมือจากตัวเลข
และหันเข้าสู่สมณเพศ
****วันที่ 28 ก.ย 50 ผมนั่งอ่านรายการการประชุมบริษัทหนึ่งตั้งแต่เช้าถึงเย็น โดยกินข้าวเมื้อเดียวตอน 10 โมง พอ 4 โมงเย็นลูกกลับบ้าน เลยนึกได้ นี่เรายังไม่กินข้างเที่ยง เลยกลับไปใช้ชีวิตปกติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 15
13. ความจริง
สมมุติเราลงทุน 1 บาท ในแต่ละปีเราจะได้ดอก ทบต้น 100 % เราจะมีเงินเป็นสองเท่าตอนปลายปี แต่ถ้าดอกทบต้น 100 ทุก ๆ ครึ่งปี สิ้นปีจะมีเงิน 2.25 บาท ถ้ามันทบต้นทุก ๆ ไตรมาสละ?
สิ้นปีเงิน 1 บาท จะกลายเป้น 2.44 บาท แต่ถ้ามันทบต้น 8 ครั้งต่อปี เราจะได้ 2.57 บาท ในกรณีนี้อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามันทบต้น 16 ครั้ง 32 ครั้ง ไปเรื่อยๆ เราจะราย ไม่สิ้นสุด อย่างนั้นหรือปล่าว
คำตอบ คิอ ผิด
มันเป็นไปไม่ได้อย่างที่คิด ความจริงคือ จำนวนที่เราสะสมได้ในหนึ่งปีจำกัดเพียง 2.718 บาท เท่านั้น ไม่มากไปกว่านี้
ผลตอบแทนการลงทุนเหมือนกระบวนการเติบโตของคนเรา
มีกระบวนการเติบโตและกระบวนการเสื่อมถอย
รวมทั้งสิ่งที่คนคลั่ง ไคล้มากที่สุด คือ ผลตอบแทน
**** 12 ก.ค 50 ดอกเบี้ยทบต้นเป็นเลขธรรมชาติ ในเวลาที่จำกัด 1 ปี จำนวนครั้งที่ทบยิ่งมาก ค่ายิ่งเข้าใกล้ 2.718 และนี่คือความจริงที่พิสูจน์แล้ว มันไม่มากไปกว่านี้
สมมุติเราลงทุน 1 บาท ในแต่ละปีเราจะได้ดอก ทบต้น 100 % เราจะมีเงินเป็นสองเท่าตอนปลายปี แต่ถ้าดอกทบต้น 100 ทุก ๆ ครึ่งปี สิ้นปีจะมีเงิน 2.25 บาท ถ้ามันทบต้นทุก ๆ ไตรมาสละ?
สิ้นปีเงิน 1 บาท จะกลายเป้น 2.44 บาท แต่ถ้ามันทบต้น 8 ครั้งต่อปี เราจะได้ 2.57 บาท ในกรณีนี้อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามันทบต้น 16 ครั้ง 32 ครั้ง ไปเรื่อยๆ เราจะราย ไม่สิ้นสุด อย่างนั้นหรือปล่าว
คำตอบ คิอ ผิด
มันเป็นไปไม่ได้อย่างที่คิด ความจริงคือ จำนวนที่เราสะสมได้ในหนึ่งปีจำกัดเพียง 2.718 บาท เท่านั้น ไม่มากไปกว่านี้
ผลตอบแทนการลงทุนเหมือนกระบวนการเติบโตของคนเรา
มีกระบวนการเติบโตและกระบวนการเสื่อมถอย
รวมทั้งสิ่งที่คนคลั่ง ไคล้มากที่สุด คือ ผลตอบแทน
**** 12 ก.ค 50 ดอกเบี้ยทบต้นเป็นเลขธรรมชาติ ในเวลาที่จำกัด 1 ปี จำนวนครั้งที่ทบยิ่งมาก ค่ายิ่งเข้าใกล้ 2.718 และนี่คือความจริงที่พิสูจน์แล้ว มันไม่มากไปกว่านี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 16
14. สิ่งที่ยาก
ถ้าเราไม่รุ้ภาษาอังกฤษ เราก็คงอ่านวรรณกรรมอย่างเรื่อง คิงเลียร์ ไมได้ แต่การรู้ภาษาอังกฤษก้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขียนบทละครแบบเชคสเปียร์ได้ การลงทุนก็เช่นเดียวกัน สำหรับเราแล้ว ตัวเลขสัญญลักษณ์ต่างๆ บนหน้ากระดาษของหนังสือรายงานประจำปี ของบริษัทต่างๆ คือสิ่งที่ยากน้อยที่สุดในการอ่านมัน เหมือนกับในคิงเลียร์ ที่ภาษาอังกฤษนั้นไม่ยาก แต่งานที่ยากคือการเข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร
ถ้าเราไม่รุ้ภาษาอังกฤษ เราก็คงอ่านวรรณกรรมอย่างเรื่อง คิงเลียร์ ไมได้ แต่การรู้ภาษาอังกฤษก้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขียนบทละครแบบเชคสเปียร์ได้ การลงทุนก็เช่นเดียวกัน สำหรับเราแล้ว ตัวเลขสัญญลักษณ์ต่างๆ บนหน้ากระดาษของหนังสือรายงานประจำปี ของบริษัทต่างๆ คือสิ่งที่ยากน้อยที่สุดในการอ่านมัน เหมือนกับในคิงเลียร์ ที่ภาษาอังกฤษนั้นไม่ยาก แต่งานที่ยากคือการเข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 17
15. แก่นแท้
ในสังคมของนักลงทุนเน้นคุณค่าหัวก้าวหน้า ซึ่งสมาชิกคนหนึ่งมี่ข้าพเจ้าไปเจอมาซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งนั้น ทุกคนต่างฟังเขาและให้ความนับถือเขาและชื่นชมกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของเขา ความรักในความจริง ความชัดเจน และสัญชาตญาณ ทำให้เขามีอิทธิพลยิ่งต่อปัญญาชน Thaivi ในรุ่นของเขา เพียงแต่ว่า.แก่นแท้ของชีวิตเขานั้นอยู่ที่อื่น
ไม่ใช่การลงทุนอย่างที่ข้าพเจ้าคิดแต่แรก
เราลืมไปว่าเขาคือมนุษย์คนนึ่งเหมือนกัน เขาอาจรักสิ่งอื่นมากกว่าการลงทุนด้วยซ้ำ เรารู้จักเขาในสิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็น และเมื่อนั้นเราอาจพบบางสิ่งที่บังเกิดขึ้นที่เราควรเตรียมพร้อมที่จะสูดความอัศจรรย์ของบรรยากาศนั้นไว้ เพราะมันอาจดันโพล่ทะลุผิวน้ำขึ้นมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและเขาจะไม่พูดถึงมันอีกเลย
ในสังคมของนักลงทุนเน้นคุณค่าหัวก้าวหน้า ซึ่งสมาชิกคนหนึ่งมี่ข้าพเจ้าไปเจอมาซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งนั้น ทุกคนต่างฟังเขาและให้ความนับถือเขาและชื่นชมกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของเขา ความรักในความจริง ความชัดเจน และสัญชาตญาณ ทำให้เขามีอิทธิพลยิ่งต่อปัญญาชน Thaivi ในรุ่นของเขา เพียงแต่ว่า.แก่นแท้ของชีวิตเขานั้นอยู่ที่อื่น
ไม่ใช่การลงทุนอย่างที่ข้าพเจ้าคิดแต่แรก
เราลืมไปว่าเขาคือมนุษย์คนนึ่งเหมือนกัน เขาอาจรักสิ่งอื่นมากกว่าการลงทุนด้วยซ้ำ เรารู้จักเขาในสิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็น และเมื่อนั้นเราอาจพบบางสิ่งที่บังเกิดขึ้นที่เราควรเตรียมพร้อมที่จะสูดความอัศจรรย์ของบรรยากาศนั้นไว้ เพราะมันอาจดันโพล่ทะลุผิวน้ำขึ้นมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและเขาจะไม่พูดถึงมันอีกเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 18
16. บัฟเฟตสอนหลาน คุณสมบัติ 3 ข้อ
ช่วงปิดเทอมลูกคนหนึ่งจาก California เอาหลานมาฝากบัฟเฟตไว้ที่ Omaha โดยหวังว่าเพื่อจะซึมซับวิชาการลงทุนแบบปู่บ้างในช่วง summerบัเฟตดีใจมากที่ summer นี้จะหาเพิ่อนที่เล่นบริดจ์กับเข้าได้ ตั้งแต่วันแรกที่มา เขาก็เริ่มสอนหลานสาวทันที แต่พุดถึงสิ่งที่ใกล้ตัวก่อน เพราะกลัวว่าหลานในวัย 15 นี้ จะเครียดเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมากไปบัฟเฟต การลงทุนก็เหมือนการหาสามีที่ดีละจ๊ะหลาน มีหลักการข้อปฏิบัติต่างๆ ก่อนที่เราจะลงทุน การหาหาสามีดี ๆก็เช่นกันนะหลานเอ๋ย จำไว้นะ ถ้าจะเลือกสามีที่ดี หลานต้องดู 3 อย่างต่อไปนี้
1.รอบครอบ 2. ประหยัด 3. บริสุทธิ์
สองวันต่อมาเวลา 7:54 Am หลานสาวพึ่งเข้าบ้าน
บัฟเฟตหนูหายไปไหนมาเมื่อคืน ไม่ยอมกลับบ้าน
หลาน - ปู่ขา หนูหาผู้ชายคนนั้นเจอแล้ว เขามีครบทั้ง 3 ข้ออย่างที่ปู่บอกจริงๆ ด้วย วันนี้เขาเห้นว่าดึกแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุเลยเลี้ยวเข้าโรงแรม แสดงว่าเป้นคนรอบครอบ แล้วเขาก็เลือกห้องทีมีเตียงเดียว แสดงว่าเป็นคนประหยัด ส่วนข้อสุดท้าย เข้าบริสุทธิืแน่นอน
บัฟเฟต หลานรู้ได้อย่างไร
หลานหนูเป้นคนแกะมันออกมาเอง น้องชายของเขายังอยู่ในปลอกถุงยางหุ้มปลอกอยู่เลย
หลานมีความรู้ แต่หลานไม่มีสัญชาตญาณที่ดี สัญชาตญาณเกิดจากประสบการณ์ มันสอนกันไม่ได้
สัญชาตญาณสำคัญกว่าความรู้
ช่วงปิดเทอมลูกคนหนึ่งจาก California เอาหลานมาฝากบัฟเฟตไว้ที่ Omaha โดยหวังว่าเพื่อจะซึมซับวิชาการลงทุนแบบปู่บ้างในช่วง summerบัเฟตดีใจมากที่ summer นี้จะหาเพิ่อนที่เล่นบริดจ์กับเข้าได้ ตั้งแต่วันแรกที่มา เขาก็เริ่มสอนหลานสาวทันที แต่พุดถึงสิ่งที่ใกล้ตัวก่อน เพราะกลัวว่าหลานในวัย 15 นี้ จะเครียดเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนมากไปบัฟเฟต การลงทุนก็เหมือนการหาสามีที่ดีละจ๊ะหลาน มีหลักการข้อปฏิบัติต่างๆ ก่อนที่เราจะลงทุน การหาหาสามีดี ๆก็เช่นกันนะหลานเอ๋ย จำไว้นะ ถ้าจะเลือกสามีที่ดี หลานต้องดู 3 อย่างต่อไปนี้
1.รอบครอบ 2. ประหยัด 3. บริสุทธิ์
สองวันต่อมาเวลา 7:54 Am หลานสาวพึ่งเข้าบ้าน
บัฟเฟตหนูหายไปไหนมาเมื่อคืน ไม่ยอมกลับบ้าน
หลาน - ปู่ขา หนูหาผู้ชายคนนั้นเจอแล้ว เขามีครบทั้ง 3 ข้ออย่างที่ปู่บอกจริงๆ ด้วย วันนี้เขาเห้นว่าดึกแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุเลยเลี้ยวเข้าโรงแรม แสดงว่าเป้นคนรอบครอบ แล้วเขาก็เลือกห้องทีมีเตียงเดียว แสดงว่าเป็นคนประหยัด ส่วนข้อสุดท้าย เข้าบริสุทธิืแน่นอน
บัฟเฟต หลานรู้ได้อย่างไร
หลานหนูเป้นคนแกะมันออกมาเอง น้องชายของเขายังอยู่ในปลอกถุงยางหุ้มปลอกอยู่เลย
หลานมีความรู้ แต่หลานไม่มีสัญชาตญาณที่ดี สัญชาตญาณเกิดจากประสบการณ์ มันสอนกันไม่ได้
สัญชาตญาณสำคัญกว่าความรู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 19
17. ข้อผิดพลาด นักลงทุน(มือเก่า)
มีบทความของท่านวิบูลย์เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2547
กระผมใส่กรอปแปะไว้ข้างฝาเพื่อไว้อ่านเตือนสติกระผมเป้นระยะ ๆ เสมอ
Value Way : ข้อผิดพลาด นักลงทุน(มือใหม่)
http://www.thaivi.com/article/value-way ... e-way.html
เป็นบทความที่ไม่เคยล้าสมัยจริง ๆครับ
มือเก่า ๆ ห่างไกลไม่ว่าทางตรงและทางอ้อมจากข้อผิดพลาดต่างๆ ที่กล่าวในบทความแล้ว แต่มีข้อผิดพลาดอยู่หนึ่งอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับมือเก่า ข้อผิดพลาดนี้ ในหมู่นักลงทุนเน้นคุณค่ามือเก่า ๆ จะพบมากที่สุดนั้น คือการเห้น
1= 2
กระผมจะอธิบายให้ฟังครับ
ที่บอกว่า 1 = 2 นั้นมีที่มาอย่างนี้
เราจะให้ a = b จากนั้นคูณสมการทั้งสองข้างด้วย a ซึ่งจะได้
. 2
a = ab
. 2
เอา a - 2ab บวกเข้าไปทั้งสองข้างของสมการ จะได้;
. 2 2 2
a + (a - 2ab) = ab + (a - 2ab)
หรือเขียนย่อได้เป้น:
. 2 2
2(a - ab) = a - ab
2
ตอนนี้หารทั้งสองข้างด้วย a - ab ซึ่งจะได้
2 = 1
หลังจากหารทั้งสองข้างแล้ว ผลออกมาได้อย่างที่เห็น
อะไรผิดพลาดหรือครับ?
คำตอบตือ กระผมได้ละเมิดกฎพื้นฐานของวิชาเลขซึ่งก็คือ การหารด้วยศูนย์ การหารด้วย 0″ นั้น จะใค้ตอบที่ไร้คววามหมาย
แต่เสียงที่บอกในใจกระผมบอกว่า ผมไม่เคยหารด้วย 0″ เลยนี่
. 2
ความจริงคือ ผมให้ a = b ตั้งแต่เริ่มแรก การหารด้วย a - ab ซึ่งก็คือ 0″ นั่นเอง
ในชีวิตจริง.
กระผมก็มีเรื่องของการเห็น 1=2 เช่นกัน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพือนบ้านของกระผมคนหนึ่งไปปรากฎตัวในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขาคอยช่วยเหลืองานในหมู่บ้านตลอดและไม่เคยบ่นเลย เขาไปกวาดถนนตอนตี 3 ตี 4 ทุก ๆวัน เป็นเวาเป็นปี ๆ และโดยไม่รับค่าจ้างใด ๆเลยจากคณะกรรมการหมู่บ้าน
แต่ภาพที่ปรากฎในหนังสือพิมพ์นั้น เขาเป็นอาญากรโดยไปข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้าน และเขาก็รับสารภาพไปแล้ว
ผมตกใจมาก ทุกคนตกใจมาก สำหรับกระผมแล้ว เขาเป็นคนดีมาก ไม่มีใครคาดคิดเลย
สำหรับการลงทุนแล้ว
นักลงทุนมือเก่าคุ้นเคยกับหุ้นตัวหนึ่งๆ มากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งมีโอกาสเห็น 1 = 2 มากกว่านักลงทุนมือใหม่เท่านั้น
เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นนักลงทุนเน้คุณค่าที่ประสบความสำเร็จมาก
ตลอดเวลาที่เขาลงทุนในบริษัท 8-12 นั้นเป้นเวลาหลายปี จนมีความคุ้นเคยกับบริษัทมาก เพราะตลอดช่วงเวลาที่เขาเดินเข้าออกใช้บริการสินค้าของบริษัทที่เขาลงทุน
ผมไปที่ร้านนี้ทุกวัน ผมเลยซื้อมันไว้ เชื่อผมซิ มันเป็นบริษัทที่เยี่ยมมาก
เขาได้ความรู้ว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนขายได้ สิ่งไหนขายไม่ออกและส่วนที่สำคัญที่สุด เขาจะรู้ก่อนใคร ๆในตลาดด้วยซ้ำ
ผมเชื่อครับ ว่ามันดี..
แต่ตอนหลังๆ ที่ผมไปคุยกับเขานั้น เขาแทบจะไมได้ดูงบการเงินและประเมินมูลค่าของบริษัทใหม่เลย นอกจากดูงบรวมคร่าวๆ เท่านั้น ผมคิดว่า เขาเริ่มหารบริษัทที่เขาลงทุนด้วย สิ่งที่เขารู้จัก มากกว่าที่จะหารด้วย สิ่งที่เขาเข้าใจ แล้ว
ผมคิดว่าเขากำลังเจอปัญหาของการเห็น
1 = 2
เมือ่ไรก็ตามที่เราอยู่ใกล้กับบางสิ่งหรือคนบางคนมากเกินไป เราจะยืดถือความเชื่อของเราแทนที่เราจะตั้งคำถามเหมือนที่เราทำกับคนหรือสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย และเมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มหารบริษัทต่างๆ ด้วย สิ่งที่เขารู้จัก ผมคิดว่าเขากำลังเริ่มหารมันด้วย 0″ นั่นเอง
มีบทความของท่านวิบูลย์เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2547
กระผมใส่กรอปแปะไว้ข้างฝาเพื่อไว้อ่านเตือนสติกระผมเป้นระยะ ๆ เสมอ
Value Way : ข้อผิดพลาด นักลงทุน(มือใหม่)
http://www.thaivi.com/article/value-way ... e-way.html
เป็นบทความที่ไม่เคยล้าสมัยจริง ๆครับ
มือเก่า ๆ ห่างไกลไม่ว่าทางตรงและทางอ้อมจากข้อผิดพลาดต่างๆ ที่กล่าวในบทความแล้ว แต่มีข้อผิดพลาดอยู่หนึ่งอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับมือเก่า ข้อผิดพลาดนี้ ในหมู่นักลงทุนเน้นคุณค่ามือเก่า ๆ จะพบมากที่สุดนั้น คือการเห้น
1= 2
กระผมจะอธิบายให้ฟังครับ
ที่บอกว่า 1 = 2 นั้นมีที่มาอย่างนี้
เราจะให้ a = b จากนั้นคูณสมการทั้งสองข้างด้วย a ซึ่งจะได้
. 2
a = ab
. 2
เอา a - 2ab บวกเข้าไปทั้งสองข้างของสมการ จะได้;
. 2 2 2
a + (a - 2ab) = ab + (a - 2ab)
หรือเขียนย่อได้เป้น:
. 2 2
2(a - ab) = a - ab
2
ตอนนี้หารทั้งสองข้างด้วย a - ab ซึ่งจะได้
2 = 1
หลังจากหารทั้งสองข้างแล้ว ผลออกมาได้อย่างที่เห็น
อะไรผิดพลาดหรือครับ?
คำตอบตือ กระผมได้ละเมิดกฎพื้นฐานของวิชาเลขซึ่งก็คือ การหารด้วยศูนย์ การหารด้วย 0″ นั้น จะใค้ตอบที่ไร้คววามหมาย
แต่เสียงที่บอกในใจกระผมบอกว่า ผมไม่เคยหารด้วย 0″ เลยนี่
. 2
ความจริงคือ ผมให้ a = b ตั้งแต่เริ่มแรก การหารด้วย a - ab ซึ่งก็คือ 0″ นั่นเอง
ในชีวิตจริง.
กระผมก็มีเรื่องของการเห็น 1=2 เช่นกัน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพือนบ้านของกระผมคนหนึ่งไปปรากฎตัวในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขาคอยช่วยเหลืองานในหมู่บ้านตลอดและไม่เคยบ่นเลย เขาไปกวาดถนนตอนตี 3 ตี 4 ทุก ๆวัน เป็นเวาเป็นปี ๆ และโดยไม่รับค่าจ้างใด ๆเลยจากคณะกรรมการหมู่บ้าน
แต่ภาพที่ปรากฎในหนังสือพิมพ์นั้น เขาเป็นอาญากรโดยไปข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้าน และเขาก็รับสารภาพไปแล้ว
ผมตกใจมาก ทุกคนตกใจมาก สำหรับกระผมแล้ว เขาเป็นคนดีมาก ไม่มีใครคาดคิดเลย
สำหรับการลงทุนแล้ว
นักลงทุนมือเก่าคุ้นเคยกับหุ้นตัวหนึ่งๆ มากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งมีโอกาสเห็น 1 = 2 มากกว่านักลงทุนมือใหม่เท่านั้น
เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นนักลงทุนเน้คุณค่าที่ประสบความสำเร็จมาก
ตลอดเวลาที่เขาลงทุนในบริษัท 8-12 นั้นเป้นเวลาหลายปี จนมีความคุ้นเคยกับบริษัทมาก เพราะตลอดช่วงเวลาที่เขาเดินเข้าออกใช้บริการสินค้าของบริษัทที่เขาลงทุน
ผมไปที่ร้านนี้ทุกวัน ผมเลยซื้อมันไว้ เชื่อผมซิ มันเป็นบริษัทที่เยี่ยมมาก
เขาได้ความรู้ว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนขายได้ สิ่งไหนขายไม่ออกและส่วนที่สำคัญที่สุด เขาจะรู้ก่อนใคร ๆในตลาดด้วยซ้ำ
ผมเชื่อครับ ว่ามันดี..
แต่ตอนหลังๆ ที่ผมไปคุยกับเขานั้น เขาแทบจะไมได้ดูงบการเงินและประเมินมูลค่าของบริษัทใหม่เลย นอกจากดูงบรวมคร่าวๆ เท่านั้น ผมคิดว่า เขาเริ่มหารบริษัทที่เขาลงทุนด้วย สิ่งที่เขารู้จัก มากกว่าที่จะหารด้วย สิ่งที่เขาเข้าใจ แล้ว
ผมคิดว่าเขากำลังเจอปัญหาของการเห็น
1 = 2
เมือ่ไรก็ตามที่เราอยู่ใกล้กับบางสิ่งหรือคนบางคนมากเกินไป เราจะยืดถือความเชื่อของเราแทนที่เราจะตั้งคำถามเหมือนที่เราทำกับคนหรือสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย และเมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มหารบริษัทต่างๆ ด้วย สิ่งที่เขารู้จัก ผมคิดว่าเขากำลังเริ่มหารมันด้วย 0″ นั่นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 20
อ่านข้อ 17 แล้วอึ้งไปเลย
ช่างคิดจริงๆครับ
ขอบคุณพี่โหน่งมากๆนะครับผม
ช่างคิดจริงๆครับ
ขอบคุณพี่โหน่งมากๆนะครับผม
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 21
เอ...อันนี้คือสิ่งที่เราเรียกว่า ความเคยชิน หรือเปล่าเมือ่ไรก็ตามที่เราอยู่ใกล้กับบางสิ่งหรือคนบางคนมากเกินไป เราจะยืดถือความเชื่อของเราแทนที่เราจะตั้งคำถามเหมือนที่เราทำกับคนหรือสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย และเมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มหารบริษัทต่างๆ ด้วย สิ่งที่เขารู้จัก ผมคิดว่าเขากำลังเริ่มหารมันด้วย 0″ นั่นเอง
เพราะความเคยชินทำให้เรามองข้ามอะไรไปหลายๆอย่าง
ด้วยเหตุผลที่เราเข้าข้างตัวเองว่า "เหอะน่า มันก็เป็นแบบนี้เอง"
ความเคยชินทำให้เรามองคนข้างๆว่า ไม่มีอะไรแปลกใหม่ สามารถคาดการณ์ได้
ความเคยชินทำให้เราเพิกเฉยต่อคำพูดเล็กๆน้อยๆที่อาจจะทิ่มแทงอีกฝ่าย
ความเคยชินทำให้เราลืมบอก "ขอบคุณ" และ "ขอโทษ"
เพราะเห็นว่า ก็รู้จักกันมาถึงขนาดนี้แล้ว จะมาร่ำไรทำไม
ทำไมเราไม่ตื่นขึ้นมาทุกเช้า แล้วคิดว่า
คนที่เราเจอเมื่อวานคือคนใหม่ของวันนี้
ยังมีแง่มุมอะไรอีกบ้างให้เราค้นหา
ชะอุ้ย..เกี่ยวอะไรกับการลงทุนมั้ยเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 22
เป็นเครื่องเตือนใจได้ดีครับ งง เรื่องสมการไปพักนึง
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 23
หลายครั้งที่ผมอ่านเรื่องที่พี่โหน่งเขียนแล้วทึ่งมาก กระทู้นี้ก็เป็นหนึ่งในหลายกระทู้ที่พี่โหน่งทำให้ผมทึ่งในความสามารถ
แต่มีบางข้อที่อ่านแล้วงงๆ
พอดีได้อ่านคอมเมนท์ที่พี่โหน่งเขียนไว้อีกกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34014
ด้วยความเคารพครับ
แต่มีบางข้อที่อ่านแล้วงงๆ
พอดีได้อ่านคอมเมนท์ที่พี่โหน่งเขียนไว้อีกกระทู้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34014
เลยสะกิดใจว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เองพี่โหน่ง เขียน:การเขียนลักษณะนี้ เป็นการชี้นำเพื่อทำให้ผู้อ่านไปถึงซึ่งบทสรุปในทางที่ผู้เขียนเลือกไว้ให้แล้ว
ด้วยความเคารพครับ
สติมา ปัญญาเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 24
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
........................
18. ความสำเร็จที่ท่านยังไม่รู้จัก
ผมโชคดีทีได้ไปถึงจุดอิสรภาพภาพทางการเงิน แต่เดิมเคยเห็นเงินเป็นศาสนา แต่พอโชคดีที่ได้เหรียญทองทางการลงทุนแล้ว ถึงได้มีโอกาสอีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมา คือ เราคิดว่า ความสำเร็จเป็นจุดหมายปลายทาง แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ ผมโชคดีที่มาถึงจุดนี้แล้วไม่หลงตัวเอง ได้มองย้อนกลับตั้งแต่ต้น รู้ว่าเรามีข้อด้อยอะไรบ้างที่ผ่านมา ที่สำคัญที่สุด ผมได้พบว่า การประสบความสำเร็จที่หลายคนตามล่ามันและมองว่าเป็นความสุขนั้น แท้จริงแล้วในวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ตัวร้ายที่สุดได้เช่นกัน
เราจะกลายเป็นนกที่มองไม่เห็นฟ้า เป็นปลาที่มองไม่เห็นน้ำ เหมือนคนทีมองไม่เห้นทุกข์ ยิ่งประสบความสำเร็จมากก็ทุกข์มากที่สุด มันก็จะตะโกนบอกเราทุกวัน แต่เราแกล้งไม่ได้ยิน เหมือนคนที่จมในกองทุกขืแต่ไม่เห็นทุกข์ ซึ่งถ้าเรารู้ไม่ทันหรือหลงไปกับมัน เราจะตกเป็นทาสของความสำเร็จอย่างทุกข์ทรมานมากกว่าความไม่สำเร็จอะไรเลย ซึ่งวันนี้ผมโชคดีที่ผ่านจุดนั้นมาได้
ทุกๆ ครั้ง มีคนมายกย่อง มาชมเชย เราเกิดความรู้สึกดีก็จริง หัวใจผองโตก็จริง แต่เราต้องอย่าเอาสิ่งดีๆ เหล่านั้น ที่ได้มา มาทำร้ายตัวเองในภายหลัง ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไร ยิ่งล้มเหลวมากเท่านั้น ยิ่งคิดว่า ตัวเองนี่แน่ ความคิดคนอื่นไม่เข้าท่า คิดว่ารู้มากกว่าคนอื่น คิดว่าเก่งกว่าคนอื่น คนอย่างนั้น น่าสงสารที่สุด เพราะไม่รู้ทันตัวเอง โดยความสำเร้จมันหลอกเอา ยิ่งกว่าผีหลอกซะอีก เพราะหลอกตัวเองทุกวัน ตลอดเวลา ไม่มีใครเก่งทุกอย่าง ไม่มีใครเก่งทุกเวลา
ต้อง แบ่งเวลา ให้แกล้งโง่ แบ่งเวลาให้คนอื่นฉลาดบ้าง ที่สำคัญเลย ความสำเร็จของเราต้องฝึก แบ่งเวลาแบบนี้ ให้เป็น ทักษะนี้เป็นเร็วเท่าไรชีวิตเราก็จะง่ายขึ้น อยู่ที่ไหน เวลาจำกัดแค่ไหน ก็โชคดีได้ เพราะความโชคดีมันต้องเกิดจากการเตรียมตัวเพื่อรอโอกาส ไม่ใช่เอาแต่ขอพรจากพระ แต่ไม่เคยขอโอกาสจากพระกัน เพราะไม่ชอบเตรียมตัว
แต่ก่อนผมเคยคิดว่า ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพื่อรอโอกาสให้เกิดโชคดีในครั้งต่อไป แต่เดี่ยวนี้เตรียมตัวไม่พอ ต้องเตรียมใจไว้ด้วย เพราะความสำเร็จมันเป็น ดาบ สองคมเสมอ
ผมเตือนคุณแล้ว.
........................
18. ความสำเร็จที่ท่านยังไม่รู้จัก
ผมโชคดีทีได้ไปถึงจุดอิสรภาพภาพทางการเงิน แต่เดิมเคยเห็นเงินเป็นศาสนา แต่พอโชคดีที่ได้เหรียญทองทางการลงทุนแล้ว ถึงได้มีโอกาสอีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมา คือ เราคิดว่า ความสำเร็จเป็นจุดหมายปลายทาง แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก
มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ ผมโชคดีที่มาถึงจุดนี้แล้วไม่หลงตัวเอง ได้มองย้อนกลับตั้งแต่ต้น รู้ว่าเรามีข้อด้อยอะไรบ้างที่ผ่านมา ที่สำคัญที่สุด ผมได้พบว่า การประสบความสำเร็จที่หลายคนตามล่ามันและมองว่าเป็นความสุขนั้น แท้จริงแล้วในวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ตัวร้ายที่สุดได้เช่นกัน
เราจะกลายเป็นนกที่มองไม่เห็นฟ้า เป็นปลาที่มองไม่เห็นน้ำ เหมือนคนทีมองไม่เห้นทุกข์ ยิ่งประสบความสำเร็จมากก็ทุกข์มากที่สุด มันก็จะตะโกนบอกเราทุกวัน แต่เราแกล้งไม่ได้ยิน เหมือนคนที่จมในกองทุกขืแต่ไม่เห็นทุกข์ ซึ่งถ้าเรารู้ไม่ทันหรือหลงไปกับมัน เราจะตกเป็นทาสของความสำเร็จอย่างทุกข์ทรมานมากกว่าความไม่สำเร็จอะไรเลย ซึ่งวันนี้ผมโชคดีที่ผ่านจุดนั้นมาได้
ทุกๆ ครั้ง มีคนมายกย่อง มาชมเชย เราเกิดความรู้สึกดีก็จริง หัวใจผองโตก็จริง แต่เราต้องอย่าเอาสิ่งดีๆ เหล่านั้น ที่ได้มา มาทำร้ายตัวเองในภายหลัง ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไร ยิ่งล้มเหลวมากเท่านั้น ยิ่งคิดว่า ตัวเองนี่แน่ ความคิดคนอื่นไม่เข้าท่า คิดว่ารู้มากกว่าคนอื่น คิดว่าเก่งกว่าคนอื่น คนอย่างนั้น น่าสงสารที่สุด เพราะไม่รู้ทันตัวเอง โดยความสำเร้จมันหลอกเอา ยิ่งกว่าผีหลอกซะอีก เพราะหลอกตัวเองทุกวัน ตลอดเวลา ไม่มีใครเก่งทุกอย่าง ไม่มีใครเก่งทุกเวลา
ต้อง แบ่งเวลา ให้แกล้งโง่ แบ่งเวลาให้คนอื่นฉลาดบ้าง ที่สำคัญเลย ความสำเร็จของเราต้องฝึก แบ่งเวลาแบบนี้ ให้เป็น ทักษะนี้เป็นเร็วเท่าไรชีวิตเราก็จะง่ายขึ้น อยู่ที่ไหน เวลาจำกัดแค่ไหน ก็โชคดีได้ เพราะความโชคดีมันต้องเกิดจากการเตรียมตัวเพื่อรอโอกาส ไม่ใช่เอาแต่ขอพรจากพระ แต่ไม่เคยขอโอกาสจากพระกัน เพราะไม่ชอบเตรียมตัว
แต่ก่อนผมเคยคิดว่า ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพื่อรอโอกาสให้เกิดโชคดีในครั้งต่อไป แต่เดี่ยวนี้เตรียมตัวไม่พอ ต้องเตรียมใจไว้ด้วย เพราะความสำเร็จมันเป็น ดาบ สองคมเสมอ
ผมเตือนคุณแล้ว.
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 26
20. อดทน.
ข้าพเจ้าวิ่ง วิ่งเพราะไม่อยากเป็นทาสเงินเดือนอีกต่อไป อิสระทางการเงิน เป้นแรงกระตุ้นชั้นยอด วิ่งไป ๆ ชักไม่หยุด อิสระ ไม่ใช่แรงกระตุ้นอีกต่อไป แรงกระตุ้นใช้เพียง 2 ส่วนเท่านั้น อีก 8 ส่วน ใช้ความอยากเอาชนะ แต่จะชนะได้ ต้องรู้จักอดทน
คำว่า อดทน มันมีความหมายอีกอย่างว่า ชนะ
ข้าพเจ้าวิ่ง วิ่งเพราะไม่อยากเป็นทาสเงินเดือนอีกต่อไป อิสระทางการเงิน เป้นแรงกระตุ้นชั้นยอด วิ่งไป ๆ ชักไม่หยุด อิสระ ไม่ใช่แรงกระตุ้นอีกต่อไป แรงกระตุ้นใช้เพียง 2 ส่วนเท่านั้น อีก 8 ส่วน ใช้ความอยากเอาชนะ แต่จะชนะได้ ต้องรู้จักอดทน
คำว่า อดทน มันมีความหมายอีกอย่างว่า ชนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 27
21. กระต่ายกับหมาป่า
ผมดูสารคดีช่อง PBS เห็นกระต่ายวิ่งหนีหมาป่า ดูแล้วต้องลุ้นให้มันหนีให้ได้ สุดท้ายมันหนีได้จริงๆ ครับ มันวิ่งหนีเพื่อชีวิต หมาป่าเลยไล่ไม่ทัน เพราะหมาป่าวิ่งเพื่ออาหารมื้อหนึ่งเท่านั้น
ผมดูสารคดีช่อง PBS เห็นกระต่ายวิ่งหนีหมาป่า ดูแล้วต้องลุ้นให้มันหนีให้ได้ สุดท้ายมันหนีได้จริงๆ ครับ มันวิ่งหนีเพื่อชีวิต หมาป่าเลยไล่ไม่ทัน เพราะหมาป่าวิ่งเพื่ออาหารมื้อหนึ่งเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 28
22. ประเภท ของ Value Investor ที่ชวนหัว
มีนักลงทุนท่านหนึ่งตั้งสัจพจน์หนึ่งว่า ..
ในกลุ่มนักลงทุนพวกเรา มีใครบ้างที่เป้นวีไอจริงๆ .คือ มีคนจำนวนน้อยที่สนใจและห่วงใยว่าตนเองเป็นนักลงทุนแนววีไอจริงๆ หรือปล่าว แต่มีน้อยกว่านั้นมากที่เป้น pure value investor (บริสุทธิ์) ไม่ใช่ elastic value investor (ประยุกต์)
การตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความคิดได้ว่า.. คนประเภทใดประเภทหนึ่ง บางครั้งก็เป็นและบางครั้งก้ไม่เป็นสมาชิกของประเภทของเขาเอง ตัวอย่างเช่น ช่างตัดผมชือพี่ประเสริฐในหมู่บ้านที่ผมอยู่นั้น เขาบอกผมว่า เป้นผู้ โกน หนวดผู้ชายทุกคนที่ ไมได้โกนหนวดด้วยตัวเอง. 1.0
แต่พี่เขาบอกว่า เขา โกน หนวดตัวเขาเองด้วย ถ้าพี่เสริฐโกนหนวดตัวเอง ก้แสดงว่าประโยค 1.0 นั้น พี่ประเสริฐ ไมได้โกนหนวดด้วยตนเอง แต่ถ้าพี่เสริฐไม่ได้ โกน หนวดตัวเอง ก็แสดงว่า เขา เป้นผู้ โกน หนวดตัวเอง
แม้พี่เสริฐจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถชนะเรื่อง ประเภทได้ ถ้าไม่ใส่คำว่า ยกเว้น เข้าไปในในประโยค 1.0
เรื่องนี้ ทำให้คิดต่อได้อีกว่า.
ประเภทอะไรก็ตาม ที่ไม่ใช่สมาชิกของมันเอง มันก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่ประเภทนั้นกำหนดให้ต้องมี ซึ่งก็คือมันต้องไม่เป้นสมาชิกในประเภทของมันเอง แต่ถ้ามันเป้นประเภทที่ไม่ใช่สมาชิกของมันเอง มันก็ต้องไม่มีคุณสมบัติตามที่ประเภทนั้นกำหนดให้มี และด้วยเหตุนี้ มันจึงต้องเป็นสมาชิกในประเภทของมันเอง นี่แหละ ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม ทางเลือกแต่ละทางจึงนำไปสู่สิ่งที่ตรงข้ามกับตัวมันเสมอ และทำให้เกิดข้อ ขัดแย้ง ขึ้น
มีนักลงทุนท่านหนึ่งตั้งสัจพจน์หนึ่งว่า ..
ในกลุ่มนักลงทุนพวกเรา มีใครบ้างที่เป้นวีไอจริงๆ .คือ มีคนจำนวนน้อยที่สนใจและห่วงใยว่าตนเองเป็นนักลงทุนแนววีไอจริงๆ หรือปล่าว แต่มีน้อยกว่านั้นมากที่เป้น pure value investor (บริสุทธิ์) ไม่ใช่ elastic value investor (ประยุกต์)
การตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความคิดได้ว่า.. คนประเภทใดประเภทหนึ่ง บางครั้งก็เป็นและบางครั้งก้ไม่เป็นสมาชิกของประเภทของเขาเอง ตัวอย่างเช่น ช่างตัดผมชือพี่ประเสริฐในหมู่บ้านที่ผมอยู่นั้น เขาบอกผมว่า เป้นผู้ โกน หนวดผู้ชายทุกคนที่ ไมได้โกนหนวดด้วยตัวเอง. 1.0
แต่พี่เขาบอกว่า เขา โกน หนวดตัวเขาเองด้วย ถ้าพี่เสริฐโกนหนวดตัวเอง ก้แสดงว่าประโยค 1.0 นั้น พี่ประเสริฐ ไมได้โกนหนวดด้วยตนเอง แต่ถ้าพี่เสริฐไม่ได้ โกน หนวดตัวเอง ก็แสดงว่า เขา เป้นผู้ โกน หนวดตัวเอง
แม้พี่เสริฐจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถชนะเรื่อง ประเภทได้ ถ้าไม่ใส่คำว่า ยกเว้น เข้าไปในในประโยค 1.0
เรื่องนี้ ทำให้คิดต่อได้อีกว่า.
ประเภทอะไรก็ตาม ที่ไม่ใช่สมาชิกของมันเอง มันก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่ประเภทนั้นกำหนดให้ต้องมี ซึ่งก็คือมันต้องไม่เป้นสมาชิกในประเภทของมันเอง แต่ถ้ามันเป้นประเภทที่ไม่ใช่สมาชิกของมันเอง มันก็ต้องไม่มีคุณสมบัติตามที่ประเภทนั้นกำหนดให้มี และด้วยเหตุนี้ มันจึงต้องเป็นสมาชิกในประเภทของมันเอง นี่แหละ ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม ทางเลือกแต่ละทางจึงนำไปสู่สิ่งที่ตรงข้ามกับตัวมันเสมอ และทำให้เกิดข้อ ขัดแย้ง ขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 29
23. บ่อยครั้ง.
เวลาที่ข้าพเจ้าเขียนไม่ออก ข้าพเจ้าจะหยุดเขียนทันที เพราะข้าพเจ้าจะปล่อยให้ความคิดที่เกิดจากจิตใต้สำนึกเข้ามามีส่วนสำคัญในงานเขียนเสมอ ได้ผ่านการทดสอบมาหลายครั้งจนสรุปได้ว่า
หลังจากที่พยายามอย่างไรก็ไร้ผล เกือบทุกครังที่ได้ผักผ่อน หรือ มีอะไรที่ทำให้ลืมสักพักแล้ว ช่วงเวลานี้จะตามมาด้วยความคิด หรือ แรงบันดาลใจที่ผุดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอธิบายได้ว่า เป็นผลจาดการตั้งใจให้ ตัวกลาง ไม่รู้ตัวและหลักฐานที่ออกมาก็น่าทึ่งเสมอ
เวลาที่ข้าพเจ้าเขียนไม่ออก ข้าพเจ้าจะหยุดเขียนทันที เพราะข้าพเจ้าจะปล่อยให้ความคิดที่เกิดจากจิตใต้สำนึกเข้ามามีส่วนสำคัญในงานเขียนเสมอ ได้ผ่านการทดสอบมาหลายครั้งจนสรุปได้ว่า
หลังจากที่พยายามอย่างไรก็ไร้ผล เกือบทุกครังที่ได้ผักผ่อน หรือ มีอะไรที่ทำให้ลืมสักพักแล้ว ช่วงเวลานี้จะตามมาด้วยความคิด หรือ แรงบันดาลใจที่ผุดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอธิบายได้ว่า เป็นผลจาดการตั้งใจให้ ตัวกลาง ไม่รู้ตัวและหลักฐานที่ออกมาก็น่าทึ่งเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Value Investing...ที่เรายังไม่รู้จัก
โพสต์ที่ 30
24. คนเราแต่ละคนนั้นมีเวลาเท่ากัน แต่กลับได้กำไรจากการใช้เวลาต่างกัน
เราต้องลุกขึ้นไปเคาะประตูเรียกความสำเร็จให้มาเปิดรับเรา ดีกว่านอนรอให้ความสำเร็จมาเคาะเรียก ซึ่งจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ความพากเพียรและการหมั่นหาความรู้ หาข้อมูลต่างๆ เกิดจากการปรับตัว ให้ห่างจากสมดุลปกติของชีวิต จากเดิมลงทุนเช้าชามเย็นชาม ไม่มีความกระตือรือร้น ผมเปลี่ยนมาลงทุนหามรุ่งหามค่ำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลย เพราะผมไม่เคยใช้สามัญสำนึกมาประกอบแผนการลงทุนให้เหมาะสม ไม่เคยจัดระบบและวิธีคิดของตัวเองให้รัดกุมนั่นเอง
^O-O^
เราต้องลุกขึ้นไปเคาะประตูเรียกความสำเร็จให้มาเปิดรับเรา ดีกว่านอนรอให้ความสำเร็จมาเคาะเรียก ซึ่งจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ความพากเพียรและการหมั่นหาความรู้ หาข้อมูลต่างๆ เกิดจากการปรับตัว ให้ห่างจากสมดุลปกติของชีวิต จากเดิมลงทุนเช้าชามเย็นชาม ไม่มีความกระตือรือร้น ผมเปลี่ยนมาลงทุนหามรุ่งหามค่ำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลย เพราะผมไม่เคยใช้สามัญสำนึกมาประกอบแผนการลงทุนให้เหมาะสม ไม่เคยจัดระบบและวิธีคิดของตัวเองให้รัดกุมนั่นเอง
^O-O^