ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 1
ลองมาคิดกันเล่นๆ คลายเครียดในบรรยากาศ ร้อนๆ ในปีร้อนๆแบบนี้ครับ
เคยติดตามตัวเอกในละครจีนกันบ้างไหมว่ามีใครบ้าง
และ ลักษณะนิสัยแบบไหน น่าจะ survive ได้
หรือ เป็นแบบผู้ชนะ ในตลาดหุ้นบ้างครับ
ลองวิจารณ์พร้อมเหตุผลนะครับ
เคยติดตามตัวเอกในละครจีนกันบ้างไหมว่ามีใครบ้าง
และ ลักษณะนิสัยแบบไหน น่าจะ survive ได้
หรือ เป็นแบบผู้ชนะ ในตลาดหุ้นบ้างครับ
ลองวิจารณ์พร้อมเหตุผลนะครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 2
ยังไง ผมจะค่อยๆ ทยอยใ่ส่ชื่อตัวละครเข้าไป
เผื่อคนไม่มี idea จะได้ มาแจม ...
ส่วนใครมีไอเดียส่วนตัวอะไร
ตั้งท่า และปล่อยวิชา ออกมาได้เลยคับ
เผื่อคนไม่มี idea จะได้ มาแจม ...
ส่วนใครมีไอเดียส่วนตัวอะไร
ตั้งท่า และปล่อยวิชา ออกมาได้เลยคับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 3
เล้งฮู้ชง จอมยุทธเจ้าสำราญ
คุณชายลิ้มเพ้งจื้อ ผู้เต็มไปด้วยเพลิงแค้น
(กระบี่เย้ยยุทธจักร)
จอมยุทธฮุ้นปวยเอี๊ยง เจ้าของเคล็ดวิชาไหมฟ้า
(กระบี่ไร้เทียมทาน)
ชอลิ่วเฮียง (^^) นึกภาพบุรุษหนุ่มผู้ทิ้งกลิ่นหอมกรุ่น
วิชาตัวเบาล้ำเลิศ และท่วงท่าโบกพัดสุดเท่
ก๊วยเจ๋งปัญญาทึบ แต่มีจิตใจดีงาม ขยันหมั่นเพียรและกตัญญู
และ
5ผู้เยี่ยมยุทธ มารบูรพา พิษประจิม ราชันย์ทักษิณ
เฒ่าทารก และยาจกอุดร
อึ้งเอี๊ยะซือ ฉายา'มารบูรพา' เชี่ยวชาญวิชาแพทย์และค่ายกล
อาวเอี๊ยงฮง ฉายา'พิษประจิม' เจ้าของพลังคางคก อันร้ายกาจ
'ราชันย์ทักษิณ' คือฉายาของต้วนตี่เฮง(หรือ ต้วนจื่อชิง)
ราชนิกูลแห่งต้าหลี่ เจ้าของวิชา"ดรรชนีย์สุริยัน"
ภายหลังออกบวช เปลี่ยนชื่อเป็นหลวงจีนอิดเต็ง
จิวแป๊ะทง ฉายา'เฒ่าทารก' อัจฉริยะปัญญานิ่มแห่งยุทธภพ
ถึงจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ถูกภรรยาของอึ้งเอี๊ยะซือหลอกให้
ทำลายคัมภีร์เก้าอิม(คัมภีร์นพเก้า)ไปครึ่งเล่มซะได้
'ยาจกอุดร' อั้งชิกกง ประมุขพรรคกระยาจก
เจ้าของ"18 ฝ่ามือพิชิตมังกร" อันเลื่องลือทั่วยุทธจักร
เมื่อบวกกับอานุภาพอันร้ายกาจของ ไม้เท้าตีสุนัข
อาวุธคู่กายแห่งประมุขพรรค ก็ยากจะหาผู้ใดเทียมทาน
คุณชายลิ้มเพ้งจื้อ ผู้เต็มไปด้วยเพลิงแค้น
(กระบี่เย้ยยุทธจักร)
จอมยุทธฮุ้นปวยเอี๊ยง เจ้าของเคล็ดวิชาไหมฟ้า
(กระบี่ไร้เทียมทาน)
ชอลิ่วเฮียง (^^) นึกภาพบุรุษหนุ่มผู้ทิ้งกลิ่นหอมกรุ่น
วิชาตัวเบาล้ำเลิศ และท่วงท่าโบกพัดสุดเท่
ก๊วยเจ๋งปัญญาทึบ แต่มีจิตใจดีงาม ขยันหมั่นเพียรและกตัญญู
และ
5ผู้เยี่ยมยุทธ มารบูรพา พิษประจิม ราชันย์ทักษิณ
เฒ่าทารก และยาจกอุดร
อึ้งเอี๊ยะซือ ฉายา'มารบูรพา' เชี่ยวชาญวิชาแพทย์และค่ายกล
อาวเอี๊ยงฮง ฉายา'พิษประจิม' เจ้าของพลังคางคก อันร้ายกาจ
'ราชันย์ทักษิณ' คือฉายาของต้วนตี่เฮง(หรือ ต้วนจื่อชิง)
ราชนิกูลแห่งต้าหลี่ เจ้าของวิชา"ดรรชนีย์สุริยัน"
ภายหลังออกบวช เปลี่ยนชื่อเป็นหลวงจีนอิดเต็ง
จิวแป๊ะทง ฉายา'เฒ่าทารก' อัจฉริยะปัญญานิ่มแห่งยุทธภพ
ถึงจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ถูกภรรยาของอึ้งเอี๊ยะซือหลอกให้
ทำลายคัมภีร์เก้าอิม(คัมภีร์นพเก้า)ไปครึ่งเล่มซะได้
'ยาจกอุดร' อั้งชิกกง ประมุขพรรคกระยาจก
เจ้าของ"18 ฝ่ามือพิชิตมังกร" อันเลื่องลือทั่วยุทธจักร
เมื่อบวกกับอานุภาพอันร้ายกาจของ ไม้เท้าตีสุนัข
อาวุธคู่กายแห่งประมุขพรรค ก็ยากจะหาผู้ใดเทียมทาน
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 4
ส่วนนี้ มาจาก สามก๊ก ครับ
สุมาเจียว เป็นบุตรคนที่สองของสุมาอี้ มีฉายาว่าจื่อส้าง เป็นคนใจเหี้ยม ฉลาดแกมโกง มีความทะเยอทะยานอยู่เป็นนิจ เมื่อสุมาอี้ตายแล้ว พระเจ้าโจฮองตั้งให้เป็นเพียวฉีส้างเจียงจวิน ( สามก๊กไทยเรียกว่า เตียวกี๋เซียงจงกุ๋น สามก๊กอังกฤษแปลว่า นายพลทหารม้า ) เมื่อสุมาสู พี่ชายสิ้นชีพ สุมาเจียวอยู่ที่เมืองฮูโต๋ เกรงว่าพระเจ้าโจมอจะตั้งคนอื่นขึ้นควบคุมประเทศ จึงเคลื่อนทัพไปตั้งใกล้ลกเอี๋ยง พระเจ้าโจมอกลัวสุมาเจียวจะโค่นราชบัลลังก์ จึงมอบอำอาจในการบริหารราชการแผ่นดินให้สุมาเจียว และพระราชทานยศเป็นต้าเจียงจวิน ( คำนี้ สามก๊กอังกฤษแปลว่า Generalissimo คือ จอมพล ) พอได้อำนาจในแผ่นดิน สุมาเจียวก็คิดแย่งราชสมบัติพระเจ้าโจมอ แต่ถูกจูกัดเอี๋ยนผู้บัญชาการทหารที่ห้วยหลำขัดขวาง เกิดการรบกันขึ้น จูกัดเอี๋ยมถูกฆ่าตาย พระเจ้าโจมอคิดสู้สุมาเจียว สุมาเจียวจึงให้พรรคพวกฆ่าพระเจ้าโจมอเสีย แล้วยกโจฮวนหลานโจโฉขึ้นเสวยราชย์สืบไป หลังจากนั้น สุมาเจียวไปอำนวยการรบกับจกก๊ก จับตัวพระเจ้าเล่าเสี้ยนมาเป็นเชลยได้ จึงรวมราชอาณาจักรจกก๊กเข้าไว้ราชอาณาจักรวุยก๊ก แล้วคิดจะแย่งราชสมบัติจากพระเจ้าโจฮวน จึงตั้งตัวเป็นจีนอ๋อง ( คำนี้สามก๊กอังกฤษแปลว่า Prince of Chih ) แต่แล้วก็เป็นลมตายด้วยวัณโรค เมื่อสุมาเอี๋ยน บุตรชายแย่งราชสมบัติจากพระเจ้าโจฮวน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์แล้ว ได้สถาปนาสุมาเจียวขึ้นเป็น อุ๋นตี้ ( จักรพรรดิ )
สุมาเต็กโช แซ่สุมาชื่อฮุย แต่คนนิยมเรียกฉายาว่า เต๊อะเชา สามก๊กไทยจึงเรียกว่า สุมาเต๊กโช เป็นชาวอิ๋งโจว มณฑลอันฮุย เป็นปราชญ์ใหญ่ ไม่ชอบทำราชการ จึงเก็บตัวอยู่กับบ้าน เล่าปี่ไปพบโดยบังเอิญ ขณะหนีชัวมอข้ามแม่น้ำตันเขมา สุมาเต็กโชแนะนำว่า “อันฮกหลงกับฮองซูสองคนนี้ ได้มาเป็นที่ปรึกษาด้วยแต่ผู้ใดผู้หนึ่ง ก็อาจสามารถจะคิดอ่านปราบปรามศัตรูแผ่นดินให้สงบได้” แต่มิได้บอกว่าฮกหลงกับฮองซูนั้นเป็นใคร” เมื่อเล่ปี่ทราบจากชีซีว่า ฮกหลกคือขงเบ้ง และเตียมตัวจะไปหา สุมาเต็กโชมาเยี่ยม ทราบข่าวก็แหงนหน้าขึ้นหัวเราะ แล้วว่า ฮกหลงจะได้นายบัดนี้ ก็สมควรอยู่แล้วแต่เราคิดเสียดาย ด้วยเป็นคนอาภัพหาบุญมิได้ แล้วก็รีบกลับไปที่อยู่
สุมาอี้ เป็นชาวอำเภออุน เมืองเหอเน่ย ( โห้ลาย ) มณฑลเหอหนาน มีฉายาว่า ชงต๋า มีบุคคิกลักษณแปลกกว่าคนธรรมดา แววตาคมราวเหยี่ยว ท่าทางราวสุนัขจิ้งจอก เป็นคนฉลาดเฉียบแหลม ชำนาญพิชัยสงคราม เป็นคู่ปรับที่ร้ายแรงที่สุดของขงเบ้ง ทำให้ขงเบ้งไม่อาจเข้ายึดวุยก๊กได้ ทั้งๆที่ได้ใช้ความพยายามอย่างแสนสาหัส บางครั้งก็เกือบจะถูกสุมาอี้จับตัวได้ มีบุตรสองคน คือสุมาสูกับสุมาเจียว ตำแหน่งสุดท้ายของสุมาอี้ คือเซงเสี่ยง ( ฉบับอังกฤษแปลว่า Prime Minister คือ สมุหนายก ) กับได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้ง 9 ซึ่งเรียกว่า จิ่วซิ ( สามก๊กภาษาอังกฤษแปลว่า Nine Gifts ) สุมาอี้สิ้นชีพที่เมืองลกเอี๋ยง หลานชายแย่งราชบัลลังก์ได้จากพระเจ้าโจฮวน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์แล้ว ได้สถาปนาสุมาอี้ขึ้นเป็นเซวียนตี้ ( จักรพรรดิ )
เล่าปี่ เป็นเชื้อพระวงค์ฮั่น สืบสกุลจากเล่าเส็ง( หลิวเสิ้ง ) ผู้เป็นอ๋องครองเมืองจงซาน บิดาชื่อเล่าเหง ( หลิวเจิ้ง ) มีบรรดาศักดิ์เป็นโหว ( พระยา ) ครองเมืองตุ้นกวน ( จวอเสี้ยน ) มณฑลเหอเป่ย ขาดส่งเครื่องราชบรรณาการเซ่นบรรพบุรุษ จึงถูกปลดออกทางราชการ (เครื่องราชบรรณาการที่กล่าวนั้นเรียกว่า จ้อโฉว เป็นเงินที่ขุนนางต้องหามาถวายกษัตริย์เป็นประจำปี ตามความสำคัญของตำแหน่ง ถ้าหามาถวายไม่ได้ ก็ถูกปลดฐานหย่อนความสามารถ ) เมื่อบิดาสิ้นชีพแล้ว เล่าปี่อยู่กับมารดาที่หมู่บ้านเล่าซองฉุน ( โหวงซางชุน ) เมืองตุ้นกวน ทอเสื่อและสานรองเท้าขายเลี้ยงชีวิต สูง 8 ฟุต หูยาน มือยาวเลยเข่า ตาชำเลืองเห็นถึงหู หน้าขาวราวหยก ริมฝีปากแดงดั่งทาชาด ใจคอกว้างขวาง สุภาพเรียบร้อย เยือกเย็น มีความกตัญญู พูดน้อย ยิ้มน้อย ดีใจหรือเสียใจไม่แสดงออกให้ปรากฏ มีชื่อรองว่า เสียนเต๋อะ แปลว่า ผู้มีคุณธรรมอันประเสริฐ ชำนาญในการใช้กระบี่ เหน็บกระบี่คู่ติดตัวเสมอ สาบานเป็นพี่น้องกับกวนอูและเตียวหุย พยายามสร้างตัวขึ้นจนกระทั้งได้ครองแคว้นจกก๊ก ( เสฉวน ) เมื่อโจผีล้มราชวงค์หั้น ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ เล่าปี่ก็ตั้งตัวเป็นกษัติรย์ราชวงศ์ฮั่นสืบต่อไป ทางประวัติศาสตร์เรียกพระนามว่า เซียนจู่ ( สามก๊กไทยเรียก เจี๋ยงบู๊ ) ต่อมาได้ยกทัพไปปราบง่อก็กแก้แค้นแทนกวนอู แต่พ่ายแพ้ยับเยิน ประชวนสิ้นพระชนม์ที่เมืองเป็กเต้เสีย ( ไป๋ตี้เฉิง ) มณฑลเสฉวน พระศพฝังไว้ที่เมืองฮุ้ยหลิง ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าเล่ย์หวงตี้ ( จักรพรรดิ )
ลิโป้ เป็นชาวเมืองอู่เหยียนจิ่วเหยียน ( ปัจจุบันคืออำเภออู่เหยียน มณฑลซานสี ) มีชื่อรองว่า เฟิงเซียน รูปร่างสง่าผ่าเผย มีกำลังบ่ายิงเกาทัณฑ์ และช่ำชองการขี่ม้ายิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่เป็นคนสับปลับ มักมากในสุรานารี ถือเอาแต่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง เตียวหุยผู้เป็นปฏิบักษ์ประณานว่า ลิโป้เป็นลูกสามพ่อ เพราะมีพ่อที่ให้กำเนิด ต่อมาเข้ารับราชการเป็นทหารองครักษ์ของเต๊งหงวน ผู้ครองแคว้นเกงจิ๋วก่อน ประจบเรียกเต๊งหงวนว่าพ่อ พอตั๋งโต๊ะติดสินบนก็ทรยศ ตัดศีรษะเต๊งหงวนไปให้ตั๋งโต๊ะ แล้วฝากตัวอยู่กับตั๋งโต๊ะ เรียกตั๋งโต๊ะว่าพ่ออีก ไม่ช้าก็ฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย แยกเอานางเตียวเสี้ยนมาเป็นเมียตามอุบายของอ้องอุ้นหลังจากนั้นได้รับพระราชทานยศเป็นเฟิ้นอุยเจียงจวิน ( นายพล ) และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นอุนโหว ( พระยา ) เป็นบำเหน็จความชอบที่ได้ฟื้นอำนาจของกษัตริย์ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ ครั้นลิฉุย กุยกีนายทหารของตั๋งโต๊ะแย่งอำนาจในเมืองหลวงได้อีกโดยฆ่าอ้องอุ้นเสีย ลิโป้หนีไปพึ่งอ้วนสุด อ้วนเสี้ยว แต่ถูกตระเพิด จึงไปพึ่งเตียวเอี๋ยน เจ้าเมืองเซียงต๋ง แล้วดำเนินการแผ่อำนาจต่อไป โจโฉกับอ้วนเสี้ยวร่วมกันปราบ ลิโป้ต้องไปขอพึ่งเล่าปี่อยู่ที่ซีจิ๋ว มิช้ามินานก็ทรยศต่อเล่าปี่ ยึดอำนาจในชีจิ๋วไว้เสียเอง ในที่สุดโจโฉจับตัวได้ที่เมืองแห้ฝือ ( เสี้ยเผย ) มณฑลเจียงซู จึงเอาไปแขวนคอแล้วตัดศรีษะเสียบประจานไว
ม้าเฉียว เป็นบุตรม้าเท้ง เกิดที่เม้าหลิง ในเขตอิ้วฝุฟง ในเขตอิ้วฝุฟง มณฑลส่านซี มีชื่อรองว่า เหมิ่งฉี่ มารดาเป็นสาวชาวเจี๋ยง มีผู้เปรียบลักษณะของม้าเฉียวว่า หน้าเหมือนหยก ตาคล้ายดาวตก รูปร่างเหมือนเสือ แขนคล้ายขาหน้าของวานร ท้องคล้ายท้องเสือดาว สะเอวคล้ายหมาจิ้งจอก นิสัย ชอบยกตนข่มท่าน ฝีมือการรบสูง มีความแกล้วกล้าสามารถ แต่มักจะสะเพร่า เริ่มออกศึกครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เพื่อปราบลิฉุย กุยกี ฆ่าอองหองตายและจับลิบองได้ ครั้นม้าเท้ง บิดาถูกโจโฉฆ่าตาย ม้าเฉียวก็กลายเป็นศัตรูของโจโฉ ในการรบที่หน้าด่านตงก๋วน ( ถงกวน ) ในมณฑลสานซี ม้าเฉียวเกือบสังหารโจโฉได้ โจโฉถึงต้องตัดหนวดเพื่อมิให้จำได้ ภายหลังม้าเฉียวยกทัพตีแว่นแคว้นตอนเหนือในเขตปกครองของโจโฉได้ถึงกิจิ๋ว จึงถูกตีถอยกลับมา เลยเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับเตียวฬ่อ เจ้าเมืองฮันต๋งแต่แล้วไม่ช้าเกิดผิดใจกัน จึงมาเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับเล่าปี่ ทำให้กำลังของเล่าปี่เข้มแข็งขึ้นเป็นอันมาก สามารถเข้ายึดแคว้นเสฉวน ตั้งเป็นจกก๊กขึ้นได้ หลังจากนั้นม้าเฉียวได้รับยกย่องให้เป็นยอดทหารเสือ พร้อมกับ เตียวหุย จูล่ง อุยเอี้ยน และฮองตง พอกวนอูทราบข่าวก็อิจฉา ขอประลองผีมือด้วย แต่เล่าปี่ห้ามเสีย ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 47 ปี ศพฝังไว้ที่เมืองไกเอี๋ยง ( เหมี่ยนหยัง ) มณฑลส่านซี และได้เลื่อนฐานนันดรศักดิ์เป็น อุยโหว ( พระยา )
เตียวเสี้ยน คำว่า “เสียน” ( ฉาน ) แปลว่า จักจั่น ฉบับภาษาอังกฤษแปลว่า Sable Cicada เป็นลูกเลี้ยงของอ้องอุ้น อ้องอุ้นต้องการกู้พระราชอำนาจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ให้พ้นจากการครอบงำของตั๋งโต๊ะ จึงใช้เตียวเสี้ยวเป็นนกต่อล่อให้ตั๋งโต๊ะกับลิโป้ทหารเอกแตกคอกัน เป็นผลให้ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย แล้วชิงเตียวเสี้ยนไปเป็นภรรยาน้อย ในพระราชพงศาวดารจีน มิได้กล่าวถึงหญิงผู้นี้ไว้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นประกอบภายหลัง
เตียวหุย เป็นชาวเมืองตุ้นกวน ( จวอเสี้ยน ) มณฑลเหอเป่ย มีช่อรองว่า จี้เต๋อ ( สามก๊กไทยเรียก เอ๊กเต๊ก ) ร่างสูง 8 ฟุต ศรีษะคล้ายเสือดาว ตากลมใหญ่ คางนกนางแอ่น หนวดเสื่อโคร่ง เสียงดังฟ้าลั่น มีกำลังวังชาราวม้าห้อตะบึง จิใจรุนแรงราวไฟ มีศีลสัตย์หนักแน่นราวภูเขา เคารพผู้มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้ยาก มีอาชีพขายสุราและฆ่าหมูขาย ถือทวนยาว 10 ฟุตเศษเป็นอาวุธ สาบานเป็นพี่น้องกับเล่าปี่ และกวนอู แล้วออกศึกร่วมกัน เพื่อสร้างตัวสร้างชาติ เริ่มแต่ปราบพวกโจนโพกผ้าเหลือง จนในที่สุดสามารถตั้งตัวขึ้นได้ที่แคว้นเสฉวน และเตียวหุยได้กินเมืองลองจิ๋ว ( ปาซี ) ครั้นกวนอูถูกซุนกวนฆ่าตาย พระเจ้าเล่าปี่โกรธ ยกทัพไปรกซุนกวน เตียวหุยยกตามไปด้วย เตียวหุยเร่งรัดทหารเกินไป ตกกลางคือ ฮอมเกียงกับเตียวตัดนายทหารในบังคับบัญชา เห็นเตียวหุยเมาเหล้าหลับอยู่ก็เข้าไปแทนตาย แล้วตัดศีรษะนำไปสวามิภักดิ์ต่อซุนกวน เตียวหุยตายเมืออายุ 50 ปี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หวนโหว ( พระยา )
ตั๋งโต๊ะ เป็นชาวอำเภอหลินเถา เมืองหลงซี ( หลงเส ) มณฑลกานซุ มีชื่อรองว่า จ้งอิ่ง รู้ร่างล่ำสันใหญ่โต มีกำลังบ่าเหนือคนอื่น ชำนาญการขี่ม้ายิงเกาทัณฑ์ ใจคอเหี้ยมเกรียม มักมากในกามารมณ์ บิดาเป็นนายอำเภอหลินเถา เมื่อเกิดการกำเริบของโจรโพกผ้าเหลือง ตั้งโต๊ะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการปราบปราม แต่ทำการไม่สำเร็จ ต้องติดสินบนขันทีทั้ง 10 จึงรอดจากพระราชอาญา ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารประจำดินแดนภาคตะวันตก ณ เมืองซีหลง ( คือหลงซี ) ต่อมาโฮจิ๋นพี่นางโฮเฮา เรียกเข้ามาช่วยระงับความวุ่นวายในราชธานีลกเอี๋ยง ตั๋งโต๊ะเลยยึดอำนาจในเมืองหลวง ถอดหองจูเปียนออกจากราชบัลลังก์ ตั้งหองจูเหียบเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ภายหลังเลยหาเหตุฆ่าหองจูเปียนกันโฮเฮา ราชมารดาเสียเลย แล้วแต่งตั้งตัวเป็นเซียงก๊ก ( สมุหนายก ) ครองอำนาจเหนือพระเจ้าเหี้ยนเต้ อ้วนเสี้ยวกับโจโฉและหัวเมืองต่างๆจึงยกทัพมาปราบ ตั๋งโต๊ะสู้ไม่ได้เผาเมืองลกเอี๋ยงเสีย แล้วย้ายราชธานีไปตั้งที่เมืองเตียงฮัน มณฑลส่านซี อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ซึ่งภักดีกษัตริย์จึงวางอุบาย ส่งเตียวเสี้ยนสาวสวยเป็นนกต่อเข้าไปยุให้ตั๋งโต๊ะแตกคอกับลิโป้ทหารเอก ลิโป้จึงฆ่าตั๋งโต๊ะตาย เอาศพตระเวนรอบเมือง แล้วเอาประจานไว้ที่ทางสามแพร่ง ฟันชุดใส่สะดือ เอาไฟจุดตามต่างตะเกียง ภายหลังมีผู้ภักดีเอาศพไปฝังที่เมืองเม่ยอู่ แต่ก็ถูกฟ้าผ่า พายุพัดฝนตกหนัก ทำลายกระดูกหมดสิ้นไป
ชีซี เป็นชาวเมืองอิ่งชวน มณฑลเหอหนาน มีฉายาว่า เหวียนจื๋อ เป็นปราชญ์ใหญ่ รักความเป็นธรรม มีความซื่อสัตย์กตัญญู เมื่อเล็กชอบฟันดาบและปราบคนชั่ว ครั้งหนึ่งฆ่าคนตายจึงหลบหนีซ่อนตัว เมื่อถูกเจ้าพนักงานจับตัวได้ ไม่มีชาวบ้านยอมเป็นพยานให้เจ้าพนักงาน ไม่ช้าก็หลบหนีไปได้ จึงเปลื่ยนชื่อเป็น ตันฮก แล้วศึกษาวิชาอยู่กับสุมาเต็กโช และสมัครเข้ารับราชการอยู่กับเล่าปี่ที่เมืองซินเอี๋ย ในมณฑลเหอหนาน ได้ช่วยเล่าปี่ตีทัพโจโฉในบังคัญบัญชาของโจหยินแตกกลับไป ฆ่าลิกองกับลิเซียง นายทหารเอกของโจโฉเสียได้ โจโฉจึงอยากได้ตัวไว้เป็นที่ปรึกษา ก็ให้รับตัวมารดาชีซีมาไว้ในเมืองฮูโต๋ แล้วให้เ้ทียหยกปลอมจดหมายของมารดา เรียกตัวชีซีเข้ามา ก่อนซีซีจะจากเล่าปี่ ได้ให้สัตย์สาบานว่า จะไม่คิดกลอุบายใดๆ ให้โจโฉทำร้ายเล่าปี แล้วแนะนำให้เล่าปีให้ไปเชิญตัวขงเบ้งที่เขาโงลังกั๋งมาเป็นที่ปรึกษา ครั้งโจโฉยกทัพใหญ่ลงมาขับไล่เล่าปี่ที่ซินเอี๋ยแตกหนีลงไปถึงเมืองอ้วนเสีย ได้ให้ชีซีไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ให้ยอมจำนนแต่โดยดี ชีซีกลับไปบอกเล่าปีให้ระวังตัวเพราะโจโฉจะทำร้าย เล่าปี่จึงไม่ยอมจำนน ถอยหนีต่อไปอีก และเข้าร่วมกับซุนกวนต่อต้านโจโฉ ขณะที่เล่าปี่ซุนกวน เตรียมเข้าทลายกองทัพเรือโจโฉที่เซ็กเพ็ก ( ชี้อปี้ ) ชีซีรู้ทีก็ไม่บอกอันตรายแก่โจโฉ กลับออกอุบายขอนำกำลังกลับไปรักษาเมืองฮูโต๋เสีย โจโฉจึงแตกทัพยับเยิน เล่าปี่ก็ตั้งตัวได้ที่แคว้นเกงจิ๋ว
ซุนกวน เป็นน้องชายของซุนเซ็ก เกิดจากนางง่อฮูหยิน มารดาเดียวกัน มีชื่อรองว่า จงโหมว คางสี่เหลี่ยม ปากใหญ่ ตาสีเขียว หนวดสีน้ำตาล สติปัญญาดี จิตใจดี รักความเป็นธรรม มีความรู้กว้างขวางทั้งวิชาทหารและการปกครอง ได้ครองอำนาจในแว่นแคว้นกังตั๋งสืบต่อจากซุนเซ็กพี่ชาย ได้ร่วมกับเล่าปี ขงเบ้ง โจมตีทัพเรือโจโฉแตกที่เซ็กเพ็ก ( ชื้อปี้ ) ซึ่งเป็นประวัติการณ์ที่สำคัญยิ่งและทำให้แคว้นกังตั๋งเข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้นเป็นอันมาก ภายหลังพระเจ้าโจผีทรงแต่งตั้งเป็นเงาอ๋อง เพื่อกีดกันมิให้กังตั๋งร่่วมเป็นพันธมิตรกับเล่าปี ซุนกวนดำรงตำแหน่งเป็นเงาอ๋องอยู่ 7 ปี จึงตั้งตัวเป็นกษัตริย์ ณ เมืองเกี๋ยนเงียบ ( นานกิง ) เมื่อปี พ.ศ. 772 ( ค.ศ. 229 ) ครองราชย์สมบัติอยู่ 24 ปี จึงสิ้นพระชนม์ เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น ต้าหวงตี้ ( มหาจักรพรรดิ )
โจโฉ เป็นชาวตำบลเจี้ยวจวิ้น เมืองเพ่ยโก้วะ ( ตำบลเจียวก๋วน เมืองไพก็ก ) มณฑลเจียงซู มีชื่อรองว่า เหมิ่งเต๋อ เดิมแซ่แฮหัว ( เสี้ยโหว ) แต่เนื่องจากโจโก๋ผู้บิดา เป็นลูกเลี้ยงของเฉาเถิง ขุนนางตำแหน่งจงฉางซื้อ จึงเปลี่ยนแซ่เป็นเฉา ( โจ ) ด้วย สูง 7 ฟุต คิ้วเล็ก หนวดยาว มีไหวพริบดีเลิศ ชอบสุรานารี ชำนาญในพิชัยสงคราม มีสติปัญญสูงกว่าคนธรรมดา มีความรู้ทางอักษรศาสตร์ เคยแต่งตำราพิชัยสงครางเล่มหนึ่งชื่อว่า เหมิ่งเต๋อชินชู แต่ถูกสบประมาทจากเตียงสงว่า ลอกขี้ปากคนโบราณมาก็สั่งให้ทำลายตำรานั้นเสีย ในสามก๊กไทย โจโฉดำรงตำแหน่งมหาอุปราช ในสามก๊กจีน โจโฉดำรงตำแหน่ง ไจเสี่ยง ซึ่งสามก๊กอังกฤษแปลว่า สมุหนายก ( Prime Minister ) สามารถควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้ไว้ในอำอาจอย่างเด็ดขาด พระเจ้าเหี้ยนเต้พยายามกู้พระราชอำนาจ 2 ครั้ง ก็ถูกโจโฉจับได้ทุกที และลงโทษผู้ร่วมคบคิดอย่างรุนแรงที่สุด ถึงกับจับพระมเหสีไปฆ่า และยกลูกสาวของตนให้เป็นพระมเหสีแทน เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน สามารถปราบเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆได้เกือบหมด เหลือเพี่ยงง่อก๊กของซุนกวน กับจกก๊กของเล่าปี่เท่านั้น ทำทีจะตั้วตัวขึ้นมาเป็นกษัตริย์ จึงสถาปนาตัวขึ้นเป็น จิ้นอุ้ยอ๋อง ( วุยอ๋อง ) ประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยยศทั้ง 9 เป็นโรคเส้นประสาทอย่างแรง ปวดศรีษะจนกระทั้งตาย เป็นการตายอย่างทรมานที่สุด สิ้นชีพที่เมืองลกเอี๋ยงอายุ 66 ปี ศพฝังที่เกาหลิง มณฑลส่านซี เมื่อโจผีผู้บุตร แย่งราชสมบัติได้จากพระเจ้าเหี้ยนเต้ ตั้งตัวเป็นพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ ได้สถาปนาโจโฉผู้ตายขึ้นเป็น อู่หวงตี้ ( จักรพรรดิ ) ปฐมบรมกษัตริย์ราชวงค์วุย ภรรยาเดิมแซ่ติ้ง ไม่มีบุตรต่อกัน ภรรยาคนที่สอง ชื่อเล่าซี มีบุตรชายคนนึงชื่อโจงั่ง ตายในการรบเมืองอ้วนเซีย ภรรยาคนที่สามชื่อเปียนซี มีบุตรชาย 4 คนชื่อ โจผี โจเจียง โจสิด และโจหิม นางเปียนซีเป็นที่รักของโจโฉมาก และได้เลื่อนที่ขึ้นเป็นภรรยาหลวง
จูกัดเหลียง เป็นชาวตำบลหยังตู เมืองหลังเอ๋ย์มณฑลซานตุง มีชื่อรองว่า ข่งหมิง ( ขงเบ้ง ) เป็นผู้สืบสกุลจากจูเก๋อฟง ผู้มียศเป็นซือลี้เจี้ยวอุ้ย ในราชวงค์หั้น สูง 8 ฟุต หน้าขาวนวลเหมือนหยกน้ำหนึ่ง โพกผ้ามีไหมห้อยระย้า ถือพัดขนนกเป็นนิจ เป็นผู้รักความยุติธรรม ซื่อตรง เปิดเผย รักความสงบ และความสันโดษ มีความรู้ความสามารถอย่างยอดเยี่ยม ชำนาญในพิชัยสงครามราวเทวดา เบื่อความวุ่นวายในประเทศ จึงหลบไปทำไร่ไถนาอยู่ที่เมืองหนานหยัง ( ลำหยง ) ณ เขาโงลังกั๋ง ชาวบ้านขนานนามว่า อาจารย์ฮกหลง ( มักกรซ่อนกาย ) เล่าปี่รู้ข่าวจากซีซี อุตส่าห์ไปหาถึงสามครั้งสามหน ขอเชิญตัวมาช่วยกู้แผ่นดิน จึงยอมลงมาช่วยเล่าปี่ ดำรงตำแหน่งไจเสี่ยง ( สมุหนายก ) ของพระเจ้าเล่าปี่ และพระเจ้าเล่าเสี้ยนแห่งจกก๊ก คำพูด คำสอน หนังสือ และคำกราบบังคมทูลมีจำนวนมากมาย มีผู้รวบรวมเป็นชุด จำนวน 24 เล่ม ออกศึก ณ บริเวณเขากิสาน ( ฉีซาน ) ถึง 6 ครั้ง เพื่อปราบวุยก๊ก แต่มีอุปสรรค ถึงแก่กรรมในสนามรบ ที่อู้จ้าง ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม่ยอู่ มณฑลส่านซี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น อู่เซียงโหว ( พระยา ) ตายแล้วได้เลื่อนเป็น จงอูโหว
จูล่ง เป็นชาวตำบลเจิงติ้ง เมืองฉางซัน ( เสียงสัน ) มณฑลเหอเป่ย มีชื่อรองว่า จื่อหลง ( จูล่ง ) สูง 8 ฟุต คิ้วดง ตาโต หน้าผากกว้างโหนก เป็นคนซื่อ สุภาพเรียบร้อย กล้าหาญอย่างน่าอัศจรรย์ ชำนาญในการใช้ทวนเป็นอาวุธ เดิมอยู่กับอ้วนเสี้ยว เห็นอ้วนเสี้ยวไม่มีสัตย์ จึงไปอยู่กับกองซุนจ้าน แล้วชอบพอรักใคร่เล่าปี่ผู้เป็นมิตรของกองซุนจ้าน ครั้งกองซุนจ้านถูกอ้วนเสี้ยวฆ่าตาย จูล่งจึงไปอยู่กับเล่าปี่ ทำการรบมีความชอบมากมาย การรบที่ทำให้จูล่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือ การรบที่เตียงปั่นเกี้ยว ( ฉางปั่นเฉียว ) นอกเมืองตงหยง ( ตังหยัง ) มณฑลหูเป่ย ซึ่งจูล่งแสดงความกล้าหาญ พาอาเต๊า บุตรเล่าปี่แหวกวงล้อมของโจโฉหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เป็นผู้ตีเมืองฮุยเอี๋ยน ( กุ้ยหยัง ) มณฑลหูหนาน ได้ด้วยกำลังทหารสามพัน เตียวหอมเจ้าเมืองจะยกนางฮวนซี พี่สะใภ้ให้เป็นภรรยาก็ไม่รับ อ้างว่าเล่าปี่ยังตั้งตัวไม่ได้ จึงไม่ขอมีภรรยา เป็นผู้ชิงตัวอาเต๊าจากนางซุนฮูหยินคืนมาได้ ขณะที่นางซุนฮูหยินถูกซุนกวนลวงให้กลับกังตั๋ง อ้างว่ามารดาเจ็บหนัก เป็นกำลังสำคัญของขงเบ้งในการปราบเบ้งเฮก เบ้งฮิว ในมณฑลยูนาน พระเจ้าเล่าปี่ตั้งให้เป็น 1 ใน 5 ทหารเสือ เมื่อตาย ขงเบ้งร้องไห้จนสลบ บอกว่าแขนซ้ายพระเจ้าเล่าเสี้ยนขาดแล้ว ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ซุ้นผิงโหว ( พระยา )
จิวยี่ เป็นชาวเมืองอำเภอซู เมืองหลูเจียง ( โลกั๋ง ) มณฑลอันฮุย มีชื่อรองว่า กงจิน รูปร่างสง่างาม จิตใจกว้างขวาง มีความรู้ความสามารถทางทหาร ชำนาญการดนตรี และติดจะเจ้าชู้ ภรรยาชื่อเสียวเกี้ยว เป็นบุตรคนที่สองของเฉียวกง ชอบพอกับซุนเซ็ก เรียกซุนเซ็กว่าพี่ ร่วมมือกันสร้างอำนาจในกังตั๋งเป็นผลสำเร็จจึงได้เป็นเจี้ยนอุยจงหลังเจี้ยง ( นายทหารรององครักษ์ ) บัญชาการทหารอยู่ที่ด่านปาขิว ในมณฑลเจียงสี เมื่อซุนเซ็กตายแล้ว ได้ร่วมมือกับซุนกวนสร้างอำนาจต่อไป จนสามารถตีทัพเรือโจโฉที่เซ็กเพ็ก ( ชื้อปี้ ) ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่ง ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 36 ปี ที่ด่านปาขิว ความในหนังสือสามก๊กว่า ขงเบ้งลวงจิวยี่ให้โกรธแค้นอย่างถึงขนาดถึง 3 ครั้งและตายด้วยความแค้นนั้น “จิวยี่คิดแค้นในใจนัก จึงแหงนหน้าขึ้นดูฟ้าแล้วร้องว่า เทพยดาองค์ใดหนอซึ่งให้เราเกิดมา แล้วเหตุใดจึงให้ขงเบ้งเกิดมาด้วยเล่า” แต่เรื่องเหล่านี้ไม่มีปรากฏในพระราชพงศาวดารจีน เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพิ่มเติม
กวนอู เป็นชาวตำบลเจ่ย์เหลียง ( ไก่เหลียง ) เมืองเหอตง ( ฮอตั๋ง ) มีชื่อรองว่า หวินฉาง ( หุนเตี๋ยง ) สูง 9 ฟุต หนวดยาว 2 ฟุต ใบหน้าเหมือนผลพุทรา ริมฝีปากแดงเหมือนทาชาด ตาดั่งนกหงส์ คิ้วดั่งตัวหนอนไหม เป็นคนไว้ตัวต่อคนที่สูงศักดิ์ แต่ถ่อมตัวต่อคนที่ต่ำศักดิ์ สู้กับคนที่เก่งกว่า ไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า รู้คุณคน เจ็บแล้วจำจนตาย มีศีลมีสัตย์ รู้การทหาร ชำนาญในการใช้ง่าวเป็นอาวุธ ชอบอ่านประวัติศาสตร์ชุนชิว ( คือประวัติศาสตร์ตอนราชวงค์โจววุ่นวายแตกแยกกันภายใน ) เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเล่าปี่ เตียวหุย ช่วยกันตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ไม่ทอดทิ้งกัน มีชื่อเสียงมากตอนหักด่านทั้ง 5 หนีโจโฉ และฆ่าทหารเอกของโจโฉเสีย 6 คน คือ ขงสิ้ว เบงทัน ฮันฮก เปี๋ยนฮี ออกเซ็ก จินกี๋ เป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของขงเบ้ง ได้เป็นผู้ครองแคว้นเกงจิ๋ว ภายหลังถูกอุบายของลิบอง แม่ทัพง่อก๊ก ยึดเกงจิ๋วไป และถูกจับตัวได้ที่ช่องเขาเจาสัน นอกเมื่องเป๊กเสีย ( ไหมเฉิง ) มณฑลหูเป่ย เนื่องจากไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อซุนกวน จึงถูกประหารชีวิต ตายแล้วได้รับบรรดาศักดิ์เป็น จงอี้โหว ( ขุนนางชั้นพระยา ) ศึรษะของกวนอู ซุนกวนส่งไปให้โจโฉ เพื่อป้ายความรับผิดชอบให้พ้นตัว โจโฉให้ฝังไว้ที่ริมประตูเมืองลกเอี๋ยงด้านทักษิณ
สุมาเจียว เป็นบุตรคนที่สองของสุมาอี้ มีฉายาว่าจื่อส้าง เป็นคนใจเหี้ยม ฉลาดแกมโกง มีความทะเยอทะยานอยู่เป็นนิจ เมื่อสุมาอี้ตายแล้ว พระเจ้าโจฮองตั้งให้เป็นเพียวฉีส้างเจียงจวิน ( สามก๊กไทยเรียกว่า เตียวกี๋เซียงจงกุ๋น สามก๊กอังกฤษแปลว่า นายพลทหารม้า ) เมื่อสุมาสู พี่ชายสิ้นชีพ สุมาเจียวอยู่ที่เมืองฮูโต๋ เกรงว่าพระเจ้าโจมอจะตั้งคนอื่นขึ้นควบคุมประเทศ จึงเคลื่อนทัพไปตั้งใกล้ลกเอี๋ยง พระเจ้าโจมอกลัวสุมาเจียวจะโค่นราชบัลลังก์ จึงมอบอำอาจในการบริหารราชการแผ่นดินให้สุมาเจียว และพระราชทานยศเป็นต้าเจียงจวิน ( คำนี้ สามก๊กอังกฤษแปลว่า Generalissimo คือ จอมพล ) พอได้อำนาจในแผ่นดิน สุมาเจียวก็คิดแย่งราชสมบัติพระเจ้าโจมอ แต่ถูกจูกัดเอี๋ยนผู้บัญชาการทหารที่ห้วยหลำขัดขวาง เกิดการรบกันขึ้น จูกัดเอี๋ยมถูกฆ่าตาย พระเจ้าโจมอคิดสู้สุมาเจียว สุมาเจียวจึงให้พรรคพวกฆ่าพระเจ้าโจมอเสีย แล้วยกโจฮวนหลานโจโฉขึ้นเสวยราชย์สืบไป หลังจากนั้น สุมาเจียวไปอำนวยการรบกับจกก๊ก จับตัวพระเจ้าเล่าเสี้ยนมาเป็นเชลยได้ จึงรวมราชอาณาจักรจกก๊กเข้าไว้ราชอาณาจักรวุยก๊ก แล้วคิดจะแย่งราชสมบัติจากพระเจ้าโจฮวน จึงตั้งตัวเป็นจีนอ๋อง ( คำนี้สามก๊กอังกฤษแปลว่า Prince of Chih ) แต่แล้วก็เป็นลมตายด้วยวัณโรค เมื่อสุมาเอี๋ยน บุตรชายแย่งราชสมบัติจากพระเจ้าโจฮวน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์แล้ว ได้สถาปนาสุมาเจียวขึ้นเป็น อุ๋นตี้ ( จักรพรรดิ )
สุมาเต็กโช แซ่สุมาชื่อฮุย แต่คนนิยมเรียกฉายาว่า เต๊อะเชา สามก๊กไทยจึงเรียกว่า สุมาเต๊กโช เป็นชาวอิ๋งโจว มณฑลอันฮุย เป็นปราชญ์ใหญ่ ไม่ชอบทำราชการ จึงเก็บตัวอยู่กับบ้าน เล่าปี่ไปพบโดยบังเอิญ ขณะหนีชัวมอข้ามแม่น้ำตันเขมา สุมาเต็กโชแนะนำว่า “อันฮกหลงกับฮองซูสองคนนี้ ได้มาเป็นที่ปรึกษาด้วยแต่ผู้ใดผู้หนึ่ง ก็อาจสามารถจะคิดอ่านปราบปรามศัตรูแผ่นดินให้สงบได้” แต่มิได้บอกว่าฮกหลงกับฮองซูนั้นเป็นใคร” เมื่อเล่ปี่ทราบจากชีซีว่า ฮกหลกคือขงเบ้ง และเตียมตัวจะไปหา สุมาเต็กโชมาเยี่ยม ทราบข่าวก็แหงนหน้าขึ้นหัวเราะ แล้วว่า ฮกหลงจะได้นายบัดนี้ ก็สมควรอยู่แล้วแต่เราคิดเสียดาย ด้วยเป็นคนอาภัพหาบุญมิได้ แล้วก็รีบกลับไปที่อยู่
สุมาอี้ เป็นชาวอำเภออุน เมืองเหอเน่ย ( โห้ลาย ) มณฑลเหอหนาน มีฉายาว่า ชงต๋า มีบุคคิกลักษณแปลกกว่าคนธรรมดา แววตาคมราวเหยี่ยว ท่าทางราวสุนัขจิ้งจอก เป็นคนฉลาดเฉียบแหลม ชำนาญพิชัยสงคราม เป็นคู่ปรับที่ร้ายแรงที่สุดของขงเบ้ง ทำให้ขงเบ้งไม่อาจเข้ายึดวุยก๊กได้ ทั้งๆที่ได้ใช้ความพยายามอย่างแสนสาหัส บางครั้งก็เกือบจะถูกสุมาอี้จับตัวได้ มีบุตรสองคน คือสุมาสูกับสุมาเจียว ตำแหน่งสุดท้ายของสุมาอี้ คือเซงเสี่ยง ( ฉบับอังกฤษแปลว่า Prime Minister คือ สมุหนายก ) กับได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้ง 9 ซึ่งเรียกว่า จิ่วซิ ( สามก๊กภาษาอังกฤษแปลว่า Nine Gifts ) สุมาอี้สิ้นชีพที่เมืองลกเอี๋ยง หลานชายแย่งราชบัลลังก์ได้จากพระเจ้าโจฮวน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์แล้ว ได้สถาปนาสุมาอี้ขึ้นเป็นเซวียนตี้ ( จักรพรรดิ )
เล่าปี่ เป็นเชื้อพระวงค์ฮั่น สืบสกุลจากเล่าเส็ง( หลิวเสิ้ง ) ผู้เป็นอ๋องครองเมืองจงซาน บิดาชื่อเล่าเหง ( หลิวเจิ้ง ) มีบรรดาศักดิ์เป็นโหว ( พระยา ) ครองเมืองตุ้นกวน ( จวอเสี้ยน ) มณฑลเหอเป่ย ขาดส่งเครื่องราชบรรณาการเซ่นบรรพบุรุษ จึงถูกปลดออกทางราชการ (เครื่องราชบรรณาการที่กล่าวนั้นเรียกว่า จ้อโฉว เป็นเงินที่ขุนนางต้องหามาถวายกษัตริย์เป็นประจำปี ตามความสำคัญของตำแหน่ง ถ้าหามาถวายไม่ได้ ก็ถูกปลดฐานหย่อนความสามารถ ) เมื่อบิดาสิ้นชีพแล้ว เล่าปี่อยู่กับมารดาที่หมู่บ้านเล่าซองฉุน ( โหวงซางชุน ) เมืองตุ้นกวน ทอเสื่อและสานรองเท้าขายเลี้ยงชีวิต สูง 8 ฟุต หูยาน มือยาวเลยเข่า ตาชำเลืองเห็นถึงหู หน้าขาวราวหยก ริมฝีปากแดงดั่งทาชาด ใจคอกว้างขวาง สุภาพเรียบร้อย เยือกเย็น มีความกตัญญู พูดน้อย ยิ้มน้อย ดีใจหรือเสียใจไม่แสดงออกให้ปรากฏ มีชื่อรองว่า เสียนเต๋อะ แปลว่า ผู้มีคุณธรรมอันประเสริฐ ชำนาญในการใช้กระบี่ เหน็บกระบี่คู่ติดตัวเสมอ สาบานเป็นพี่น้องกับกวนอูและเตียวหุย พยายามสร้างตัวขึ้นจนกระทั้งได้ครองแคว้นจกก๊ก ( เสฉวน ) เมื่อโจผีล้มราชวงค์หั้น ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ เล่าปี่ก็ตั้งตัวเป็นกษัติรย์ราชวงศ์ฮั่นสืบต่อไป ทางประวัติศาสตร์เรียกพระนามว่า เซียนจู่ ( สามก๊กไทยเรียก เจี๋ยงบู๊ ) ต่อมาได้ยกทัพไปปราบง่อก็กแก้แค้นแทนกวนอู แต่พ่ายแพ้ยับเยิน ประชวนสิ้นพระชนม์ที่เมืองเป็กเต้เสีย ( ไป๋ตี้เฉิง ) มณฑลเสฉวน พระศพฝังไว้ที่เมืองฮุ้ยหลิง ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าเล่ย์หวงตี้ ( จักรพรรดิ )
ลิโป้ เป็นชาวเมืองอู่เหยียนจิ่วเหยียน ( ปัจจุบันคืออำเภออู่เหยียน มณฑลซานสี ) มีชื่อรองว่า เฟิงเซียน รูปร่างสง่าผ่าเผย มีกำลังบ่ายิงเกาทัณฑ์ และช่ำชองการขี่ม้ายิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่เป็นคนสับปลับ มักมากในสุรานารี ถือเอาแต่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง เตียวหุยผู้เป็นปฏิบักษ์ประณานว่า ลิโป้เป็นลูกสามพ่อ เพราะมีพ่อที่ให้กำเนิด ต่อมาเข้ารับราชการเป็นทหารองครักษ์ของเต๊งหงวน ผู้ครองแคว้นเกงจิ๋วก่อน ประจบเรียกเต๊งหงวนว่าพ่อ พอตั๋งโต๊ะติดสินบนก็ทรยศ ตัดศีรษะเต๊งหงวนไปให้ตั๋งโต๊ะ แล้วฝากตัวอยู่กับตั๋งโต๊ะ เรียกตั๋งโต๊ะว่าพ่ออีก ไม่ช้าก็ฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย แยกเอานางเตียวเสี้ยนมาเป็นเมียตามอุบายของอ้องอุ้นหลังจากนั้นได้รับพระราชทานยศเป็นเฟิ้นอุยเจียงจวิน ( นายพล ) และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นอุนโหว ( พระยา ) เป็นบำเหน็จความชอบที่ได้ฟื้นอำนาจของกษัตริย์ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ ครั้นลิฉุย กุยกีนายทหารของตั๋งโต๊ะแย่งอำนาจในเมืองหลวงได้อีกโดยฆ่าอ้องอุ้นเสีย ลิโป้หนีไปพึ่งอ้วนสุด อ้วนเสี้ยว แต่ถูกตระเพิด จึงไปพึ่งเตียวเอี๋ยน เจ้าเมืองเซียงต๋ง แล้วดำเนินการแผ่อำนาจต่อไป โจโฉกับอ้วนเสี้ยวร่วมกันปราบ ลิโป้ต้องไปขอพึ่งเล่าปี่อยู่ที่ซีจิ๋ว มิช้ามินานก็ทรยศต่อเล่าปี่ ยึดอำนาจในชีจิ๋วไว้เสียเอง ในที่สุดโจโฉจับตัวได้ที่เมืองแห้ฝือ ( เสี้ยเผย ) มณฑลเจียงซู จึงเอาไปแขวนคอแล้วตัดศรีษะเสียบประจานไว
ม้าเฉียว เป็นบุตรม้าเท้ง เกิดที่เม้าหลิง ในเขตอิ้วฝุฟง ในเขตอิ้วฝุฟง มณฑลส่านซี มีชื่อรองว่า เหมิ่งฉี่ มารดาเป็นสาวชาวเจี๋ยง มีผู้เปรียบลักษณะของม้าเฉียวว่า หน้าเหมือนหยก ตาคล้ายดาวตก รูปร่างเหมือนเสือ แขนคล้ายขาหน้าของวานร ท้องคล้ายท้องเสือดาว สะเอวคล้ายหมาจิ้งจอก นิสัย ชอบยกตนข่มท่าน ฝีมือการรบสูง มีความแกล้วกล้าสามารถ แต่มักจะสะเพร่า เริ่มออกศึกครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เพื่อปราบลิฉุย กุยกี ฆ่าอองหองตายและจับลิบองได้ ครั้นม้าเท้ง บิดาถูกโจโฉฆ่าตาย ม้าเฉียวก็กลายเป็นศัตรูของโจโฉ ในการรบที่หน้าด่านตงก๋วน ( ถงกวน ) ในมณฑลสานซี ม้าเฉียวเกือบสังหารโจโฉได้ โจโฉถึงต้องตัดหนวดเพื่อมิให้จำได้ ภายหลังม้าเฉียวยกทัพตีแว่นแคว้นตอนเหนือในเขตปกครองของโจโฉได้ถึงกิจิ๋ว จึงถูกตีถอยกลับมา เลยเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับเตียวฬ่อ เจ้าเมืองฮันต๋งแต่แล้วไม่ช้าเกิดผิดใจกัน จึงมาเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับเล่าปี่ ทำให้กำลังของเล่าปี่เข้มแข็งขึ้นเป็นอันมาก สามารถเข้ายึดแคว้นเสฉวน ตั้งเป็นจกก๊กขึ้นได้ หลังจากนั้นม้าเฉียวได้รับยกย่องให้เป็นยอดทหารเสือ พร้อมกับ เตียวหุย จูล่ง อุยเอี้ยน และฮองตง พอกวนอูทราบข่าวก็อิจฉา ขอประลองผีมือด้วย แต่เล่าปี่ห้ามเสีย ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 47 ปี ศพฝังไว้ที่เมืองไกเอี๋ยง ( เหมี่ยนหยัง ) มณฑลส่านซี และได้เลื่อนฐานนันดรศักดิ์เป็น อุยโหว ( พระยา )
เตียวเสี้ยน คำว่า “เสียน” ( ฉาน ) แปลว่า จักจั่น ฉบับภาษาอังกฤษแปลว่า Sable Cicada เป็นลูกเลี้ยงของอ้องอุ้น อ้องอุ้นต้องการกู้พระราชอำนาจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ให้พ้นจากการครอบงำของตั๋งโต๊ะ จึงใช้เตียวเสี้ยวเป็นนกต่อล่อให้ตั๋งโต๊ะกับลิโป้ทหารเอกแตกคอกัน เป็นผลให้ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย แล้วชิงเตียวเสี้ยนไปเป็นภรรยาน้อย ในพระราชพงศาวดารจีน มิได้กล่าวถึงหญิงผู้นี้ไว้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นประกอบภายหลัง
เตียวหุย เป็นชาวเมืองตุ้นกวน ( จวอเสี้ยน ) มณฑลเหอเป่ย มีช่อรองว่า จี้เต๋อ ( สามก๊กไทยเรียก เอ๊กเต๊ก ) ร่างสูง 8 ฟุต ศรีษะคล้ายเสือดาว ตากลมใหญ่ คางนกนางแอ่น หนวดเสื่อโคร่ง เสียงดังฟ้าลั่น มีกำลังวังชาราวม้าห้อตะบึง จิใจรุนแรงราวไฟ มีศีลสัตย์หนักแน่นราวภูเขา เคารพผู้มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้ยาก มีอาชีพขายสุราและฆ่าหมูขาย ถือทวนยาว 10 ฟุตเศษเป็นอาวุธ สาบานเป็นพี่น้องกับเล่าปี่ และกวนอู แล้วออกศึกร่วมกัน เพื่อสร้างตัวสร้างชาติ เริ่มแต่ปราบพวกโจนโพกผ้าเหลือง จนในที่สุดสามารถตั้งตัวขึ้นได้ที่แคว้นเสฉวน และเตียวหุยได้กินเมืองลองจิ๋ว ( ปาซี ) ครั้นกวนอูถูกซุนกวนฆ่าตาย พระเจ้าเล่าปี่โกรธ ยกทัพไปรกซุนกวน เตียวหุยยกตามไปด้วย เตียวหุยเร่งรัดทหารเกินไป ตกกลางคือ ฮอมเกียงกับเตียวตัดนายทหารในบังคับบัญชา เห็นเตียวหุยเมาเหล้าหลับอยู่ก็เข้าไปแทนตาย แล้วตัดศีรษะนำไปสวามิภักดิ์ต่อซุนกวน เตียวหุยตายเมืออายุ 50 ปี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หวนโหว ( พระยา )
ตั๋งโต๊ะ เป็นชาวอำเภอหลินเถา เมืองหลงซี ( หลงเส ) มณฑลกานซุ มีชื่อรองว่า จ้งอิ่ง รู้ร่างล่ำสันใหญ่โต มีกำลังบ่าเหนือคนอื่น ชำนาญการขี่ม้ายิงเกาทัณฑ์ ใจคอเหี้ยมเกรียม มักมากในกามารมณ์ บิดาเป็นนายอำเภอหลินเถา เมื่อเกิดการกำเริบของโจรโพกผ้าเหลือง ตั้งโต๊ะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการปราบปราม แต่ทำการไม่สำเร็จ ต้องติดสินบนขันทีทั้ง 10 จึงรอดจากพระราชอาญา ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารประจำดินแดนภาคตะวันตก ณ เมืองซีหลง ( คือหลงซี ) ต่อมาโฮจิ๋นพี่นางโฮเฮา เรียกเข้ามาช่วยระงับความวุ่นวายในราชธานีลกเอี๋ยง ตั๋งโต๊ะเลยยึดอำนาจในเมืองหลวง ถอดหองจูเปียนออกจากราชบัลลังก์ ตั้งหองจูเหียบเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ภายหลังเลยหาเหตุฆ่าหองจูเปียนกันโฮเฮา ราชมารดาเสียเลย แล้วแต่งตั้งตัวเป็นเซียงก๊ก ( สมุหนายก ) ครองอำนาจเหนือพระเจ้าเหี้ยนเต้ อ้วนเสี้ยวกับโจโฉและหัวเมืองต่างๆจึงยกทัพมาปราบ ตั๋งโต๊ะสู้ไม่ได้เผาเมืองลกเอี๋ยงเสีย แล้วย้ายราชธานีไปตั้งที่เมืองเตียงฮัน มณฑลส่านซี อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ซึ่งภักดีกษัตริย์จึงวางอุบาย ส่งเตียวเสี้ยนสาวสวยเป็นนกต่อเข้าไปยุให้ตั๋งโต๊ะแตกคอกับลิโป้ทหารเอก ลิโป้จึงฆ่าตั๋งโต๊ะตาย เอาศพตระเวนรอบเมือง แล้วเอาประจานไว้ที่ทางสามแพร่ง ฟันชุดใส่สะดือ เอาไฟจุดตามต่างตะเกียง ภายหลังมีผู้ภักดีเอาศพไปฝังที่เมืองเม่ยอู่ แต่ก็ถูกฟ้าผ่า พายุพัดฝนตกหนัก ทำลายกระดูกหมดสิ้นไป
ชีซี เป็นชาวเมืองอิ่งชวน มณฑลเหอหนาน มีฉายาว่า เหวียนจื๋อ เป็นปราชญ์ใหญ่ รักความเป็นธรรม มีความซื่อสัตย์กตัญญู เมื่อเล็กชอบฟันดาบและปราบคนชั่ว ครั้งหนึ่งฆ่าคนตายจึงหลบหนีซ่อนตัว เมื่อถูกเจ้าพนักงานจับตัวได้ ไม่มีชาวบ้านยอมเป็นพยานให้เจ้าพนักงาน ไม่ช้าก็หลบหนีไปได้ จึงเปลื่ยนชื่อเป็น ตันฮก แล้วศึกษาวิชาอยู่กับสุมาเต็กโช และสมัครเข้ารับราชการอยู่กับเล่าปี่ที่เมืองซินเอี๋ย ในมณฑลเหอหนาน ได้ช่วยเล่าปี่ตีทัพโจโฉในบังคัญบัญชาของโจหยินแตกกลับไป ฆ่าลิกองกับลิเซียง นายทหารเอกของโจโฉเสียได้ โจโฉจึงอยากได้ตัวไว้เป็นที่ปรึกษา ก็ให้รับตัวมารดาชีซีมาไว้ในเมืองฮูโต๋ แล้วให้เ้ทียหยกปลอมจดหมายของมารดา เรียกตัวชีซีเข้ามา ก่อนซีซีจะจากเล่าปี่ ได้ให้สัตย์สาบานว่า จะไม่คิดกลอุบายใดๆ ให้โจโฉทำร้ายเล่าปี แล้วแนะนำให้เล่าปีให้ไปเชิญตัวขงเบ้งที่เขาโงลังกั๋งมาเป็นที่ปรึกษา ครั้งโจโฉยกทัพใหญ่ลงมาขับไล่เล่าปี่ที่ซินเอี๋ยแตกหนีลงไปถึงเมืองอ้วนเสีย ได้ให้ชีซีไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ให้ยอมจำนนแต่โดยดี ชีซีกลับไปบอกเล่าปีให้ระวังตัวเพราะโจโฉจะทำร้าย เล่าปี่จึงไม่ยอมจำนน ถอยหนีต่อไปอีก และเข้าร่วมกับซุนกวนต่อต้านโจโฉ ขณะที่เล่าปี่ซุนกวน เตรียมเข้าทลายกองทัพเรือโจโฉที่เซ็กเพ็ก ( ชี้อปี้ ) ชีซีรู้ทีก็ไม่บอกอันตรายแก่โจโฉ กลับออกอุบายขอนำกำลังกลับไปรักษาเมืองฮูโต๋เสีย โจโฉจึงแตกทัพยับเยิน เล่าปี่ก็ตั้งตัวได้ที่แคว้นเกงจิ๋ว
ซุนกวน เป็นน้องชายของซุนเซ็ก เกิดจากนางง่อฮูหยิน มารดาเดียวกัน มีชื่อรองว่า จงโหมว คางสี่เหลี่ยม ปากใหญ่ ตาสีเขียว หนวดสีน้ำตาล สติปัญญาดี จิตใจดี รักความเป็นธรรม มีความรู้กว้างขวางทั้งวิชาทหารและการปกครอง ได้ครองอำนาจในแว่นแคว้นกังตั๋งสืบต่อจากซุนเซ็กพี่ชาย ได้ร่วมกับเล่าปี ขงเบ้ง โจมตีทัพเรือโจโฉแตกที่เซ็กเพ็ก ( ชื้อปี้ ) ซึ่งเป็นประวัติการณ์ที่สำคัญยิ่งและทำให้แคว้นกังตั๋งเข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้นเป็นอันมาก ภายหลังพระเจ้าโจผีทรงแต่งตั้งเป็นเงาอ๋อง เพื่อกีดกันมิให้กังตั๋งร่่วมเป็นพันธมิตรกับเล่าปี ซุนกวนดำรงตำแหน่งเป็นเงาอ๋องอยู่ 7 ปี จึงตั้งตัวเป็นกษัตริย์ ณ เมืองเกี๋ยนเงียบ ( นานกิง ) เมื่อปี พ.ศ. 772 ( ค.ศ. 229 ) ครองราชย์สมบัติอยู่ 24 ปี จึงสิ้นพระชนม์ เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น ต้าหวงตี้ ( มหาจักรพรรดิ )
โจโฉ เป็นชาวตำบลเจี้ยวจวิ้น เมืองเพ่ยโก้วะ ( ตำบลเจียวก๋วน เมืองไพก็ก ) มณฑลเจียงซู มีชื่อรองว่า เหมิ่งเต๋อ เดิมแซ่แฮหัว ( เสี้ยโหว ) แต่เนื่องจากโจโก๋ผู้บิดา เป็นลูกเลี้ยงของเฉาเถิง ขุนนางตำแหน่งจงฉางซื้อ จึงเปลี่ยนแซ่เป็นเฉา ( โจ ) ด้วย สูง 7 ฟุต คิ้วเล็ก หนวดยาว มีไหวพริบดีเลิศ ชอบสุรานารี ชำนาญในพิชัยสงคราม มีสติปัญญสูงกว่าคนธรรมดา มีความรู้ทางอักษรศาสตร์ เคยแต่งตำราพิชัยสงครางเล่มหนึ่งชื่อว่า เหมิ่งเต๋อชินชู แต่ถูกสบประมาทจากเตียงสงว่า ลอกขี้ปากคนโบราณมาก็สั่งให้ทำลายตำรานั้นเสีย ในสามก๊กไทย โจโฉดำรงตำแหน่งมหาอุปราช ในสามก๊กจีน โจโฉดำรงตำแหน่ง ไจเสี่ยง ซึ่งสามก๊กอังกฤษแปลว่า สมุหนายก ( Prime Minister ) สามารถควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้ไว้ในอำอาจอย่างเด็ดขาด พระเจ้าเหี้ยนเต้พยายามกู้พระราชอำนาจ 2 ครั้ง ก็ถูกโจโฉจับได้ทุกที และลงโทษผู้ร่วมคบคิดอย่างรุนแรงที่สุด ถึงกับจับพระมเหสีไปฆ่า และยกลูกสาวของตนให้เป็นพระมเหสีแทน เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน สามารถปราบเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆได้เกือบหมด เหลือเพี่ยงง่อก๊กของซุนกวน กับจกก๊กของเล่าปี่เท่านั้น ทำทีจะตั้วตัวขึ้นมาเป็นกษัตริย์ จึงสถาปนาตัวขึ้นเป็น จิ้นอุ้ยอ๋อง ( วุยอ๋อง ) ประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยยศทั้ง 9 เป็นโรคเส้นประสาทอย่างแรง ปวดศรีษะจนกระทั้งตาย เป็นการตายอย่างทรมานที่สุด สิ้นชีพที่เมืองลกเอี๋ยงอายุ 66 ปี ศพฝังที่เกาหลิง มณฑลส่านซี เมื่อโจผีผู้บุตร แย่งราชสมบัติได้จากพระเจ้าเหี้ยนเต้ ตั้งตัวเป็นพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ ได้สถาปนาโจโฉผู้ตายขึ้นเป็น อู่หวงตี้ ( จักรพรรดิ ) ปฐมบรมกษัตริย์ราชวงค์วุย ภรรยาเดิมแซ่ติ้ง ไม่มีบุตรต่อกัน ภรรยาคนที่สอง ชื่อเล่าซี มีบุตรชายคนนึงชื่อโจงั่ง ตายในการรบเมืองอ้วนเซีย ภรรยาคนที่สามชื่อเปียนซี มีบุตรชาย 4 คนชื่อ โจผี โจเจียง โจสิด และโจหิม นางเปียนซีเป็นที่รักของโจโฉมาก และได้เลื่อนที่ขึ้นเป็นภรรยาหลวง
จูกัดเหลียง เป็นชาวตำบลหยังตู เมืองหลังเอ๋ย์มณฑลซานตุง มีชื่อรองว่า ข่งหมิง ( ขงเบ้ง ) เป็นผู้สืบสกุลจากจูเก๋อฟง ผู้มียศเป็นซือลี้เจี้ยวอุ้ย ในราชวงค์หั้น สูง 8 ฟุต หน้าขาวนวลเหมือนหยกน้ำหนึ่ง โพกผ้ามีไหมห้อยระย้า ถือพัดขนนกเป็นนิจ เป็นผู้รักความยุติธรรม ซื่อตรง เปิดเผย รักความสงบ และความสันโดษ มีความรู้ความสามารถอย่างยอดเยี่ยม ชำนาญในพิชัยสงครามราวเทวดา เบื่อความวุ่นวายในประเทศ จึงหลบไปทำไร่ไถนาอยู่ที่เมืองหนานหยัง ( ลำหยง ) ณ เขาโงลังกั๋ง ชาวบ้านขนานนามว่า อาจารย์ฮกหลง ( มักกรซ่อนกาย ) เล่าปี่รู้ข่าวจากซีซี อุตส่าห์ไปหาถึงสามครั้งสามหน ขอเชิญตัวมาช่วยกู้แผ่นดิน จึงยอมลงมาช่วยเล่าปี่ ดำรงตำแหน่งไจเสี่ยง ( สมุหนายก ) ของพระเจ้าเล่าปี่ และพระเจ้าเล่าเสี้ยนแห่งจกก๊ก คำพูด คำสอน หนังสือ และคำกราบบังคมทูลมีจำนวนมากมาย มีผู้รวบรวมเป็นชุด จำนวน 24 เล่ม ออกศึก ณ บริเวณเขากิสาน ( ฉีซาน ) ถึง 6 ครั้ง เพื่อปราบวุยก๊ก แต่มีอุปสรรค ถึงแก่กรรมในสนามรบ ที่อู้จ้าง ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม่ยอู่ มณฑลส่านซี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น อู่เซียงโหว ( พระยา ) ตายแล้วได้เลื่อนเป็น จงอูโหว
จูล่ง เป็นชาวตำบลเจิงติ้ง เมืองฉางซัน ( เสียงสัน ) มณฑลเหอเป่ย มีชื่อรองว่า จื่อหลง ( จูล่ง ) สูง 8 ฟุต คิ้วดง ตาโต หน้าผากกว้างโหนก เป็นคนซื่อ สุภาพเรียบร้อย กล้าหาญอย่างน่าอัศจรรย์ ชำนาญในการใช้ทวนเป็นอาวุธ เดิมอยู่กับอ้วนเสี้ยว เห็นอ้วนเสี้ยวไม่มีสัตย์ จึงไปอยู่กับกองซุนจ้าน แล้วชอบพอรักใคร่เล่าปี่ผู้เป็นมิตรของกองซุนจ้าน ครั้งกองซุนจ้านถูกอ้วนเสี้ยวฆ่าตาย จูล่งจึงไปอยู่กับเล่าปี่ ทำการรบมีความชอบมากมาย การรบที่ทำให้จูล่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือ การรบที่เตียงปั่นเกี้ยว ( ฉางปั่นเฉียว ) นอกเมืองตงหยง ( ตังหยัง ) มณฑลหูเป่ย ซึ่งจูล่งแสดงความกล้าหาญ พาอาเต๊า บุตรเล่าปี่แหวกวงล้อมของโจโฉหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เป็นผู้ตีเมืองฮุยเอี๋ยน ( กุ้ยหยัง ) มณฑลหูหนาน ได้ด้วยกำลังทหารสามพัน เตียวหอมเจ้าเมืองจะยกนางฮวนซี พี่สะใภ้ให้เป็นภรรยาก็ไม่รับ อ้างว่าเล่าปี่ยังตั้งตัวไม่ได้ จึงไม่ขอมีภรรยา เป็นผู้ชิงตัวอาเต๊าจากนางซุนฮูหยินคืนมาได้ ขณะที่นางซุนฮูหยินถูกซุนกวนลวงให้กลับกังตั๋ง อ้างว่ามารดาเจ็บหนัก เป็นกำลังสำคัญของขงเบ้งในการปราบเบ้งเฮก เบ้งฮิว ในมณฑลยูนาน พระเจ้าเล่าปี่ตั้งให้เป็น 1 ใน 5 ทหารเสือ เมื่อตาย ขงเบ้งร้องไห้จนสลบ บอกว่าแขนซ้ายพระเจ้าเล่าเสี้ยนขาดแล้ว ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ซุ้นผิงโหว ( พระยา )
จิวยี่ เป็นชาวเมืองอำเภอซู เมืองหลูเจียง ( โลกั๋ง ) มณฑลอันฮุย มีชื่อรองว่า กงจิน รูปร่างสง่างาม จิตใจกว้างขวาง มีความรู้ความสามารถทางทหาร ชำนาญการดนตรี และติดจะเจ้าชู้ ภรรยาชื่อเสียวเกี้ยว เป็นบุตรคนที่สองของเฉียวกง ชอบพอกับซุนเซ็ก เรียกซุนเซ็กว่าพี่ ร่วมมือกันสร้างอำนาจในกังตั๋งเป็นผลสำเร็จจึงได้เป็นเจี้ยนอุยจงหลังเจี้ยง ( นายทหารรององครักษ์ ) บัญชาการทหารอยู่ที่ด่านปาขิว ในมณฑลเจียงสี เมื่อซุนเซ็กตายแล้ว ได้ร่วมมือกับซุนกวนสร้างอำนาจต่อไป จนสามารถตีทัพเรือโจโฉที่เซ็กเพ็ก ( ชื้อปี้ ) ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่ง ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 36 ปี ที่ด่านปาขิว ความในหนังสือสามก๊กว่า ขงเบ้งลวงจิวยี่ให้โกรธแค้นอย่างถึงขนาดถึง 3 ครั้งและตายด้วยความแค้นนั้น “จิวยี่คิดแค้นในใจนัก จึงแหงนหน้าขึ้นดูฟ้าแล้วร้องว่า เทพยดาองค์ใดหนอซึ่งให้เราเกิดมา แล้วเหตุใดจึงให้ขงเบ้งเกิดมาด้วยเล่า” แต่เรื่องเหล่านี้ไม่มีปรากฏในพระราชพงศาวดารจีน เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพิ่มเติม
กวนอู เป็นชาวตำบลเจ่ย์เหลียง ( ไก่เหลียง ) เมืองเหอตง ( ฮอตั๋ง ) มีชื่อรองว่า หวินฉาง ( หุนเตี๋ยง ) สูง 9 ฟุต หนวดยาว 2 ฟุต ใบหน้าเหมือนผลพุทรา ริมฝีปากแดงเหมือนทาชาด ตาดั่งนกหงส์ คิ้วดั่งตัวหนอนไหม เป็นคนไว้ตัวต่อคนที่สูงศักดิ์ แต่ถ่อมตัวต่อคนที่ต่ำศักดิ์ สู้กับคนที่เก่งกว่า ไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า รู้คุณคน เจ็บแล้วจำจนตาย มีศีลมีสัตย์ รู้การทหาร ชำนาญในการใช้ง่าวเป็นอาวุธ ชอบอ่านประวัติศาสตร์ชุนชิว ( คือประวัติศาสตร์ตอนราชวงค์โจววุ่นวายแตกแยกกันภายใน ) เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเล่าปี่ เตียวหุย ช่วยกันตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ไม่ทอดทิ้งกัน มีชื่อเสียงมากตอนหักด่านทั้ง 5 หนีโจโฉ และฆ่าทหารเอกของโจโฉเสีย 6 คน คือ ขงสิ้ว เบงทัน ฮันฮก เปี๋ยนฮี ออกเซ็ก จินกี๋ เป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของขงเบ้ง ได้เป็นผู้ครองแคว้นเกงจิ๋ว ภายหลังถูกอุบายของลิบอง แม่ทัพง่อก๊ก ยึดเกงจิ๋วไป และถูกจับตัวได้ที่ช่องเขาเจาสัน นอกเมื่องเป๊กเสีย ( ไหมเฉิง ) มณฑลหูเป่ย เนื่องจากไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อซุนกวน จึงถูกประหารชีวิต ตายแล้วได้รับบรรดาศักดิ์เป็น จงอี้โหว ( ขุนนางชั้นพระยา ) ศึรษะของกวนอู ซุนกวนส่งไปให้โจโฉ เพื่อป้ายความรับผิดชอบให้พ้นตัว โจโฉให้ฝังไว้ที่ริมประตูเมืองลกเอี๋ยงด้านทักษิณ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 5
ส่วนอันนี้ ขอ ลอกข้อมูลมาจาก ไทยวีไอ ยุคก่อนนะครับ
เหล็งฮู้ชงเหลวไหลไร้สาระ แต่ส่วนดีคือ ปากกับใจตรงกัน
ยกได้วางได้ ตรงข้ามกับอาจารย์ตนเองโดยสิ้นเชิง
ฮวงเช็งเอี้ยงฝีมือสูงส่ง แต่กลับไม่ยอมให้อภัยตัวเองในเรื่องเล็กน้อย
"อุ้ยเซี่ยวป้อ"
เหล็งฮู้ชงเหลวไหลไร้สาระ แต่ส่วนดีคือ ปากกับใจตรงกัน
ยกได้วางได้ ตรงข้ามกับอาจารย์ตนเองโดยสิ้นเชิง
ฮวงเช็งเอี้ยงฝีมือสูงส่ง แต่กลับไม่ยอมให้อภัยตัวเองในเรื่องเล็กน้อย
"อุ้ยเซี่ยวป้อ"
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 6
ส่วนนี่ คือ 10 คนโฉดครับ มีใครไม่รู้จักไหมครับ

1.โต่วสั่ว มีลักษณะน่าเกรงขามดุจสิงโต เป็นพี่
ใหญ่ของสิบคนโฉดและมีวรยุทธ์สูงที่สุดในกลุ่ม
อาศัยอยู่ในหุบเขาคนโฉด วรยุทธที่ใช้ ฝ่ามือ
โลหิต คลื่นซัตหัตถ์โลหิต ตะขอโลหิต
2ตู้เกียวเกียว ฉายา ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง มี
ความสามารถในการปลอมตัว ใช้วิชากระบี่หญิง
งาม และพลังดรรชนี อาวุธลับ ปิ่นจันทรา
3.อิมเก้าฮิว วิชาตัวเบารวดเร็วคล่องแคล่ว แต่ง
กายเหมือนผี วรยุทธที่ใช้คือ กรงเล็บล่า
วิญญาณ
4.ลี้ตั่วฉุ่ย ฉายาไม่กินหัวคน ชอบกินเนื้อมนุษย์
วรยุทธที่ใช้ มีดแล่กระดูก ฝ่ามืออีโต้
5.เซียวมีมี ฉายาล่อให้ตายใจ เป็นผู้หญิงที่มี
เสน่ห์ยั่วยวนและเจ้าเล่ห์ เคยจับกังเง็กนึ้งไว้เพื่อ
รับใช้ตน และเพราะมีสามีที่เป็นยอดฝีมือมาก
มาย จึงทำให้นางมีวรยุทธ์ล้ำลึก
6.แป๊ะไคซิม ฉายาให้ทุกข์แก่ท่านให้โทษแก่
ตน ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านและสร้างความเดือด
ร้อนให้ผู้คน แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนก็
ตาม
7.ฮึ้งอวงซำกวง ฉายาเซียนพนัน รูปร่างสูงใหญ่
ชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ มีความเป็นลูกผู้ชาย
สูงและไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ
(8.ฮาฮายี้ ซ่อนมีดในรอยยิ้ม วรยุทธ์ที่ใช้ คลื่น
ล้างสมอง กระบวนท่าขำขัน)ละคร ตัวนี้น่ากลัว
สุดๆ
9.ทิเจี่ยง ราชสีห์คลั่ง(บิดาของทิซิมลั้ง)ไม่ถือว่า
เก่งกาจแต่ถ้าเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาก็อาจจะเอาชนะ
ได้แม้แต่โต่วสั่ว วรยุทธ์ร้อยแปดหมัดคลุ้มคลั่ง
10.พี่น้องอาวเอี๊ยง ฉายายอมตายไม่ยอมเสีย
เปรียบกับถึงตายก็ต้องได้เปรียบ มีกันทั้งหมด
สองคนและมีบทบาทในการชักนำให้เซียวฮื้อยี้
ได้พบกับเว่ยอู๋หยา จอมยุทธ์อันดับ 3 ของยุทธ
ภพ วรยุทธ์ฝ่ามืออัสนี อาวุธลับ เม็ดอัสนี

1.โต่วสั่ว มีลักษณะน่าเกรงขามดุจสิงโต เป็นพี่
ใหญ่ของสิบคนโฉดและมีวรยุทธ์สูงที่สุดในกลุ่ม
อาศัยอยู่ในหุบเขาคนโฉด วรยุทธที่ใช้ ฝ่ามือ
โลหิต คลื่นซัตหัตถ์โลหิต ตะขอโลหิต
2ตู้เกียวเกียว ฉายา ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง มี
ความสามารถในการปลอมตัว ใช้วิชากระบี่หญิง
งาม และพลังดรรชนี อาวุธลับ ปิ่นจันทรา
3.อิมเก้าฮิว วิชาตัวเบารวดเร็วคล่องแคล่ว แต่ง
กายเหมือนผี วรยุทธที่ใช้คือ กรงเล็บล่า
วิญญาณ
4.ลี้ตั่วฉุ่ย ฉายาไม่กินหัวคน ชอบกินเนื้อมนุษย์
วรยุทธที่ใช้ มีดแล่กระดูก ฝ่ามืออีโต้
5.เซียวมีมี ฉายาล่อให้ตายใจ เป็นผู้หญิงที่มี
เสน่ห์ยั่วยวนและเจ้าเล่ห์ เคยจับกังเง็กนึ้งไว้เพื่อ
รับใช้ตน และเพราะมีสามีที่เป็นยอดฝีมือมาก
มาย จึงทำให้นางมีวรยุทธ์ล้ำลึก
6.แป๊ะไคซิม ฉายาให้ทุกข์แก่ท่านให้โทษแก่
ตน ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านและสร้างความเดือด
ร้อนให้ผู้คน แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนก็
ตาม
7.ฮึ้งอวงซำกวง ฉายาเซียนพนัน รูปร่างสูงใหญ่
ชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ มีความเป็นลูกผู้ชาย
สูงและไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ
(8.ฮาฮายี้ ซ่อนมีดในรอยยิ้ม วรยุทธ์ที่ใช้ คลื่น
ล้างสมอง กระบวนท่าขำขัน)ละคร ตัวนี้น่ากลัว
สุดๆ
9.ทิเจี่ยง ราชสีห์คลั่ง(บิดาของทิซิมลั้ง)ไม่ถือว่า
เก่งกาจแต่ถ้าเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาก็อาจจะเอาชนะ
ได้แม้แต่โต่วสั่ว วรยุทธ์ร้อยแปดหมัดคลุ้มคลั่ง
10.พี่น้องอาวเอี๊ยง ฉายายอมตายไม่ยอมเสีย
เปรียบกับถึงตายก็ต้องได้เปรียบ มีกันทั้งหมด
สองคนและมีบทบาทในการชักนำให้เซียวฮื้อยี้
ได้พบกับเว่ยอู๋หยา จอมยุทธ์อันดับ 3 ของยุทธ
ภพ วรยุทธ์ฝ่ามืออัสนี อาวุธลับ เม็ดอัสนี
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 7
กองทุนไหมครับ ตบทีเดียว แดงฉาดโต่วสั่ว มีลักษณะน่าเกรงขามดุจสิงโต เป็นพี่
ใหญ่ของสิบคนโฉดและมีวรยุทธ์สูงที่สุดในกลุ่ม
อาศัยอยู่ในหุบเขาคนโฉด วรยุทธที่ใช้ ฝ่ามือ
โลหิต คลื่นซัตหัตถ์โลหิต ตะขอโลหิต
เหมือน พวก nvdr ไหมคับ ซื้อ แล้วงง ไม่รู้ หรั่งเข้าตู้เกียวเกียว ฉายา ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง มี
ความสามารถในการปลอมตัว ใช้วิชากระบี่หญิง
งาม และพลังดรรชนี อาวุธลับ ปิ่นจันทรา
หัวแดง หรือ หัวดำ หว่า...
สิงห์เดย์เทรด... หรือว่า เจ้ามือหว่า...อิมเก้าฮิว วิชาตัวเบารวดเร็วคล่องแคล่ว แต่ง
กายเหมือนผี วรยุทธที่ใช้คือ กรงเล็บล่า
วิญญาณ
.....?4.ลี้ตั่วฉุ่ย ฉายาไม่กินหัวคน ชอบกินเนื้อมนุษย์
วรยุทธที่ใช้ มีดแล่กระดูก ฝ่ามืออีโต้
กองทุนฝรั่ง วันก่อนซื้อไล่ให้ตายใจ5.เซียวมีมี ฉายาล่อให้ตายใจ เป็นผู้หญิงที่มี
เสน่ห์ยั่วยวนและเจ้าเล่ห์ เคยจับกังเง็กนึ้งไว้เพื่อ
รับใช้ตน และเพราะมีสามีที่เป็นยอดฝีมือมาก
มาย จึงทำให้นางมีวรยุทธ์ล้ำลึก
วันนี้ ตบซะแดงสาดดดด...
6.แป๊ะไคซิม ฉายาให้ทุกข์แก่ท่านให้โทษแก่
ตน ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านและสร้างความเดือด
ร้อนให้ผู้คน แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนก็
ตาม
นักการเมือง (หรือป่าว)
เตือนตัวเองหลายครั้งว่า จะไม่เป็นแบบนี้.... แต่แล้วก็.....
7.ฮึ้งอวงซำกวง ฉายาเซียนพนัน รูปร่างสูงใหญ่
ชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ มีความเป็นลูกผู้ชาย
สูงและไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ
หุ้นผมดีมากๆครับ ---(8.ฮาฮายี้ ซ่อนมีดในรอยยิ้ม วรยุทธ์ที่ใช้ คลื่น
ล้างสมอง กระบวนท่าขำขัน)ละคร ตัวนี้น่ากลัว
สุดๆ
9.ทิเจี่ยง ราชสีห์คลั่ง(บิดาของทิซิมลั้ง)ไม่ถือว่า
เก่งกาจแต่ถ้าเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาก็อาจจะเอาชนะ
ได้แม้แต่โต่วสั่ว วรยุทธ์ร้อยแปดหมัดคลุ้มคลั่ง
10.พี่น้องอาวเอี๊ยง ฉายายอมตายไม่ยอมเสีย
เปรียบกับถึงตายก็ต้องได้เปรียบ มีกันทั้งหมด
สองคนและมีบทบาทในการชักนำให้เซียวฮื้อยี้
ได้พบกับเว่ยอู๋หยา จอมยุทธ์อันดับ 3 ของยุทธ
ภพ วรยุทธ์ฝ่ามืออัสนี อาวุธลับ เม็ดอัสนี:twisted:
...?
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 8
มันจะโยงกันยังไงหวา??
อ่ะ..ลองดู
โป้วอั้งเสาะ จอมดาบหิมะแดง : อันนี้คงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะตัดไป พอร์ทคงจะแดงไม่แตกต่างจากหิมะ
อุ้ยเสี่ยวป้อ : เทคนิคจัดจ้าน เอาตัวรอดเก่งนัก เล่นได้ทั้งขาขึ้นขาลง
ต้วนอี้ แปดเทพอสูรฯ : อันนี้ก็น่าสน เข้าตัวไหน ดึงดูดเงินคนอื่นมาหมดเหมือนดูดพลัง
แต่คิดไปคิดมาสุดท้ายขอฟันธงเลือก
เสี่ยวเส้าหลง จากเจาะเวลาหาจิ๋นซี : พี่ท่านเล่นรู้อนาคต ซื้อถูกไปขายแพงคงไม่ใช่ปัญหา สูสีกับยอดวิชารู้งี้ที่สุด อิอิ :mrgreen:

โป้วอั้งเสาะ จอมดาบหิมะแดง : อันนี้คงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่จะตัดไป พอร์ทคงจะแดงไม่แตกต่างจากหิมะ
อุ้ยเสี่ยวป้อ : เทคนิคจัดจ้าน เอาตัวรอดเก่งนัก เล่นได้ทั้งขาขึ้นขาลง
ต้วนอี้ แปดเทพอสูรฯ : อันนี้ก็น่าสน เข้าตัวไหน ดึงดูดเงินคนอื่นมาหมดเหมือนดูดพลัง
แต่คิดไปคิดมาสุดท้ายขอฟันธงเลือก
เสี่ยวเส้าหลง จากเจาะเวลาหาจิ๋นซี : พี่ท่านเล่นรู้อนาคต ซื้อถูกไปขายแพงคงไม่ใช่ปัญหา สูสีกับยอดวิชารู้งี้ที่สุด อิอิ :mrgreen:
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 9
ให้ กุยแก ครับมีจุดเด่นด้านการหามูลค่าที่แท้จริงได้อย่างแม่นยำ คาดการณ์สิ่งต่างๆได้ถูกต้อง
รองๆลงมาให้สุมาอี้มีจุดเด่นเรื่องมีความอดทนสูง รู้สถานะการณ์
รองๆลงมาให้สุมาอี้มีจุดเด่นเรื่องมีความอดทนสูง รู้สถานะการณ์
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 10
เอาตามนิสัย จอมยุทธหอม ชอลิ้วเฮียง คงนำลิ่วมากับ อึ้งเอี๊ยซือครับ
คนแรกนี่หัวการค้ามากอยู่แล้ว(แบบไม่มีต้นทุนด้วย)ยิ่งหนึ่งในสามสาวสะคราญข้างกาย ได้ฉายาว่าพจนานุกรมบู๊ลิ้ม เรื่อง inside trade คงไม่มีตัวจับ
อึ้งเอี๊ยซือ นี่รู้กว้างรู้ลึก น่าจะอ่าน mega trend แม่นยำ ทำกำไรได้โดยไม่ขาดทุน(มีบารมีลูกชายลูกสาวไว้ข่มอีกต่างหาก)
จะว่าไป เซียวมีมี่ก็น่าจะกำไรไม่น้อย เซียนๆทั้งหลายน่าจะทำกำไรมาสยบแทบเท้าเธอ(รายนี้ไม่ต้องเล่นเอง)
คนแรกนี่หัวการค้ามากอยู่แล้ว(แบบไม่มีต้นทุนด้วย)ยิ่งหนึ่งในสามสาวสะคราญข้างกาย ได้ฉายาว่าพจนานุกรมบู๊ลิ้ม เรื่อง inside trade คงไม่มีตัวจับ
อึ้งเอี๊ยซือ นี่รู้กว้างรู้ลึก น่าจะอ่าน mega trend แม่นยำ ทำกำไรได้โดยไม่ขาดทุน(มีบารมีลูกชายลูกสาวไว้ข่มอีกต่างหาก)
จะว่าไป เซียวมีมี่ก็น่าจะกำไรไม่น้อย เซียนๆทั้งหลายน่าจะทำกำไรมาสยบแทบเท้าเธอ(รายนี้ไม่ต้องเล่นเอง)
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 12
ผมคิดว่า ความสามารถในการหามูลค่าที่แท้จริง เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการลงทุนครับ
ซึ่งการหา intrinsic value และการวิเคราะห์สถานการณ์นี่ เป็นจุดเด่นของ กุยแกเลยครับ
ตัวอย่างเช่น
*ไม่รับใช้อ้วนเสี้ยว แต่เข้าร่วม กับโจโฉ
อาจจะมองว่า ก็แหง อยู่แล้ว ถ้าจะเลือกข้างระหว่าง 2 คนนี้ เป็นใครก็ต้องเลือก โจโฉ
แต่ทว่าต้อง พิจารณา ณ เวลานั้นนะครับ อ้วนเสี้ยวตอนนั้นยิ่งใหญ่มาก รวบรวมหัวเมืองด้านเหนือไว้ได้หลายเมือง กำลังทหารก็มหาศาล ส่วนโจโฉนั้นเพิ่งจะผงาดขึ้นมา กำลังทหารน้อยกว่าอย่างเทียบกันไม่ติด
ทั้งบารมี สกุลรุนชาติก็เทียบกับ อ้วนเสี้ยวไม่ได้
แต่ กุยแก มองออก ครับ ว่าผู้นำคนไหน เพชรจริง หรือ เพชรรัสเซีย
*เหตุแห่งชัยชนะ 10 ประการ & ลางพ่าย 10 ประการ
เมื่อ โจโฉ จะเปิดศึก กับอ้วนเสี้ยว ที่ปรึกษาหลายคนทัดทานเอาไว้
(ก็อย่างที่บอกครับ ตอนนั้น กองกำลังอ้วนเสี้ยวยิ่งใหญ่มาก เป็นองค์กรที่มองว่าไม่มีวันล้ม)
แต่กุยแก เป็นผู้ที่สนับสนุนให้เปิดศึกกับอ้วนเสี้ยว โดยได้ทำการหามูลค่าที่แท้จริงของ โจโฉ กับ อ้วนเสี้ยว และแจกแจงให้ผู้อื่นฟัง
ซึ่งกุยแกได้วิเคราะห์ความได้เปรียบเสีย เปรียบเทียบของทั้งคู่ในหลายๆด้าน ตั้งแต่บุคลิก นิสัย วิสัยทัศน์ของผู้นำทั้ง 2 ค่าย ไปจนถึงด้านนโยบายการปกครอง การเมือง การทหารและเศรษฐกิจ ตลอดจนการสนับสนุนจากมวลชน และได้ทำการสรุปออกมาเป็นเหตุแห่งชัยชนะของโจโฉ10 ประการและลางพ่ายแพ้ 10 ประการของอ้วนเสี้ยว
ยังมีตัวอย่างอื่นอีกครับ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหามูลค่าที่แท้จริง กับการวิเคราะห์สถานการณ์ของกุยแก เช่นการปราบลิโป้ ยุทธการกัวต๋อ การวิจารณ์และทำนายจุดจบของซุนเซ็ก
แต่ผมขี้เกียจ โพสต์อะไรยาวๆ ขอโพสต์แค่นี้ละกัน
ซึ่งการหา intrinsic value และการวิเคราะห์สถานการณ์นี่ เป็นจุดเด่นของ กุยแกเลยครับ
ตัวอย่างเช่น
*ไม่รับใช้อ้วนเสี้ยว แต่เข้าร่วม กับโจโฉ
อาจจะมองว่า ก็แหง อยู่แล้ว ถ้าจะเลือกข้างระหว่าง 2 คนนี้ เป็นใครก็ต้องเลือก โจโฉ
แต่ทว่าต้อง พิจารณา ณ เวลานั้นนะครับ อ้วนเสี้ยวตอนนั้นยิ่งใหญ่มาก รวบรวมหัวเมืองด้านเหนือไว้ได้หลายเมือง กำลังทหารก็มหาศาล ส่วนโจโฉนั้นเพิ่งจะผงาดขึ้นมา กำลังทหารน้อยกว่าอย่างเทียบกันไม่ติด
ทั้งบารมี สกุลรุนชาติก็เทียบกับ อ้วนเสี้ยวไม่ได้
แต่ กุยแก มองออก ครับ ว่าผู้นำคนไหน เพชรจริง หรือ เพชรรัสเซีย
*เหตุแห่งชัยชนะ 10 ประการ & ลางพ่าย 10 ประการ
เมื่อ โจโฉ จะเปิดศึก กับอ้วนเสี้ยว ที่ปรึกษาหลายคนทัดทานเอาไว้
(ก็อย่างที่บอกครับ ตอนนั้น กองกำลังอ้วนเสี้ยวยิ่งใหญ่มาก เป็นองค์กรที่มองว่าไม่มีวันล้ม)
แต่กุยแก เป็นผู้ที่สนับสนุนให้เปิดศึกกับอ้วนเสี้ยว โดยได้ทำการหามูลค่าที่แท้จริงของ โจโฉ กับ อ้วนเสี้ยว และแจกแจงให้ผู้อื่นฟัง
ซึ่งกุยแกได้วิเคราะห์ความได้เปรียบเสีย เปรียบเทียบของทั้งคู่ในหลายๆด้าน ตั้งแต่บุคลิก นิสัย วิสัยทัศน์ของผู้นำทั้ง 2 ค่าย ไปจนถึงด้านนโยบายการปกครอง การเมือง การทหารและเศรษฐกิจ ตลอดจนการสนับสนุนจากมวลชน และได้ทำการสรุปออกมาเป็นเหตุแห่งชัยชนะของโจโฉ10 ประการและลางพ่ายแพ้ 10 ประการของอ้วนเสี้ยว
ยังมีตัวอย่างอื่นอีกครับ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหามูลค่าที่แท้จริง กับการวิเคราะห์สถานการณ์ของกุยแก เช่นการปราบลิโป้ ยุทธการกัวต๋อ การวิจารณ์และทำนายจุดจบของซุนเซ็ก
แต่ผมขี้เกียจ โพสต์อะไรยาวๆ ขอโพสต์แค่นี้ละกัน
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 14
เจ้าสัว ไซมึ้งเค เอ๊ย ไซมึ้งเข่ง ครับ :o (จินผิงเหมย/กิมปังบ๊วย/บุปผาในกุณฑีทอง)
เพราะพี่ท่าน อิสสตรี ในพอร์ตเยอะมาก และพอร์ตก็โตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยครับ :8)
เพราะพี่ท่าน อิสสตรี ในพอร์ตเยอะมาก และพอร์ตก็โตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยครับ :8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 15
แหะๆ ใครจะไปรู้ ท่านเฉินกวนริวได้อ่ะคับ....Ryuga เขียน:เจ้าสัว ไซมึ้งเค เอ๊ย ไซมึ้งเข่ง ครับ :o (จินผิงเหมย/กิมปังบ๊วย/บุปผาในกุณฑีทอง)
เพราะพี่ท่าน อิสสตรี ในพอร์ตเยอะมาก และพอร์ตก็โตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยครับ :8)
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- ภรรโยโฟเบีย
- Verified User
- โพสต์: 253
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 16
รอพี่อาฮุยมาตอบ
อยากรู้ว่าแกจะตอบว่าไง
อยากรู้ว่าแกจะตอบว่าไง
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ตัวละครในนิยายจีน คนไหนเล่นหุ้นเก่งสุด
โพสต์ที่ 18
เตียบ้อกี๋ น่าจะเกลียมัว กลัวเมียนะครับ :8)
นาง ผานจินเหลียน/พัวกิมเน้ย ศรีภรรยาที่ห้าของเจ้าสัว ไซมึ้งฯ นี่ก็เก่งนะครับ เพราะยกฐานะจากการเป็นเมียน้อยของอาแป๊ะแก่ๆ กลายมาเป็นเมียน้อยของเจ้าสัวที่รวยที่สุดของเมืองได้ แม้จะต้องวางแผนฆ่าผัวคนที่ 2 ให้ตายซะก่อน (คล้ายๆ พวกลากแมงเม่าไปเชือด) นอกจากนั้นยังถือเป็นคนมีบารมีสูงส่งของบ้านขนาดเมียหลวงยังไม่กล้าแตะต้องเธอ
สามก๊ก กับ จินผิงเหมย ไปแล้ว ยังเหลือ ไซอิ๋ว กับ สุยหู่จ้วน มีตัวละครไหนน่าสนใจบ้างคับ :8)
นาง ผานจินเหลียน/พัวกิมเน้ย ศรีภรรยาที่ห้าของเจ้าสัว ไซมึ้งฯ นี่ก็เก่งนะครับ เพราะยกฐานะจากการเป็นเมียน้อยของอาแป๊ะแก่ๆ กลายมาเป็นเมียน้อยของเจ้าสัวที่รวยที่สุดของเมืองได้ แม้จะต้องวางแผนฆ่าผัวคนที่ 2 ให้ตายซะก่อน (คล้ายๆ พวกลากแมงเม่าไปเชือด) นอกจากนั้นยังถือเป็นคนมีบารมีสูงส่งของบ้านขนาดเมียหลวงยังไม่กล้าแตะต้องเธอ
สามก๊ก กับ จินผิงเหมย ไปแล้ว ยังเหลือ ไซอิ๋ว กับ สุยหู่จ้วน มีตัวละครไหนน่าสนใจบ้างคับ :8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0